Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ขอ Series กับเค้ามั่ง เรื่อง "กว่าผมจะผ่านโปรฯ #1 ตอน กว่าจะมาเป็นหางหมา"

    กว่าจะมาเป็นหางหมา

    ขอเกริ่มปฐมบทของ Series เรื่องนี้ด้วยชื่อตอน กว่าจะมาเป็นหางหมา เพื่อแนะนำตัวเองว่าผ่านสมรภูมิใดมาบ้างดีกว่า
    ผมเอง ไม่ใช่เด็กบ้านนอกคอกนาอะไร ไม่ได้เรียนเลิศหรูแต่อย่างใด ด้วยหัวตัวเองชอบการค้าขาย และหาอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ
    ผมจึงได้รูจักคำว่า ทำงาน มาตั้งแต่สมัยเรียน สมัย ม.3 เดินขายเครื่องเขียน และของใช้พลาสติกแถวย่านดอนเมืองให้ร้าน คอนวีเนียนสโตร์
    ตั้งแต่ เซเว่นยังมีไม่กี่สิบสาขา ได้ค่าคอมมาตั้ง 3% ดีใจใจหาย จากนั้นก็มาเรียน ปวช.ข้างๆ  พันทิพ์พลาซ่า ด้วยความที่รูจักหาคอนเนคชั่นกับรุ่นพี่ที่ฝึกงานร้านคอม จนได้รู้จักพี่คนนึงซึ่งพอมีส่วนลดให้เราได้บ้าง พอออกบิลเกินราคาได้บ้าง จึงหันเข้ามาสู่วงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการจับคอมพิวเตอร์จากทิพย์ไปขายนั่นเอง ตอนนั้นกำไรดีมาก เครื่องนึงขายได้กำไรหลายพันบาทอยู่ ต่างกับสมัยนี้ที่ 20 บาทยังลดราคาไม่ได้เลย
    พอเทคโนโลยีเริ่มเร็วขึ้น ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไปซื้อคอมพิวเตอร์เอง ลูกค้าจึงหายากลง และช่วงนั้นผมก็ได้เรียน ปวส. ทางด้าน โปรแกรมมิ่ง ซึ่งมีความรู้ด้านโปรแกรมพอตัว จึงผันตัวเองเข้าสู้ตลาดซอฟท์แวร์ ไมได้เป็นโปรแกรมเมอร์หรอกนะ แต่นู่นน่ะ ขาย cd เถื่อน
    นาทีนั้น ถือว่า hot สุดติด top5 ในวงการ เพราะเราเองรู้โปรแกรมทุกโปรแกรมที่อยู่บนปก CD สนนราคาค่าตัวตอนนั้น วันละ 350+ เข้างานบ่ายสองเลิก ทุ่มนึง และแล้ววันนึงความคิดก็บังเกิด เอ๊ะ ทุกวัน ส่งเงินให้เจ้าของร้าน 2 หมื่นก่วา เค้าให้คืนเรามา 350 ทำไมเราไม่เก็บ  20000 แล้วคืนให้คนอื่น 350 ล่ะ ว่าแล้วก็พลันทันใด ก้าวเข้าสู่วงการเต็มตัวด้วยการเปิดร้านของตัวเอง หากแต่ขาดซึ่ง บารมี และ อำนาจหนุนหลัง
    เจ๊งชิหายวายป่วงไม่มีชิ้นดี เกือบติดคุกติดตาราง สร้างหนี้สินมาจนทุกวันนี้ยังไม่หมด นั่นคือการล้มกลิ้งลงจากเขาแบบเอาตัวแทบไม่รอด
    พอเข้าสู่ช่วงมหาลัยมหาหลอก ก็ได้จับกลุ่มเพื่นทำธุรกิจ Hosting ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงอยู่ จบจบมหาวิทยาลัยชื่อดัง ช้ากว่าชาวบ้านเค้า 1 ปี เพราะมันแต่ทำกิจกรรม ต่าง ๆ นา ๆ จนบางทีการเรียนก็เสียไปบ้าง อ้อ ระหว่างเรียนมหาลัยนั้น ก็ได้ไปทำงานพาร์ททาร์มร้านพิซซ่า
    ตอนนั้นทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความอดทด ความรับผิดชอบ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    และที่ได้มาคุ้มมากก่วานั้น คือสาวสวยที่ล้างถาดพิซซ่าอยู่หลังร้านนั่นเอง ที่อยู่ข้างๆ  เราให้กำลังใจเราเสมอมาจนทุกวันนั้น เรื่องมันก็แปดปีมาแล้ว ยังเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เอ้า ออกทะเลไปนาน กลับมาใหม่ พิซซ่า เป็นอาหารที่ผม ชอบ จึงบรรจงสร้างสรรค์ออกมาได้ อร่อยและน่าทาน ใครที่เห็นผลงานการแต่งหน้าพิซซ่าของผมแล้วจะต้องบอกโอ้โห น่ากิน และรสชาดอร่อยกว่าท้องตลาด เพราะผมใช้การผสมสูตรเอาเองตามใจฉัน ซึ่งจะมีรสชาดที่เป็น limited (นาน ๆ ทำทีนึง ไม่งั้นเดี๊ยวหัวหน้าด่าเอา) ซึ่งก็ได้รูอย่างนึงว่า อะไรที่เราชอบ ทำไปเถอะ ไม่มีคำว่าไม่ดีแน่นอน ถ้ามีโอกาสจะทำพิซซ่าฉลองให้เพื่อนห้องสวนลุมได้ลิ้มลอง ชีสยืดยาวย๊วยแบบในโฆษณาเลย

    เมื่อจบการศึกษา ก็กะว่าจะทำงานพิซซ่านี่และ skill มี ประสบการณ์มี วุฒิมี ก็จะอัพเดรดเป็น ผช.ผจก.สาขาเลย  แต่ทางเดินของเรา บางทีมันก็ไม่ใช่ของเราเสมอไป พ่อของผมที่เป็นที่ปรึกษาด้านดนตรีไทยให้ห้องบันเสียงแห่งนึง ก็ได้มาบอกว่า ฝากฝังงานไว้ให้แล้วนะ โดยไม่ได้ถามก่อนเลยว่าจะทำหรือเปล่า

    วันที่ไปคุยรายละเอียดนั้น ก็ได้ความมาว่า จะให้ผมไปทำงานในตำแหน่ง sound Engineer ซึ่งมันดูแล้ว กลับขั้วเสียจริง เพียงแค่ผม เป็นคอม ท่านก็เหมาว่า ผมต้อง Mix เสียงได้ ตัดต่อเสียงและภาพได้ แต่ด้วยความที่ส่งเสียมาหลายแสน จะขัดก็กะไรอยู่ ไปเอาประสบการณ์แล้วกัน
    วันที่ไปเริ่มงานก็ไปอย่างเอ๋อ ๆ เพราะไม่มีความรู้พวกนี้มาก่อน บริษัทที่ไป เป็นบริษัทขนาดกลาง เป็นบริษัทถ่ายทำ บันทึกภาพ เสียง และมีผลิตภัณฑ์ของตัวเองวางขายด้วย ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในซีรี่เรื่องนี้อย่างแน่นอน อาจจะยาวไปหน่อยกว่าจะถึงคำว่า กว่าผมจะผ่านโปร แต่ผมว่ามันเป็นประสบการณ์ดี ๆ ที่อยากเอามาแชร์ ให้ได้อ่านกัน

    การเข้าไปทำงานงานที่นั้น ไม่มีอะไรมากมาย คนส่วนนึงที่รูว่าเราลูกค้าก็มีความเกรงใจกันอยู่บ้าง ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี งานที่นี่ ไม่มีสัญญาจ้าง ไม่มีการทดลองงาน มีแค่ ใบสมัครงานเท่านั้น

    อาทิตย์ต่อมา ได้มีโอกาสเจอเฮีย หรือเจ้าของ เฮียได้เรียกไปคุยถามว่าเป็นยังไงมายังไง  ทำอะไรเป็นบ้าง สุดท้าย เฮียก็ดูเหมือนจะรู้ว่า เราไม่ค่อยได้ชอบงาน sound en เท่าไหร่ แกถามมาตร ๆ ว่า ที่ทำเนี่ย พ่อบังคับหรืออยากทำ เลยบอกว่า อยากทำครับ ทั้งที่ในใจอยากจะบอก กรูโดนบังคับ แต่ก็พูดไม่ได้ สุดท้ายเฮียจึงถามว่า อยากทำอะไร เลยบอกไปว่า ถ้างาน iT ก็ช่วยได้นะครับ งานขายก็มี skill อยู่บ้าง เฮียจึงถามว่า ทำเว็บเป็นมั๊ย แหม๊.นาทีนั้นอยากกระโดดให้ลอยตัว เพราะมันของทำมาหากินโดยตรง จึงบอกไปว่า แต่ล้าน % แล้วเฮียก็ลองให้ไปออกแบบคร่าว ๆ มาให้ดูเป็นงานเสริมด้วย และก็ได้ตกลงเงินเดือนในวันนั้น หมึ่งหมื่นสองพันบาทถ้วน นับว่าออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดองจริง ๆ

    แตตอนน้คำถามในใจ จะทำยังไง กับสิ่งที่ต้องทำ โดยไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ ไม่ชอบ และไม่ถนัด แล้วจะทำยังไงกับสิ่งที่เราชอบที่อยู่ข้างหน้ารอเราไขว่คว้าอยู่ล่ะ ติดตามตอนต่อไปนะคร๊าบบบบ

    ลีลาการเขียนอย่างไร แนะนำติชมได้ เพราะมิใช่มืออาชีพ เพียงแค่อยากถ่ายทอดประสบการณ์ การทำงาน โดยเฉพาะการที่จะต้องเปลี่ยนแปลงจาก หัวหมาเป็นหางสิงห์

    จากคุณ : MiraSport - [ 13 พ.ค. 51 11:13:37 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom