Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    แสบซ่าส์วาสนา “แจ๋ว”! ตอนที่ 7…ไม่อ้วนเอาเท่าไร?

    …..ความเคยชินทำให้เรามักจะมองข้ามความสำคัญของหลายๆ เรื่องรอบตัว
    ทั้งนี้รวมทั้งเรื่องธรรมดา ๆ เช่นน้ำหนักตัวของตัวเราเองและคนใกล้ตัว

    วันหนึ่งฉันก็เกิดความรู้สึกและสังเกตเห็นว่าสมาชิกหลายคนในบ้านน้ำหนักขึ้นกันเป็นแถว
    รวมทั้งตัวฉันด้วยเพราะเป็นช่วงที่เกิดมรสุมชีวิตและตกงานจึงรู้สึกเครียด
    และวิธีคลายเครียดที่ดีที่สุดของฉันก็คือการ “กิน” ทุกอย่างที่ขวางหน้า
    ยิ่งมาเจอแม่ครัวหัวป่าก์ที่ทำอาหารเก่ง ๆ อร่อย ๆ อย่างนังแจ๋วด้วยแล้ว
    ยิ่งกินไม่ยั้งจนทำให้ทั้งตัวฉันและหลาย ๆ คนในครอบครัวพากันอวบอั๋นกันเป็นแถว

    กว่าจะรู้สึกและไหวตัวทันก็เกือบจะไม่ทันการซะแล้ว
    ฉันก็เลยลุกขึ้นมาปฏิวัติสั่งห้ามทำอาหารอร่อย…เอ๊ย..
    ห้ามทำอาหารในปริมาณมากราวกับให้คนทั้งกองทัพกินเป็นอันขาด
    เพราะอย่างที่เคยเล่าไปแล้วว่านังแจ๋วเป็นคนมือหนักชอบทำอาหารครั้งละมาก ๆ
    ทำให้ทุกคนมีนิสัยเสียในการกินและมักจะกินกันเกินความจำเป็นของร่างกายอยู่เสมอ

    นอกจากการปฏิวัติข้างต้นซึ่งที่จริงก็มีการทำการปฏิวัติซ้ำปฏิวัติซ้อนมาโดยตลอด
    แต่ปรากฏว่าไม่ได้มีผลงานออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม
    คราวนี้ฉันจึงใช้กลยุทธ์ใหม่ด้วยการตั้งรางวัลสำหรับผู้ที่สามารถลดน้ำหนักได้
    โดยจะให้เป็นเงินรางวัลจำนวน 1,000 บาทสำหรับน้ำหนักที่ลดได้ทุก ๆ 1 กิโลกรัม

    ตอนที่ตั้งกติกาเป็นช่วงกลางปีจึงกำหนดการประกาศผลตอนสิ้นปี
    ซึ่งเท่ากับว่าทุกคนจะมีเวลาสำหรับการเตรียมการลดน้ำหนักประมาณ 6 เดือน
    และภายใน 6 เดือนนับจากวันที่เริ่มต้นจนถึงสิ้นปีหากใครสามารถลดน้ำหนักได้กี่กิโลกรัม
    ก็ให้นำจำนวนน้ำหนักที่ลดได้ทั้งหมดคูณด้วยจำนวนเงิน 1,000 บาท
    เช่นถ้าลดน้ำหนักได้ 5 กิโลกรัมก็จะได้เงินรางวัล 5,000 บาท เป็นต้น…

    ที่จริงกติกาและโครงการนี้ฉันตั้งใจตั้งขึ้นเพื่อสมาชิก 2 คนในบ้าน
    คนแรกคือน้องหมวยซึ่งเป็นน้องบุญธรรมของฉันเอง
    และคนที่ 2 คือนังแจ๋วที่นับวันน้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้น ๆ ทุกวัน
    จนเกรงว่าถ้าหนักได้ที่ก็จะหนีไปประกวด “ธิดาช้าง” จนหลงแสงสีเสียงกู่ไม่กลับซะก่อน
    เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นมีเพื่อนบ้านของพี่สาวชื่อน้องป่านไปประกวด
    และได้ตำแหน่งธิดาช้างมาครอบครองเป็นตัวอย่างให้เห็นก็เป็นได้

    แล้ววันเริ่มต้นการแข่งขันลดน้ำหนักก็มาถึง….
    ทั้งสองคือน้องหมวยและนังแจ๋วรวมทั้งตัวฉันซึ่งจะไม่มีสิทธิ์ได้รางวัลจากตัวเอง
    ก็ทำการชั่งและบันทึกน้ำหนักของตัวเองไว้เป็นหลักฐาน (แต่จ้างให้ก็ไม่บอกว่าฉันหนักกี่โลฯ)

    ดูเหมือนทั้งน้องหมวยและนังแจ๋วจะตื่นเต้นกับกติกาที่ฉันตั้งขึ้นเป็นพิเศษ
    เพราะนอกจากจะได้ลดน้ำหนักเพื่อสามารถแต่งตัวสวย ๆ ดูดีแล้ว
    ยังจะได้เงินรางวัลเป็นของแถมไว้ใส่กระปุกอีกต่างหาก

    ช่างเป็นเครื่องล่อใจและแรงบันดาลใจที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยใช่ไหม
    ฉันสังเกตสีหน้าของทั้งสองที่ทำท่าว่าจะต้องตั้งเป้าลุยลดน้ำหนักให้ได้ถึงคนละ 10 กิโลกรัม
    เพื่อจะได้ฟันเงินรางวัลจากฉันให้ได้เป็นหมื่น!!

    ตอนนั้นฉันยังไม่มีความรู้สึกว่าจะต้องเสียดายเงิน
    เพราะรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพและคิดแต่เพียงอยากให้ทั้งสองคนได้ลดน้ำหนักกันให้ได้จริง ๆ มากกว่า
    ซึ่งผลพลอยได้ที่ฉันจะได้รับก็คือเป็นแรงบันดาลใจสำหรับฉันในการเข้าร่วมแข่งขันด้วย
    ถึงแม้จะไม่มีสิทธิ์ได้รับรางวัลจากตัวเองก็ตาม…

    เดือนแรกผ่านไปน้ำหนักของแต่ละคนเริ่มลดลงไปได้คนละ 1-2 กิโลกรัม
    และทำท่าเหมือนจะค่อย ๆ ลดไปอย่างต่อเนื่อง
    เดือนที่สองน้ำหนักที่ลดได้ก็สูงเพิ่มขึ้นอีกเป็น 2-3-4 กิโลกรัม
    จนฉันเริ่มใจเสียว่าสงสัยจะต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินหมดตัวแน่งานนี้!!

    ทีนี้มาเม้าท์วิธีการลดน้ำหนักของทั้งคู่กันดีกว่า
    แน่นอนว่าวิธีแรกก็คือการลดปริมาณอาหารถึงขั้นไม่กล้ากินอะไรหลาย ๆ อย่าง
    และวิธีต่อมาก็คือการออกกำลังกาย
    พอดีที่บ้านมีลู่วิ่งที่ใหม่ ๆ ซื้อมาก็ตื่นเต้นแย่งใช้กันทั้งบ้าน
    ตอนหลังก็เอาไว้แขวนข้าวของเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านไปเรียบร้อยแล้ว

    พอฉันตั้งโครงการแข่งลดความอ้วนชิงเงินรางวัลนี้ขึ้นมาจึงได้มีการนำเอาลู่วิ่งที่ว่า
    มาปัดฝุ่นและนำเอามาใช้อีกครั้งหนึ่งอย่างคึกคักและสนุกสนาน
    ท่าทางแต่ละคนจะมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อไปให้ถึงจุดหมายและฟันเงินรางวัลจากฉันให้ได้
    ใจหนึ่งฉันก็ดีใจคิดว่าเมื่อครบกำหนดอย่างน้อยลดให้ได้คนละ 5 กิโลกรัมก็สวยแล้ว
    ถึงแม้อีกใจหนึ่งก็คิดว่ากระเป๋าฉันต้องฉีกแน่ ๆ…

    รู้ไหมว่าเผลอดีใจกันทั้งคนท้าและคนรับท้าเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น
    อยู่ ๆ น้ำหนักที่ได้ลดลงไปแล้วคนละหลายกิโลกรัมกลับเพิ่มขึ้นมาใหม่
    และไม่เพียงแต่เพิ่มขึ้นมาเท่าเดิมแต่ดูเหมือนจะหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป
    ตอนนั้นฉันรอดตัวไม่ได้เผลอไผลไปด้วยและไม่ได้เฝ้าดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งน้องหมวยและนังแจ๋ว
    ว่าทำไมอยู่ ๆ จากน้ำหนักที่ทำท่าว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
    แล้วกลับเพิ่มขึ้นมามากกว่าเก่าแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเช่นนี้?

    ที่ว่าไม่ได้เฝ้าดูเป็นเพราะว่าตอนนั้นฉันเพิ่งได้งานและมัวแต่ยุ่งกับงาน
    และผลพลอยได้ของฉันก็คือน้ำหนักตัวของฉันเองค่อย ๆ ลดลง
    เนื่องจากมีกิจกรรมจากที่ทำงานให้ทำมากมายจึงไม่ได้นั่ง ๆ นอน ๆ และกิน ๆ
    เหมือนกับตอนที่ตกงานอยู่กับบ้าน

    สรุปแล้วพอถึงสิ้นปีซึ่งครบระยะเวลา 6 เดือนที่ตั้งไว้พอดี
    ทั้งน้องหมวยและนังแจ๋วก็ไม่ได้เงินรางวัลจากฉันเพราะน้ำหนักไม่ได้ลด
    แต่ยังได้น้ำหนักเพิ่มเป็นของแถมขึ้นมาอีกคนละ 2-3 กิโลกรัม
    ทำให้ฉันรู้สึกเสียดายว่าน่าจะเพิ่มกฏเหล็กอีกข้อหนึ่งตั้งแต่ต้นว่า

    หากน้ำหนักของใครขึ้นจะต้องถูกปรับกิโลกรัมละ 2,000 บาทเกทับไปอีกเท่าตัวด้วย
    เพื่อจะได้เป็นทั้งแรงบันดาลใจและความกลัวว่าจะต้องเสียเงินให้กับผู้ท้าชิงอย่างฉัน
    ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นทั้งคู่อาจจะสามารถทำได้สำเร็จตามเป้าหมายก็ได้
    นึกแล้วยังเสียดายไม่หายที่ไม่ทันได้คิดเรื่องนี้…เฮ้อออ..เสี๊ยด๋ายจั๋งงงง!!



    VDO สร้างแรงบันดาลใจด้วยการแสดงการลดน้ำหนักแบบ “เนรมิต” ได้ดั่งใจในเสี้ยวนาที….

    จากคุณ : Destinyhurtsme - [ วันวิสาขบูชา 00:11:55 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom