ความคิดเห็นที่ 1 แล้วทำไม  ก่อนไปสมัคร ไม่ถามเขาเหรอ...ว่าใช้ภาษาอังกฤษป่าว ไม่เห็นต้องกลัว..........อะไร เพราะยังมีอีกหลายบริษัทที่เขาต้องการคุณอ่ะ จากคุณ : เพื่อนของเพื่อน - [ 29 เม.ย. 51 19:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ได้คราวนี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ให้เลือก ที่ ที่เป็นของเราก่อนนะค่ะ ... อย่าเสี่ยง กับสิ่งที่คุณก็ไม่มั่นใจ ว่า จะไปรอดหรือไม่  และจงมั่นใจในสิ่งที่คุณได้ตัดสินใจไปแล้ว การที่คุณ ตอบ ตกลงกับที่หนึ่งไว้ และยัง ไม่มีความมั่นใจลงไปเต็มที่ ว่า ตกลงแล้วคุณจะเลือกที่นั่นหรือไม่  มันใกล้จะเป็นปัญหาใหญ่ แล้วล่ะค่ะ   สำหรับตัวเอง แล้ว เคยถูก บ. ใหญ่ ๆ ที่ต้องใช้ภาษาเยอะ ๆ เรียกเข้าสัมภาษณ์บ่อย ๆ นะค่ะ มีทั้งที่ เค้าเลือก และไม่เลือก ด้วยเช่นกัน  ซึ่งสุดท้ายแล้ว  บางครั้งที่เราได้งานอีกที่ และทำไปได้ 4 เดือน จนเรียกว่า พ้นโปรฯ แล้ว  บ. ที่เราเคยสัมภาษณ์ ที่ เขามั่นคงมาก ๆ โทรมาถามเราว่า  พร้อมจะมาสัมภาษณ์หรือไม่ ในลักษณะแบบนี้  เป็นคุณ จะเลือกแบบไหนค่ะ บางครั้ง การเปลี่ยนงานบ่อย ก็เป็นสิ่งที่ดี และไม่ดีในตัวของมันนะค่ะ  มีคนพูดว่า อย่าสักแต่ทำตัวเป็นมือปืน ที่ ใครให้เงินมากก็ไป  ไม่ใช่สิ่งผิดที่เราจะเลือกสิ่งที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า  เปลี่ยนงานบ่อย และทุกครั้งที่เปลี่ยนได้เงินเดือนสูงขึ้นเรื่อย ๆ ...  มันเป็นสิ่งที่ดี   และในอีกมุมหนึ่งแล้ว ...  บ.ต่าง ๆ ที่เรียกคุณสัมภาษณ์คงต้องคิดบ้างแหล่ะว่า  ถ้าเรารับมันเข้ามา เราสอนงานมัน  แล้ว เมื่อไหร่ มันจะถีบหัวส่งเรา ไป ... สำหรับปัจจุบันนะค่ะ พี่ว่า .. จงหนักแน่น ในสิ่งที่เราเลือก ก่อน ค่ะ  และใช้วันหยุด เสาร์อาทิตย์ หาที่เรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม  ถ้าต้องใช้ภาษาอังกฤษมากๆ ขนาดที่ว่า ใช้เป็นภาษาหลัก  งานนี้ไม่หมู อย่างที่คิดนะค่ะ  เจ้านายเก่าพี่ เป็นคนอิสราเอล ภาษาที่ใช้แน่นอน ต้องเป็นภาษาอังกฤษ ล้วน ๆ  ...  คนที่ภาษาไม่แข็ง มีอันต้องอยู่ไม่ได้ จนกลายเป็นเรื่องปกติ ค่ะ สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว - [ 29 เม.ย. 51 19:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ความคิดเห็นที่ 1   แล้วทำไม  ก่อนไปสมัคร ไม่ถามเขาเหรอ...ว่าใช้ภาษาอังกฤษป่าว ไม่เห็นต้องกลัว..........อะไร เพราะยังมีอีกหลายบริษัทที่เขาต้องการคุณอ่ะ ^ ^ ^ เขาบอกว่าพูดพอสื่อสารได้ ไม่ต้องฉะฉาน ผมเองก็ไม่คิดว่าจะเน้นมากขนาดนี้ รู้งี้ไม่เสียเวลาไปดีกว่า เหมือนอย่างที่พี่บอก ประสบการณ์ผมสามปี มีบริษัทอื่น ๆยังต้องการอีกเยอะเลยทีเดียว ขอบคุณพี่มากครับ จากคุณ : จิตแจ่มใส - [ 29 เม.ย. 51 19:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราเป็นรุ่นน้องนะคะ ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องงาน แต่ขอแนะนำเรื่องภาษาอังกฤษนะคะ เรื่องการฟังการพูด ลองฝึกด้วยตัวเองจากการดูหนัง หรือซีรี่ย์ต่างประเทศค่ะ หัดฟัง หัดพูด ตามเค้าไปเรื่อยๆ เราว่าได้ผลดีใช้ได้เลยนะคะ เพลินดีด้วยค่ะ เพราะมีเนื้อเรื่องให้ติดตาม ไม่น่าเืบื่อ แล้วก็ได้ศัพท์+สำนวนที่ใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ จากคุณ : Strawberry Shortcake - [ 29 เม.ย. 51 19:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โอกาสล่้ะครับ อายทำไมถ้าสัมพาษณ์ไม่ผ่านก็เท่านั้น ฟาล์วก็ฟาล์ว จากคุณ : Jump.Jr - [ 29 เม.ย. 51 19:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็ไม่เป็นไรนี่ค่ะ ถ้าไม่ได้ก็หาใหม่ เอาที่ๆ เราทำงานแล้วสบายใจที่สุด จากคุณ : กระต่ายน้อยหลงรักหมูหยอง - [ 29 เม.ย. 51 20:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอาจริงๆ เข้าไปได้เดี่ยวสภาพแวดล้อมก็บังคับให้ทำได้เองครับ แรกๆอาจขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เก่ง ในเรื่องตอบเมล์เขียน report เดี่ยวมันก็พัฒนาไปเองครับ จากคุณ : ไม่หมูนะครับ - [ 29 เม.ย. 51 20:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าอยากได้งานนี้จริงๆก็บอกว่าจะพยายาม แล้วในช่วงทดสอบก็ขวนขวายภาษาให้มากๆ ที่ต้องทำคือการอ่าน grammar ตั้งแต่เริ่มต้นแบบอนุบาล จำ12tense ให้ได้ และซื้อหนังสือบทสนทนาอังกฤษ+cdซักเล่ม สังเกตในชีวิตประจำวันว่าคำไหนใช้บ่อยๆ จากนั้นฟังcdหรือดูหนังฝึกสำเนียงให้ถูกต้อง ต่อมาคือกล้าพูด ถ้าคิดว่าไม่สามารถทำตรงนี้ได้ และไม่ได้ไปใช้ชีวิตเมืองนอกหรือมีเพื่อนเป็นฝรั่งล่ะก็ ไม่ต้องหวัง จากคุณ : Stance - [ 29 เม.ย. 51 20:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมคงแนะนำแค่ว่า พยายามทำตัวเองให้พร้อมที่สุด เมื่อจังหวะมาถึงเราแล้ว เราจะได้พร้อมที่จะคว้ามันไว้ รอบนี้พลาดไปไม่เป็นไรครับ ลองตั้งใจ เริ่มเอาจริงเอาจังกับมันซักครั้ง พยายามฟังเยอะ ๆ อ่านเยอะ ๆ นะครับ มันไม่มีทางลัดหรอก ใช้วิธีซึมซับเอาดีกว่า ไงก็สู้ ๆ นะ ^^ ปล. ผมก็ได้แค่อ่าน เขียน แต่พอจะพูดแล้วมันก็ติด ๆ ขัด ๆ เหมือนกัน แค่พูดในระดับสื่อสารได้ แต่ถ้าพูดแบบเป็นการเป็นงาน ก็ลงเหวเหมือนกันอ่ะครับ T T จากคุณ : ganblade - [ 29 เม.ย. 51 20:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาเรียกเราว่าพี่ได้ยังไงเนี่ยยยยยย จากคุณ : ร้ายวันละนิดจิตแจ่มใส - [ 29 เม.ย. 51 21:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ออกตัวก่อนนะครับว่าผมเองก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย.. สำหรับผมความรู้เกี่ยวกับภาษากฤษนี้เริ่มจาก 0 มาก่อน แต่ตอนนี้ผมสามารถทำงานกับฝรั่งได้ สนทนาได้ และ เขียน Report เป็นภาษาอังกฤษได้ เรื่องของผมมันเริ่มอย่างนี้ครับ ตอนเรียนนี้ได้ทั้ง F/D/D+/C (เทอมสุดท้ายได้ B+) เคย Interview ที่ บ. แห่งหนึ่งเพือขอเข้าฝึกงานเชื่อไหมครับ นอกจาก My name is.....Bra bra bra แล้วผมไม่สามารถตอบคำถามใด ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษได้เลย (ก็เลยไม่ได้ฝึกงานที่นั่น) จากจุดนั้นผมก็ เริ่มเห็นความสำคัญของภาษา (จบมาเกรดน้อยมาก ๆ ด้วยละครับ) และ เริ่มเรียนพิเศษจากนั้นเป็นต้นมา ผมนี่เรียนมาแทบจะทุกที่แล้วละครับ... คือรู้ตัวว่าอ่อน Grammar ก็ลงเรียน Grammar พอเรียนได้ซัก Course ก็รู้สีกว่าเราไม่ได้โง่นี่หน่า..(แค่กลัวการเรียนภาษาอังกฤษ) จากนั้นการลงเรียนแหลกลาน บ้านผมอยู่ดอนเมือง ตอนเรียน ๆ ที่ลาดกระบัง เลิกเรียนเสร็จตอน 5 โมง ก็ถ่อไปเรียนภาษาต่อที่ Siam จนถึง 5 ทุ่ม เป็นอย่างนี้ทุกวัน จนเพื่อน ๆ บอกว่า เหนื่อยแทน/ไม่เห็นต้องเรียนอะไรมากมายขนาดนี้เลย แต่ตอนนั้น ยอมรับว่าเหนื่อยมาก แต่ ก็มีความสุขมากเหมือนกัน คือเนื่องจากความไม่รู้อะไรเลยพอได้เรียน ก็รู้สึกสนุก อยากรู้ อยากเรียน พอหมด Course Grammar (ไล่จาก Basic--->Advance) ก็เปลี่ยนไปเรียน Writing  (ไล่จาก Basic--->Advance) จากนั้นพอรู้สึกว่าการอ่าน การเขียน ไม่ใช่อุปสรรคของการใช้ภาษาอังกฤษอีกต่อไป ก็เริ่มที่จะไปเจาะเรื่องของ Conversation (เรียนทั้งที่ AUA และ สุดท้ายมาเรียนที่ WallStreet) ผมเริ่มเรียนพวก Conversation ตอนได้งานใหม่ ๆ นะครับ ใช้เวลาเรียนเกือบ ๆ 2 ปี พอเรียนหมด ก็รู้สีกมั่นใจว่าเราสามารถหางานได้ดีกว่านี้ ก็เลยลองสมัครงานที่ใหม่ดู ผลปรากฏว่าได้ สาเหตุที่ได้เนื่องจาก หัวหน้าบอกว่า... (1) Resume เขียนได้ดี (ได้เอาความรู้จาก Writing course มาใช้) (2) ตอน Interview สามารถ Introduction และ ตอบคำถามได้ดี    (งานนี้ Conversation course ได้ไปเต็ม ๆ ) ตอนนั้นดีใจมาก..เพราะรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เหนื่อยไป มันได้ผล (It's work !!) และก็เพราะภาษาอีกนะละครับที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยน จากเงินที่เคยรับอยู่ 20 k กว่า up ขึ้นมาเป็น > 50 k+++ ที่เล่ามาทั้งหมดแค่อยากจะบอกว่า...ถ้าอยากจะได้ภาษาอังกฤษ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการทำงาน และ ความก้าวหน้าในการงาน ก็จงเริ่มที่จะค้นคว้าและศึกษา เพิ่มเติม อย่ามั่วแต่นิ่งเฉย (เวลามันผ่านไปตลอดนะครับ ผมใช้เวลาศึกษาจริง ๆ จังประมาณ 3-4 ปี) เพราะจากประสบการณ์..มันบอกผมว่า (1) ไม่มีอะไรในโลกได้มาง่าย ๆ ครับ (ถ้าบ้านไม่รวย) (2) ถ้าอยากได้อะไรก็จงเดินเข้าไปหามัน (อยู่ดี ๆ ถ้าไม่ทำอะไรเลยความรู้เกี่ยวกับภาษามันคงไม่เดินเข้ามาหาหรอกครับ) เริ่มตอนนี้ยังทันครับ..เป็นกำลังใจให้ครับ..สู้ ๆ  ๆ ปล.ฝากถึงเพื่อน ๆ ที่จบมาเกรดน้อย ๆ ด้วยนะครับว่า เกรดเราแก้ไมได้ แต่ เรื่องภาษาเราสามารถ up ได้ครับ มันจะช่วยในการหางานมาก ๆ เลยนะครับ เพราะมันจะทำให้ profile เราโดดเด่นขึ้น (เช่น จบมาเกรด 2.3 แต่ผล TOEIC ได้ 900 ใครจะไม่เรียกเข้าไป Interview ให้มันรู้ไป) แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 21:27:53 จากคุณ : ozegen - [ 29 เม.ย. 51 21:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าไม่ได้ก้อย่าคิดมากเลยนะโอกาสอื่นๆยังมีนี่นา เห็นด้วยกับคุณ Ozegen ถ้าในตอนนี้เรายังไม่ได้เราก็ต้องยอมรับและรีบพัฒนาให้ดีขึ้นะ อย่างน้อยก็ลองลงเรียนดูหรือว่าอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษโดยเฉพาะที่มันเกี่ยวกับทำงานของเรา อาจจะต้องใช้เวลานิด เมื่อถึงตอนนั้นโอกาสก็มีเสมอสำหรับคนที่พร้อมอย่างเรา จากคุณ : mengnoi - [ 29 เม.ย. 51 21:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่าส่ง  หลังไมค์ จากคุณ : drof - [ 29 เม.ย. 51 22:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วเข้าใจค่ะ เพราะครั้งหนึ่งเราเองก็เคยเป็นเหมือนคุณ อย่างอื่นดีพอสมควร แต่ภาษา ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ยังไม่สามารถถามมาตอบไป ได้ทันที แล้วก็ เกลียดภาษาเข้าเส้นเลือดเลยทีเดียว แต่ว่าโชคยังดีที่มีบุญเก่าพอสมควร แต่ตอนนั้นเราต้องมาทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา ถามว่าทำได้ไหม ก็ทำได้ ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงระดับที่คนรอบข้างทำได้ แล้วก็ทำให้กดดันมากๆๆๆๆๆ ตอนนั้นถามว่าท้อไหม มีบ้างค่ะ แต่ว่าคนเรา ท้อแต่อย่านาน ต้องกลับมาหันหน้าแล้วสู้กับมัน ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับปัญหา เพราะถ้าเราวิ่งหนี เราจะต้องวิ่งหนีมันตลอดชีวิต เราหันกลับมาทำใจให้ชอบภาษาอังกฤษ บอกกับตัวเองว่า วันหนึ่งฉันจะทำให้ได้ เราต้องทำได้ บอกกับตัวเองเสมอค่ะ แล้วก็หันมาอ่าน ฟัง มันทั้งวัน ทำแบบนั้น อยู่เป็น 10กว่า ชม ต่อวัน อ่านภาษาอังกฤษทุกครั้งทีมีเวลา พร้อมกับทำใจที่จะเปิดใจรับมันอีกครั้งเข้าสู่เส้นเลือด เราใช้เวลาอยู่2-3 เดือน ภาษาอังกฤษ เราดีขึ้น พอสมควรจนเรารู้สึกได้เลยทีเดียว ลองกลับไปทำ test ,ดูหนัง ก็เข้าใจอะไรมากขึ้น จนตอนนี้เราไม่รู้สึกเกลียดภาษาอังกฤษเหมือนแต่เดิมอีกแล้ว กลับกระหายที่จะเรียนรู้มัน เพราะรู้แล้วว่าเราก็ทำได้ ถึงภาษาอังกฤษเราจะยังไม่ดีมาก แต่เราก็ไม่ท้อค่ะ จะพยายามต่อไปเรื่อยๆๆ สักวันเราจะต้องทำได้ค่ะ ดังนั้น เราเชื่อค่ะ ถ้าคุณลองกลับมาหันหน้าแล้วสู้กับภาษาอังกฤษอีกครั้ง อย่างตั้งใจ สักวันคุณก็จะทำได้ค่ะ เชื่อในความสามารถของตัวเองว่าคุณก็ทำได้ สู้ๆๆ จากคุณ : มาแลกเปลี่ยนกันนะ (เล่นยามว่าง) - [ 29 เม.ย. 51 22:14:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าอยากจะเจริญในงาน ภาษาอังกฤษหนีไม่พ้นครับ ครั้งนี้พลาดไป  ก็ลองพัฒนาตัวเองดูครับ เผื่ออนาคต จากคุณ : MAX - [ 29 เม.ย. 51 22:15:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าเป็นผมนะครับ ผมจะเรพการตัดสินใของตัวเอง เค้ารพในการตัดสินใจที่เราได้ตัดสินใจไปแล้ว ยกเว้นสิ่งที่มาใหม่มันจะ ดีกว่าของเก่า แบบมากๆๆๆๆๆๆจริงๆครับ แล้วผมก็จะเลืออยู่ในที่ๆผมอยู่แล้วบายใจ ถ้ารู้ว่าอยู่แล้วไม่สบายใจจะอยู่ทำไมครับ เนอะ อย่างเช่นภาษาอังกฤษ ถ้ารู้ว่าตอนนี้เราไม่ได้ แล้วเราจะไปยุ่งกับมันทำไม ทำที่อื่นไปแล้วค่อยเพิ่มพูนทักษะของตัวเองก่อนดีมั้ยครับ เนอะ เก่งแล้วค่อยกลับไปใหม่ ดีกว่ามั้ยครับ อย่างน้อยทางบริษัทนั้นก็ยังไม่ได้เห็นข้อเสียของเรา เหอๆๆ เอาใจช่วยละกันครับ จากคุณ : Monkey_Mod - [ 29 เม.ย. 51 22:32:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ทำงานมา 6 ปี ละ  ไม่ค่อยได้ใช้ภาษาเลย  มาได้ใช้จริงๆก็ ปีที่แล้วค่ะ ทำงานเซลล์ บ ญี่ปุ่น และต่อจากนั้นไปทำงานเลขา บริษัทสัญชาติ สิงคโปร์ค่ะ  สุดท้ายก็ออกมาทำ Call Center พี่ไม่ได้เก่งนะคะน้องจิตแจ่มใส  อาศัยพูดบ่อยๆ ค่ะ ฟังพี่ๆที่เขาเก่งภาษาเวลาเขาคุยกันค่ะ ว่าคุยยังไงบ้าง  ช่วงแรกอาจจะผิดๆถูกๆ พอนานๆไปก็ชำนาญค่ะ จากคุณ : khunrarin - [ 29 เม.ย. 51 23:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่รู้จะแนะนำอะไรดีครับ ถ้าเป็นผมนะ ไม่ได้ไม่เป็นไรหาที่ใหม่ ทำสุดความสามารถที่เรามี   สู้ๆ จากคุณ : PANAJA - [ 29 เม.ย. 51 23:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สู้ ๆ แล้วกันนะครับ ถ้าทำเต็มที่และอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ เพื่อนผมเคยบอกว่าถึงทำงานแต่ไม่ผ่าน Pro ก็จะไม่เสียใจอะไร ก็เพราะได้ทำเต็มที่แล้ว คิดซ๊ะว่าเหมือนเข้ามาฝึกงานเอาประสบการณ์ แถมได้เงินอีกด้วย ปล. เห็น จขกท เขียนประมาณว่า ลังเลว่าจะเสียเงินเรียนภาษาดีไหม ตอบให้เลยละกันนะครับ ว่าการเรียน (ไม่ว่าจะเรียนอะไร) มันคือการลงทุนทั้งนั้นละครับ แต่สิ่งที่ได้ถึงใช้ไม่ได้ใช้ยังไงก็ติดตัวเราไปตลอดละครับ อย่าลังเลที่เรียนครับ..ถ้าเรามีโอกาส จากคุณ : ozegen - [ 29 เม.ย. 51 23:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตัดที่นี่ไปก่อน ทำงานที่ได้ล่าสุด เก็บประสบการณ์ แล้วลงคอร์สภาษาอังกฤษเสริม แล้วก็ไปลงคอร์สพัฒนาบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจในตัวเองด้วย ไม่งั้นยากที่จะโตได้ครับ จากคุณ : monkeygig - [ 30 เม.ย. 51 01:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รับทราบข้อความหลังไมค์ครับ ภาษาอังกฤษดูจะเป็นปัญหาสำหรับชาวสีลมไม่น้อยเลย แต่เอาเถิด เราย้อนอดีตไม่ได้ แต่ยังไม่สายเกินไป ยังแก้ไขทัน ในชั้นต้นนี้ มีข้อแนะนำ 2 เรื่อง 1. อย่าเกร็งถ้าจะต้องสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ การเกร็งจะทำให้ความสามารถทางด้านภาษา (ที่มีน้อยอยู่แล้ว) ลดน้อยลงไปอีก แฟนเจ้าลูกชายผมก็ทำงานบริษัทฝรั่ง โดยมีประสบการณ์จากที่อื่นมาก่อน 2 ปี เข้าทำงานได้ไม่นาน บริษัทใหม่นี้ก็ส่งไปอบรมที่อเมริกา ไปคนเดียวเลย ระหว่างที่อยู่อเมริกา เขา e-mail มาคุยกับผมบ่อยๆ ระดับภาษาของเขาก็ไม่ใช่จะดีอะไรมากมาย แค่สื่อสารรู้เรื่อง แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ เพราะเราใช้ภาษาเพียงเพื่อสื่อสารให้เข้าใจถูกต้องตรงกัน ไม่ใช่กำลังเขียนสุนทรพจน์ 2. เวลาสัมภาษณ์ ให้คุณพูดโดยใช้ภาษาอย่างง่าย อย่าพยายามอวดภูมิทางด้านภาษา (ซึ่งคุณไม่มี) และอย่าอวดภูมิความรู้เฉพาะด้านที่แม้คุณจะมีอยู่เต็มพุง แต่ถ้าคุณสื่อสารออกไปไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ ผู้สัมภาษณ์เขารู้ได้จากเรซูเม่ของคุณอยู่แล้วครับ ว่าคุณมีความรู้และประสบการณ์ในเรื่องใดบ้าง และในระดับใด เวลาเขาถาม แล้วคุณฟังไม่ออก อย่าอายที่จะบอกความจริงว่า คุณไม่สันทัดภาษาอังกฤษนัก เพราะโดยลักษณะงานของคุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษระดับเชี่ยวชาญ ยิ่งถ้าเป็นงานเชิงเทคนิค มันก็มีศัพท์เฉพาะอยู่ไม่มากนักหรอก ใช้วนไปเวียนมาอยู่อย่างนั้น ไม่นานก็ใช้ได้คล่อง ถ้าคุณฟังไม่ออก บอกเขาไปซื่อๆ ตรงๆ ด้วยภาษาง่ายๆ ไปเลยครับว่า I am not so good at English, slowly please. เพื่อที่จะได้ตัดปัญหาเรื่องภาษาออกไป และเบนความสนใจมาที่ความรู้และประสบการณ์ของคุณ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานแทน วันนี้ก็ดึกมากแล้ว ไว้ว่างๆ จะเล่าให้ฟังถึงวิธีฝึกภาษาอังกฤษ ที่ผมจั่วหัวไว้ว่าแม้จะเริ่มวันนี้ ก็ยังไม่สาย ราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 30 เม.ย. 51 01:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตั้งใจฟิตภาษาอังกฤษสิคะ หาอาจารย์เรียนตัวต่อตัวก็ได้ ไม่ต้องลงลึกถึง grammar มากมาย เพียงแค่ให้สามารถฟังรู้เรื่อง และโต้ตอบเป็นประโยคที่ไม่ซับซ้อนได้  หรือหาหนังซาวด์แทรคมาดู รอบแรกอ่านซับไทเทิลไปด้วย รอบต่อมาพยายามฟังอย่างเดียว และดูซ้ำ ๆ เพื่อฝึกไปเรื่อย ๆ  หรือหาวิดีโอใน youtube ที่เป็นภาษาอังกฤษดู มีตั้งเยอะแยะมากมาย   อย่าตกใจที่ต้องพูดภาษาอังกฤษกับฝรั่ง  เพราะเค้าไม่มานั่งคิดหรอกว่า คุณพูดผิดไวยากรณ์  และเค้าเข้าใจว่าคุณไม่ใช่เจ้าของภาษา    ถ้าคุณไม่เข้าใจก็บอกเค้าว่า ให้พูดใหม่ช้า ๆ ได้มั้ย Can you speak slowly please?  เค้าไม่กัดคุณหรอกค่ะ ถ้าคุณอยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน หนีภาษาอังกฤษไม่พ้นแน่ ๆ ค่ะ  สมัยนี้นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว หลายคนยังไปเรียนภาษาที่สามเพิ่มเติมอีกด้วย  สู้ ๆ นะคะ จากคุณ : Sonnenschein - [ 30 เม.ย. 51 03:36:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 i can not comment na ka because i am in Paris and i will go home on saturday. จากคุณ : มณีสยาม - [ 30 เม.ย. 51 05:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทำงานที่กรุงเทพดีแล้วค่ะ แล้วหาโอกาสไปเนรยนภาษาอังกฤษค่ะ พูดได้ไม่เสียหลาย จำเป็นนะคะ จากคุณ : งุนงง - [ 30 เม.ย. 51 06:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลองไปดูไม่เสียหายนะครับ  ถึงไม่ได้หรือไม่ผ่านยังไงถือว่าคุณได้ประสบการณ์ชีวิตที่เพิ่มขึ้นะครับ  ภาษาที่สองหรือภาษาที่สามถึงเป็นกำไรของคุณ  แน่นอนอาจมีผลกับ career path ของสายงานของแต่ละคน  อ่อนภาษาไม่ใช่เรื่องหลักเพียงแต่คุณพยายามสื่อสารให้เข้าใจ  ผมเชื่อว่าชาวต่างชาติที่เรา deal งานด้วยต้องพยายามเข้าใจอยู่แล้ว นอกเวลางานก็ค่อยหาโอกาสเรียนเพิ่มเติม  เดี๋ยวนี้สถาบันสอนภาษามีเยอะแยะราคาไม่แพงมาก  หรือไม่ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ  ผมเชื่อว่าคนเราสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว  หมั่นอ่านหนังสือ  บทความ  ดูหนัง  ฟังเพลง  คุยแม้กระทั่ง chat  ของอย่างนี้อยู่ที่ตัวเราเองครับ  เชื่อว่าหากเราตั้งใจซะอย่างทำได้อยู่แล้ว  เป็นกำลังใจครับ จากคุณ : จอดป้ายด้วย - [ 30 เม.ย. 51 07:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ภาษาอังกฤษจำเป็น ครับ หนีมันไม่ได้หรอก ต้องหันหน้าเข้าหามันและวิ่งเข้าใส่ ทำใจให้ชอบครับ เริ่มจากอ่านในสิ่งที่เราชอบก่อนนะครับ แล้วพอเคยชินเราก็ค่อยขยายสิ่งที่เราอ่านให้มากขึ้น จากคุณ : To die for - [ 30 เม.ย. 51 08:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สู้ๆ นะคะ   ดูจากคห.ข้างบนๆ  คงป็นประโยชน์กับคุณไม่น้อย เหนื่อยหน่อยในตอนแรกแต่มันจะคุ้มค่ะ ลองดูซักตั้งนะคะ จากคุณ : ดาด๊าดา - [ 30 เม.ย. 51 08:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คิดไว้ ถ้าไม่ได้ใช้ มันก็ ไม่มีการ พัฒนา อยากได้ โอกาส ดีๆ ควร ขวนขวาย เทคคอร์ส ภาษา สั้นๆ การทำงานกับบริษัท ข้ามชาติ ภาษา สำคัญมากเพราะ เอกสาร รายงาน ทุกอย่างจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ใหม่ๆ ก็งี๊แหละ อยู่ๆไป พอคุ้นเคยก็ จะชินเอง การฝึกภาษา อย่างแรก คือต้องกล้าทีี่จะพูดจะคุย ผิดถูกอีกเรื่อง ขอให้คุยแล้วเข้าใจกันเป็นพอ ปล. อืมมม การเปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ เพราะคุณจะเสียโอกาส ในการฝึกความชำนาญในสายงานนั้นๆ ได้เงินแต่ไม่ได้ความรู้ท้ายที่สุดเราจะมานึกย้อนเสียดายโอกาสไม่ได้อีก จากคุณ : ก้นกบ - [ 30 เม.ย. 51 08:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ได้งานที่เงินเดือน 20k ก็โอเคแล้วหนิคะ หาประสบการณ์ไปก่อน ยังตัดสินใจไม่ได้อีกเหรอ.... มั่นใจในตัวเองเข้าไว้สิ ขอโทษนะ เลิกส่งหลังไมค์ไปซะทีได้มั้ย จากคุณ : Choco-Mix - [ 30 เม.ย. 51 09:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สมัยเรียนภาษาเราก็แย่ใช้ได้ทีเดียว แต่โชคดี (บุญเก่าทำมาดี) ได้มาทำงานบริษัทฝรั่ง เจ้านายเป็นฝรั่ง ทุกๆอย่างเป็นภาษาอังกฤษหมด   แรกๆก็ท้อเหมือนกัน แต่ทำไปทำมาอยู่กับมันมากๆเข้าภาษาเราก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ ปีที่แล้วได้ไปสอบข้อเขียน (ภาษาอังกฤษ) ปริญญาโทที่ม.รัฐ แห่งนึง ไม่ได้อ่านหนังสือไปได้ 700 กว่าเลยน๊า มั่นใจในตัวเองนิดนึง สู้ๆเค้านะคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 51 11:32:10 จากคุณ : Nominee - [ 30 เม.ย. 51 09:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คนไทยส่วนใหญ่กลัวการพูดภาษาต่างประเทศ เมื่อก่อนภาษาอังกฤษสำหรับเราไก่กามากๆ ฝรั่งมาถามทางไปวัดพระแก้ว ยังบอกไม่ถูกเลย จากจุดนั้นเอง ทำให้เราไปเรียนการพูดที่ AUA สาขาหัวหมาก สอบได้ level 5 ทำให้พัฒนาได้มาก บังเอิญที่ทำงานเก่ามีวิศวกรชาวพม่าด้วย อาศัยฝึกกับเค้า สงสัยอะไรก็ถาม สมัยนั้นยังไม่มี internet มีแต่การส่ง fax ก่อนเก็บเอกสารเข้าแฟ้ม อ่านสักรอบนึง สงสัยไม่เข้าใจก็ถาม ศัพท์แปลไม่ออกก็เปิด dictionary (กระแดะใช้แบบ English-English ของ Oxford เชียวนะ) เวลามีเอกสารจากข้างนอก เช่น จากโรงแรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ พอมีเวลาก็เอามาอ่าน หลังจากนั้นอีก 4-5 ปี ก็ไปเรียนการพูดที่ AUA อีก คราวนี้สอบได้ level 9 เรียน 3 คอร์ส (level 9-11) ก็เลิกเรียน เพราะรู้สึกว่าอิ่มตัวแล้ว ปัจจุบันทำงานกับนายออสเตรเลีย ใช้ภาษาอังกฤษล้วนๆ ทั้งการพูด เอกสาร สิ่งสำคัญคือ การฝึก การสังเกต การจำศัพท์ และความอดทน เราเคยเรียนภาษาจีนกลางที่โรงเรียนสีตบุตรบำรุง เป็นเวลา 4 ปี เรียนเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ สอนแบบใช้ภาษาอังกฤษ-จีนกลาง แต่เสียดาย เรียนมาแล้วไม่ได้ใช้ ก็ลืมไปเยอะเหมือนกัน จากคุณ : กะลาสีรุ้ง - [ 30 เม.ย. 51 09:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 น้องคะ ขอโทษที่พี่จะไม่อ่านกระทู้น้อง แต่จะมาเตือนเรื่องมารยาทสักนิด การส่งหลังไมค์ คือการใช้สื่อสารในด้านส่วนตัว ไม่ใช่ส่งเพื่อให้มาตอบกระทู้ของน้องแบบนี้ เรื่องของกระทู้ ถ้าคนเขาสนใจ หรืออยากให้คำแนะนำ เขาก็จะเข้ากระทู้เอง ไม่เห็นต้องเที่ยวส่งไปหาคนนั้นคนนี้เลย จากคุณ : ke@ - [ 30 เม.ย. 51 09:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ลองหาชาวต่างชาติคุยด้วย จะได้ภาษาเร็วยิ่งขึ้น มีน้องที่ทำงานเก่าคนนึง เรียนจบ ปวช. การเขียนภาษาอังกฤษ อ่อนมาก ศัพท์บางคำง่ายๆ ยังทำไม่ได้ แต่ เขา แชทคุยกะต่างชาติ มาก ทำให้ conversation ของเขาดีกว่าเรามากมายก่ายกอง หาฝรั่งคุยเป็นเพื่อนด้วย จะดีมาก ส่วน grammar กะ reading ไปเรียนเอาเพิ่ม การที่คุณพูดได้แล้ว จะทำให้อยากและ สนุกกับการเรียน จากคุณ : นางมารร้ายไฉไล - [ 30 เม.ย. 51 10:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านคร่าวๆอ่ะค่ะ เห็นเป็นคุณจิตแจ่มใส เราก็ลุ้นมาด้วยนะตั้งแต่ที่เก่าจนสัมภาษณ์สองที่ เหมือนจะเลือกได้ที่ๆดีแล้ว ตอนนี้มีตัวเลือกเพิ่มอีกแล้วเหรอคะ ถ้าเป็นเรา เราจะทำที่ๆตกลงรับเรา (ที่ให้ 20K น่ะค่ะ) ไปก่อน เพราะชัวร์ว่าเราจะต้องทำได้ และเต็มที่ ไม่มีความประหม่ารอบด้านมาก ทำงานไม่ใช่สนามทดลอง เกิดเลือกที่ใช้ภาษาอังกฤษแล้วพัฒนาไม่ทัน เค้าให้ไม่ผ่านโปรฯขึ้นมาคราวนี้จะเคว้ง งานก็หาไม่ได้ง่าย ๆ เราคงทำงานไปด้วยแล้วก็พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษไปด้วยในวันหยุด หรือตอนเย็นหลังเลิกงานคงลงเรียนพิเศษอะไรไปตามเรื่อง พอภาษาได้ บวกกับประสบการณ์การทำงานที่มีอยู่พอตัว (ถึงป่านนั้นคงทำงานที่ให้ 20K นี่เป็นปีแล้ว) ค่อยขยับขยายหางานใหม่อีกครั้งก็ยังไม่สาย จากคุณ : ลยา - [ 30 เม.ย. 51 11:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ครับ.. ลองจ่ายเงินซัก 75k เรียนภาษาดูนะครับ ^^""" หลายท่านให้คำแนะนำไปแล้ว คงขอนุญาตไม่ให้ซ้ำ ..การตัดสินใจจะเดินทางไหนของชีวิตมันเป็นเรื่องส่วนบุคคล ต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียประกอบกันไปเป็นเรื่องๆ น่ะครับ จากคุณ : freeek!!! - [ 30 เม.ย. 51 12:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คงไม่ออกความคิดเห็นเรื่อง ภาษา เพราะเพื่อนๆ ให้ความคิดเห็นไปเยอะแล้ว และไม่ออกความคิดเห็นเรื่องงาน หาอ่านเพื่อพิจารณาจากความเห็นข้างบน แต่อยากบอกว่า .................... ในเมื่อรู้จุดอ่อนตัวเองดีแล้ว อย่าสร้างเงื่อนไข เช่น "ประสบการณ์ผมสามปี มีบริษัทอื่น ๆยังต้องการอีกเยอะเลยทีเดียว" เพราะมันจะทำให้คุณยังมีจุดอ่อนนี้ต่อไปอีกแสนนาน ปล. โปรดงดใช้หลังไมล์ จากคุณ : เตร็ดเตร่ - [ 30 เม.ย. 51 12:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ภาษา เราหัดกันได้ อย่าไปกลัวมันครับ...ลุยเม่งเลย จากคุณ : C5 HDI - [ 30 เม.ย. 51 13:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มีบ้างต้องเข้าไปพบลูกค้าฝรั่งเหมือนกัน ต้องพรีเซนต์งานเป็นภาษาอังกฤษ โดยที่คนติดต่อไม่ได้บอกเลย กะให้ไปตายเอาดาบหน้า ว่างั้น แต่บังเอิญพอฟัง-พูดรู้เรื่องก็ได้งานมาตลอดคะ หาที่เรียนเพิ่มเติมเถอะคะ หรือจะเรียนทางโทรศัพท์ก็ดีนะคะ เพื่อนรับสอนอยู่ คิดว่าเป็นลู่ทางในการเรียนแบบเสียเวลาน้อยอีกทางนึง จากคุณ : Nerveเนิฟ - [ 30 เม.ย. 51 13:58:47 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยกับหลาย ๆ ท่านข้างบนนะครับ ว่าถ้าคุณยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นจุดอ่อน ก็จะเกิดอาการเกร็งจนทำให้ทักษะการฟังและพูดลงลง ในฐานะคนใช้ภาษาต่างประเทศในการประกอบอาชีพมาเกือบ 20 ปี ขอบอกเลยครับว่า การสอนภาษาอังกฤษในเมืองไทยส่วนใหญ่ผิดหลัก คือไปเน้นสอนไวยกรณ์ แล้วถึงมาเขียน พูด ฟัง ซึ่งทำให้คนพูดกลัวผิด ประกอบกับข้อสอบก็จะเน้นไปที่ไวยกรณ์ด้วย ไม่ได้เน้นทักษะการนำไปใช้ ผมไปดูลูกเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติ (ญี่ปุ่น) ไปเข้าโรงเรียนนานาชาติที่สอนภาษาอังกฤษ เค้าจะสอนเด็กให้ฟังและพูดก่อน ส่วนเขียนครูบอกว่า ถ้าเด็กพูดได้แล้วก็สอนแค่เรื่องการสะกดคำ ซึ่งเด็กจะไปได้เร็ว คุณเคยเห็นเด็กต่างชาติที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ (คือยังไม่เข้าโรงเรียน) แต่ก็พูดกับพ่อแม่หรือคนอื่น ๆ ได้ (เด็กไทยก็เหมือนกัน คือยังไม่เข้าโรงเรียนก็พูดไทยได้) อันนี้คือธรรมชาติของภาษานะครับ ผมมองว่าที่คุณตอบโต้ในการสัมภาษณ์ไม่ได้ คือ คุณฟังไม่ออกว่าคนถามเค้าถามว่าอะไร การฝึกฟังทำได้โดย 1. เรียนพิเศษเพิ่มเติมกับเจ้าของภาษา หรือหาเพื่อนที่ทำให้มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น (อันหลังนี้คือจะไม่เสียเงิน) 2. ดูหนังหรือเคเบิลทีวีที่เป็นภาษาอังกฤษบ่อย ๆ อันนี้ช่วยได้เช่นกัน คุณเคยสัมภาษณ์งาน ดังนั้นจะคาดเดาคำถามได้อยู่แล้ว ลองฝึกโดยนึกว่าคุณจะตอบเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างไร ถ้าเจอคำถามอย่างนี้ อันนี้จะเป็นการช่วยให้คุณเตรียมได้ ลองกับคำถามที่มีโอกาสถูกถามได้ยิ่งมากยิ่งดี (ผมไม่แนะให้เขียนคำตอบแล้วท่อง เพราะมันจะทำให้เกร็ง เวลาตอบจริงลืมแล้วจะแย่กว่า แถมเวลาตอบมันจะออกแนวหุ่นยนต์ ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ) อันนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจขึ้นว่าคุณพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์ เวลาสัมภาษณ์ทำตัวให้สบาย อย่างเกร็ง อย่างมากก็ไม่ได้งาน เค้าไม่ฆ่าคุณหรอก พยายามฟัง key word ของคำถาม ถ้าคุณฟังได้ 70-80% และจับ key word ได้ คุณก็รู้ว่าเค้าถามเรื่องอะไร ก็จะทำให้ตอบได้ตรงประเด็นยิ่งขึ้น หากไม่แน่ใจถามกลับได้ ว่าขอให้พูดหรืออธิบายอีกครั้ง (แต่ก็ไม่ควรจะถามกลับต่อทุกคำถาม) ผมเชื่อว่าถ้าถามที่มีศัพท์เทคนิคทางไฟฟ้า คุณคงรู้ แต่สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือเรื่องที่อาจไม่ใช่ทางเทคนิคด้วย ผมก็จบต่ำกว่าคุณ มาทำงานบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งต่อมามีลูกค้าที่เป็นบริษัทต่างชาติ (เช่น IBM) โดยเค้าให้ผมรับผิดชอบด้วย คุณจะเห็นว่าบริษัทเหล่านี้แม้แต่ E-mail, Report ฯลฯ ไม่มีภาษาไทยเลย ภาษาไทยใช้แค่พูดกัน บางทีพูดกันภาษาไทย พอมีชาวต่างชาติเข้ามานั่งอยู่ด้วย แม้จะไม่ได้ร่วมวงสนทนาก็จะเปลี่ยนไปพูดภาษาอังกฤษกันทันที (ฝรั่งบางคนเค้าไม่ชอบให้ไม่พูดภาษาเค้า กลัวโดนนินทา) ตอนนี้คุณไม่เคยเจอแบบนั้น อาจกลัว แต่ถ้าไปทำจริง ไม่ยากเกินไปหรอกครับ ยกตัวอย่างการเขียนจดหมายภาษาอังกฤษ ผมเขียนได้เร็วกว่าภาษาไทย เพราะภาษาอังกฤษมีรูปแบบตายตัวมากกว่า ภาษาสามารถฝึกฝนเพื่อเพิ่มทักษะได้ แต่เป็นเรื่องที่จำยากลืมง่าย ต้องฝึกฝนต่อเนื่องจนกว่าจะอยู่ตัว แต่ไม่ใช่เรื่องยากเกิดไปนะครับ อย่างไปคิดว่าเป็นปมด้อย เพราะถ้ามีคนที่ภาษาดีกว่าคุณ ก็คือเค้าจบมาพร้อมกับคุณ แต่ได้ทำงานใช้ภาษาอังกฤษตลอด ถ้าคุณได้ทำงานแล้วใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ปีเดียวก็ไล่ทันได้ครับ อีกอย่าง เค้าไม่ได้รับคุณเป็นล่าม ดังนั้น สิ่งที่บริษัทต้องการคือความรู้ทางวิศวกรรมของคุณ อย่าลืมสิ่งนี้ เพียงแต่ภาษาเป็น advantage เท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนเพิ่มเติมได้ครับ จากคุณ : jerry (jerry-t) - [ 30 เม.ย. 51 15:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โลกใบนี้ไม่มีเส้นกั้น พรมแดนระหว่างประเทศ ไม่มีเส้นกั้น พรมแดนแห่งการติดต่อสื่อสาร ระหว่าง บุคคล กับ บุคคล ครับ ส่วนตัวก็ ผมเข้าเรียน ป. ตรีใหม่อีกใบ คณะมนุษยศาสตร์ สาขา ภาษาอังกฎษ ที่ ม.แห่งหนึ่ง หน่วยกิตละ 25 บาท โดยการเทียบโอนป. ตรี สาขาการตลาด จาก ม. เอกชนแห่ง หนึ่ง ครับ สำหรับ ผม คือการกลับ ไปเรียนใหม่ อีกรอบ แล้ว ให้อยู่ใน สภาวะ แวดล้อม เป็นภาษาอังกฎษ เช่น ตรอก ข้าวสาร สีลม สุขุมวิท ให้ เหมือนฝรั่งให้มากที่สุด และ อ่าน ข่าว ภาอังกฎษ ดู หนัง VCD DVD เสียง sound track เพียงอย่างเดียวครับ ก้ดีขึ้มามาก เหมือนกัน แต่ผมแนะนำให้คุณกลับ ไปเรียนหม่ นะ จะได้แม่น เรื่อง Tense ทั้ 12 tense โชคดีนะครับ จากคุณ : okb - [ 30 เม.ย. 51 15:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มันอยู่ที่ความสนใจ+ความเอาใจใส่+สมาธิ อย่ากลัวครับ จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค - [ วันแรงงาน 11:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 42 จะเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะคะ ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่เป็นลูกชาย จบวิศวะแถวๆสามย่านเกรดเกือบๆ 3 ตอนปี 2 เขาขอไปwork and travel ที่อเมริกา 3เดือน ปรากฏว่าจากที่ไม่กล้าพูด พอกลับมาพูดได้ ฟังได้ และการที่เป็นคนใฝ่รู้  เขาจะฟังข่าวภาษาอังกฤษ ดูหนังเสียงในฟิล์ม และขอไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มที่wallstreet พอเรียนจบ สมัครงานที่ชลัม สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ ก็ได้งานในตำแหน่งที่น่าพอใจ และก็ลองไปสอบนักบินของการบินไทยดู ปรากฏว่าผ่านข้อเขียน แต่ทั้งนี้ตัดสินใจทำสัญญากับชลัมไปแล้ว เงินเดือนห้ากว่าๆ แต่ถ้าออกแท่นก็มีเบี้ยเลี้ยงอีกต่างหาก มีที่พักให้ และอีกสามเดือนบริษัทจะส่งไปเรียน ที่ต่างประเทศเป็นเวลา3เดือน ทีอธิบายให้ฟังนี่เพราะจะให้เห็นว่าตัวเขาเอง เขาเตรียมตัวของเขาเองก่อนที่จะจบ เพราะรู้ว่าจะต้องใช้ภาษาอังกฤษมาก จากคุณ : มณีสยาม - [ วันแรงงาน 15:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ วันแรงงาน 22:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 44 If you need to improve your English, you will have to open your heart first.  Grammar is quite hard to understand in the few day.  What you have to do right now is to practise your listening skill, this is the easiest way to start.  Then try to compose some normal sentence involving with your daily life.  After that you also have to try to pronounce that sentence. The concept of studying English is for the communication.  Don't worry whether you say the wrong words.  If your partner can understand what you said, it will be alright.  Writing skill is a must, it is the most difficult skill.  You have to understand the structure and grammar as well to achieve it.  Good luck krab จากคุณ : Blancpain - [ 3 พ.ค. 51 09:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ภาษาเกิดจากการใช้น่ะครับ ถ้าเราอ่านหนังสือท่องจำแต่ไม่ได้พูดไม่ได้ฟังบ่อยๆ เดี่ยวก็ลืม ถ้าว่างๆก็ดูหนังแบบที่พูดอังกฤษ พยายามจับสำเนียงเขาให้ได้ รู้เรื่องมั้งไม่รู้เรื่องมั้งก็อย่าเพิ่งท้อ อย่างแรกเราต้องจับให้ได้ก่อนว่าเขาพูดคำอะไร สู้ๆครับ ู จากคุณ : หนุ่มหนิงโป - [ 4 พ.ค. 51 08:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หลังไมค์น้องเค้าได้ผลจริง ๆ คนเข้ามาเม้นเพียบ (แต่โปรดใช้วิจารณญาน) พี่ก็ไม่ค่อยเก่งภาษาปะกิดหรอกน้องเอ้ย.. ทุกวันนี้ทำงานก็ไม่มีภาษาปะกิดเลยยกเว้นพิมพ์ชื่ออีเมล์.. แต่ก็พยายามจะฝึกฝนบ่อย ๆ โดยการแชต แชตเป็นภาษาปะกิด (แต่คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ฮ่า ๆ ) ดูหนังซาวแทรก (ได้ทั้งฟังพูดตาม)  ฟังเพลงฝรั่ง (ฟังออกมั่งไม่ออกมั่ง) เฮ้อ.. ไม่ได้ช่วยตอบไรเท่าไหร่ ถือว่าเล่าสู่กันฟังละกัน.. เคยไปสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษเหมือนกันนะ ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรืองบ้าง ก็ yes yes good good ฮาดีเหมือนกัน .. แต่ไม่ได้งานหรอก (เค้ารับก็บ้าแล้ว ตอบอยู่แค่เนี้ย) จากคุณ : smaws (smaws) - [ 22 พ.ค. 51 21:05:10 ]