PANTIP.COM : B6655727 ชี่รี่ คนขับรถอันต่ำต้อย ตอนที่ 5 สต๊าฟ หรือ คารเร็น ความเหมือนที่แตกต่าง [งานและทรัพยากรบุคคล]

ชี่รี่ คนขับรถอันต่ำต้อย ตอนที่ 5 สต๊าฟ หรือ คารเร็น ความเหมือนที่แตกต่าง

ตอนที่ 1 ก้าวแรกในธุรจักร

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6605419/B6605419.html

ตอนที่ 2 เวลางาน....ใครว่าแปดโมงเช้า ห้าโมงเย็น
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6606893/B6606893.html

ซี่รี่ของ คนขับรถอันต่ำต้อย ตอนที่ 3 รถพี่แรงแค่ไหน ..... ก็เหยียบด้ายไม่เกินร้อยสิบ
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6614589/B6614589.html

ซี่รี่ คนขับรถอันต่ำต้อย ตอนที่ 4 เลขา หรือ เขลา เอ.. หรือ เข็ม(มา)ลากันแน่ว้า
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6644993/B6644993.html

สวัสดีคับ พี่ๆทุกๆท่าน ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่ให้เกียจ(เฮียๆ ให้เกียร์ติ์ )ติดตามผลงานอันต่ำต้อยของผมมาโดยตลอด แม้มันจะไร้สาระบ้าง ก็ถือว่าเสพเพื่อความบังเทิงนะครับ เหมือนกับการเคี้ยวหมากฝรั่งนะครับ ไม่มีประโยชน์แต่ มันส์ หุหุ

แล้ววันนี้เราจะ คุยกันเรื่องอะไรดีน่า นินทานาย นินทาโอ้คซังแล้ว (แหมเขาเรียกว่า วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์) เขลา ก็โดนไปแล้ว เดินคิดวนไปวนมา (โม้ไปยังงั้นล่ะ จิงๆนั่งจิ้มคีดบอร์ตม่ายออก) งั่นต่อไปก็เป็นเรื่องวิธีการทำงานและเพื่อนร่วมงานแล้วกัน ถ้าอย่างนั้น วันนี้ แว่นน้ำเอนเทนเทรนเมน ภูมิใจนำแสดง แตร่ๆ(ทำม่ายดนตรีมันสั้นจัง)

ชี่รี่ คนขับรถอันต่ำต้อย ตอนที่ 5 สต๊าฟ หรือ คารเร็น ความเหมือนที่แตกต่าง

ในบรรดาคนขับรถ หรือ ถ้าภาษาอังกฤษ เรียก Driver นั้นล่ะ มักจะแบ่งชนิด หรือ สปีชีส์ ได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ สต๊าฟ กับ คารเร็น มีแค่นี้นะครับ ต่อให้พี่ขับรถรุ่นอะไร แพงแค่ไหน ใส่ชุดฟอร์มหรือซาฟารี ถ้าไม่เป็นอย่างใดก็อย่างล่ะครับ(งานนี้ม่ายมีแทงกั้ก นะตัวเอง)

สต๊าฟ (Staff) คือ อะไรคับ สต๊าฟ คือ การนำสิ่งมีชีวิตมาผ่าท้องแล้วยัดนุ่นกับสำลีแทน(ม่ายช่าย) สต๊าฟ ก็คือ พนักงานบริษัท นะครับ มีสิทธิและเสียงเทียมเท่ากับ HR และพนักงานคนอื่นๆทุกประการ (หรือป่าวหว้า~ไม่แน่ใจ)เพราะฉะนั้น ฐานเงินเดือนและการคิดค่าล่วงเวลาหรือ OT จะเป็นไปตามที่พี่ใหญ่(กระกรวงแรงงาน)กำหนด เช่น เงินเดือนตั้ง แต่เจ็ดพัน แปดพัน ไล่ไปเรื่อยๆตามอายุงาน โอที ก็เงินเดือนตั้งหารวันหารชั่วโมงแล้วคูณสอง คูณสามของชั่วโมงการทำงาน มีโบนัสอีกต่างหาก(ทำม่ายไม่มี ฟลุ๊คนัด บ้างนะ อ้าวลืมไป เขาแยกกันอยู่)โอ้ย มีฟามสุข

แล้วคารเร็นล่ะครับ คารเร้นหรือรถเช่า เปรียบแล้วก็เหมือน มือปืนรับจ้าง หรือ โรนิน(ronin)นั้นล่ะ เงินเดือนและโอที ตายตัว ไม่มี คูณสอง คูณ สาม ปป ควบลูก ครึ่งลูก(อ้าวนอกเรื่องแล้ว) เพราะเรามีบริษัทเป็นผู้คอยดูแลผลประโยชน์(ของบริษัทเอง)ให้ โดยทาง บริษัทคารเร้น จะเป็นผู้ติดต่อหาลูกค้า พอได้แล้วก็จะจูงมือคนขับพร้อมรถไปส่งให้ถึงที ถ้าไม่พอใจหน้าตาหรือรูปร่างก็สามารถเปลี่ยนได้ (น้าน คุ้นๆนะ หุหุ)จบงาน จบ สัญญาก็กลับบริษัท เดี่ยวจะหาคู่ให้ใหม่ อย่างตอนที่ผมจะไปขับให้น้ากล้วยนั้นล่ะครับ ลูกพี่คิดว่าเอาไปแก้ขัดชัก สอง สามวันก่อน พอคนเก่าหมดสัญญาจากที่อื่นค่อยเอามาเปลี่ยน
แต่ขอโทษครับ น้ากล้วยแกเกิดถูกชะตากับผมชะยังนั้น พอถึงเวลาว่าจะเปลี่ยน แกบอกทางบริษัทคารเร้นว่า ไม่เป็นไร เอาคนนี่ล่ะ ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว(เสียวก้นวาบๆ) แต่รายได้ของคารเร้นจะสู้ สต๊าฟไม่ได้นะครับเพราะสต๊าฟจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่า ถ้าชั่วโมงการทำงานเท่ากัน เพราะ คารเร้น จะโดนทาง บริษัทหักค่าหัวคิวในแต่ละเดือน

ถ้าอย่างนั้นก็ไปเป็นสต๊าฟชิจะได้เงินเยอะๆๆ แหมถ้ามันเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีชิคับ เพราะจุดประสงค์หลักของคารเร็นคือ อยากจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานอยู่แล้ว โดยปกติถ้าขับกันจะเป็นที่รู้ใจแล้ว นายมักจะดันให้เข้าบรรจุอยู่แล้ว (นายบางคนอาจจะอยากดันอย่างอื่นด้วยล่ะ แต่ไม่กล้าบอก) เพราะเรื่องอะไรจะปล่อยให้คนอื่นมากินหัวคิวอยู่ด้ายทุกเดือน (จ่ายแพงกว่าทำม่ายคับ) ส่วนรถนั้นจะเช่าต่อหรือชื้อเองก็แล้วแต่ฐานะและความใหญ่ของหน้า หุหุ

ส่วนข้อเสียก็มีนะครับ คือทางบริษัทจะต้องเสียค่าสวัสดิการต่างๆเหมือนกับเป็นพนักงานคนหนึ่ง(อ้าวก็เป็นพนักงานแล้วนี่หว้า ~ จะพิมให้ม้าย งง เล่นทำม่าย) ม่ายช่าย ผม หมายถึง การ ป่วย ขาด ลา มาสาย หรือ การลาพักร้อน ลากิจ แบบที่เข็มซังใช้ในตอนที่แล้วนะคับ ถ้าเป็นอย่างนั้น จะเป็นที่เดือดร้อนแก่บรรดา HR และคนคุมรถเป็นอย่างมาก เพราะคุณจะต้องโยกย้ายถ่ายเท คนมาขับแทน เพราะคนขับหยุด แต่นายไม่ได้หยุดด้วยนี่น่า

จากคุณ : แว่นน้ำ - [ 29 พ.ค. 51 22:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2

แต่ถ้าเป็น สต๊าฟ ต้องไปดูหนังจีนเรื่อง “เจ้า อย่า หวัง” เลยคับ เพราะเขาจะถือว่า เข้ามาเป็นพนักงานแล้วจะต้องทำตามกฎ ระเบียบรัดติ้ว ทุกข้อที่เขากำหนด ถ้านายไม่อยู่ ไปงานเมืองนอกหรือกลับญี่ปุ่นล่ะก่อน ไม่ได้หยุดหลอกคับ โน่นจอดรถที่บริษัท เช้ามาคุณมาเอง ทำงานทั้งวัน เย็นกลับเอง ม่ายมีโอที

เพราะฉะนั้นเรื่อง คนขับ กับHR นั้น ถ้าผลประโยชน์ร่วมกัน ก็จะกระหนุง กระหนิงกันดี แต่ถ้างัดกันแล้วล่ะ มันส์แน่ๆ โดยผมจะฉายหนังตัวอย่างให้ดูชักเรื่อง เอาเรื่อง เพื่อนเลิฟที่เป็นสต๊าฟของผมชักคนก็แล้วกัน แกชื่อ พี่เอ คับ

เรื่องพี่เอนี่ แกเป็นสต๊าฟคับ อยู่โรงงานแถวอยุธยานั้นล่ะ โดยทางน้ากล้วยนี่ต้องติดต่อเอาของมาขายที่โรงงานนี่มานานแล้ว วันแรกที่ผมเจอเอซังนั้น น้ากล้วยพาซาโจใหญ่นายเอซังไปเลี้ยงคาราโอเกะ (กะว่ามอมเหล้าให้เมาแล้วจับมือเซ็นใบสั่งซื้อชะเลย) ทิ้งให้ผมกับเอซังนั่งมองหน้ากันหน้าร้านสองคน ตอนแรกๆก็ต่างคนต่างเก็กใส่กันนั้นล่ะ แต่พอทางมาม่าซังในร้าน เห็นคนตัวใหญ่ๆสองคนนั่งอยู่หน้าร้าน แกคงกัวว่าเดี่ยวลูกค้าญี่ปุ่นคนอื่นเดินผ่าน จะม่ายมีใครกล้าเข้าร้าน เลยให้เด็กเรียกผมกับเอซัง ให้เข้าไปพร้อมเปิดห้องเกะให้ห้องหนึ่งเลย(เหล้ายาสั่งเต็มที่ เดี่ยวเจ็มั่วบิลกับน้ากล้วยเอง ~ แต่ม่ายมีน้องๆนะ นั้นจ่ายเอง หุหุ) เท่านั้นล่ะ ฟอร์มหลุด คุยกันถูกคอเลย

เอซังนี่แกซี้กับนายที่แกขับให้มาก เรียกว่าชี้นกเรียกว่า หมู นายยังเชื่อเลย(เฮีย แกฟังภาษาไทยม่ายออก อ้าวกำ)และนั้นทำให้แกเป็นที่เขม่นแก่เหล่าบรรดา HR ในโรงงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคู่อริแกที่เป็นทั้งHR และล่าม ที่มีนามว่า "ชบาแก้ว" บางท่านอาจสังสัยทำม่ายเรียกว่า ชบาแก้ว นั้นก็เพราะว่าในการตรวจสุขภาพประจำปี ของโรงงานนั้น ชบาแก้วเป็นคนเดียวในโรงงาน ที่ไม่ใส่ข้อมูลตัวเลขน้ำหนักตัว (ม่ายรู้ว่าเป็นเพราะเข็มตีกลับหรือป่าว เลยกรอกม่ายถูก)
นอกจากชบาแก้วแกจะอยู่ในรุ่นเฮฟวี่เวทแล้ว เพาเวอร์ของแกยังมีสูงปรี้ด ขนาดสามารถตวาดใส่ญี่ปุ่นตัวรองๆในโรงงานได้สบายๆ ดังนั้น การที่เอซังไปสนิทสนมกับซาโจใหญ่ ทั้งที่เป็นนายโดยตรงของเอซัง โดยไม่นำพาอำนาจของเจ้แก เพราะเอซังชอบไปงัดกับเจ้แกบ่อยๆ จึงเป็นเหตุให้เกิด ปฎิบัติการมินชั่นอินเพซิเบิ้ล เจาะยางคนขับโดยทันที

มีอยู่คราวหนึ่ง เอซังไม่สบาย บอกกับนายแล้วว่าขอลาหยุด ตัวนายบอกว่าไม่เป็นไร แกขับเองได้ให้เอซังไปหาหมอ แล้วแกก็ขับรถมาที่โรงงาน พอข่าวรู้ถึงหูชบาแก้ว แม่ท่านก็จัดการหาคนขับสำรองมาเสนอที่โต๊ะต่อหน้าญี่ปุ่นโดยทันที พร้อมกับแนะนำว่า นี่เป็นคนขับรถคนใหม่ จะมาแทนเอซังนะ

ปลาดุก ว่า (เอ๊ยปรากฏว่า) ตัวญี่ปุ่นที่เป็นซาโจใหญ่แกลดหนังสือพิมพ์ที่อ่านอยู่ เหลือบตามองแวบหนึ่ง พร้อมกับเอาหนังสือพิมพ์บังหน้าแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ขับเองได้ ไม่เปลี่ยนตัว ขอบคุณ” น้าน ให้รู้ว่าไฝเป็นไฝ หุหุ

ยกแรก เอซังชนะแตก ชบาแก้วต้องพาหน้าไปให้หมอข้างสนามปฐมพยาบาลโดยทันที

แต่ในโลกนี่ ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่า แรงอำฆาตของเสือสมิงกับหญิงแก่ งานนี้ชบาแก้วเดินเกมใหม่ อาศัยอำนาจและความในมาตราที่24 (อ้าว… เดี่ยวคุกนะท่าน อ้างไปเรื่อย) งั้น เอาใหม่ อาศัยอำนาจ HR ในมือ เจ้แกเลยออกกฎว่า ต่อไปนี้ พอคนขับรถทุกคนไม่ได้วิ่งงานเข้ามาในบริษัทแล้ว จะต้องมาช่วยงานแม่บ้าน และ ฝ่ายรักษาความสะอาด ห้ามไปนั่งชุมนุมโขกหมากรุกที่ ศาลา ข้างลานจอดรถ อีกต่อไป โดยทางแม่บ้านเองจะเป็นคนออกคำสั่งเองว่าจะ ให้ใคร? ทำอะไร? ที่ไหน? และอย่างไร?
น้าน กระบี่นี่ร้ายนัก เพราะว่าเท่ากับโอนคนขับรถทุกคนไปเป็นลูกน้องของแม่บ้านเลยนะเนี้ย เล่นเอาบรรดาคนขับรถที่มีทั้งหมดประมาณ 5 - 6 คน ไม่ยอมทันที อะหร้าย สมัครมาขับรถนะเฟ๊ย จะให้ไปขัดส้วม ล้างตู้ปลา เก็บขยะ ได้ไง เราไม่ยอมๆ เราไม่ยอมๆ (ประท้วงยกป้ายกันยกใหญ่)

แต่ช้าก่อน ชบาแก้วแกงัดหนังสือสัญญาที่เซ็นตอนวันแรกที่เข้ามาทำงานขึ้นมา มีข้อความระบุว่า “ทางบริษัทมีสิทธิ์โยกย้ายตำแหน่งหรือสับเปลื่ยน หน้าที่ความรับผิดชอบ ของพนักงานได้ตามความเหมาะสม(และที่เจ้แกต้องการ)” ไม่อยากทำก็เชิญ ใบลาออก อยู่ชั้นล่าง ในตู้มุมซ้ายมือ

เท่านั้นล่ะ วงแตก หนีตายกันอรหม่าน งานเดินบิล เก็บบิล เก็บเซ็ค ที่ตอนแรกเกี่ยงกันจังว่าใครจะวิ่ง คราวนี้ล่ะแย่งกันเลย ไม่มีใครอยากอยู่บริษัทแล้ว

ยกสองชบาแก้ว ชนะคะแนน ค้านสายตาของคนดูทั้งสนาม (พอเจ้แกเล่นเป็นกรรมการเองนี่)

มันมาถึงจุดพลิกผัน ตอนเช้าวันหนึ่ง ทางโรงงานเอซังเรียกประชุมหน้าเสาธง ทั้งโรงงาน พอซาโจใหญ่ นายของเอซังก็ขึ้นพูดว่า”ขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่ร่วมงานกับกระผมมาเป็นเวลานาน ตอนนี้ทางบริษัทแม่ทางญี่ปุ่นได้ส่งซาโจคนใหม่ มาปฏิบัติหน้าที่แทนกระผมแล้ว โดยจะเริ่มภายในเดือนหน้า และตัวกระผมจะกลับญี่ปุ่นแทน”(น้าน ผลงานเข้าตา โดนเปลี่ยนตัวกลางอากาศเลย)
เท่านั้นล่ะ สายตาทุกคู่ ก็จับจ้องมาที่เอซังเป็นตาเดียว (สงสัยจะเป็นโจรสลัด มีตาเดียว) โดยมีชบาแก้วยืนยิ้มแฉ่ง เหมือนชนะน๊อค แล้วรักษาเข็มขัดแชมป์ได้อีกหนึ่งสมัย ส่วนเอซังนี่มาบอกผมตอนหลังว่า “ตอนนั้นผมตัวชาเลย แว่นน้ำเอ๋ย นึกในใจว่า ซวยแน่ตรู นางชบาแก้วต้องจบตรูไปขับส่วนกลาง แน่ๆ รถพึ่งจะผ่อน บ้านพึ่งจะสร้าง เอาเข้าธนาคารกู้อยู่เลย”
อันนี้ถ้าคนไม่อยู่ในวงการจะงงๆว่า ทำม่าย เอซัง ต้องกัวด้วย ขับรถส่วนกลาง ขออธิบายว่า รถส่วนกลาง นั้น เป็นเหมือนกระโถนท้องพระโรงนะครับ จีนลากไป ไทยลากมา ฝรั่งดัดฉุดกลางทาง (ม่ายช่าย) ใครๆก็ใช้ได้ ไปที่ไหนก็ด้าย มินำซ้าน ม่ายมีโอที ด้วย (เพราะไม่มีนายขึ้น(รถ) แล้วจะพาใครไปเที่ยวล่ะเนี้ย) ขับทั้งวัน เงินเท่าเดิม ถ้าใครชอบ ก็นิมนต์ระทราบ

แต่ช้าก่อน โบราณว่า คนดี ผีคุ้ม ซาโจ้คนเก่าคงพอจะรู้ถึงอิทธิฤทธิ์ อิทธิเดชของชบาแก้วมาบ้าง พอซาโจใหม่เดินทางมาถึง ญี่ปุ่นสองคนก็จูงมือกันไปชุบชิบกัน(ม่ายใช้ บอนแบล็คเมาร์เทนนะ) พอซาโจ้ใหม่ เริ่มงาน ก็ประกาศเลยว่า แกจะใช้รถ คันที่ เอซังขับนี่ล่ะ รู้งานแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยน ชบาแก้วได้แต่ งงๆ อะไรว่ะ อุดสาห์เตรียมคนมาเสียบแทนแล้วนะเฟ๊ย แต่ก็ฝากไว้ก่อนเถอะ โอลาน ไม่เป็นไร แก้แค้นสิบปีไม่สาย ชบาแก้วคงนึกในใจ ส่วนเอซังนี่ผมคาดการว่า คงหมดหัวหมูไปมิใช้น้อย งานนี้ ..555

จากคุณ : แว่นน้ำ - [ 29 พ.ค. 51 22:58:24 ]