Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    แสบซ่าส์วาสนา “แจ๋ว”! ตอนที่ 2…แจ๋วไฮเทคฮัลโหล ๆๆๆ

    …..ปกติฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเม้าท์โทรศัพท์ถ้าไม่มีธุระที่จำเป็นจริง ๆ
    จึงไม่ค่อยเห็นความสำคัญของโทรศัพท์มือถือเท่าไร
    แต่ในยุคโลกาภิวัฒน์แบบนี้ครั้นจะไม่มีมือถือเลยก็คงจะทำให้การติดต่อสื่อสารไม่สะดวก
    และคงจะวุ่นวายกันน่าดูหากมีธุระเร่งด่วนแล้วตามหาตัวกันไม่ได้จริงไหมท่านผู้อ่าน?

    จำได้ว่าตอนกลับจากกรีซใหม่ ๆ ได้มือถือฟรีจากน้องเป็นเครื่อง PCT  
    แต่ช่วงนั้นสัญญาณยังครอบคลุมพื้นที่ได้น้อยเช่นถ้าเป็นพื้นที่นอกเขตกทม.
    หรือที่จอดรถชั้นใต้ดินตามห้างร้านต่าง ๆ ก็จะใช้งานติดต่อสื่อสารกันไม่ได้

    ปีต่อมาพี่สาวของฉันติดตั้ง UBC และได้โทรศัพท์ Nokia 3310 ฟรีมาหนึ่งเครื่อง
    และได้ยกเครื่องให้ฉันทำให้ฉันมีมือถือใช้เป็นของตัวเองกับเขาเป็นครั้งแรกจริง ๆ
    ก่อนหน้านี้สักปีพี่ชายซื้อเครื่องรุ่นเดียวกันนี้ตอนออกใหม่ ๆ ราคาหมื่นเศษ ๆ เชียวแหละ
    เป็นรุ่นที่อึดมากเพราะตอนนี้พี่ชายก็ยังใช้เครื่องที่ว่านี้อยู่ร่วม 7-8 ปีแล้วเห็นจะได้

    เนื่องด้วยเป็นคนไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์ไม่ว่าจะโทรออกหรือรับสายเข้า
    ฉันก็เลยใช้โทรศัพท์แบบ 1-2 call นาทีละ 5 บาทตอนเริ่มใช้ใหม่ ๆ
    และมีค่ารายเดือนขั้นต่ำประมาณ 300 บาทซึ่งเทียบกับรายเดือนประมาณ 500 บาท
    ประหยัดได้ตั้ง 200 บาทต่อเดือนและตอนนี้ก็ยังคงใช้แบบนี้อยู่
    แต่ราคาลดเหลือประมาณนาทีละ 2-3 บาทและไม่มีค่ารายเดือนเหมือนตอนออกใหม่ ๆ

    ฉันใช้ Nokia 3310 ที่ได้ฟรีจากพี่สาวมาสัก 3-4 ปีก็เริ่มมีโทรศัพท์ใหม่ ๆ ออกมากันเพียบ
    มี function มากมายทั้งเป็น organizer, calendar ดูหนังฟังเพลง
    และที่สำคัญถ่ายรูปที่ resolution ที่สูง ๆ เป็นล้าน pixels เป็นต้น
    เนื่องจากฉันเป็นคนชอบถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพเป็นความทรงจำมากเป็นพิเศษ
    ก็เริ่มเกิดกิเลสอยากได้มือถือเครื่องใหม่เพื่อใช้ function ต่าง ๆ ที่ยั่วยวนอย่างว่า

    ฉันค่อย ๆ ใช้เวลาเกือบ 2 ปีศึกษามือถือรุ่นที่สามารถใช้งานได้ดีและคุ้มค่าที่สุด
    พร้อมกับการหยอดกระปุกเตรียมไว้ซื้อด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ
    จนกระทั่ง Nokia 6630 ออกมาและคิดว่าจะไม่เสียเวลาคอยรุ่นอื่นอีกแล้ว
    รุ่นที่ว่านี้เป็นรุ่นที่เขาเรียกกันว่ารุ่นขนมปังปอนด์ถ่ายรูปได้ 1.23 Megapixel
    ราคาเปิดตัวตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 23,300 บาท

    ตอนนั้นฉันเริ่มเก็บเงินพอที่จะซื้อเครื่องได้แล้วแต่กะว่าจะคอยอีกสักพักให้ราคาลงอีกเล็กน้อย
    แต่จู่ ๆ ภายในไม่ถึงสัปดาห์ CEO ของฉันก็ซื้อมือถือรุ่นดังกล่าวมาอวดในที่ทำงาน
    ให้ตายซิ…โดนเจ้านายตัวเองตัดหน้าไปจนได้
    ฉันก็ต้องรีบกลับลำนะซิและเปลี่ยนใจไม่คิดจะซื้อรุ่นนี้อีกแล้ว
    ด้วยเหตุผลสองสามประการคือ…

    ประการที่หนึ่งเป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะไปเทียบรัศมีกับ CEO ระดับพันล้าน
    ประการที่สองกลัวจะโดนเพื่อน ๆ หาว่าบ้าเห่อตามนาย
    ประการที่สามนายบอกให้รีบ ๆ ไปซื้อรุ่นเดียวกันนี่แหละจะได้มาช่วย update
    ตารางนัดของนายผ่านมือถือของฉันแล้วมา synchronize ข้อมูลให้ตรงกัน

    ชะอุ๋ยยย…..!!
    เหตุผล 2 ข้อแรกยังพอแหกกฏได้แต่เจอเหตุผลข้อที่ 3 ฉันก็รีบหาเหตุบอกนายว่า
    ฉันอยากคอยรุ่นที่ถ่ายรูปได้ resolution สูง ๆ กว่านี้อ่ะ
    นายจะรู้สึกยังไงฉันก็ไม่รู้หรอกรู้แต่ว่าตัวเองโล่งอกและรอดตัวแล้ว
    เพราะขืนบ้าจี้ทำตามคำแนะนำของนายมีโอกาสที่จะเผลอ copy บันทึกส่วนตัว
    ติดไปกับเครื่องนายสูงมั๊ก ๆๆ ยิ่งถ้าเผอิญเป็นบันทึกที่นินทานายด้วยแล้ว
    อื๋อออ..แค่คิดก็หนาวแล้ววว!!

    สรุปแล้วฉันก็เลยยังไม่ได้ซื้อมือถือที่ต้องการแต่ได้คอยรุ่นใหม่ ๆ มาอีกเกือบปีเห็นจะได้
    และก็ยังตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะซื้อรุ่นไหนดี
    จนมาวันหนึ่งหลังจากกลับจากที่ทำงานมาถึงบ้านก็ตรงไปห้องอาหารเพื่อกินอาหารเย็น
    เหมือนเช่นที่ทำเป็นปกติหลังเลิกงาน
    สายตาฉันพลันสะดุดเห็นมือถือเครื่องหนึ่งวางใกล้ ๆ โต๊ะอาหาร

    เฮ๊ยยยย…นั่นมัน Nokia 6630 รุ่นเดียวกับของ CEO ของฉันนี่นา
    แล้วเจ้าเครื่องนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรและเป็นของใครล่ะนี่?
    ฉันเดินเข้าไปในครัวขณะที่ นังแจ๋ว กำลังล้างจานและถามว่า
    “มือถือนั่นของใครห๋า แจ๋ว?”
    นังแจ๋วรีบตอบว่า “ของนู๋เองค่ะ!”

    “ห๋า…อะไรนะ…ของเธอเหรอ”?

    หล่อนหัวเราะ คริกกก ๆๆๆ ตามแบบฉบับเช่นเคยแล้วตอบว่า
    “แม่นแล้ว…ของข้อยเอ๊งงง!”
    นังแจ๋วทำท่าลอยหน้าลอยตาได้น่าหมั่นไส้มากจนอยากเข้าไปเขกกระบาล
    นังแจ๋วนะนังแจ๋ว…หนอยแน่..บังอาจมาตัดหน้าฉันอีกจนได้
    ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเอาซะเลย!!
    ทีฉันจะซื้อบ้างในตอนที่ CEO ของฉันเพิ่งซื้อฉันยังไม่กล้าเทียบรัศมี
    แต่นี่นังแจ๋วทำได้โดยไม่ต้องคิดเห็นแก่หน้าฉันเลยซักนิด

    มีอย่างที่ไหนที่ฉันเป็นนายจ้างแท้ ๆ แต่ใช้โทรศัพท์ขาวดำทำอะไรก็ไม่ได้
    นอกจากรับเข้าโทรออกแล้วจะเจ๋งหน่อยก็ตรงที่สามารถใช้เป็นนาฬิกาปลุก
    และเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าหรือเสียงรอสายได้เท่านั้นแหละ

    แต่เครื่องใหม่ของนังแจ๋วทำได้หลาย ๆ อย่างที่มือถือไฮเทครุ่นใหม่ ๆ พึงจะมีกัน
    ถึงแม้ว่าหลังจากซักไซ้ไล่เรียงแล้วจะรู้ว่าเจ้าหล่อนซื้อต่อเครื่องมือสอง
    ในสนนราคาพิเศษด้วยความสิเน่หาจากน้องเขยเป็นเงิน 8,000 บาทก็ตามเถอะ
    (ตอนนั้นราคาเครื่องใหม่เริ่มตกจากสองหมื่นกว่าตอนออกใหม่เหลือประมาณหมื่นสามหมื่นสี่)

     
     

    จากคุณ : Destinyhurtsme - [ 20 เม.ย. 51 22:29:52 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom