Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 45 ฟัน.....คู่รักเก่า “เบอร์โร่ส์”

    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 45  ฟัน.....คู่รักเก่า “เบอร์โร่ส์”



    ความจริงมันก็ดูไม่ค่อยจะยุติธรรมนักหรอก  

    เคยอยู่ที่เบอร์โร่ส์มาถึง 10 กว่าปี  พอมาได้ 6 เดือนแรกก็

    เตรียมจะ “ฟัน” คู่รักเก่าซะแล้ว....




    แต่จะทำอย่างไรได้เล่า  ฟ้าเขาสั่งมาอย่างนั้นนี่..............




    จำได้ไหม....ก่อนที่ลุงจะออกจากยิบอินซอย  ช่วงไม่กี่

    เดือนหลังๆ




    ตอนนั้น ยิบอินซอยกำลังคั่วลูกค้าอยู่รายหนึ่ง

    คือ “ธนาคารแห่งประเทศไทย” ซึ่งได้ไปใช้เครื่องของยูนิ

    แวคที่ศูนย์กระทรวงการคลัง  ต่อมาธนาคารมีงานมากขึ้น

    ก็คิดจะมีเครื่องของตัวเองไว้ใช้งาน




    “คุณสุเมธารัตน์  สีตะบุตร” หรือ “คุณไก่”  ซึ่งเป็นเซลส์มือ

    หนึ่งของยิบอินซอย ก็ถูกเกี้ยวพาราศีให้เข้าไปรับหน้าที่นี้  

    นั่นคือหน้าที่ในการออกสเปกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้อง

    การ  ว่าต้องการเครื่องขนาดไหน  ใช้เมมโมรี่เท่าไหร่  มี

    Features รวมทั้งระเบียบเงื่อนไขต่างๆ ที่ต้องใส่เข้าไปใน

    TOR ว่าต้องมีอะไรบ้าง




    .......คุณไก่ ออกจากยิบอินซอยในราวเดือนมกราคม

    2520  และใช้เวลาในการทำ TOR อยู่เกือบปี  ได้รับ

    อนุมัติเอาประมาณต้น มกราคม 2521




    ช่วงนั้น  จะถือเป็นโชคของยิบอินซอย  ก็ได้ที่ได้คนที่รู้

    เรื่อง “เบอร์โร่ส์”  รู้ความสามารถของยิบอินซอย  รู้ว่า

    เงื่อนไขอะไรที่ยิบอินซอยทำได้และทำไม่ได้อยู่แล้วเข้า

    ไปจัดทำ TOR แต่ "แบงก์ชาติ ก็คือ แบงก์ชาติ"  ที่ดำรงตัว

    เป็นผู้นำของการเงินการธนาคารแห่งชาติ  ไม่ขึ้นอยู่กับ

    อิทธิพลของการเมืองของใครทั้งสิ้น  ทุกคนในแบงก์ชาติ  

    ต้องวางตัวเป็นกลาง และบริสุทธ์ยุติธรรม




    แม้แต่การรับพนักงาน ก็ต้องคัดเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วน  

    ก่อนที่คุณไก่จะลาออก  ก็มีคนจากแบงก์ชาติมาสัมภาษณ์

    พฤฒิกรรมของคุณไก่อย่างละเอียดว่า เป็นคนกินเหล้าเมา

    ยาหรือไม่  การทำงานซื่อสัตย์สุจริต หรือไม่  ....  ผู้ที่ให้

    คำสัมภาษณ์แก่เจ้าหน้าที่ของแบงก์ชาติไป ก็คือ “คุณ

    อมร  ถาวรมาศ”





    ดังนั้น  ถึงแม้เราจะสนิทกับคุณไก่เพียงใดก็ตาม  ยิบอิน

    ซอยได้แต่เพียงทราบข่าวคราวเป็นการภายในบ้างเท่านั้น  

    ไม่ถึงกับมีอิทธิพลในการโน้มน้าวใจให้ธนาคารออก TOR

    ที่ได้เปรียบแก่บริษัทแต่อย่างได




    อีกรายหนึ่งที่หมายมั่นปั้นมือที่จะเอาแบงก์ชาติมาเป็น

    ลูกค้าให้ได้ คือ ยักษ์ใหญ่สีฟ้า IBM  ไอบีเอ็มได้เสียลูกค้า

    คือธนาคารกสิกรไทยให้ยิบอินซอยมาหยกๆ ทำให้ ไอบี

    เอ็ม ประมาทยิบอินซอยไม่ได้เหมือนกัน ยิ่งไอบีเอ็มรู้ว่า  

    คุณสุเมธารัตน์เคยทำงานอยู่ที่แผนกเบอร์โร่ส์  ก็เกรง

    ว่า  “คุณไก่คงจะโดนยิบอินซอยล้างหัวเข้าให้แล้ว”  ถึงกับ

    ลือกันให้แซดว่า  IBM ไปวิ่งเต้นกับระดับผู้ใหญ่ในแบงก์

    ชาติให้เปลี่ยนตัวผู้ทำหน้าที่ในการออก TOR ให้เป็นคนอื่น

    ที่มิใช่คุณไก่




    ตอนนั้น  คุณอมร  ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัท

    ยิบอินซอย ก็ถือเป็นหน้าที่ในการที่จะต้องเอาแบงก์ชาติให้

    ได้เหมือนกัน  เพราะถ้าเราได้ลูกค้าที่เป็นธนาคาร  และ

    เป็นถึงธนาคารแห่งประเทศไทยเสียด้วย  ชื่อเสียง

    ของ “เบอร์โร่ส์” ในการขายระบบธนาคารคงมีอนาคตสด

    ใสอย่างแน่นอน




    รู้สึกจะมีแค่สองรายที่วิ่งกันฝุ่นตลบ  คือ IBM แชมป์ตลอด

    การของวงการคอมพิวเตอร์  กับยิบอินซอย ผู้ท้าชกหน้า

    ใหม่  IBM ก็ใช้ระบบเดิม  คือ  ไม่สัญญาอะไรกับลูกค้าทั้ง

    สิ้น  ไม่มีหนังสือค้ำประกันให้เมื่อยื่นซองประกวดราคา  

    ไม่มีหลักประกันสัญญาเมื่อได้ลงนามในสัญญาไปแล้ว  

    สัญญาลูกค้าจะต้องนามก่อนเป็นภาษาอังกฤษ และต้อง

    เป็นสัญญาตามมาตรฐานของ IBM แล้ว IBM จึงจะลงนาม

    ตาม  




    และมีข้อแม้ว่า  “หาก IBM เสนอระบบอะไรเข้าไปก็ตาม  

    ในเมื่อลูกค้าตัดสินซื้อหรือเช่าไปแล้ว ก็ถือเป็นภาระของผู้

    ซื้อหรือผู้เช่าที่จะรับผิดชอบในการทำงานของระบบเครื่อง

    ที่ลูกค้าตัดสินด้วยตัวเอง  หากมีการทำงานตามระบบไม่

    ได้  จะถือเป็นความรับผิดชอบของ IBM หาได้ไม่”
     ....




    และยังมีข้ออื่นจุกจิกๆ อีกมากมาย  ซึ่งลูกค้าที่ไม่หลงผิด

    ว่า “IBM คือพระเจ้า”  ก็คงจะรู้สึกอึดอัดเป็นธรรมดา  แต่

    ถ้าลูกค้าที่กรีดเลือดออกมาแล้ว เป็น “สีน้ำเงิน”  ต่อให้จะ

    มีกฎระเบียบในการจัดซื้อภาครัฐที่เข้มงวดประการใด  

    IBM ก็เอาชนะมาแล้วอย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก  นับว่าเป็น

    ความสามารถอันสุดยอดของเซลส์ไอบีเอ็มที่ทำได้เช่นนั้น




    แบงก์ชาติก็อึดอัดในการที่ต้องเซ็นสัญญากับไอบีเอ็ม  

    หากไอบีเอ็มเกิดชนะประกวดราคาขึ้นมา......  ก็มีการ

    เรียกไอบีเอ็มให้ไปดู TOR ก่อนว่า  ถ้าแบงก์ชาติจะออก

    TOR ตามระเบียบของสำนักนายกฯ ไอบีเอ็มจะมีปัญหา

    อย่างใดหรือไม่......ในที่สุด  หลังจากที่ฟังไอบีเอ็ม

    สาธยายถึงคุณงามความดีที่หากต้องลงนามตามเงื่อนไข

    ของไอบีเอ็มไม่สำเร็จ  ไอบีเอ็มจึงทำจดหมายตอบแบงก์

    ชาติว่า  




    “จะไม่ขอยื่นซองเข้าประกวดราคา” หากธนาคารแห่ง

    ประเทศไทย จะไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของไอบีเอ็ม




    ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย  ดร. วัลลภ วิมลวนิชย์ จากการไฟฟ้า

    ฝ่ายผลิต หรือ อีแกต จะเดินพาเหรดเข้าไปเป็นหัวหน้า

    ศูนย์ระบบข้อมูลของแบงก์ชาติ  เพราะคนที่จะทำหน้าที่นี้

    ได้ จะต้องมีความรู้ระดับ “ดอกเตอร์” เท่านั้น




    และก่อนที่ธนาคารชาติจะออกประกวดราคาไม่กี่วัน  คุณ

    อมรและคุณเทียนชัย ได้เข้าไปแสดงความยินดีกับ ดร.

    วัลลภ ซึ่งรู้จักกันดีอยู่แล้วตั้งแต่เบอร์โร่ส์เข้าประกวดราคา

    ที่อีแกต (แต่แพ้ให้ยูนิแวค)  ซึ่ง ดร. ก็ได้กล่าวความตอน

    หนึ่งที่สำคัญว่า




    “คุณหมดคู่แข่งที่สำคัญไปคนหนึ่งแล้วละ  คือ IBM ที่ทำ

    จดหมายมาแล้วว่าจะไม่ยื่นซอง  ถ้าแบงก์ชาติออก TOR

    มาอย่างนั้น  ตอนนี้ก็เหลือคุณกับบริษัทเล็กๆ อีกไม่กี่

    ราย......อ้อ  กับ “ยูนิแวค” หรือ?  ไม่ต้องไปสนใจรายนั้น

    หรอก.....นี่คุณกำธรก็ออกแล้ว  ผมเพิ่งมาจากอีแกต  รู้

    เรื่องของยูนิแวคดี  ไม่มีทางที่เขาจะได้งานที่นี่  ....”





    ทำให้ลุงกับคุณเทียนชัยเดินยิ้มกริ่มออกมาจากแบงก์ชาติ

    ดังที่เล่ามาแล้ว (ในตอนก่อนๆ)




    แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน  คุณสุเมธารัตน์คนนี้นี่แหละ ที่

    มาบอกว่า “คุณอมร  สนใจไหม  ถ้ามีบริษัทหนึ่ง เขาอยาก

    จะได้คุณไปเป็นจีเอ็ม????????”





    และชีวิตคุณอมร  ก็ผลิก 3 ตลบ  หันเข้าไปเป็นจีเอ็มของ

    ซัมมิท คอมพิวเตอร์ในวันที่ 1 สิงหาคม 2521....ซึ่งเป็น

    ตอนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย  กำลังส่ง Questionnaire

    ไปให้บริษัทฯ ที่สนใจจะเข้าประกวดราคากับธนาคารได้ให้

    ข้อมูลเป็นเบื้องต้นก่อนที่จะมีการประกวดจริงๆ อีกไม่กี่

    เดือนข้างหน้า




    ท่านผู้อ่านที่รัก  ....  อย่าหาว่าลุงทรยศกับเจ้านายเก่า  ไอ้

    คนไม่รู้จักบุญคุณคนเลยนะครับ  ....  ลุงเพิ่งเข้าไปที่ยูนิ

    แวคใหม่ๆ  พนักงานขายก็ยังไม่มี  ซัปพอร์ตสักคนก็ยังไม่

    มี......แต่  “เราเข้าไปเป็นลูกจ้างเขา  ก็ต้องทำงานให้เขา

    คุ้มค่ากับที่เขาจ้างมา”





    ลุงรีบเผ่นไปหา ดร.วัลลภ  เพื่อขอใบ Questionnaire

    มากรอกกับเข้าด้วย กันพลาดไว้ก่อน......เพราะเขามีเวลา

    ให้มีเวลาจำกัด




    พอเจอหน้า ดร. วัลลภ ท่านทักว่า  




    “ก็ยิบอินซอยส่งคนมารับแล้วนี่.....”




    พอลุงบอกว่า




    “ผมมารับในนามบริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ ครับ....นี่

    ครับ หนังสือมอบอำนาจ”





    ดร. วัลลภ ถึงกับตกใจร้อง....




    “เฮ้ย.....เป็นไงมาไงวะนี่  ทำไมคุณไปอยู่ยูนิแวคได้ละ  

    แล้ว.....? ? ?”





    ดร. วัลลภคงพูดไม่ออก บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า ความ

    รู้สึกของท่านจะเป็นอย่างไร  




    ลุงเข้าใจความคิดของ ดร. วัลลภที่ดี  ในฐานะที่ท่านเป็น

    เพื่อนกับคุณกำธร  ท่านก็คงจะรู้สึก Hurt เป็นธรรมดา ที่

    ซัมมิทไม่ประสบความสำเร็จที่อีแกต  และอาจจะเป็น

    เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้ท่านต้องตัดสินใจออกมาอยู่ที่

    แบงก์ชาติ   แล้วนี่......  คนที่รู้จักอีกคนหนึ่ง  ก็กำลังเดิน

    เข้าไปอยู่ที่ซัมมิทฯ  กำลังเข้าไปกู้ชื่อให้ซัมมิทฯ  ทำให้

    บริษัทที่เพิ่งโดนหมัดหลงโดนน๊อคจนสลบเหมือด กลับฟื้น

    คืนชีพขึ้นมาได้อีก  ..... ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรดี




    “เฮ้อ......เอาให้ดีก็แล้วกันนะคุณอมร”




    แล้ว ดร.วัลลภก็ให้ Questionnaire มาปึ้งเบ้อเริ่ม

    แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 51 18:46:16

    แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 51 16:45:21

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 18 พ.ค. 51 21:58:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom