Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 47 ดร. ดีเตอร์ ซาวเออร์ ผู้ผลิกโฉมให้ Univac ในเมืองไทย

    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 47  ดร. ดีเตอร์ ซาวเออร์  ผู้

    ผลิกโฉมให้ Univac ในเมืองไทย





    หลังจากลุงได้กลับไปนอนอย่างเต็มอิ่มมาแล้ว 24 ชั่วโมง

    เต็ม  ก็กลับมาทำงานที่บริษัทอีกครั้งหนึ่ง




    “กริ๊ง....กริ๊ง.....ผมอมรพูดครับ”   ลุงรับสายเอง




    Hi Amorn…. How every things?




    OH…Is that Dieter?




    Yes, I’m …. How about the tender at The Bank of

    Thailand?





    แล้วลุงก็เล่า  เล่า....เล่า เรื่องที่เราประกวดราคาได้ที่หนึ่ง

    ที่แบงก์ชาติให้ฟัง  ดร. ดีเตอร์ ฟังแล้วก็พลอยตื่นเต้นไป

    ด้วย  และบอกว่า  




    “หากแบงก์ชาติต้องการให้ ทำ Presentation เมื่อไหร่ ขอ

    ให้บอกไป  เขาจะมาทำ Presentation ให้เอง.....”  





    ลุงระล่ำระลัก ขอบคุณอย่างที่นึกไม่ถึงว่าจะมีคนที่มีน้ำใจ

    อย่างนี้อยู่ในบริษัทยูนิแวค




    เราเริ่มติดตามแบงก์ชาติอย่างใกล้ชิดทันที  เพราะของ

    พรรค์นี้  มันก็ไม่แน่เหมือนกัน  เนื่องจากเป็นการทำ

    Proposal ที่ฉุกละหุกเท่าที่เคยทำมา  อาจจะเขียนขาดตก

    บกพร่องไปบ้าง  หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น  การ

    ลืมเซ็นชื่อข้ามไปแม้แต่แผ่นเดียว (ใน TOR เขาระบุ

    ว่า “ต้องลงนามทุกหน้า”) ถ้าเขาเข้มงวดกันจริงๆ ก็อาจ

    โดนปรับตกได้




    ดังนั้น จึงขอบอกว่า “คนทำงานประกวดราคา” กับหน่วย

    งานราชการนั้น  ต้องรอบคอบ และละเอียดถี่ถ้วยจริงๆ

    เคยตกม้าตายกันไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว กับข้อ

    บกพร่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น ติดอากรแสตมป์ไม่ครบ  ลืม

    ประทับตราบริษัทในหนังสือมอบอำนาจ  อะไรที่ Spec.

    เขาบอกว่า “ต้องเสนอ” แต่เราไปเขียนว่า “เห็นควรจะ

    เสนอ....”
     อย่างนี้ก็ตก Spec  




    ลุงส่งคุณปราโมทย์ลงประกบกับคุณโอบเอื้อ  พี่เสาวนีย์  

    และกรรมการอื่นๆ  ลุงเองประกบคุณสุเมธารัตน์ และ ดร.

    วัลลภ.....พร้อมกับไม่ลืมเคยเอ่ย ถึง ดร. ดีเตอร์ ซาวเออร์

    ว่า  “เขาประทับใจอาจารย์มาก  ไม่คิดว่าจะมีผู้รู้อย่างนี้อยู่

    ในเมืองไทย  เขาบอกว่า  หากอาจารย์ต้องการ  เขาจะ

    กลับมาทำ Presentation ให้เอง  อาจารย์ต้องการเมื่อไหร่

    ก็บอกนะครับ”





    ธนาคารแห่งประเทศไทย  ใช้เวลาตรวจ และอ่านเอกสาร

    อยู่ประมาณ 2 อาทิตย์  ก็เรียกบริษัท ซัมมิทฯ ไปเจรจา

    เป็นบริษัทแรก.....นี่ก็เป็นสิ่งที่ควรจำไว้เหมือนกันว่า  “ถ้า

    เราราคาถูกที่สุด....อย่าลืม  เขา (ผู้ที่จะเป็นลูกค้า) จะต้อง

    เรียกเราไปเจรจาเป็นอันดับแรก”
     เขาจะเรียกผู้อื่นไม่

    ได้......................................




    และเมื่อเรียกเราแล้ว....เราก็อย่าเล่นตัว  อย่าไปทำให้เขา

    ต้องเรียกบริษัทที่ประกวดราคาได้ที่สองเข้าไปเจรจาได้

    เป็นอันขาด  ถ้าคุณทำให้เขาต้องเรียกบริษัทที่สองไป

    เจรจา  นั่นความความว่าโอกาสจะได้ หรือจะหลุด “ครึ่งต่อ

    ครึ่ง”





    ดังนั้น  ขอให้บริษัท ยิบอินซอย รอไปก่อน.....ในขณะที่

    เขาก็เรียกบริษัทซัมมิทฯ ไปเจรจาเป็นอันดับแรก  




    อันดับแรก  เขาจะเรียก “ต่อรองราคาในทันที”  แต่ลุงรู้

    ว่า  ....  การที่ยูนิแวค มีประวัติที่ไม่ค่อยจะงดงามในการ

    ติดตั้งที่ผ่านมาในอดีต  เช่น  ที่กระทรวงการคลัง  ก็มีเรื่อง

    ตรวจรับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง  ที่อีแกตก็มีปัญหา  ดังนั้น  “คุณ

    อมร...เป็นใคร  มาจากไหน จึงมีฤทธาอภินิหาร”
     ถึงขนาด

    ปลุกยูนิแวคให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อย่างกับปลุกแม่นาค

    พระโขนงให้ขึ้นมาอาละวาดได้อย่างรวดเร็วปานฉะนั้น




    จะขอความช่วยเหลือจากฮ่องกง  ไอ้เจ้านั่นเอาแต่

    ขายอย่างเดียว  ...  ได้ออเดอร์แล้วยังละ....ได้ออเดอร์

    แล้วยังละ.....เมื่อไหร่จะสั่งเครื่องละ.....ที่แบงก์ชาตินี้กี่

    แสนเหรียญละ.....มันน่าทุเรศ ที่คนขายที่ปฏิบัติตัวแบบนี้  

    ทีจะให้ช่วย  ไม่เคยช่วยเหลืออะไรเลย  แต่พอถึงบทจะ

    เอาออเดอร์ขึ้นมาละก็....กุลีกุจอเทียวละ!




    ลุงเลยขอทำ Presentation ก่อน  บอกกับทางแบงก์ชาติ

    ว่า  “Univac ที่ Head Quarter สนใจใน Deal นี้มาก  และ

    จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วย โดยจะส่งตรงมาจากอเมริกา

    เลย”
    .......พอแบงก์ชาติ OK ลุงก็เทลเล็กไปถึง ดร. ซาว

    เออร์  (CC. Hong Kong พอเป็นพิธี) ให้เข้ามาช่วย




    ดร. ซาวเออร์ กลับมาช่วยทำ Presentation ให้แบงก์ชาติ

    เป็นครั้งแรก  ที่ทำให้พวกเราประทับใจกันมาก  วันนั้น  ลุง

    เกณฑ์คนไปเกือบหมดบริษัท ไปฟัง ดร. ทำ

    Presentation ฝ่ายคนของแบงก์ชาติที่เป็นกรรมการ

    พิจารณาจัดซื้อ เข้ากับครบทุกคน  ทางเรามีก็มีคุณ

    นงลักษณ์  คุณพรเทพ  คุณวิวัฒน์  คุณโกศล  และเซลส์

    ทีมทุกคน  ลุงให้ทุกคนใส่เสื้อนอกหมดทุกคน  เป็นสี

    ขรึมๆ โทนเดียวกัน  (จะตัดเป็นเสื้อทีมให้ ก็กลัวไม่ทัน

    และกลัวโดนด่า  หากเกิดหลุดรายนี้ขึ้นมา)......ก็มีคนของ

    เราบางคน ไม่เคยใส่     ไม่อยากใส่  กลัวร้อน ฯลฯ  แต่

    ลุงบอกว่า  “เอาน่า...เอาฤกษ์ เอาชัยกันหน่อย....ใส่แป๊บ

    เดียวเท่านั้น  ถ้าไม่มีเดี๋ยวจะไปเช่ามาให้ใส่”





    จำได้ว่า ในการประกวดราคาครั้งนั้น  “คุณสุวัฒน์ ..(ไม่

    กล้าเอ่ยนามสกุลท่าน เพราะกลัวจะหาว่าเราละลาบละล่วง

    เพราะไม่ได้ขออนุญาตท่าน).............”
    ซึ่งเป็นรองผู้ว่า

    การ เป็นประธาน....ลุงจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า ได้เคย

    รู้จักท่านที่ไหนมาก่อนก็ไม่ทราบ.....จึงโทรไปถามคุณ

    ไก่  ก็ได้ความว่า  คุณสุวัฒน์  ท่านเป็นลูกหม้อของ

    ธนาคาร  เคยเป็นผู้อำนวยการโรงพิมพ์ธนบัตรมา

    ก่อน  ....  ลุงร้อง......




    “เอ๊ะ....ถ้างั้นลุงก็น่าจะรู้จักสินะ....ในเมื่อในอดีต  เราเคย

    เข้าไปขายเครื่องจักรทำบัญชีของยิบอินซอยให้ที่โรงพิมพ์

    ธนบัตรมาก่อน  แต่มันนานมากแล้ว  เคยเข้าไปนำเสนอ

    แต่ตอนหลัง ท่านย้ายไปไหนก็ไม่ทราบ...จึงไม่ได้มีการ

    ติดต่อกันอีกเลย”





    ก่อนทำการ Presentation 2 วัน  ลุงก็ไปค้นเอานามบัตร

    เก่าๆ ของลูกค้า  ซึ่งลุงเก็บไว้เป็นปึ้งๆ เรียงอย่างดีอยู่ใน

    ถาดเก็บนามบัตร  ค้นหาตัว “ส” ก็เจอชื่อ “คุณสุวัฒ

    น์ ..................”
    หยิบนามบัตรออกมาปัดฝุ่น  ก็มีเขียนไว้

    ในนามบัตรว่า “พบเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2510”  ไปเอา

    ไดอารี่ของวันที่ 8 ธันวาคม 2510 มาค้นดูก็พบ

    Information ของลูกค้า  (ถ้าเป็นสมัยนี้ เขาเรียกว่า

    CRM......555) เขียนไว้ว่า  




    “วันนี้ ได้ไปเสนอขาย F 1000 ที่แบงก์ชาติ  ได้พบกัยคุณ

    สุวัฒน์  XXXXX ผู้อำนวยการฝ่าย  ตอนเที่ยงท่านพาไป

    ทานอาหารที่ร้านข้าวแกง  อยู่ในกำแพงวัดติดกับธนาคาร  

    ท่านบอกว่าที่นี่ผัดเผ็ดปลาดุกและต้มยำกุ้งมีชื่อ......เราสั่ง

    มาเพิ่มอีกอย่างคือไข่ยัดใส้  ซึ่งอร่อยไม่แพ้กัน  จะออก

    สตางค์เลี้ยง  ท่านไม่ให้ออก  สั่งว่าเป็นธรรมเนียมของ

    แบงก์ชาติ  ไปกินข้าวกับพ่อค้าได้  แต่ห้ามไม่ให้พ่อค้า

    ออกเงิน.....วันนี้เลยได้กินฟรี”





    ลุงรีบ Note วันที่ เดือน และข้อความที่บันทึกเอาไว้  ติดตัว

    ไปด้วยตอนไปทำ Presentation




    ในวันทำ Presentation เมื่อทุกคนเข้าห้องประชุมหมด

    แล้ว  ดร. ทั้งสองก็เดินยืนสนทนากันอยู่เพื่อรอท่าน

    ประธานฯ




    บัดนั้น  เมื่อท่านประธานเดินมา  ลุงก็ลุกขึ้นยืน  โค้งต้อน

    รับ พร้อมทั้งมองหน้าท่าน.....ใช่  ใช่ครับ  ใช่จริงๆ

    ด้วย  “คุณสุวัฒน์ ............”  อดีตผู้ที่เคยเลี้ยงข้าว

    เซลส์แมนหนุ่มของยิบอินซอย ที่เคยเข้าไปขายเครื่องจักร

    ทำบัญชี  ดูท่านจะอายุมากขึ้น  แต่ยังกระฉับกระเฉง และ

    ดูเหมือนเดิม  ดูจะไม่ค่อยแก่เท่าไหร่ ทั้งที่เวลาผ่านมาถึง

    10  กว่าปีแล้วนับแต่วันที่เราเจอกันครั้งแรก




    ลุงไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยทักท่าน....หากท่านจำเราไม่

    ได้  “เราก็หน้าแตก”  และท่านยิ่งเป็นประธานการประกวด

    ราคาอยู่ด้วย ยิ่งน่าเกลียดเข้าไปใหญ่




    แต่....ท่านกลับเดินตรงมาที่เรา.....เรามาหยุดที่หน้าลุง

    แอ็ด  แล้วเอ่ยว่า.....




    “เป็นไง  คุณอมร  ตอนนี้มาขายคอมพิวเตอร์แล้วหรือ....

    จำผมได้หรือเปล่า?....”





    ลุงถึงกับตกตะลึง  ยืนงงอยู่กับที่ เพราะไม่นึกไม่ฝันมา

    ก่อนว่า ท่านจะจำเราได้  แต่....สัญชาติญาณของความ

    เป็นเซลส์แมน สอนให้เรารีบยิ้มแล้ว พนมมือขี้นไหว้

    ท่านอย่างนอบน้อม  แล้วเอ่ยว่า




    “ท่านสุวัฒน์ครับ  กระผมจำได้ครับ ว่ากระผมเคยเข้าไป

    ขายเครื่องจักรทำบัญชีให้ท่าน ตอนที่ท่านเป็นผอ. อยู่ที่

    โรงพิมพ์ธนบัตร  วันนั้น  ตอนเที่ยง  ท่านได้เลี้ยงปลาดุก

    ผัดเผ็ดที่อร่อยที่สุด....กระผมยังจำได้เสมอมิเคยลืมเลือน

    เลยขอรับ....”





    “โอ้โห....คุณนี่จำได้แม่นจริงๆ  ร้านนั้นยังอยู่นะ  เดี๋ยว

    Present เสร็จ  แล้วไปกินข้าวกัน...”





    “ผมขออนุญาตสั่งต้มยำกุ้งและไข่ยัดใส้ด้วยนะขอรับ.....”




    ลุงแอ็ด กระแทกความทรงจำให้รื้นฟื้นขึ้นมาอีกหน่อย




    ท่านยิ้ม....พลางหันไปพูดกับสต๊าฟของแบงก์ชาติว่า




    “นี่เพื่อนเก่าของผม  เดี๋ยวใครว่างบ้าง  เลิก Present แล้ว

    จะพาคุณอมรไปกินร้านป้าแม้นหน่อย ใครจะไปบ้างก็

    เตรียมตัวนะ....คุณเสาวนีย์ ช่วยสั่งผัดเผ็ดปลาดุก  แล้วก็

    ต้มยำกุ้งให้คุณอมรด้วย  ของชอบของเขา.......”





    คงไม่ต้องบอกพวกเรากระมังว่า  การ Presentation ในวัน

    นั้น จะราบรื่นแค่ไหน.....แต่ที่ทุกคนยังสงสัยกันอยู่ก็

    คือ  “คุณอมร ได้ไปรู้จักกับท่านประธาน รองผู้ว่าฯ ได้

    อย่างไร”





    ก็รู้จักจาก “สมุดบันทึก” ที่ลุงบันทึกเรื่องสำคัญไว้ทุกตัว

    อักษรเท่านั้นเอง...... และเป็นสมุดบันทึก ที่บันทึกทุก

    เรื่องเกี่ยวกับชีวิตของลุงอยู่ในเล่มนั้น วันต่อวัน  นาทีต่อ

    นาที  และบัดนี้มันก็มีเป็นจำนวน 40กว่าเล่มเข้าไป

    แล้ว........




    หลังจากผ่านการ Negotiation กันตามทำเนียม...... วันลง

    นามในสัญญา  ก็มาถึง  โดยลุงให้ “ท่านประธานของ

    บริษัท” คือ มร. ซี เจ ฮวง เป็นผู้ลงนาม




    และวันนั้นเอง...ลุงก็ได้มีโอกาสนั่งรถ “บูอิก” สีฟ้า  คัน

    ยาวเท่าตึก ซึ่งเป็นของประธานโรงกลั่นมันบางจากเป็นครั้ง

    แรก.....................................................................

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 1 มิ.ย. 51 20:08:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom