ความคิดเห็นที่ 1 เพิ่งทำงานใหม่ยังไม่นานอาจยังไม่คุ้นครับ ก็ศึกษางานไปก่อนอาจรู้สึกว่าไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ  ก็เรียนรู้งานไป สร้างสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานครับ ก็น่าจะเป็นงานที่ดีครับ อย่าคิดมาก จากคุณ : อินจอง - [ 11 ส.ค. 51 20:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ได้เข้ามาจับผิดนะคะ แต่ว่า หัวกระทู้ไม่สัมพันธ์กับเนื้อหา เนื้อหานี่หมายความว่า "ผมทำงานไม่คุ้มเงินเดือนเค้าหรือเปล่าครับ" น่าจะยังงี้ค่ะ เข้ามาอ่านเพราะนึกว่าโดนเค้าใช้งานหนักเสียจนท้อ แต่อ่านแล้วเนื้อหาเหมือน เข้ามาแล้วเค้าไม่ใช้งานให้เข้ากับวุฒิหรือตำแหน่งที่ได้รับ ได้แต่เดินไปเดินมา เท่านั้นเอง ส่วนในเนื้อกระทู้ ขอตอบว่า เท่าที่อ่านมา คุณไม่พยายามสร้างความสัมพันธ์อันดีกับ หน่วยงานระดับล่าง เพราะลักษณะการทำงานเหมือนต้องพึ่งพากันเป็นลำดับขั้น เพียงแต่ว่า ควบคุมด้วยวิศวกรที่มีความรู้การันตีในสายงานที่เกี่ยวข้อง และเพื่อเป็นมาตรฐานของโรงงาน เค้าถึงได้มองว่า คุณว่างงานมากกว่าเค้า แต่อยู่ในตำแหน่งและเงินเดือนมากกว่าเค้า เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องหาเวลาว่างนั่งคุยกับเค้าแบบเป็นกันเองกึ่งทางการนิดนึง ว่า การทำงานมีอะไรติดขัดบ้างไหม และคุณจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อช่วยเหลือทางด้านไหนบ้าง และบางอย่างอาจจะขอตรวจสอบไปในตัว ในการทำงาน เพียงแค่นั้น ต้องพยายามทำให้เค้าคิดว่าเราไม่ได้เดินไปเดินมาเพื่อจับผิด แต่เดินไปเดินมาเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและรับรู้ถึงปัญหาในการทำงานในโรงงานค่ะ ถ้อยทีถ้อยอาศัยค่ะ ถึงตำแหน่งเราจะสูง แต่เรามาทีหลัง บางครั้งเราก็ต้องฟังเจ้าถิ่นด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 21:02:15 จากคุณ : Ex-TeRMinaToR - [ 11 ส.ค. 51 20:59:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ^ ขอโทษด้วยครับผม คุณ Ex-TeRMinaToR พอดีไม่ได้เรียบเรียงคำพูด สักเท่าไหร่ นึกไรได้พิมพ์ไปตามนั้น ไงขออภัยด้วยนะครับ จากคุณ : บางกล่ำที่ข้าเกิด - [ 11 ส.ค. 51 21:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ได้ต่อว่าหรอกค่ะ แต่เห็นว่า เขียนไม่เข้ากับเนื้อหา เดี๋ยวคนอื่นจะงง เลยบอกไว้เผื่อคราวหน้ามีอะไรปรึกษาจะได้เข้าใจตรงกัน หวังว่า คงจะมีความสุขกับเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ นะคะ มีแก้ไขความคิดเห็นด้านบนเล็กน้อยค่ะ ปกติทำงานโรงงาน แต่ตำแหน่ง IT แต่จำเป็นต้องไปซัพพอร์ตตามโรงงาน ภายใน ก็เลยพอจะเข้าใจ แรกๆ ก็ไม่ค่อยสนิทกับใคร ไปๆ มาๆ มีแต่คนตามตัวก็เหนื่อยเหมือนกันแต่รู้สึกว่าคุ้มค่ะ จากคุณ : Ex-TeRMinaToR - [ 11 ส.ค. 51 21:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงคุณ Ex-TeRMinaToR ครับผม ผมไม่ถึงกับเดินเล่นไปมาสักเท่าไหร่ บางครั้งพอเข้าไปกะว่าจะนั่งด้วยหรือนั่งคุยกับเขา เขาก็ลุกขึ้นหมดเพราะว่าเกรงใจหรือป่าวก็ไม่แน่ใจ แต่ก็พยายามปรับตัวอยู่ คุยกันแบบพี่แบบน้อง ถ้อยทีถ้อยอาศัยอย่างที่พี่บอก เพราะว่าถ้าแข็งไปก็ไม่ดี อ่อนไปก็ควบคุมไม่ได้ เลยกะว่าเป็นกลาง ๆ จากคุณ : บางกล่ำที่ข้าเกิด - [ 11 ส.ค. 51 21:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สภาพเหมือนผมเลยอะ รุ้สึกว่าได้เงินเดือนเยอะกว่างานที่ตัวเองต้องทำ แต่ตอนไหนว่างๆ ผมก็พยายามศึกษาเอกสารต่างๆเท่าที่พอจะทำได้ ส่วนเรื่องที่หัวหน้าไม่กล้าสั่งงาน ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่นะ งานมันอาจจะยังไม่เข้า  ถ้าเข้าเมื่อไหร่มันอาจจะยุ่งและความรู้ที่ จขกท ได้เล่าเรียนมาก็คงจะได้ใช้ ซึ่ง พวกช่างทั้งหลายอาจจะไม่มี Skill ในส่วนนี้ที่ จขกท มีก็ได้ ไม่ต้องเครียดครับ  ผมยังคิดเลย   งานน้อยเงินเยอะ = น่าเบื่อเพราะว่าง ยังดีกว่าเน้นว่า "ยังดีกว่า" งานหนัก+เงินน้อย หรือ งานหนัก+เงินเยอะ แต่เครียดมาก จากคุณ : Dirty_Face - [ 11 ส.ค. 51 21:23:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ ^ ถึงคุณ Dirty_Face ขอบคุณมากครับผม แหม พี่ตอบได้ดีเลยทีเดียวนะครับ ผมรู้สึกว่าว่าตัวเองยังไม่ลงล๊อกคงอาจเป็นเพราะพี่บอกจริงๆ เพราะว่าบางครั้งการทำงานในโรงงานต้องว่างจริงๆ  ในเมื่อไลน์การผลิตเดินปกติเราก็ไม่ต้องดำเนินการไรอีก แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยว่างนานเท่าไหร่หรอกครับพี่ งานจะมาเรื่อยๆ เพราะว่าต้องดูหมดทั้งโรงงาน พี่มีไรแนะนำผมก็แนะนำด้วยนะครับ ยินดีรับฟังคำแนะนำเพื่อนำไปใช้ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะว่าผมเองก็เพิ่งมาสายโรงงานก็ครั้งแรกด้วยประสบการณ์ด้านโรงงานอาจจะยังน้อยไปนิด ขอบคุณมากครับผม จากคุณ : บางกล่ำที่ข้าเกิด - [ 11 ส.ค. 51 21:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่อึดอัดหรือครับ ไปทำงานแต่ไม่หาอะไรเป็นชิ้นเป็นอันทำ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 21:33:16 จากคุณ : Jump.Jr - [ 11 ส.ค. 51 21:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ ตอบคุณ Jump.Jr   ครับผม ก็พยายามหาอยู่ และศึกษาระบบในโรงงานไปเรื่อยๆ ก่อนครับ เพิ่งเริ่มงานได้สองเดือนเองครับ จากคุณ : บางกล่ำที่ข้าเกิด - [ 11 ส.ค. 51 21:38:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทำไปสักปี เดี๋ยวจะบ่นว่า   งานเยอะจิ๊บเป๋ง จากคุณ : เ ห็ ด ห อ ม - [ 11 ส.ค. 51 21:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ ตอบคุณ เห็ดหอม ก็อย่างน้อยยังดีกว่าไปอยู่ว่าง ๆไม่ใช่เหรอครับ และงานเยอะก็เป็นประสบการณ์กับตัวเราเองด้วย จากคุณ : บางกล่ำที่ข้าเกิด - [ 11 ส.ค. 51 21:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ครีเอท งานซิครับ... อย่าลืมว่า คุณตำแหน่ง Management Trainee มองภาพรวมของงานให้ออก แล้วใช้ความรู้ ทักษะ เข้าไปพัฒนางาน ที่สำคัญต้องทำงานเป็นทีมให้เป็น ... ทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติ เป็นพี่ เป็นน้องเป็นเพื่อนร่วมงาน นอกเวลางานก็สังสรรค์เฮฮา เป็นกันเองกับเพื่อนพนักงานทุกคน ในเวลาก็ทำงานอยู่บนหลักการ มีความจริงใจ ไม่ตึงไม่หย่อนจนเกินไป... ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา หรือ หัวหน้างาน เท่านี้คุณก็จะได้รับความร่วมมือ และสนับสนุนจากทุกคน แล้วครับ พนักงานก็ไม่เกร็ง และไม่กลัว ในทางตรงข้ามจะเคารพรักคุณด้วยซ้ำ ... โชคดีครับ  ^_^ จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 11 ส.ค. 51 21:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เริ่มงานแรกๆ ผมก็อึดอัดนะที่ทำอะไรยังไม่ได้เยอะ เพราะว่ามันอยู่ในช่วงเรียนรู้งาน แต่ จขกท ไม่ต้องกลัวหรอกครับ  แค่ จขกท กังวลว่า บ ใช้งาน จขกท ไม่คุ้มกับเงินเดือนที่เขาจ่าย ถ้าผมเป็น เจ้าของ บ ก็คงดีใจที่จ้างคนมาแพงแบบไม่เสียเปล่า อย่างน้อยคุณก็ยังอยากทำงานมากกว่านี้ให้คุ้มกับเงินที่ผมต้องจ่าย ก็เรียนรู้งานไปเรื่อยๆครับ  เดี๋ยวงานเข้าก็ได้ใช้วิชาเอง จากคุณ : Dirty_Face - [ 11 ส.ค. 51 21:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แฟนให้มาตอบเพราะเห็นว่าทำงานที่ระยองเหมือนกัน ออแฟนเราไม่ใช่พี่นะคะ เห็นส่งหลังไมค์ไปเรียกแฟนเราว่าพี่ เราเพิ่งจะ 23 กันทั้งคู่ ผมอายุ 27 ปีเองครับ แต่รับเงินเดือนขนาดนี้ แถมบริษัทมีบ้านพักให้อย่างดีอีกด้วย ถ้าตอบเงินเดือนที่ จขกท ก็ไม่ถือว่าเยอะมากถ้าเทียบกับคนทำงานที่ระยองเพราะตัวเราเองก็ได้มากกว่าพอสมควร ผมเพิ่งเริ่มงานได้แค่สองเดือนกว่า ๆ ทำงานยังไม่พ้นโปรเหมือนกันคะ เพราะเพิ่งจบ อย่าคิดมากเลยคะ ตัวเราจบ ปริญญาโท ยังคิดว่าทำงานสู้โอเปอเรเตอร์ไม่ได้เลย ณ ตอนนี้ อีกอย่างช่วงนี้เป็นช่วงของการเรียนรู้ หัวหน้าคงยังไม่มอบหมายงานสำคัญให้ทำไหรหรอกคะ เอาไว้สักพักเดี๋ยวก็จะได้รับมอบหมายมากขึ้นเองคะ เขาจ้างวิศวกรมาคิดนะคะ ไม่ได้มาใช้แรงงาน จากคุณ : แฟนให้มาตอบ - [ 11 ส.ค. 51 21:48:07 A:192.168.50.13 X:119.42.69.218 TicketID:167342 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท ทำโรงแยกก๊าซ ปตท ใช่ไหมเนี่ย จากคุณ : แฟนให้มาตอบ - [ 11 ส.ค. 51 21:51:24 A:192.168.50.13 X:119.42.69.218 TicketID:167342 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากครับสำหรับทุก ๆความคิดเห็น หลังไมล์ไปขอบคุณแล้วนะครับ จากคุณ : บางกล่ำที่ข้าเกิด - [ 11 ส.ค. 51 21:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อย่าคิดมากเลยครับ คิดซะว่าตอนเรียนคุณลงทุนค่าเล่าเรียนไปมากขนาดไหน ค่าเทอม ค่าหนังสือ อะไรอีกสารพัด กว่าคุณจะได้ทำงาน คุณต้องเรียนมากี่ปี ส่วนพวกช่าง เขาเริ่มงานเมื่ออายุยังน้อย ๆ ซึ่งเขาลงทุนเรื่องค่าเล่าเรียนในตอนแรกน้อยกว่าคุณ ถ้าคุณคิดว่า เงินเดือนยังมากเกินไปสำหรับคุณ พอสิ้นเดือน คุณก็พาพวกช่างในแผนกไปเลี้ยง บ้างสิครับ คุณจะได้สบายใจ และคุณก็ยังได้ใจลูกน้องคุณอีกนะ จากคุณ : ดอกต้อยติ่ง - [ 11 ส.ค. 51 22:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตัวคุณอาจจะไม่เหมาะกับลักษณะงานที่เป็นรูทีนก็ได้น่ะครับ คืออาจจะ มีความกระตือรือร้นอย่างมาก แล้วก็คาดหวังมากว่าจะได้ใช้ความสามารถ มากกว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้ แต่หากได้งานใหมแล้วได้แสดงความสามารถเต็มที่่แบบนั้น แล้วได้เงินน้อยกว่า ได้ผลตอบแทนน้อยกว่าทุกวันนี้ แต่ได้ทำงานอย่างจริง ๆ อย่างที่ต้องการ คุณรับได้มั๊ยย ผมคิดว่ามีอีกหลายคนครับ ที่อยากจะเป็นเหมือนคุณ อยากกจะมายืนจุดที่คุณยืนอยู่ครับ แต่ที่แน่ ๆ คุณควรจะเตรียมตัวให้พร้อมครับ เพราะยังงัย ๆ บริษัทเขาก็ต้องให้คุณทำงาน ให้คุ้มอยู่แล้ว เพียงแต่ลักษณะงานอาจจะไม่ใช่งานที่เกิดขึ้นประจำ แต่เมื่องานเข้า เขาจะคิดถึงคุณเป็นคนแรกครับ **** ผมทำงานมาเกือบ 5 ปี กว่าจะได้เงินเท่ากับที่คุณได้ ผมเป็น Programmer น่ะครับ ผมไม่มีที่พักฟรีน่ะครับ งานก็ office ใน กทม. ครับ ผมอายุน้อยกว่าคุณ เกิด 24 ครับ **** ไม่รู้ว่าจะตรงกับที่ต้องการหรือปล่าว แต่ตามมาให้ทัศนะครับ จากคุณ : สวนปรุง แห่งความหลัง - [ 11 ส.ค. 51 23:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หลายคนรู้สึกแบบนี้ค่ะ ตอนนี้เราก้อคิดแบบเดียวกัน แต่เงินเดือนไม่ได้เยอะขนาดคุณนะคะ หลายๆเหตุผลก้อบอกแล้ว ตอนนี้เพิ่งสองเดือน คุณยังไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะตัดสินใจอะไรได้ เพราะถ้าตัดสินใจผิด ผลเสียอาจจะเกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ แต่หน้าที่ของคุณตอนนี้คือเรียนรู้งาน ว่าทำไมพี่หัวหน้าคุณถึงต้องตัดสินใจแบบนั้น มันต้องมีเหตุมีผล เรียนรู้ทุกส่วนในโรงงานนั้น อะไรมันเกี่ยวเนื่องกัน ถ้ามีปัญหา จะมีอะไรที่เกิดผลกระทบ เป็นเราจะแก้ยังไง ประมาณนี้นะคะ ถูกต้องตามด้านบนให้คำตอบค่ะ เค้าจ้างมาแพงๆ เพื่อคิด ให้สมกับที่คุณจบมาสูงๆ ไม่ได้จ้างมาใช้แรงงาน   ค่อยๆเรียนรู้งานและเก็บประสบการณ์นะคะ จากคุณ : เพียงน้ำค้าง_25 - [ 11 ส.ค. 51 23:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ทำงานต้องให้คุ้มกับเงินเดือน เพื่อตัวคุณเองและบริษัท คนมีฝีมืออยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ งานเล็กงานน้อยหัดเรียนรู้ จะทำให้ชั่วโมงบินคุณสูงขึ้น แก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น Life is learning. จากคุณ : Hanachan - [ วันแม่แห่งชาติ 01:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่รู้ระบบงานภายในของโรงงานใหญ่ๆเป็นอย่างไร แต่เห็นหลังไมค์ไป จึงจะลองออกความเห็นดู ถูกผิดอย่างไรคุณไปปรับเปลี่ยนแยกแยะเอาเองนะครับ ตำแหน่งคุณเป็นผู้จัดการฝึกหัด (น่าจะเป็นฝ่ายบริหาร) และก็มีฝ่ายช่างไฟ ฝ่ายช่างซ่อม แต่ละฝ่ายต่างมีหัวหน้า  พอช่างซ่อมๆตรงไหนคุณก็จะเข้าไปดู ก่อนที่คุณจะเข้ามาทำงาน ช่างซ่อมว่างก็จะนั้งจับกลุ่มคุยกัน แต่พอคุณเข้ามาเขาจะหลบหลีก เพราะหัวหน้าบอกให้คุณเดินทั้งวัน คุณเข้ามาสองเดือน ค่าจ้างก็แพง แต่งานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เลยรู้สึกอึดอัด อย่างนี้ใช่ไหมครับ ถ้าใช่อย่างนี้ : ตามที่ผมเข้าใจ โรงงานใหญ่ๆจะมีช่างตามที่คุณว่ามา เพื่อคอยดูแลเครื่องจักร์และระบบไฟฟ้าให้เป็นปกติ หากสิ่งใดมีปัญหาก็จะแก้ไขได้ทันท่วงที ช่วยลดความสูญเสียในการผลิต   หากเครื่องจักร์ปกติก็ไม่ต้องทำอะไร การที่คุณเดินไปเดินมา ในขณะที่ทุกอย่างปกติ  จึงทำให้เขาเหล่านั้นรู้สึกอึดอัด คล้ายถูกควบคุมครับ  คุณลองหาวิธีช่วยให้เขาผ่อนคลายหายจากอึดอัดก่อนจะดีไหม จะทำให้คุณพลอยสบายใจไปด้วยครับ วิธีช่วยให้เขาหายอึดอัด : คือการสร้างมิตรครับ คุณลองเข้าไปทำความรู้จักกับเขาดู ผูกมิตรกับเขาให้สนิทสนม อายุไล่เลี่ยกันเป็นเพื่อน เขาอายุมากกว่าเป็นพี่ เป็นน้าเป็นอา เรียกเขาไปตามนั้น ให้ความเป็นกันเองกับเขา ทั้งนอกและในเวลางาน  อย่าแสดงตัวเป็นนาย ให้ทำตัวเป็นผู้ช่วยเหลือ อาจนั่งลงช่วยเขาทำงานบ้างบางโอกาส ให้ความเห็นใจในงานที่เขาทำ ชมบ้างเมื่อมีจังหวะ  ถึงงานเขาจะเบาก็อย่าพูด หากงานเขาหนักให้แสดงความเห็นใจ  พอมิตรภาพเกิดขึ้นแล้ว คุณจะเดินไปกี่รอบเขาก็ไม่เลี่ยงครับ  แต่ถ้าคนไม่คุ้นเคยกัน เดินวันละไม่กี่เที่ยวก็หมั่นไส้กันได้ครับ จากคุณ : บุญถิ่น - [ วันแม่แห่งชาติ 07:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แต่ผมอ่านหัวกระทู้แล้วเข้าใจนะครับ คุณบุญถิ่นตอบดีัแล้วครับ คือคุณจขกท.ได้งานที่เป็นความเชี่ยวชาญพิเศษ เพราะฉะนั้นความเชี่ยวชาญพิเศษ ไม่ใช่งานรูทีนครับ  วิชาความรู้มันจะปรากฏออกมาเมื่อมีปัญหา ถ้างานไปได้เรื่อยๆ  ก็ไม่มีอะไรทำ  ซึ่งไม่ผิดปกติครับ แต่ระหว่างที่คุณว่างๆนี่..ผมขอแนะนำสำหรับคนที่แอ๊คทีฟ อยู่เฉยไม่ได้ ก็ลองเซ็ทระบบจัดการที่เกี่ยวกับเครื่องจักรให้กับเจ้านายพิจารณา เช่นวิธีการประหยัด วิธีการรักษาเพื่อไม่ให้้เปลืองค่าซ่อม ลองเอาประสัติการเสียหายของเครื่องจักรในอดีตมาดูว่าเกิดเพราะอะไรบ้าง แล้วคุณก็ครีเอทระบบขึ้นมาป้องกันมันซะ ตามหลักการทำงานของคน เราชอบคิดว่า "เราจะมีผลงานต่อเมื่อต้องทำงานเท่านั้น" จริงๆไม่ใช่เลยครับ "เราสามารถมีผลงานผ่านการนำเสนอไอเดียที่มีค่า ที่ช่วยบ.ประหยัด หรือช่วยสร้างรายได้" ก็ได้นะครับ จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ วันแม่แห่งชาติ 07:44:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 งั้นก็ลาออกเลยสิครับ ถ้าคิดว่ามันอัดอั้น ออกไปหางานเงินเดือน 6-7000 แบบคนอื่นดีกว่า ถ้าคิดว่าสบายใจโอเคป่ะ แค่นี้ก็จบ จะได้ไม่ต้องมานั่งคิด จากคุณ : ไฮโซ - [ วันแม่แห่งชาติ 09:38:12 A:58.8.195.182 X: TicketID:174238 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เหมือนยามวันๆเดินไปมา แต่หากมีอะไรที่เกิดจากการมองข้ามไป แล้วท่านไม่ได้แจ้งให้แก้ไขหรือทำหนังสือเตือน นั้นแหละผลของความรับผิดชอบของท่าน ที่จะต้องอธิบาย เหมือถึงวันนั้นเงินเดือนเกือบ30,000บาท อาจจะน้อยไปถนัดตา จากคุณ : CDALU - [ วันแม่แห่งชาติ 10:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ได้อ่านกระทู้แล้ว ก็เข้าใจนะครับ  คุณต้องมีความจริงใจที่จะเข้าหาพนักงานด้วย ส่วนเรื่องทำงานคุ้มกับเงินเดือนหรือไม่นั้น ตรงนี้ไม่ใช่ปะเด็นที่จะต้องมานั่งกังวลครับ ผมเองก็ทำงานไม่ค่อยคุ้มกับเงินเดือนเท่าไหร่นัก แต่เราต้องศึกษา และ เข้าหางานให้มากกว่านี้ครับ จากคุณ : inner_out - [ วันแม่แห่งชาติ 12:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ทำตัวให้เข้ากับบรรดาช่างทั้งหลายให้ได้ อย่าให้พวกเขาคิดว่ามาคอยจับผิด แต่ให้พวกเขามีความรู้สึกว่าเป็นมิตร คอยแก้ไขปัญหาในระหว่างทำงานได้ อย่าให้พวกเขาคิดว่าคุณสามารถให้คุณให้โทษพวกเขาได้ โดยการรายงานไปถึงหัวหน้าใหญ่หรือผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่านี้ เมื่อได้ทำความรู้จักสนิทชิดเชื้อกันแล้ว พวกเขาอาจจะรายงานเรื่องบางเรื่องให้คุณรู้ และปัญหาในการทำงานให้คุณทราบ ปัญหาเรื่องที่หัวหน้าคุณยังไม่ได้มอบหมายงานให้ ก็เพราะว่าคุณยังใหม่อยู่ รออีกซักหน่อยเถอะ อย่ามาบ่นว่า"งานเยอะเว้ย กรูทำไม่ทัน" จากคุณ : นักซ่อมคอมพ์ - [ วันแม่แห่งชาติ 12:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อาจเพราะเพิ่งเริ่มเข้าทำงานก็เป็นได้นะ เพิ่งทำงานแค่ 2 เดือนเอง ยังไม่มีใครให้ลงทำเต็มที่ 100% หรอกนะ ช่วงแรกๆ เกือบทุกที่ก็จะว่างแบบนี้ล่ะ พอทำไปเรื่อยๆ เป็นปี งานจะเข้ามาให้เราเรียนรู้เองล่ะ ใจเย็นๆ งานมีให้ทำอย่างแน่นอนค่ะ แต่พี่ คิดอย่างข้างบนนะ ในตอนนี้เมื่อไม่มีงานมากก็น่าจะลองหาอย่างอื่นทำ แบบ คุณผึ้งน้อยพเนจรบอกนะ cheers!! จากคุณ : +สาวสวย+ - [ วันแม่แห่งชาติ 12:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าเป็น ผม จะพยายาม เข้าไป คุย กับ ช่างต่างๆ ให้เค้าไว้ใจเรา รู้หน้าที่ของแต่ละคน ส่วนตัวเอง ก็ขอให้ศึกษา ดูงาน ติดตามความรู้ใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงตัวเราเองไปเรื่อยๆ ไม่งั้น วันนึง แม้เงินเดือนเยอะ แต่ต้องโดนบีบออกจากงาน เราจะทำอะไร ไม่เป็น จากคุณ : เพื่อนพ้องน้องพี่ - [ วันแม่แห่งชาติ 12:28:19 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อีม เข้ามาอิจฉา เราทำงานเกินเงินเดือนตั้งแต่ยังไม่ผ่านโปรเลย ยิ่งตอนนี้ นับวันก็จะยิ่ง overload ไปเรื่อยๆ พี่ๆ เพื่อนๆ หัวหน้าเห็นใจ..แต่ทำไรไม่ได้มาก เพราะไม่มีpower ต่อรองมากพอ เซ็ง..อยากลาออก แต่คิดค้างบางอย่าง (-*-) จากคุณ : akokm - [ วันแม่แห่งชาติ 13:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 วิธีการนะคะ (เป็นความคิกของพี่เงนะคะม่ใช่กฎตายตัว) 1. ลูกพี่คุณต้องการให้คุณเรียนรู้งานให้มากที่สุด ด้วยตัวคุณเอง คุณเข้ามาทำงานระยะหนึ่งแล้ว คุณตอบตัวเองได้มั๊ยว่า ขั้นตอนการทำงานเป็นอย่างไร? สายการทำงานเป็นอย่างไร คุณสามารถเขียนขั้นตอนการทำงานที่คุณทำได้มั๊ย? คุณควรเขียนรายงานหรือรายละเอียดเกี่ยวกับงานเก็บไว้ หากลูกพี่คุณเรียกเมื่อไร งัดขึ้นมาทันที(Proactive) ไม่ต้องรอให้สั่ง 2.คุณควรเริ่มเรียนรู้สิ่งที่ช่างกำลังทำ เพราะตำแหน่งงานคุณเยอะกว่า หากไม่รู้ค่อยเรียนรู้ไปแบบครูพักลักจำให้เร็วที่สุด หากวันนึงเกิด ข้อผิดพลาดในสายการทำงาน คุณสามารถแก้ไขได้ทันทีโดยไม่ข้ามหน้า หัวหน้า มีวิธีคือ เดินเข้าไปรายงานหัวหน้าว่าเกิดปัญหาอะไร แล้วเสนอ ความห็นว่าหากจะแก้สามารถแก้ได้อย่างไร และรอหัวหน้าคอมเม้นท์กับมา อย่าแก้ไขโดยพละการเพราะคุณเพิ่งมา ให้เสนอได้อย่างเนียนๆๆดูทิศทางลมด้วย 3. ปฎิบัติกับพวกช่างแบบ ไม่ให้เค้ากลัวแต่ให้เค้าเกรง บางครั้งก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่บ้าง เพราะคุณไม่ใช่แผนกตรวจสอบชั่วโมงทำงาน เข้าไปคุยกับเค้าบ้าง ซื้อใจเค้าบ้าง ข้อนี้ค่อนข้างยากเพราะเป็นนามธรรมและต้องใช้เวลา ใจเย็นๆ คุยบ้างเล่นบ้าง แต่ห้ามลงลึกจนขาดความเกรงใจ อยู่ที่การวางตัว ค่อยๆทำไป ทุกอย่างไม่ได้ทำในวันเดียว การทำงาน ดีที่ได้ค่าจ้าง แต่ที่ดีที่สุดคือการได้ความรู้จากงานที่ทำ ฉะนั้นทำให้ดีที่สุดนะจ๊ะ อย่าคิดมาก หากเงินใช้ไม่หมด ก็ส่งมาให้พี่ละกันนะ เพราะพี่ไม่พอใช้ อะคริ อะคริ.. จากคุณ : ยัยเขี้ยว - [ วันแม่แห่งชาติ 13:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ต่ออีกนิด 28K สำหรับวิศวกรไฟฟ้า ไม่เยอะหรอกค่ะ แล้วยิ่ง อายุ 27 ด้วย ปกติค่ะ อย่าคิดมาก ปกติทั่วไปค่ะ เพราะน้องชาย จบวิศวโทรคมนาคม ทำอยู่ บริษัททำ ชิฟใส่คอมฯ ที่แจ้งวัฒนะ เงินเดือนเยอะมากๆๆ แต่ก่อนเข้าไปทำ หัวดำ แต่ไง๊ทำได้ปีเดียว หัวหงอกทั้งหัวเลย เพราะเครียดมากๆๆๆๆ คุ้มเงินมั๊ยนั่น บ่นอยากลาออก แต่ขอผ่อนบ้านก่อน... ขำน้องพี่ 31 หงอกเพียบเลย.... จากคุณ : ยัยเขี้ยว - [ วันแม่แห่งชาติ 13:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ช่วงแรกคงยังไม่ได้ทำอะไรมากมายหรอกค่ะ เรียนรู้ระบบงานและทำความรู้จักกับคนให้มากๆ ดีกว่า เพราะไม่งั้นเมื่อคุณเข้าไปทำงานแบบจริงๆ จังๆ อาจจะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร แล้วคุณจะต้องบอกว่า ผมทำงานเกินเงินเดือนหรือเปล่า - -" จากคุณ : เจ้านายตัวเอง - [ วันแม่แห่งชาติ 14:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พึ่งสองเดือนเองครับ ผมเองตอนสองเดือนก็แบบเนี้ยล่ะครับ ตอนนี้ 4 เดือนอยากจะบอกให้งานตูมากเหลือเกิน เงินเดือนไม่ขึ้น... ตอนนี้สบายใจได้ก็รีบๆเรียนรู้งาน อ่านอะไรไปครับอีกหน่อยจะมาตั้งเงินเดือนผมน้อยไปไหมครับเนี่ย จากคุณ : thetoppy (thetoppy) - [ วันแม่แห่งชาติ 14:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอแทรกความคิดเห็น คห 14 หน่อยครับเรื่อง-- จ้างวิศวกร มาคิดไม่ได้มาใช้แรงงาน-- ผมเองก็เป้นวิศวกรคนหนึ่งนะครับ ขอตอบว่าไม่จริงนะครับ การที่คนเราจะสามารถ ไปอยู่ในส่วนที่ใช้ความคิดได้นั้น ก็ควรจะต้องผ่านงานที่ต้องใช้แรงงานมาก่อนนะครับ เพราะจุดเริ่มต้นต่างก็ต้องรู้จักพื้นฐานที่ดี การเป็นวิศวกรที่ดีได้ก็ต้องรู้จักงานระดับล่างมาก่อนนะครับ้ ในความคิดส่วนตัวเลยคิดว่า วิศวกร ไม่ได้จ้างมาคิดอย่างเดียวครับ แต่จริงๆเป็นการจ้างคนที่มีประสบการณ์ทั้ง ด้านลงแรงแล้วก็ด้านการวางแผน มาเพื่อใช้ในการวางแผนงานให้คนที่ขาดความสามารถในด้านการวางแผนอยู่ครับ จากคุณ : thetoppy - [ วันแม่แห่งชาติ 14:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมไม่เคยมีประสบการณ์ในงานช่างเลย เป็นแต่เสมียนเขียนหนังสือ และกว่าจะเข้ามาเห็นกระทู้นี้ ก็มีผู้ให้ความเห็นมาแล้วทุกแง่ทุกมุม ถ้า จขกท.เอาความคิดเห็นทั้งหมดมาประสมประสานกัน แล้ววิเคราะห์ด้วยตนเองว่า เราควรจะทำอย่างไรในสถานที่แห่งนี้ จึงจะมีประโยชน์มากขึ้นกว่าการเดินไปเดินมา คงจะมีประโยชน์มาก ส่วนผมขอแนะนำให้ลองไปดูข้อคิดที่อยู่ในกระทู้นี้บ้างซีครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6879811/W6879811.html จากคุณ : เจียวต้าย - [ วันแม่แห่งชาติ 16:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กำลังอยู่ในช่วงปรับตัวเท่านั้นเอง ไม่ต้องทำไรมากครับ ปรับแค่เรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานน่าจะพอแล้ว งานจะค่อยๆเข้ามาเอง หลังจากที่คุณเริ่มประสานงานกับเพื่อนร่วมงานได้ แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 51 16:26:09 จากคุณ : smilelove - [ วันแม่แห่งชาติ 16:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โห เงินเดือนเยอะเหมือนกานนะ อย่าคิดมาก  อาจเป็นการเรียนรู้งานไปก่อน    แต่การเรียนรุ้งาน  บางแห่งอาจนานหน่อย  คุณเลยรุ้สึกว่าไม่ค่อยได้ทำไร   แต่ก้อทำแหละ  (เหมือนไม่คุ้มกับเงินใช่มะ)   มันก้อจริงแบบคห34บอก  วิศกร  ไม่ได้จ้างมาคิดอย่างเดียว  รอดูชัก3-4เดือน  ตอนนี้ก้อพยายมมปรับตัวให้เข้ากับ  เพื่อนร่วมงานให้ได้   แระคุณจะทำงานแบบไม่เครียด จากคุณ : หัวหอม++ตัวหอม - [ วันแม่แห่งชาติ 16:42:22 ]

ความคิดเห็นที่ 38 2 เดือน ทีผ่านมา เป็นแค่การเริ่มต้นค่ะ ตำแหน่งที่ทำ ถือว่าเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบในส่วนของโรงงาน เงินเดือน 28 k สำหรับเรา ถึอว่าไม่เยอะนะคะ เพราะว่า เพื่อนที่เป็นวิศวกรอยู่ ก็ได้สวัสดิการแบบนี้ เงินเดือนก็ สามหมื่นขึ้น แต่ บ่นว่างานเยอะมากๆ  555 จากคุณ : อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์ - [ วันแม่แห่งชาติ 17:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เป็นช่วงเริ่มงานแรก ๆ อย่าคิดมากเลยค่ะ เค้าอาจจะกำลังต้องการให้เรียนรู้งานและสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานก่อนก็ได้ ในเวลางาน ก็ทำงานให้เต็มที่ค่ะ ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานอย่างสุดความสามารถ นอกเวลางานก็เฮฮามีความเป็นมิตรให้กับเพื่อนร่วมงาน แบ่งปันน้ำใจในเรื่องอื่นนอกจากเรื่องงาน แค่นี้ก็มีคนรักแล้วค่ะ จากคุณ : halo+ - [ วันแม่แห่งชาติ 17:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พี่ทำงานในบริษัทวิศวกรเหมือนกันคะ แล้วบริษัทค่อนข้างใหญ่ พี่มองว่า บริษัทของน้องน่าจะใหญ่ทีเดียวอย่างที่น้องบอก บริษัทใหญ่ ๆ เค้าจะไม่ให้น้องทำงานจับฉ่ายคะ เค้าจะให้เป็นหน้าที่ ๆไป ส่วนเงินเดือนนั้น น้องอาจจะมองว่ามันเยอะ แต่ว่าในเมื่อเจ้านายหรือคนที่รับน้องมามองว่าความสามารถของน้องสามารถให้ถึง 28k ถ้าน้องไม่อยากให้คนภายนอกมองว่าน้องเดินไปเดินมา หรือทำงานไม่คุ้มเงินเดือน น้องก็ลองคุยๆ  มองหาอะไรทำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับบริษัทหรือหน้าที่ของน้องเอง จำไว้อย่างนึงว่า เราคาดหวังกับบริษัทยังไง บริษัทเค้าก็คาดหวังในตัวน้องเช่นกัน สู้ ๆน้อง น้องยังเป็นเด็กใหม่ ยังเจออะไรเยอะแยะคะ น้องอาจจะเด็กเกินไปสำหรับตำแหน่งนี้ แต่มันคือความท้าทายนะคะ ดีแล้วที่น้องได้มาอยู่ในจุด ๆ นี้ในอายุยังน้อย เพราะว่าน้องจะได้เติบโตไปมากกว่านี้คะ น้องทำงาน เดินไปเดินมา เพราะหน้าทีของน้องคะ ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นจะมองว่าน้องเป็นยังไง ต่อให้คนใหม่เข้ามา เค้าก็ต้องทำหน้าที่แบบนี้เหมือนที่น้องทำ อย่าสนใจคะ เชื่อพี่ จากคุณ : Kartoon_BKK - [ วันแม่แห่งชาติ 17:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณที่หลังไมค์มาถามคห.ผมนะครับ จากการอ่านที่น้องบรรยายมาทั้งหมด การเป็นหัวหน้าต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายชั้นสูงหรือลูกน้องที่ต่ำกว่าเรา เพราะองค์กรของคุณใหญ่และมีคนจำนวนมาก การทำงานก็ต้องพบปะกับคนมากมายหลายๆแผนกอาจจะมีถูกใจบ้างผิดใจบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ในการร่วมงานหรือตรวจงานถ้าลูกน้องผิดก็ควรให้คำแนะนำหรือให้โอกาสกับเขาบ้าง ถ้าทำดีก็ควรชมพอสมควร ส่วนการทำงานก็ทำตามหน้าที่ๆมอบหมายให้สมกับตำแหน่งที่ได้รับและเงินเดือน รับรู้ประสบการณ์อีกซักพักเอาใจเขาใส่ใจเราแล้วก็จะเรียนรู้เองครับ จากคุณ : หนุ่ม บางซ่อน - [ วันแม่แห่งชาติ 17:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่มีความรู้ด้านโรงงาน  แต่จะขอให้ความเข้าใจ  ในฐานะที่ผมมีธุรกิจ ส่วนตัว และเป็นเจ้านายคน ตอนนี้  คุณอยู่ในช่วงฝึกหัด  ชั่วโมงบินยังน้อยมาก  ความเก๋า  ยังไม่มี ตอนนี้  เรายังใหม่อยู่  อะไรที่ใหม่ๆ  เข้าไปในที่ใดก็ตาม  มักจะถูกมอง จากคนทั่วไป  นั่นเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ พี่แนะนำว่า  การเข้าไปทำงานในที่ใดก็ตาม  เรื่องของมนุษย์สัมพันธ์ กับเพื่อนร่วมงาน  หรือผู้ด้อยตำแหน่งกว่าสำคัญมาก  ในเมื่อเรายังใหม่ เราควรเข้าไปทำความรู้จัก  พูดคุย  กับคนอื่นๆ  เพื่อความเป็นมิตร เพราะยังไงก็จะต้องเจอกันตลอด  (ไม่ได้เป็นการพาพรรคหาพวก) ถือเป็นมารยาทอย่างหนึ่งในสังคมที่ควรจะมี ส่วนเรื่องรายได้คุ้มหรือไม่นั้น  ตอนนี้ยังคงตัดสินอะไรไม่ได้  เค้าให้มา ก็รับไว้  ไม่แน่ต่อไป  คุรอาจจะมาตั้งกระทู้  ว่ารู้สึกเบื่อ  เพราะไม่คุ้มเลย ก็ได้  ตอนนี้ยังใหม่อยู่  อย่าเพิ่งไปคิดอะไร ถ้าไม่อยากให้ใครมองว่าเรามาจับผิด  เข้าไปพูดคุยกับเค้าดู  ถามเค้ามา มีปัญหาอะไรในการทำงานบ้างมั้ย เวลาเรามาทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเกร็ง พูดคุยแลกเปลี่ยนกันบ้าง  เค้าจะเกิดความรู้สึกดีดีกับคุณเองแหละ   ส่วนเรื่องถ้าคุณคิดว่าไม่คุ้มกับเงินที่ได้รับ  มีความคิดเห็นอะไร  หรือมี ข้อเสนออะไร  ลองยื่นเสนอดู  อยากทำอะไร  แบบไหน  ง่ายจะตาย เป็นกำลังใจให้นะครับ  สู้สู้ จากคุณ : สุภาพบุรุษอร่อยที่สุดในโลก - [ วันแม่แห่งชาติ 17:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ครับ เห็นหลังไมค์ไปหา ผมให้ความเห็นเพิ่มเติมในนี้นะครับ หลายความเห็นที่ตอบมา ตอบได้ดีมาก จขกท. ก็คงจะพอมองเห็นภาพรวมแล้วนะครับ แสดงว่าองค์การที่คุณร่วมงานอยู่เป็นแบบ Organics Structure Organization ซึ่งมีความยืดหยุ่นและเน้นการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภายนอกและภายใน บางครั้งสถานภาพแบบ Middle-man อาจทำให้ จขกท.ปรับตัวยังไม่ถูก คิดบวกไว้นะครับ.. การเป็นหัวหน้าคน ต้องทำตัวเป็น สระน้ำ ลำยอ กอไผ่ อาจต้องใช้พระเดช หรือพระคุณ ตามสถานการณ์ เทคนิคที่นักพัฒนาชุมชนมักใช้คือ Co-optation "การดึงเอามาเป็นพวก" หมายถึงวิธีการที่จะสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจและทำให้ผู้อื่นยอมรับเราได้แบบปราศจากเงื่อนไข ซึ่งมันเป็นทฤษฎีที่ต้องอาศัยศิลปเป็นอย่างมาก ต้องมองสภาพแวดล้อมโดยรวมให้เข้าใจนะครับ นี่คือเครื่องมือบางอย่างตามความรู้ปริญญาโท สาขาการบริหารองค์การที่ผมเรียนมา ป.ล. ลองอ่านความเห็นทั้งหมดอีกครั้งนะครับ นั่นคือคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด ต้องมั่นใจในตัวเองให้มากเข้าไว้นะครับและรักษาโอกาสอันดีนี้ไว้ให้นาน... จากคุณ : SianpenG - [ วันแม่แห่งชาติ 17:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยกับความเห็นที่26ครับ ไม่ต้องให้ความสำคัญเรื่องงานเป็นอันดับ1นะครับตอนนี้แต่คุณกำลังเรื่มเรียนรู้...เราจะรู้ได้จากใหนลุกน้องคุณนั่นไงควรจะเข้าหาบุคคลก่อนนะครับ จากคุณ : นายช่างค่อนข้างใหญ่ - [ วันแม่แห่งชาติ 17:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อืมม์...ตอนเรียนจบมาใหม่ๆ......ก็รู้สึกตัวเองเก้งก้าง....ไม่ค่อยมีประโยชน์.....คุ้มกับเงินเดือนเหมือนกัน (เพราะยังทำอะไรไม่ค่อยเป็น) แต่สักพักก็จาเริ่มปรับตัวได้ค่ะ....และอาจจะมีบางเรื่องที่เราต้องเรียนรู้เพิ่มเติม งานบางอย่างอาจจะดูไม่หนัก....แต่ความรับผิดชอบเยอะค่ะ ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงที่ต้องเรียนรู้งาน และ ต้องปรับตัวของ จขกท....ขอหั้ยผ่านช่วงนี้ไปได้ไวๆนะคะ......และสักพัก....จขกท คงจะเปลี่ยนความรู้สึกว่างานของตัวเองนั้นเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบมาก....อาจจะเครียดด้วยซ้ำ ส่วนมากคนที่ทำงานวิศวะที่รู้จัก....งานจะเยอะ...และเครียดนะคะ...สักพัก จขกท อาจต้องมาตั้งทู้ใหม่ได้...ว่างานหนัก เครียด ไม่คุ้มกับเงินเดือน หรือป่าวนะ ?????? จากคุณ : pig666 - [ วันแม่แห่งชาติ 17:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ปกติ ฐานเงินเดือนมาจาก ความรู้ในด้านที่เราเรียนมา และประสบการณ์ที่ เรามีมาเพื่อให้ประโยชน์ในสถานที่ทำงานนั้นๆ และก็ เรื่องที่ โรงงานหรือบริษัท จะจ้างให้มานั่งเพียงเพื่อให้แค่มีตำแหน่งนั้นๆในโรงงานแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ อันใดเลย ขอยืนยันว่าไม่มี แน่นอน ที่ บริษัท ให้เดินดูๆ ช่าง หรือคนงานนั่นแหล่ะ งานใหญ่หลวงเลย งานหนัก และ มีความกดดันสูง เค้าซื้อความเครียดที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณเองไปแล้วนะ สิ่งที่คุณ รู้สึก มันก็ คือแลกกับเงินเดือนที่คุณว่าสูงไป นั่นเอง งานวิศวะกร เป็นงานที่มีความรับผิดชอบค่อนข้างสูง พอๆกับหมอ และ เบื้องต้นการที่ให้ คุณทำงานในลักษณะ ดังที่คุณเล่ามา ก็ ถือ เป็นการทดสอบ คุณเองไปในตัวด้วย คุณเองควรตระหนัก ถึงภาระ และความรับผิดชอบ และความกดดัน ที่จะเกิดขึ้นต่อๆไปจากนี้ด้วย ส่วน เรื่องคนงานหรือช่างที่ ทำงานอยู่เดิมที่นั่น เป็นธรรมดา ที่ เค้าจะ สบายๆ เช้าชามเย็นชาม เนื่องจาก เค้า ทำงานกันที่นั่นมาเป็นเวลาพอสมควร ถ้า อยู่ในความรับผิดชอบของคุณ คุณ คิดแผนได้ เลย ว่า จะรับมือยังไง เช่น การที่ จะทำบรรยากาศ การทำงานให้ คึกคักขึ้น การ กระเตื้องคนให้กระดิกตัวมากขึ้น โดย แนบเนียน โดยการทำอย่างไรให้ พวกช่างหรือคนงานไม่รู้สึกว่า คุณมาคอยจับผิดหรือ รังควาญชีวิต ความเป็นอยู่ แต่เดิมของพวกเค้า นั่นแหล่ะ งานที่คุณว่าไม่หนัก หรือมองไม่เห็น ส่วนการ สร้างมิตรภาพ คิดว่า คงไม่ยาก ในฐานะที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน ค่อยๆสร้างไป โดยการ สังสรรค์ ตามสมควร หรือ การช่วยเหลือต่างๆนาๆ การสร้างบารมีควรมีควบคู่กันไปด้วย เพราะอายุคุณยังน้อย จะเป็นอุปสรรค์ ในการ เป็นผู้นำบ้าง แต่ก็ไม่เกินการแก้ไข เป็นงานที่ กดดัน และ เป็นงาน โดยเนื้องานที่คุณมองไม่เห็น ไม่ไช่แค่ สแตนบาย  นี่คุณกำลังอยู่ในเนื้องานโดยไม่รับรู้เลยต่างหาก ตั้งใจให้มาก พิสูจน์ตัวคุณเอง จากคุณ : กระเถิบ - [ วันแม่แห่งชาติ 17:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมคิดว่า เป็นเพราะคุณสับสนกับชื่อตำแหน่ง+เงินเดือนที่คุณรับรู้มา อย่าพึ่งไปสนใจเรื่องเงิน ดูที่เนื้อหางาน และกำลังเพิ่งเริ่มต้นแค่สองเดือนเองครับ ต้องเรียนรู้งานจากรุ่นพี่ๆอีกเยอะแน่ๆเลย ข้อสังเกตุกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้ที่ตำแหน่งด้อยกว่า ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับสำหรับหน้าใหม่ ยังไงเราก็เป็นรุ่นน้องเค้าอยู่ดีแม้ทางสายงานเค้าต้องมาปรึกษาเรา ลองศึกษาและปรึกษาจากช่างเหล่านี้ดูครับ ผมคิดว่าพวกเค้าเชี่ยวชาญมากกว่าคุณแน่ๆเลยครับ เน้นอีกที อย่าพึ่งไประแวงเรื่องที่คุณตั้งข้อสงสัย เดี๊ยวจะไม่มีความสุข เพราะยังมีอีกหลายคนต้องการจะเป็นแบบคุณ ถ้ารู้สึกไม่คุ้ม ก็ไปนั่งเล่นกับช่าง เอ้ย !! เดินศึกษาเครื่องมือเครื่องจักรและระบบโรงงานนี้ให้มากๆครับ อย่างน้อยก็ช่วยหัวหน้าคุณได้ ให้สมกับเงินเดือน จากคุณ : โอ-ต่อ - [ วันแม่แห่งชาติ 17:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เดินเข้าไปตรวจงานในโรงงานบ่อยๆ แต่หนูคิดว่า (ขอแทนแบบนี้เพราะอายุน้อยกว่าพี่ค่ะ อิอิ) ไม่ใช่เดินไปเดินมาอย่างเดียว ควรศึกษาภาพรวมของโรงงาน เครื่องจักร ลักษณะการทำงานของช่าง พนักงาน ผลิตยังไง ขั้นตอนยังไง พอมีปัญหาแล้วแก้ไขอย่างไร อย่าเน้นเฉพาะการซ่อมเครื่องอย่างเดียว เห็นบอกว่าเป็น Manager trainee ก็ควรจะรู้ให้ครอบจักรวาลในเรื่องของโรงงาน นอกจากนั้น คิดว่าน่าจะดูในส่วนของคลังเก็บสินค้า ระบบ spare part และอื่นๆอีกมากมาย โรงงานเล็กๆโรงงานนึงก็มีอะไรให้ศึกษามากมาย ของคุณพี่โรงงานออกจะใหญ่โต คิดว่าอยู่ไปนานๆ งานจะยุ่งเองล่ะค่ะ พยายามต่อไปค่ะ สู้ๆ จากคุณ : Pucchi Moni - [ วันแม่แห่งชาติ 18:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สวัสดีครับ... คุณคงได้ข้อคิดที่ดีๆ จาก คห.ข้างบนแล้ว นะครับ ช่วงนี้คุณต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงานเป็นลำดับแรก ครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่น่าเป็นห่วง ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน นะครับ โชคดีครับ จากคุณ : นฤรัตน์ - [ วันแม่แห่งชาติ 18:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ยังไม่เคยทำงานเลยอ่ะครับ -_-'' แต่เข้าใจความรู้สึกดีครับ แต่ชอบคำตอบของคุณบุญถิ่นนะครับ จากคุณ : L-Nets - [ วันแม่แห่งชาติ 19:23:32 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่รู้จะให้คำแนะนำอะไร เพราะแต่ละความเห็นก็ให้คำแนะนำครบถ้วนแล้ว ไม่มีประสบการณ์ทำงานสายโรงงานค่ะ เลยออกความเห็นได้ไม่มากเท่าไหร่ เอาที่ทำอยู่ตอนนี้นะคะ อยู่ที่ทำงานเราก็เป็นหัวหน้า คอยถามไถ่พนักงานตลอด มีปัญหาเรื่องงานอะไรหรือเปล่า ลูกค้าสร้างความลำบากใจให้บ้างไหม ว่าง ๆ ก็คุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เรื่องบางเรื่องถ้าไม่ทำให้บริษัทเสียหายก็หยวน ๆ ไปบ้าง เลิกงานกลับมาบ้านก็เป็นเพื่อนกัน (บริษัทมีบ้านพักให้) คุยเล่นกันได้ ออกไปทานข้าวกันได้ ทำกับข้าวมากินด้วยกันได้ แรก ๆ อาจจะเขิน ๆ กันบ้าง ลูกน้องอาจจะเกรง ๆ บ้าง แต่พอเวลาผ่านไปทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำงานนะคะ จากคุณ : aquelle - [ วันแม่แห่งชาติ 19:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 52 Management Trainee ระวังไม่พ้น Pro นะครับ เฮอๆ คุณอายุก็ตั้ง 27 แล้ว คงไม่มีใครมาสอนงานคุณหรอกนะ ช่วงนี้มีเวลา ควรจะศึกษางานให้เยอะๆครับ ถึงเวลาจริงๆงานมันก็เยอะเองแหละ แต่ถ้าถึงเวลา งานก็ไม่ได้ คนก็ไม่ได้(สำคัญ) มีปัญหาแน่นอนครับ (ผมก็เป็นวิศวกรครับ) จากคุณ : คนหลงทาง - [ วันแม่แห่งชาติ 20:05:07 A:124.120.93.134 X: TicketID:169117 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เข้าใจว่า จขกท.จะเบื่อแน่ ๆ เรย  ที่จะต้องว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ เข้าใจค่ะ  เพราะครั้งนึงก็เคยเป็น เคยรู้สึกอย่าง จขกท. แต่ มันแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ จิง ๆ ค่ะ   ยังงัย ๆ ก็ขอให้จขกท.ดูงานให้ละเอียดอีกครั้งดีกว่านะคะ เพราะงานทุกงาน  มันต้องมีส่วนไหนสักส่วน ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้วค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหามันเจอรึเปล่า  .... ก็เท่านั้น... จากคุณ : FA_574 - [ วันแม่แห่งชาติ 20:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ยังไงก็ขอบคุณที่อุตส่าห์หลังไมค์มาเหมือนกัน ที่ผมบอกไปใน คห.23 น่ะ ผมประชดนะ ไม่ดีหรออยู่ว่าง ๆ ได้เงินเยอะ ๆ ทำงานเงินเดือนน้อยงานหนักก็บ่น ทำงานเยอะเงินเดือนเยอะก็บ่น เงินเดือนมากงานน้อยก็บ่น คือคนเราเนี่ยน่าจะคิดเองเป็น ผมไม่ได้ด่าคุณนะ ผมอายุ 26 (น้อยกว่าคุณปีเดียว) แต่ผมทำงานตั้งแต่สมัยเรียน เงินเดือนถือว่าเยอะมาก ๆ ในสายงานเลขา คือผมเรียนมาทางด้านเลขา งานเยอะมาก เวลาไม่มีงานนี่ชอบมาก การมีงานไม่มากมีผลดีต่อคุณคือ 1.ดีว่ะ ไม่ต้องทำอะไร กับ 2.ว่างมากก็ศึกษางาน เผื่อเวลาเจ้านายมาตอนไหนไม่รู้ แล้วมาถามว่าคุณได้รู้อะไรบ้างจะได้ตอบได้ ผมเนี่ยชอบมากเลยเวลาว่างเนี่ย ที่ผมตอบไปเพราะอยากให้คุณได้คิดหน่อยว่า เรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องตั้งกระทู้ก็ได้ เพราะเรื่องแบบนี้น่าจะคิดหาทาง หรือแมนเนจตัวเองเป็น คนอื่น ๆ ไม่ได้อยู่ในสถานะเดียวกับคุณ เค้าไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง เพียงแต่แค่คำแนะนำ ที่ดูเหมือนจะดี เหมือนจะเป็นวิชาการ แต่ตัวผมเองเป็นคนตรง ๆ ก็เท่านั้น เพื่อนผมคนนึง (ยกตัวอย่างเลยมีอยู่) จบจาก ม.เอกชนแห่งหนึ่ง ด้านวิศวกรการสื่อสาร เงินเดือนแค่18000 แต่งานหนักมาก ๆ ทำงานเสาร์-อาทิตย์ด้วย เพราะงานต้องเร่ง งานเยอะมาก ๆ มันทำแบบนี้มาปีนึงและเพราะมันเพิ่งเริ่มที่นี่ได้แค่ปีเดียว คิดดูเวลาพักผ่อนไม่มี บ้านอยู่ไกลจากที่ทำงานมาก ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เลิกงานสองสามทุ่ม กลับถึงบ้านสี่ห้าทุ่ม ตีห้าตื่นอีกและ แล้วตัวมันเองมีภาระคือบ้านไม่รวย บ้านยังผ่อนไม่หมด พ่อ แม่ป่วยต้องไปโรงบาลทุกอาทิตย์ นั่นคือต้องใช้เงิน เพื่อนผมคนนี้เงินเดือนไม่เคยพอ พอกลางเดือนก็ไม่มีเงินเหลือแล้ว ต้องหยิบยืม เพราะต้องผ่อนบ้าน ภาระมันเยอะมาก ๆ แต่สิ่งที่มันกลัวคือไม่กล้าออกไปหางานใหม่ เนื่องจากกลัวหางานยาก มัวแต่โทษตัวเองว่าจบวิศวะจาก ม.ไม่ดี กลัวหางานใหม่แล้วไม่มีใครรับ คุณยังโชคดีกว่าเพื่อนผมคนนี้ที่วัน ๆ เดิน ๆ ไป ๆ ไปไหนมาไหนก็ได้ งานไม่หนัก ทำไมคุณยังถึงไม่พอใจอีก คุณลองมาเจอแบบเพื่อนผมสิ แล้วถ้าคุณกังวลทำไมไม่ออกไปหาเงินเดือน 6-7000 พันล่ะ คุณจะได้งานหนัก ๆ ซึ่งภูมิใจไม่ใช่หรอ เงินเดือนคุณเยอะกว่าผมถึงสองเท่า เรียนวิศวะแต่คุณเองทำไมคิดได้แค่นี้ผมไม่เข้าใจ สายงานผมกับคุณมันต่างกันมาก ผมเรียนมาทางด้านเลขา แอดมิน งานที่ต้องใช้ภาษาในการติดต่อลูกค้าบ่อย ประสานงานลูกค้า ซึ่งงานผมค่อนข้างหนัก อีเมลมาตลอด แต่ที่ทำเพราะอะไร ก็เพราะว่าชอบด้านนี้ ขี้เกียจไปทำงานมาก ๆ พอเช้าก็ต้องตื่น มันเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากทำมาก ๆ แต่ที่ทำเพราะว่าสักวันอยากมีอะไรเป็นของตัวเอง อยากเป็นเสือนอนกิน ไม่อยากเป็นลูกน้องชาวบ้านไปตลอด ทำ 10 ปีสำหรับผมอาจจะมากไปด้วยซ้ำ คิดในใจว่าไม่รู้ฉันจะอยู่ทน 10 ปีรึเปล่า เพราะว่าที่บ้านเลี้ยงมาแบบสุขสบาย พอเรียนจบ ชีวิตที่ไร้สาระไปวัน ๆ คงไม่มี คงไม่มาขอเงินพ่อเงินแม่ใช้แบบใบไม้แบบแต่ก่อนแล้ว 25เค คุณทำไม่กี่ปีก็สามารถตั้งตัวได้ แต่ในทางตรงกันข้ามเพื่อนผมจบวิศวะเหมือนกันได้แค่ 18 เค แต่งานหนัก เครียด มันบ่นอยากตาย ผมว่าคุณเองลองช่างใจดูและกันนะ ลืมบอกไปนิดนึงนะครับ ถ้าคุณตั้งกระทู้แบบนี้ในเว็บอื่น ผมว่าร้อยทั้งร้อย คงรุมประณามด่าคุณแบบไม่แยแสนะครับ แต่ในนี้ผมไม่ขอเอ่ยว่าคุณในนี้เป็นแบบไหน แต่เว็บอื่น ๆ ผมรับรองว่าเค้าพูดด้วยความจริงใจ อาจจะแรงไปบ้างแต่พูดแบบจริงใจ ซึ่งคนในนี้จะไม่เหมือนเว็บอื่น ผมพูดแค่นี้แหละ เรื่องแค่นี้หรอ คนอย่างผมคนนึงแหละ ไม่ตั้งกระทู้ถามเด็ดขาดเนื่องจากเค้าไม่ได้อยู่ในสถานะเดียวกับคุณ หรือถ้าคุณอยากรู้จริง ๆ เพื่อนสนิทพ่อแม่ หรือใคร ๆ ก็ได้ที่ถามได้ มาตั้งกระทู้ในนี้ถามหน่อยว่าคนฉลาดที่เรียกตัวเองว่าวิศวะเค้าทำกันหรอ แต่ส่วนใหญ่คนในนี้ชอบบอกว่าตัวเองจบสูง เงินเดือนเยอะ ๆ ทั้งนั้น แต่การตั้งกระทู้ส่วนใหญ่ยิ่งกว่าคนอยู่อนุบาลซะอีก ผมขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ ที่ผมยังเข้าเว็บนี้อยู่ผมยังเห็นประโยชน์ของมันบ้าง (บ้าง บ้าง บ้าง) จึงเข้า ถ้าประโยชน์ตรงนั้นหายไป ผมคงไม่เข้าอะ เพราะแต่ละกระทู้บางกระทู้แบบว่าน่าด่าเหลือเกิน เอาเป็นว่าคิดให้เป็น อย่าไปถามใคร เพราะมันเรื่องง่าย ๆ ไม่ยาก จัดการด้วยตัวเอง ผมอายุน้อยกว่าคุณนะ เงินเดือนน้อยกว่าคุณด้วย จากคุณ : ไฮโซ - [ วันแม่แห่งชาติ 20:34:49 A:58.8.188.245 X: TicketID:174238 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คือ..แต่ละอาชีพก็มีหน้าทีของตนเองอะครับ..จะมานั่งเทียบกันว่า   คนสวน ช่างซ่อมเค้าทำงานหนักกว่าเราอีก แต่ได้เงินน้อยกว่าเรามันก็ไม่ใช่ ลักษณะงานต่างกัน..แค่คุณทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาให้ดีที่สุดก็ค้มละ ปล..ถ้านายจ้างเค้าเห้นว่าไม่คุ้มที่จะจ้างคุณ เดี๋ยวเค้าก็เชิญออก ไม่ก็ลดเงินเดือนคุณเองละครับ ไม่ต้องกังวล จากคุณ : ใครเอ๋ยเดาเอา - [ วันแม่แห่งชาติ 21:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 56 "เรียนวิศวะแต่คุณเองทำไมคิดได้แค่นี้ผมไม่เข้าใจ" พูดได้เข้าท่าดี เอิ๊กๆให้คะแนนเต็มสิบกับประโยคนี้ เพราะปกติวิศวกรที่เคยร่วมงานกับผมเค้ามักจะคิดเป็นระบบมากกว่านี้หลายเท่า จากคุณ : Jump.Jr - [ วันแม่แห่งชาติ 21:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 57 จริงๆแล้ว  คห ที่หลากหลายข้างบนล้วนเป็นข้อคิดที่ดีเท่านั้น เพียง 2 เดือน มาอยู่ในลักษณะงานที่ไม่เคยเจอมาก่อน  คุณต้องปรับตัวครับ  กับระบบงาน ระบบเครื่องจักรด้วย  แต่ที่สำคัญคือ กับคนครับ   ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ครับ   ลองเลือกหาคนที่คุณดูแล้วน่าจะเข้าได้ง่ายเป็นการเริ่มสร้างความคุ้นเคยก่อน  แล้วจะค่อยๆกระจายความคุ้นเคยได้ไปเรื่อยๆ เงินเดือนดี  สวัสดิการดี  ก็ต้องพยายามทำงานให้ดีด้วยครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : Fortunism - [ วันแม่แห่งชาติ 22:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เขาเรีียกว่า "เป็นผลบุญจากการตั้งใจเรียนอ่ะ" ดีใจด้วย ที่ได้ทำงานสะบาย เงินเดือนดี ปล. ถ้าเข้ากทม.เมื่อใหร่ อย่าลืมมาเลี้ยงหมูกระทะผมนะ ครับ  55++ ถ้ายังไม่มีแฟน ก็จะแนะนำน้องสาวให้ เอ้าฮาาาาาาาาา เอาเถอะ การงานมันมีเรื่องให้ทำตั้งเยอะครับ ทำไป แต่ละคน จะได้งานไม่เหมือนกัน คนเรียนน้อยมา โอกาสเขาก็น้อย แต่เขาก็ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง คนเรียนมาสูง เขาก็ต้องมอบโอกาสดีๆ ก่อน เพราะเชื่อมั่นว่า การศึกษาทำให้คนสูงขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมว่าคุณเลิกคิดเรื่องนั้นๆ หันมาทำงานจริงจัง ถือสะว่าเป็นกำไรของ ชีวิต แล้วก็อย่างลืม ถ้าว่างมาก เพื่อนร่วมงาน ก็ช่วยเขาได้ คุณก็จะได้มีงานทำ บุญรักษา จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ - [ วันแม่แห่งชาติ 23:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เรียน จขกท. คุณ : บางกล่ำที่ข้าเกิด สรุปคำถามของคุณ ก็คือ ถาม 1 ได้เงินเดือนรวมเบี้ยเลี้ยงและที่พักมากเกินไปหรือเปล่า เพราะ • อายุ 27 ปีเองตำแหน่งที่ผมทำผู้จัดการฝึกหัด ด้านวิศวกรโรงงานแถว ๆ ระยอง • จบวิศวกรไฟฟ้า เงินเดือน+เบี้ยเลี้ยง เกือบ ๆ 28 k เพิ่งเริ่มงานได้แค่สองเดือนกว่า ๆ บริษัทมีบ้านให้อยู่เรียบร้อย น้ำและไฟฟรีหมด • รู้สึกอายเด็กช่างซ่อมหรือคนตัดหญ้าที่อย่างน้อยเขามาแล้วมีงานทำบ้าง อย่างน้อยได้ซ่อมเล็กซ่อมน้อยบ้าง • เข้ามาทำงานสองเดือนรู้สึกว่ายังไม่ได้ทำอะไรสักเป็นชิ้นเป็นอัน ลูกพี่ผมบอกให้เดินในโรงงานทั้งวัน • ลูกพี่ผมมีอำนาจทั้งหมดในการตัดสินใจรู้สึกว่าต้องผ่านเขาหมด ถาม 2 หรือว่าลูกพี่ผมไม่กล้าจ่ายงานให้หรือเปล่า แต่มันทำให้รู้สึกว่าอึดอัดมาก ๆ ที่วัน ๆไม่ค่อยมีไรทำ วัน ๆเดินไปเดินมาในโรงงานรู้สึกเบื่อ ๆ ทำให้ช่างซ่อมไม่กล้าว่างงานหรือจับกลุ่มคุยกันอย่างแต่ก่อน (มีโฟร์แมนรับผิดชอบแต่ละสายอีกชั้นหนึ่ง) ถาม 3 คิดถูกไหมที่ทำงานกับบริษัทนี้ (แต่เรื่องเงินเดือนก็โอเคแล้วครับ โคตรคุ้มเหลือเกิน) . ต่อไปนี้เป็นคำตอบ 1. ชีวิตการทำงานในสังคมไทยแบ่งคนเป็นสองระดับ คือ ระดับจบปริญญากับระดับไม่จบปริญญา คุณอย่าเอารายได้ เงินเดือนหรือค่าตอบแทนของคนสองระดับนี้มาเปรียบเทียบกัน เพราะความรับผิดชอบและเส้นทางความก้าวหน้าในการทำงานแตกต่างกันมาก ๆ 2. คุณเพิ่งทำงานสองเดือนกว่าเท่านั้นและยังเป็นผู้จัดการฝึกหัด ซึ่งคำว่า "ฝึกหัด" ก็แปลว่าคุณยังอยู่ระหว่างการเรียนรู้วิธีการทำงาน ซึ่งในชีวิตจริงนั้นแตกต่างจากการฝึกงานระหว่างเป็นนักศึกษามาก และในระยะแรกนี้บริษัทจะไม่ให้คุณมีอำนาจการตัดสินใจใด ๆ ทั้งนั้น เพราะคุณยังมีประสบการณ์ไม่พอ และมีโอกาสที่จะผิดพลาดสูงที่อาจจะทำให้บริษัทจะต้องเสียหายได้ คุณต้องรอให้ครบระยะเวลาการฝึกงานของคุณก่อน ซึ่งอาจจะเป็นหกเดือนหรือหนึ่งปี คุณลองถามหัวหน้าคุณดู ซึ่งถ้าคุณทำงานเป็นที่พอใจละก็บริษัทจึงจะแต่งตั้งตำแหน่งให้คุณแบบถาวร และจะไม่มีคำว่าฝึกงานอึกต่อไป 3. งานที่บริษัทฝึกคุณในระยะแรก ๆ นี้ก็จะให้ทีละเล็กทีละน้อยแล้วก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามความพร้อมของคุณ ซึ่งเรื่องนี้คุณไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรทำ แต่ถ้าเขาเห็นว่าคุณไม่พร้อมละก็เขาก็อาจจะไม่ให้งานเพิ่มและเมื่อครบกำหนดฝึกงานแล้วบริษัทอาจจะไม่จ้างคุณต่อไปก็ได้ ดังนั้นในระยะนี้เมื่อบริษัทมอบหมายงานอะไรละก็คุณก็ต้องทำงานนั้น ๆ ให้เต็มที่ 4. งานของคุณเป็นระดับบริหารขั้นต้น ไม่ใช่ระดับผู้ใช้แรงงานระดับล่าง คุณจึงไม่ต้องรอให้ใครมาสั่งว่าในแต่ละวันคุณต้องทำอะไรบ้าง ดังนั้น นอกจากคุณต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดแล้ว คุณยังต้องศึกษาหาความรู้เรื่องต่าง ๆ ทุก ๆ อย่างที่เกี่ยวกับองค์กรและพนักงานตลอดจนผลิตภัณฑ์ในทุก ๆ ด้านไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย 5. คุณบอกว่างานปัจจุบันของคุณก็คือเดินไปเดินมาตลอดวัน ซึ่งทำให้คุณเบื่อและรู้สึกว่าทำงานไม่คุ้มกับเงินเดือนเลย แล้วคุณรู้ไหมว่าทำไมเขาจึงให้งานแบบนี้กับคุณ ????? เหตุผลก็เพราะว่าบริษัทต้องการให้คุณเรียนรู้การทำงานของโฟร์แมน และของคนงาน กับฝึกให้คุณมีมนุษย์สัมพันธ์กับคนเหล่านั้น แต่ไม่ใช่คุณเป็นกันเองหรือพูดเล่นจนเสียระบบการทำงาน แต่ให้คุณศึกษาทางจิตวิทยาว่าคนเหล่านั้นเป็นอย่างไรและทำอย่างไรเขาจึงจะเต็มใจทำงานในหน้าที่ของเขา ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยเรียนมาก่อนเลย แต่ในชีวิตจริงคุณต้องเรียนรู้เอาเอง และใช้มันมาก ๆ ตรงนี้ คุณต้องศึกษาหาความรู้เองเองด้วย คุณต้องทำแผนการตรวจงาน ทำแผนการรายงาน ถึงไม่ทำเป็นทางการ แต่คุณก็ต้องทำเก็บไว้เป็นส่วนตัวที่สามารถใช้สรุปทำรายงานอ้างอิงได้เมื่อจำเป็น ซึ่งตรงนี้จะเป็นผลสรุปผลการฝึกงานที่ดีของคุณ สรุปก็คือ งานระดับของคุณนี้ เป็นระดับบริหาร คุณต้องคิดวิธีการทำงานขึ้นมาเองด้วย ไม่ใช่รอให้คนอื่นมาสั่งงานเป็นรายวันเหมือนกับระดับล่าง 6. ในการติดต่อตรวจงานหรือสั่งงานกับโฟร์แมนหรือคนงาน คุณก็ต้องแสดงให้เห็นว่าคุณยินดีรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีประสบการณ์สูง ๆ ทำงานมานาน คุณฟังให้มากแต่ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยคือไม่เห็นด้วย แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจอย่างไร คุณก็ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากหัวหน้าระดับสูงขึ้นไปก่อนด้วย เพราะหัวหน้าจะเป็นผู้รับผิดขอบโดยตรงต่อการทำงานหรือการตัดสินใจของคุณ 7. สรุปก็คือ ถ้าคุณบอกว่างานที่นี่รายได้ดีมากและคุณพอใจงานที่นี่ แต่เบื่อที่ไม่มีอะไรให้ทำ ก็แสดงว่าคุณยังทำงานไม่เป็น คำแนะนำก็คือ คุณควรจะหาโอกาสปรึกษาเป็นการส่วนตัวกับหัวหน้าของคุณเพื่อขอคำแนะนำในเรื่องนี้ 8. เท่าที่อ่านข้อมูลทั้งหมด ก็ขอบอกว่า คุณโชคดีแล้วที่ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานที่บริษัทนี้ แต่ถ้าคุณแสดงความเบื่อหน่ายให้เขาเห็นและยังทำงานไม่เป็นแบบนี้ละก็ เมื่อหมดกำหนดฝึกงานแล้วเขาประเมินว่าคุณไม่เหมาะสมกับงาน บริษัทก็อาจจะไม่จ้างคุณต่อไปอีกก็ได้นะ 9. สรุปก็คือไม่ใช่คุณเป็นฝ่ายเลือกว่าจะทำงานกับเขาต่อไปหรือไม่เท่านั้น แต่ทางบริษัทก็กำลังประเมินการทำงานของคุณอยู่ว่าจะจ้างคุณต่อไปหรือไม่ด้วย จึงขอให้ระวัง..........ซองขาว (การถูกเลิกจ่าง) เอาไว้ให้มาก ๆ ด้วย ขอตอบเท่านี้ก่อน ถ้าสงสัยอะไร คุณจะถามเพิ่มมากอีกทางหลังไมค์ก็ได้ ขอให้ท่านโชคดี จากคุณ : kongsilp2000 - [ วันแม่แห่งชาติ 23:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นหลังไมค์มาก็แปลกใจ    เพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน   แต่ก็ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาถาม   ขอเล่าในสิ่งที่พบเห็นและประสบการณ์บางเรื่องก็แล้วกัน  ... 1. คนที่จบใหม่  จะเฝ้าถามตัวเองว่า   เรียนจบมาแล้ว  และได้ทำงานแล้ว   จะเอาความรู้อะไรมาทำงานได้บ้าง   2. การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานไม่ค่อยราบรื่น  เพราะตัวเองจะรู้สึกแย้งว่า  สิ่งที่พวกเค้าทำอยู่ไม่น่าจะถูกต้องตามหลักทฤษฎีที่เคยร่ำเรียนมา   3. สังคมในที่ทำงานไม่สนุก  ว้าเหว่  เพราะเจอแต่คนที่สูงกว่าหรือต่ำกว่า   หาระดับเดียวกันที่สามารถพูดคุยเข้าใจกันยากเหลือเกิน     สรุปว่า  คุณร้อนวิชานั่นเอง   ความอ่อนน้อมถ่อมตนจะช่วยคุณได้   เข้าไปทักทาย   หาของไปฝาก  ไปแนะนำตัว   ยกมือไหว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไร   ผู้ร่วมงานระดับถัดไป  เค้าก็มีความสามารถ  ประสบการณ์สูง   คุณก็มีความสามารถระดับหนึ่ง   เพียงแต่ขาดประสบการณ์เท่านั้นเอง   ถ้าได้ความรู้จากพวกเค้าคุณจะเปอร์เฟ็กขึ้นอีกมาก     ส่วนหัวหน้าคุณ    หรือคนที่สูงกว่าคุณก็เข้าไปหา  ไปสอบถามตรงๆ   ขอคำแนะนำ   แสดงน้ำใจ  อาสารับงานเค้าบ้าง   ทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องงาน หน้าตา   กริยาท่าทาง   ต้องปรับแต่งให้เป็นธรรมชาติ   ยิ้มง่าย   ทักทายเสมอ   และมีน้ำใจให้ทุกคน   เพียงแค่นี้  คุณก็จะเป็นที่รักของผู้ร่วมงานอย่างรวดเร็ว  ใครๆ ก็อยากจะช่วยคุณ   อยากรู้จัก  เมื่อทำงานไปเรื่อยๆ  ความสามารถจะออกมา   เพราะมีหลายฝ่ายช่วยหนุนนั่นเอง ขอให้โชคดี  ทำแล้วได้ผลเป็นยังไง   ช่วยมาเล่าให้ฟังบ้างล่ะ...!! จากคุณ : พิซซ่าไทย - [ 13 ส.ค. 51 00:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ทุกๆ คนให้คำตอบที่ดีกับน้องแล้ว  กลั่นกรองเอาไปใช้นะคะ ช่างไฟกับช่างซ่อม จะเป็นครูสอนงานที่ดีกับน้องแต่ต้องรู้จักเข้าหา  ให้ความรู้สีกเป็นกันเองแต่ก็ต้องไม่มากไปจนเรามอบหมายงานให้ทำไม่ได้ น้องอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ  ต้องทำงานไปสักพักได้ร่วมงานกับคนหลากหลายขึ้น  เจอปัญหางานมากขึ้น ทุกสิ่งที่พบเจอจะเป็นประสบการณ์สอนเรา   เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : ตกตะกอน - [ 13 ส.ค. 51 01:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อย่าใจร้อนครับ แค่เวลา 2 เดือนกว่า ๆ เท่านั้นเอง ไม่แปลกที่จะรู้สึกว่าทำงานไม่คุ้มเงิน แต่นี่ก็เป็นวัยทำงานแล้ว การเรียนรู้งานมันต้องใช้เวลาซักหน่อย ลองตั้งคำถามตัวเองดุว่า เค้าจ้างคุณมาเพื่ออะไร แล้วคุณจะได้คำตอบเองครับ ว่าควรทำอะไร ที่เค้ารับคุณเข้าทำงาน แสดงว่า เขาต้องการ "อะไรบางอย่าง" จากคุณ ไม่ต้องกังวลมากหรอก ถึงคุณจะนึกไม่ออก เขาก็จะบอกเอง ช่วงนี้พยายามสานสัมพันธ์ภายในองค์กรไว้ก่อนครับ เวลางานเข้าคุณจะได้มีมือมีเท้าเพิ่มขึ้น จากคุณ : WarHammer - [ 13 ส.ค. 51 01:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 63 พยายามถามความรู้สึกตัวเองก่อน ว่า ชอบงานนี้ไหม อย่าไปพูดถึงปริมานงาน... ถ้าชอบทำต่อ ถ้าไม่ชอบ ตอนนี้ยังกลับลำทัน จากคุณ : [7th Heaven] - [ 13 ส.ค. 51 02:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เข้ามาอ่านอีกที ผมเริ่มเป็นห่วงคุณแล้ว เกรงจะไม่พ้น Pro... แนะนำให้นั่งสมาธิ นะครับ ทำใจนิ่งๆสบายๆ เมื่อจิตใจสงบแล้วความคิดจะเป็นระบบมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเที่ยวหลังไมค์ไปปรึกษาใครให้มากมายกับเรื่องแค่นี้ โชคดีครับ... จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 13 ส.ค. 51 08:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มันแค่เริ่มต้นคะ ลองดูต่อไปเรื่อย ๆ ซิคะ รับรองคะว่าจะได้ทำงานคุ้มเงินเดือน จากคุณ : meaw Hk - [ 13 ส.ค. 51 08:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นหลังไมค์ไปหา เลยมาตอบให้นะครับ(แม้ว่าคนอื่นจะตอบมาหมดแล้ว) อายุ 27 เท่าผมเลย แต่บอกว่าทำงานมา 2 เดือนอันนี้ผมวิเคราะห์ว่า น่าจะจบ ป.โท มา เรตเงินเดือน เยอะไหม อันนี้ขอตอบว่า น่าจะเป็นเรตมาตรฐานของบริษํท ไม่มากไม่น้อยครับ(คาดว่าไม่ได้ต่อรองเงินเดือน เขาให้เรตนี้มาเลย) ไม่อยากให้มองว่า เราทำงานไม่คุ้มเงินเดือน เพราะว่าเขากำลังปลูกฝังเราให้เติมโตมากกว่า ถ้าตามแผนงานของหัวหน้าที่มีหลักการนะครับ 1.ให้เด็กใหม่ปรับตัวกับสังคมในที่ทำงาน 2.ให้รู้จักเพื่อนร่วมงาน 3.ให้รู้จักองค์กร และธุรกิจ 4.เริ่มให้งานเล็กๆ ถึงจุดนี้เขาก็จะวิเคาระห์ผ่านโปร พอผ่านแล้ว เขาก็จะเริ่ม 1.ให้โปรเจคระดับกลางโดยหัวหน้าดูแลห่างๆ 2.ให้โปรเจคระดับกลาง โดยไม่มีคนดูแล ถ้าฝีมือดีผลงานเยี่ยม ก็จะเป็น 1.ทำงานเองได้+นำเสนอผลงานตัวเองได้(ที่คิดเอง) ลองอ่านแล้วคิดตามนะครับว่า ถ้าคุณมีลูกน้องตำแหน่งคุณจะวาง การให้งานแบบผมหรือไม่ครับ จากคุณ : คิดบวก - [ 13 ส.ค. 51 08:53:44 ]

ความคิดเห็นที่ 67 งานหนักก็มีคนบ่น งานสบายยังมีคนบ่นอีกหรือนี่ งานผมตอนนี้ก็แทบอ้วกแล้วครับ ก่อนหน้านี้มี 2 คน แต่ออกไปคนนึงผมรับงานของอีกคนมาทำเกือบหมด เงินเดือนเท่าเดิม นี่ก็ว่าจะไปคุยขอขึ้นเงินเดือนแล้ว ไม่ไหว ๆ ได้งานสบาย ๆ ก็ดีแล้วครับ จากคุณ : Natelo - [ 13 ส.ค. 51 09:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มาตามหลังไมค์ให้ครับ =================== การทำงานในโรงงาน ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจาก "คนในโรงงาน" แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องได้รับความ เคารพยำเกรง จากพวกเขาเช่นกัน การที่เราจะได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ จากพวกเขา นั้น นอกจากจะทำโดยการ "พยายามเข้าไปคุย" ในเวลางานแล้ว ผมว่า นอกเวลางาน ก็มีความจำเป็นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการ พูดคุย เล่นกีฬา หรือ กินเหล้า ก็ตาม ส่วนการที่จะได้รับความเคารพยำเกรง นั้น เกิดขึ้นจาก ความสามารถในการทำงาน การแก้ปัญหา ของเรา เมื่อ พวกเขา เกิดปัญหา หรือ แม้กระทั่ง ถูกพวกเขา "ลองภูมิ" ลองเริ่มจากการ พยายาม สร้างความคุ้นเคย นอกเวลางาน กับพวกเขาดูก่อนสิครับ อะไรๆ อาจจะดีขึ้นก็เป็นได้ จากคุณ : kitz - [ 13 ส.ค. 51 09:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 69 รอดูหลังผ่าน4เดือนก็จะรู้ว่างานมากมันเป็นอย่างไร  ตอนนี้ก็เดินดูลู่ทางของที่ทำงานก่อน  ตอนหลังจะเข้าใจว่าสิ่งที่รับผิดชอบนะมันเกินเงินเดือน ผูกสัมพันธ์เอาไว้ก่อน ยิ้มไว้ อย่าเพิ่งแสดงอิทธิฤทธ์ ให้พ้นทดลองงานก่อน จากคุณ : แม่โอเล่ - [ 13 ส.ค. 51 10:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 70 หลังไมค์ มาแล้วก็จะตอบให้ก็ได้ ดูภาพรวมแล้ว คุณคงจะเบื่อที่ไม่ได้ทำงานใช้สมองหรือเปล่า แต่อ่านจาก คห ต่างๆๆกันแล้ว ก็มีอิจฉา และ ไม่อิจฉา ส่วนของพี่นี่ งานหนักกว่าน้อง แถม เงินเดือนยังน้อยกว่า เกือบ 2.7 เท่า (เงินเดือน 10000 บาท) ทำงานมา3ปี แต่เนื้องานมาดูกัน จบบัญชี (จบช้า 2 ปี ) ช่วยงานที่บ้าน+ตกงาน รวม 4 ปี = 6ปี (เพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน ป่านนี้เป็น หัวหน้าไปแล้ว พี่พึ่งจะเริ่มทำงาน ) คิดดู แต่งานที่ได้กับเป็น - ดูแลคอมใน บจก ทั้งหมด ต่อnetwork ทำเวปไซด์ (ด้าน ไอที ทำทั้งหมด) - ทำกราฟฟิตบ้าง photoshop Ill บ้าง - ทำบัญชี เกือบทั้งหมด แถมต้องช่วยปิดงบ - เป็นโปรแกรมเมอร์ (เขียนโปรแกรมด้วย ACCESS ใช้ VBA EXCEL) ต้องมาออกแบบ โปรแกรมบัญชีพวก GL AR STOCK ใหม่ทั้งหมด แถมยังต้องศึกษา DATABASE ตัวอื่นๆๆ อีก พวก VISUAL FOXPRO 9.0 SQL VB คิดดูซิ พนง บัญชี EXP 3 ปี แต่ต้องมาทำงานไม่เกี่ยวกับบัญชีเลย แถมได้เงินเดือน 10000 เอง ถ้าเป็น วิทย์-คอม ป่านนี้เกิน 15-18 k ไปแล้ว พี่น่าสงสารกว่าน้องเยอะ ถ้ารู้สึกว่าน่าเบื่อก็ลาออกซะ ไปทำงานที่สบายใจมากกว่า คห ข้างบนบอกไปหมดแล้ว จากคุณ : mail-th - [ 13 ส.ค. 51 10:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ตามหลังไมค์มาค่ะ ขอบคุณมากๆที่ให้เกียรติถามไปนะคะ (จริงๆ มลอายุน้อยกว่าค่ะ) ----------------------------------------------------------- เข้ามาช้าไปนิด เห็นว่า ความเห็นบนๆ ส่วนใหญ่เป็นความเห็นที่ดีค่ะ อย่างนึงการที่คุณ จขกท เห็นว่าตัวเองว่างมากๆนั้น ก็เป็นเพราะคุณยังอยู่ในช่วงศึกษางาน ตำแหน่งงาน + วุฒิการศึกษาของคุณ นับว่าก็เหมาะสมดีกับระดับเงินเดือน (จริงๆ มองว่าอยู่ใน rate ปกติที่พึงได้ค่ะ น้อยไปด้วยซ้ำ) และตอนนี้ยังเพิ่งจะ 2 เดือนค่ะ ต้องเรียนรู้งานไปก่อนระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม การที่คุณ จขกท รู้สึกกังวลแบบนี้ นับว่าเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นสูง และทุ่มเทใจ(เน้นว่าใจ) ให้กับองค์กรเป็นอย่างมาก ขอชื่นชมนะคะ อย่างนึงที่อยากแนะนำคุณ จขกท คือ จากที่มองนะคะ หัวหน้าของคุณ เป็นหัวหน้าแบบที่เหมือนกับอาจารย์ท่านหนึ่งที่มลทำงานด้วยค่ะ ท่านจะไม่บอกว่าคุณต้องทำอะไร แต่ท่านจะบอกว่าอยากได้อะไร หรือ จะบอกว่า ไปคิดมาว่าจะทำอะไร แบบนี้แล้วเราจะรู้สึกแย่ในช่วงแรกๆแน่นอนค่ะ เพราะเงินเดือนก็ได้ แต่งานไม่เดินสักที แต่พอหลังๆ เราจะเริ่มปรับตัวได้ค่ะ ว่าเราจะต้องทำอะไรบ้าง และทำอย่างไร จนกระทั่ง ท่านแฮปปี้สุดๆค่ะ เช่นเดียวกับ จขกท ที่ตอนนี้การเดินไปทั่วโรงงานทุกๆวันเนี่ยแหละค่ะ คืองาน ที่หัวหน้า assign ให้คุณทำ และคุณต้องไปคิดต่อค่ะ ว่าที่คุณเดินเนี่ย เดินไปเพราะเขาสั่ง ไม่ได้คิดต่อว่าต้องทำอะไร หรือคุณเดินแล้วคุณได้อะไรกลับมากันแน่ อย่างปัญหาลูกน้องจับกลุ่มคุยกัน แต่สลายตัวเมื่อคุณเดินมา ถ้าจะมองว่าเป็นปัญหาหนึ่งในการทำงาน ก็มองได้นะคะ คุณก็ลองไปดูงานของช่าง ว่าเขามีงานทำหรือไม่ หรือไม่มีจริงๆแล้วมานั่งคุย (ไม่ได้บอกให้จับผิดนะคะ) เพราะถ้าเขามีงานแล้วมานั่งคุย นั่นแปลว่าเขาไม่รับผิดชอบงาน แต่ถ้าเขาว่างจริงๆ ก็ต้องมองว่า ว่างจริงๆของเขาเนี่ย ว่างทุกวันเลย ถึงขนาดที่ว่า ทำให้องค์กรเสียประโยชน์หรือไม่ค่ะ ที่บอกแบบนี้ เพราะ ถ้าคุณเห็นว่าเขาเดินหนี แล้วคุณมารู้สึกแย่อยู่คนเดียวมันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยค่ะ เดินเข้าไปถามเลย พี่เป็นไงบ้างครับ มีปัญหาอะไรให้ผมช่วยมั้ย หรืออะไรก็ได้ค่ะ จริงๆ เขาเหล่านั้น ก็เป็นเหมือนผู้สอนงานคุณนะคะ เพราะเขามาก่อน ทำความคุ้นเคยกับคนงานก่อนอันดับแรกค่ะ แต่อย่าให้เขาขาดความเกรงใจ หลังจากนั้น ก็ค่อยๆพัฒนางานต่อไป ระบบงานไม่มีคำว่า perfect ค่ะ เพราะฉะนั้นต้องมีอะไรให้คุณได้แก้ไขแน่นอน หมั่นสังเกต คิด วิเคราะห์ แล้วนำไปบอกนายค่ะ รับรองว่าเขาต้องรู้สึกดีกับคุณแน่นอนค่ะ ส่วนจะทำความคุ้นเคยกับลูกน้องอย่างไร ก็เป็นศิลปะเฉพาะตัว ต้องดูว่าเขาเหล่านั้นมีกิจวัตรอย่างไรหลังเลิกงานอาจไปสังสรรค์ หรือไปทานข้าว เลี้ยงข้าวเขาบ้างก็ดีเหมือนกันนะคะ... เมื่อความสัมพันธ์กับคนในองค์กรดีแล้ว ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นค่ะ อย่าลืมว่า งานแบบนี้ คน สำคัญมากๆนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : momojang_m - [ 13 ส.ค. 51 10:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ตามมาจากหลังไมค์เหมือนกัน ของคุณต่างจากเราเลย เราเพิ่งจบเหมือนกัน ทำงานที่ต่างจังหวัด พักที่บ้านเงินเดือนหมื่นต้นๆ กำลังจะผ่านโปรสิ้นเดือนนี้เงินเดือนขึ้นเป็นหมื่นกลาง(กลางจริงๆนะ) แต่ก็นะสายงานเราเป็น Secretery ซึ่งเด็กจบใหม่ก็น่าจะได้กันประมาณนี้ ยิ่งเราอยู่ต่างจังหวัดด้วยก็คงหวังมากกว่านี้ไม่ได้นัก ไม่ได้ทำงานที่โรงงานเลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง ทำงานใน Office พบลูกค้าบางตามโอกาส แต่ทำงานเต็มๆ ทุกวัน คือตอนแรกคิดว่าจะได้แค่เป็นเลขา แต่ไปมาๆ ก็เป็น sale admin, บัญชี, delivery supervior หรือแม้กระทั่ง messanger ไปส่งของเองก็ต้องทำ แต่เราชอบนะ ได้ประสบการณ์เยอะดี ตอนแรกๆ รู้สึกเหนื่อยมากๆ จนท้อเลย แต่ตอนนี้รู้สึกสนุกกับงานที่ได้ทำ รู้สึกว่ามันท้าทาย เกือยทุกวันมีปัญหามาให้แก้ อะไรที่เคยคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ พอทำแล้วก็ต้องคิดใหม่ว่า ที่เราคิดว่าทำไม่ได้เพราะว่าเราไม่ได้ลองทำมากกว่า ส่วนปัญหาของคุณ(ปัญหาหรือเปล่านะ) เราคงตอบไม่ได้ แต่อยากให้ลองทำที่นั่นไปเรื่อยๆ ก่อน เพราะเงินก็ดี แต่ถ้าคุณเป็นพวกมีอุดมการณ์ แบบว่าอยากทำงานไม่อยากรอกินแต่เงินเดือน อันนั้นเราว่าก็คงแล้วแต่คุณแล้วล่ะว่ายังอยากทำอยูไหม จากคุณ : TimePassBy - [ 13 ส.ค. 51 10:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แง่ววว สวัสดีค่ะ มาตามหลังไมค์ค่ะ แต่ว่าไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลยค่ะ ไม่รู้จาตอบอะไร แหะ ๆ ขอโทษด้วยจร้า จากคุณ : -+-JuStThEgIrL-+- - [ 13 ส.ค. 51 11:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 74 โอ้ยย อิจฉาจังค่ะ เงินเดือนเยอะกว่าภาระงานที่รับผิดชอบ แบ่งๆมาบ้างสิคะ อิอิ ขำๆนะคะคุณ อย่าซีเรียสไปนะ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าได้งานหนักๆๆ แต่เงินเดือนน้อยๆไม่คุ้มค่าครองชีพนะคะ สู้ๆ จากคุณ : i guess i need u - [ 13 ส.ค. 51 11:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ทู้นี้คนเยอะวุ้ย ผมไม่มีคำแนะนำเพราะเคยให้ไปแล้วตั้งแต่สมัย จขกท ยังทำงานที่ กทม อยู่เลย ที่เคยคิดจะไปทำงาน part time อ่ะ แต่คงไม่ได้ทำ เพราะมาได้งานที่ระยองซะก่อน อ้อ...28k อายุ 27 วิศวกรไฟฟ้า ไม่เยอะหรอกครับ ธรรมดานะผมว่า ดังนั้น ไม่ต้องคิดมากหรอก เค้าให้ทำไร ก็ทำให้ดีเถอะ เดินตรวจทุกวัน น่าจะได้อะไร ๆ เยอะนะ ลองมองให้รอบ ๆ ดี ๆ จากคุณ : ผียุง - [ 13 ส.ค. 51 12:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 76 อิอิ ค่ะ มาตามหลังไมค์เหมือนกันอ่ะ  เงินเดือนเยอะมากเลยค่ะ คุณจขกท เก่งจัง ตำแหน่งหน้าที่การงานดีมากเลยค่ะ ระหว่างนี้ ก็ลองทำงาน หาประสบการณ์ไปก่อนเรื่อยๆ นะคะ พอดีไม่มีความรู้ทางด้านนี้อ่ะ ขอโทษนะคะ ไม่รู้จะตอบยังไงอ่ะ สู้ๆ ค่ะ ^_^ จากคุณ : tikhot - [ 13 ส.ค. 51 13:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 77 แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 51 13:53:15 จากคุณ : ไม่ล็อกอิน (บุณฑริก) - [ 13 ส.ค. 51 13:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 78 มาตามที่คุณจุดธูปเรียกมาน่ะคะ อิ..อิ...อยากบอกว่ามีอะไรเปิดใจคุยกับหัวหน้าเลย หรือไม่ถ้าคุณเห็นตรงไหนที่ขาดไปเกินไป ในเนื้องานที่ทำ เอาสิ่งนี้ไปคุยกับหัวหน้าเลย รับรองงานเข้าแน่ จากคุณ : น้ำหวาน (IT Talk) - [ 13 ส.ค. 51 14:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ความเห็นบน ๆ ตอบได้ดีแล้วครับ ผมก็เคยทำตำแหน่งนี้เหมือนกัน แต่ที่อื่น อยากบอกว่า เข้ากับทุกคน อย่าแบ่งชนชั้น สนิทกับหัวหน้าให้มาก ระวังเรื่องการเมืองในองค์กรเป็นพิเศษนะครับ โดยเฉพาะคนระดับใกล้ ๆ กัน และหัวหน้า จากคุณ : Lazy Genius - [ 13 ส.ค. 51 15:54:04 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เวลา 2 เดือน น่าจะเห็นอะไรแล้ว ลองเขียน report มาสักเล่มดิ เขียน ข้อดี ข้อด้อย ของงานที่เห็น และวิธีแก้ไขดู เขียนให้หัวหน้าก็ได้  ส่งทาง e-mail ไป แล้ว BCC ไว้ด้วย งานนั้น ไม่ต้องรอให้เขาสั่ง แต่ต้อง แสวงหาเอง ไม่รู้จะซ่อมอะไร ก็เอาของเก่า ของเสียมาซ่อมซิง่ายออก ถ้าซ่อมไม่ได้จริง ๆก็เอามาศึกษาก็ยังดี ไม่ก็ ลองดูระบบ การใช้ไฟฟ้ากำลัง ซิว่ามันมี loss ที่ไหนบ้าง ทำอย่างไร จึงจะมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ มอเตอร์ ที่ใหญ่ๆ  ถ้ามันมี ความฝืด 3 -5 % มันจะกินไฟมาก ถ้าเปลี่ยนมอเตอร์เป็น มอเตอร์ ประสิทธิภาพสูง จะดีกว่านี้ ลูกปืน หรือ สิ่งเคลื่อนไหวต่างๆ มีการหล่อลื่น ดีมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ ระบบ mechanic ที่ต่อเนื่องกับ มอเตอร์ มันมีประสิทธิภาพเพียงใด ถ้ามีการปรับปรุง มันจะเร็วขึ้นไหม และมันจะประหยัดพลังงานขึ้นไหม เพียงสองสามข้อนี้ ก็ปวดหัวแย่แล้ว ลองศึกษาดูครับ งานมีเยอะแยะ ทำไมต้องให้คนอื่นสั่งด้วย วันนี้ ลูกน้องผม ค่าจ้าง วันละ 180 บาท พอเขาว่างงาน เขา เดินไปเก็บขยะ มากองๆ  ไว้  อะไรที่รกหูรกตา เขาเก็บกวาดหมด  หมอนี่จบ  ป.4 เท่านั้น  ทำเอง  ผมไม่เคยสั่งเลย จขกท น่าจะคิดเอง ทำเองได้ หลายอย่าง ลองริเริ่ม ดู สักสองสามอย่าง ถ้าไม่รู้ว่าดีหรือไม่ ก้อ บรรยาย สิ่งต่างๆ ในโรงงานมา แล้ว เอามาถาม ว่าจะแก้ หรือจะปรับปรุงตรงไหนได้บ้าง หากเสนอไปแล้ว เขาไม่ทำ คงต้อง ทำใจ รอเวลา วันหนึ่ง เมื่อมีโอกาส ก็ค่อยทำ ไม่เห็นจะยาก ยิ่งสามารถเดินดูไปทุกแผนก ละก้อ ควรจะเก็บ รายละเอียด ของการทำงานทุกขั้นตอนไว้ ไม่นาน  จขกท จะเป็นคนที่รู้ทุกอย่าง ถ้าเขายังไม่เปิดโอกาสให้ทำงาน ก้อเก็บไว้ช่วงเลิกงาน เอาของที่เขาทิ้ง หรือไม่ซ่อมแล้ว กลับไปที่บ้านพัก ไปศึกษาดู ว่าถ้าเป็นเรา เราจะซ่อมไหม ถ้าไม่ซ่อม แต่จะซื้อใหม่ จะซื้อของอะไร ยี่ห้ออะไร หาสเปคมา เอาให้เหมาะๆ ดี หรือจะปรับเปลี่ยนระบบ ในบางส่วนให้ดีกว่านี้ เมื่อเป็นคนใหม่ อย่าเพิ่งไปออกความเห็นอะไร ฟังเขาไว้ก่อน คอยเก็บ ข้อมูลไว้  ไม่นาน จะเห็นทางเอง ยกเว้นเขาถาม ก็ตอบไปเท่าที่รู้  ยิ่งถ้าได้เก็บรายละเอียด ของแต่ละแผนกไว้ แล้ว จะก้อ ผมว่า น่าจะตอบได้ดี เช่นกัน ต้องหาทางออก หรือวิธีแก้ไขไว้ด้วย ลองทำดูนะครับ ไม่น่าจะยาก จากคุณ : น้าพร - [ 13 ส.ค. 51 20:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อดทน ปรับตัว เงินแค่นี้ไม่มากหรอก แล้วที่เรียนกว่าจะจบละปีละเท่าไหร่ น้องเพื่อน ของดิฉัน อายุ28 เงินเดือนเกือบ 70k แล้วคุณ เป็นแค่ล่ามผู้จัดการเนี่ยนะ แต่ทำมา5ปี จากคุณ : ผู้หญิงคนนั้น...คือฉัน - [ 13 ส.ค. 51 22:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 82 มาตามหลังไมค์ ขออนุญาตไม่อ่านคำตอบของคนอื่นนะคะ จะตอบตรงคุณ จขกท เลย เข้าใจความรู้สึกของคุณค่ะ และดิฉันมองว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้น และมาตั้งกระทู้ เป็นเพราะวัฒนธรรมความคิด และการทำงานของคนไทย ในแง่ที่ว่า เดินไปเดินมา เหมือนไม่ได้ทำ "อะไร" ดิฉันไม่ใช่วิศวกร คงตอบไม่ได้ว่าสิ่งที่ควรทำในตำแหน่งของคุณคืออะไร ถ้าสงสัย อาจจะกลับไปอ่าน job descriptions ว่า บริษัทต้องการอะไรจากตำแหน่งนี้ คุณจะ "ต้อง" ทำตรงนี้ให้ได้ ส่วนนอกเหนือไปจากนั้น คือสิ่งที่คุณจะสร้างสรรค์ และขวนขวายมาเอง เช่น ความสัมพันธ์อันดีกับผู้ร่วมงาน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การมองเห็นปัญหาหรือโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็นหรืออาจจะมองข้าม การบริหารงาน การบริหารคน ฯลฯ เวลาว่างที่คุณคิดว่าคุณไม่ได้ทำอะไร หรือที่ คุณคิดว่าคนอื่นคิดว่าคุณไม่ได้ทำอะไร (อย่าเพิ่งงงนะ) คุณรู้ตัวคุณเองว่าคุณว่างหรือเปล่า (ควรจะศึกษางานและเรียนรู้อย่างรวดเร็วที่สุด) ถ้าคุณไม่ได้ว่างจริง ก็ไม่ต้องไปแคร์มากว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับคุณ แต่ยกเว้นเจ้านายนะ คุณต้องมีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้านาย เค้าควรจะรู้อยู่ตลอดว่าคุณกำลังทำอะไร เรียนรู้อะไรอยู่ บางทีเจอกัน ถ้ามีโอกาสก็แย็บ ๆ ไปบ้างว่า เอ้อ พี่ครับ ผมอ่าน/เห็นตรงนี้แล้ว ไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมมันเป็นแบบนั้น แบบนี้ ทั้ง ๆ ที่บางทีคุณอาจจะไม่ได้มีคำถามจริง ๆ หรอก แต่เป็นการชวนคุย และ "รายงาน" ไปในตัว ส่วนเรื่องของช่างคนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน คุณอาจจะใช้ทริคนี้กับพวกเค้าก็ได้ ถ้าคุณแคร์เค้ามาก (ไม่แน่ใจว่าในวงการนี้ จะมีความรู้สึกกันมั้ยว่า วิศวกรเรียนมากแต่ปฏิบัติไม่ได้เรื่อง ส่วนช่างเก่งปฏิบัติ ทำได้จริง แต่ต้องมาเป็นลูกน้องวิศวกร อะไรเทือกนี้ หรือดิฉันจะแต่งนิยายน้ำเน่าไปเอง อิอิ) ความสุภาพ นอบน้อมถ่อมตน ยังน่าจะใช้ได้ในสังคมไทยนะ มีเอาไว้ก่อนไม่เสียหลาย การ "ทำอะไร" ของคุณ มันเป็นผลต่อเนื่องมาจากระดับการศึกษาและตำแหน่งหน้าที่ของคุณเอง จากประสบการณ์ทำงานของเราที่อเมริกานะ คนที่เค้าเป็น Help Desk ฝ่ายไอทีน่ะ ถ้าระบบไม่มีปัญหา คนอื่นก็จะเห็นว่าเค้าไม่ได้ทำอะไร (แหม สบายจังนะ) สมัยนี้ใครยังใช้เพจเจอร์กันมั่ง พวกนี้แหละมี เพราะถ้าระบบล่มตีสามวันเสาร์อาทิตย์ ก็ไม่ต้องนอนกันล่ะ คนที่ทำงานอย่างอื่นจะเข้าใจมั้ย ว่าถ้าระบบมีปัญหาขึ้นมาเมื่อไหร่ พวกนี้ก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้ และเร็วที่สุดด้วย ถ้าเค้าทำตรงนี้ได้ ระหว่างว่างจะนั่งตบยุงไป เจ้านายก็ไม่ว่า เพราะนั่นคืองานของเค้า (จะให้เค้ามาช่วยไฟล์เอกสารเหรอ) แต่ถ้าจะไปช่วยคนอื่นบ้าง หรือหางานที่เกี่ยวข้องมาทำ มันก็เป็นคะแนนพิเศษไง คุณเคยดูการแข่งเบสบอลไหม ผู้เล่นหลายคนน่ะ เหมือนมันน่าง่วงมากจนเค้าจะหลับทั้งยืน บางอินนิ่งไม่ได้วิ่งเลยซักก้าว แต่เมื่อไหร่ที่ลูกมันไปในเขตของเค้านะ เปอร์เซนต์การรับ หรือ จับ ลูกของเค้าต้องเต็มร้อย ไม่งั้นก็พลาดไปเลย ส่วนความสัมพันธ์ของคุณกับช่างคนอื่น ๆ ประเภทเค้าคุยกัน คุณเข้าไปแล้ววงแตกนี่ มันก็น่าอึดอัดและเอามาคิดว่า เราจะปรับตัวยังไงดี ซึ่งตรงนี้ ดิฉันคงพูดอะไรไม่ได้ เพราะไม่ทราบรายละเอียดมากพอ (คุณเป็นคนยังไง มนุษยสัมพันธ์จัดว่าใช้ได้ ดี หรือดีมาก และลูกน้องคุณเป็นยังไง ดิฉันก็ไม่ทราบ) คุณอายุ 27 แล้ว คงเคยผ่านงานมาบ้างแล้ว อายุเท่านี้ ยังไม่แก่เกินการที่จะเปลี่ยน หรือปรับปรุงตัวเองนะ (จริง ๆ ก็ไม่ควรมีใครแก่เกินไป) ขอให้โชคดีค่ะ ปล. ไม่ทราบคุณเป็นคนเดียวกับที่เคยหลังไมค์มาหลายเดือนก่อนมั้ย ที่ถามอะไร ๆ เกี่ยวกับการเลือกงานใหม่ และ รุ่นพี่ รุ่นพี่อะไรเนี่ย จากคุณ : Genuine XXX - [ 13 ส.ค. 51 22:49:38 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณที่เรียกหลังไมล์  จุดธูปให้มาอ่านความคิดเห็นดี ๆ ข้างต้น... หลากหลายความคิดเห็นมาก ๆ เลย... อ่านแล้วคุณน่าจะเป็นเด็กที่ไม่ได้อะไรดั่งใจแล้วก็จะงอแง.... อยากให้คนอื่นสนใจ...แต่ทำตัวไม่ถูก...วางตัวไม่เป็น... คิดไม่ออก...ก็ย้อนขึ้นไปอ่านตั้งแต่ คห. ที่ 1...ไล่ลงมาเรื่อย ๆ... ค้นหาตัวเองให้เจอ....จะเจอแต่เรื่องดี ๆ... จากคุณ : เม่นแคระ - [ 13 ส.ค. 51 22:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 84 หลังไมค์ไปทั่ว มั่วนี่หว่า เรียกร้องความสนใจอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ควรจะหัดคิด หัดทำ ให้เหมาะกับระดับที่จบมาหน่อยนะ จากคุณ : Tackusan - [ 13 ส.ค. 51 23:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 85 มาจากหลังไมค์ครับ แต่ไม่ทันแล้วมั้ง เพราะรายละเอียดได้ลบไปแล้ว อ่านคร่าวๆมาเอาเป็นว่า ไม่ต้องไปห่วงอะไร งานในโรงงานค่าตอบแทนกว่าอยู่ออฟฟิศทั่วๆไปนิดหน่อยครับ แต่สิ่งที่เจอคือความรับผิดชอบหรือความรอบคอบจะในงานจะต้องใส่ใจมากกว่า เพราะเสี่ยงต่อความเสียหายของโรงงานได้ เอาเป็นว่างานลักษณะนี้ ถ้างานเข้าทีล่ะ นรกมีจริง แต่ถ้างานยังไม่เข้าเวลาที่ว่างๆอยู่นั่งหาความรู้ใส่ตัวเพื่อพัฒนาตัวเองดีกว่าครับ จากคุณ : เฉินห้าวหนาน - [ 14 ส.ค. 51 10:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ไม่น้อยหรอกครับ สำหรับอายุงานแค่นี้ ค่อยๆเก็บเกี่ยวความสามารถ ประสบการณ์ไปเรื่อยๆ คิดง่ายๆ มองคนที่ต่ำกว่าเรา และคนที่ลำบากกว่าเราแล้วกัน จะได้ไม่ต้องคิดมาก  อ่ะ...อ่ะ...อย่าลืมว่าสภาพสังคมแบบนี้ มีงานทำดีกว่าตกงานนะ จากคุณ : ple_52 - [ 14 ส.ค. 51 10:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ตกกระทู้ นี้ไปได้ไงอะเรา มาตามอ่านไม่ทันค่ะ เลยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ปล.ไปตามอ่านมาละ สรุปว่าเข้าทำงานไป 2 เดือน แต่ยังไม่ค่อยมีงานทำ  งานยังไม่เข้า เป็นเรื่องปกติค่ะ    เพราะดิฉันอยู่มา 4 เดือนละ  แต่คนละสายงานกะคุณ จขกท. นะคะ   บางวัน งานเข้าข้าวกลางวันก็ไม่ได้ทานเลย   บางวันนั่งตอบกระทู้ห้องสีลม รัชดา เป็นว่าเล่น รอกลับบ้านอย่างเดียว   เพราะลักษณะงานก็คล้ายๆกัน คือ คอยแก้ปัญหาต่อจากลูกน้องเมื่อเขาแก้ปัญหานั้นๆ ไม่ได้ ไม่ว่าคุณไปเริ่มงานที่องค์กรไหน  ก็จะคล้ายๆ กัน ช่วงแรกๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไร  เรียนรู้งาน เรียนรู้องค์กรไปก่อนค่ะ   ช่วงที่คุณไม่ค่อยมีอะไร  และ พนง.ท่านอื่นก็ว่างด้วยเช่นกัน ลองเข้าไปสนทนากับเขาสิคะ  ถามเรื่องงานว่าเป็นยังไงบ้าง  ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นอะไร  หรือ ส่วนไหนที่ พนง.คิดว่าควรปรับปรุง เพิ่มเติม  เข้าไปคุยกับเขาเรื่องงานที่คุณเองก็ไม่เคยทราบมาก่อน ตรงนี้แหละ  ที่จะทำให้คุณเข้ากับคนที่นี่ได้ง่าย  และเขาก็จะมองว่าคุณตั้งใจที่จะมาทำงานจริงๆ  โดยไม่ได้สร้างภาพ และทำตามความเห็นท่านอื่นๆ แนะนำนะคะ ทำใจให้สบาย อย่าคิดมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 51 12:20:21 แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 51 12:19:54 จากคุณ : khunrarin - [ 14 ส.ค. 51 11:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 88 มาไม่ทันรายละเอียด ยังไงต้องขอโทษ จขกท. จริงๆ นะคะ จากคุณ : ป้าจี่ - [ 14 ส.ค. 51 14:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 89 อ้าว ตกกระทู้เหมือนกันครับ ขอโทษจขกท. ด้วยครับ หายตัวไปหลายวัน เพิ่งจะเข้ามาที่ห้องมาเองครับ ไม่ทราบรายละเอียดเลยครับ แต่ดูจากหัวข้อก็คงบอกได้ดังนี้ครับ 1. เจ้าของกิจการทุกคน อยากให้ลูกจ้างทำงานเกินเงินเดือนอยู่แล้วครับ เป็นสัจธรรม 2. ลูกจ้างที่ทำงานเกินเงินเดือน ย่อมมีโอกาสก้าวหน้ากว่าคนอื่น 3. ในยุคที่แข่งขันกันรุนแรงเช่นนี้ คนที่ขยันหมั่นเพียร อดทนกว่าคนอื่น ย่อมจะต้องลำบากกว่าคนอื่นเช่นกัน แต่เป็นในตอนแรกๆ เท่านั้น เมื่อความก้าวหน้ามาถึง ความสบายก็จะตามมาเองครับ ** 4. คนที่ทำงานโดยหลีกเลี่ยงความลำบาก หรือ มองว่า ไม่สมควรทำงานเกินเงินเดือน สบายในตอนแรก แต่ในช่วงกลางถึงปลายของชีวิตจะลำบาก 5. คนที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องหนักแน่น และมองการณ์ไกลครับ 6. พยายามเรียนรู้งานหลายๆ ด้าน โดยไม่เกี่ยงว่า จะเกี่ยวกับที่เรียนหรือไม่ ทำได้โดยการถาม หรือ ช่วยงานเขาเท่าที่จะทำได้ (ขอเขาทำเลย) เพราะการทำงานไม่เหมือนกับการเรียน ไม่มีอาจารย์มาคอยบอก คอยชี้แนะ หรือบังคับให้ทำงาน ทำรายงาน ฯลฯ อยากได้ความรู้ต้องพึ่งตนเองครับ ขอแนะนำแต่เพียงเท่านี้นะครับ เพราะไม่ทราบเนื้อหาของเรื่องราวเลย จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 14 ส.ค. 51 15:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 90 มาไม่ทันรายละเอียดเหมือนกันค่ะ ก็คาดว่า น่าจะได้ความคิดเห็นที่น่าสนใจแล้วนะคะ เราก็มีเรื่องมาแบ่งปันค่ะ เราก็เพิ่งเข้าทำงานเดือนนี้เดือนแรกค่ะ ช่วงวันแรกๆ เหงามากๆเหมือนไม่มีใครอยากคุยด้วย พอผ่านไป 2 สัปดาห์พูดคุยแซวกันสนุกสนานเลยค่ะ ส่วนงานของเราก็ถือว่ายังน้อยมากถ้าเทียบกับคนอื่นๆ คงต้องใช้เวลาเรียนรู้กันไปค่ะ จากคุณ : eves - [ 16 ส.ค. 51 21:12:20 ]