ความคิดเห็นที่ 4
อันนี้ประสบการณ์ตรงนะคะ อย่าเอ็ดไป อิอิ
ถามว่ารายได้ดีอย่างนั้นจริงเหรอ จริงค่ะ ถ้าคุณทำยอดได้ตามที่เค้าตั้งไว้ แต่ละแบงค์ไม่เหมือนกันค่ะ บางแบงค์ตั้งคอมให้แต่ละบัตรไว้เลย บางแบงค์ตั้งเป็นคะแนน สะสมกันไปเรื่อยๆ แล้วไปไต่ tier เอา เช่น
บัตรแพลตตินั่ม ได้ 1,200 บาท บัตรทองได้ 1,000 บาท บัตรเงินได้ 500 บาท
หรือ
บัตรแพลตตินั่ม ได้ 4 คะแนน บัตรทองได้ 3 คะแนน บัตรเงินได้ 1 คะแนน ถ้าได้ 15 คะแนนต่อเดือน 1 คะแนนจะคูณด้วย 1,500 บาท ไรงี้
ทีนี้มันก็จะมีเป้าขั้นต่ำไว้ด้วย เช่น เดือนนี้ต้องขายได้ 10 ใบ ถ้าไม่ถึง 10 ใบ คอมจะเหลือ
บัตรแพลตตินั่ม ได้ 800 บาท บัตรทองได้ 500 บาท บัตรเงินได้ 200 บาท
ส่วนคะแนนอ่ะ คงเท่าเดิมค่ะ แต่คูณด้วยตัวเลขที่น้อยลง อาจจะคูณแค่ 500 ไรงี้
เราทำอยู่ไม่นานหรอกค่ะ เพราะทำแล้วไม่ชอบอย่างแรง ไม่ถนัดด้วยค่ะ แต่เพื่อนเราที่เค้าชอบทำ เค้าถนัด เค้าได้กันเดือนละ 4-5 หมื่นจริงๆ นะคะ ถ้าช่วง high เนี่ย เหอเหอ บางเดือนเคยเห็นได้กัน 7-8 หมื่น แน่ะ
นั่นแหล่ะมันเป็นตัวล่อที่ทำให้เราอยากทำ แต่ตอนนี้รู้ละ ขอได้เงินเดือนน้อยๆ แต่ได้เท่ากันทุกเดือนดีกว่า เพราะรายได้แบบนี้มันไม่คงที่อ่ะ บางเดือนขายได้ก็ได้เยอะ บางเดือนโชคไม่ดี โทรไปเจอลูกค้าปฏิเสธตลอด หรือออกบูธ ลูกค้าเซ็นใบสมัครแล้ว แต่ไม่ยอมส่งเอกสารแนบ เพราะเปลี่ยนใจ อย่างนี้ก็มี
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบงานขาย ไม่กลัวกับการปฏิเสธ และเป็นคนไม่คิดอะไรมาก คุณก็ทำได้ค่ะ ^^
******************
"ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดไม่ใช่เงินเดือนหรือรายรับที่สูงแค่ไหน แต่รายจ่ายที่เหมาะสมและการเก็บออมอย่างชาญฉลาดต่างหาก ที่เป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนควรจะให้ความสำคัญ และท้ายที่สุดก็คือคุณมีความสุขกับการทำงานในองค์กรนั้นหรือไม่" โดยคุณเลขาตัวแสบ
จากคุณ :
luvammie
- [
26 เม.ย. 51 11:05:34
]
|
|
|