ความคิดเห็นที่ 1 ผมขอนำหลักการธรรมาภิบาลที่ได้ Download มาให้ผู้อ่านได้ศึกษาครับ และช่วยวิจารณ์ว่าห้างและผู้บริหารที่นำนโยบายมาปฏิบัติขาดหลักการใน ข้อไหนบ้างนะครับ  ช่วยกันวิเคราะห์ให้เขาหู ตา สว่างกันเสียทีครับเพราะ พวกเขาต้องแอบมาอ่านและได้รับฟังสิ่งที่คุณอยากให้เขารับรู้อย่างแน่นอน *** หลักการสำคัญของธรรมาภิบาล พื้นฐานที่สำคัญของธรรมาภิบาล มี 4 ประการ คือ ความโปรง่ใส (transparency) ความซื่อสัตย์ (Integrity) ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ (accountability) และ ความเสมอภาค (Equity) 1. ความโปร่งใส (transparency) หมายถึงการดำเนินการบริหารธุรกิจที่โปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งสังคมสามารถตรวจสอบได้ สามารถ ทำให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจได้ว่า การดำเนินธุรกิจนั้นจะเป็นไปในทิศทางที่ก่อใหเ้กิด ผลประโยชน์ สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น โดยมิได้เป็นการแสวงหากำไรส่วนตัว ของผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่แต่อย่างใด และมีการเปิดเผยข้อมูล ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และทันเหตุการณ์ต่อหุ้นส่วนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงิน รายละเอียดเกี่ยวกับการทำธุรกรรม และมี ระบบตรวจสอบบัญชีที่เชื่อถือได้ 2. ความซื่อสัตย์ (Integrity) หมายถึงประกอบธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ มีคุณธรรมในการประกอบธุรกิจ และรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตั้งแต่ หุ้นส่วน พนักงาน ลูกค้า คู่ค้าเจ้าหนี้ ชุมชน และสิ่งแวดล้อม 3. ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ (accountability) หมายถึงการปฏิบัติงานด้วยความตระหนักในหน้าที่อย่างแท้จริง ทำงานมิใช่เพียงเพื่อให้ได้ชื่อว่าทำแล้ว แต่ต้องทำให้ดีที่สุดด้วย เช่น คณะกรรมการบริษัทที่ตระหนักในภาระหน้าที่ของตน จะไม่เพียงรายงานผลการดำเนินงานต่อผู้ถือหุ้น หรือแต่งตั้ง ถอดถอนฝ่ายบริหาร ซึ่งถือเป็นหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังต้องสำนึกอยู่เสมอว่า ตนได้รับเลือกจากผู้ถือหุ้นในฐานะเจ้าของบริษัท ให้เข้ามาเป็นหูเป็นตาดูแลผลประโยชน์แทน ฉะนั้นคณะกรรมการจึงต้องพยายามกำหนดนโยบายที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและกำกับดูแลให้ฝ่ายบริหารปฏิบัติงานตามนโยบายอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อนำพากิจการไปสู่ความรุ่งเรือง สมดังเจตนารมณ์ของผู้ถือหุ้น เป็นต้น 4. ความเสมอภาค (Equity) หมายถึงการปฏิบัติกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุก กลุ่มอย่า่งยุติธรรม *** จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 25 ก.ค. 51 18:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใจเย็นๆ นะครับ คุณ++ รอรักลงเอย ++ เห็นใจคุณมากครับ ผมทราบครับว่าคุณประสบปัญหาอย่างหนัก และกำลังเครียดอย่างมาก ผมเข้าใจดีครับ แต่ว่า เรื่องก็เกิดขึ้นไปแล้ว และดูท่าทางจะเป็นไปในทางที่ไม่ดีต่อคุณซะด้วย ผมว่า เอาเวลาไปวางแผนอนาคตดีกว่าครับ ว่า เราควรจะทำอย่างไร ย้ายไปที่อื่นดีไหม หรือลงทุนปรับปรุงร้านซะ ฯลฯ ดีกว่าจะพยายามเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ต่อให้คุณได้ความเห็นใจของคนในห้องนี้ทั้งหมด มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เอาไปให้ผู้บริหารของเขาดูก็เท่านั้น เพราะนี่คือ ธุรกิจ ผลประโยชน์ย่อมมาก่อน เป็นอะไรที่โหดร้ายมาก แต่คุณต้องรับความจริง และทำใจให้ได้ครับ โอกาสยังมีอยู่ ไม่ใช่ว่า ถ้าไม่ใช่ตรงนี้ ที่นี่ คุณจะไม่มีหนทางอีกต่อไปแล้ว จบแล้วอนาคตเรา ทำใจให้ได้ครับ อย่าเครียด มองอนาคตดีกว่าครับ ว่า ต่อไปจะทำอย่างไร อย่าจมปลักอยู่กับอดีต หรือ สิ่งที่ไม่อาจแก้ไขได้ ตอนนี้ ความเครียด ทำให้สมองคุณตื้อครับ เลยคิดอะไรไม่ออก ผมอ่านจากกระทู้ของคุณแต่ไม่ได้ออกความเห็น แต่เห็นจากการเขียนของคุณ การหาข้อมูลของคุณ บอกได้เลยครับว่า ไม่ธรรมดา เอาความมั่นใจกลับคืนมาซิครับ และอย่าเครียดด้วย มองอนาคตไว้นะครับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณต่อไปครับ จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 25 ก.ค. 51 21:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณครับ คุณ ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ ที่เข้ามาช่วยโหวต  และให้คำแนะนำ ที่มีประโยชน์ครับ ตอนนี้ผมแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่งแล้วครับหาที่อยู่ ในห้างอีกแห่งหนึ่งที่ใหญ่เพียงพอรองรับลูกน้องที่มีเกือบสิบคนได้ครับแต่ ยังมีเวลาว่างตอนที่เข้ามาทำงานที่ห้างนี้ที่สามารถต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม โดยเล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่านทางห้องสีลมแห่งนี้ครับเพื่อให้ผู้อื่นเห็นแนวทาง ในการแก้ปัญหาวิกฤติลักษณะนี้  พร้อมกับรวบรวมกลุ่มร้านค้าให้มีอำนาจ การต่อรองกับห้างใหญ่โดยใช้เหตุและผลผ่านทางผู้บริหารที่สามารถคุย ด้วยเหตุผลกันได้  ถ้าเขาเข้าใจพวกเราและแก้ไขปัญหาให้ผมก็จะอยู่ทำ ธุรกิจในห้างนี้ต่อไป  แต่ถ้ากรณีที่ไม่สำเร็จก็ไม่เสียหายครับก็ไปอยู่ที่ใหม่ สร้างฐานลูกค้าใหม่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งครับ ยังมีเวลาในการต่อสู้เหลืออยู่ครับ ขอบคุณอีกครั้งที่มาให้กำลังใจครับ  ตอนนี้จิตใจเข้มแข็งดีแล้วครับ จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 26 ก.ค. 51 01:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาโหวตให้ค่ะ จากคุณ : red mars - [ 26 ก.ค. 51 03:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โหวตให้แล้วนะคะ จากคุณ : aonny (aonnycutety) - [ 26 ก.ค. 51 05:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ติดตามอ่านกระทู้แรกมาแล้ว เข้าใจและเห็นใจมากค่ะ อ่านอย่างละเอียดทั้งหมดก็รู้ว่าคุณมีความสามารถเพียงพอที่จะเริ่มใหม่ได้ ขอให้กำลังใจนะคะ จากคุณ : jomo (jomoland) - [ 26 ก.ค. 51 09:34:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ คุณ red mars  คุณ aonny (aonnycutety) และคุณ jomo ที่เข้าช่วยแสดงความคิดเห็นและเป็นกำลังใจให้กับพวกผมนะครับ  ที่ผม จัดทำกระทู้โหวตเพื่อสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ได้อ่านกระทู้ของผมตั้งแต่ ต้นจนมาถึงตอนนี้  ผมแค่อยากถามว่าท่านคิดว่าห้างใหญ่ดังย่านงามวงศ์วาน ห้างนี้มีวิธีการแก้ปัญหาโดยกลัวคู่แข่งที่จะมาเปิดห้างใหม่ย่านแจ้งวัฒนะ โดยวิธีการดังที่ผมได้เล่าไปแล้วในกระทู้ แล้วผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย ตามนโยบาย  มาจัดการกับลูกค้าพื้นที่เช่าที่เคยได้ร่วมงานกันมาโดยขาด คุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ  แล้วสร้างปัญหาให้ กับร้านค้าต่างๆเป็นจำนวนมาก และทำให้ผู้บริสุทธิ์ที่เป็นพนักงานของร้านค้า เหล่านี้ต้องตกงาน  สร้างภาระและปัญหาให้กับสังคม  แต่ในอีกบทบาทหนึ่ง เขาก็มีแผนกเพื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัท  ในการทำหน้าที่จัดบริจาคเงิน สิ่งของ จากลูกค้าและพนักงานของห้างเพื่อออกสื่อถึงผู้คนในสังคมว่าห้าง เขาก็มีธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ   ผมจึงอยากให้ผู้อ่านทุกท่านติดตาม อ่านเรื่องราวในกระทู้ของผมทั้งหมด  หากว่ามันเป็นเรื่องจริงอยากให้ท่าน ผู้อ่านทุกท่านช่วยโหวตว่าท่านคิดเห็นอย่างไรในกรณีนี้ครับ  คล้ายๆกับการ ลงประชามติหรือการทำโพลล์นั้นแหละครับ    เพราะอย่างน้อยก็จะเป็นการ เตือนห้างนี้หรือห้างอื่นๆที่มีนโยบายและวิธีปฏิบัติเช่นนี้จนเป็นเรื่องธรรมดา จะได้กลับมาพิจารณาตนเองว่าคุ้มหรือไม่กับการเสียชื่อเสียงว่าเป็นห้างใหญ่ ที่ขาดคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ  เพราะมันจะ เป็นตัวอย่างกรณีศึกษาให้กับผู้ประกอบการ SME ให้สามารถมีข้อมูลในการ ตัดสินใจเลือกได้ว่าจะทำธุรกิจกับห้างที่ขาดธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ หรือไม่อย่างไร  หรือจะไปหาห้างอื่นที่มีคุณธรรมดีกว่า  คล้ายๆกับการจัด Blacklist ผู้ประกอบการที่ขาดคุณธรรมในการดำเนินธุรกิจแหละครับถ้าคุณ ไม่อยากประสบชะตากรรมเช่นเดียวกันกับกลุ่มผู้ประกอบการในห้างนี้ก็จง หลีกเลี่ยงพวก Blacklist เหล่านี้ครับ  ซึ่งผมเห็นว่าวิธีการนี้เป็นประโยชน์ต่อ กลุ่ม SME  และเป็นการปรามห้างที่คิดจะทำวิธีการแบบนี้ไปในตัวครับ ซึ่งผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากในกรณีนี้นะครับ   แต่ผมเห็น ว่าเป็นวิธีการเดียวที่พวกเราจะทำได้แล้วได้ผล  มากกว่าการอยู่เฉยๆโดย ไม่ทำอะไรเพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจครับ จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 26 ก.ค. 51 12:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ ที่ยังให้กำลังใจโดยการโหวตกระทู้เก่าของ ผมให้กลับมาติดในกระทู้แนะนำของห้องสีลมของพวกเราอีกครั้งหนึ่งครับ ผมและผู้อ่านที่ต้องการติดตามกระทู้ของผมอยู่คงได้รับความสะดวกมาก ขึ้นครับ  และเป็นการแสดงพลังให้ผู้บริหารห้างแห่งนี้ได้รับรู้ว่าพวกเราไม่ ชอบการกระทำของห้างที่ดำเนินธุรกิจโดยขัดหลักธรรมาภิบาลไม่โปร่งใส ถึงแม้ว่าเขาจะรู้แล้วว่ากระทู้ของผมนี้ติดกระทู้แนะนำมาร่วมเดือนแล้ว มีความรู้สึกช้าทำเป็นไม่สนใจหรือพูดง่ายๆว่าไม่แคร์ความคิดเห็นของผู้คน ในสังคมก็ตามก็ไม่เป็นไรครับ เราก็เผยแพร่เรื่องจริงเหล่านี้ทางอินเตอร์เน็ต และพูดกันปากต่อปากไปเรื่อยๆครับ   และช่วยไปเตือนเพื่อนฝูงหรือตัวท่าน เองก่อนคิดทำธุรกิจเป็นคู่ค้ากับห้างนี้ให้เข้ามาดูกระทู้ของพวกผมก่อนตัดสิน ใจอะไรลงไปครับ  ไม่เช่นนั้นคู้ค้าก็อาจกลายเป็นคู่ซ้อมได้ครับ  เพราะเขา จะเอาเปรียบเราไปเรื่อยจนเราอยู่ไม่ได้ครับ  และถ้าท่านใดยังไม่ได้เข้ามา โหวตก็ขอให้ช่วยโหวตแสดงพลังของคนในสังคมให้ห้างเขารับรู้ด้วยนะครับ และอาจช่วยโหวตให้มันติดอยู่ในกระทู้แนะนำอีกตัวหนึ่งด้วยครับ  มันจะได้ ไม่ถูกดันตกลงไปแล้วทำให้พวกเราหามันไม่เจอครับ  ขอบคุณมากครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 51 11:22:41 จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 26 ก.ค. 51 14:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มีคอนโดแห่งหนึ่ง  ดำเนินกิจการมานับสิบปี มีผู้เช่ามากมาย  ทั้งคนที่มีรายได้มาก  และคนที่รายได้น้อย วันเวลาผ่านไป  สืบเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน  ค่าใช้จ่ายในการบริหารกิจการ ได้เพิ่มขึ้น  บวกกับคอนโด มีที่ตั้งทำเลอยู่ ในแหล่งที่ตั้งของ  คนที่มีอันจะกิน  ( มีกะตังค์ ว่างั้น ) เดือนหน้า  เป็นเดือนที่ครบสัญญาเช่า  โดยส่วนใหญ่  จะมีเพียงผู้เช่าใหม่ไม่กี่รายที่ยังไม่ครบสัญญาเช่า เจ้าของฯ มีความคิดอยากจะปรับปรุง  และขึ้นค่าเช่า  อีกทั้งจะได้เป็นการสกรีนผู้เช่าด้วย  เพราะที่ผ่านมา  คนที่มีรายได้น้อย มักจะจ่ายค่าเช่าไม่ตรงเวลา  บางห้องย้ายหนีก็มีบ่อย   คิดว่าถ้าปรับปรุงให้ดูไฮโซ  น่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น จากคอนโด ธรรมดา ค่าเช่าเดือนละพันกว่าบาท  หลังจากทำการปรับปรุง  เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  มีเคเบิ้ลจานดาวเทียม  ติด แอร์ทุกห้อง มีเนตไร้สาย มีรปภ. 24 ชม.  ฯลฯ    และเพิ่มค่าเช่าเป็น 3 พันบาท มีคนเช่าหลายคนทักท้วง  โดยเฉพาะคนที่อาศัยมานาน และคนที่มีรายได้น้อย ถ้าคุณเป็นเจ้าของคอนโด  คุณจะทำอย่างไร? 1. คงค่าเช่าเดิมอีกสักระยะหนึ่ง  <<<   แต่คุณลงทุนไปแล้ว  จะไม่เอาทุนกลับบ้างเลยหรือ? 2. ไม่สนใจ  ใครอยากอยู่ก็อยู่  ใครอยากออกก็เชิญ  จะได้เป็นการสกรีนไปในตัว 3. แบ่งชั้น แบ่งโซน <<<<  แต่คุณติดตั้งระบบไปแล้ว  จะลงทุนตัดสายเคเบิ้ล  จะถอดแอร์ออกเลยหรือ? 4.  ..............? <<<<< รอคำตอบคุณอยู่ครับ * มีช่องว่างของกฎหมายอยู่นิดนึง  ผมเพิ่งคิดได้   คือตราบใดที่เรายังเป็นผู้เช่า ตามสัญญา ( สัญญายังไม่หมด ) ผู้ให้เช่า ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ที่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้  ( บุกรุก ) เช่น. การติดตั้งแอร์  หรือการใดๆ ที่ส่อไปในทางคุกคาม ต่อความปลอดภัย ชีวิตและทรัพย์สินของผู้เช่า อืม...ถ้าตอนนี้สัญญาเช่าคุณยังไม่หมด  ผมว่าคุณอาจยกกฎหมายข้อนี้ขึ้นมาอ้างอิง  และขอทักท้วงได้นะครับ ** ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  แต่ขอมองต่างมุมนะครับ   ถึงอย่างไร ผมก็ขอให้กำลังใจคุณ  อย่าเพิ่งหมดหวังกับชีวิตนะครับ ..แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 51 21:21:31 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 51 21:20:35 จากคุณ : สมาคมช่างกิโลขาย - [ 26 ก.ค. 51 21:19:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ คุณ สมาคมช่างกิโลขาย ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในกระทู้ โหวตของผมนี้นะครับ  ส่วนที่คุณถามผมมาอยากให้ผมตอบผมก็จะตอบครับ ก่อนอื่นผมก็จะนัดประชุมผู้เช่าในคอนโดทั้งหมดเพื่อสอบถามความคิดเห็น ของผู้เช่าเกี่ยวกับความคิดที่จะปรับปรุงคอนโดแล้วปรับค่าเช่าเพิ่มว่าเขามี ความคิดเห็นว่าอย่างไร  ผมจะใช้วิธีการประชาธิปไตยครับโดยตัวผมก็ต้อง เป็นส่วนหนึ่งในชุมชนและมีหนึ่งเสียงในการโหวตเช่นเดียวกับคนอื่นๆครับ แต่ก่อนโหวตจะต้องให้มีการแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆในที่ประชุม ก่อนครับให้รู้ถึงข้อดีและข้อเสียทั้งหมดของการเปลี่ยนแปลง จากนั้นถึงให้ ชุมชนในคอนโดทั้งหมดลงมติครับ   ถ้าเสียงส่วนมากเห็นควรว่าจะทำอย่าง ไรก็ต้องยอมรับมติตรงนั้นครับ  เพราะถ้าคุณทำโดยวิธีนี้จะทำให้เกิดยอมรับ ในการเปลี่ยนแปลงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  และภาพพจน์ของเจ้าของก็ดูดีใน สายตาของผู้เช่าด้วยครับก็จะพูดกันปากต่อปากเกี่ยวกับการที่คุณให้ผู้เช่า ที่อยู่ในชุมชนของคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจอนาคตของชุมชนว่าควรจะ เป็นในทิศทางใด  ซึ่งการทำธุรกิจนั้นอย่ามองแค่ผลประโยชน์ระยะสั้นๆครับ ถ้าคุณสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของลูกค้าคุณแล้ว  ก็ยากครับที่คู่แข่ง จะเข้ามาแย่งกลุ่มลูกค้าของคุณไปได้โดยง่ายดายครับ  ผมยึดถือหลักการ ที่ว่าการหาฐานลูกค้าใหม่นั้น  มีต้นทุนที่สูงกว่าและยากกว่าการรักษาลูกค้า เก่าของคุณให้ยังคงชื่นชอบในสินค้าและบริการของคุณครับ   และผมยินดี รับความคิดเห็นที่แตกต่างครับ  แต่ผมดูออกครับว่ามันมาด้วยความบริสุทธิ์ ใจหรือไม่ครับ   ขอบคุณที่ยังให้กำลังใจผมอยู่ครับ และตอนนี้จิตใจผมเข้ม แข็งดีแล้วครับ   และมีสติปัญญาพร้อมแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้ลุล่วงไปได้ ด้วยดีครับ  แต่การต่อสู้ยังคงต้องดำเนินต่อไปครับเพราะผมไม่ชอบถอน ตัวกลางคันโดยไม่มีเหตุผลอันควรครับ  ถ้าคิดจะทำสิ่งใดแล้วก็จะทำอย่าง เต็มที่ให้ดีที่สุดครับ  แล้วจะไม่เสียใจภายหลังครับไม่ว่าผลของมันจะออก มาเป็นเช่นไร  เพราะเราถือว่าเราตัดสินใจเลือกวิธีการที่เราคิดว่าดีที่สุด สำหรับตนเองและร้านค้าต่างๆในชุมชนเดียวกันครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 51 19:22:53 จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 27 ก.ค. 51 00:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณเป็นคนดี  มีความยุติธรรมในหัวใจ  และไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ  ( เหมือนคนที่เกิดวันเสาร์เลย ) ตามที่คุณตอบมานั้น  ใช้ได้กับชุมชนแออัดเ และการเคหะ เท่านั้นครับ หมายถึง ชุมชน ที่เป็นอิสระจากเจ้าของเดิม  เป็นตัวของตัวเอง  และมีการตั้งคณะกรรมการ นิติบุคคลขึ้นมาบริหาร  เพราะฉะนั้น เวลาจะปรับปรุง เปลี่ยนแปลงอะไร จึงต้องมีการประชุม  ขอความคิดเห็นจากส่วนรวม และลงคะแนนโหวต คนเรา จิตใจต่างกัน  บ้างก็ทำเพื่อธุรกิจ  บ้างก็ทำเพื่อที่จะเอื้ออาทร ซึ่งกันและกัน  เรียกว่า น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ได้มุมมองอีกแบบครับ  สำหรับการทำธุรกิจ   แต่ผมว่าสมัยนี้ ถ้าเรามัวแต่เห็นใจคนอื่น แต่ตัวเองต้องย่ำอยู่กับที่  อันนี้ก็ต้องมาดูกัน   ขอยกตัวอย่าง ห้างอ.  ย่านสำโรง  นี่คือตัวอย่างของห้างที่ไม่มีการปรับปรุง  ถึงแม้จะปรับปรุง  แต่ดูเหมือนเค้าเอื้ออาทรต่อร้านค้าเช่าจริงๆ   คือเห็นใจร้านเช่า  ท้ายสุด แทนที่จะได้เป็นห้างที่ทันสมัย ไฮโซ เหมือนห้างอื่นๆ เค้า  ก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับ  ฝั่งลาดพร้าวนี่ก็ไม่ต่างกัน  ดีนะที่มีบิ๊กซีเช่าอยู่  อ้อ..มีธุกิจขายตรง อยู่ด้วย ไม่งั้นคงโดนทุบไปนานแล้ว  เพราะอยู่ในบัญชีที่ต้องโดนทุบ  ( มีการต่อเติมชั้นบนสุด ) พูดถึงห้างอ. ฝั่งสำโรง  สมัยก่อน เป็นห้างที่ทันสมัยที่สุดในย่านนั้น  มีโปรเจคเตอร์จอใหญ่หน้าห้าง  มีสวนน้ำ มีสวนสนุก  คือทันสมัยทุกอย่าง  พอมาเจอปี 40 เริ่มแย่ลงๆ  แต่จริงๆ น่าจะแย่ก่อนหน้านั้นแล้ว   มีการปรับปรุงหลากหลายรูปแบบ ถ้าใครเคยได้ไป  มีเวทีมวย มีสานเสก็ตน้ำแข็ง มีผับร้านอาหาร มีตลาดนัด มีเยอะเยอะ  สาวๆ โรงงานชอบไปที่นั่น รวมทั้งจิ๊กโก๋ วัยรุ่นไปตีกันที่นั้นเยอะ  คือคนที่วางแปลน จัดการ บริหารเรื่องพื้นที่ไม่ดี  ผลเลยออกมาแบบนี้  กลายเป็นห้างมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น   เรียกว่าต้องให้รปภ. มานั่งคุมตรงบันไดเลื่อน ว่างๆ ลองไปดูครับ  อาจได้ข้อคิด จากการทำธุรกิจของห้างใหญ่ๆ  ดูจากภายนอกห้าง ผมว่าเค้าก็น่าจะอยู่ได้นะ  ระบบภายในเราไม่รู้  แต่เท่าที่เดินดูอยู่ประจำ  ห้องว่างให้เช่ามีเยอะเหมือนกัน  ทั้งสองที่เลย  ฮา จากคุณ : สมาคมช่างกิโลขาย - [ 27 ก.ค. 51 11:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับ คุณ สมาคมช่างกิโลขาย ที่เข้ามาเล่าเรื่องราวให้ผมได้รับทราบ แต่ผมอยากให้คุณ สมาคมช่างกิโลขาย เข้ามาเดินเที่ยวที่ห้างนี้คุณจะพบว่า มันไม่ได้แย่ถึงขนาดที่คุณ สมาคมช่างกิโลขาย กล่าวถึงห้างอื่นในย่าน สำโรงนะครับ  และผมคิดว่าถ้าห้างที่คุณ สมาคมช่างกิโลขาย กล่าวถึงนั้นได้ จัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงร้านค้าเพื่อให้แข่งขันกับห้างอื่นได้ โดยที่ร้านค้าต้องเห็นภาพร่วมกันไปกับห้างว่าถ้าเขาลงทุนปรับปรุงและทำ ตามนโยบายของห้างแล้วนั้นพวกเขาจะได้รับประโยชน์ร่วมกันไปด้วยกับห้าง ไม่ใช่ห้างเอาตัวรอดแต่เพียงคนเดียวแล้วเขี่ยร้านค้าเหล่านี้ทิ้งโดยไม่ให้ โอกาสพวกเขาร่วมในการตัดสินใจอนาคตร่วมกับเขาด้วยเลย  เพราะผมเห็น มาเยอะพอสมควรครับว่าใช้วิธีแบบนี้แล้วก็ไปไม่รอด  ต้องแบกหน้าไปหา ลูกค้าเก่าให้เขามาช่วยเช่าพื้นที่ต่อ  ตัวอย่างเช่นห้างผมเป็นต้นครับ ที่ตอนนี้ ไม่มี Big Brand รายไหนที่เชื่อในสิ่งที่เขาคิดแล้วยอมมาลงทุนด้วยเลยครับ สุดท้ายแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายตนเองไปขอร้องร้านค้าที่ขอคืนพื้นที่ไปแล้ว ให้เขาอยู่ต่อครับ  ขอบคุณมากครับที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์กันครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 51 12:19:49 จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 27 ก.ค. 51 11:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณรอรักลงเอย ผมไม่เข้าใจว่าคุณจะมาเรียกร้องความเห็นใจด้วยการโพสกระทู้ซ้ำๆไปทำไม ตัวคุณเองคุณก็หมดสัญญาเช่า เค้าไม่ต่อสัญญาให้ก็เป็นสิทธิของเค้า เหมือนคุณมีบ้านแล้วห้องลูกชายคุณไปเรียนเมืองนอกว่างอยู่ คุณเลยให้คนอื่นเค้ามาเช่าอยู่ห้องนี้ แต่ในวันหนึ่งลูกชายคุณกลับมาจากเมืองนอก จะกลับมานอนในห้องเดิมของเค้าที่คนอื่นเช่าอยู่ คุณจะทำยังไงครับ? ถามแค่นี้สั้นๆ ส่วนเรื่องรังแก SME หรือ ธรรมาภิบาลบ้าบอไรของคุณมันไม่ใช่ เจ้าของเค้ามีสิทธิในพื้นที่ของเขา ก็ต้องเป็นสิทธิของเค้า ถ้าเค้าจะปรับปรุงเพื่อสู้กับ Central แจ้งวัฒนะ ก็เป็นเรื่องของการตลาดและการบริหารที่เขาตั้งเป้ามองเอาไว้ คิดจะทำธุรกิจ ต้องหัดมีหัวคิดไว้หาทางเลือก ต้องดิ้นให้ได้ ถ้าดิ้นไม่ได้ ก็ตายอยู่แค่นี้นะ จริงๆนะครับ จากคุณ : letsmini - [ 27 ก.ค. 51 14:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทุกวันนี้เวลาผมมอบรางวัลพนักงานดีเด่นประจำแต่ละเดือนผมก็ยังใช้การ ลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกพนักงานดีเด่นประจำเดือน  ผมก็มีสิทธิ์ออกเสียง หนึ่งเสียงเช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นๆ ครับไม่ได้ถือว่าตนเองเป็นผู้ลงทุน เป็นเจ้าของแล้วใช้สิทธิที่มีอยู่เลือกโดยไม่ฟังเสียงคนอื่นครับ  ทำให้เกิด การยอมรับในการตัดสินใจแต่ละครั้งไม่เกิดปัญหาความไม่พอใจจากการ บริหารงานเลยครับ  ส่วนค่าคอมมิสชันรวมและแบบแยกรายบุคคลก็วัดจาก ยอดขายจริงครับ  ในแต่ละเดือนพนักงานทั้งหมดก็มีการกินเลี้ยงกันในห้าง และมอบรางวัลพนักงานดีเด่นและพนักงานยอดขายสูงสุดประจำแต่ละเดือน เป็นการกระชับความสัมพันธ์ของบุคคลากรภายในร้านครับ จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 27 ก.ค. 51 15:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับ คุณ letsmini ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในแง่มุมที่แตกต่าง ยินดีรับฟังครับ  ถ้าผมทำอะไรที่ผิดพลาดก็บอกกล่าวมาได้เลยครับยินดี ทบทวนตนเองครับแต่ที่คุณ letsmini บอกมาผมยังไม่ได้ทำอะไรที่ละเมิด กฏของห้องสีลมไม่ใช่หรือครับ  ส่วนธรรมาภิบาลถ้าคุณไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้อง โหวต  หรือจะโหวตว่าห้างเขามีธรรมาภิบาลก็ได้ครับ  เพราะผมจะใช้ผลการ โหวตในการพิจารณาตนเองครับว่าผู้คนในห้องสีลมอยากให้ผมสู้ต่อไป  หรือ ต้องการให้ผมล้มเลิกการต่อสู้กับห้างในแง่ธรรมาภิบาลครับ จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 27 ก.ค. 51 15:55:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พอดีว่าผมเคยเห็นข้อความคิดเห็นของคุณในกระทู้อื่นๆ ที่มีความหมายนัยในทางให้คนมาดูกระทู้ของคุณ อีกรวมทั้งกระทู้นี้ก็มิได้มีเนื้อหาที่แตกต่างจากกระทู้เดิมของคุณแต่อย่างใดครับ ส่วนเรื่องคุณจะสู้หรือถอยเป็นเรื่องของคุณครับ มิใช่เป็นความเห็นของชาวสีลมว่าคุณจะสู้หรือถอย ในที่นี้ทำได้เพียงแต่ให้คำแนะนำ หรือให้กำลังใจกัน ส่วนคุณจะเอาไปปฏิบัติอย่างไรก็แล้วแต่คุณครับ ส่วนเรื่องที่ผมว่าคุณฟลัดกระทู้ อันนี้คือตัวอย่างส่วนหนึ่งที่ผมเจอนะครับ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6808841/B6808841.html#4 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6806133/B6806133.html#9 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6805944/B6805944.html#1 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6795128/B6795128.html#3 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6796121/B6796121.html#3 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6795805/B6795805.html#1 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6796809/B6796809.html#1 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6805300/B6805300.html#2 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6787534/B6787534.html#9 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6780045/B6780045.html#16 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6779851/B6779851.html#15 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6779385/B6779385.html#4 จริงๆแล้วมีมากกว่านี้มากครับ ผมคงตาม list มาไม่หมดนะครับ ปล.ผมไม่ใข่คนของ The MALL นะครับ ผมก็แค่คนเล่นพันทิพคนนึงแค่นั้นเอง จากคุณ : letsmini - [ 27 ก.ค. 51 21:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าทำตาม คห2 กับ คห9 แนะนำดีกว่า ผมเห็นคุณตั้งกระทู้แยะแล้ว มันไม่ได้ช่วยอะไรหรอกครับ คนรวยเค้าก็คิดของเค้า ไอ้คำว่า" หลักการธรรมาภิบาล " มันดูสวยหรู แต่เค้าจะเอาที่คืน ให้เจ้าใหม่เช่าได้เงินมากกว่า กำไรมากกว่า ก็เรื่องของเค้า เค้าไม่มาสนใจคำว่า " หลักการธรรมาภิบาล " ของคุณหรอกครับ ผมว่าคุณพิมพ์เก่ง คิด-ตอบปัญหาที่คนอื่นลงความเห็นแนะนำ ทำไมไม่เอาเวลาพิมพ์เก่ง +การคิดแก้ไข +แก้เผ็ด ห้างดัง หาที่ใหม่ขายเถอะครับ......ให้กำลังใจนะครับ (แต่เบื่อแล้ว เพราะมีคนให้คำตอบ ที่คุณรู้อยู่ในใจ ว่าสู้ไม่ได้) จากคุณ : per@ping - [ 27 ก.ค. 51 23:19:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ คุณ letsmini  และคุณ per@ping ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ในแง่มุมที่แตกต่างครับ ที่คุณ letsmini ทำการ Search ค้นหานั้นผมคิดว่า ก็มีประมาณเท่านี้แหละครับ กระทู้ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการตัดสินใจลงทุนทำ ธุรกิจอาจมีการเช่าพื้นที่ในห้างหรือนอกห้าง  แล้วผมเตือนให้เขาระมัดระวัง ตัวตรวจสอบสัญญาเช่าและระยะเวลาเช่าให้ดี  รวมทั้งเข้ามาอ่านกระทู้ของ ผมก่อนเพราะผมหวังว่ามันจะมีประโยชน์ต่อผู้อยากทำธุรกิจอยู่บ้างไม่มากก็ น้อยครับ  ผมตอบคำถามก่อนแล้วจึง copy ข้อความส่วนท้ายมาลงเพื่อแนะ นำ Link ไม่ได้มีเจตนาเข้ามาขายของหรืออื่น  ผมจึงไปห้ามใครที่จะเบื่อหรือ รำคาญกระทู้ของผมไม่ได้หรอกครับ  แต่ถ้าพวกคุณทั้งสองเข้ามาดูกระทู้ ของผมอย่างละเอียดจะพบว่า  จขกท ส่วนใหญ่เข้ามาตอบในกระทู้ของผม และให้กำลังใจไม่ได้มีท่าทีรำคาญแบบพวกคุณเลยครับ และผมก็ไม่ได้ทำ ผิดกฏของห้องสีลมไม่ใช่หรือครับ ไม่เช่นนั้นข้อความเหล่านั้นคงโดนลบ ไปเรียบร้อยแล้วครับคุณคง Search ไม่พบ  แต่เมื่อมีสมาชิกบางคนไม่ สบายใจผมก็เปลี่ยนมาตั้งกระทู้ใหม่ของผมเอง ผมไม่มีสิทธิที่จะทำได้หรือ ครับ  ผมรู้ครับว่าไม่สามารถไปบังคับความคิดของผู้อื่นให้มาชอบเราทั้งหมด ได้  แต่ผมขอได้ไหมครับให้พวกผมได้มีเวทีสำหรับแสดงความคิดเห็นของ พวกเราบ้างเพราะที่ผ่านมาอึดอัดมากเพราะไม่มีโอกาสเลย   ถ้าพวกคุณ เบื่อหรือไม่ชอบกระทู้ของพวกผมก็โปรดได้มีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ที่กำลัง ได้รับความลำบากและต้องการกำลังใจให้ลุกขึ้นสู้ขึ้นมาใหม่ครับ   ซึ่งตอนนี้ ผมก็หาที่ใหม่ได้แล้ว  แต่ภารกิจเพื่อส่วนรวมของชุมชนและเพื่อเป็นตัวอย่าง ในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมกับห้างที่ขาดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนิน ธุรกิจที่คุณเห็นว่าเป็นหลักธรรมาภิบาลบ้าบอไม่จำเป็นในการทำธุรกิจจริง ผมอยากให้พวกคุณไปศึกษาเรื่องพวกนี้แล้วพวกคุณจะเข้าใจครับว่าจำเป็น จะต้องมีไม่งั้นบริษัทต่างๆก็จะแสวงหาผลประโยชน์เข้าตนโดยไม่แคร์สังคม ว่าจะเดือดร้อนหรือได้รับผลกระทบอย่างไรครับ  ส่วนผมคงดำเนินการใน สิ่งที่พวกผมคิดว่ามีสิทธิอันชอบธรรมในการดำเนินการได้ต่อไปครับ  แต่ถ้า พวกคุณเบื่อหรือรำคาญก็ลองคิดว่าไม่มีกระทู้ของผมอยู่สิครับไม่ต้องสนใจ แนะนำได้เท่านี้ครับ   ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 28 ก.ค. 51 10:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมต้องยอมรับนะครับว่าคนในสังคมทุกวันนี้ยังไม่เข้าใจหลักธรรมาภิบาล ในการดำเนินธุรกิจ  ส่วนใหญ่จะยึดหลักกฏหมายแต่เพียงอย่างเดียวซึ่ง ผมคิดว่ามันไม่เพียงพอครับ  ไม่งั้นต่อไปการทำธุรกิจคงจะวุ่นวายน่าดูนะ ครับ  ต่างคนต่างก็คิดว่าขอว่าไม่ละเมิดกฏหมายเป็นพอ ขอให้ได้เอาเปรียบ ผู้อื่นให้ได้มากที่สุด  ผู้นั้นก็จะเป็นผู้ชนะได้ตัวเลขทางบัญชีกำไรอย่างท่วม ท้นแต่คู่ค้าที่ร่วมธุรกิจด้วยกันมาทุกรายต้องบอบช้ำจากการกระทำของเขา แต่ก่อนที่ผมจบวิศวะใหม่ๆก็เป็นแบบนี้ครับ  ต่อมาเมื่อได้เข้ามาศึกษา MBA เขาสอนหลักการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อปลูกฝังให้คุณรุ่นใหม่เข้า มาช่วยให้สังคมของเราดีขึ้นน่าอยู่ขึ้นครับ  แต่ก็ไมรู้ว่าจะมีคนที่เข้าใจอย่าง ถ่องแท้และนำมาใช้จริงสักแค่ไหน   ตราบใดที่คนในสังคมเห็นว่าการเอา เปรียบกันเป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจ  ปลาใหญ่กินปลาเล็ก จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 28 ก.ค. 51 10:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาเรื่องเวลาของผมที่เสียไปในการพิมพ์ตอบผู้เสนอแนะความคิดเห็นนั้น ผมใช้เวลาตอนที่เข้ามาที่ร้านนี่แหละครับในการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ให้กับผู้อ่านทุกท่านได้รับทราบจากประสบการณ์ทำร้านค้าในห้างมากว่า 10 ปีครับ ผมไม่คิดว่าเป็นการเสียเวลาครับเพราะอย่างน้อยผมก็ได้ประสบ การณ์ในถ่ายทอดเรื่องราวให้ทุกท่านได้รับทราบ  และผมก็ใช้เวลาส่วนที่เหลือ ในการแก้ไขปัญหาส่วนตัวของผม   และผมคิดว่าอินเตอร์เน็ตนี่แหละครับ เหมาะสำหรับใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับห้างในประเด็นทางด้านคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล เพราะมันสามารถสื่อสารได้สองทางแบบปัจจุบัน ทันด่วนหรือ Realtime และสามารถแสดงความคิดเห็นโต้แย้งกันไปมาได้ และถ้าเป็นบริษัทที่รักษาภาพพจน์ก็จะดำเนินแก้ปัญหานั้นในทันทีดัง ตัวอย่างกระทู้ของฮัทช์ ที่ห้างเดียวกันสาขาเดียวกัน ที่เขาไม่ปล่อยให้ยืด เยื้อมาถึงขนาดนี้ผิดแล้วยอมรับผิดแก้ไขความผิดพลาดก็ย่อมได้รับความ ชื่นชมจากผู้คนในสังคม  ผมจึงหวังว่าห้างนี้จะปรับเปลี่ยนท่าทีในการบริหาร ดูแลลูกค้าพื้นที่เช่าในห้างนี้ทั้งหมดไม่ได้เฉพาะเจาะจงของผมเพียงคนเดียว แต่ก็ไม่รู้ว่าผู้บริหารเขาคิดกันอย่างไร  แคร์สังคมกันหรือไม่? จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 28 ก.ค. 51 20:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมอยากบอกกับร้านค้าในศูนย์ไอทีนี้ทั้งหมดว่า  ตอนนี้ทางคนจัดผังและ สมุนคู่ใจเขาไม่มีอำนาจที่จะมาบังคับขู่เข็ญให้พวกคุณต้องทำในสิ่งที่พวก คุณไม่อยากทำได้อีกต่อไปแล้วครับ  โดยคุณสังเกตจากคำพูดที่เขาคุย กับคุณคงจะทราบนะครับ  ในใจเขาต้องการล้างไพ่ใหม่ทั้งหมดแต่สถาน การณ์ไม่เอื้ออำนวยให้เขามีอำนาจที่จะบังคับคุณได้อีกต่อไป  เพราะสาเหตุ ก็คือ Big Brand หรือร้านค้าอื่นๆที่จะดึงมาแทนพวกคุณเวลาคุณไม่ยอมทำ ตามคำสั่งมันไม่มีอยู่จริง  เป็นแค่เพียงคำขู่สวยหรูให้พวกคุณกลัวเท่านั้นเอง ถ้าคุณต้องการอยู่ที่เดิมในที่ที่คุณมีลูกค้าประจำของคุณอยู่แล้วคุณจงยืนยัน เสียงแข็งเหมือนกับร้านอื่นก่อนหน้านี้ที่ใช้ได้ผลครับ  ขู่พวกเขากลับไปเลย ว่าถ้าบีบบังคับพวกเรามากๆ ก็จะรวมตัวกันเพื่อย้ายออก  รับรองเขาไม่กล้า ทำอะไรในตอนนี้หรอกครับขนาดแค่จัดประชุมให้พวกเราเขายังไม่กล้าเลย และถ้าพวกคุณได้อยู่ที่เดิมแต่ต้องทำการตกแต่งใช้เงินจำนวนมาก  ถ้าคุณ อยากมีหลักประกันก็จงขอสัญญาเพิ่มเป็น 3 ปีเหมือนกับ Big Brand ครับ ไม่งั้นอีกไม่เกิน 1-2 ปีเขาก็มาบีบบังคับคุณได้อีกครั้งซึ่งคุณอาจไม่มีโอกาส ที่ดีในการต่อรองเหมือนในครั้งนี้ ตอนนี้คุณต้องคิดว่าคุณถือไพ่เหนือกว่าเขา ถ้ามีปัญหาอันใดสามารถมาปรึกษาผมได้ที่ร้านครับ และอยากบอกอีกสาเหตุ ที่เขาไม่กล้าหักด้ามพร้าด้วยเข่า  ก็เพราะว่าตอนนี้เขากลัวการรวมตัวของเราจน ขึ้นสมองแล้วครับเขาเหมือนตกนรกทั้งเป็นอยู่เป็นเพราะผลกรรมของเขาเองครับ พนักงานที่ดูแลที่สาขานี้ก็โดนให้ไปดูที่อื่นเพราะความกลัวและความระแวงในตัว เขาเองนี่แหละครับแล้วก็พาลใส่ลูกน้องหาว่าไม่มีความสามารถแต่ผมอยาก บอกว่าตัวคนจัดผังเองแหละครับที่ขาดความสามารถและความเป็นผู้นำรวมทั้ง ไม่มีคุณธรรมในการทำธุรกิจ รวมทั้งดูแลลูกน้องด้วยซึ่งทำให้พวกผมยอมรับ เขาไม่ได้จริงๆครับให้มาปกครองพวกเรา  และฝากถึงคนที่คิดจะติดสินบนเขาเพื่อ ให้ได้อยู่ทำเลดีดี หรืออยู่ที่เดิมนะครับผมขอบอกว่าไม่จำเป็นครับ จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 29 ก.ค. 51 11:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าอยากอ่านเรื่องราวตั้งต้นจนถึงตอนนี้สนใจรายละเอียดเรื่องราวของผมดู ได้ในห้องสีลม  ตาม Link นะครับ ขอบคุณมากครับ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6736436/B6736436.html จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 30 ก.ค. 51 16:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มีข่าวดีมาแจ้งให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับทราบครับวันนี้ผมได้โอกาสได้ไปพบ กับผู้บริหารที่อยู่เหนือคนจัดผังขึ้นไปครับ  และเป็นจริงดังที่ผมได้คิดไว้ครับ คือผู้บริหารเขาไม่ทราบเรื่องที่คนจัดผังและลูกสมุนคู่ใจสร้างความเดือดร้อน ให้กับร้านค้ารายย่อยภายในศูนย์ไอทีแห่งนี้ และไม่ได้รับจดหมายที่พวกผม ลงลายมือชื่อร่วมกันด้วยครับ  แต่ทราบเรื่องราวทางอินเตอร์เน็ตแล้วและ ไม่ได้โกรธพวกผมเลยท่านบอกว่าพวกผมเป็นลูกค้าที่นำเงินมาให้ท่าน ท่านจึง ยินดีรับฟังพวกผมอย่างเต็มที่  ผิดกับท่าทีของคนจัดผังและลูกสมุนคู่ใจจริงๆ ครับ และท่านสั่งการให้จัดประชุมให้พวกผมในทันทีพรุ่งนี้ครับ  และห้อง ประชุมก็สามารถหาได้ไม่เห็นมีปัญหาอย่างที่พวกเขาอ้างเลยครับ  แต่ก็ยัง ไม่ทิ้งนิสัยเดิมคือไม่แจ้งร้านค้าทั้งที่มีปัญหาทั้งหมดครับ  และเร่งรีบนัดร้าน ค้าเข้าไปคุยในวันนี้และพรุ่งนี้ครับเพื่อบอกนายว่าได้ทำงานไปแล้ว  ทั้งที ความจริงทำไปแค่รายสองรายเท่านั้น  แต่ตอนนี้แปลกครับยอมให้อยู่ที่เดิม ทุกราย แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของพวกร้านค้าต่างๆใกล้เข้ามาแล้วครับ ผมหวังว่าแนวทางแก้ปัญหาแบบที่พวกผมกระทำอยู่นั้น  จะเป็นประโยชน์ ต่อร้านค้าอื่นๆให้มีทางในการแก้ปัญหาลักษณะนี้ครับ  แต่เราโชคดีที่ยังมี ผู้บริหารที่มีเหตุผลและพร้อมรับฟังปัญหาของร้านค้าครับ  เดี๋ยวต้องไปช่วย ดูแลเรื่องการขนย้ายของแล้วครับ  ดึกดึกจะเข้ามาตอบใหม่ครับ จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 31 ก.ค. 51 17:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาอัพเดทหลังออกจากห้องประชุมครับ  ในที่สุดปัญหาของทุกๆร้านใน ศูนย์ไอทีแห่งนี้ก็ได้รับการแก้ไข ทางผู้ใหญ่ที่มีอำนาจตัดสินใจก็ได้ให้ความ ช่วยเหลือร้านค้าในศูนย์ไอทีที่เดือดร้อนให้สามารถได้อยู่ที่เดิมที่เขามีลูกค้า อยู่แล้ว  ส่วนผมก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่รับปากว่าจะช่วยดูแลพื้นที่ ในส่วนที่ใกล้เคียงร้านเดิมให้เป็นห้องเซ้งมาสัญญาระยะยาว  โดยผู้ใหญ่จะ อำนวยความสะดวกให้ครับ  เป็นห้องใหญ่กว่า 120 ตารางเมตรซึ่งน่าจะเพียง พอในการจัดการให้สามารถอยู่เลี้ยงดูลูกน้องกว่า 10 ชีวิตได้ครับ  และทาง เจ้าหน้าที่ของศูนย์ไอทีแห่งนี้ก็ปรับท่าทีในการดูแลลูกค้าใหม่ครับ  ทำให้ สามารถจบเรื่องราวทุกอย่างได้อย่าง Happy Ending ครับคือทุกร้านยินดี ตกแต่งภาพลักษณ์ให้สวยงามเพื่อให้ลูกค้าพอใจ สามารถแข่งขันกับคู่แข่ง ต่างๆได้ครับ  ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ได้เข้ามาติดตามและแสดงความ คิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนะครับ  และขอขอบคุณผู้บริหารของ ห้างแห่งนี้ที่เปิดโอกาสให้พวกเราได้แสดงความคิดเห็นและช่วยแก้ไขปัญหา ให้ครับ  ขอจบกระทู้การต่อสู้ทั้งหมดเพียงเท่านี้  หากร้านค้ากลุ่มใดที่มีปัญ หาลักษณะเดียวกันแล้วจะนำวิธีนี้ไปแก้ปัญหาก็ไม่สงวนสิทธิ์นะครับ   แต่ คุณต้องสืบทราบให้ได้ว่าผู้บริหารระดับนโยบายสามารถเข้าถึงตัวได้และ ยินดีรับฟังปัญหาของลูกค้า และพยายามช่วยแก้ไขให้สำเร็จโดยใช้อำนาจ ที่เขามีอยู่  ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ++ รอรักลงเอย ++ - [ 1 ส.ค. 51 20:13:11 ]