ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ดูข้อมูลเบื้องต้น ผมว่าค่อนข้างเสี่ยงเหมือนกันในภาวะอย่างนี้นะครับ เพราะว่าความพร้อม ความรู้จริงในสิ่งที่จะเสี่ยงลงมือทำ ยังไม่ได้มีความรู้จริงด้วยตัวเอง เอาความเสี่ยงไปผูกกับเฟรนไชส์มากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานขายอาหารนี่เหนื่อยมากๆ ครับ ระยะยาวนี่ ท้อใจกันไปหลายคน อยากให้ใจเย็นๆ และพิจารณาให้ละเอียดมากๆ นะครับ ก่อนตัดสินใจ เอาใจช่วยครับ การลงทุนทำธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จ บางคน เตรียมความพร้อมมาอย่างดี Research มาอย่างมั่นใจ ถึงเวลาลงสนามจริง ล้มไม่เป็นท่า มีตัวอย่างให้เห็นก็เยอะ บางคน ทำแบบไม่ตั้งใจ ทำไปทำมา ถอยเมอร์ซีเดสป้ายแดงออกมาขับแล้ว ไม่มีอะไรแน่นอน จากคุณ : มานี มีนา พาตา ไปดูปู - [ 3 มิ.ย. 51 17:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลองไปดูกระทู้ของคุณมิมิแพนด้านะครับ น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง จากคุณ : ปอเอี๋ยว - [ 3 มิ.ย. 51 17:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ค่าใช้จ่าย  ค่าเช่าตึก                  เดือนละ   25000 บาท ค่าลูกจ้าง 4 คนๆละ 200 เป็น 800 เดือนละ   24000 บาท รวมเฉพาะ  2 รายกาีร               เดือนละ    49000 บาท วันหนึ่งขายได้ 100 ชามๆละ 30 บาท กำไร 50 % = 1500 บาท   กำไรเดือนละ    45000 บาท   จะเป็นอย่างนี้ไหมครับ จากคุณ : บุญถิ่น - [ 3 มิ.ย. 51 17:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพื่อนเคยถามแบบนี้เหมือนกัน ตอบสั้น ๆ  ..... ต้องถามเค้าว่า เค้ามีเซ้นท์ในการกิน การชิมอาหาร หรือเปล่า ถ้ามี  เปอร์เซ็นจะรอด  50/50 เพราะที่เหลืออยู่ที่ทำเล กับ ดวง ถ้าไม่มี  ให้กลับไปดูเรื่อง แดจังกึม แล้วจะรู้ว่า คนทำอาหาร ควรเป็นคนยังไง หรือ ถ้าจะเถียงว่า ชั้นซื้อ แฟรนไชส์ ไม่เห็นจะต้องรู้เรื่องเครืองปรุงอาหารเลย หรือ รู้นิดๆ หน่อย ตามที่เจ้าของสูตรเค้าบอก อันนี้ บอกได้คำว่า จบ เลย ........ จากคุณ : ถึงจะจน แต่ก้อเลือกกินนะ (มาเฟียหัวใจง้องแง้ง) - [ 3 มิ.ย. 51 18:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เท่าที่อ่านมานี่ฟังธงได้เลยว่า....ร่วง!..แน่ ๆ อย่าคิดทำเลยค่ะ ต้องเปิดมานานแค่ไหนกว่าจะได้วันละ 100 ชาม เพราะอยู่ ๆ ร้านเปิดใหม่คงไม่มีใครมากินเยอะขนาดนี้ตั้งแต่แรกหรอก ชื่อเสียงและลูกค้าคงต้องค่อย ๆ สร้าง ช่วงแรก ๆ ถ้าของขายไม่หมดทำอย่างไร เก็บไว้นานก็ไม่ได้ ไม่สด เสียรสชาติ ถ้าทิ้งก็ทุนหาย ลูกจ้าง 4 คนนี่จะหาจากไหน แล้วเขาเหล่านั้นจะอยู่ทนไหม เรื่องทุจริตอีกล่ะ ถ้าไม่ได้ดูและใกล้ชิดหรือระบบรัดกุมก็รั่วไหลได้ง่าย ๆ นะ เริ่มในธุรกิจที่ตนเองไม่มีความรู้ความถนัดมาก่อนจะดีหรือ จากคุณ : Demo's sister - [ 3 มิ.ย. 51 18:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง กล้าเสี่ยงป่าวหละ มี 2 ทาง รวยกับร่วง จากคุณ : CE - [ 3 มิ.ย. 51 18:48:46 A:58.8.221.178 X: TicketID:167342 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คือเค้าคิดว่าซื้อแฟรนไชส์มาถือว่าเป็นการการันตีเรื่องความอร่อย ไม่ต้องทดลองสูตรเอง ไม่ต้องใช้ความชำนาญ ไม่ต้องอาศัยการฝึกฝน เคยบอกให้ลองเอาสูตรของที่บ้านไปหัดทำดู แล้วแจกจ่ายให้คนอื่นชิม และช่วยวิจารณ์ ก็ว่าสู้สูตรสำเร็จไม่ได้ แต่ความเป็นคนช่างชิม เลือกทานแต่ของอร่อย ไม่อร่อยไม่ทาน ไกลแค่ไหนก็ตามไปชิม ฉะนั้น เซ๊นส์ในการรับรู้รสชาติอาหารคงไม่มีปัญหา แต่เป็นคนรักสบาย ชอบทำงานเบาๆ ไม่ชอบทำงานสกปรก เราถึงอึ้งๆไปว่าจะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวในตอนแรก ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันไม่ง่ายเลย แต่เธออ้างว่าอาหารมีทุน มีแบรนด์อาหาร มีแหล่งทำเลทอง มีที่จอดรถให้ลูกค้า กับความตั้งใจเกินร้อยแล้วจบ แต่เราไม่คิดอย่างงั้นสิคะเพื่อนๆ ไม่งั้นคนขายอาหารก็รวยขายดิบขายดีทุกเจ้าแล้วสิ เราว่านอกเหนือจากนั้น น่าจะมีเรื่อง -แหล่งวัตถุดิบ (เธอว่าจะซื้อวัตถุดิบตามโลตัส ฯลฯ เหตุผลไม่ชอบเดินตลาด มันสกปรก) -การเก็บรักษาอาหาร ถ้าขายไม่หมดในแต่ละวันจะทำยังไง -การจัดการบุคลากร เรื่องคนก็สำคัญมาก เวลาคนงานลาหยุดแล้วไม่มา สามารถทำงานทุกอย่างเองได้ไหม หรือหาคนงานทดแทนได้เร็วแค่ไหน เวลารวมหัวกันขอขึ้นค่าแรง หรือความไว้ใจเกี่ยวกับการเงิน ฯลฯ นี่ยังไม่นับถ้าหากมีคู่แข่ง อยู่ใกล้ๆกันเกิดใหม่ จะมีกลยุทธ์เรียกลูกค้ายังไง จากคุณ : จขกท. - [ 3 มิ.ย. 51 18:58:24 A:210.203.174.204 X: TicketID:169940 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ค่าเช่าแพงเกินไป เช่าตึกที่ศรีราชาไม่น่าจะเกิน 15000 ต่อห้อง เห็นด้วยกับ คห 5 ขายอาหารช่วงแรกจะต้องนั่งตบยุงประมาณ 3-6 เดือนกว่าจะติด คนงานที่ศรีราชาเป็นมอญพม่าก็เยอะ ค่าแรง 180-350 แนะนำให้หา ข้าวหมูแดงหมูกรอบ ที่ทำแบบมืออาชีพ มาขาย ไอ้แบบที่สไลด์บางๆ เท่ากระดาษอย่าทำเพราะที่ทำๆมา เลิกไปหมดแล้ว หรือจะเป็นข้าวมันไก่เบตงแบบที่มีน้ำซีอิ้วราดก็น่าจะพอได้ แต่ข้าวมันไก่แบบธรรมดามีอยู่หลายร้านแล้ว บอกเพื่อนคุณด้วยว่างานขายอาหารเป็นงานที่หนักมาก คุณหนูอาจกล้ามขึ้นก็คราวนี้แหละ อย่างไรก็ตามก็ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านไปได้ด้วยดีครับ จากคุณ : อดีตคุณหนู ปัจจุบันเป็นป๊อปอาย - [ 3 มิ.ย. 51 19:40:48 A:124.120.0.35 X: TicketID:129594 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ห่วงสวยขายอาหารไม่ได้หรอกครับ เพราะทั้งหนักและเหนื่อย ผมว่า ทำร้านขายของเล็กๆจะยังดีซะกว่า จากคุณ : กด - [ 3 มิ.ย. 51 19:55:33 A:210.203.181.139 X: TicketID:174757 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าคิดว่าไปบอกห้ามเขาได้ เขาฟังคุณ ค่อยไปห้าม ถ้าเขาไม่ฟังคุณก็อย่าเอาความคิดแบบ negative ไปบอกเขา มันบั่นทอนกำลังใจ มันทำลายความเชื่อมั่น เป็นผลเสียมากกว่าผลดี เรียกว่าหวังดีแต่มุ่งร้าย ไปช่วยเขา ไปแนะนำเขาว่าควรทำยังไงดีกว่า ไปเสนอไอเดีย ไปช่วยต่อรองราคา หาวัตถุดิบ คิดเมนูอาหาร ไปบอกว่าควรมีแผนสำรองยังไง ฯลฯ หรือไม่งั้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลย จากคุณ : TingTing - [ 3 มิ.ย. 51 19:57:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ณ วินาทีนี้ ทำงานกินเงินเดือนไปจะดีกว่าครับ อย่าพึงเสี่ยงออกมาทำธุรกิจเองเลย จากคุณ : muk_22 - [ 3 มิ.ย. 51 20:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แฟรนไชส์ก๊วยเตี๋ยว ผมมองว่าไม่ค่อยเวิร์ค สู้คิดสูตรเองจะดีกว่า  ลองนึกดูว่ามีสูตรไหนที่คนยังไม่คิดทำบ้าง เช่น ก๊วยเตี๋ยวไก่มะระ ก๊วยเตี๋ยวตำลึง ก๊วยเตี๋ยวเรือ ก๊วยเตี๋ยวปลา ก๊วยเตี๋ยวสมุนไพร ก๊วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น ก๊วยเตี๋ยวหมู ก๊วยเตี๋ยวเนื้อ ก๊วยเตี๋ยวหลอด ก๊วยเตี๋ยวชะอมไข่ (เผื่อจะมี) ก๊วยเตี๋ยวถังแตก ก๊วยเตี๋ยวทะเล ก๊วยเตี๋ยวเพื่อชีวิต ฯลฯ เป็นเซลล์อนาคตไม่แน่นอน ขายก๊วยเตี๋ยวก็ไม่แน่นอนเช่นกัน แต่อย่างหลังถ้าทำดีก็แจ่มอยู่กะเราตลอดกาล อิอิ จากคุณ : chem chem - [ 3 มิ.ย. 51 23:53:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยครับลองให้ไปอ่านซีรี่ย์ของคุณมิมิ แพนด้าในคลังกระทู้ดูก่อนอ่านเข้าใจแล้วจะทำก็แล้วแต่เค้าอะครับ อาจจะทำแล้วมีกำไรก็ได้ มันไม่แน่ แต่ค่าเช่า25000แสดงว่าทำเลต้องดีมากแน่เลย เพราะค่าเช่าขนาดนี้แค่คิดก็เหนื่อยแล้วครับ จากคุณ : ชินจัง..ชักจะชินแล้ว - [ 4 มิ.ย. 51 02:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าไม่เลิกหยิบโหย่ง เจ๊งแน่ๆ แฟรนไชส์แทบจะไม่ใช่ตัวการันตีความสำเร็จและความอร่อยเลยนะ.. แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 51 02:12:18 จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 มิ.ย. 51 02:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ข้างที่พักผมมีก๋วยเตี๋ยวเฟรนไชส์อยู่เหมือนกัน อร่อยนะ แต่ได้น้อย กินไม่อิ่ม สู้กินที่มันอร่อยน้อยกว่าแต่ได้เยอะ ผมว่ามันคุ้มกว่าอีก คนเราอยู่ด้วยท้องครับ จากคุณ : golf CMI (golf CMI) - [ 4 มิ.ย. 51 10:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ร้านอาหารมาเร็วไปเร็วครับ  ไหนจะคู่แข่งอีก  แถมค่าเช่าเดือนละตั้งสองหมื่นห้า  ผมว่าแนวโน้มจะร่วงมากกว่ารุ่งครับ จากคุณ : LimitBreak - [ 4 มิ.ย. 51 11:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ดิฉันเป็นคนนึงที่อยากทำร้านอาหาร เพราะเป็นคนชอบทาน แต่ทำอาหารไม่เป็น และคิดอยากจะมีธุรกิจนึงไว้รองรับครอบครัวในอนาคต เมื่อท่านแก่เฒ่า จะได้ไม่ต้องทำงานประจำ แต่ตอนนี้ดิฉันเองคงไม่มีเงินพอที่จะไปซื้อแฟรนไซด์ เซ้งร้าน จ้างลูกจ้าง และยังไม่พร้อมจะออกจากงานประจำ สิ่งที่ทำตอนนี้คือ ดิฉันหัดทำกับข้าวค่ะ หัดทำมาได้เกือบปีแล้ว เริ่มจากสิ่งที่เราชอบกิน แล้วก็พัฒนามาเป็นเมนูที่ร้านอาหารตามสั่งขายกัน จนมาถึงพวกเมนูแบบร้านนั่งกิน แล้วก็ทำมาขายแบบข้าวกล่องให้พี่ที่บริษัท แต่คิดราคาทุนนะค่ะ ถือว่าเราฝึกมือ ดิฉันถือว่าเป็นการเตรียมพร้อมก่อนออกสู่สนาม เกิดวันนึงฝีมือเราเข้าท่ามากกว่านี้ อาจเปิดร้านเลยก็ได้ในอนาคต ดิฉันว่าถ้าเพื่อนคุณไม่รีบร้อนจนเกินไป ควรหัดทำพวกอาหารไว้บ้างนะคะ ก่อนจะไปเปิด อะไรที่เราไปพึ่งพาลูกจ้างหมดไม่ดีหรอก คนเป็นเจ้าของกิจการควรจะต้องทำได้บ้าง เงินมีก็หมดได้ค่ะ บางคนฝีมือดี ยังเจ๊งได้เลย ของแบบนี้มันต้องหลายอย่างประกอบกัน และดิฉันคิดว่าบางทีเราไม่จำเป็นต้องขายสารพัดอย่างในร้าน เคยเห็นคนขายข้าวมันไก่อย่างเดียวแล้วรวยไหม ทำให้น้อยอย่าง แต่อร่อย ย่อมดีกว่า และค่าเช่าแพงมากค่ะ เริ่มต้นทำเป็นกิจการเล็กๆ ไม่ต้องจ้างลูกจ้างเยอะ น่าจะดีกว่าน่ะค่ะ จากคุณ : น้ำหวาน (IT Talk) - [ 4 มิ.ย. 51 11:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 25000 สงสัยในศรีราชานครแน่ๆ เลย แค่จะหาที่จอดรถก็เหนื่อยแล้ว แล้วในศรีราชา เจ้าอร่อยๆ ก็เยอะอยู่แล้ว สู้เค้าได้เหรอ มีอาหารหมดทุกชาติเลย แล้วงงจัง คห.8 บอกศรีราชาคนมอญพม่าเยอะ มันเยอะตรงไหนฟะ ตูเห็นแต่ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีเต็มเมือง ผมว่ายากหน่อยนะขายก๋วยเตี๋ยวอ่ะ เพราะเจ้าเก่าเค้าก็มีกันอยู่แล้วไม่ว่าจะก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ บะหมี่เกี๊ยวนายแดง เต็มไปหมด ร้อยชามผมว่าได้อยู่แล้วล่ะ แต่มันจะพอเร้อ ปกติที่นี่ แค่ร้านรถเข็น หรือบะหมี่เกี๊ยวป๊อกแป๊ก วันๆ มันก็ได้ร้อยชามอยู่แล้ว ร้อยชามไม่พอหรอก ผมว่าถ้าจะจอดก็คงสองเดือนแรกนี่แหละ ถ้ารอดได้ก็คงสบาย ถ้าเจ้าของตึกเค้าไม่ขึ้นค่าตึก อย่าทำเป็นเล่นไป แถวนี้เจอกันออกบ่อย พอขายดีก็ขึ้นค่าตึกซะงั้น คนค้าขายก็ซวยกันไป มาปูทางให้คนอื่นซะงั้น 555 จากคุณ : Pochrat - [ 4 มิ.ย. 51 12:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เออ ลืมแนะนำอีกอย่าง ตรงแหลมทองแหลมฉบังอ่ะครับ เค้าจะทำเป็น Lotus ไม่ลองไปดูทำเลแถวนั้นล่ะครับ ตึกกำลังปรับปรุงอยู่เลย ค่าตึก ค่าที่น่าจะถูกกว่ากันเยอะ แต่ก็เสี่ยงเอาหน่อยละกันว่ามันจะบูมรึเปล่า แต่ตึกแถวนั้นคงต้องบูรณะกันเยอะหน่อย ชอบจ่ายตลาด Lotus อยู่แล้วนิ จากคุณ : Pochrat - [ 4 มิ.ย. 51 12:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ช่าย เลย ทำกับข้าว พวกกับข้าวถุงจะดีกว่านะ จากคุณ : muk_22 - [ 4 มิ.ย. 51 14:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จากข้อมูลที่ให้มา บวกกับ ประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่น่าจะรุ่งครับ... จากคุณ : afood - [ 4 มิ.ย. 51 19:11:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มีความมั่นใจ +ดวงนิสๆ   ทำไปเลยครับ ยกตัวอย่างแม่ตัวเองแล้วกัน   เริ่มแรก ทางบ้านผมเป็นหนี้เป็นสิ้นค่อนข้างเยอะ(หลักล้าน) แม่ไม่มีงานทำพ่อก็ข้าราชการเงินเดือนเดือนละ สองหมื่นกว่าๆเอง ผมตอนนั้นยังเรียนอยู่ แม่ปรึกษากับพ่อว่าอยากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว เลยเอาบ้านที่ซุกหัวนอนอยู่ไปจำนอง เนืองจากไม่มีหลักทรัพไดค้ำแบงค์ได้เลย จากนั้นก็หาทำเลดีๆ ตอนแรกหาที่เช่าได้ 1 คูหา เริ่มแรกก็ทำน้ำก๋วยเตี๋ยวเองทำไปเรื่อยเปื่อย จนได้น้ำที่คิดว่าอร่อยแล้วก็เปิดขายเลย เริ่มแรกคนแทบไม่มี ท้อมาก บ้านโดนยึดแน่ๆ ไม่มีคนเลย  แม่ทนเปิดร้านไป 5 เดือน คนเริ่มติด พอครบ 1 ปีคนเยอะมาก จนต้องเช่า 2 คูหา  แล้วก็ขายพวก ข้าวซอย ก๋วยจั๊บไปด้วย พอคบปีที่ 2 กำไรทั้งปี ประมาณ ล้านหน่อยๆ ก็พอมีตังใช้หนี้เค้าบ้างแล้ว จากนั้นก็เซ้งร้านไป  ไปหาที่เปิดเป็นของตัวเองไม่ต้องเช่า จนปัจจุบันแม่ขายมาแล้ว 6ปี  กำไรแต่ละเดือนหักค่าน้ำไฟ ค่าลูกจ้างแล้ว ตกประมาณ 3-4แสนบาท ต่อเดือน ทุกวันนี้ไม่มีหนี้แล้ว ชีวิตมีความสุขมากครับ จากคุณ : BOTJANE - [ 4 มิ.ย. 51 20:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ^ ^ ถ้าใจสู้ อะไรก็เป็นไปได้ครับ ลองเลย เชียร์เต็มที่ ถ้าอะไรก็กลัว ถ้างันก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี นู่นก็กลัว นี้ก็กลัว ถ้าเป็นอย่างนี้ก็เจ๊งตั้งแต่อยู่ในมุ่งแล้วครับ ถ้ากลัวนั้น ก็หาวิธีป้องกัน ถ้ากลัวนี้ก็หาวิธีป้องกัน ซิครับ กลัวได้แต่อย่าถอย ไม่มีใครเคยทำมาแต่เกิด ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ถ้าไม่เริ่ม 1 ก็ไม่มี 2 3 4 ... ลุยของกินอย่างไงก็ขายได้ เพราะเศรฐกิจไม่ดียังไงคนก็ต้องกิน สู้ ๆ อีกอย่างงานขายก๋วยเตี๋ยวเป็น อาชีพที่ได้เห็นเงินทุกวัน มีเงินเข้าทุกวัน มีจะยิ่งมีกำลังใจในการทำต่อไป ดีกว่าการไปขายอย่างอื่นที่นานๆ จะขายได้ซักที จากคุณ : bb (Trerak) - [ 5 มิ.ย. 51 00:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบไอเดียคุณน้ำหวาน (IT Talk) จัง จากคุณ : ชินจัง..ชักจะชินแล้ว - [ 5 มิ.ย. 51 02:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จะทำธุรกิจเองต้องขยันค่ะ ไม่ว่าจะขายก๋วยเตี๋ยว หรือเป็นเจ้าของโรงแรมพันล้าน อีกอย่างถ้าจะขายอาหารควรจะต้องทำอาหารเป็น และทำงานในครัวได้ทุกอย่าง มีพี่คนนึงที่บ้านรวยมาก พ่อแม่เค้าเปิดร้านอาหารให้ที่ซานฟราน จากคุณหนูขับรถสปอร์ต ต้องมานั่งเด็ดผัก แถมช่วยผัดในวันที่แม่ครัวลา ทำได้มั้ยคะ จากคุณ : ItchyScratchy - [ 5 มิ.ย. 51 10:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราให้้คำแนะนำไม่ได้ค่ะเพราะไม่มีความรู้ แต่เราอยากจะมาขอคำแนะนำแทนค่ะ ว่าเป็นเซลล์ขายรถมันยากมั้ยค่ะ คืออยากทำมานานแล้ว แต่ไม่มีความรู้ด้านนี้เลยค่ะ แต่มีอย่างนึงก็คือรักงานบริการชอบพบปะผู้คนแล้วชอบขายของค่ะ ยังไงรบกวนด้วยนะคะ จากคุณ : แป้งร่ำ (gieny) - [ 5 มิ.ย. 51 12:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชื่นชมความคิดเห็นที่ 10 ครับ คุณเป็นคนเข้าใจคน และชีวิต จริง ๆ จากคุณ : Trantor - [ 5 มิ.ย. 51 13:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โอ้ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ได้คำแนะนำดีๆเพียบเลย เดี๋ยวจะเอาไปให้อ่าน คือเจ้าตัวเป็นคนใจร้อน ปรู๊ดปร๊าด ประเภทว่าต้องค่อยๆหัดทำกับข้าว ทำให้อร่อย แล้วแจกให้คนอื่นชิม ขอบอกว่าผ่านค่ะ เค้าไปซื้อแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นมาแล้ว (แอบไปคนเดียว) ไปเรียนมา 1 วัน เจ้าของสูตรค่อนข้างงง เพราะว่าเพื่อนเราล้างหม้อไม่เป็น ล้างผัก หั่นผักไม่เป็น แม่เค้ามารู้ทีหลัง โทรมาร้องไห้ บ่นให้ฟัง บอกว่าทำใจไม่ได้ มันทำอะไรไม่เป็นเลย ขนาดชุดชั้นใน แม่มันยังต้องซักให้ จะทำไปได้สักเท่าไร มันกำลังจะเจ๊ง เล่าว่าถ้ามันเจ๊งคราวนี้ หมดตัวนะให้ช่วยห้ามที (อย่างน้อยๆต้องใช้ทุน 3-4 แสน) แต่เราว่าไม่ทันการณ์แล้วล่ะ มารู้ทีหลังว่าแอบไปจ่ายเงินค่ามัดจำตึกไว้เรียบร้อยแล้ว 5 หมื่น ตอนนี้ได้แต่คอยให้กำลังใจ เอาใจช่วย ให้ผ่าน 3 เดือนแรกไปได้ด้วยดี และให้หัดทำกับข้าว อย่างที่คุณ "น้ำหวาน (IT Talk)" แนะนำ ควบคู่ไปด้วย เค้าเช่าตึกอยู่ศรีราชา ตรงข้ามกับรพ.พญาไท4 แถวๆโรบินสันน่ะค่ะ เราว่ายิ่งมีใครไปห้ามเขาตอนนี้ เหมือนจะยิ่งยุ เหมือนเขาจะลบคำสบประมาทของทุกคนให้ได้ เราว่าไม่แน่อาจจะรุ่ง รวยไปเลยก็ได้ ของอย่างนี้ ไม่ลองไม่รู้ เหมือนคุณแม่ของคุณ "BOTJANE" ก็คงดี เพื่อนเรามันเป็นคนกล้าได้กล้าเสียซะด้วย -คุณแป้งร่ำ (gieny) ถ้าอยากเป็นเซลก็ลองสมัครตามโชว์รูมได้เลยค่ะ แต่ละดีลเลอร์จะให้สวัสดิการไม่เหมือนกัน เราก็เคยเป็นเซลมาก่อน ช่วงสั้นๆ บางดีลเลอร์ให้เงินเดือนขั้นต่ำ บางที่ก็ไม่มีให้ แต่ต้องทำใจว่าอาชีพนี้เงินดีถ้าขายได้ แต่ถ้าขายไม่ได้ จะเอาที่ไหนกิน ไหนจะค่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าแต่งตัว ค่าอาหาร คุณต้องรู้จักเก็บเงินไว้ แล้วก็ไม่ค่อยมีบันได้ให้ไต่ มีแค่ตน.ผจก. โชว์รูมละ 1 คน คุณสามารถจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้มั๊ย เซลผู้ชายจะยอมรับคุณมั๊ย และต้องรักษายอดในแต่ละเดือนด้วย ทางศูนย์ใหญ่จะมีการประเมินผลงานด้วย ไม่ใช่ว่าเป็นผจก.แล้วจบ อย่าลืมรีบเก็บเงิน อย่าเพลินกับเงินที่หามาได้ง่าย จะหมดไม่รู้ตัว จะบอกยังไงล่ะ คือมันไม่มั่นคงน่ะ จากคุณ : จขกท. - [ 5 มิ.ย. 51 14:22:41 A:210.203.174.204 X: TicketID:169940 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนนี้ผมว่าคัณคิดดูให้ดีๆๆดีกว่าครับ ตอนนี้งานหายากมากๆๆ คนตกงานก็ มากๆๆคนอื่น เค้าก็คิด เหมือนกับที่คุณคิด ละครับ กับการทำอาหารขาย พวก ข้าวหมูแดง  ข้าว ขาหมู  ก๋วยเตี๋ยว แถวบ้าน ทางชานเมือง กรุงเทพ จานละ 25 บาท จาก เมื่อก่อน จาน ละ 20 บาท ก็พอรับได้ครับ ทุกคนเข้าใจ ในสภาพตอนี้ ครับ แต่ถ้าราคาสูงกว่านั้น ก็ไม่มีคนซื้อกินแน่ๆๆครับ  เพื่อนที่ ค้าขายก็บล่นกันทุกคน กับ จำนวน ลูกค้าที่ลดลงไป เล็กน้อย  เพราะคน ค้าขาย ก็มากๆขึ้น ผมก็ค้าขาย หลังจากออกจากงาน เมื่อ ปี 2546 ครับ  ตอนนี้ทำงานประจำก่อนดีกว่าครับ เชื่อผมสิ จากคุณ : okb - [ 5 มิ.ย. 51 14:31:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตรงข้ามพญาไท ใกล้ๆ ก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ เลย แถวนั้นคนก็เยอะอยู่ มีไนท์แสควด้วย เปิดแล้วจะแวะไปกินนะครับ จากคุณ : Pochrat - [ 5 มิ.ย. 51 16:30:38 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าห้ามเพื่อนไม่ทันแล้ว งั้นก็ขออวยพรแทนแล้วกันนะค่ะว่าขอให้กิจการเจริญรุ่งเรือง ถ้าดิฉันได้ผ่านไปแถวศรีราชา จะแวะไปทานค่ะ ว่าแต่..เพิ่งซื้อแฟรนไชน์เฉพาะก๋วยเตี๋ยวมาอย่างเดียวใช่ไหมค่ะ ถ้าใช่..งั้นก็เบรกเอาแค่อันนี้ก่อนดีกว่าค่ะ ถ้าอันนี้เริ่มลงตัวเข้าที่เข้าทาง จะซื้อแฟรนไชน์อย่างอื่นมาทำต่อ ค่อยว่ากัน ดิฉันแนะนำว่าถ้าจะหาอะไรมาขายเสริมให้ลองเป็นของทานเล่นได้ดีกว่าไหมค่ะ อาจไม่ต้องไปเสียค่าแฟรนด์ไชด์ด้วย เช่นลูกชิ้นปิ้ง เปาะเปี้ยสด ทำง่ายค่ะ หาสูตรได้จากในห้องก้นครัว ดิฉันทำอาหารหลายอย่างเป็น ก็เพราะไปหาสูตรจากในนี้มาด้วย และนำมาประยุกต์ใช้ ไม่อยากบอกเลย จะกลายเป็นเผาตัวเอง ฮ่าๆๆๆๆ ดิฉันเองเป็นคนใจร้อนค่ะ แต่การทำอาหารก็ทำให้เราใจเย็นลง พิถีพิถันขึ้น เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยชอบเดินตลาดสดเท่าไหร่ เพราะตลาดที่เคยเจอมีแต่สกปรก หนูวิ่ง น้ำขัง แต่อันนั้นเป็นตลาดที่บ้านตจว.น่ะค่ะ อาจเพราะไม่มีจนท.มาตรวจ สภาพเลยเป็นอย่างที่เห็น แต่ที่กรุงเทพ ส่วนใหญ่ตลาดจะค่อนข้างสะอาด เพราะมีการสุ่มตรวจ ก็เลยชอบเดิน ของพวกผักสด ของสด ราคาในตลาด ถูกกว่าตามห้ามเยอะ ของในห้างดิฉันจะซื้อเฉพาะเครื่องปรุงรส ข้าวของใช้เท่านั้น ส่วนของสดไปตลาดโล้ดค่ะ... การเป็นคนกล้าได้กล้าเสียอย่างเพื่อนคุณ ในบางสถานการณ์ก็ดีนะค่ะ บางทีไตร่ตรองมากไปอาจช้าไม่ทันการ นิสัยแบบนี้เมื่อก่อนก็เป็น แต่มาลดลงหลังจากมีภาระบ้าน และรถ ฉะนั้นจะขยับตัวไปไหน ทำอะไร ต้องเคาะรายได้ และคชจ.ก่อน ถ้าเจ็บตัวก็ไม่ทำค่ะ จากคุณ : น้ำหวาน (IT Talk) - [ 6 มิ.ย. 51 09:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณนะคะสำหรับคำแนะนำ ยังไงก็ขอให้กิจการที่กำลังทำอยู่รุ่งเรืองนะคะถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวนั้นจะไปอุดหนุนแน่นอนเลยค่ะ จากคุณ : แป้งร่ำ (gieny) - [ 6 มิ.ย. 51 14:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 -คุณ "น้ำหวาน (IT Talk)" เพื่อนเราเขาซื้อแฟรนไชส์มา 3 อย่างแล้วค่ะ กะว่าลงตูม ทีเดียวรวย มีก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น, ขนมจีนน้อมจิต, กับสเต็กลุงหนวดค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนล่วงหน้านะคะที่จะแวะไปอุดหนุนกัน จากคุณ : จขกท. - [ 7 มิ.ย. 51 14:09:24 A:210.203.174.209 X: TicketID:169940 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โอ้โห.....ลงทีละ 3 แฟรนไชส์ หลังเปิดแล้ว....มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ....อยากรู้จัง จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 7 มิ.ย. 51 23:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมอยากเป็นเซลล์แบบพี่บ้างนะครับ ผมอยากไ้ด้ข้อมูลนะครับ ติดต่อทางเมล์ผมนะครับ จากคุณ : felan_ze@hotmail.com - [ 8 มิ.ย. 51 18:29:28 A:222.123.112.98 X: TicketID:164759 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมก็คิดว่าจะขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนกันที่ จ.ขอนแก่น ค่าเช่าเดือนละ 35000 อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยขอนแก่น รู้สึกว่าค่าเช่ามันแพงมาก ผมก็คิดอยู่ว่าจะคุ้มไหม อยากถามคุณ BOTJANE ว่าคุณแม่ขายได้วันละกี่ชามครับ ผมจะได้เอามาคำนวนว่าจะต้องทำยอดให้ได้สักเท่าไหร่ หรือใครเคยมีประสบการณ์ในการขายก๋วยเตี๋ยว ช่วยบอกหน่อยครับ ว่าปกติขายกันวันละกี่ชามครับ และค่าเช่า 35000 บาทนี่ ขายก๋วยเตี๋ยวจะคุ้มไหมครับ จากคุณ : neng (amarit_s) - [ 9 มิ.ย. 51 12:46:23 ]