PANTIP.COM : B6885371 คุณเห็นว่า ตอนนี้สำหรับเมืองไทย การโฆษณา หรือ การประชาสัมพันธ์ที่สำคัญ หรือ ช่วยสร้างแบรนด์ได้ดีกว่ากัน [การตลาด]

ความคิดเห็นที่ 4

โฆษณา ประชาสัมพันธ์ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ โดยทำหน้าที่ต่างกัน

โฆษณา จะทำหน้าที่กระจายภาพลักษณ์ของสินค้า จุดดี จุดเด่น ซึ่งการจะทำให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างน้อยต้องมีความถี่ 3-4 ครั้ง ให้ได้ผลอย่างน้อยก็ต้อง 7 ครั้ง ในเรื่องเดียวกกัน และ ถ้าจะตอกย้ำเมื่อสินค้าติดแล้ว ก้ต้องทำให้มีความถี่ในการเห็นโดยเว้นช่วงระยะเวลา เช่น เป๊ปซี่ ที่จะออกมาตามช่วงระยะเวลา โดยเฉพาะหน้าร้อน

ประชาสัมพันธ์ จะทำหน้าที่ในการสร้างภาพลักษณ์ของตราสินค้า ห้างร้านที่จัดจำหน่าย ภาพลักษณ์โดยรวม หรือแม้นแต่ จะแบ่งเป็นภาพลักษณ์เจาะจงก็ได้ ส่วนใหญ่ ประชาสัมพันธ์ จะกระจายข่าวหลายๆสื่อ บางสื่อก็ลงให้ บางสื่อก็ไม่ลง ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของนักประชาสัมพันธ์ และ เนื้อข่าวด้วย ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ มือเก๋าๆ ถึงจะทำประชาสัมพันธ์ได้ดี และ ตรงใจ แต่ ประชาสัมพันธ์ จะไม่ตอกย้ำในเรื่องเดิมๆ ดังนั้น จึงใช้ในการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าไม่ได้ดีนัก

ตราสินค้า จะทำหน้าที่ทำให้สินค้านั้นๆ น่าจดจำหรือ สามารถจดจำได้อย่างกระชับ และ ย่อขึ้น มองเห็นโลโก้ ก็จะนึกถึงคุณลักษณะสินค้าในทันที เช่น เห็น โลโก โค๊ก ก็จะนึกถึงรสชาดของโค๊กได้ เห็น เป็ปซี่ ก็จะนึกถึงรสชาดของเป๊ปซี่ได้ ซึ่งก็ขึ้นกับ รสชาดเหล่านั้นตรงกับลักษณะการดื่มของใคร

ตัวสินค้า จะทำหน้าที่เป็นสื่อเพื่อใช้ในการบันทึกความทรงจำให้กับลูกค้า ถ้าสินค้าดี ก็จะจดจำในสิ่งที่ดี ถ้าสินค้าไม่ดี ก็จะจดจำในสิ่งที่ไม่ดี ติดไปกับตราสินค้านั้นๆ สื่อที่ส่งสารมันส่งไปเป็นครั้งๆ สารที่ส่งไปถ้าเป็นสารที่ไม่ดี คนจำสารจะจำได้นานกว่า สารที่ส่งไปแล้วดี หรือแม้นแต่ การส่งสารไปดีทุกครั้ง แต่เกิดผิดพลาดในการส่งสารแค่ครั้งเดียว ก็อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดของสารที่สื่อได้ ดังนั้น ตัวสินค้าก็ต้องดูแลอย่างดีหากต้องการสร้างแบรนด์ กันจริงๆ

ป้ายฉลากสินค้า ใบกำกับสินค้า หรือ คำอธิบายสินค้า จะทำหน้าที่เป็นสื่อ และ สร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้สินค้า มันจะสื่อให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ขาย ความมีคุณภาพ การเอาใจใส่ลูกค้า ตลอดจนสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อกลายเป็นความเชื่อมั่นของสินค้านั้นๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่คนธรรมดาก็จะละเลยเรื่องเหล่านี้ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งสิ้นเปลือง

บรรจุภัณฑ์ กล่อง หีบ ห่อ รวมไปถึง สิ่งที่ใช้ในการป้องกันในการขนส่ง จะเป็นตัวทำให้เกิดความรู้สึกน่าเชื่อถือ ให้กับแบรนด์นั้นๆ สินค้าราคาแพง แต่ใส่ในกล่องสีน้ำตาลไม่มีอะไรเป็นลักษณะเด่นเลย ก็จะดูไม่มีค่า แต่ถ้าสินค้าพอประมาณ เวลาใส่ในกล่องที่ดี สวย หรือ เวลาขนส่ง มีกล่องที่เป็นของตนเองด้วย ก็จะสร้างความน่าเชื่อถือของสินค้าขึ้นมาได้มาก แบรนด์ก็จะสามารถมีความแข็งแกร่งในตัวได้มากขึ้น

เซลล์แมน เป็นประตูหน้าด่านสำหรับสินค้าเป็นเหมือนตัวแทนในการสร้างแบรนด์ของสินค้าเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ ความเอาใจใส่ ความรอบรู้ และ ความเชี่ยวชาญของเซลล์แมน ที่ไม่ได้กะล่อนแต่จริงใจ จะส่งผลให้แบรนด์ของสินค้าน่าเชื่อถือ และ เป็นประตูการขายได้มากขึ้น

การขนส่ง ที่ถูกต้อง และ ตรงเวลา ทุกครั้ง จะทำให้แบรนด์น่าเชื่อถือ หรือแม้นแต่ การสั่งเพียงเล็กน้อยก็มีการบริการ หรือ จัดส่งให้ ก็จะยิ่งสร้างความประทับในให้กับแบรนด์สินค้าด้วยเช่นกัน

ราคา เทียบกับคุณภาพ และ ปริมาณ จะเป็นตัวที่บ่งบอกถึงความคุ้มค่า หรือ คุณภาพของสินค้า หรืออาจจะบ่งบอกถึงเกรดของสินค้า ซึ่งส่งผลให้สิ่งเหล่านี้ติดเข้าไปยังแบรนด์ของสินค้าด้วย การที่ของราคาแพง ความรู้สึกของผู้ซื้อก็จะมีความรู้สึกว่า สินค้าแบรนด์นี้ดี ราคาแพง ถ้าใช้ ก็จะกลายเป็นคนมีรสนิยม แต่ถ้าจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ก็ต้องคุ้มค่าคุ้มราคาที่จ่ายไป เวลาเขาเห็นแบรนด์ของสินค้า เขาก็จะนึกได้ถึงความคุ้มค่าของสินค้า เช่น ธงฟ้า เป็นต้น

ผู้ใช้สินค้า ก็มีส่วนในการสร้างแบรนด์ที่ควบคุมไม่ได้ อาจจะสร้างแบรนด์หรือทำลายแบรนด์นั้นๆลงได้ ทั้งนี้ การเอาใจใส่ และ ตอบสนองแบบธรรมดา คุณค่าของแบรนด์ก็จะธรรมดา และแน่นอนว่า ถ้ามากกว่าธรรมดา ก็จะสื่อออกมาว่า แบรนด์ของคุณนั้นไม่ธรรมดา

ทั้งนี้ที่ยกมาก็แค่วิเคราะห์ในสิ่งที่เห็น ไม่ได้ยึดหลักการหรือเอาตำรามาอ้างแต่ประการใด ผู้อ่านจึงควรใช้พิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อ แต่คิดว่า การสร้างแบรนด์ยังมีเรื่องอื่นๆอีก อันนี้แค่ใช้เวลาว่างๆ คิดเล่นๆนะครับ อย่าถือสาเลย... อิอิ

จากคุณ : Wiboon Joong (wbj) - [ 18 ส.ค. 51 23:56:32 ]