ความคิดเห็นที่ 1
โดยทั่วไปเค้าจะใช้วิธี valuation กันครับ ทั้ง ที่วัดเป็นตัวเงินได้และวัดเป็นตัวเงินไม่ได้จะถูกรวบรวมเรียบเรียงออกมาเป็นแผนธุรกิจหนึ่งอัน แล้วทำ projection ดูว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่
บางอย่างที่เป็น know how, skill, network/connection ฯลฯ จะช่วยให้ธุรกิจได้อะไรที่วัดเป็นตัวเงินได้ แล้วตีสิ่งนั้นออกมาเป็น cost ที่อาจใช้วิธี benchmark
อย่างกรณี designer ถ้าไม่เอาคนที่ร่วมหุ้น แต่ใช้จ้าง ต้องเสียเงินเท่าไหร่แค่ไหน ซึ่ง scheme ในการจ่ายก็ขึ้นกับแต่ละลักษณะธุรกิจ คิดว่าเป็น fixed + variable cost เหมือนกัน
อย่าง Sales Marketing ถ้าไม่เอาคนที่ร่วมหุ้น แต่หาคนมาทำแทนต้องจ่ายเงินเดือนเท่าไหร่ คอมมิชชั่นเท่าไหร่
ทุกอย่างจะถูกสร้างเป็นแผนและทุกคนที่ร่วมหุ้นกันต้อง commit
หลังจากนั้นก็คำนวณหาส่วนที่คนไหนออกเป็นเงิน คนไหนออกเป็นแรง (ที่วัดเป็นเงินแล้วได้เท่าไหร่) คำนวณออกมาเป็นสัดส่วนการถือหุ้น
หลังจากนั้นก็ปันผลกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น จะเห็นว่าถ้า designer และ sales marketing สามารถหาแทนได้ง่าย โครงสร้างนี้อาจจะกลายเป็น Investor/shareholders/Employer กับ Employee ไป แต่หาแทนยากการ valuation ในสิ่งที่จะต้องจ่ายจะสูงขึ้นแล้วกลับมาเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้น
จากคุณ :
วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก
- [
วันอาสาฬหบูชา 23:53:50
]
|
|
|