ความคิดเห็นที่ 1 ผลิตเสื้อผ้า  ครับ...กลุ่มลูกค้าผม  คือ วัยรุ่น และวัยทำงานครับ...จะมีเสื้อตามกลุ่ม    ยอดขาย ร่วงครับ   แต่เพิ่งจะร่วง ช่วงเปิดเทอม   นี้ครับ...ปัจจัย  จากการพูดคุย  กับลูกค้า  คงเป็นช่วงเปิดเทอม  ทุกคนมีค่าใช้จ่าย  เสื้อผ้าแฟชั่น  คงถูกเอาไว้ก่อน.....แต่ไม่เกินเดือน     คงดีขึ้น..มาเหมือนเดิม....ตอนนี้   เลยออก  รุ่นใหม่  มารักษา  แชร์ตลาดเดิม...และเพิ่มรุ่น  เข้าไป แชร์  กับตลาดใหม่ที่เราไม่เคย   เข้าไป ทำตลาด...เพื่อ รักษา  ยอดขายรวมไว้....ยังไม่ทราบผลครับ....เพราะเป็นการ   รันแผน งาน ที่วางไว้ ตั้งแต่  ปีที่แล้ว....ตามแผน  จะส่งผล  ประมาณ เดือน  6...คงต้องรอดู...ก่อน.....ลุ้นๆๆๆๆๆๆ.... ขอบ่น....ต้นทุน  ขึ้น  ทุกตัวเลย  ครับ   ผ้า   ด้าย  สีสกรีน....ค่าครอง ชีพ แพงขึ้น   กลัวลูกน้องลำบาก   เลยขึ้น  ค่าจ้าง ให้ตั้งแต่ต้นปี....ค่าแรงขั้นต่ำประกาศ  ใหม่เมื่อ วาน  ...ยังต่ำ กว่าขั้นต่ำผมตั้งเยอะ...แต่ราคา ขายปรับไม่ได้  เลยครับ....ต้องคงเดิมไว้....สรรพากร ฝาก มาบอก หลังเดือน 6  ขอ ยอด  VAT   แต่ละเดือน  มากกว่าเดิม หน่อย....ถือว่าช่วยชาติ.... หลังเดือน 6  ต้องปรับแผน การตลาดใหม่...ตั้งใจ  จะเข้า ตลาดเสื้อราคา สูง   เพื่อ เพิ่ม อัตรา กำไร ต่อเงินลงทุน  ให้มากกว่า เดิม .....แต่ตามแผนงาน ที่ลูกน้องเสนอ   ดูงบ โฆษณา ที่ต้องใช้ แพง น่าดู....สงสัยต้อง เริ่ม ทีละ  ภาค.....งบจะได้น้อยลง  หน่อย.... จะเป็นไง   ต่อไป  หว่า......สู้ๆๆๆๆ  ทุกท่าน    เป็นกำลังใจ ให้ครับ.. จากคุณ : HEN-MAN - [ 3 พ.ค. 51 10:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สวัสดีครับพี่จิมมี่ เป็นยังไงบ้างครับ ขอมาอ่านก่อนนะครับ แล้วไงคืนนี้จะกลับมาตอบอีกที......ต้องรีบออกไปข้างนอก ^_^ จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 3 พ.ค. 51 11:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยู่อุตสาหกรรมหนักครับ หนักจริงๆ เหล็กขึ้นราคามาแล้ว 50% และยังคงจะขึ้นต่ออีก 20% ต้นทุนอื่นๆก็พาเหรดขึ้นกันเป็นขบวน ราคาขายปรับได้มั่ง ไม่ได้มั่ง แล้วแต่สภาพการแข่งขันและสภาพตลาดของแต่ละอุตสาหกรรม อุปสรรคเยอะแต่ก็ยังพอประคองตัวและสร้างความเติบโตได้อยู่ครับ ด้วยการติดตามสถานการณ์ทั้งจุลภาคและมหภาคอย่างใกล้ชิด ประเมินและวางกลยุทธ์ทั้งระยะสั้นและยาว ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้ผมให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ระยะสั้นมากกว่าระยะยาว ต้องยืดหดปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ตอนนี้เลยได้ลูกค้ามาจากคู่แข่งที่ปรับตัวไม่ได้มาหลายราย อีกจุดหนึ่งที่ทำให้อยู่รอดปลอดภัยตอนนี้ ของผมอยู่ที่ Connection ด้วยครับ ที่สนิทกันก็ใช้วิธีรวมกลุ่มกันเป็น cluster เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง สมมุติต้องสั่งซื้อสินค้าตัวหนึ่ง ผมซื้อ 100 เพื่อนซื้อ 100 เราก็รวมกันซื้อทีเดียว 200 ได้ราคาที่ต่ำกว่าต่างคนต่างซื้อครับ หรืออย่างการแชร์ลูกค้า, supplier, เงินทุน และknow-how ตอนนี้ก็มีบทบาทอย่างมาก เพื่อสร้างกลุ่มที่แข็งแกร่งครับ ส่วนตลาดก็เน้นไปยังภาคส่วนที่ยังมีความเติบโต บางส่วนที่เราสร้างฐานมานานแต่เมื่อมันทำท่าจะไปไม่รอด ก็จำใจต้องทิ้งไป เพื่อหาส่วนที่มีอนาคตกว่ามาทดแทน ระหว่างนี้กำลังซุ่มสร้างโรงงานใหม่อย่างช้าๆไปเรื่อยๆ และค่อยๆปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้รองรับปริมาณงานที่มากขึ้นอยู่ครับ รอจังหวะเศรษฐกิจกลับหัวค่อยลงทุนหนักๆ และเร่งจังหวะขึ้นไป หวังว่าจะก้าวกระโดดได้บ้างครับ จากคุณ : Jiang wei - [ 3 พ.ค. 51 13:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าจะให้พูดตามตรงคือสภาวะนี้ผมและหลายๆๆคนเล็งเห้นมาประมาณ3-4ปีที่แล้วละครับ  ตั้งแต่ตอนนั้นก็พยายามหาการค้าขายอะไรก็ได้ที่เศรษฐกิจแบบในขณะนี้แล้วผมไม่กระเทือน  ใช้ทุนไม่เยอะ พลิกแพลงง่าย  ไม่ตายตัวกับการตลาด  มีการหมุนเงินทุกวัน  คำตอบผมคือการมาเปิดร้านโขว์ห่วยเล็กๆๆครับอาศัยการที่เรารู้จักคนเยอะ ลูกเล่นในการบริหารเงินนิดหน่อยก็พอที่จะพยุงตัวเองให้ผ่านเวลาเช่นนี้ไปได้โดยไม่ยากมากนัก ยอดขายตกลงนิดหน่อยครับพี่แต่ไม่ถึงกับกระเทือนอะไรมากนัก เพราะดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงไม่หรูหราอะไร        คีย์ใหญ่ๆเลยที่ทำให้ไม่กระเทือนในมุมมองผมคือได้เท่าไหร่ก็ใช้ให้พอประมาณที่เหลือเก็บเงินมาลงทุน ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น รู้จักคุณค่าของเงิน พยายามใช้เงินที่หาได้ทุกบาทให้คุ้มค่าที่สุด ถามว่าให้รางวัลตัวเองไหม ผมให้นะครับให้แต่พองาม แต่เก็บให้มากกว่าที่ใช้ หามากกว่าที่เก็บหลายเท่าตัวครับเลยไม่ค่อยกระเทือนอะไรเท่าไหร่     ของถ้าซื้อเพื่อใช้ชีวิตเราไม่กระเทือนมากหรอกครับแต่ถ้าซื้อเพื่อโชว์เท่าไหร่ก็ไม่พอ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ายังใช้ได้ดีสำหรับผมเสมอ  คือ "อย่าดำเนินชีวิตด้วยความประมาท" "การไม่เป็นหนี้คือลาภอันประเสริฐ" 2คำสอนนี้ทำให้ทุกวันนี้ผมพอจะดุนๆๆดันๆๆตัวเองให้สู้ต่อไปได้ครับ  ^ ^' จากคุณ : axolot - [ 3 พ.ค. 51 13:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 "สังคมแห่งการเรียนรู้และการแบ่งปันตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" http://www.moc.moe.go.th/modules.php?name=News&file=print&sid=5926 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 51 15:07:50 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 51 14:48:37 จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 3 พ.ค. 51 14:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทำธุรกิจที่หากินกับเด็กนักเรียนและครู ค่ะ    ให้บริการอินเตอร์เน็ต  ทำรายงาน  ถ่ายเอกสาร เข้าปก  เย็บเล่ม   โดนพิษเศรษฐกิจด้วยคนค่ะ แต่ต้นทุนสินค้าไม่ได้ขึ้นเท่าไหร่  ไปขึ้นจากพวกค่ายานพาหนะในการเดินทาง  ค่ากินค่าอยู่เสียมากกว่า   ตอนนี้ก็มีปรับราคาสินค้าบางส่วนเพิ่มขึ้นบ้าง แล้วก็พยายามหาแหล่งสินค้าที่เราไม่ต้องเดินทางไปซื้อเอง  เช่นแบบส่งถึงที่  และสั่งสินค้าทีละมากๆ  สต๊อกสินค้าเยอะๆ  เพื่อการประหยัดน้ำมันในการเดินทาง  แล้วก็กำลังมองหาทำเลใหม่ๆ  เพิ่มขึ้น  ขยายกิจการ  ง่ายๆ  ก็ตัดรายจ่าย  เพิ่มรายรับแหละค่ะ    เหนื่อยเหมือนกันค่ะ  เฮ้อออออออออ จากคุณ : ป้าสำออย - [ 3 พ.ค. 51 18:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การค้าขายเคมี สถานการณ์ปั่นป่วนนิดหน่อย เรื่องสินค้าขึ้นราคา โดยรวมแล้วก็ยังคงขายได้เหมือนเดิม (ยอดจำนวนสินค้าเหมือนเดิม ไม่เพิ่มขึ้น แต่ยอดขายเพิ่มเพราะราคาปรับเพิ่ม) สินค้าบางตัวยอดลดลง แต่ก็มีบางตัวเพิ่ม เลยถัวเฉลี่ยกันไปได้ แต่กำไร ลดลง เนื่องจาก...น้ำมันแพง สินค้าทุนขึ้นราคา และเงินในกระเป๋าลดลง เนื่องจาก....สินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันขึ้นราคา จากคุณ : ท้อแต่ไม่ถอย (afood) - [ 3 พ.ค. 51 18:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ของเราวิเคราะห์ไม่ถูก เพราะมันกลับตาลปัตร ปีที่แล้ว (50) เงียบเหงาจริง หลังรัฐประหารปลายปี 49 โครงการต่างๆ ที่เคยเสนอก็ชะลอหมด ปี 50 ทั้งปีได้โปรเจ็คใหม่แค่โปรเจ็คเดียว แต่พอมาปีนี้ เฉพาะ Q1 งานก็ล้นมือ มูลค่างานที่ได้มากกว่ารายได้ปีที่แล้วทั้งปีเสียอีก มันเพราะอะไรกันละเนี่ย ง้งงง จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 3 พ.ค. 51 23:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ครายมีปัญหาค่าขนส่ง ทีวีไดเร็คภูมิใจเสนอ..................... ^0^   แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 51 23:59:38 จากคุณ : axolot - [ 3 พ.ค. 51 23:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทำธุรกิจด้านออกแบบสื่อโฆษณาคะ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และถ่ายทำวีดีโอ presentation สายเดียวกับจขกท.คะ แต่เล็กกว่าเยอะ....  เป็นทีม outsource คะ ยังไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก เพียงแค่ของใช้ในชีวิตประจำวันขึ้นราคา รู้สึกเหมือนกันว่าลูกค้าตัดสินใจช้า+ยาก กว่าจะเริ่มงานแต่ละตัว แต่ก็กระตุ้นให้เรารู้สึกอยากสู้มากขึ้น พยายามพัฒนาตัวเองมากขึ้นด้วย เพิ่งทำได้ไม่กี่ปี แต่รู้สึกว่าปีนี้ยังคล่องตัวอยู่คะ จากคุณ : Nerveเนิฟ - [ 4 พ.ค. 51 01:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดีใจที่มีหลายคน หลายธุรกิจมาแชร์ประสบการณ์และเล่าแนวทางของตัวเอง ทำให้ได้เห็นมุมมองในภาคธุรกิจอื่น  รวมทั้งของบางคนที่เติบโตสวนกระแส ได้อีกต่างหาก(ดีใจด้วยครับ)  เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะผลการทำงานสะสม ในช่วงปีที่ผ่านมา  แล้วมาออกดอกออกผลในช่วงปีนี้   คุณ HEN-MAN ทำธุรกิจการ์เม้นท์  ภาพรวมเป็นอย่างไรครับ  เพราะเคยได้ยินหลายคน บอกว่าเริ่มลำบากเหมือนกัน  โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านราคา ด้วย  อย่างเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง  โรงงานเสื้อผ้าใกล้บ้าน  ตัดสินใจปิด โรงงาน  แล้วย้ายฐานไปที่เวียดนาม(ได้ยินมาอย่างนั้น)  ลอยแพพนักงาน หลายร้อยชีวิตอยู่  แต่ด้านลึกในวงการนี่ผมไม่ทราบจริงๆ  ฝากเล่าข้อมูล เพิ่มเผื่อเป็นความรู้ด้วยครับ ***************************** คุณ ACM รอความเห็นอยู่นะครับ  แล้วเดี๋ยวนี้เห็นมี Gua Jia ด้วย  มันคืออะไรหว่า? ***************************** Jiang wei รายนี้เราคุยกันตลอดอยู่แล้ว  นับถือจริงๆ สวนกระแสได้แบบทำไม่ทัน ขนาดราคาต้นทุนสูงขึ้นมาก  เป็นนักรบที่ได้ทั้งบุ๋น บู๊  แต่เท่าที่ทราบก็ทำ แผนเจาะลูกค้าบางรายมาหลายปีแล้ว  จากบทเรียนของคุณ Jiang wei และเท่าที่ประสบเองบางส่วนนี้  การทำงานบางอย่าง  ผลมันจะไม่ออกมา ทันที  ต้องใช้ระยะเวลาเหมือนกัน แต่เรื่องแผนระยะสั้นมาก่อน  จริงๆ ก็เห็นด้วยนะครับ  เพราะ งานด่วน มาก่อนงานใหญ่(ตามหล้กหมากล้อม)  เพียงแต่ของผมยังคิดอะไรไม่ค่อย ออกมากนัก  เพราะตลาดซบไปพอสมควร  อย่างโรงพิมพ์ที่ผมส่งงาน ก็บ่นกันอู้เหมือนกัน  งานพิมพ์ของเขาหายไปเยอะ  แต่ก็มีบางเจ้าเหมือนกัน ที่ยังงานเพียบเหมือนเดิม  หางานเก่งจริงๆ ***************************** คุณ axolot ค้าขายของจำเป็น  ก็น่าจะเป็นธุรกิจ-การค้าที่กระทบหลังสุดของวงการ เพราะใครๆ ก็ต้องซื้อของกินของใช้  ขาดไม่ได้  แต่ถ้าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย นี่กระทบแน่นอน   เห็นด้วยกับอันนี้ครับ "การไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ " (ถ้าไม่จำเป็น จริงๆ นะครับ)  ถ้าจะมีก็มีแต่พอประมาณและด้วยความรอบคอบ อันนี้เพราะผมเคยประสบด้วยตัวเองครับ  เรื่องนี้ ***************************** พี่ดีอาร์(จูล่ง) แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี่ช่วยคนไทยได้เยอะนะครับคราวนี้  ผมว่า เพราะหลายคนไม่ก่อหนี้มากนัก  ถ้ามีก็คงไม่มาก  ไม่งั้นจะซี้แหงแก๋กันอีกมาก คนไทยเป็นหนี้แนวคิดพระราชทานของในหลวงท่าน อันนี้อย่างมากมายจริงๆ ครับ * ขอแก้ไขแยกเป็นสองคคห.แล้วกันครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 51 09:18:28 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 51 09:16:42 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 4 พ.ค. 51 09:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่กระทบครับ เนื่องจากงานบริการส่งออกที่อาศัยผลพวงจาก เอฟทีเอ ไทย-ญี่ปุ่น เป็นตัวเกาะกระแสไป แนวโน้มแบบนี้ทำให้ ผู้คนอยากดึ้นรนหาช่องทางใหม่ๆ โอกาสธุรกิจใหม่ๆที่ต่อยอดธุรกิจได้ แนวโน้มยังไปได้อีกนาน ธุรกิจอาหารการกิน เป็นธุรกิจที่ไม่มีวันตาย ตราบใดที่ผู้คนยังมีชีวิตอยู่ ยังต้องกินกันอยู่ ความต้องการของเครื่องปรุงอาหารส่งออกยังดีอยู่ ร้านอาหารไทยในญี่ปุ่นยังไปได้อยู่ครับ จากคุณ : pukkhom - [ 4 พ.ค. 51 09:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับคุณป้าสำออย จริงๆ ธุรกิจของคุณป้าสำออยก็ไม่น่าจะกระทบด้านยอดขายมาก ใช่มั๊ยครับ เพราะอย่างไร  นักเรียนและครูก็ต้องทำงานพวกนั้นอยู่แล้ว  เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับลูกค้าเป้าหมาย  ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่า  มีเพื่อนรุ่นน้อง ห้องนี้คนหนึ่งทำด้านนี้อยู่ด้วยเหมือนกัน  ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้คุยกันสักพักนึงแล้วเหมือนกัน ***************************** คุณafood ทำเคมีนี่  ทราบเรื่องพาราฟินหรือเปล่าครับ  ต้องนำเข้าหรือทำในประเทศได้ ครับเนี่ย  เมื่อวานได้คุยกับพี่ที่ทำบัญชีให้ผม  บอกว่าลูกค้ารายหนึ่งของเขา ที่ทำด้านเทียนหอมส่งออก  ยอดขายเพิ่มเหมือนกัน  แต่กำไรลด  เพราะ คาราพาราฟินเพิ่มมาก  ไม่ทราบมันทำจากอะไรครับ  ไอ้พาราฟินเนี่ย ***************************** สาวน้อยร้อยแปด ดีใจกับคุณเหมียวด้วย  คราวก่อนก็เห็นมีต่างชาติจะมาขอร่วมทุน คราวนี้กิจการก็สวนกระแสอีกคน  จำได้ว่าคุณเหมียวมาทางด้าน engineer ไม่ทราบว่าเป็นสายงานไหนของ engineer ครับ  เอ้อ  ผมว่าธุรกิจด้าน ประหยัดพลังงาน  หรือเกี่ยวกับโลกร้อนน่าจะมาแรงในอนาคตไม่กี่ปีนี้ นะครับ  ไม่ทราบว่าคุณเหมียวว่าไง ***************************** คุณNerveเนิฟ ธุรกิจสายเดียวกัน  แต่ผมไม่ได้ทำด้านวีดีโออย่างเดียว  แต่ของผมก็ไม่ได้ ใหญ่โตอะไรครับ  เน้นทำเองบางส่วนกับซับออกไปบางส่วนมากกว่า ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมบางท่านถึงนึกว่าผมอายุเยอะมาก (มีคนถาม บ่อยๆ)  กับคิดว่ากิจการผมใหญ่โตมาก  ทั้งที่เมื่อสามปีก่อน  ช่วงแรกๆ ที่ผมเข้ามา  ก็ยังมาตั้ง"ชมรมคนเคยล้ม"อยู่เลย (จึงเข้าใจว่าหลายคน อาจไม่ทันช่วงนั้น) แม้วันนี้สถานการณ์เริ่มกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ต้องรักษาแผลเก่าที่เคยมี ดีที่วันนี้ใช้หนี้ไปจนเกือบหมดแล้ว(เนี่ย..  ตัวฉุดรั้ง)  ปีสองปีนี้ มีสองช่วงที่ คิดว่าจะรับพนักงานมาทำประจำบ้างเหมือนก่อน  ก็มีอันต้องสะดุดทั้งสอง ครั้ง  ครั้งแรก  ลูกค้ารายใหญ่  รายสำคัญ(บริษัทมหาชน)  ที่ให้งานจน ล้นมืออยู่ช่วงหนึ่ง  หลุดไปเนื่องจากนโยบายภายในของลูกค้าเอง ปรับเปลี่ยน  กับเมื่อปลายปีที่แล้วก็คิดว่าจะรับคนมาช่วย  เนื่องจากงาน เริ่มเยอะและกระจายหลายราย  ไม่กระจุกตัวแบบก่อนหน้านั้น  รวมทั้งมีงาน ในสายงานอื่นๆ เข้ามาอีก  ก็อยากมีคนมาช่วยภายใน  มากกว่าจะดีล กับฟรีแลนซ์  (ซึ่งก็มักมีปัญหาอยู่เนืองๆ)  แต่ก็เห็นเศรษฐกิจทำท่าไม่ดี และรอดูแนวทางของผู้บริหารประเทศหลังเลือกตั้ง  ซึ่งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะ ทำให้เศรษฐกิจโงหัวขึั้นได้ในเร็ววันนี้ แต่ทั้งสองครั้งก็กลับทำให้ดีในแง่ที่  การทำงานคล่องตัวมากกว่าในสภาพ แบบนี้  เหมือนซื้อมา-ขายไป  จะมีรายจ่ายเมื่อมีรายรับ  ถ้ามีพนักงาน หลายๆ คนในภาวะแบบนี้คงลำบากเหมือนกัน  รบแบบกองโจรไปก่อน น่าจะดีที่สุด   โดยส่วนตัวผมมองว่า  คราวนี้ปัญหาค่อยๆ มา  แต่หลากหลายปัจจัยมากกว่า ทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ง่ายๆ เหมือนกัน  เพียงแต่โชคดีที่ส่วนใหญ่เริ่มระวังตัว เพราะเคยมีประสบการณ์  และคราวนี้เราไม่ค่อยมีภาระหนี้(นอกประเทศ) แบบคราวที่แล้ว  ทำให้ภาพรวมน่าจะอดทนอยู่รอดได้มากกว่าและนานกว่า ซึ่งถ้าเป็นหนี้แบบคราวที่แล้วล่ะก็  ตายกันเพียบอีก ***************************** สวัสดีพี่pukkhom ที่เพิ่งมาด้วยครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 4 พ.ค. 51 09:21:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จาบอกว่า ของผมนะโดนก่อนเลยพี่  การค้าขายแบบผมนะครับ กระเทือนก่อนใครเพื่อนเลย  ถ้าราคาสินค้าปรับเนี้ย ไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้นครับมีผลทันที  แค่รัฐบาลประกาศ ราคาข้าวสารจะขึ้น ราคาน้ำตาลจะขึ้น ทันทีเลยครับรุ่งเช้าไปดูได้ ราคาสินค้าปรับตัวทันทีเลย แถมถ้าน้ำมันขึ้นก็โดนเลย แต่..........ทั้งนี้ทั้งนั้น โดนก่อนก็รู้ตัวก่อนครับ   เลยตายท้ายสุด ^0^   ปล. ลืมบอกไปข้อครับ  "หนี้ที่ไม่เสียดอก คือลาภอันประเสริฐด้วยครับ"  อ่ะโฮะๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 51 10:47:24 จากคุณ : axolot - [ 4 พ.ค. 51 10:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมขาย ปลีก ส่ง บรรจุภัณฑ์ ต้องมีส่งสินค้า  ตลอด ตอนนี้  ติดแก้ส  LPG ที่รถกระบะ ประหยัดไปเยอะ เครื่อง 1600 cc suzuki   อืดไปหน่อย ดีกว่าเปลือง ถ้าแก้ส LPG แพงอีกมาก ผมว่า จะเอาเกวียน เทียมวัว มาส่งของแล้ว ถ้าของน้อยก็ ใช้ม้าส่ง จากคุณ : handsumboy - [ 4 พ.ค. 51 11:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 16 handsumboy   ใช้ LPG เครื่องพังเร็วเพราะฝาสูบแห้ง  ยังๆๆก็เตรียมเงินไว้ยกเครื่องใหม่ด้วยนะจ๊ะ จากคุณ : axolot - [ 4 พ.ค. 51 11:38:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ Jimmy เราทำบริษัทไอทีน่ะค่ะ แต่พอดีว่าผู้ก่อตั้งทั้ง 4 คนมี background ด้าน Engineer มาก่อนทั้งหมด อาจเป็นเพราะจุดนี้ก็ได้ที่ทำให้ได้เปรียบ เพราะเราไม่ได้เป็นแค่คนไอที แต่เราเข้าใจ business ของลูกค้าด้วย (อันนี้เดาเอาเอง :P) เรื่องร่วมทุนคราวที่แล้วไม่ได้มาอัพเดท ขออภัยด้วย เพราะช่วงที่ผ่านมางานยุ่งมาก จนเพิ่งได้เข้ามาเคลียร์เมล์ หลังไม pm ตามเว็บบอร์ดต่างๆ ที่เป็นสมาชิก (เหมียวเพิ่งไปตอบกระทู้พี่อนาวิน หลังจากผ่านไปแล้วสิบกว่าวัน ไม่รู้พี่ต้นจะกลับมาอ่านหรือเปล่า ^^") ตกลงเป็นว่าเราร่วมมือกันในลักษณะ Partner ค่ะ คือ product ของทั้งสองฝ่ายนั้นเสริมกันและกัน ดังนั้นถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปเสนองานก็สามารถพ่วง product ของอีกฝ่ายไปด้วยได้ เพื่อทำให้ Solution นั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ปีที่แล้วเหมียวระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมาก อย่างที่บอกคือหลังรัฐประหาร ทุกโครงการชะลอหมด บริษัทก็ต้องรัดเข็มขัดกันสุดฤทธิ์ จะลงทุนทำอะไรเพิ่มก็คิดแล้วคิดอีก แทบจะหยุดไปหมด ผ่านพ้นมาได้แบบทุลักทุเล ขาดทุนไปเล็กน้อยยังไม่เจ็บมาก แต่ปีนี้สิคะ มันยั่วยวนใจเหลือเกิน เหมียวคิดว่าต้องระมัดระวังยิ่งกว่าปีที่แล้วอีก เพราะมันอาจเป็นเพียงภาพลวงตา ตอนนี้อะไรๆ ก็วิ่งเข้ามาหา ทำให้เราอยากขยายงาน อยากลงทุนเพิ่ม อยากจ้างคนเพิ่ม ฯลฯ แต่สิ่งที่เป็นอยู่มันจะยืนยาวสักแค่ไหน เพราะสภาวะตลาดโดยรวมยังไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นเราจะ balance ระหว่าง โอกาส ที่เกิดขึ้น กับแผนในระยะยาวยังไง เหมียวรู้สึกว่าที่ Q1 งานล้นมือ เพราะมันอั้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว พอเลือกตั้งเสร็จ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย Order ก็ไหลออกมา (แต่เป็น Order ใหม่ๆ นะ แปลกไหมละ โครงการปีที่แล้วที่เคยเสนอนั้น ไปแล้วไปลับไม่กลับมาเลยค่ะ :s) ธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานเป็นธุรกิจที่น่าสนใจอย่างแน่นอนค่ะ ความจริงเหมียวเคยคิดว่าตัวเองไม่น่าจะไปเกี่ยว (ก็แค่ IT?) แต่สุดท้ายตอนนี้ได้ไปเกี่ยวด้วยจริงๆ แฮะ เป็นโปรเจ็คของลูกค้ารายนึงซึ่งเค้า want เรื่องการจัดการพลังงาน การประหยัดพลังงาน โชคดีสมัยทำงานเป็น Engineer เหมียวกับทีมมีพื้นทางนี้อยู่บ้าง ก็เลยเติมเต็มส่วนนี้ให้ลูกค้าได้ หลังจากวันนี้เหมียวคงจะหายหัวไปอีกพักหนึ่ง (เรื่องอะไร.. ดูในกระทู้พี่อนาวินนะ ขอไม่เล่าซ้ำ :X) หวังว่าตอนกลับมา กระทู้นี้จะยังอยู่นะ อยากอ่านความเห็นเพื่อนๆ คนอื่นๆ อีกด้วยค่ะ ถ้ายังไงโหวตเก็บไว้ให้ด้วยนะคะ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 4 พ.ค. 51 14:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนตัวค้าขายทางเนตค่ะ  รายได้ดีขึ้น  เพราะฐานลูกค้าเก่า  ประกอบกับลูกค้าใหม่ให้ความเชื่อถือ  ว่าจ่ายเงินแล้วได้ของชัวร์ 555  เรื่องจ่ายเงินแล้วไม่ได้ของเนี่ยลูกค้าที่ซื้อผ่านเนตกลัวกันมากที่สุดค่ะ  พอเราขายมานานลูกค้าเลยเชื่อใจว่ายังไงก็ได้ของแน่ๆเลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องยอดขายค่ะ  มีปัญหาคือ  ขายตัดราคากันเองค่ะ -_-' หนักใจอะ  ตรงนี้แก้ไรไม่ได้ค่ะ  เพราะไม่ได้อยู่ที่ตัวเราแล้ว  อยู่ที่ตลาดด้วยค่ะ ส่วนกิจการของครอบครัว  ร้านเสื้อผ้าขายส่งไปได้เรื่อยๆค่ะ  ปกติบ้านเราประหยัด ไม่เที่ยว ไม่ฟุ่มเฟื่อยอยู่แล้ว  เลยอยู่ได้สบายๆค่ะ ส่วนคาร์แคร์เพิ่งปิดสิ้นเดือนเมษานี่เองค่ะ -_-' กำลังมองหาที่ใหม่ที่ค่าเช่าถูกกว่านี้จ้า  ตอนนี้เลยขายรายได้ส่วนนี้ไปเจ้า หนักใจตรงค่าผ่อนบ้านต่อเดือนเยอะพอควรค่ะ  ข้าเจ้าเลยเอาเงินที่ได้ส่วนตัวที่กำลังรุ่งไปโป๊ะให้มามี๊ด้วย @^ . ^@  ก็เลยเฉลี่ยๆกันไป  พอสู้ไหวค่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 4 พ.ค. 51 16:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นที่ปรึกษาทางด้านระบบไฟฟ้า  ตลอดจนปรับปรุงซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าครับ   แต่ตอนนี้ภาวะตลาดซบเซา  โรงงานที่จะจ้างเข้าไปซ่อมบำรุง   ก็เงียบหายไป   รึไม่ก็เช็คอืด  เช็คเด้ง แต่ก็ยังพอมีงานบ้างประปรายเจ้าเดิมที่คุ้นเคยกัน   พวกเกิดใหม่  น้อยมากตอนนี้ อยากให้เศรษฐกิจกระเตื้องสักที  เมื่อไหร่ท่านรัฐบาลจะเลิกทะเลาะกันสักทีครับ  เฮ้ออ. จากคุณ : ELEctric@me - [ 4 พ.ค. 51 16:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 พิมพ์ทำงานคล้ายๆ พี่จิมมี่เลยค่ะ แล้วสถานการณ์ก็คล้ายๆ กันด้วย พิมพ์ทำงานออกแบบและด้านการ์เมนท์ไปด้วยค่ะ ตอนนี้งานด้านออกแบบเข้ามาล้นมือมากมาย ได้ลูกค้าใหม่ๆ รายใหญ่ที่แฮปปี้กับเราอยู่ก็เลยได้งานเข้าเรื่อยๆ น่ะค่ะ จะมีติดขัดก็เรื่องเครดิตเก็บเงินลูกค้า นานเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้ก็ยิ่งเหนียวกว่าหนังสติ๊ก กว่าจะได้ก็แทบขาดใจ.... ตอนแรกก็ตั้งใจว่าหาพนักงานมาช่วยงาน แต่ก็ฺคิดเหมือนพี่จิมมี่ ว่าสถานการณ์ตอนนี้อาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับเรา แล้วทำคนเดียวก็คล่องตัวอยู่ เมื่อก่อนมีพนักงานก็รู้ึสึกว่าัยังช่วยเราไม่ได้มากเท่าไหร่ ยังมั่นใจไม่ได้แถมต้องเสียเวลาเราควบคุมคุณภาพงานด้วย ก็เลยยืดเวลาหาพนักงานไปก่อนน่ะค่ะ แถมตอนนี้ก็เพิ่งย้ายออฟฟิซจากทที่เดิม ยังหาที่ใหม่ไม่ได้ ก็ต้องเตรียมเงินอีกก้อนไว้เช่าออฟฟิซใหม่ด้วยในเร็ววันนี้ด้วย ด้านการ์เมนท์นี่หลังจากเหลือพิมพ์คนเดียวก็ไม่ค่อยมีเวลาไปลุยเรื่องเสื้อเท่าไหร่ แต่ก็ตั้งใจว่าจะกลับไปลุยแน่ๆ ให้เคลียร์ตัวเองได้ก่อน แต่ก็ยังหวาดๆ กับเศรษฐกิจอยู่นะคะ ไม่ค่อยมั่นใจว่าควรลงทุนอะไรตอนนี้ ยิ่งอ่านเยอะๆ ก็รู้สึกว่าช่วงนี้ควรเก็บเงินไว้อยู่กับตัวจะดีที่สุด  -__-'' มีอะไรแนะนำได้นะคะ พี่ JIMMY จากคุณ : monkeypim - [ 4 พ.ค. 51 18:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ทราบว่าพี่ สาวน้อยร้อยแปด   ต้องผ่าตัด ขอให้การผ่าตัดครั้งนี้ปลอดภัย  และหายเร็วๆนะค่ะ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 4 พ.ค. 51 23:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ธุรกิจวันนี้ความเสี่ยงสูง ต้อง"ปรับตัว และเปลี่ยนแปลง "( Change ) ครับ http://webhost.mots.go.th/kpr/asd/data/Change%20Management%20Overview.pdf จากคุณ : SEA - [ วันฉัตรมงคล 00:57:32 A:124.120.88.137 X: TicketID:107202 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีค่ะ พี่จิมมี่ ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมชมห้องนี้นานมากเลย เพิ่งมาเห็นกระทู้นี้ก็วันนี้เองค่ะ ธุรกิจบริการนำเข้าสินค้าหนังสือจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ ไม่ค่อยมีผลกระทบในตลาดโรงเรียนเท่าไหร่ เพราะยังไงครูก็ยังต้องใช้หนังสือกันอยู่ทุกปี แต่จะกระทบตลาดพ่อแม่ ผู้ปกครอง และลูกค้าทั่วไปมากกว่าค่ะ เพราะไม่ค่อยหาหนังสือต่างประเทศไปอ่านเล่นกันเท่าไหร่ แบบว่าขอเก็บเงินเอาไว้ใช้อย่างอื่นดีกว่า นอกจากนี้แล้วกระทบในเรื่องการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่า โดยเฉพาะค่าน้ำมัน ทำให้ต้องพยายามลดรายจ่ายในส่วนนี้ โดยการควบคุมต้นทุนของการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า โดยการวางแผนการจัดส่งให้ดี ถ้า freight forwarder เพิ่มค่าบริการ ก็จะส่งผลให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นค่ะ freight forwarder บ้างเจ้าในบางประเทศรู้จักกันนาน บริการดี ก็จะพยายามนำเข้าสินค้าให้เต็มตู้ก่อนลงเรือ เพื่อจะประหยัดต้นทุนการนำเข้าค่ะ ถ้าบางเจ้าบริการไม่ดีก็เปลี่ยนไปหารายที่ถูกกว่าค่ะ มีลูกค้าหลายรายถามว่า ค่าเงินเราแข็งขึ้นทำไมหนังสือนำเข้าราคาแพง จริงๆ แล้วมันแพงที่ต้นทุนค่าขนส่งมากกว่าค่ะ ก็ราคาน้ำมันดีเซลนี่ล่ะค่ะ ปีนี้จะถึง 40 บาทมั้ยน้อออ จากคุณ : ดอกไม้ในฤดูฝน - [ วันฉัตรมงคล 01:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 24 "กึ๋นบอร์ดสีลม" ถูกจุดขึ้นมาโดยคุณ JM. ดูเหมือน ท่านอื่น จะง่วนงุด กับธุรกิจ อันหนึ่งอันเดียว ที่ผ่านบททดสอบ รอด probation กันมาแล้ว แต่ตัวเองกำลังละล้า ละลัง ไข่เกิดขึ้นมาในหลายตะกร้า   ครั้นจะเท ทุกตะกร้า รวมเป็นใบเดียว . . . ก็เสี่ยงไม่อยาก เป็นจุดสนใจ " ความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน "  คตินี้ ทำให้บอลกลิ้งหลุนๆ เข้าโกล นิ่ง เฉียบขาดแต่มีเหตุผล . . . การอยู่รอดเติบโต เป็นแรงส่ง ให้ลูกค้าใหม่ๆ ตบเท้ามาเรื่อยๆทีละน้อย ทุกฝีก้าว มีคนจ้องมอง คุณอยู่ ทำดีไว้เถิด เกิดผลเสมอ ยั่งยืน . . . ด้วยเชื่อว่า ความมั่นคง " ไม่เคยอยู่นาน" ในตะกร้าใบเดียว กลยุทธ์ "ผูกหัวใจลูกค้า" แม้จ่ายมาก แต่พึงพอใจ รู้สึกเหมือนจ่ายน้อย จ่ายได้เรื่อยๆ ตัวใหม่ๆ ที่ออกมาเชิญชวน . . . ตอนนี้ โปรโมชั่น ที่เยอะๆ ถูกปรับเปลี่ยนเป็นการซื้อ " Unique Chance " เป็นราคา premium แต่ไม่ต่างจากเดิมมาก อยู่ที่ การจัดการ การโน้มน้าว ชักจูงการเกิดประโยชน์สูงสุด แก่ทั้งสอง Clients หัวใจ ของการ ทำตัวเงินให้เพิ่ม ในเวลาเท่าเดิม MIX and MATCH ลูกค้า ถูกนำมาใช้ แล้วก็ไม่รู้โชค หรือ ความใส่ใจ จังหวะ สถานการณ์ ที่ทำให้ ต้องรีบคิด รีบทำ แล้วช้อนกลับมาให้หมด อุปมา เหมือน หุ้นร่วง กลายเป็น หุ้น budget ที่ทำกำไร แบบโชคสองชั้น . .. ชั่วโมงบิน ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่พัฒนาตัวมันเอง เปลี่ยนมาใน ชัยภูมิที่เล็กลง และ รู้ไส้ รู้พุง รู้หัวใจ ของลูกค้า บริบทตลาด ทำให้ "เสน่ห์ของการเรียนการสอน" ยิ่งโดดเด่น   มุ่งไปที่ " Single Child " หรือ กลุ่ม " Unique Child " บางที ฟ้าส่งมา เราเชื่ออย่างนั้น กลายเป็น Lucky Mascott ของธุรกิจ . . . " อย่ามองเพียงส่วนเลวร้ายของเขา                      จนมองหาส่วนดี ที่คนอื่นมองไม่เห็น                      แล้วคุณจะกุมหัวใจ ชัยชนะได้ยืนนาน " Instinct แรกของธุรกิจ คือ การคิดบวก เชื่อว่าลูกค้าดีไว้ก่อน เป็นทั้งการตีกัน ไม่ให้เค้าทำเสียหาย กติกาการเงิน ที่ไม่ผ่อนปรน แข็งแต่ นุ่มนวล และ ปราณีในที ทั้งรัก ทั้งเกรง ลูกค้าไม่กล้าเฉย เมย ทำไม่จ่าย . . . ไม่เห็นด้วย ที่จะจับลูกค้า ที่เงินมาจากกระเป๋าเดียว ไว้สูบจนเกรียน ค่อยเป็นค่อยไป และ มีพัก ให้เค้าถามหา . . . เอง อย่าตะกละตะกลาม ตะกรุมตะกรุย จากวิธีเพิ่มยอดแบบเดิมๆ   มี Meeting ใหม่ๆ ให้ลูกค้ารู้สึกสำคัญ และเป็นคนควักกระเป๋า แบบ ไม่ต้องยัดเยียด  นอกจาก Program แรงส่งที่ทำให้ลูกค้า จ่ายแล้ว  สีสัน แรงแม่เหล็กของการ Mix and Match ลูกค้ากับ ลูกค้า ก็เป็นแรงส่งบวก . . . " จงเดินเข้าหาลูกค้า แล้วลูกค้าจะบอกมาว่า ธุรกิจจะอยู่รอดได้อย่างไร " ยุค Global ขาย product  ขายความมันส์ ของสินค้าคงไม่เพียงพอ แต่ความแตกต่างคือ เครือข่ายที่ที่อื่นไม่มีเหมือน . . . " จิ๋วแต่แจ๋วแอนด์เวิลด์วายด์ " คือ ความน่าทึ่งและแรงดึงดูดให้ มีลูกค้าใหม่ๆ เกิดขึ้นเรื่อยมา กล่าวได้ว่าฐานลูกค้า เราไม่ได้อยู่ แค่ในเมืองไทย ในกลุ่มคนไทย แต่มีทั้งต่างแดน ทุกทวีป ทั้งลูกครึ่ง ทั้งต่างชาติเต็มสูบ ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งวัยรุ่น การจำกัด  COST งัด ปรับ ประดิษฐ์ ครีเอท ต้นทุน ทรัพยากร ด้วยแรง มากกว่า เงิน สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยน คือ เวลา . . . ดังนั้น คนไม่มีเวลา ก็ต้องลงเงิน ซื้อ . . .ความสำเร็จ หากตีโจทย์หัวใจของธุรกิจ  คือ " win  win" ต้องรู้ว่า " WHAT CLIENTS WANT " " HOW CLIENTS WILL BE PLEASED " , THEN CASH WILL BE FLOWING IN REGULARLY. . . แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 51 02:07:43 จากคุณ : kuddle - [ วันฉัตรมงคล 01:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ทำงานแบบเอาของบ้านเราไปออกงานขายปลีกที่ต่างประเทศครับ เล่าที่อินเดียละกัน ไปมาเดือนเมษา เชนไน เดลลี ไฮเดอราบัด ร้อนสุดๆ ยอดตกมากๆ จากที่อินเดียขายยังไง ก็กำไร ปีนี้เล่นเอาจุกแต่ต้นปีเลยครับ คนอินเดียก็ยังไม่คิดว่าจะแย่ถึงขนาดนี้ ถามหลายคนตอบ ได้คำตอบหลากหลาย ทั้งน้ำมันแพง คนไม่อยากใช้เงินบ้าง ทั้งอากาศร้อนคนไม่อยากออกจากบ้านบ้าง (41 องศา) ทั้งเดือนนี้คนต้องจ่ายเยอะ ค่าเทอมลูก ค่าโน่นนี่ ทั้งติดดูคริ้กเกต ไม่ว่างไปซื้อของ ทั้งเศรษฐกิจอินเดียเริ่มทรงตัว ค่าเงินก็ได้น้อยลง ปี 49 100รูปี>85บาท ปี 50 100rs>80thb ปีนี้ 100rs เหลือแค่ 75 thb ก็หวังว่ากลางปี น่าจะดีขึ้นครับ ตอนนี้จะไปลองที่ญี่ปุ่นครับ หาข้อมูลอยู่ จากคุณ : Jino_base - [ วันฉัตรมงคล 02:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คร๊าบบบบบบบบบบบบบ จากคุณ : อนาวิน - [ วันฉัตรมงคล 10:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อวันเสาร์ได้มีโอกาสไปเดินร้านหนังสือในห้าง  เห็นยังมีคนเต็ม  คึกคัก คาดเอาว่า  ธุรกิจตลาดหนังสือยังไปได้  และคิดต่อจากที่เคยสังเกต จากพฤติกรรมการจับจ่ายของคนไทย(รวมทั้งเมื่อคราววิกฤติคราวที่แล้ว) ได้ข้อสรุปว่า  ตลาดบุคคลระดับกลางขึ้นไป  ที่แม้ข้าวของจะแพง แต่ก็ยังมีสตางค์พอจับจ่ายของฟุ่มเฟือยได้  กลุ่มธุรกิจที่ซัพพอร์ทลูกค้า กลุ่มนี้น่าจะยังไปได้  แม้เศรษฐกิจฟืด  แต่ยังจับจ่ายเหมือนเดิม ไม่สะเทือน ได้ยินว่ายอดจองรถหรู  ยังกระฉูดเหมือนเดิม  ใครที่ปรับไปหากลุ่มลูกค้า ประเภทนี้ได้  น่าจะมีอนาคต นอกจากนี้  ยังได้ไอเดียธุรกิจใหม่กลับมาจากร้านหนังสือด้วย  แต่ต้องขอ ศึกษาในหลายแง่มุมก่อน  บอกได้ว่าเกี่ยวกับการเติบโตของข้อมูลข่าวสาร ยุคนี้ไทยปรับเข้าสู่ยุคคลื่นลูกที่ 3 เต็มตัว  ใครมองกระแสออกก่อน  และ มีศักยภาพในการลงทุนทำได้  ก็น่าจะดีในอนาคต  ตามหลักข้อหนึ่งใน สองสามข้อของคุณตัน(โออิชิ) ทีว่า "ทำธุรกิจอนาคต"  ของผมแค่ปรับ เอาสิ่งที่มีสิ่งที่สนใจไปรวมกับกระแสที่กำลังมา  ก็น่าจะพอมีความเป็นไปได้ แต่คงต้องคิดหลายๆ มุมอีกที ขอบคุณหลายท่านที่เข้ามาร่วมแชร์ข้อมูล  ทั้งเพื่อนพ้อง น้อง และพี่ๆ ที่แวะเข้ามาทักทายกัน  น้องกุยแก  คุณELEctric@me  น้องพิม คุณรักนะแต่ไม่แสดงออก  เฮีย SEA คุณดอกไม้ในฤดูฝน  คุณkuddle คุณJino_base  และพี่อนาวิน เพิ่งทราบว่าคุณเหมียว(สาวน้อยร้อยแปด) ต้องผ่าตัด  อย่างไร ขอให้หาย เร็วๆ นะครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ วันฉัตรมงคล 11:05:25 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนตัวผมมองงี้นะครับ  เศรษฐกิจแบบนี้ การเมืองแบบนี้ ในความรู้สึกผมนะ การค้าขายแบบคนจีนโบราณมานได้ผลมากๆๆเลยนะ ได้ผลดีทีเดียวและไปได้เรื่อยๆๆ  แบบค่อยๆๆโตแต่ยั่งยืน ไม่เหมือนแนวคิดฝรั่งหรือคนยุคใหม่หลายๆๆคนที่วูบวาบ   โตไวตายเร็ว ส่วนตัวผมมองการค้าเหมือนต้นไม้   คือ ไม่มีไม้ใหญ่ที่คงทนต่อพายุดินฟ้าอากาศและ มั่นคงต้นใดหรอกครับที่เติบโตเร็ว มานต้องช้าๆๆค่อยๆๆเป็นไปแบบต่อเนื่อง     ไม้ที่โตช้าเนื้อย่อมแน่น  ประหนึ่งไม้สักต้องใข้เวลาเป็นร้อยๆปีที่จะเติบโต ทรงคุณค่าราคาไม่ต้องพูดถึง ฉันใดก็ฉันนั้น  ธุรกิจที่ดีต้องค่อยๆๆเติบโตแบบต่อเนื่อง ไม่ใช่พรวดพราด ไปเท่าที่ไปได้อย่าดันทุรังมาก   เพราะการทำธุรกิจการค้าต่างๆๆย่อมต้องอาศัยประสบการ์ณการผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร จึงจะมั่นคงพอ   หากธุรกิจเปรียบดั่งต้นไม้ ที่ต้องค่อยๆๆเติบโตแบบมั่นคง     เจ้าของกิจการผู้ประกอบการก็ประหนึ่งดั่งรูปเคารพบูชาแกะสลักจากหินอ่อน     หินอ่อนนั้นหากผ่านกะทุบการเจียรนัยน้อยก็เป็นได้แค่หินปูทางเดิน  หาใช่รูปเคารพไม่  แต่รูปเคารพนั้นจะต้องผ่านการตอกการทุบการเจียรการขัดการขูดต่างๆๆนาๆๆมากกว่าหินปูพื้นมากมายนัก  ประดุจดั่งคนหนึ่งคนถ้าจะเป็นรูปเคารพแก่ผู้อื่นซึ่งไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองย่อมต้องฝ่าฟันสิ่งต่างๆๆมากมายกว่าจะเป็นรูปเคารพได้       หวังว่าพอจะเป็นแง่คิดและกำลังใจให้แก่หลายๆๆคนได้นะครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 51 11:22:01 จากคุณ : axolot - [ วันฉัตรมงคล 11:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คุณเหมียว(สาวน้อยร้อยแปด)  ขอให้หายไวๆๆนะคร้าบบบบบ  ขอให้สุขภาพแข็งแรงในเร็ววัน จากคุณ : axolot - [ วันฉัตรมงคล 11:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบคุณ JIMMY  ครับ... ภาพรวม ของ  GARMENT  ในสายตาผมนะ ครับ   คงไม่บังอาจ ตอบแทนได้ ของทุกคนในวงการ  เพราะ ปีนี้ ในโบ๊เบ๊  บางคนร่วงไปแล้ว  แต่บางคน รุ่ง ขึ้นมา  เพราะ สินค้าเริ่ม ติดตลาด  ในบางพื้นที่  ของประเทศ...จากยอด ขายส่ง  ประมาณ  2000  ตัว ต่อวัน  กลายเป็น  14,000 ตัว  ต่อวัน..ในสายตาเขา ก็เลยดี....ในสายตา ผมว่า วงการนี้  ยังดี ครับ  ผมทำงานมาหลายธุรกิจ  บางตัวยังทำอยู่  บางตัวขาบกิจการไปแล้ว    แต่  ยังไม่เคยเจอ    ธุรกิจ  ที่อัตรา  ผลตอบแทนต่อเงิน ลงทุน   สูงเท่า วงการนี้ มาก่อน... GARMENT  ที่ร่วง ไป ผมว่าเกิด จาก การไม่ปรับตัวนะ ครับ สังเกตุดู ที่ปิดไป  เป็น พวกรับจ้าง ผลิต อย่างเดียว  ไม่มี แบรนด์ ของตัวเอง...ต้นทุนปัจจัยหลักคือ  แรงงาน  ค่าแรงแพง หรือขาดแรงงาน  ก็ จบ.หรือลูกค้าย้ายฐานการผลิต  ก็..ต้องย้ายไปหรือเลิกเลย...แต่บางโรงงาน  มี แบรนด์  ของตัวเอง  แต่จับตลาดล่าง  กำไร ต่อ หน่วย ต่ำ  มีการเปลี่ยน แปลง ของต้นทุน แรงงาน หรือวัตถุดิบ  ก็กระทบ   ทำให้ไม่คุ้ม  การทำงาน  ...ก็เลิกไป    แต่บางที่  ทำตลาดล่าง วันนี้ ดี  สินค้า ติดตลาด...ขยายโรงงาน ...แต่ไม่เผื่อ ทางถอย   วันที่  สินค้าเลิก  ติดตลาด  ตามธรรมชาติ  ของแฟชั่น....ก็  รอนับวัน  จบเหมือนกัน....หรือ  ไปแข่งด้านราคา  กับจีน   แทนที่จะ  แข่งด้าน  รูปแบบ   หรือช่องทางการกระจาย  สินค้า....คงทราบอยู่แล้ว  ว่าใครจะชนะ.... สรุป  ผมว่า  วงการนี้  ขึ้นกับ มุมมอง และวิสัยทัศน์  ของผู้นำองค์กรนะครับ...ว่าจะปรับตัวรองรับ  อะไรที่จะเกิด  ขึ้น  ในอนาคต   มีการวางแผนธุรกิจ  ล่วงหน้า อย่างน้อย  6เดือน  หรือจะให้ดี   1  ปี  ล่วงหน้า  และต้องเป็นแผนที่ยืดหยุ่น  ได้ด้วย....จึงจะอยู่รอด ครับ... จากคุณ : HEN-MAN - [ วันฉัตรมงคล 12:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 งาน Design Vectorizing ยอด Orderจากลูกค้าต่างประเทศ ถือว่า Ok พอๆกับปีที่แล้ว แต่กำไรอาจจะลดลงบ้างเพราะค่าเงินบาท แต่ไม่มากเท่าไหร่นัก จากคุณ : 155199 - [ วันฉัตรมงคล 15:20:00 A:203.209.102.69 X: TicketID:155199 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จากที่ดู ๆ กำลังซื้อตกมาก   ส่วนกิจการของเรานั้น ร้านเสื้อผ้าและร้านน้ำเลิกไปได้ 3 เดือนแล้ว  คนควักเงินยากมาก สต็อกอยู่เต็มบ้าน  กำลังจะทยอยแบ่งขายในเน็ต   เมื่อวานไปเซนเตอร์พอยท์ + โบนันซ่ามา ซบเซาอย่างรุนแรง และมีการปรับเปลี่ยนร้านค้าพอสมควร ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ กลัวมาก ๆ เลย โชคดีที่ได้งานในองค์กรรัฐ เป็นการประกันความเสี่ยง  และอยู่ใกล้บ้านมาก คงจะทำควบคู่ไปกับขายของทางเน็ต อยากสมัครงานบริษัทใหญ่ เงินเดือนดี ๆ อยู่ แต่จากบริษัทเก่าระดับมหาชนที่มีการปลดคนมากมายยังหลอนอยู่  เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ตอนนี้พยายามเซฟตัวเองให้มากที่สุด กลัวเป็นภาระของที่บ้านและตกงาน เวลานี้บ้านที่ผ่อนดอกเบี้ยโหดร้ายมาก ๆ พยายามโปะให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จากคุณ : น้องหนูสะดิ้งน้อย - [ วันฉัตรมงคล 15:35:14 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ทำอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปเล็กๆ เจ้าของจัดการเอง ข้าวเปลือกนาปี ราคาผันผวน โรงสีไม่ยอมสีข้าว ขายข้าวสาร เพราะคำนวณต้นทุนไม่ได้ ราคาข้าวเปลือกไม่นิ่ง ได้แต่ซื้อเก็บสต็อคข้าวเปลือก เพื่อขายข้าวเปลือกต่อ การซื้อข้าวเปลือกระหว่างโรงสี ช่วงราคาขึ้นนั้นต้องจ่ายเงินให้ครบก่อนเพราะของมีจำกัด ข้าวเกษตรกรรายย่อยมีน้อยมาก ราคาที่สูงขึ้นถึงมือเกษตรกร ถ้าขายโดยกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์ที่เก็บสต็อกข้าว จนถึง วันที่มีข่าวรัฐจะเอาข้าวสารในคลัง2.1ล้านตันอกมาขายถูก ช่วยผู้บริโภค ราคาข้าวเปลือกนาปีตกทันที รายใหญ่โหมข่าว ทุบราคา รายเล็กเทขายหนีตาย ที่ยังลังเลก็หยุดซื้อเพิ่ม ค่อยๆระบายสต็อกลดความเสี่ยง คำสัมภาษณ์ ของรมต.พาณิชย์ .มีผลทางจิตวิทยามากต้องระมัดระวัง การดำเนินการภาครัฐที่โลเล เช่นจะเอาข้าวสารในคลังออกมา แล้วยกเลิกในช่วงแรก สื่อให้เห็นถึงอำนาจและความสัมพันธ ์ของธุรกิจรายใหญ่กับนักการเมืองที่บิดเบือนตลาดได ้วิเคราะห์ได้ว่ามีรายใหญ่ปั่นราคาข้าวจริง เกิดผลกระทบ ไปทั่ว วงการโรงสีถูกจับตามองเป็นพิเศษจากธนาคารเพราะมีกรณี ีฉ้อโกงรายใหญ่ทำให้เสียหายทั้งวงการ จากคุณ : วิศวกรออกมาทำธุรกิจ ([killer]...hehe) - [ วันฉัตรมงคล 19:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ทำธุรกิจตกแต่งพื้น ยังพอมีงานต่อเนื่องตลอดทุกวันสำหรับทีมงาน แต่การเงินได้ค่อนข้างช้า ก็ยังไปได้ เพิ่งออกงานสถาปนิก51 คนเดินบางตา แต่เท่าที่ได้คุยก็ยังพอมีงานต่อเนื่องให้เราได้อยู่เรื่อยๆ แต่ใม่ใหญ่มากนัก พอเลื้ยงคนงานกันไป แบบพอเพียง//:smile จากคุณ : แกงเขียวหวานหมู - [ วันฉัตรมงคล 22:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สวัสดีครับพี่ๆ ทุกคน ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยนะครับว่ารู้สึกดีใจที่ได้เห็นและได้อ่านกระทู้ในลักษณะนี้อีกในห้องสีลมหลักจากที่รู้สึกว่ามันจะห่างหายกันไปนาน ต้องขอขอบคุณพี่จิมมี่ ที่มาตั้งกระทู้นี้นะครับ *********************************************** ต้องขอโทษด้วยครับพี่จิมมี่ที่มาตอบช้าไป พอดีมีเรื่องวุ่นๆนิดหน่อยนะครับ เข้าเรื่องเลยดีกว่า สำหรับธุรกิจของผมนั้นก็เป็นธุรกิจบริการ ที่มีการแข่งขันกันสูง อีกทั้งยังหาจุดที่จะสร้างความแตกต่างได้ยาก ทำให้ในวงการของผมจึงหันมาตัดราคากันเอง และก็เป็นจุดเริ่มต้น ของความยากลำบากในการทำธุรกิจนี้ เพราะหากเป็นรายที่อยู่ระดับกลางๆ ค่อนไปทางบน ก็จะมีชื่อเสียงพอสมควร กลุ่มนี้เขาก็จะสามารถ ที่จะเรียกราคาได้สูงโดยที่ไม่จำเป็นต้องง้อลูกค้าเพราะเขามีชื่อเสียงรับประกันผลงาน แต่สำหรับผมเป็นประเภทที่จะบนก็ไม่บน จะล่างก็ไม่ใช่ การหาลูกค้าจึงลำบากอยู่พอสมควร เพราะกลุ่มลูกค้าของเราจะเป็นประเภทธุรกิจ เอส เอ็ม อี เป็นส่วนมาก แพงก็ไม่ได้ ถูกก็ไม่คุ้ม อีกประการที่ทำให้การทำธุรกิจของผมประสบปัญหาก็เพราะเมื่อตอนเริ่มต้น ผมคิดเอาเองว่า มันเป็นอะไรที่ง่ายๆ โดยยังไม่ได้ศึกษาให้ดี + ขาด คอนเนกชั่น ที่มากพอ ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุน ให้ธุรกิจไปได้ ถึงจะมีความสามารถ แต่ก็ขาด โอกาส และสนามให้ลง แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่าน ผมก็ปรับปรุง เสริมสร้างธุรกิจของผมอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เข้มแข็งขึ้น ก็ถือว่าเป็นโชคที่ธุรกิจของผมมีต้นทุน ที่ไม่สูงไปนัก เพราะเราเป็นงานบริการ (ทุนของเราจะอยู่ที่คน องค์ความรู้ และความคิด ซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญ) จึงพอที่จะประคองตัว ให้ผ่านช่วงระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเมือง ที่ยังไม่ชัดเจนนี้ไปได้ไม่ยาก (ถึงจะหาลูกค้าได้ยากก็ตาม ^_^) ยังรอฟังประสบการณ์ดีๆ จากพี่ๆ ทุกคนอยู่นะครับ เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากๆ นะ *********************************************** ปล. สำหรับที่ว่าทำไมผมใช้ชื่อ กุยแก ด้วยนั้น  ไว้ผมจะมาไขข้อข้องใจอีกครั้งนะครับพี่ ตอนนี้ง่วงเต็มทีแล้วครับ จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 6 พ.ค. 51 01:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกคน ดีใจที่ได้เข้ามาอีกครั้ง และได้อ่านกระทู้ในลักษณะอย่างนี้อีกถึงแม้จะไม่ค่อยได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นบ่อยครั้งนัก ตอนนี้ค่อยข้างยุ่ง ก่อนอื่น สวัสดีพี่จิมมี่ และท่านพี่อื่นๆ ตอนนี้ธุรกิจแอมก็เรื่อยๆ ค่ะผันแปรตามสภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจอันที่สอง ธุรกิจที่จับก็กำลังเตรียมตัววางแผนการจัดการอยู่ค่ะ เกี่ยวกับ business online ยังไงออนไลน์มาคุยกันนะคะ ตามหาพี่เอกด้วยค่ะ ถ้าได้เห็นกระทู้นี้ช่วยกรุณาติดต่อน้องแอมด้วยนะคะ คิดถึง ส่งความคิดถึงผ่านหน้าพันธุ์ทิพ ขอให้คุณสาวน้อยหายไวๆ ด้วย ต้องขอขอบคุณพี่จิมมี่ ที่มาตั้งกระทู้นี้ ค่ะ จากคุณ : sasa_ann (samhow BFC) - [ 6 พ.ค. 51 05:59:00 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ยาวววว จะติดต่อยังไงล่ะน้องแอมมมมม จากคุณ : MiraSport - [ 6 พ.ค. 51 07:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ก่อนอื่น  สวัสดียามเช้านะครับ  ทุกท่าน ตอนนี้เริ่มมีหลากหลายธุรกิจมาแชร์ประสบการณ์ในแวดวงของตนมากขึ้น ทำให้ทุกคนคงจะได้เห็นภาพรวมของตลาดและเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปปรับแผนธุรกิจได้ไม่มากก็น้อย axilot นี่  เดี๋ยวนี้ชักคมขึ้นทุกวันจริงๆ ขอบคุณ คุณHEN-MAN ที่มาเล่าต่อ ทำให้เข้าใจภาพเบื้องลึกวงการนี้ ได้มากทีเดียวครับ คุณ155199 มีข้อมูลวงการ Design Vectorizing และการดีลงานกับตปท. มาฝาก  ขอบคุณมากครับ คุณแอ้(น้องหนูสะดิ้งน้อย)  สบายดีนะครับ  ถ้าทำโครงการ "หนังสือดีสีลม" โครงการสอง  จะรีบติดต่อไปนะครับ  เผื่อมีข้อมูลแหล่งบริจาคให้ได้อีก นี่ก็อีกท่านครับ  คุณวิศวกรออกมาทำธุรกิจ ([killer]...hehe) ขอบคุณสำหรับเบื้องลึกวงการข้าว  ผมมองจากวงนอกก็ว่าดูทะ:-)ๆ อยู่ เหมือนกันครับ  เรื่องราคาข้าวนี้  เกี่ยวโยงพัวพัน  ไม่รู้ใครได้ผลประโยชน์ คุณแกงเขียวหวานหมู  ไม่ทราบปีนี้งานสถาปนิก  งบแต่งบูธของรายใหญ่ๆ เป็นอย่างไรบ้างครับ  ปีที่แล้วผมมีโอกาสไปเดิน  ก็ยังว่าลงทุนกันพอสมควร ขนาดคนในวงการเขาว่าลดงบตกแต่งจากปี 49 ลงมาแล้วนะนี่ สวัสดี ACM  ที่มาร่วมเล่นแชร์ เอ๊ยแชร์ข้อมูล  แม้จะช้าหน่อย และเพิ่งรู้นะเนี่ยว่า Gua Jia คือ กุยแก  แสดงว่ากำลังมองหาโจโฉอยู่ล่ะซิเนี่ย น้องแอน samhow BFC  นี่ขนทรัพย์สินไปทำธุรกิจถึงเมืองออสซี่เลยหรือ เนี่ย  อีกเดือนสองเดือน  น้องชายพี่จะไปเรียนต่อเหมือนกัน  อยู่เมืองไรหว่า เผื่อฝากดูน้องชายด้วย  555 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 6 พ.ค. 51 07:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อ้าว  ตาเอก  เพิ่งมาพอดี จากคุณ : Jimmy Walker - [ 6 พ.ค. 51 07:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ร้านขายเครื่องเขียน ยอดตก ลงไปครึ่งหนึ่งเลยค่ะ  รอดูหลังวันที่ 15 นี้ค่ะ  เพราะเด็กนักเรียนเปิดเทอมค่ะ จากคุณ : คำเภา - [ 6 พ.ค. 51 08:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ก่อนเกิดศึกที่กัวต๋อกุยแกได้วิเคราะห์สภาพการต่างๆเกี่ยวกับทางฝ่ายอ้วนเสี้ยวและได้ เปรียบเทียบอ้วนเสี้ยวกับโจโฉโดย โจโฉชนะอ้วนเสี้ยวถึง 10 ประการ          " ท่านชนะสิบประการนั้นคือ ท่านมิได้ถือตัว ถึงกระทำการสิ่งใด ถ้าผู้น้อยจะขัดท่านว่าผิดแลชอบ ท่านก็เห็นด้วยประการหนึ่ง น้ำใจท่านโอบอ้อมอารีต่อคนทั้งวง แล้วจะทำการสิ่งใดก็ถือเอารับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้เป็นประมาณ คนทั้งหลายก็ยินดีด้วย ประการหนึ่ง ท่านจะว่ากล่าวสิ่งใดก็สิทธิ์ขาดมีสง่า คนทั้งปวงยำเกรงเป็นอันมากประการหนึ่ง ท่านใจสัตย์ซื่อเลี้ยงทหารโดยยุติธรรม ญาติพี่น้อง ผิดก็ว่ากล่าวมิเข้าด้วยผู้ผิด ประการหนึ่ง ท่านจะคิดทำการส่งใดเห็นเป็นความชอบก็ตั้งใจทำไปจนสำเร็จประการหนึ่ง ท่านจะรักผู้ใดก็รักโดยสุจริตมิได้ล่อลวงประการหนึ่ง ท่านเลี้ยงคนซึ่งอยู่ใกล้กับอยู่ไกล ถ้าดีแล้วเลี้ยงเสมอกันประการหนึ่ง ท่านจะทำการสิ่งใดก็ทำตามขนบธรรมเนียมโบราณประการหนึ่ง ท่านชำนาญกลสงคราม ถึงกำลังข้าศึกมากกว่าท่านก็คิดเอาชนะ ได้สิบประการ          ฝ่ายอ้วนเสี้ยวจะแพ้ท่านสิบประการนั้นคือ อ้วนเสี้ยวเป็นคนถืออิสริยยศ มิได้เอาความคิดผู้ใดประการหนึ่ง อ้วนเสี้ยวเป็นคนหยาบเข้าทำการ โดยโวหารประการหนึ่ง อ้วนเสี้ยวจะว่ากิจการสิ่งใดมิได้สิทธิขาดประการหนึ่ง อ้วนเสี้ยวเห็นแก่ญาติพี่น้องของตัว มิได้ว่ากล่าวตามผิด และชอบประการหนึ่ง อ้วนเสี้ยวจะคิดการสิ่งใดมักกลับเอาดีเป็นร้าย เอาร้ายเป็นดี มิได้เชื่อใจของตัวประการหนึ่ง อ้วนเสี้ยวจะเลี้ยงผู้ใด มิได้ปกติ ต่อหน้าว่ารัก ลับหลังว่าชังประการหนึ่ง อ้วนเสี้ยวมักรักคนชิดซึ่งประสมประสาน ผู้ใดห่างเหินถึงซื่อสัตย์ก็มีใจชังประการหนึ่ง อ้วนเสี้ยวกระทำความผิดต่าง ๆ เพราะฟังคำยุยงประการหนึ่ง อ้วนเสี้ยวจะทำการสิ่งใดเอาแต่อำเภอใจ มิได้ทำตามอย่างธรรมเนียม โบราณประการหนึ่ง อ้วนเสี้ยวมิได้รู้กลศึก แต่มักพอใจทำการศึกล่อลวง จะชนะก็ไม่รู้จะแพ้ก็ไม่รู้ เป็นสิบประการ"          คำกล่าวของกุยแกนี้นับว่าฟังดีแท้ ซึ่งแสดงถึงลักษณะนิสัยของโจโฉและอ้วนเสี้ยวอย่างเห็นได้ชัด และหลังจากนี้โจโฉก็กรีฑาทัพขึ้นเหนือ เพื่อรบกับอ้วนเสี้ยว ในเวลาต่อมา กลายเป็นศึกที่ยิ่งใหญ่อีกศึกในประวัติศาสตร์สามก๊ก เรียกว่า ยุทธการกัวต๋อ ************************************ เป็นยังไงกันบ้างครับ เห็นอะไรบ้างหรือเปล่า จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 6 พ.ค. 51 10:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 42 axilot นี่  เดี๋ยวนี้ชักคมขึ้นทุกวันจริงๆ พี่เขียนชื่อหนูผิดอ่า >*<  เค้าชื่อ axolot อ่ะฮือๆๆๆ   ดีๆๆตาเอกพอสาวๆๆมาก็มาเลยนะ   แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 51 10:39:51 จากคุณ : axolot - [ 6 พ.ค. 51 10:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 43 น้องใหม่ในห้องครับ เป็นโรงงานแปรรูปสินค้าทางการเกษตรครับ ส่งออก 80% ค่าเงินบาทแข็งกระทบบ้างแต่ไม่มาก ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นมาก และคิดว่ายังคงสูงต่อเนื่องจนสิ้นปี ขายของยากขึ้นเรื่อยๆเพราะโรงงานที่ไปผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปก็อยู่ไม่ไหว วันก่อนไปกวางตุ้ง ลูกค้าบอกว่า โรงงานที่กวางตุ้ง ปิดไปตั้งแต่ตรุษจีนเกือบ 1000 แห่ง รวมๆก็กว่า2000แห่ง ตั้งแต่ต้นปี โชคดีโรงงานที่ส่งอยู่ยังไม่โดนปิด สาเหตุหลักๆ ก็เงินหยวนแข็ง แรงงานอยู่ไม่ได้เพราะค่าครองชีพสูง ย้ายฐานไปเวียดนาม อเมริกาไม่ซื้อ คิดว่าผลต่อเนื่องจะมากระทบกับไทยประมาณครึ่งหลังของปี แต่คงไม่มาก ปัญหาหนักอกตอนนี้ก็คงเรื่อง ค่าขนส่ง ค่าเคมี กับค่าแรงที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก จากคุณ : Park Meadow (Park Meadow) - [ 6 พ.ค. 51 10:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 44 Gua Jia (ACM)  รู้เค้ารู้เรา รบ100ครั้งชนะร้อยครั้ง  กุยแกจัดว่าเป็น1ในสุดยอดนักวิเคราะห์ที่มองทุกมุมได้อย่างครบถ้วน มีวาธะศิลปในการพูดจา ให้กำลังใจส่งเสริมผู้เป็นนายได้ดี ถามว่าโจโฉมีจุดบกพร่องไหม มีแน่นอนแต่กุยแกเลือกที่จะดึงจุดดีมาพูดเพื่อขวัญกำลังใจ ชี้ให้เห็นในข้อได้เปรียบเสียเปรียบอย่างชัดเจน แต่ดึงข้อได้เปรียบมาพูดเป็นหลัก  กุยแกแม้จะอายุน้อยแต่ก็น้อยเพียงแค่อายุ ปัญญาหามิได้น้อยตาม จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กุยแกโด่งดัง     หนึ่งในการรบตามหลักของสามก๊กนั้นหากเปรียบดั่งหลักธุรกิจในปัจจุบัน ก็เปรียบได้ดั่งว่า  ผลของสงครามออกมาตั้งแต่ยังไม่รบ  เหมือนเราเอาแผนธุรกิจหรือกิจการที่เราจะทำไปคุยกับผู้ใหญ่มากประสบการ์ณ  แค่เราเกรินคุยในการที่เราจะลงทุนทำ  ท่านก็เห็นแล้วว่าธุรกิจนี้จะไปรอดหรือจะไม่รอด   ฉันใดก็ฉันนั้นเพียงแค่โจโฉคิดที่จะรบกับตระกูลอ้วน  กุยแกก็เล็งเห็นแล้วว่าการรบครั้งนี้ได้มากกว่าเสีย และอธิบายได้อย่างชัดแจ้งว่าได้ ได้เพราะอะไร  แต่ไม่กล่าวถึงเสียเลยว่าจะเสียอะไร เพราะประการหนึ่งคนจะออกไปรบ ขวัญและกำลังใจสำคัญที่สุด  ถึงโจโฉ ฟังว่าเสียอะไรแต่ไม่หวั่นไหว  แต่คนรอบข้างโจโฉ ก็ใช่ว่าจะหนักแน่นเท่าตัวโจโฉเอง   เกิดวิกลจริตดึงเสียมาคิดมากกว่าได้  การรบพุ่งก็ทำได้เต็มมือไม่  ฉะนั้นแล้วผมจึงมองว่ากุยแกมองสิ่งใดก็รอบคอบไม่ได้มองแต่ตัวนายที่เค้าให้คำปรึกษา แต่มองถึงคนรอบข้างนายด้วยที่จะต้องออกไปทำการรบในแนวหน้าแทนตัวนาย             ผมวิเคราะห์ตามที่สติปัญญาพอจะมีนะครับ  ผิดถูกตามแต่คนจะมอง   "อุปมาดั่งนกน้อยในเมฆา หรือจะกล้าบินสูงเท่าหยี่ยวได้ " แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 51 11:13:21 จากคุณ : axolot - [ 6 พ.ค. 51 11:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เป็นยังไงกันบ้างครับ เห็นอะไรบ้างหรือเปล่า จากคุณ : Gua Jia (ACM) เห็นว่ากุยแกก็ยอนายเป็น 555 ว่าแล้วก็วิ่งเปิด  ไปดีกว่า  ฟิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววว จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 6 พ.ค. 51 11:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อิอิอิอิ จากคุณ : axolot - [ 6 พ.ค. 51 11:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอเป็นน้องใหม่ในห้องนี่นะครับ อยู่แต่รัชดา กับ สนามบอล มานาน เพิ่งเริ่มทำธุรกิจครับ กับโรงฉีดพลาสติกเล็กๆ แย่มา 3 เดือนแล้วครับ แต่ก็ยังดี ที่มีคนรู้จักในแวดวง ปล่อยงานให้บ้าง พออยู่ได้ แต่ เดือน 7 ต้องลุ้นอีกรอบ เพราะ Model ที่ผลิตอยู่จบพอดี เฮ้อ ขอให้ได้แล้วกัน เอาใจช่วยกันทุกคนนะครับ สู้ต่อไป จากคุณ : เบ เบ (hakkai) - [ 6 พ.ค. 51 12:47:47 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาอ่านและขอบคุณกระทู้ที่ดี และมีประโยชน์ค่ะ ส่วนตัวเปิดร้านมือถือ(เล็กๆค่ะ) มีสินค้าในร้าน ที่ลูกค้าจำเป็นต้องใช้เกี่ยวกับมือถือ แต่ไม่สต๊อคเยอะ เนื่องจากเคยสั่งของที่ละมากๆแล้วเจอช่วงเศรษฐกิจฝืด ทำให้หมุนเงินสดไม่ทัน ตอนนี้เลยปรับเปลี่ยนเป็นการรับ order จากลูกค้าแทน "ใครใคร่ซื้อขอให้สั่ง" เป็นหลัก แต่ก็ยังคงสินค้าที่จำเป็นไว้อยู่ เพื่อเก็บเงินสดไว้กับตัวให้มากที่สุดเช่นกัน แต่ยอดขายที่ทำให้ชื่นใจก็คือการเติมเงินออนไลน์ เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร คนเราก็ต้องใช้โทรศัพท์ทั้งสิ้น เพียงแต่ยอดอาจตกนิดหน่อยตามกระแส แต่ก็ยังอยู่ได้ วางแผนไว้ว่าปีหน้าอาจเพิ่มสินค้าในร้านให้หลากหลายมากขึ้น แต่ก็ต้องขอดูเศรษฐกิจช่วงหลังนี้อีกซักระยะก่อนตัดสินใจ ......... เอาใจช่วยทุกท่านที่ทำงานและประกอบธุรกิจนะคะ สู้ๆๆๆๆ  และยิ้มเข้าไว้ :)) ปล.ขอให้คุณสาวน้อยฯหายดีเป็นปกติเหมือนเดิมค่ะ จากคุณ : สู้ต่อไป..ไอ้มดแดง (mpl2004) - [ 6 พ.ค. 51 13:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 5555++ จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 6 พ.ค. 51 13:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 50 หากอ้วนเสี้ยวเป็นเจ้าของกิจการแล้วมีข้อเสียต่างๆ ดังที่ได้กล่าวเอาไว้ พี่ๆ คิดว่ากิจการของอ้วนเสี้ยวจะเป็นเช่นไร ทั้งๆที่มีความพร้อมในทุกด้านของการทำธุรกิจ เรียกได้ว่าความสำเร็จอยู่แค่เอื้อมเท่านั้นก็ว่าได้ แล้วข้อเสียข้อไหนอันตราย หากผู้ประกอบการเป็นเช่นนั้น จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 6 พ.ค. 51 15:08:07 ]

ความคิดเห็นที่ 51 วันนี้แต่ละท่านค้าขายเป้นอย่างไรกันบ้างครับ  หยุดยาวๆๆติดๆๆกันนานๆๆเนี้ยค้าขายแย่ไปเลยครับ คนเงียบมากเหมือนถนนร้างเลย  อากาศก้ร้อน คนก็หาย ค้าขายก็เงียบ  ง่วงก็ง่วง   ผมมองว่าบ้านเราหยุดกันถี่มากๆๆเลยนะครับ มากซะจนเศรษฐกิจชะงัก จากคุณ : axolot - [ 6 พ.ค. 51 15:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อยากตอบอ่ะแต่กลัวกระทู้ล่ม   ^ ^' เท่าที่อ่านมา10ประการนี้  อ้วนเสี้ยวจะกลายเป็น ผู้คิดค้นทางแก้แก่สังคมในสภาวะข้าวยากหมากแพง   หมูแพงก็กินไก่  ข้าวแพงก็กินกับเยอะๆๆแทน   ไปละตรู...... ชะแว๊บ..........................   หนูมะรู้ หมูเมาแป๋บซี่ใส่อีโน แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 51 15:24:44 จากคุณ : axolot - [ 6 พ.ค. 51 15:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 53 555++ จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 6 พ.ค. 51 15:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีครับพี่ๆทุกคน ส่วนมากจะอ่านไม่ค่อยจะได้แสดงความคิดเห็น วันนี้ขอหน่อยล่ะกัน ผมทำธุรกิจเดียวกับพี่ Jiang wei  ครับ ก็มีปัญหาเรื่องต้นทุนเช่นกันครับ และก็มีเรื่องหนี้สินที่ไม่ได้ก่อด้วยตัวเองแต่เป็นคนอื่นก่อไว้ ต้องไปตามใช้ให้ เลยทำให้ยิ่งหนักอะครับ เซ็ง  เอ... พี่ Jiang wei ครับ ขอสมัครเป็น member ใน cluster เดียวกับพี่ได้ไหมครับ  แฮ่ะๆๆ จากคุณ : TOITU - [ 6 พ.ค. 51 15:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่ว่าคนทำงานทั่วไป  หรือคนเป็นกุนซือ  ต้องรู้จักเลือกนาย  เพียงแต่ว่า คนที่รอบรู้เช่น กุยแก  ย่อมอ่านคนลึกซึ้งกว่าคนทั่วไปเป็นธรรมดา อ้วนเสี้ยว  ชวนกุยแกอยู่ด้วย  แต่กุยแกไม่อยู่  มาอยู่กับโจโฉ  ทั้งๆ ที่ ตอนนั้นโจโฉยังไม่มีอะไรนัก  ย่อมเห็นแล้วว่ากุยแกมีสายตาแหลมคมนัก แต่เรื่องชมต่อหน้าก็อาจเป็นได้ที่  หวังเยินยอให้หึกเหิมก่อนตีอ้วนเสี้ยว แถมได้เอาใจนายไปด้วย  ฉลาดจริงๆ ว่าแต่เกียงอุย(Jiang wei) หายไปไหน  มิมาร่วมสนทนา  แถมมีน้องมาฝาก ตัวอีกด้วย  ฉะนั้นจงรีบมาโดยไว เอากลยุทธ์เบื้องต้นหมากล้อมมาฝาก งานด่วนมาก่อนงานใหญ่  พยายามให้ได้มือนำแล้วรีบไปวางหมากพื้นที่ใหญ่ หมายถึงพึงรักษาที่มั่นอันสำคัญของตนเอาไว้  แม้จะเป็นพื้นที่เล็ก  แต่เมื่อ มั่นใจว่ามั่นคงแล้ว  รีบหาเวลาไปปูพื้นฐานในพื้นที่ใหญ่ๆ ที่เราอาจจะ สามารถครอบครองได้ ตอนนี้ใครประเมินสถานการณ์อนาคตของตนเองไม่ค่อยดีนัก  ก็ต้องทำ สองอย่างควบคู่กันไป  คือ รักษาที่มั่นและมองหา blue ocean ไปด้วยครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 6 พ.ค. 51 16:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ... จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 6 พ.ค. 51 16:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ประวัติคร่าวๆของกุยแก ชื่อ - กุยแก ฟ่งเซี่ยว เกิด - 1900กว่าปีที่แล้ว ทำงาน - ก่อนหน้าเป็นกุนซือของอ้วนเสี้ยว  มาอยู่กับโจโฉตอนอายุ27ปี  ตายเมื่อ38ปี  ในตำแหน่งเสนาธิการทหารสูงสุด สาเหตุการตาย - คาดว่าวัณโรค บุตร - มีบุตรชายชื่อ.....ช่างมันเหอะจำไม่ได้ละ  แต่มีบุตรแสดงว่าไม่ได้เป็นเกย์ชัวร์ อื่นๆ - พิสดาร4แห่งแปดพิสดารในหงสาจอมราชันย์  เป็นกุนซือด้านมืดคู่ขา เอ้ย คู่หูกับซุนฮกกุนซือด้านสว่าง (อันนี้เริ่มมั่วละ) จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 6 พ.ค. 51 17:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ข้าขอคารวะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 6 พ.ค. 51 17:14:03 ]

ความคิดเห็นที่ 59 กระทู้กลายพันธุ์ อุอุ...ก่อนอื่นขอคุยต่อพี่ jimmy ความเห็นต้นๆก่อนครับ ใช่แล้วครับ ลูกค้ารายใหญ่บางรายเจาะมาหลายปี ปัจจุบันเป็นผลจากอดีต อนาคตเป็นผลจากปัจจุบัน ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน..หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่...อ้าวๆ ไม่เกี่ยวซะและ.... อ่านความเห็นของหลายๆท่าน โดยเฉพาะคุณ HEN-MAN ยังไงเสีย เหรียญก็มี 2 ด้านนิ คนนึงคว่ำก็ต้องมีคนนึงหงาย... คุณ axolot ไม่เห็นชื่อกันตั้งน๊านนานนะ...สงสัยมัวแต่สต๊อคข้าวถุง :D คุณ Gua Jia (ACM) กับคุณกุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย ผมเสนอให้เป่ายิ้งฉุบแย่งตำแหน่งกุยแกตัวจริงแห่งpantip...อุอุ คุณน้องต่อยตู้ (TOITU) วันก่อนไปหาแถวบ้าน ใช่หลังที่มี Milling 4 ตัวเรียงกันหรือเปล่า ขออภัยเบอร์โทรหายไปแล้วน่ะ มีเครื่อง Collet มั๊ยครับ ช่วงนี้การค้าทำลำบากจริงๆ คารวะผู้กล้าทุกท่านครับ จากคุณ : Jiang wei - [ 6 พ.ค. 51 17:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สงสัยข้อมูลเรื่องกุยแกผิดพลาดนิดหน่อย  เพราะปกติอาศัยอ่านจากหนังสือ กลยุทธ์สามก๊กตรงนั้นตรงนี้หลายๆ เล่มมาปะติดปะต่อกัน  เลยทำให้ เรื่องราวไม่แม่นเท่าที่ควร  ขออภัยกุยแกตัวจริง  ที่มาชี้แจง  ^______^ เรื่องธุรกิจเดี๋ยวมาคุยกันต่อพรุ่งนี้ครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 6 พ.ค. 51 19:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามาทักทายพี่จิมมี่และอัพเดทข้อมูลอีกรอบ กระทู้เริ่มชักกลายพันธุ์ ภาพจาก คคห 58 ของ คุณ กุนซือเอกแห่งรัฐ เด็ดจริงๆ จากคุณ : ดอกไม้ในฤดูฝน - [ 6 พ.ค. 51 23:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ลืมเครดิตเจ้า  ภาพ59มาจากโต๊ะเฉลิมไทย  ของคุณจ่าพิชิตเจ้าค่ะ  แฮะ ๆ ๆ ขออภัยเจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 7 พ.ค. 51 01:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 63 จอมยุทธ์ เจี้ยง เจาะลูกค้ารายใหญ่ ใช้เวลา หลายจอกชา รือ ข้าน้อย เจาะฐาน neighborhood ลอดช่องใช้เวลา วางตัวเอง ให้พ้นจาก หมากม้า ออกมานอกกระดาน เอ .. .  June 2007  จน เจอนกต่อเจาะเข้า Sep 2007 หลังจากนั้น วางยุทธ์ เวปไซด์ อยู่สองเดือน Oct 2007 ช่วงนั้น มีไข่ในตะกร้าใหม่ เกิดขึ้นมา เลยลอยเท้ง คาไว้ แต่มิไย ยังได้บอก ได้ ส่งสาส์น ให้พันธมิตรใหม่ ทั้ง ใน และ นอกไทย รู้จัก นี่ จะครบวาระปี เดือนหน้า ละ ได้เวลาบุก รุกตลาด ของจริง หลังจาก พวกขุนศึก ในทีม มัวแต่เกี่ยง ไม่มีใครอยาก ออกแรง เป็น หน้าด่าน  Fire Fighter ต้องให้ เรา เป็นผู้ไถหน้า ถอยก้าว กระโดดสองก้าว " One Step Backward , Two Step Forward " ขออภัย ฉีกแนว อรรถรส สามก๊ก แดน China Mainland แต่ภูมิหลัง ที่เติบโตเยี่ยงอเมริกัน มันอดไม่ได้ ที่จะกวาด คมหอก คมดาบ เอ๊ย คมคำ คมคิด ลับปัญญา ประยุกต์ ธุรกิจ อีกสักที  . . . ดึกมากแล้ว ข้าน้อยขอปลีกตัวไปพักผ่อน แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 02:47:08 จากคุณ : kuddle - [ 7 พ.ค. 51 02:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เราขายเสื้อผ้าค่ะ ขายปลีก เจาะตลาดกลางตอนบน ไปถึงบน ท่ามกลางแหล่งกลางค้าที่มีคนทุกกลุ่มทุกระดับ ขายงาน design เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ และเน้นจับราคา อยากบอกว่า ร้านเราคนยังเข้าเยอะเหมือนเดิม แต่ลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มเรา จะซื้อยากมาก ถึงแม้จะชอบในสินค้ามาก แต่ก็จะไม่ซื้อ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ไม่ซื้ออะไรเลยเหมือนกัน แม้จะไปเจอสินค้าที่อยู่ในตลาดล่างกว่า ในขณะที่กลุ่มลูกค้าของเรา ซึ่งเป็นลุกค้าระดับกลางค่อนไปทางบน ยังคงซื้อสินค้าของเราอยู่ และซื้อเยอะด้วย เสื้อผ้าเราราคาเป็นพันๆ แต่คนกลุ่มนี้ก็สามารถซื้อได้ และซื้อง่าย ไม่มีปัญหาเรื่องราคา ในขณะที่คนที่ไม่ใช่กลุ่มเรา แค่เห็นราคาครั้งแรกก็เมินแล้ว ทำให้เราวิเคราะห์ในส่วนนี้ได้ว่า กลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน สำหรับเรา ยังไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจมาก ในขณะที่ตลาดล่าง โดนไปเรียบร้อยแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 03:09:24 จากคุณ : rose bullet (rose bullet) - [ 7 พ.ค. 51 03:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 65 หวัดดีพี่เอกค่ะ ติดต่อแอมที่อีเมล์ก็ได้และแอมออนไลน์ตอนกลางคืนที่เมืองไทยทุกวัน จริงๆ แชททางอีเมล์ก็ได้ อีเมล์แอม sasa_ann@h อ้อหรือว่าเอาเบอร์บ้านที่มาให้แอมเดี๋ยวโทรไปคุยแล้วกัน ขอบคุณค่ะ ตอบพี่จิมมี่แอมอยู่ทุกเมืองค่ะ มาได้ ยินดีต้อนรับ ค่ะ มาเรื่องธุรกิจดีกว่าแอมยังไม่ทำธุรกิจที่นี่นะคะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ตอนนี้ ทำอยู่ที่่เมืองไทย แต่เป็นที่ภาคใต้ของบ้านเราค่ะ เกี่ยวกับ property ส่วนธุรกิจที่นี่ยังต้องวางแผนก่อนเพราะมันไม่ใช่บ้านตัวเอง แต่ก็เรื้อยๆ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 04:03:48 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 04:00:36 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 03:51:50 จากคุณ : แอม (samhow BFC) - [ 7 พ.ค. 51 03:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 7 พ.ค. 51 06:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดียามเช้าครับ.... ^_^ จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 7 พ.ค. 51 07:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 68 Come to read จากคุณ : คนบ้านฉาง - [ 7 พ.ค. 51 07:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ใกล้จะหมดเวลายื่น ภงด50 กันแล้วนะครับ (ภายใน29 พ.ค. นี้) เลยเอาบทความเก่าๆ มาฝากครับ อาจมีประโยชน์กับผู้ประกอบการทุกท่าน (จะช้าไปไหมนะ) ความผิดพลาดที่พบจาก ภ.ง.ด. 50 เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นข้อผิดพลาดที่เจ้าหนี้ที่สรรพากรพบจากการวิเคราะห์แบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 50 เห็นว่าเป็นเรื่องคุณผู้ประกอบการควรจะได้ลองศึกษาดู เลยเอามาลงให้ได้ดูกัน 1. คิดอัตราค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด 2. คำนวณค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาไม่เป็นไปตามส่วนเฉลี่ยแห่งระยะเวลาที่ได้ทรัพย์สินนั้นมา 3. ราคาสินค้าคงเหลือในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีมิได้คำนวณตามราคาทุน หรือราคาตลาดแล้วแต่อย่างใดจะน้อยกว่า 4. การกันเงินสำรองต่างๆ ไว้จากผลกำไร ซึ่งกฎหมายห้ามมิให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี เว้นแต่การกันเงินสำรองประกันชีวิต หรือสำรองประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด 5. นำเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่นายให้แก่ลูกจ้างโดยเด็ดขาดในจำนวนที่เกินกว่าร้อยละ 10 ของเงินเดือนทั้งหมดของผู้รับมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 6. หักค่าการกุศลสาธารณะเกินกว่าร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ 7. นำรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัวหรือการให้โดยเสน่หา มาหักเป้นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 8. จ่ายค่ารับรองหรือค่าบริการ ในส่วนที่เกินสมควร 9. นำรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุนมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 10. นำภาษีเงินได้นิติบุคคลมาถือหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 11. นำรายจ่ายซึ่งกำหนดขึ้นเองโดยไม่มีการจ่ายจริงมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 12. นำผลเสียหายอันอาจได้กลับคืนเนื่องจากการประกัน หรือสัญญาคุ้มกันใดๆ มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ และนำผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปี ก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปีปัจจุบัน มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิไม่ถูกต้อง 13. นำรายจ่ายซึ่งมิใช่รายจ่ายเพื่อหากำไร หรือกิจการโดยเฉพาะมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 14. นำค่าซื้อทรัพย์สินและรายจ่ายเกี่ยวกับการซื้อหรือขายทรัพย์สินในส่วนที่เกินปกติโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 15. นำค่าของทรัพย์สินนอกจากสินค้าที่ตีราคาต่ำลง มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 16. นำรายจ่ายที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าใครเป็นผู้รับมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 17. นำภาษีเงินได้ที่ถูกหักไว้ ณ ที่จ่ายของปีก่อนๆ มาเป็นเครดิตในการคำนวณภาษีเงินได้ 18. นำค่าปรับกรณีผิดสัญญาซึ่งรวมอยู่ในใบสำคัญแสดงการหักภาษีไว้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมาวรัษฎากร มาเป็นเครดิตในการคำนวณภาษีเงินได้ 19. นำส่วนเกินมูลค่าหุ้นของหุ้นที่ซื้อ มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 20. นำค่าใช้จ่ายริเริ่มกิจการซึ่งต้องหักค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาในอัตราร้อยละ 20 ประเภททรัพย์สินอย่างอื่น มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิทั้งจำนวน 21. ไม่แสดงรายละเอียดการจำหน่ายหนี้สูญซึ่งแสดง (ก)ชื่อและที่อยู่ของลูกหนี้ (ข)จำนวนหนี้ที่จำหน่าย (ค)วันเดือนปีที่เกิดหนี้ (ง)หนี้เกิดจากอะไร และ(จ) ได้ดำเนินการเร่งรัดหนี้มาแล้วประการใด 22. ไม่แสดงรายละเอียดค่าใช้จ่ายต้นทุนผลิต ต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายดำเนินงานใบัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุน(แสดงแต่ยอดสรุปรวมไว้) 23. ไม่แจ้งรายละเอียดสินค้าคงเหลือในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี และราคาซึ่งคำนวณตามราคาทุนหรือราคาตลาดแล้วแต่อย่างใดจะน้อยกว่า 24. ไม่แนบรายละเอียดภาษีเงินได้ที่ถูกหักไว้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร 25. นำผลขาดทุนสุทธิซึ่งยกมาเกินกว่า 5 ปี ก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปีปัจจุบัน มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ และนำผลขาดทุนสุทธิของปีก่อนๆ มาหักไม่ถูกต้องโดยนำผลขาดทุนสุทธิที่ยังมิได้ปรับปรุงให้เป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ตามมาตรา 65 ทวิ และ 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร หรือนำยอดผลขาดทุนสุทธิเดิมที่ได้ถูกปรับปรุงให้เหลือยอดน้อยลง หรือหมดสิ้นไปแล้ว ตามผลการตรวจสอบได้ส่วนของเจ้าพนักงานประเมินมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 7 พ.ค. 51 07:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อเริ่มจะกลายพันธุ์  งั้นเอาเป็นผสมๆ แล้วกันครับ  แต่ปกติเมื่อชอบที่จะ มองปัญหาธุรกิจแล้วนำมาเปรียบเทียบกับกลยุทธ์ทางการรบ  ก็จะต้องมอง ภาพให้ออกเป็นเหมือนสนามรบในสงครามเสียก่อน  จึงจะมองง่าย อย่างตอนนี้  ผมก็มองว่า  เปรียบเหมือนช่วงนี้  สภาพอากาศเริ่มแปรปรวน แห้งแล้ง (แม้ยังไม่มากนัก  พอทำมาหากินได้) อันเกิดจากสภาวะโลกร้อน (ว่าไปนั่น)  กองทัพที่ตั้งมั่นอยู่บนที่ดอนมาก่อนก็ลำบาก  ทำนาหาเสบียง ไม่สะดวก  กองทัพที่ตั้งในที่ลุ่มยังอยู่ได้สบาย  เพราะอยู่ติดน้ำ  และสภาวะ ยังไม่แล้งจัด แต่กองทัพบนที่ดอนจะทิ้งเมืองลงไปอยู่ที่ลุ่มก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  อีกทั้งลงไป แล้วก็ต้องเจอกองทัพที่ตั้งมั่นอยู่ก่อนแล้วอีก  คงต้องรบรากันพอสมควร บวกกับสภาวะแล้งก็ยังไม่ได้แล้งสุดๆ จนอยู่ไม่ได้ ทางออกสำหรับความคิดผมก็คือ ตั้งมั่นรักษาเมือง  โดยประหยัดการใช้จ่าย และเสบียงลง  คาดการณ์แนวโน้มว่าแล้งนี้จะนานเท่าใด  ติดตามสิ่งบ่งชี้ อัพเดทข้อมูลตลอด  และปรับแผนอยู่ตลอด จากนั้น คงต้องส่งกองทหารเล็กๆ แอบลงไปในที่ลุ่มที่อุดมสมบูรณ์  ไปหา เสบียงมาให้กองทัพไปพลางๆ ก่อน  ถ้าเจอที่ว่างที่ยังไม่มีใครจับจองมากนัก ก็คงหาทางวางแผน  ส่งกองทหารไปยึดเป็นดินแดนในครอบครองต่อไป อาจดูเป็นแผนเบสิคหน่อย  เพราะแผนพิสดารยังคิดไม่ออกจริงๆ ครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 7 พ.ค. 51 07:46:04 ]

ความคิดเห็นที่ 71 การรักษาที่มั่นเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น หากแม้แต่ที่มั่นสุดท้ายยังรักษาไว้ไม่ได้ก็ยากที่จะเดินหน้าต่อไปได้   อีกสิ่งที่ไม่ควรลืมคือการเสริมสร้างกองทัพในทุกด้านที่ทำได้อยู่เสมอเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง จะได้พร้อมที่จะรุกและรับ บางครั้งเพราะความไม่พร้อมจะถอยก็ไม่รู้วิธี เมื่อโอกาสมาถึงก็ลุกคืบไปไม่ได้เพราะไม่มีเการเตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า "ศึกษามากเท่าไหร่ ภาพที่จะเห็นก็ยิ่งกว้างขึ้น" จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 7 พ.ค. 51 08:00:46 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ACM ท่าจะกำลังคลั่งสามก๊ก..... จากคุณ : อาจารย์โช๊ะ - [ 7 พ.ค. 51 09:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เป็นมานานแล้วครับพี่ จากคุณ : Gua Jia (ACM) - [ 7 พ.ค. 51 09:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ภาวะโลกร้อนต้องมองโลกในแง่ดีคิดดี เป็นอย่างแรกให้จิตใจสดใสจ้า.... สมองจาได้โปร่งๆ จากคุณ : axolot - [ 7 พ.ค. 51 11:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อ่ะ  เห็นพูดถึง3ก๊กกันมาก  ไหนๆๆก็ไหนๆๆละ มาบอกเล่ากันดีกว่าครับว่า  หากท่านจะเป็น1ในตัวละคร3ก๊ก ท่านจะเป็นตัวละครใด และเพราะอะไรถึงอยากเป็นครับ และที่สำคัญ คุณเอาตัวละครตัวนั้นมาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจคุณอย่างไร ส่วนของตัวผมเดี๋ยวมาบอกขอเคลียงานแป๋บนึง แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 12:07:42 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 12:04:00 จากคุณ : axolot - [ 7 พ.ค. 51 11:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 76 1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง 2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี 3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง 4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ  ความอิจฉาริษยา 5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง 6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง 7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง 8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะ วิริยะ 9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือความสิ้นหวัง 10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์ 11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้บุญคุณ 12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัยและความเมตตากรุณา 13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล 14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ  การให้ทาน จากคุณ : axolot - [ 7 พ.ค. 51 12:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ทำ Advertising Agency ครับ เหนื่อยเอาการอยู่ ตอนต้นปีทำท่าจะดี พอผ่านมาสักพัก กลายเป็น ทรงๆทรุดๆ เฮ้อ ตอนนี้เริ่มขยับมาทำอสังหาครับ เรื่องที่ดิน ก็ค่อนข้าง ok หากินกับคนมีเงิน เศรษฐกิจแบบไหน คนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยสะเทือนเท่าไหร่ แต่ก็นะ..............ทำงานกับคนกลุ่มนี้ ทำยากมากกกกกกก ตอนนี้กำลังจะปิดอยู่ที่นึง มี 2 เจ้าของ คนแรก เป็นเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก คนที่สอง เป็นตระกูลธนาคารชื่อดังของประเทศ แต่ก็นะ......ตกลงกันหมดเรียบร้อยแล้ว  สิ่งง่ายๆ ที่ปกติทำกับที่แปลงอื่นได้ ก็ทำกับที่แปลงนี้ไม่ได้  เฮ้อออออออออออออ เงินอยู่ตรงหน้า แค่คิดให้ออกว่าจะเอามาได้อย่างไร ทนาย 2 คนยังปวดหัวเลย  v.v จากคุณ : BMWTurboman - [ 7 พ.ค. 51 14:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตอบคุณ axolot ชอบเกียงอุยครับ ฝีมือทวนเทียบเท่าจูล่ง(ตอนแก่) - 1ในไม่กี่คนที่รบเสมอจูล่งได้ การวางกลยุทธ์เทียบเท่าขงเบ้ง(ตอนประมาท) - 1ในไม่กี่คนที่ทำให้ขงเบ้งวิ่งหาพัด แล้วกะเตงๆหนีออกจากจวน นอกนั้นก็ กตัญญู, ซื่อสัตย์, ยอมรับคนที่ความสามารถเหนือกว่าครับ รวมอยู่ในคนเดียว เสียดายเกิดช้าไปหน่อย ถ้าเกิดยุคแรกๆตอนโจโฉตั้งตัว น่าจะเป็นหนึ่งในขุนพลข้างกายโจโฉไปแล้ว ถึงจะเล่นการเมืองไม่ค่อยเป็น และก็ดูเมาๆงงๆในบางครั้ง แต่เอาเถอะมีข้อเสียซะบ้าง จากคุณ : Jiang wei - [ 7 พ.ค. 51 14:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ความคิดเห็นที่ 75   อ่ะ  เห็นพูดถึง3ก๊กกันมาก  ไหนๆๆก็ไหนๆๆละ มาบอกเล่ากันดีกว่าครับว่า  หากท่านจะเป็น1ในตัวละคร3ก๊ก ท่านจะเป็นตัวละครใด และเพราะอะไรถึงอยากเป็นครับ และที่สำคัญ คุณเอาตัวละครตัวนั้นมาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจคุณอย่างไร ส่วนของตัวผมเดี๋ยวมาบอกขอเคลียงานแป๋บนึง จากคุณ : axolot -----------------------------------------------------------------------------                   v                   v จากคุณ : ๛จูล่ง๛ - [ 7 พ.ค. 51 17:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 80 - กล้าหาญ - มั่นใจ - ชัยชนะ - สุภาพอ่อนน้อม และ เป็นแม่ทัพของเล่าปี่ คนเดียวที่... แก่ตาย   ปล. และ จูล่ง หน้าตาดี (เหมือนผม)   จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 7 พ.ค. 51 18:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อ่ะมาถึงตัวผมบ้างดีกว่า   โดยส่วนตัวชอบตัวละครโลซก  เพราะซื่อๆๆดี คิดดี ชอบการประณีประนอม  จนบ้างครั้งดูๆๆเหมือนคนโง่ที่เชื่อคนง่าย  แต่บางทีคนเรารู้ว่าคนอื่นโกหกเรา เราก็ต้องยอมโง่ตาม  เพื่อเป้าหมายเป็นหลัก    หากเปรียบกับการทำงาน ผมเชื่อว่าการอลุ่มอล่วยย่อมดีกว่าการหักไม่ยอมงอ  โดยที่ต้องทำให้เป้าหมายหลักๆๆที่เราวางไว้พังลง   ดั่งสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ที่พวกเราเจอๆๆกันอยู่ หลายๆๆเรื่องเราต้องปรับเปลี่ยนกันไป แต่เป้าหมายหลักๆๆของเราก็คือการทำให้กิจการของเราดำเนินต่อไปได้ให้ฝ่าวิกฤตต่างๆๆไปได้ด้วยดี  บางครั้งการที่เราต้องค้าขายกับใคร เราอาจจะต้องยอมขาดทุนกำไรไปบ้างหรือแม้แต่เท่าทุน แต่ก็ต้องยอมเพื่อให้เป้าหมายในการค้าของเราสำเร็จลงไป บางทีเพื่อจุดหมายอาจจะต้องยอมเดินอ้อมเส้นทางหลักเพื่อให้เสียน้อยได้มากและถึงซึ่งจุดหมายดั่งตั้งใจ    ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำสิ่งใดจิตใจต้องหนักแน่นมิใช่แค่คำครหาติเตียนของผู้อื่นเพียงน้อยนิดก็ทำให้เราต้องยอมเดินย้อนไปเส้นทางเดิมที่เราเดินมาแล้วไปเผชิญสิ่งต่างๆๆที่ต้องรับความเสี่ยง โดยที่ผู้ที่ติเตียนมิได้มารับความเสี่ยงใดๆๆตามเราเลย หากแต่อาศัยลมปากวิจาร์ณผู้อื่นไปวันๆๆมิได้กระทำสิ่งใด ปราชหรือคนโง่ ถูกหรือผิดใครตอบได้ ทุกอย่างล้วนอยู่ที่ใจเราและผลของการกระทำทั้งนั้น ดั่งโลซก ที่ยอมโดนด่าว่าโง่ให้เสียเมือง แต่เมื่อวันที่สิ้นโลซกแล้ว ความสมดุลระหว่าง3ก๊กที่เกิดจากนโยบาย เป็นมิตรกับเล่าปี่ ถ่วงดุลโจโฉตามที่โลซกทุ่มเททำไว้ก็จบลง การที่เล่าปี่ต้องตีกับซุนกวนทำให้สมดุลทั้งสามเส้านั้นเสียไป สุดท้าย ก๊กโจโฉก็ค่อยๆๆกลื่นตามที่โลซกพยากรไว้   ผมขอเข้ามาเป็นน้ำจิ้มให้กระทู้นี้แค่พอคุยสนุกๆๆขั้นเวลาให้สมาชิกหลายๆๆท่านเข้ามาตอบกันนะครับแต่ยังคงยืนในจุดประสงค์เดิมของเจ้าของกระทู้พี่จิมมี่  ในส่วนของการอัพเดทในเรื่องแนวความคิดกิจการและความเป็นไปของเพื่อนๆๆที่ค้าขายเหมือนๆๆกันนะครับ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 20:38:52 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 20:28:59 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 20:26:05 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 51 19:42:00 จากคุณ : axolot - [ 7 พ.ค. 51 19:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 82 กุยแก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ชอบกุยแก (ใครห้ามแย่งตำแหน่งนี้นะเออ) 555 จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 7 พ.ค. 51 22:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 83 สวัสดีทุกท่านครับ ผมเพิ่งเห็นกระทู้ดีๆอย่างนี้เมื่อสองวันก่อนและอ่านสะสมจนจบเมื่อบ่ายๆนี้เอง ก็เลยมาขอแชร์กันบ้างตามเท่าที่สมองน้อยๆจะพอมี ตัวผมเองอยู่ในธุรกิจรับซื้อวัสดุรีไซเคิ้ล ผมจะขอพูดถึงแค่บางส่วนคือขนาดย่อยและขนาดกลางเท่านั้น ข่าวคราวของผู้ประกอบการในวงการก็มีทั้งดีและแย่คละๆกันไป แต่หากใครมีสายป่านยาว รู้ข่าวไวก็จะได้ประโยชน์จากการเก็งกำไรมากกว่าปกติไป ราคาน้ำมันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจะกระตุ้นให้วิธีการทำธุรกิจแบบเดิมๆค่อยๆเปลี่ยนไป ทำให้ผู้เล่นบางคนอาจจะอยู่ไม่ได้ซึ่งก็น่าจะมีไม่น้อย แต่ในบางแง่มุมมันก็อาจจะเป็นประโยชน์ให้ผู้เล่นขนาดย่อยและกลางได้เช่นกัน ในกรณีที่ต้องขนส่งระยะทางไกลพอสมควรนั้น ต้นทุนในการนำส่งที่สูงมากขึ้นของลูกค้าจะมีผลทำให้โครงสร้างส่วนต่างของราคาถูกลดความสำคัญลงจากเดิมบ้าง เช่นถ้าราคาห่างกันเล็กน้อยแต่ต้องขนส่งไกลขึ้นอีกหลายๆกิโลแล้วล่ะก็ ราคาที่ห่างกันเล็กน้อยก็คงจะรู้สึกว่าเล็กน้อยลงไปกว่าเดิมอีก แต่การสื่อสารและความสัมพันธ์ที่มีต่อลูกค้าจะถูกใส่ใจมากขึ้น ในส่วนของกิจการของผมนั้นใช้วิธีการแบบเดียวกับที่ใช้มาตั้งแต่ปี49และปัจจุบันก็ยังพอใจกับผลตอบแทนของมันอยู่(ไม่กล้าหวังสูงหรือก้าวกระโดดครับ) แต่ปัจจุบันก็ชักเกิดอาการเบื่อเพราะไม่ค่อยได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลักๆมาสักระยะหนึ่งแล้วและรู้สึกว่าตัวเองขี้เกียจใช้สมองมากเกินไปแล้ว แม้ว่าปัจจุบันปริมาณงานจะมากกว่าแต่ก่อนตามสมควร แต่ มันไม่มันส์แล้วแฮะ ส่วนวิธีการที่ผมใช้เมื่อรู้ว่าเศรษฐกิจมันจะแย่แล้วแน่ๆก็ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อน คือหลีกเลี่ยงการร่วมทำสงครามราคาโดยการสร้างกลุ่มลูกค้าที่มีloyaltyสูงให้มากที่สุด โดยไม่เน้นลูกค้ารายใหญ่เพียงแค่ไม่กี่ราย เพื่อที่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่มีลูกค้ากลุ่มนี้มากพอแล้ว ผมก็จะขอเพิ่มmarginให้มากกว่าเดิมโดยที่ลูกค้ายังเต็มใจที่จะมาค้าขายกัน ซึ่งจะแลกกับประสบการณ์ด้านอื่นๆที่ลูกค้าจะได้รับกลับไป ซึ่งมันทำให้ผมอยู่ได้สบายขึ้นและลูกค้า(น่าจะ)รับได้(คิดว่างั้นนะ เหอๆๆ) วิธีนี้มันทำให้ผมไม่สามารถใช้ราคาที่ดีที่สุดเป็นจุดขาย แต่ใช้ความสัมพันธ์ตามลักษณะนิสัยคนไทยด้วยกันเป็นจุดขายแทน ตอนนี้ผมเองก็อยากเพิ่มวิธีการใหม่ๆที่เป็นblue oceanแต่ยังหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้เลยต้องอาศัยกินบุญเก่าไปก่อน ปล. ขอให้คุณสาวน้อยร้อยแปด แข็งแรงๆนะครับ ปล.อีกที คุณMonkeypimเราเจอกันที่ทริปเกาะขามของBFCใช่หรือเปล่าครับเนี่ย หวังว่าผมคงไม่ทักผิดคนนะ(กลัวหน้าแตก แหะๆๆ) จากคุณ : เงาหัวฉันหาย - [ 8 พ.ค. 51 00:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 84 อ่าน้องใหม่ ห้องนี้นะครับ แต่ เอ่อ กระทู้กลายพันธุ์ป่าวหว่า 5+ +++ คือ เอ่อ พ่อ แม่ ขายข้าวขาหมู โดนผลกระทบเย็นเลยอ่ะ ฟังๆเค้าบ่นมา ข้าวแพง หมูแพง กำไรน้อย คนก็น้อยลง ดูเงียบๆ ยังไงก็ไม่รุแหะ เฮ่ออออ แย่ สงสารพ่อ แม่ อ่ะ จากคุณ : แฟตโฟเบีย - [ 8 พ.ค. 51 02:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ความคิดเห็นที่ 82 กุยแก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ชอบกุยแก (ใครห้ามแย่งตำแหน่งนี้นะเออ) 555 จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย ******************************************* แหมมม............ไม่แย่งครับ  งั้นผมเปลี่ยนเป็นโจโฉ   555+ ปล. นึกว่าจะไม่เห็นพี่เงาหัวฉันหายแล้วซะอีก จากคุณ : Cao Cao (ACM) - [ 8 พ.ค. 51 07:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ของผมที่ทำอยู่ ช่วงนี้นะครับ 1.  ธุรกิจขายโฆษณาผ่านเว็บ ก็ไปได้ดีครับ ผมขายถูกด้วยเมื่อเทียบกับตลาด เน้นให้ลูกค้าเก่า คุ้มค่าที่ลงโฆษณา เขาจะได้ลงยาว ๆ ที่ผ่านมาก็ลูกค้าเก่ายังเหนียวแน่นกันอยู่เกือยบ 100% ก็ทยอยปรับราคาขึ้นสำหรับลูกค้าใหม่บ้างเนื่องจาก traffic ในเว็บสูงขึ้นอีกสัก 20 % ได้แล้วครับ และการทำงานแบบเป็น พาร์ตเนอร์กับเว็บอื่น ๆ ก็ทำรายได้เพิ่มเติมมาให้ต่อเนื่อง 2.ธุรกิจขายของผ่านเว็บ  ไปได้ดีขึ้นมากครับ คิดว่าคนหันมาซื้อของทางเนตเยอะขึ้น แล้วของเขาทำมานานมากหลายปีแล้ว ตอนนี้ก็คิดขยาย การขายไปที่ อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ยังไม่ค่อยมีคนขายในเนตน่ะครับ คนซื้อไม่เยอะ แต่เน้นให้เป็นของที่หาซื้อยากใน ตจว สักหน่อย 3.  งานทัวร์ในประเทศทรง + เท่าเดิม แต่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ถือว่าเป็นขาลง ค่าใช้จ่ายมากกว่ารายรับ จนต้องปรับโครงสร้างทีมงานใหม่ ให้สมดุล รับ-จ่าย น้ำมันราคาสูง ทริปก็ราคาสูงปรี๊ดไปด้วย กลุ่มลูกค้าก็จะแคบลงไป 4. ทัวร์คนไทยไปต่างประเทศ ไม่ตกนะครับ มีช่องทางขยายตัวอีกมาก ค่าเงินบาทที่แข็งทำให้คนไทยไปนอกได้ถูกลงกว่าหลายปีก่อนอีกครับ เห็นด้วยว่า กลุ่มลูกค้าระดับกลาง - บน ยังไม่กระเทือน แต่เนื่องจากรับทีมงานใหม่และเปิดสำนักงานใหม่เพิ่มเติม ค่าใช้จ่าย fix cost เพิ่มจากเดิมมาก ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา จึงแทบไม่เหลือกำไรเลย ตอนนี้หาทางสร้างช่องทางรายรับใหม่ ๆ จากทริปใหม่ ๆ พยายามให้ทีมงานแต่ละท่าน มีทัวร์เด่นขายดีของตนเอง อย่างน้อย 1 คน 1 ทริปเด่นขายดีครับ 5. กำลังทำงานเพิ่ม รับทัวร์ Inbound แบบ Tailor Made  อยู่ครับ ถ้าโปรเจคนี้สำเร็จก็จะสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจช่วงที่ค่าน้ำมันผันผวนนี้ได้อีกมากทีเดียว เพราะลูกค้าที่มาค่อนข้างมีเงินเหลือใช้อยู่แล้ว โดยรวมของส่วนธุรกิจย่อย ๆ ของผมตอนนี้  ณ ตอนนี้ เข้าเป้า 2 ธุรกิจ  ยังไม่เข้าเป้า 2 ธุรกิจ  และ ทำงานใหม่ ช่องทางใหม่อยู่อีก 1 งานน่ะครับ เป็นปีที่ได้ใช้สมอง วางแผน แก้ไข หาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แยะเลยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มาครับผม ********** จากคุณ : Mr.OB1 - [ 8 พ.ค. 51 08:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สวัสดีคร้าบพี่เงาฯ ราคาเหล็กที่ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำผมซวย 2 เด้งเลยครับ นอกจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นแล้ว ราคารับซื้อโลหะที่ยั่วยวนทำให้ซาเล้งมันงัดโรงงานผมเอาโลหะไปหลายชนิด ได้ทองเหลืองไป ~40 Kgs. เหล็กอีกหลายสิบโล แถมเอาชิ้นงานที่เสร็จแล้วไปด้วย ต้องผลิตใหม่เสียค่าใช้จ่าย overdue ลูกค้าอีก...เฮ้อ ระวังของโจรด้วยนะครับ จากคุณ : Jiang wei - [ 8 พ.ค. 51 08:14:52 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อย่างนี้พี่เงาฯ ต้องระวังดีๆ นะครับ อาจเป็นของจากร้านคุณเกียงอุย ก็เป็นได้ จากคุณ : ACM - [ 8 พ.ค. 51 08:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 89 นี่คุณBMWTurboman มีแนวคิดเดียวกันกับผมเลยนะเนี่ย  หาทางลงไป แสวงหาเสบียงจากที่ลุ่มที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่  ขอให้โชคดีในการดีลครับ แต่ดูเส้นทางแล้วจะคล้ายกับคุณ I. Brother มาก  ที่ทำด้านเอเจนซี่  แล้วก็ หนีไปทำอสังหาอยู่  แต่ช่วงนี้หายๆ ไป  หวังว่าสักพักคงเข้ามานะครับ เรื่องกลุ่มพวกบิ๊กๆ นี่  หลายคนมีนิสัยแปลกๆ เท่าที่เคยได้สัมผัสมาบ้าง บางคน  บางทีภาพภายนอก  กับการได้สัมผัสจริงๆ ก็ต่างกันมากนะครับ มีคำกล่าวหลักกลยุทธ์ข้อหนึ่งว่า "ตกไปอยู่ที่เป็น จึงตาย  ตกไปอยู่ทีตาย จึงเป็น"  หมายถึง บางคนเมื่อตกอยู่ในภาวะคับขัน  จึงสู้ตายไม่มีอะไรจะเสีย ทำให้รอดได้  ส่วนผู้ที่ดูเหมือนอยู่รอดปลอดภัย  อาจประมาท  และขาด ความกระตือรือร้นในการต่อสู้ ฉะนั้นช่วงนี้  เมื่อสภาวะธุรกิจเกิดความฝืดเคือง  ตลาดย่อมเกิดการเปลี่ยน แปลง  ผู้ที่ทำธุรกิจดีอยู่  พึงอย่าประมาท  ต้องระแวดระวังและวางแผน รักษาที่มั่นให้ดี  ถ้าสภาพแล้งจัด  คนย่อมหนีตายเอาตัวรอด  ลงจากที่ดอน ไปที่ลุ่ม  เวลานั้นย่อมเกิดการนองเลือด  จากที่อุดมสมบูรณ์  ย่อมเกิดการ แก่งแย่งมากขึ้น  โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่ไม่ต้องใช้ทุนมากนัก  เพื่อนๆ อย่า วางใจ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อถึงด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 51 08:36:26 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 8 พ.ค. 51 08:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 90 อ้อ วันอาทิตย์นี้(11 พ.ย.)  ผมนัดจิบกาแฟ  สนทนาประสาธุรกิจกับเพื่อนๆ ตามปกติ(เดือนละครั้ง)  คราวนี้นัดที่ร้านคอฟฟี่เวิร์ล ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ข้างตึกททท. ครับ  เวลาบ่ายสอง  ใครว่างและสนใจก็เชิญนะครับ ไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน  เพื่อนเก่าหลายคนที่ไม่ได้เจอกันนาน และมาโผล่ ณ กระทู้นี้  เชิญนะครับ  คุณ kuddle ถ้าอยากพบจอมยุทธ์ เกียงอุย(Jiang wei) พบได้ที่งานนี้นะครับ  โลซก กะ Cao Cao ข้างบนนี่ ก็จะไปครับ เรื่องเป็นอะไรในสามก๊กนี่  เอาไว้อีกที  ขอไปศึกษาก่อน  เพราะรู้จักตัว ละครน้อยเต็มที  ส่วนใหญ่ก็รู้จักเฉพาะตัวหลักๆ ที่มีการเอ่ยถึงบ่อยๆ เท่านั้น แต่มีบางท่าน  พยายามจะให้ผมเป็นขงเบ้งอยู่  แต่ผมว่าผมยังมือไม่ถึง ยังห่างชั้นกับขงเบ้งมากครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 8 พ.ค. 51 08:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ไม่ลืมแน่นอนครับพี่ จากคุณ : Cao Cao (ACM) - [ 8 พ.ค. 51 13:40:16 ]

ความคิดเห็นที่ 93 อย่าเป็นเลยขงเบ้งอะ  ตายไม่สวยนะพี่จ๋า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 8 พ.ค. 51 14:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 94 โห ท่านเจี้ยงโดนล้วงคองูเหลือมอ่ะ อุ๊บ งุเห่า คุณ Jimmy บ่ายสองมีลูกค้าฮ่องกง หกโมงเย็นมี ลูกค้าเยอรมัน อืม จะว่าง ก็พฤหัส ไม่ก็ อังคารบ่าย สำหรับ May จ๊าก นี่เจอการ กระตุก การจ่าย ของลูกค้ากลุ่มบน ชักใจไม่ดี ต้องดู ว่ากระตุกหยอก หรือ ต้องเล่น "กติกา" จะรุกตลาดไตรมาส สาม ใจยังตุ๊มๆ ต่อมๆ เดาทาง เดาใจ การ Flow ลูกค้าไม่ถูก ที่ว่าแน่ กลับ  ไม่ ที่ว่า ไม่ กลับ แน่ มีคนว่า ธุรกิจของเรา ถ้าดี บอกต่อไปอีก 4 ถ้าเสีย บอกต่อไปอีก 9 โอ๊ย . . . รุกตลาดไตรมาส นี้ มันต้องขบคิด และหยั่ง เสนอ คนละแบบ กับ 5 เดือนก่อน สงสัย ต้องรอกลับจาก Singapore Trip May 24 อาจมองเห็นอะไร ได้ชัดขึ้น การตลาด ใช้เวลากล่อมเกลา แบบ นี้ มันเดินชักตุก บรึ๋ย . . . " จากที่อุดมสมบูรณ์  ย่อมเกิดการ  แก่งแย่งมากขึ้น  โดยเฉพาะ   กลุ่มธุรกิจที่ไม่ต้องใช้ทุนมากนัก "   โห งานบริการ เสียวหลังกันให้วาบ  บ  บ . . .   ประมาณ emotion เปลี่ยน กระทบเสี้ยวเดียว ลูกค้า move out ต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ลูกค้า แม้เห็นท่า จะชักดาบ ใช้ฟรีไม่รู้โนะเนะ แต่ . . . เล่นตามกติกา  . . . ไม่เกิดการ กินฟรี . . . จากคุณ : kuddle - [ 8 พ.ค. 51 21:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ท่านJiang wei ผมว่าได้เวลาใช้บริการของบางแก้วแล้วมั้งครับ เอาอย่าน้อยสัก5ตัว ว่างๆก็ให้โจรเล่นกับหมาบ้าง หมามันจะได้ไม่เครียด เอ่อคุณACM เอาน้ำแข็งมาลูบหลังผมทำไม หนาวสันหลังนะน่ะ หลังจากกลับมามองหัวข้อกระทู้อีกครั้งหนึ่งก็ได้เจอคำว่า”แปลงวิกฤติให้เป็นโอกาส”ที่พี่จิมมี่กล่าวไว้ที่ต้นกระทู้ เลยเกิดนึกถึงประโยคที่ Philip Kotler เคยกล่าวไว้ว่า “การตลาดที่ดีส่วนหนึ่งก็คือการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ทว่าการตลาดที่ยิ่งใหญ่มักเกิดขึ้นด้วยการทำลายกฎเกณฑ์” ถ้าทุกคนทำสิ่งที่ควรจะทำก็น่าจะผ่านวิกฤติไปได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าอยากจะก้าวข้ามวิกฤติก็คงต้องลองเสี่ยงกับนวัตกรรมที่จะเกิดรึดับก็ไม่รู้ แต่หากสามารถลดความเสี่ยงให้มาอยู่ในจุดที่พอยอมรับได้ มันก็น่าลอง ถ้าคนที่มีวิชั่นคือคนที่มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ตัวผมเองก็ไม่ใช่คนที่มีวิชั่นอะไร จึงมองไม่เห็นมุมที่361องศา แต่คนที่มองไม่เห็นมุมที่90องศาก็อาจจะมองเห็นมุมที่361ก็เป็นได้ ตัวผมก็หวังแค่ว่าจะมีสักวันที่มองเห็นมุมที่เกิน360 ไม่ขอมากขอแค่เห็นแว่บๆสักนาทีก็คงพอช่วยให้เข้าใกล้เป้าหมายได้มากขึ้นอีกสักช่วงหนึ่งก็ยังดี ดังนั้นคงต้องฝึกฝนตัวเองอีกเยอะกว่าจะมองเห็นมุมที่คนอื่นมองไม่เห็นแต่ตัวเองมองเห็น(ขอเป็นมุมที่555องศาแล้วกัน แบบว่าชอบเลขนี้) ขอเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆคนผ่านสภาพที่น่าอึดอัดนี้ครับ(ให้ตัวผมเองด้วย) ปล.ถึงพี่จิมมี่ที่ไม่ได้เจอกันซะนาน เดี๋ยวนี้วันอาทิตย์ผมมีภารกิจของครอบครัวแทบจะทุกอาทิตย์ ทำให้ไปไหนไม่ได้เลยจนกว่าพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า จึงขอฝากความคิดถึงไปยังพี่จิมมี่ พี่singty และทุกๆท่านที่ไปร่วมจิบกาแฟสนทนาธุรกิจด้วยครับ จากคุณ : เงาหัวฉันหาย - [ 9 พ.ค. 51 00:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 96 สวัสดีคุณ Jimmy น้องเงาหัวฯ น้องกุยฯ และทุกๆ ท่าน ช่วงปีนี้ผมไม่ได้ค้าขายอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย นอกไปจากงานประจำ ....และการใช้เงินทำงานอย่างหนัก.....ในตลาดหลักทรัพย์ไทย ปีนี้ผมหยุดความเสี่ยงทุกอย่างเพื่อประเมินสถานการณ์โดยรวมและรอจังหวะเหมาะ ........ขณะเดียวกันก็หาเงินสดและสภาพคล่องต้นทุนต่ำมาตุนไว้ให้มากที่สุด เพราะเมื่อจังหวะการลงทุนมาถึง ผมไม่มีเวลาทำอย่างอื่นนอกจากวิเคราะห์โอกาสเฉพาะหน้า .........และลงทุนอย่างรวดเร็ว ก่อนโอกาสจะไปตกอยู่ในมือคนอื่น ถ้าลงมือทำธุรกิจแล้วได้กำไรสุทธิหลังหักภาษีได้น้อยกว่า 20% ผมยอมไม่ทำดีกว่า .....ให้ผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ ทำงานเลี้ยงผมน่าจะดีกว่าผมไปลงมือทำเอง การหาผลตอบแทนส่วนเกินมูลค่าหุ้น..เฉลี่ยเดือนละ 15% ทำได้ไม่ยากเลย ขอให้ทุกท่านที่ยังทำธุรกิจอยู่ ใช้สติในการฝ่าฟันแก้ไขปัญหาไปได้ด้วยดีนะครับ จากคุณ : academician - [ 9 พ.ค. 51 03:25:14 A:130.18.158.172 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สวัสดีพี่academician ครับ  ไม่ได้คุยกันนานเลยนะครับ ขอบคุณที่พี่แวะเข้าไปที่บล๊อกผมตอนปรับปรุงโฉมใหม่ด้วยนะครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้พี่กลับมาเมืองไทยแล้ว  หรือลงทุนข้ามประเทศอย่างไร เรื่องสงครามแก่งแย่งนี่เกิดขึ้นจริงเสมอ  โดยเฉพาะในภาวะฝืดเคือง เมื่อวิกฤติคราวก่อน  เอเจนซี่โฆษณาขนาดเล็กก็ตายไปส่วนหนึ่ง เพราะ ขนาดใหญ่ลงมาจับงานระดับล่างแข่ง  ต่างคนต่างก็ต้องหาวิธีเอาตัวรอด จึงเกิดสงครามแก่งแย่งกันขึ้นครับ นี่น้องเงากลายเป็นมนุษย์กลางคืนไปแล้วซิเนี่ย มิน่าถึงเป็นเงาหัวฉันหาย เพราะเล่นเป็นมนุษย์กลางคืนนี่เอง  แล้วมันจะมีเงาได้ยังไง น้องกุยแก  พี่ไม่เป็นขงเบ้งหรอกครับ  แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเป็นอะไรดี เคยถามเกียงอุยว่า  พี่เหมือนตัวไหนในสามก๊ก  ซึ่งเค้าก็ตอบมาตามที่มอง แต่จำไม่ได้แล้วว่ามันคือตัวละครไหน  รบกวนเกียงอุยช่วยแถลงอีกที แล้วคนนี้ตายดีหรือเปล่า  จะได้เลือกถูก จากคุณ : Jimmy Walker - [ 9 พ.ค. 51 08:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 98 Jiang wei เดี๋ยวนี้เค้ามีกล้องวงจรปิดแบบไวเลสที่ใช้โมชั่นเซ็นเซอร์ขายแล้วนะครับ  ส่วนถ้าจะเลี้ยงหมาถามว่าดีไหม  ตอบจากประสบการ์ณก็ตอบว่าดีแต่ความซวยจะตกที่หมาถ้าเจอวางยา แล้วก็จับมือใครดมไม่ได้ว่าหมาตายได้ไง  ทีนี้ก็นอนผวากานสนุกสนานครับ  ติดตู้แดงหน้าโรงงานก็ดีครับถ้าจำไม่ผิดก็ประมาณ2พันบาทต่อเดือน  มีสายตรวจมาตรวจตลอด   คุ้มมากถ้าเทียบกับการที่ของต้องหายไป  มีครั้งที่1เดี่ยวก็มีครั้งที่2นะจ๊ะตามสูตร จากคุณ : axolot - [ 9 พ.ค. 51 14:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สวัสดีครับ วันนี้ยุ่งๆ........เดี๋ยวมาใหม่ครับ จากคุณ : Cao Cao (ACM) - [ 9 พ.ค. 51 16:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 100 พี่จิมมี่ครับ ความเห็นที่ 100 มีรางวัลหรือเปล่าครับ   จากคุณ : Cao Cao (ACM) - [ 9 พ.ค. 51 16:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 101 โอ...ขอบพระคุณทุกท่านที่แนะนำครับ  (กระทู้กลายพันธุ์อย่างหนัก :D ) กล้องกำลังศึกษาอยู่เหมือนกันครับ คงจะติดในอนาคตอันใกล้ ส่วนสุนัขไม่ไหวครับ ถึงจะมีประโยชน์ในยามคับขัน แต่ยามปกติสงสารมัน คงไม่ได้เลี้ยงดูซักเท่าไหร่ ผมเลี้ยงกระบองเพชรยังแห้งตายเลย - -" ตอนแรกกะว่าจะเอาลวดทองแดงขึงพื้นไว้ ถ้าเตะโดน limit จะตัดให้ไฟไหลเข้า ช๊อตให้หัวตั้ง ไม่งั้นก็จะเล่นเกาทัณฑ์ PLC (เกาทัณฑ์ยุคใหม่ที่ท่านอาจารย์ขงเบ้งออกแบบให้ Programable????) ยิงแม่มเลย!!! จากคุณ : Jiang wei - [ 9 พ.ค. 51 16:47:14 ]

ความคิดเห็นที่ 102 หมาซุปเปอร์แมนน่ารักจัง คุณACM เป็นชื่อเป็นโจโฉแทนแล้วหรือ 555  เค้าแค่แซวเล่นเฉยๆเปลี่ยนชื่อเลยหรือเจ้า  แต่ก็ดีละมีโจโฉมีกุยแก  งั้นพี่จิมมี่เป็นกาเซี่ยงดีไหมคะ  คนนี้ตายดีนะ  แก่ตายแบบปกตินะเจ้า @^ . ^@ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 9 พ.ค. 51 21:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 103 สวัสดีครับพี่academician คิดถึงพี่จังครับ ไม่ได้คุยกันตั้งนานแน่ะ พี่จิมมี่ครับช่วงนี้ผมยุ่งๆเลยเพลียๆน่ะครับ กว่าจะเริ่มหายเพลียก็ชักจะดึกแล้ว ปกติผมเลิกงานหัวค่ำกว่าจะทำกิจวัตรประจำเสร็จจนเวลาฟรีจริงๆก็เลย5ทุ่มน่ะครับ ก็เลยมืดจนไม่มีเงาหัวซะงั้น คุณACMครับ ผมอ่านใจพี่จิมมี่ได้ว่า คุณได้สิทธิ์การเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารในวันสนทนาธุรกิจครับ คุณJiang wei ครับ รับหลังไมค์ด้วยนะครับ หุหุ ความลับระหว่างสองเรา พี่จูล่งครับ ไม่เห็นมาบอกเล่าเรื่องธุรกิจให้น้องๆฟังบ้างเลย ผมว่ามีหลายคนที่รอฟังพี่อยู่นะครับ จากคุณ : เงาหัวฉันหาย - [ 9 พ.ค. 51 22:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ^ ^ ธุรกิจ สำหรับพี่ตอนนี้พี่เฉยๆแล้วหน่ะครับ ... เจอขโมยลักตัดทองแดงปีละร้อยกว่าล้าน เมื่อก่อนตื่นเต้นนะ แต่ตอนนี้ก็เฉยๆ วันนี้ไปทานข้าวกับเพื่อนมา มีเพื่อนคนนึงทำรีไซเคิลเหมือนน้องเงาหัวหายใช้เงินสดหมุนเวียนวันนึงหลักล้านบาท (ตอนนี้เหล็กแพงใช่ไหม?) ถ้าเป็นเมื่อก่อนพี่ก็จะตื่นเต้นแต่ตอนนี้ก็เฉยๆ น่ะครับ ตอนนี้เล็งๆอยู่ว่า ค่ายมือถือ ออก 3 G เมื่อไหร่ พี่จะเล่น 4G ทันที ... รอใช้ 4 G นะครับ น่าตื่นเต้นดี ... ^_^ เรื่องนี้ (WiMAX) เคยคุยกับคุณ academician นานแล้วไม่นึกเหมือนกันว่าวันนี้จะได้มาทำให้เป็นจริงเป็นจังเสียที และกลุ่มบริษัทฯที่เคยวิพากษ์กับคุณ academician ในวันนั้น ก็ไม่นึกเหมือนกันว่าวันนี้ จะได้ย้ายเข้ามาร่วมงานกับกลุ่มบริษัทฯนั้น ในวันนี้ ... ก็รู้สึกว่าเป็นความท้าทาย ครั้งใหม่ ที่จะช่วยกันพลิกฟื้นบริษัทฯที่มีผลประกอบการขาดทุนสะสมในระดับหมื่นล้าน ให้ต้องกลับมามีกำไรในอนาคตอันใกล้นี้... ส่วนหลักคิดวิธีทำธุรกิจยุคนี้ หากมีโอกาสเจอกันอีกจะแชร์ให้นะครับ สมัยเด็กๆ พี่จำ วรรคทองของ อ.ทินวัฒน์ ประมาณว่า ... การทำงานนั้น จะต้องได้ทั้งผลสำเร็จของงาน ได้เงินและได้ความรู้ สมัยนี้พี่ขอเพิ่มเติมว่า นอกจากจะต้องได้ผลสำเร็จของงาน ได้เงิน ได้ความรู้แล้ว ยังจะต้องได้....ประโยชน์ต่อสังคม ... จะทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน ^_^ จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 9 พ.ค. 51 23:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ปล.   วันก่อนได้ออกทีวี อุตส่าห์โทรมาบอกจิมมี่ ... จบรายการจิมมี่โทรมา ... พี่เอ ดูอ้วนขึ้นนะครับ ...    -_-" เรื่องนี้ก็ทำให้พี่ตื่นเต้นเหมือนกัน ... ต้องไปฟิตเนสเป็นการด่วน จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 9 พ.ค. 51 23:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 106 จบรายการจิมมี่โทรมา ... พี่เอ ดูอ้วนขึ้นนะครับ ...    -_-" แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 01:09:14 จากคุณ : axolot - [ 10 พ.ค. 51 01:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 107 Jiang wei     ตอนแรกกะว่าจะเอาลวดทองแดงขึงพื้นไว้ ถ้าเตะโดน limit จะตัดให้ไฟไหลเข้า ช๊อตให้หัวตั้ง ไม่งั้นก็จะเล่นเกาทัณฑ์ PLC (เกาทัณฑ์ยุคใหม่ที่ท่านอาจารย์ขงเบ้งออกแบบให้ Programable????) ยิงแม่มเลย!!! แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 01:11:43 จากคุณ : axolot - [ 10 พ.ค. 51 01:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 108 พี่จิมมี่ครับ ความเห็นที่ 100 มีรางวัลหรือเปล่าครับ   จากคุณ : Cao Cao (ACM) พี่จิมมี่ให้หอมแก้ม1ทีครับ จากคุณ : axolot - [ 10 พ.ค. 51 01:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 109 พรุ่งนี้มีสัมนา9โมงเช้ายังนอนไม่หลับเลยเข้ามาป่วนกระทู้เล่นๆๆอ่าครับ  อิอิอิอิอิอิอิ  อาทิตย์นี้เรียนเสร็จแล้วจารีบบึ่งไปหานะจ๊ะ  อาทิตย์นี้เจอกานจ้า จากคุณ : axolot - [ 10 พ.ค. 51 01:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 110 คุณACM เป็นชื่อเป็นโจโฉแทนแล้วหรือ 555  เค้าแค่แซวเล่นเฉยๆเปลี่ยนชื่อเลยหรือเจ้า  แต่ก็ดีละมีโจโฉมีกุยแก งั้นพี่จิมมี่เป็นกาเซี่ยงดีไหมคะ  คนนี้ตายดีนะ แก่ตายแบบปกตินะเจ้า @^ . ^@ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย ********************************************* ครับจะได้ไม่เกิดความสับสนไงครับ เกิดมีใครทักชื่อนี้ขึ้นมา ^_^ ----------------------------------------------------------------------- พี่จูล่งสบายดีนะครับ ไม่ได้คุยกันเลย ----------------------------------------------------------------------- คุณACMครับ ผมอ่านใจพี่จิมมี่ได้ว่า คุณได้สิทธิ์การเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารในวันสนทนาธุรกิจครับ จากคุณ : เงาหัวฉันหาย พี่จิมมี่ให้หอมแก้ม1ทีครับ จากคุณ : axolot ********************************************* อะ.......     555+  ^_^ จากคุณ : Cao Cao (ACM) - [ 10 พ.ค. 51 02:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ทำสวนกระแส มาเรื่อยๆครับ ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเท่าไรนัก อยู่ใต้ดินแต่ไม่ผิดกฎหมายละกัน หวัดดีทุกคนครับ ครึกครื้นกันดีจังเลย จากคุณ : =[ชงเข้ม]= - [ 10 พ.ค. 51 06:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ดีคับพี่ ทำร้านเน็ตรายได้ลดลงเนื่องจากคนเปิดเยอะคู่แข่งมาก กำลังซื้อลูกค้าลดลงตามสภาพแต่ไม่มากนัก เนื่องจากทำเลค่อนข้างดี ตอนนี้ส่งออกกำลังดีขึ้นอยู่กะทวีปที่ส่งไปอ่ะ ใครพอจะรู้จักโรงงานทำ package สวยๆ เช่น กล่องกระดาษ มั่งคับ ต้องการด่วน มี designer ด้วยก้อดีคับ จากคุณ : sabsa (sabsa) - [ 10 พ.ค. 51 11:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 113 วันที่ได้ดูพี่เอ (ดีอาร์) ให้สัมภาษณ์ทางทีวี  จำได้ว่าเห็นด้านหลัง เดอะ ชงเข้มแว้บๆ ด้วย สงสัยใช่มั๊ยครับ ว่าทำไมเพียงเห็นด้านหลังนิดเดียว  ทำไมจำได้   แต่อันนี้ไม่บอกครับ  เอาไว้ไปเจอตัวเองจะดีกว่า  อิอิ ถ้าเห็นเต็มหน้านี่  สงสัยมีเกิดนะครับ  มีเกิด  แต่เกิดอะไรดีหว่า   555 แซวเล่นนะครับ  อย่าซีเรียส   ถ้าโกรธ  เดี๋ยวไปให้เลี้ยงสุรา ก็คงหายโกรธมั๊ง  ^__________^" วันนี้เอาไว้ก่อนนะครับ  พรุ่งนี้ได้คุยกับเพื่อนๆ แล้วจะเอาไอเดียมาต่อ กันอีกที จากคุณ : ขอเป็นกาเซี่ยงสักวัน (Jimmy Walker) - [ 10 พ.ค. 51 16:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 114 กลับมาแล้วค่ะ แต่นั่งนานๆ ยังไม่ค่อยได้ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรทุกท่านนะคะ จะต้องรีบหายไวค่ะเพราะงานเยอะ เฮอๆ ปล. ช่วงนี้ฮิตสามก๊กกันเหรอคะ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 10 พ.ค. 51 16:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ขอบคุณแนวคิดคุณaxolot ด้วยนะคะ อ่านแล้วทำให้ใจชื้นขึ้น ยอดขายเราไม่ตกนะคะ แต่ทว่าที่ตกคือกำลังใจค่ะ พักนี้ รายใหญ่ลงมาดิสเครดิตรายย่อยอย่างเราน่าดูเลยล่ะ โพสกระทู้ดิสเครดิตกันก็มี เบื่อมาก ไม่รู้ว่ารายใหญ่หรือคนที่ขายเหมือนกัน หรือไม่ก็มารุมกันสนุกซะ เครียดค่ะ  ตอนนี้ทั้งแฟน ทั้งเพื่อนอีก5-6ก็ออกงานมาช่วยเรา  แต่มาเจอปัญหาคนมาดิสเครดิตกันแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า กำลังโดนทดสอบหนักมาก เราต้องพยุงหลายๆคนในองค์กรเล็กๆของเรา ค่อยๆเดินไปด้วยกัน มันอาจจะสะดุดล้มบ้าง เราได้แต่หวังว่าเค้าจะทนกันได้นะ  และหวังว่าคงยังจะเดินไปกับเรา  แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ ที่ยังมีกันและกันอยู่  ใครทำดีต้องได้ผลดีสิ จากคุณ : ชุติกาญจน์ - [ 10 พ.ค. 51 20:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 116 mark ไว้ว่า อ่านถึงตรงนี้แล้ว... สำหรับ คนที่กำลังมุ่มมั่นบากบั่นอยู่ ผู้ชนะ ไม่เคยล้มเลิกกลางคัน (ถ้ามันเลิก มันจะชนะได้ไงหว่า...) สำหรับ คนที่ล้มเหลวแน่นอนแล้ว ถึงจะแพ้ในสนามนี้... แต่อาจชนะในสนามหน้า สำหรับ ทั้ง 2 คน อยู่อย่างคนธรรมดาๆ น่ะ มันง่าย ใครๆ ก็ทำได้ (อ่ะ งง  งง  มันพูดอะไรของมันหว่า...) สู้ต่อไปครับพี่น้อง จากคุณ : อนาวิน - [ 10 พ.ค. 51 21:31:55 ]

ความคิดเห็นที่ 117 เห่  จะพาเธอนั้นไปลอยทะเล  จะเอากระทู้ไปออกทะเล  เห่ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 10 พ.ค. 51 23:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ทำขายปลีก ส่ง บรรจุภัณฑ์ และ ของใช้พลาสติก ค่าขนส่งขึ้นอีกแล้วครับ แต่ขายราคาเดิม กำไรลดลง  แต่ยอดขายเท่าเดิม พออยู่ได้ จากคุณ : handsumboy - [ 10 พ.ค. 51 23:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 119 รอกระทู้นี้มานานครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : แกะแดง - [ 11 พ.ค. 51 01:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ฮ่าๆๆ axolot ความคิดเห็นที่ 106 พี่ไม่อ้วนขนาดน๊านนน ... เออนะฝากถึง เพื่อนพ้องน้องพี่ อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมรักษาสมดุลของชีวิตด้านอื่นๆ นะครับ "ร่างกายที่เข้มแข็ง และครอบครัวที่อบอุ่น ย่อมทำให้จิตใจแข็งแกร่ง... >>>  มากยิ่งขึ้น" -------------------------------------------------------------------------- เอามาฝาก ... How To Get Six Pack Abs In 6 Minutes On Your Couch. This Works! How to get six pack abs doing this very powerful workout on your couch. You will get ripped abs in only 6 minutes per day. Get more videos for sexy abs at... http://www.metacafe.com/watch/925256/how_to_get_six_pack_abs_in_6_minutes_on_your_couch_this_works จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 11 พ.ค. 51 07:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 121 พี่จูล่งสบายดีนะครับ ไม่ได้คุยกันเลย ----------------------------------------------------------------------- จากคุณ : Cao Cao (ACM) ------------------------------------------------------------------------ สบายดีครับ ... ยิ่งได้เห็นพวกเราพร้อมหน้าพร้อมตากันในกระทู้นี้ยิ่งสบายดีใหญ่ๆ เลย ^_^ เดี๋ยวนี้จะเริ่มแก่ (หรือแก่นานแล้วก็ไม่รู้) เวลาอ่านกระทู้จะอ่านผ่านๆน่ะครับ บางทีไม่ทันเห็นหรือเห็นกันแล้วแต่เกรงว่าจะรบกวนกระทู้ เลยไม่ได้ทักทายกัน แต่แค่เห็นชื่อ ก็ยังระลึกถึงทุกคนเสมอ นะครับ ^_^ จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 11 พ.ค. 51 07:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 122 สวัสดีครับพี่จูล่ง หลังจากอ่านความเห็นที่104ของพี่แล้ว ผมอยากขอข้อคิดเห็นสักหน่อยน่ะครับ จะถามให้ต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนก็มิไหว เพราะพฤหัส ศุกร์ เสาร์ผมเหนื่อยอย่างแรงเลยครับ SMEsเล็กๆก็อย่างเงี๊ยะแหละนะ เห็นพี่พูดถึงWiMAX  3G  4G แล้วเลยอยากขอความเห็นคนในวงการสักหน่อยว่า จะมีผลกระทบต่อกิจการร้านอินเตอร์เน็ตรายย่อยบ้านเราแค่ไหนครับ เพราะผมว่าเพื่อนๆในสีลมก็คงมีหลายๆคนที่ทำกิจการนี้อยู่ สวัสดีครับพี่อนาวิน พี่รู้มั้ยว่าถ้าผมเห็นนักมวยรุ่นแบนตั้มเวทท้านักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทชกล่ะก็ ผมจะนึกถึงนักสู้อย่างพี่เป็นคนแรกๆเลย จากคุณ : เงาหัวฉันหาย - [ 11 พ.ค. 51 11:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 123 สวัสดีค่ะ รอกระทู้มานานเหมือนกันค่ะ  ก่อนนี้ก็อาศัยเข้ามาหาความรู้ในนี้อยู่บ่อยๆ ^^ ตอนนี้กิจการที่ทำอยู่ค่อนข้างเงียบเหงาๆมากๆค่ะ  ทีแรกนึกว่าจะเงียบเพราะปิดเทอมเสียอีก เปิดเทอมมาระยะหนึ่งแล้ว ก็ยังไม่ดีขึ้นเลยค่ะ  ลูกค้าหน้าเก่าๆ ก็มี แต่ เล่นกันน้อยลง ลูกค้าหน้าใหม่นี่ไม่ต้องพูดถึง เฮ้อ เครียดๆ เลยค่ะ เลยคิดว่าจะหาอะไรทำเพิ่มดี เอ่อ! ลืมบอกว่าทำร้านเน็ตค่ะ ยิ่งกฏใหม่ที่กำลังจะออกมา ทำให้อยากเซ้งร้านเลยค่ะ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะลงทุนไปแล้ว แล้วกิจการของท่านๆอื่นๆล่ะคะ ไหนๆ ก็ไหนๆ รบกวนสอบถามท่านๆ หน่อยค่ะว่า ถ้ามีจอคอมฯ เก่าๆ ที่ยังใช้ได้ แต่ต้องซ่อมแซมนิดหน่อย จะเอาไปทำอะไรดีคะ?? ส่วนพวกอุปกรณ์อื่นๆ เช่น mouse หรือ keyboard จะทำอะไรกับมันดีค่ะ?? อย่างคีย์บอร์ด บางทีใช้ไม่ได้แค่ปุ่มเดียว อะไรแบบนี้อ่ะคะ แหะ แหะ ขอโทษค่ะ นอกเรื่องไปไกเลเลย ขอบคุณท่านๆค่ะ แล้วก็พี่จูล่งที่ตั้งกระทู้ขึ้นมา (แบบว่าหนูรู้จักพี่ค่ะ แต่พี่คงไม่รู้จักหนู สมาชิกใหม่อ่ะคะ) จากคุณ : FaQsJuNg - [ 11 พ.ค. 51 16:09:23 ]

ความคิดเห็นที่ 124 อยู่ฝ่ายขายพื้นที่เช่า ค้าปลีกข้ามชาติค่ายหนึ่งค่ะ ตอนนี้ยังขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ แต่คนจะมาเช่าพื้นที่นี่สิคะ หายากจัง จากคุณ : Pan Kong - [ 11 พ.ค. 51 16:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เสียดายนะครับ ไม่ได้ดูคุณ ดีอาร์ ออกทีวี คุณ Jimmy ผมก็ยังเหมือนเดิมครับ อยู่ที่เดิมๆ ชักจะเริ่มเบื่อๆ แล้วเหมือนกัน การซื้อขายหลักทรัพย์ทำผ่านอินเตอร์เน็ตได้ครับ ธุรกิจตอนนี้ลำบากนิดนึง วัตถุดิบต่างๆ ขึ้นราคากันถ้วนหน้า ..........แต่ราคาขายของเราขึ้นตามทันหรือเปล่า ถ้าขึ้นแล้วลูกค้าจะว่าไง คุณ FaQsJuNg มอนิเตอร์ คีย์บอร์ด mouse www.wsk.or.th ชุดนักเรียนมือสอง www.Bannok.com/2hands อุกรณ์สำหรับคนพิการ www.nontapum.com จักรยานเก่า www.thaicycling.com เสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้ว www.fry1985.org จากคุณ : academician - [ 12 พ.ค. 51 00:44:50 A:130.18.158.172 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 126 เมื่อวานนี้  ด้วยเหตุต่าง ๆ กันไป  ทำให้หลายคนต้องพลาดการร่วมสนทนา ธุรกิจกับเรา  ทำให้มีมากันเพียง 6 คน เท่าครั้งก่อน  เพียงแต่เปลี่ยนหน้า ไปบ้าง  แต่แค่ 6 คนนี้ก็ทำให้การสนทนาคราวนี้สนุกสนานและได้ไอเดีย กลับไปกันพอสมควร  โดยเฉพาะคนที่เอากรณีของตัวเองไปปรึกษาและ ให้เพื่อนๆ ลองช่วยคิด ได้ทั้งลับสมองคนช่วยคิด  และคนเอามาให้คิดก็ได้แนวทางใหม่ ๆ ไป คราวหน้าท่านที่พลาดไป  หากยังสนใจอยู่ก็มาร่วมเสวนาได้นะครับ แล้วจะแจ้งรายละเอียดอีกครั้ง ดีใจที่พี่academician มาร่วมแจมความคิดกับเราอีกเรื่อย ๆ และยินดีรู้จัก อีกหลายท่านที่เข้ามาร่วมเล่าประสบการณ์ของสายธุรกิจต่าง ๆ นะครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 12 พ.ค. 51 09:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 127 เป็นกระทู้ที่ดี รวมจอมยุทธเสี่ยมล้อมาปรับปทุกข์กัน สภาวะเหมือน ตู้ปลาที่น้ำเน่า ขาดอ๊อกซิเจน และไม่มีอาหาร ปลาตัวเล็กๆ ความต้านทานน้อย ค่อยๆ ตาย ม่ายก้อโดนตัวใหญ่ไล่กิน ตัวใหญ่ก้อมโรค เริ่มมีแผลถลอกปอกเปิก ผอมโซ และเริ่มกัดกันเอง หลายหลายตัวกระโดดออกจากตู้ปลา น้ำดำจนมองกันแทบไม่เห็น อีกนานมั้ย น้ำจะหายเน่า อีกนานมั้ยจะมีอ๊อกซิเยน เราก็จวนกระโดดจากตู้ปลาแระ จากคุณ : ยิ่งกว่าปี 40 (กระบี่ไร้คม) - [ 12 พ.ค. 51 10:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เข้ามาดูแล้วเดี่ยวมาตอบมาคุยด้วยจ๊ะขอเคลียงานก่อนวันนี้งานยุ่งมากเลย   ชุติกาญจน์   ขอบคุณฮับ  ^0^ ว่างๆๆมาเม้ากานสดๆๆสิฮับมันส์แน่นอน  แต่ต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆๆมานะครับมะวานไปเม้าส์กานมากัดกันเลือดสาดโต๊ะกาแฟ  อิอิอิอิอิเดี๋ยวมาเม้าต่อครับ วันนี้บ่ายๆๆจะมาแฉ.................อิอิอิอิ จากคุณ : axolot - [ 12 พ.ค. 51 10:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 129 สวัสดีครับพี่ วันนี้มาช้าเลย.....ต้องไปหาหมอผ่าฟันคุด วันนี้คงพูดอะไรมากไม่ได้ .......เกี่ยวกันไมนี่ 555+ บ่ายๆ มาต่อครับ จากคุณ : Cao Cao (ACM) - [ 12 พ.ค. 51 11:54:59 ]

ความคิดเห็นที่ 130 กราบแนบหว่างซอกอก ง่ามหลืบของหัวใจ สำหรับสมาชิกชาวพันทิพย์และผู้อ่านทุกท่านครับ    เช้านี้วุ่นวายมากเนื่องจากมะวาน เช้าก็ต้องหอบสังขาลอันไม่สมประกอบ(ไปหาคุณหมอมา หมอบอก หัวใจพิการครับ พิการความรัก อ่ะฮิ้ว....)ไปเรียนแต่เช้า หลังจบคราสก็รีบบึ่งกระบะคันเก่ง เจ้าของหัวใจ3000เทอร์โบว์ ไปหาพี่ๆๆระหว่างทางแวะเติมน้ำมันซะหน่อย  น้องๆๆเติม300 เดชะบุญไม่น่าเชื่อแค่เอี้ยวตัวไปหยิบเงินมาจ่ายก็เห็นเด็กมายืนเก็บเงินข้างรถ พี่ครับเติมเสร็จละครับ   โอ้วววววววววววววววม่ายยยยยยยยยยยยยยอารายกานนี้300น้องเติมได้ในชั่วเอี้ยวตัวเพลงยุทธช่างลึกล้ำ  พอหันไปดูหัวจ่ายน้ำมันเงิน300ได้ดีเซลมา8.7ลิตร พระเจ้าช่วย!!!!!กล้วยทอด!!! ต้นทุนชีวิตตรูสูงขนาดนี้เลยนะบุญที่อาทิตย์นึงขับรถแค่วันเดียวที่เหลือทำงานอยู่บ้าน  หมกตัวในร้านเล็กๆๆ พอไปถึงก็เจอะเจอสาวงาม ช้างเผือกในเมืองใหญ่หาหญิงใดเทียบเทียมเท่าได้ (แผลบๆ ค่านายหน้า200นะพี่ที่ชม) พี่กุ้งของเรา(น้องของมะหมา)ก็คุยกันตามประสาพี่น้อง สาธยายความเฮฮาปาจิงโกะในความเป็นไปของงานในช่วงนี้ พี่กุ้งก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเล่าความเป็นไปให้ฟังในเนื้องานบางส่วนทำให้ได้เปิดโลกทัศแก่ผมมากขึ้น ประหนึ่งผู้ดำเนินรายการ ดิสคาว์เวอร์รี่ชาว์แนว มาบรรยายถึงความเป็นไปในชีวิตของคนทำงานอีกมุมมองหนึ่งที่แอบซ่อนเร้นไว้ในสังคมคนทำงานและธุรกิจ   นั่งคุยไม่นานนักนักบัญชีหนุ่ม ผู้มาในมาดสุขุมรอบคอบดูดีมีชาติตระกูล ประหนึ่งจอมยุทธชอลิ้วเฮียมากลีลาวาทะศิลป ย่างเข้ามาในร้านดั่งหงษ์ร่อน บวกกับรอยยิ้มตรึงใจแก่เด็กเสริฟกาแฟและเพื่อนๆๆในร้าน   โอ้ว ข้าน้อยขอคาระวะท่านจอมยุทธ ACM ผู้มีความพลิกแพลงไม่รู้จบ(ตรงไหนดี)ในการบัญชี  ความมันส์ก็บังเกิดขึ้นเมื่อคนเริ่มมากปากก็เริ่มไม่ได้หุบกันละเพราะแต่ละท่านก็เริ่มสำแดงวาทศิลปที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงานธุรกิจการค้าต่างๆๆที่ตนเองถนัดไม่ว่า กระบี่บัญชีเดียวดายของท่าน ACM  การตลาดสะบันรักหักอกสามศอกของพี่กุ้ง  คงมีแต่ข้าน้อยผมด้อยวิชา คอยเก็บสะสมความสามารถของท่านเหล่านั้น   และแล้ว จอมยุทธก้วยและแม่นางอึ้งแห่งเกาะดอกท้อก็เข้ามาในร้าน พี่จิมมี่และพี่แก้ว ผู้เป็นดั่งเสาหลักในยุทธจักร(การเม้าส์...)ในวันนี้ก็เข้ามาเป็นประมุขในการเสวนาเฮฮาปาจิโกะ  พี่จิมมี่ทักทายทุกคนแบบอบอุ่นเหมือนเดิม(ดีนะไม่สวมกอด เอิ๊ก..เดี๋ยวใจละลายโหมดด) พี่แก้วผู้เป็นหลังบ้านที่เข้มแข็งและแผงด้วยปัญญาก็ยังคงนำมาซึ่งรอยยิ้มอันอบอุ่นเหมือนเดิม เมื่อคนเริ่มมากขึ้นก็เริ่มบรรยายกันว่าช่วงนี้ใครเจออะไรมีความเป็นมาอย่างไรและจะเป็นไปอย่างไรในแนวทางการทำงานแต่ละคน  ตรงส่วนนี้ขอไม่เล่าเพราะเล่าไป20หน้าก็ไม่จบ เพราะประหนึ่งดั่งเขื่อนที่ได้แตกออกพลังแห่งสายธารน้ำลายที่แต่ละคนสะสมกันมาได้ทะลักไหลบ่ากาลเวลาที่แห่งความสุขที่แสนสั้น แต่เอะ!!!ยังเรายังไม่จบแค่นั้น หากใครได้ไปในการเม้าส์ครั้งนี้  ทางทีมงานเราภูมิใจเสนอ "น้องโย"  คุณกำลังมีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ใช่ไหม  คุณต้องเบื่อกับการจามน้ำมูกน้ำลายไหลมานานเท่าไหร่  น้ำตาคุณเล็ดออกมามายมากเพียงไหนจากภูมิแพ้  ทางทีมงานเราภูมิใจเสนอนวัตกรรมใหม่แก่ผุ้ที่มีปัญหาภูมิแพ้เรื้อรัง  "น้องโย" หนุ่มโสดหน้าตาดีมีความกล้ากับลีลาพูดน้อยต่อยก็น้อยตามๆๆกานปาย   น้องโยผู้คิดค้นระบบกรองฝุ่นที่มากกว่าการกรองฝุ่น  หยุดก่อนไม่ใช่แค่นั้น น้องโยยังมีมุมมองความขยันหมั่นเพียรในการศึกษาการค้าด้วยความมุ่งมั่น   สาวใดสนใจสามารถจับจองหัวใจได้ที่ เวปพันทิพย์ห้องสีลม หากคุณสนใจโฟสขอเป็นว่าที่แฟน ภายในวันนี้ตอนนี้  ทางกระทู้เรายินดีให้น้องโยเลี้ยงกาแฟคุณฟรีในการเม้าคราวหน้า แต่..อ่ะอ่ะอ่ะไม่ใช่แค่นั้น  ทางเรายังแถมตั๋วหนังดูฟรีๆๆกะน้องโย 2ต่อ2 อีกต่างหาก  ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสอง แต่ของสมนาคุณของเรายังมีอีกครับ  ไอติมหนึ่งถ้วยขณะรอดูหนังกับน้องโย  หากคุณสนใจ โฟสตอนนี้วันนี้ 3ท่านแรกจะได้ของสมนาคุณ ตามที่กล่าวมาในข้างต้น จบดีก่า....เอิ๊ก...  พิมไปพิมมาลืมปายว่ายังไม่ได้ทานยาตามที่หมอสั่งเยย.......สาระเดี๋ยวมาโฟสใหม่อีกรอบนะครับ  ว่าไปเม้าส์มาได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง  เอิ๊กๆๆ  เอ๋ทำไมหลังคาที่บ้านตรูชักสีแดงๆๆ จากคุณ : axolot - [ 12 พ.ค. 51 12:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 131 5555++ จากคุณ : ACM - [ 12 พ.ค. 51 13:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 132 กลับมาสาระนะครับ  คือผมไม่ใช่คนที่ชอบสาระอะไรมากๆๆไม่ชอบอะไรที่ต้องเครียดมากกมายกับการคุย เพราะชีวิตประจำวันทุกๆๆท่านที่เข้ามาอ่านก็เครียดพออยู่แล้ว  ฉะนั้นขออนุญาตโฟสแบบไร้สาระ+กึ่งสาระ คละๆๆกันไปนะครับ  หากจะคุยสาระอย่างเดียวก็คงไม่ไหวไม่ใช่สไตร์ผม ไร้สาระเลยก็เหมือนคนบ้า (ซึ่งปกติก็เหมือนมากพอละ) มะวานไปคุยกับพี่ๆๆเพื่อนๆๆมาทำให้ได้แง่คิดมาว่า  ปีนี้ทุกอย่างคงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่แผงซึ่งความท้าทายเป็นหลัก ท้าทายยังไง  ท้าทายที่เราจะต้องพยุงตัวเองให้รอดจากสภาพอย่างนี้ไป  เพื่อที่จะสามารถกอบโกยส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นในภายภาคหน้า  ถามว่าเอะแล้วมันจะมากได้ไงใน2ปีข้างหน้า  ขอตอบตรงนี้ว่าในมุมมองส่วนตัวผม  ผมมองตัวเองเป้นหลักใครจะยังไงแข่งขันกันดุเดือดแค่ไหน ผมก็แค่มองเก็บข้อมูลแต่ไม่เอามาทำให้จิตตก  เช่นร้านนู้นตัดราคา 7/11 จัดโปรโมชั่น โลตัสลดราคาสินค้า  ในวิกฤษต่างๆๆย่อมมีโอกาสเสมอ  ผมต้องมองให้ขาดในกลุ่มลูกค้าของผม  หลายๆๆคนซื้อที่คุณภาพเช่นสินค้าจำพวกเบียร  ห้างขาย38 ผมขาย40ผมก็ขายได้ยอดก็ไม่ลดลงเพราะผมสร้างความต่างในสินค้าด้วยรสชาติแห่งเบียรที่เย็นฉ่ำไม่ต้องใส่น้ำแข็ง จนทำให้รสชาติที่เจ้าของเบียรประโคมโฆษณาแทนผมว่าเบียรเค้ารสชาติดีเลิศเพียงใดให้เสียไป  ทีนี้เนี้ยทำไมผมมองว่าอีก2ปีส่วนแบ่งผมจะเพิ่มขึ้น  ก็เพราะในช่วงนี้หลายๆๆตัดราคากันจนเริ่มๆๆตายกันไป  เฟรนชายต่างๆๆมีกฎเกณที่แน่นอนในยอดขายหากไม่ถึงต้องปิดตัวเองลง     มองภาพไกลๆๆอีก2ปีข้างหน้าคู่แข่งลดลง ตลาดเท่าเดิม ยังไงซะส่วนแบ่งผมมากขึ้นแน่นอน   เมื่อวานคุยกับพี่กุ้งพี่กุ้งก็เปิดมุมมองในการค้าขายแบบมหาภาคและระดับประเทศ ว่าต่อไปจะมีทิศทางยังไง ประเทศไหนน่าลงทุนในแบบที่เราจะจ้างเค้าผลิตหรือเข้าไปลงทุน    ประเทศไหนที่เราต้องเตรียมถอนตัวเนื่องด้วยสภาพและปัจจัยที่เปลี่ยนไปในสภาวะเศรษฐกิจของโลก ไม่ว่าจะเป็นด้วยค่าเงิน ค่าขนส่ง ราคาน้ำมันโลก  อาจจะดูไกลตัวสำหรับผมในเรื่องเหล่านี้แต่สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนกลับมาสู่มุมเล็กๆๆที่ผมอยู่ได้แน่นอนเพราะสินค้าหลา ยๆๆอย่างสุดท้ายจะมาจบที่ผู้บริโภค ซึ่งเป็นบุคคลที่ผมต้องพยายามเข้าใจพวกเค้าเพื่อการค้าขายของผม   ที่สำคัญการตลาดของพี่กุ้งสอนมุมมองที่น่าประทับใจในการจับจุดขายเพื่อเอามาดัดแปลงใช้กับงานของตัวเอง คุณACM มีมุมมองด้านการเงินการบัญชีทำให้เข้าใจถึงปัญหา เงินเฟ้อ งดดุลต่างๆๆภายในประเทศ สภาะวะเศรษฐกิจ การแข่งขันในกลุ่มผู้ชายบริการด้านต่างๆๆ ซึ่งตรงนี้ใกล้เคียงกับพี่จิมมี่ ซึ่งอยู่ในหมวดหมู่การขายบริการเหมือนกัน  ทำให้เข้าใจสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมากขึ้น  ว่าการแข่งขันในส่วนนี้สูงและยากเพียงใด เพราะความแตกต่างของสินค้านั้นน้อยมากแต่จะมาตัดกันจริงๆๆคือความสัมพันธ์ส่วนตัวมากกว่าราคาค่างวดในการซื้อบริการนั้นๆ น้องโย ทำให้ผมได้เข้าใจถึงระบบการทำตลาดเพื่อขายสินค้า โดยนำสินค้ากระจายเข้าสู่ตลาดที่ใหญ่มากขึ้น  ทำให้ทราบถึงความยากและปัญหาต่างๆๆรวมทั้งส่วนแบ่งที่ต้องเสียไป เพื่อนำสินค้าเข้าสู่ช่องทางกระจายสินค้า ซึ่งตรงนี้พี่กุ้งได้อธิบายถึงระบบระเบียบขั้นตอนที่เราจะนำสินค้าเข้าสู่ห้างใหญ่ๆๆได้อย่างชัดเจนว่าต้องคำนวนถึงสิ่งใดบ้างก่อนตัดสินใจนำสินค้าของเราเข้าสู่วัฐจักเหล่านี้  ซึ่งผู้ประกอบการทุกท่านจะต้องคำนึงถึงต้นทุนที่แท้จริงเข้าใจในธุรกิจต่างๆๆอย่างแท้จริงก่อนที่จะลงทุนทำ   ผมมองงี้นะการที่เราสามารถตัดเบี้ยบ้ายรายทางต่างๆๆไปได้ทำให้เราสามารถพยุงตัวเองผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ง่ายขึ้น การตลาดในรูปแบบที่ไม่ตายตัวและเข้าใจถึงหลักการตลาดที่ดีพอ เช่นการทำโฆษณา กับการทำประชาสัมพัน  สร้างความแตกต่างในต้นทุนของเรามากเลยละ   ขออนุญาตพักเคลียสต็อคก่อนนะครับไว้กลางคืนจะกลับมาเขียนเพิ่มเติมใหม่ในส่วนของสารนะครับ     ปล.  มิได้อยากทำตัวเป็นกรูรูใดๆๆนะครับแค่อยากเข้ามาคุยเข้ามาแบ่งปันกัน    อยากเข้ามาคุยเพื่อแชร์ความคิดเห็นกับเพื่อนๆๆนะครับ  ท่านใดมีมุมมองดีๆๆก็เข้ามาคุยๆๆแบ่งปันกันได้นะครับ  ทุกมุมมองไม่มีใครถูกใครผิด  เพราะคน2คนก็มองกัน2มุม 10คนก้10มุมไม่มีใครมาวัดได้ว่าของผมถูกของคุณผิด เพราะปัจจัยพื้นฐานก็ต่างกันความเป็นมาสิ่งแวดล้อมการเติบโตต่างกันครับ  งานเลี้ยงที่ผลัดกันจัดจะไม่มีวันเลิกลาครับ งานเลี้ยงที่เลิกลาคืองานเลี้ยงที่มีคนจัดแค่คนเดียว  ฉะนั้นเรามาแบ่งปันมุมมองดีๆๆเฝื่อเป้นแง่คิดแก่เพื่อนๆๆคนอื่นๆๆกันนะครับ  เรื่องบางเรื่องหลายๆๆคนรู้อยู่แล้ว  แต่มองข้ามไปในบางเวลาก็มีเยอะแยะนะครับ  ^ ^ จากคุณ : axolot - [ 12 พ.ค. 51 13:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 133 อ้อเกือบลืม ความรู้ยิ่งแบ่งปันยิ่งงอกงามนะครับ  คนที่ไม่แบ่งปันความรู้ก็จะมักมีมุมมองแค่ของตนเอง องค์ความรู้ต่างๆๆที่มีจะไม่งอกงามขึ้นเลยแต่กลับหดหายไปตามกาลเวลานะจ๊ะ จากคุณ : axolot - [ 12 พ.ค. 51 13:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 134 สำหรับงานบริการแล้ว ไม่สำคัญว่าเราเป็นใคร จะเก่งแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญ อยู่ที่ว่า เรารู้จักใคร แล้วใครบ้างที่รู้จักเรา คนที่ดังที่สุด มีลูกค้ามากที่สุด ก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งที่สุดด้วยเสมอไป . . . ปล. อ้อ....การแข่งขันในกลุ่มผู้ชายบริการด้านต่างๆๆ นี่มันอะไรอะครับพี่   แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 51 13:49:46 จากคุณ : ACM - [ 12 พ.ค. 51 13:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ไม่นะ ผมไม่ใช่.....5555+ จากคุณ : ACM - [ 12 พ.ค. 51 13:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 136 สาวน้อยร้อยแปด   หายไวๆๆนะครับ สุขภาพที่ดี ย่อมทำให้จิตใจดี  จิตใจดี งานที่ทำก็ออกมาดีครับ  ^ ^ FaQsJuNg   จอคอมเข้าใจว่าซ่อมใช้งานได้นะครับเอามาเลย์หลังขายจะดีไหมเอ๊ย จอละพัน2พัน ยังไงมันก็เงินนะ   เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นเงิน  พวกเมาส์ คีย์บอร์ด ผมเข้าใจว่ามีส่วนที่เป็นทองแดงนะครับ น่าจะพอเอามาขายได้ไหนจะสายไฟเอยดีกว่าทิ้งให้มูลค่ามันเท่ากับศูนย์   กิจการด้านร้านคอมพิวเตอร์แถวบ้านผมก็เงียบครับ  ผมว่าตลาดตรงนี้เริ่มอิ่มตัวสุดๆๆจนน่าจะเป้นขาลงแล้วละ ชุติกาญจน์   ผมว่าลองมองตอนที่โออิชิมีปัญหาสิครับน่าจะเป็นกรณีศึกษาได้ดีเลยว่าคุณตันใช้ปัญหาตรงนั้นโปรโมทตัวเองให้ดีขึ้นและดังได้อย่างไร Pan Kong   คนมะค่อยมีเงินกานนะครับ  เปิดร้านก็ขายยากห่วงเรื่องค่าเช่าว่าจะเอาที่ไหนมาจ่ายกานดี  ^ ^'   ว่างๆๆรบกวนเอาพื้นที่(หัวใจ)ที่ว่างของผมไปฝากปล่อยเช่าด้วยนะครับ  แฮะๆๆๆๆ ยิ่งกว่าปี 40 (กระบี่ไร้คม)  ผมมองว่าปี40แค่เอเชียครับจิ๊บๆๆปีนี้น่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจโลก  ไม่หนักหนามากแค่ปางตาย  ฮะฮะฮะ   คนมองโลกในแง่ดีมักเห็นโอกาสในทุกปัญหา นะครับ  เพราะถึงมองในแง่ลบเราก็ใช่ว่าจะหนีปัญหาได้กลับยิ่งทุกข์ใจมากกว่าเดิม เราโดนคู่แข่งเราก็โดนครับ   academician   ไม่รู้จักพี่เป็นการส่วนตัวแต่อ่านที่พี่โฟสแล้วว่างๆๆมาให้คำแนะนำน้องๆๆกับมุมมองดีๆๆอีกนะครับ  จะเป็นความเมตตาอย่างสูงเลยครับ จากคุณ : axolot - [ 12 พ.ค. 51 14:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ปล. อ้อ....การแข่งขันในกลุ่มผู้ชายบริการด้านต่างๆๆ นี่มันอะไรอะครับพี่   ผู้ชายบริการ=ACM  และตะเองเป็นผู้ชายมะละ  และงานตะเองขายบริการมะละ คิคิคิคิคิคิ จากคุณ : axolot - [ 12 พ.ค. 51 14:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 138 555555++ . . . เอ......นั่นสิ จากคุณ : ACM - [ 12 พ.ค. 51 14:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 139 สวัสดีครับ เมื่อวานพลาดไปอย่างไม่น่าให้อภัย พูดไปก็เหมือนแก้ตัว บอกได้แค่ว่า เสียใจและเสียดายครับ อดร่วมชุมนุมชาวยุทธ์เลย :D จากคุณ : Jiang wei - [ 12 พ.ค. 51 14:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 140 รู้สึก ขดหยัก ในสมอง ทำงานหนัก จะรุก ตลาด ไตรมาส สาม . . .ยังละล้าละลัง ด้วย เหนื่อยสะสม แล้วก็ ไม่แน่ใจ กับ การปรับท่าที ที่ กลุ่มลูกค้า ตลาดดัน จากระดับกลาง ไปสู่ระดับบน ไม่ชน กับ พวกสอนในห้าง พวกนั้น อาศัยฝากเลี้ยง ตักลูกค้า ที่มา shopping ในขณะที่ความคิดจิตใจ Niche เสี้ยวของหัวใจ ที่ เลือก พื้นที่ ใกล้ๆ เล็กๆ เพราะขี้เกียจ แต่งตัวเข้าห้าง หรือ เราจะมีโฉลก กับ Niche Clients ซึ่งอยู่เป็นส่วนเล็ก ของเค้ก ชิ้นใหญ่ กวดวิชา ส่วนใหญ่ กิน Mass แย่ง tolls แย่ง ม ปลาย  แต่ เรากำลังเก็บ กระจาดที่เหลือ ตอนนี้ ไม่รู้ทำไม จิตใจ อ่อนล้า ตาอ่อนแสงซะเหลือเกิน บางที ถึงเวลาปรับตัว กระบวนยุทธ์ รับ Season เปิดเทอม แล้ว จากคุณ : Ich bin sehr Muede (kuddle) - [ 12 พ.ค. 51 23:31:12 ]

ความคิดเห็นที่ 141 อ่านความคิดเห็นแต่ละท่าน แล้วอึ้ง ดูมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจจริงๆ แถมยังรู้รอบดั่งกุนซือใน สามก๊ก กันอีกหลายท่าน มัศัพท์แสงวิชาการมากมาย เราคล้ายประหนึ่งนักศึกษาด้านอื่นมา ลงทะเบียนเรียนวิชาเลือกทั่วไป เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น แต่ดันลืมจดหมายเลขห้องบรรยาย ผลเข้าห้องผิดไปเข้านั่งเรียนร่วมกะพี่ ป.โท MBA อาจารย์ก็ไม่ได้ว่าไรเราก็ทำเป็นเนียน ช่างดูกลมกลืนทั้งที่จริงแล้วเราฟังรู้เรื่องแค่นิดหน่อยเอง ได้แต่อืมๆ ไปงั้นแหละ 5555 พูดถึงเรื่องข้าวต่ออีกหน่อย ข้าวนาปรัง แต่เดิมทำกันมากในภาคกลางด้วยมีน้ำทำนาจากระบบชลประทานและมีการปฏิรูปที่ดินเกษตรกรรม (แปลงนายาวๆติดถนนและน้ำ) ด้วยแนวโน้มราคาข้าวที่สูงขึ้นและเทคโนโลยีจักรกลเกษตรแพร่หลาย (รถไถขนาดใหญ่และรถเกี่ยวนวด รับจ้างมีมากขึ้น) ชาวนาในภาคเหนือ และ ภาคอีสานจึงหันมาทำนาปรังกันเพิ่มเติมจากเดิมที่เคยทำแต่นาปี การลงทุนของชาวนาในแต่ละปีจึงเพิ่มสูงขึ้น ยิ่งเจอน้ำมันแพง ต้นทุนค่าปุ๋ยปัจจัยการผลิตก็ยิ่งแพง ทั้งยังชินกับการปลูกข้าวเหนียวที่เดิมปลูกไว้กินชาวนาภาคเหนือและอีสานจึงมีความเสี่ยงมาก ที่จะขาดทุนเพราะตลาดข้าวเหนียวมีจำกัด ต่างจากข้าวจ้าวที่กินกันทั่วโลก วันนี้เราจึงเห็นข่าวการประท้วงเรื่องข้าวเหนียวนาปรังกันมาก ในฐานะคนทำธุรกิจเกษตรเกี่ยวข้องกับชาวนา จึงได้รับผลกระทบตามไปด้วย เจ้าหน้าที่การค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดออกตรวจสต็อคข้าวสาร ตรวจดูภาวะการซื้อขายและราคาข้าวเปลือกว่ามีการกดราคาชาวนาไหม ใช้เครื่องมือวัดความชื้นและตาชั่งผ่านมาตรฐานไหม เป็นต้น ผลการตรวจโรงสี ท่าข้าวตรวจผ่านทุกโรง แต่เมื่อให้ข้อมูลราคาซื้อและขายกะเจ้าหน้าที่ไปแล้วเขายิ่งแปลกใจ ใช้เงินวันนึงเป็นล้านนึกว่าจะรวยไหงได้กำไรนิดเดียว แล้วมันพอจ่ายดอกเบี้ยเหรอคับ ถ้าผมขายได้ถูกแล้วผมซื้อแพงผมก็คงไม่รอดล่ะครับ ราคาข้าวที่แพงขึ้นผิดปกติช่วงก่อนจนถูกลงแล้วในเวลานี้ (ขึ้นเร็ว ลงแรง) เกิดจากมือที่มองไม่เห็น มองแง่ดีก็กลไกตลาด มองแง่ร้ายก็มีเจ้าคอยปั่น เจ้าหน้าที่ยังอือๆตาม 5555 ด้วยผลผลิตที่มีจำนวนมาก คู่แข่งก็มาก ธุรกิจนี้จึงมีกำไรต่อหน่วยน้อย อีกทั้งอ่อนไหวต่อคะแนนเสียงการเมือง ความเสี่ยงจึงมีสูง ครั้นจะปรับเปลี่ยนแนวทางก็ติดขัดเรื่องทุน ด้วยธนาคารเขาไม่ค่อยปลื้มวงการนี้แล้วเหอๆ ไม่งั้นคงได้ลงทุนทำไรเพิ่มเติมกันบ้าง เช่นมีผลิตภัณฑ์ ข้าวหลากสี ข้าวสมุนไพร เสริมด้วยสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล(ใช้แกลบ)เล็กๆสักโรง จากคุณ : วิศวกรออกมาทำธุรกิจ ([killer]...hehe) - [ 13 พ.ค. 51 01:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ช่วงนี้มาขอเก็บความรู้จากท่านอื่นไปก่อนบ้างนะครับ  แล้วจะหาช่องแชร์ ไอเดียไปตามสถานการณ์ อย่างเรื่องข้าวนี่่  ผมคิดว่าเอาเองว่า  รัฐไม่ค่อยสนับสนุนวงการนี้อย่างจริงจัง และเป็นกระบวนการ  เหมือนจะสนับสนุนอุตสาหกรรม  แต่ไม่ช่วยพัฒนา คุณภาพคนงานด้วย วงการเกษตรนั้น  รัฐก็น่าจะหาทางช่วยเกษตรกรให้มีความรู้ในทางเทคโนโลยี การเษตรให้มากขึ้นบ้าง  และน่าจะมีองค์กรที่คอยควบคุมเรื่องกระแสการ ปลูกพืชแต่ละชนิดไม่ใช้มากเกินไป  หรือให้เขาเข้าใจเรื่องตลาดมากขึ้น ที่ผ่านมา  ผมคิดว่ากระแส demand-supply มันจะสวิงมาก พอปีนี้อะไรราคาดี  เพราะมีความต้องการสูง  ปีหน้าก็จะมีคนปลูกเยอะ กลายเป็นผลผลิตมากเกินไป  ทำให้ราคาต่ำ  เป็นแบบนี้วนไปเรื่อย ๆ ใน ผลผลิตทางการเกษตรชนิดต่าง ๆ  ไม่รู้จบ ไม่ทราบว่าคุณวิศวกรออกมาทำธุรกิจ ([killer]...hehe)  คิดว่าอย่างไรครับ ประเด็นนี้  และน่าจะแก้ได้อย่างไร จากคุณ : Jimmy Walker - [ 13 พ.ค. 51 08:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 143 axolot เดี๋ยวนี้เขียนเรื่องดีนะครับ  เล่าเรื่องได้น่าสนุกดี   ACM แล้วตอนนี้คุณกำลังพยายามรู้จักใครอยู่  เห็นไปป้วนเปี้ยนแถวๆ สภาฯ งานคราวนี้ขาดทั้ง kuddle และ Jiang wei เลยไม่ได้ฟังการปะทะคารม ระหว่างทั้งสอง  คราวหน้ามาให้ได้ทั้งสองคนนะครับ   จากคุณ : Jimmy Walker - [ 13 พ.ค. 51 08:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 144 555++ จากคุณ : ACM - [ 13 พ.ค. 51 09:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 145 เออ คุณaxolotขา  ช่วยย่อหน้าหน่อยก็ดีนะค้า  มันติดกันเป็นพรืดเลย  ข้าเจ้างงอะ -_-' เอาคำคมมาฝากจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 พ.ค. 51 10:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 146 แม่ขี้บ่นลูกสามเองค่ะ  ห่างหายไปนานจากการโพส์ทความเห็น แต่เข้ามาอ่านกระทู้เสมอ  ชอบที่คุณจิมมี่ตั้งกระทู้ค่ะ เลยขอแจมบ้าง แม่ขี้บ่น   อยู่ในวงการอุตสาหกรรมค่ะ  ใช่ค่ะ เป็นกรรมที่ต้องอุตสาหะ ตลอดเวลา   เพิ่งไปออกบูธที่งานสถาปนิกมา ลูกค้าก็เงียบเหงาพอควร ไม่หวือหวาเหมือนสอง สามปีก่อน กว่าจะขายได้  ก็ยากเย็นแสนเข็ญ  เบียดราคากับคู่แข่งก็แทบปางตาย พอขายได้ ต้องหาซื้อวัตถุดิบ ก็ถูกซัพพลายเออร์ บีบราคาขาย จ่ายเงินสด ถึงมีส่วนลด  เครดิตก็สั้นมาก ๆ อยากได้ของเร็วก็ต้องไปรับ ของเอง  จะส่งก็ต่อเมื่อมีรถผ่าน  (เข้าใจหน่อยนะยะ น้ำมันแพง) กว่าจะได้วัตถุดิบมา  ก็เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส ได้สินค้ามาผลิต ก็ต้องกราบอ้อนวอนพนักงานฝ่ายผลิต ที่ตั้งแง่ เรื่องค่าจ้างแรงงาน อยากให้ปรับขึ้นให้ทันข้าวของที่ขึ้นราคา แทนที่จะช่วยกันทำงาน กว่าจะหางานหาเงินได้ ก็แทบแย่ อยากให้มันรู้บ้างว่า  นายจ้างอย่างเราก็แย่เหมือนกัน และเมื่อสินค้าเข้าไซซ์งานติดตั้งเรียบร้อย ก็ต้องเจอ ร้อยเล่ห์ เพทุบายของคุณลูกค้าแสนดี  ที่มีเงิน แต่เหนียวหนี้ กว่าจะตรวจรับงาน ก็อ้างโน่น  อ้างนี่  สารพัด คนตรวจสเปค ประมาณ 5 ลำดับขั้นตอน  กว่าจะแก้งานผ่าน โน่น ปาเข้าไป เกือบร้อยวัน  กว่าจะวางบิล กว่าจะรับเช็ค เฮ้อ ....   กว่าจะได้รับเงินก็.......ตายพอดี ทุกวันนี้ ก็ทำใจค่ะ  ถือซะว่าทำธุรกิจข้ามชาติอยู่ ขายชาตินี้  เก็บเงินชาติหน้า แต่คนขายตายชาตินี้แน่ ๆ ค่ะ ทุกวันนี้ ก็พยายามหายใจเบา ๆ  จะได้ไม่เปลืองพลังงาน แล้วก็หันหน้าเข้าหาวัด  มีธรรมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวค่ะ  สาธุ ก็บ่นกันไปนะคะ  จริง ๆ แล้วมีเรื่องมัน ๆ ที่เกี่ยวกับงาน อยากเล่าเม้าให้ฟังเป็นซีรีส์  เรื่องฮิต แบบที่เค้าลงบ้าง แหะ แหะ  แต่กลัวไม่มีคนอ่าน อีกอย่าง ไม่ค่อยมีเวลานัก  ก็ ไหนจะงาน  ลูก ครอบครัว รวมถึงเวลาส่วนตัว ที่อยากปลีกวิเวก บ้าง   เอาไว้มีโอกาสค่อยมาแจมอีกดีกว่าค่ะ จากคุณ : แม่ขี้บ่น (msju) - [ 13 พ.ค. 51 13:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 147 555++ จากคุณ : ACM แหมพ่อคุณป่าวประกาสให้ชาวบ้านเค้ารู้ว่าตัวเองสั้น จากคุณ : axolot - [ 13 พ.ค. 51 14:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 148 แม่ขี้บ่น (msju)   อาเมน........... มาทีเป็นชุดว่างๆๆเข้ามาตอบอีกนะครับ   วิศวกรออกมาทำธุรกิจ ([killer]...hehe)   คริคริคริคริ  สนใจอยากได้ควายไปไถนาไหมครับ  รู้สึกที่ร้านจะมีอยู่ตัวนั่งอ่าน+ตอบกระทู้อยู่ จากคุณ : axolot - [ 13 พ.ค. 51 14:14:23 ]

ความคิดเห็นที่ 149 Jiang wei  เปลี่ยนจากคำขอโทษเป็นฟูจิมื้อใหญ่ๆๆซักมื้อดีก่าจ๊ะ   ดูน่าให้อภัยกว่าเยอะและเป็นการต่อรองที่ดูสมเหตุสมผล มากก่าอิอิอิอิ Jimmy Walker   axolot เดี๋ยวนี้เขียนเรื่องดีนะครับ  เล่าเรื่องได้น่าสนุกดี     เปลี่ยนจากคำชมเป้นของกินได้มะฮับ  เอาเป็นว่าไปช่วยน้องเจียงจังหารค่าฟูจิ   Ich bin sehr Muede (kuddle)  ลองมองตลาดมหาลัยดูจิครับ  สาวๆๆหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มทำการตลาดแล้วกระชุ่มกระชวย อิอิอิอิอิ จากคุณ : axolot - [ 13 พ.ค. 51 14:35:13 ]

ความคิดเห็นที่ 151 แวะมาลงชื่อค่ะ ตามอ่านมาหลายวันแล้วค่ะ กะว่าจะค่อยๆอ่าน แต่กระทู้ยาวขึ้นเรื่อยๆ จนตามไม่ทันแล้วค่ะ ฮ่า... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 13 พ.ค. 51 18:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 152 เปิดตลาด มหาลัยเอกชน รือ ว่า จะเปิดตลาด ม ต้น จริงๆ ไม่ใช่ นะ มันต้องเปิดตลาด Single Child มากกว่า หรือ เอาหนึ่งบุตร ธิดา จากผู้ปกครอง จะ work กว่า เงินมาจากกระเป๋าเดียวกัน สายงานเดิม แต่ละ chained ก็มาสะกิดยิกๆ เปิดมาต้นปีนี้ ทั้ง non chained , chained จะครบทุกอันอยู่แล้ว . . . เฮ้อ . . . pack กระเป๋าข้ามชาติ ไปอีกรอบ จากคุณ : kuddle - [ 13 พ.ค. 51 21:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 153 สวัสดีคุณ Jimmy , Sea และเพื่อนๆทุกคน 151ความเห็นแล้ว ยังไม่มีเพื่อนที่เป็นโรงงานผลิตสินค้าเข้าโรงงานOEMมาเล่าเรื่องให้ฟังเลย ผมผลิต ยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมทุกชนิต ไฟฟ้า,สุขภัณฑ์,Autopart,และเครื่องมือการเกษตรกรรม ครึ่งปีแรกผมคิดว่าโรงงานยังไปได้ดียอดการสั่งผลิต+++ ลูกค้ารายใหม่ก็มีเพิ่มขึ้น แต่กำไรจะน้อยลง มีบางบริษัทปีนี้ขอลด 7% +ขอเครดิตเพิ่มอีก30วันจาก90วัน+บริจากให้บริษัท ทุก6เดือน อย่างต่ำ10000บาท แต่ผมไม่ให้เลย ส่วนภายในบริษัทก็อบรมพนักงานทุกระดับให้รู้จักประหยัดและลดต้นทุนเช่นอบรม Shindan, Lean ฟรีจากสามาคมไทย-ญีปุ่นที่ได้งบจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้บริษัท SME จากคุณ : soo (soo_erc) - [ 13 พ.ค. 51 22:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 154 สวัสดีเฮียซู (soo_erc) ครับ  โตสวนกระแสแบบนี้  คงต้องขอความรู้จาก เฮียซู  เพิ่มขึ้นมากกว่าเพียง 4 บรรทัดนี้นะครับ  ทำอย่างไรจึงโตแบบนี้ได้ ครับ  หรือตลาดธุรกิจอะไรที่ยังโตได้อีก  รบกวนขอความรู้เพิ่มขึ้นอีกสัก นิดนะครับ  เฮียซู สวัสดีครับพี่ แม่ขี้บ่น (msju)  ตอนนี้หลายคนคงต้องมีธรรมะเป็นที่พึ่ง มากขึ้นเหมือนกันครับ  ผมเองก็ชักจะกลับไปหยิบหนังสือธรรมะจากตู้ มาอ่านบ่อยขึ้นเหมือนกัน  พยายามทำใจให้สบาย ๆ อยู่เหมือนกันครับ จะได้คิดอะไรดี ๆ ออก  และไม่เครียด เมื่อวานได้มีโอกาสไปร่วมสนทนากับผู้ประกอบการSMEs กลุ่มหนึ่ง หลายท่านก็่บ่น ๆ เหมือนกันว่าช่วงนี้การทำธุรกิจยากขึ้น ปัญหาหลายอย่าง  โดยเฉพาะปัญหาด้านแรงงานที่เริ่มหายากขึ้นทุกวัน และค่าแรงก็เพิ่มด้วย  ทำให้ศักยภาพในธุรกิจที่อาศัยต้นทุนสู้กับคู่แข่ง ลำบากมากขึ้น  พี่ที่ไปดูงานแฟร์ ที่ฮ่องกง กับมาเก๊า  ก็บอกว่างานที่ ฮ่องกงก็คนไม่เยอะ  แต่ที่มาเก๊า  ระดับเงียบมากกกกกกกกกก ส่วนใหญ่ตอนนี้หันมาจับกลุ่มลูกค้าในประเทศมากขึ้น  และระวังเรื่อง ศักยภาพของลูกค้าด้วย  ตอนนี้เก็บเงินยากมาก  เดี๋ยวจะขาดสภาพคล่อง ฟังแล้วก็เหนื่อยเหมือนกันครับ  ช่วงนี้ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 51 10:48:45 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 51 06:50:19 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 14 พ.ค. 51 06:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 155 สวัสดีครับเฮียSEA เฮียซู ถ้าผมโดน credit 120 วันบ้าง ลูกค้าคงต้องเผาเช็คไปให้ผมล่ะครับ เพราะม่องไปก่อนแล้ว - -" พี่jimmy ครับ เรื่องศักยภาพลูกค้า ตอนนี้ผมก็ระวังสุดชีวิตเลยครับ คอยเช็คสถานภาพลูกค้าจากการพูดคุยกับลูกน้องระดับกลางๆของลูกค้าอยู่ตลอด (ระดับล่างไม่รู้เรื่อง ระดับบนไม่ยอมพูดความจริง บอกแต่ว่า ดีๆๆ) จากคุณ : Jiang wei - [ 14 พ.ค. 51 07:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 156 สวัสดีครับ เฮียซู (soo_erc) จากคุณ : ACM - [ 14 พ.ค. 51 07:55:43 ]