Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 53 เมื่อมียุครุ่งเรืองก็ต้องมียุคร่วงโรย

    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 53 เมื่อมียุครุ่งเรืองก็ต้องมียุคร่วงโรย







    ใช่ครับ.......“เมื่อมียุครุ่งเรืองก็ต้องมียุคร่วงโรย”







    ซัมมิทก็เหมือนกัน วันที่พายุร้ายสีขี้ม้ามีเซียนขาวนั่งมาด้วย และประกาศยึด

    กิจการโรงกลั่นน้ำมันที่บริษัทซัมมิทเช่าดำเนินการอยู่ไปเป็นของรัฐก่อน

    หมดสัญญา







    วันนั้นเป็นวันที่ชาวซัมมิทรุ่นเก่าต้องหลั่งน้ำตาอาลัย หรือต้องกล้ำกลืนความ

    สะเทือนใจลงคอ เมื่อ “นายฮวง” เจ้านายใหญ่สุดของซัมมิทออกมาพูด ถึง

    การถอนกิจการที่ลงทุนไว้ทั้งหมดในไทย เพราะไม่พอใจการใช้อำนาจเกิน

    ขอบเขตของกฎหมายจากฝ่ายรัฐบาล







    หากเปรียบเทียบคนสองคนที่คนหนึ่งจบ MIT มีหัวไว้คิดทำธุรกิจระดับโลก

    แล้วมาลงทุนด้วยความเชื่อมั่นในเมืองไทย ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย

    ทุกอย่าง กับอีกคนที่มีหัวไว้ใส่หมวกแล้วถือปืนมาฉีกสัญญา คุณว่าคนไหนมี

    วุฒิภาวะผู้นำมากกว่ากัน อย่ายกเรื่องผลประโยชน์ของบ้านเมืองมาอ้าง ผม

    ว่าไม่จริงสักราย







    ตอนที่โรงกลั่นยังไม่โดนยึด ทีม MIC ของซัมมิทคุมโดย “อาจารย์วิชิต”

    ส่วนงานโปรแกรมทางด้านโรงกลั่นมี “คุณลิขิต” เข้าไปดูแล และมีปัญหากับ

    สายเช่าขององค์การโทรศัพท์ในการส่งข้อมูลมาโดยตลอด







    พอสิ้นเดือนเหมือนเดินบนเส้นด้าย ต้องเตรียมส่งข้อมูลแบบอื่นสำรองไว้

    เสมอ อะไรที่รัฐให้บริการแล้วรัฐไม่โดนกับตัวเองจะไม่รู้คุณค่าของมัน สาย

    โทรศัพท์ก็เช่นกัน องค์การโทรศัพท์ทำมาให้เช่าส่งข้อมูล แต่ไม่เคยนำมา

    ใช้งานด้วยตัวเองจึงไม่รู้ปัญหา ผู้ใช้ร้องเรียนไปก็เท่านั้น รัฐไม่เจ็บไม่คันจึง

    ไม่ต้องเกา







    คุณลิขิต เคยทำงานกับผมตอนอยู่ธนาคารกรุงเทพ จึงพอรู้สันดานกันอยู่

    บ้าง พอแกออกปากให้ช่วยผมก็เสือกทันที ใช้วิชาที่มีออกแบบขดลวดพ้อง

    สัญญาณ (Matching Transformer) โดยการแยกไฟตรงในสายโทรศัพท์

    กับสัญญาณข้อมูลออกจากกัน แล้วใช้ส่งข้อมูลผ่าน Modem ไปตามสาย

    โทรศัพท์ที่ใช้ตามบ้านธรรมดาได้ เอาไว้สำรองในกรณีที่สายเช่ามีปัญหา

    เรียกกันว่า Dial Backup ที่ตอนหลังมีใช้กันเป็นมาตรฐานของ Modem รุ่น

    ถัดมาจนปัจจุบันหมดยุคไปแล้ว







    แต่ตอนนั้นปี 1982 ยังใช้ Modem 1200 Baud โดดๆ ไม่มี Dial Backup กัน

    อยู่เลย







    ที่คุณลิขิตแน่ใจว่าผมทำได้ เพราะตอนอยู่ที่ธนาคารกรุงเทพฯ ด้วยกัน ผม

    เสนอขอทุนทำงานวิจัยคู่กับการทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท ซึ่งผมเรียน

    อยู่ที่สถาบันโทรคมนาคม เมืองนนท์ แบบนอกเวลาเป็นรุ่นแรกและรุ่นสุด

    ท้าย รุ่นต่อไปท่านให้เรียนในเวลาอย่างเดียว เพราะเรียนนอกเวลาแล้วตก

    ออกไปเกือบหมด เหลือแต่ผมหน้าด้านเรียนต่อ จนย้ายมาเป็นพระ

    จอมเกล้าลาดกระบังจึงได้ทำวิทยานิพนธ์







    ผมเอาเรื่องการขจัดสัญญาณรบกวนในสายส่ง ไปเขียนบทความทางทฤษฎี

    จบแล้ว และกำลังต้องทำการทดลองของจริง ซึ่งต้องใช้เงินทุนเลยทำเรื่อง

    ขอทุนวิจัยจากธนาคารกรุงเทพ







    “คุณบรรณวิทย์” หรือ “บีบี” อ่านบทความของผมแล้ว ยอมเสนอเรื่องให้

    ทุนและขอผลงานเป็นของธนาคาร ผมนำบทความไปเสนอขอทำเป็นวิทยา

    นิพนธ์ที่ลาดกระบัง หงายหลังเลยครับ ดร. ทั้งหมดห้าท่านร่วมกันตัดสินใจ

    แล้วให้ ดร. โกศล อธิการบดีบอกกับผมว่า







    “สถาบันฯ ไม่ต้องการงานพัฒนาพื้นบ้าน (Local development) แต่ต้องเป็น

    งานวิจัยใหม่เอี่ยมถอดด้ามแบบที่ไม่ลอกเลียนใคร(Original Research)

    และส่งตีพิมพ์เมืองนอกได้ จึงจะยอมรับ”








    ผมเลยต้องคืนทุนของธนาคารฯไป และมาใช้เวลากับ "ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์"

    อาจารย์ที่ปรึกษาผู้ให้การสนับสนุนผมอย่างดีอีกสองปี จนมีงานด้าน Digital

    signal processing ส่งไปที่ IEEE ห้าฉบับและทางโน้นพิจารณาแล้วว่าไม่ได้

    ไปลอกใครมาจึงยอมตีพิมพ์ให้สองฉบับ ผมจึงขอจบอย่างทุลักทุเล...รอด

    มาได้อีกครั้ง







    ผลงานของผม “คุณลิขิต” ทดลองใช้งานแล้วพอใจมากใช้ได้ดี และ

    ประสิทธิผลเข้าตาอาจารย์วิชิต ท่านตื่นเต้นกับการที่มีใครสักคนบ่ง

    หนามออกจากก้นท่านได้ เพราะทีมช่างไม่ยื่นมือมาช่วยแม้จะขอไปแล้วก็

    ตามอ้างว่าผิดศีลในความเป็นช่างที่ดี จะไม่ดัดแปลงอะไรที่เกินกว่าเหตุ

    อาจารย์วิชิตจึงอนุมัติจ่ายค่าวิชาให้ผมพันห้าร้อยบาท







    โอ๊ย...ผมดีใจมากเลย ที่มีคนเห็นคุณค่าของความคิดคนอื่นอยู่ในเมืองไทย

    เมืองที่มีวัฒนธรรมปิดกั้นการแสดงออกอย่างนี้ เพราะผมไม่เคยได้รับเครดิต

    จากการเสนอแนวคิดมาก่อน แม้กระทั่งงานในวิชาชีพวิศวกรที่เคยให้การ

    เสนอแนะต่างๆ ได้แต่คำว่า “ขอบคุณ” แต่ไม่มีใครแสดงออกเป็นรูปธรรม

    อย่างอาจารย์วิชิต ผมเลยพาพรรคพวกไปฉลองค่าวิชาในเย็นนั้น แถมต้อง

    จ่ายเพิ่มไปอีกเกือบพัน







    ฟ้าวันใหม่ที่สีหมองลงของซัมมิทเป็นเงาทึมๆ ของ “นายจาง” มือขวาของ

    คุณฮวง ที่ลงรากปักฐานอยู่เมืองไทยจึงได้เข้ารับช่วงบริหารกิจการของ

    ซัมมิทคอมพิวเตอร์ต่อไป







    จากนั้นวัฒนธรรมแบบนายฮวง ที่มีมาก็เริ่มเสื่อมถอย ไม่ใช่นายจางไม่เก่ง

    แต่มุมมองทางธุรกิจต่างกัน







    งานแรกภายใต้ร่มเงาของนายจางผมแทบคลั่ง







    เราเจอกันอีกที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เราที่ผมว่าหมายถึง “ซัมมิทกับชิน

    วัตร”
    หรือ “ผมกับคุณทักษิณ” อะไรก็ได้ไม่สำคัญ สำคัญที่ว่างานนี้ใครจะ

    ชนะ







    เจ้าของตำแหน่งเดิมเป็นของ DEC มีเครื่อง DEC ตัวโตนอนแบะอยู่ที่ศูนย์

    คอมพิวเตอร์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภายใต้การบัญชาการของสุภาพสตรี

    หัวหน้าศูนย์ฯ ผมเสียไม้กอล์ฟหัวไม้ไปก้านหนึ่งเรื่องอื่นอีกไม่บอกเพื่อสร้าง

    พระเอกของเรา จนตีสนิทถึงวงใน และหาทางกันเจ้าที่เจ้าทางผู้ครอง

    ตำแหน่งเดิมออกไปจนได้







    เครื่อง DEC กำลังหมดอนาคต เราขยายอาณาจักรมากลืนได้อย่างสบาย มี

    ก้างขวางตรง IBM ที่ตอนนี้ดูแปลกไปให้ชื่อ “ชินวัตร” อยู่หน้า ลูกค้าเริ่มพูด

    ถึงชื่อ “ชินวัตร” ก่อนชื่อ IBM แล้ว และงานนี้ “ผู้พันทักษิณ" ออกโรงเอง







    เราต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ทั้งหมด เราพลาดอะไรหรือเปล่า “ชินวัตร”

    จึงมาแรงอย่างนี้ พี่ชายคนโตของผมเป็นเพื่อนสนิทกับ ดร.วีระ ผู้ว่าการ

    ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและนั่งเล่นไพ่นกกระจอกกันบ่อยๆ ดร.วีระก็รู้จักกับครอบ

    ครัวผมด้วย







    งานนี้ไม่น่ายากอยู่แต่ “พี่วงศ์...” หัวหน้าห้องเครื่องเจ้าของโครงการที่เป็น

    สตรีและอ่านใจลำบาก เรื่องง่ายอาจเป็นยากไป ทางห้องเครื่องและทางผู้

    ใช้ ผมผูกสมัครรักใคร่ไว้แล้วและค่อนข้างไม่เอา IBM ตามที่ผมหาข้อมูล

    อันเลอะเทอะของ IBM มาแอบให้ดูเสมอๆ.... ต้องขย่มเอาไว้ก่อน







    คุณสมบัติและเงื่อนไขในการประมูล ก็โหดๆ ตามแบบฉบับของหน่วยงาน

    ใหญ่ที่อยากได้ “พ่อค้าตัวใหญ่” มาดูแล กว่าจะแก้หมดก็เหนื่อยพอดูแต่

    ผ่านได้สบาย ราคาของผมน่าจะทำได้ดีกว่า “ชินวัตร” เพราะ “ชินวัตรต้อง

    แบ่งกินสองปากกับ IBM”
    และผมต้องการไม่ให้คู่แข่งอย่าง “ชินวัตร” เกิด

    จึงทำราคาสุดๆ ราคาเดียว







    วันประมูลที่ตื้นเต้นก็มาถึง สาวห้องเครื่องและทีมผู้ใช้ยังยิ้มแย้มทักทายผม

    เหมือนคนกันเอง แน่ละผมมีไม้เด็ดเรื่องราคาต้องชนะแน่ แล้วราคาก็เปิด

    ออก ตามคาดผมถูกสุดจึงได้เฮก่อน







    วันต่อรองราคา ผมได้สิทธ์เข้าไปต่อราคาก่อนด้วยเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด

    เชื่อไหมครับ “แผนที่ดียังมีรูโหว่จนได้” เราว่าเดินแผนดีแล้ว เล่นเรื่องราคา

    เครื่องคอมฯเป็นหลัก แต่พี่วงศ์กลับถามว่า







    “จะช่วยเรื่อง UPS ได้หรือไม่เพราะลืมระบุไปในเงื่อนไข”







    การสร้างเงื่อนไขใหม่เกี่ยวกับระบบ UPS และให้ตัดสินใจกันตอนนั้นเลย ทำ

    ผมเจ็บปวดมากที่ลูกจ้างอย่างผมต้องมาสู้กับนายทุนอย่าง “คุณทักษิณ”

    เรื่องอนุมัติวงเงิน ผมแพ้แต่ในมุ้งแล้ว







    เรื่อง UPS นี่ ผมรู้ทั้งรู้ว่าไม่มีอยู่ในความคิดใครมาเลยตั้งแต่ต้น ตอนนี้โผล่

    มาเพื่อ “ฆ่าผม” เท่านั้น “แปดแสนบาทครับที่ผมต้องแบก” แต่คนที่นั่งรออยู่

    ต่อจากผมจ่ายได้สบาย แล้วค่อยเอาคืนทีหลัง







    พระอาทิตย์ฝั่งผมโรยดวงลงแล้ว ผมขอเวลากลับไปปรึกษาบริษัทฯ และจะ

    รีบให้คำตอบ พี่วงศ์ขอเป็นพรุ่งนี้ ครับวันตายของผมพรุ่งนี้







    ผู้พันทักษิณตอบตกลงกับการไฟฟ้าฯ ตามที่เตรียมกันไว้ในนาทีนั้น แต่ผม

    ต้องโทรเข้าบริษัทฯ ปรึกษาคุณอมร แต่ไม่เจอ เลยได้ “คุณจ้อ” มาฟังคำ

    ให้การแทน แล้วผมให้ “คุณจ้อ” ลองไปถาม “นายจาง” ดูว่าจะยอมได้หรือ

    ไม่ พักใหญ่คุณสมชัยโทรกลับมาบอกว่า







    “นายจางบอกไม่ยอม ราคาเราถูกกว่าและตรงตามเงื่อนไข ยอมทำไม”







    เห็นไหมครับแนวคิดที่ยอมก่อน เอาคืนทีหลังไม่มี “มีแต่ค้าขายต้องมีกำไร

    เดี๋ยวนั้น”
    ........







    ในวงการนี้ ทฤษฎีการค้าที่ไม่เคลื่อนไหวอย่างนี้ใช้ไม่ได้แล้ว ดูที่การขาย

    Ink-Jet printer ในปัจจุบันนี้แทบแจกเครื่องพิมพ์แล้วขายหมึก กำไรที่ตาม

    มามากกว่าเห็นๆ







    ผมปรึกษา “คุณจ้อ” ว่า จะของบไป “เล่นไพ่นกกระจอกกับ ดร.วีระ” แล้ว

    แจงสี่เบี้ยให้ท่านทราบว่ามีข้อลึกลับดำมืดดังนี้เกิดขึ้น ให้ท่านดูแลความเป็น

    ธรรมให้ผมด้วย หากคุณจ้อเห็นด้วยต้องไปคุยกับนายจางและบอกผมว่าผม

    จะเล่นเสียได้เท่าไหร่ คุณจ้อเห็นดีด้วยและรับว่าจะกล่อมนายให้







    แต่ผลคือผมต้องกลับบ้านอย่างโศกสลด ไฟปลายอุโมงค์ที่เคยลุกโชติช่วง

    เริ่มดับลงแล้ว

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 14 ก.ค. 51 07:53:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom