ความคิดเห็นที่ 1 ลูกน้องชายก็คิดว่าสามีเป็นเกย์ ลูกน้องหญิงก็คิดว่าเป็นกิ๊ก -_-" ขำๆนะคับ จากคุณ : คิดบวก - [ 27 ส.ค. 51 10:39:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อเวลาผ่านไป............ เราก็ลืมเรื่องนี้  เพราะในสมุดบัญชีไม่มีบันทึกการจ่ายodซื้อรถ วันอาทิตย์อันแสนสดใสของครอบครัว ลูกน้องคนนี้ก็ขับรถคันเจ้าปัญหามาที่บริษัท  (รถเจ้าปัญหา หรือเราเจ้าปัญหา ก็ไม่รู้นะคะ) เราเลยนึกขึ้นมาได้   ฮ่วย......โกรธ จับใจ อีกแล้ว วันจันทร์ เราก็ถามบัญชีว่า ในสมุดบัญชีไม่มีบันทึกการจ่ายodซื้อรถ บัญชีบอกว่า ไม่ต้องบันทึกเพราะมีในสมุดเช็ค อืม.........  เราลืมคิดไปว่า........... บัญชีคนนี้เป็นเมียลูกน้องเองนี่นา เราก็บอกเมียเค้าว่า ขอร้องนะ ต่อไปไม่ต้องขับรถคันนี้มาที่บริษัท เพราะเราเห็นแล้ว อารมณ์เสีย ทะเลาะกับสามีอีกแล้ว ........................... เราทำไงดี .............. ว่าจะไม่คิด ว่าจะไม่อารมณ์เสีย   แต่สะกดใจไม่อยู่นะสิ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว (น้ำว้าวว้าว) - [ 27 ส.ค. 51 10:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณคิดบวก คะ ก็อยากขำ ขำ นะคะ  (พูดจริงๆ) แต่มันร้องไห้ไปแล้วค่ะ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 27 ส.ค. 51 10:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 yesterday .................. มันมาอีกแล้วค่ะ ไอ้รถคันเดิม 5551 ทะเบียนรถจ้า........... เมียมันบอกว่า เอารถไปเข้าfinanceแต่ดอกแพง เพราะชื่อคนประมูลเป็นสามีเค้า  (แต่ชื่อคนชดใช้เงินกู้ เป็น ตู โว้ย) พอดอกแพงก็ยังไม่กู้  จะรีบๆขายรถให้ได้ก่อนละกัน เออ ดูมันสิ   รู้จักคำว่า  ดอกแพง  ด้วย   รู้จักคิดนะ  ......... ค่าภาษีภงด90 2ปีก่อน ยังผ่อนไม่หมด ยืมเงินช่วยแม่ยายขอเปิดร้านของชำ  3ปีแล้ว ก็ยังไม่คืน   (รู้มาเพราะไซ้รเฮียตอนกลางคืน ) ขำขำ อีกแล้ว จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 27 ส.ค. 51 10:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 today...... มันมาอีกแล้วค่ะ  5551 อืม.......  ขอร้องแล้วบ่ ฟัง เมียมันบอกว่าวันนี้เอารถมาซื้อของ ความโกรธ ปรี๊ดๆๆๆ เดินไป เดินมา  นับอะไรหลายรอบ พอเดินไปหน้าร้าน  เห็นก้อนหิน เข้า ก็คว้าไปทุบกระจก  เฮ้ย ทำไมกระจกมันแข็งงี้ วะ ไม่เห็นเป็นไรเลย เอาเหล็กทุบ  โอ๊ย  เจ็บมือเองอีกต่างหาก ก็เลยทุบแค่ไฟเลี้ยวเบาะๆ ก็พอ ตอนทุบก็อายมากเลย  เพราะเสียงดังมาก ชาวบ้านหนุกหนาน มีเรื่องตื่นเต้นกันทั้งซอย จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 27 ส.ค. 51 10:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น่าทุบสามีมากกว่าทุบรถมั๊งครับ งานนี้ อ่านแล้วกลุ้มแทน จากคุณ : kmin - [ 27 ส.ค. 51 11:06:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ คุณkmin ที่เข้ามาอ่านค่ะ ตอนนี้ อีตาสามี'รมณ์เสีย  ออกไปนอกบ้านแล้วคะ ดึกๆโน้น  น่าจะกลับมา จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 27 ส.ค. 51 11:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยน่าทุบสามีมากกว่านะ เจ้านายลูกน้องคู่นี้ทำไมดูเค้ารักกันจังเลยยย จากคุณ : zyleth - [ 27 ส.ค. 51 12:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เค้าทำงาน ทำเงินให้คุ้มไหม ลูกน้องคนนี้ ถ้าไม่คุ้ม ตัดไฟแต่ต้นลมครับ ไล่ออกทั้งคู่ จากคุณ : 4004 (lifemirror) - [ 27 ส.ค. 51 12:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เหมือนคุณพ่อเลยคะ รักลูกน้องมากๆๆๆ ขายรถให้ลูกน้อง ราคาถูกมากๆๆๆ ตอนนี้ก็เป็น10 ปีแล้ว ตั้งแต่เรียน ม.6 ปัจจุบันทำงานมาจะ สิบปีแล้ว ยังผ่อนให้ไม่หมด ราคาแค่แสนต้น ๆ คุณแม่เพิ่งมารู้ทีหลังว่าจนป่านนี้ผ่อนไม่หมด โวยวายใหญ่เลย ส่วนเรื่องอื่นก็ให้เงินลูกน้องยืมจัง (บ่อยเหลือเกิน) สงสัยจะรักลูกน้องมากกว่ารักครอบครัว จากคุณ : fullmoonparty2000 (fullmoonparty2000) - [ 27 ส.ค. 51 12:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จริงๆ อาจจะมีเหตุและผลมากกว่านั้นครับ ลองคุยกับสามีดีๆ ครับ การที่เราจะทำอะไร ต้องมองผลดี ผลเสียอยู่แล้ว ผมว่าสามีคุณน่าจะมีเหตุผลเพียงพอนะครับ ไม่งั้นเขาก็ไม่สามารถเป็นผู้บริหารได้หรอก ลองคุยเหตุและผลดีๆ ครับ เก็บอารมณ์ไว้ก่อนครับ จากคุณ : แกะแดง - [ 27 ส.ค. 51 12:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พี่ๆ ใจเย็นๆ จริงๆ เรื่องเงินกิจการ กับเงินส่วนตัวเราน่าจะแยกดีกว่า เช่น พี่ต้องการเงินเดือน เดือนละ ห้าแสน พี่ก็บอกสามีเลยว่า เอามาให้เลยเงินสด ห้าแสน เป็นเงินเดือนชั้น ที่เหลือ เงิน บ. จะเอาไปทำอะไรก็ไปทำ ตามนโยบาย อย่างนี้ บ. ใหญ่ๆ เวลามีรถประจำตำแหน่งให้ลูกน้อง มีเงินค่าตั๋วให้ไปเมืองนอก มีเงินค่าเลี้ยงให้ไปเที่ยวรีสอร์ตฟรีๆ ... คนที่เป็นเจ้าของ บ. ไม่มาไล่ทุบรถตายเหรอพี่ อย่างที่ว่านะ เงินที่ออกมาจาก บ. กับเงินหมุนเวียน และ การรักษาคน มันต้องพิจารณาดีๆน่ะพี่นะ จากคุณ : KENG76 - [ 27 ส.ค. 51 14:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่างนี้เรียก ให้(ยืม)ด้วยเสน่หารึเปล่าน้อ จากคุณ : ศนิ xxx - [ 27 ส.ค. 51 14:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อยากแก้ต้องแก้ที่สามีครับ ลูกน้องที่ได้รถนี่ทำตำแหน่งอะไรครับสำคัญกับ บ. มากไหม ฝ่ายขายหรือเปล่า คุณทำให้สามีเสียหน้าและความเชื่อถือจากลูกน้องก็ลดลง จากคุณ : Jump.Jr - [ 27 ส.ค. 51 16:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณแกะแดง คะ ขอบคุณมากค่ะ ที่ปลอบอก ปลอบใจดิฉัน ฮือ ฮือ ดิฉันก็ไม่อยากคิดว่า ผอ อัว กระบือหรอกนะคะ คิดว่าเค้ามีเหตุผลที่จะซื้อให้ ก็เรื่องของเค้า จบไปแล้วค่ะ แต่ว่า  มันปรี๊ด ๆ ก็ตอนที่ขอร้องไม่ให้พนักงานเอารถมาให้เห็น ขอร้อง 2 ครั้ง ก็แล้ว เค้าก็ยังดื้อเอารถมาอีกนี้สิ  เหมือนกับจะทดลอง เล่นของกับเรางั้นแหละ เราก็กลุ้มเหมือนกันน๊า จากคุณ : น้ำว้าวว้าว (น้ำว้าวว้าว) - [ 27 ส.ค. 51 17:14:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ KENG76 ป้าก็อยากใจเย็นนะ   ยอมรับว่าเป็นนิสัยที่แย่มาก ที่ขี้วีน แบบนี้ บริษัทของป้าเล็กๆค่ะ  ใช้เงินกันมั่วไปหมด ป้าเคยขอเงินเดือนจากเฮีย เฮียบอกว่าบริษัทยังไม่มีเงินมากพอ  แล้วจะเสียภาษีบุคลธรรมดาเยอะ (ป้าก็เลยออกไปขายประกัน  สิ้นปีเป็นลม  ภาษีหลายหมื่นเลย) เฮียเลยแบ่งเงินให้ใช้2หมื่นบาท ....... ใช่ค่ะ    ตั้ง 2หมื่นบาท   (ได้มา5ชาติ เอ๊ย 5ปี ตั้งแต่ยอมลาออกจากงานประจำ) สู้โว้ย   เพื่อลูก3คน กลายเป็นเล่าเรื่องชีวิตไปซะนี่เรา จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 27 ส.ค. 51 17:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าสามีคุณเขาเห็นค่าลูกน้องของคุณ ดอกเบี้ยที่จ่ายให้ก็เหมือนจ่ายสวัสดิการพนักงาน เป็นการซื้อใจลูกน้อง ลูกน้องคนนี้ก็คงมีดีอะไรสักอย่างล่ะมั้ง แต่สิ่งที่คุณทำ  มันทำลายความตั้งใจของสามีคุณไปแล้ว สามีออกเงินให้ก่อน - ลูกน้องก็ซึ้งใจ ภรรยามาทุบรถ - ซึ้งใจครั้งแรกมันหายไปแล้ว ติดลบซะอีก สามีคุณทำถูกหรือเปล่าไม่รู้ แต่ควรเก็บไว้รู้กันระหว่างคุณสองคน ไม่ควรให้ลูกน้องมารับรู้ด้วย ยังไงเงินก็จ่ายไปแล้ว จากคุณ : TingTing - [ 27 ส.ค. 51 17:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณJump.Jr   ขอบคุณที่ให้ข้อคิดอีกแง่มุมนึง พนักงานคนนี้ไม่ได้อยู่ฝ่ายขายค่ะ เค้าเป็นมือขวานี่แหละ เฮียยกหางมาก แต่เราเคยมีเรื่องกับเค้าเกี่ยวกับการซื้อสินค้า ซึ่งมีฝ่ายจัดซื้ออยู่แล้ว แต่เค้าก็เข้ามายุ่ง เราก็สั่งห้ามเค้า ไม่ให้สิทธิสั่งซื้อค่ะ เค้าคงไม่พอใจเรื่องนี้แหละ บางทีก็คิดว่า   ช่างมันเถอะ บริษัทจะเป็นไงก็ช่าง     ใครจะทำยังไงก็เชิญ คิดถึงตุ๊กตาลิง ปิดหู ปิดตา ปิดปาก จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 27 ส.ค. 51 17:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นที่ บ.เก่า เวลาจะเอาเงิน บ.ไปทำอะไร กรรมการบริหารต้องเซ็นต์เช็ค ทั้ง 2 คนเลยค่ะ ออกนโยบาย กับสามีสิคะ  ให้เซ็นต์อนุมัติเรื่องค่าใช้จ่าย โดยคุณ และ สามีค่ะ จะได้รู้ที่มาที่ไป ของเงินค่ะ ส่วนเรื่องนี้ ผ่านไปแล้ว  ไม่ต้องคิดมากอะไรค่ะ  ได้แต่เพียงแค่คิดเท่านั้น แก้อะไรไม่ได้แล้ว หรือไม่ก็ทำหนังสือ รับสภาพหนี้ให้เขาเซ็นต์ค่ะ โดยคำนวณให้เสร็จสรรพค่ะ ว่าเขาสะดวกชำระกี่บาทต่อเดือน จากคุณ : khunrarin - [ 27 ส.ค. 51 17:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ ตอนนี้สามีบอกว่า "เค้ารักลูกน้องคนนี้เหมือนน้องชาย ตอนนี้มันเก็บข้าวของ ไปหมดแล้ว ลาออกแล้วด้วย มันทำงานหาเลี้ยงเธอและลูกอยู่นะ เธอพอใจแล้วใช่มั้ย" ไอ้รถคันที่ก่อเรื่อง เค้ารับซื้อไว้แล้ว เก็บไว้ที่โกดัง อยากทุบก็ไปได้ แล้วต่อไปนี้ งานที่บริษัท เธอไม่ต้องมายุ่งอีกต่อไป จบข่าว จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 27 ส.ค. 51 17:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้าใจอารมณ์คุณจขกท อ่ะ ต้องค่อยๆค่อยกับแฟนนะคะ ว่า ประเด็นมันคือ เงินบริษัทแต่ดันให้เพราะความเสน่หา กรณีถ้าเป็น ให้เพราะเป็นสวัสดิการ ควรมีข้อตกลงข้อปฏิบัติ มีหนังสือสัญญาเด่นชัด แต่กรณีนี้  จากคห.20ของ จขกท สามีเห็นนายคนนี้เหมือนน้องชาย ดังนั้น ประเด็นในการคุยกับสามีคือ "ทำไมไม่บอกชั้นบ้าง ทำไมไม่คิดจะบอกชั้นหรือปรึกษาหารือกับชั้นสักคำ คนๆนั้น คุณรักเหมือนน้องชาย แต่นี่ชั้น เมียคุณ คุณไม่ควรจะปิดบังชั้นหรือทำเรื่องอะไรโดยที่ชั้นไม่รู้  ถ้าชั้นทำบ้างคุณจะว่ายังไง" ไม่ทราบว่าในบริษัท จขกท มีหน้าที่ทำอะไร เป็น เจ้าของร่วมด้วยและมีอำนาจสั่งการด้วยหรือไม่ หรือถ้าไม่มีอำนาจใดๆแต่เป็นช่วยสร้างบริษัท ก็สามารถต่อว่าด้วยประโยคข้างบนได้ และอธิบายถึงสิ่งที่ควรจะเป็นไปในบริษัทได้ หรือไม่ได้มีอำนาจใด นอกจาก คนในบริษัทรับรู้ว่าเป็นภรรยาเจ้าของ คือก็ยากที่จะต่อว่าสามีเพราะเป็นเงินโอดีบริษัท แต่สิ่งที่จะทำได้คือ พยายามเก็บเงินจากเขามาเป็นชื่อเราให้ได้มากที่สุด ถ้าเกิดสามีมีปัญหา  จะได้บอกได้ว่า "ชั้นนี่แหละไว้ใจได้มากที่สุด อะ เอาเงินไปโปะ" คห.ส่วนตัวนะคะ   เราคิดว่า ถ้าเป็นเรา คงมีอารมณ์น้อยใจปนอยู่ด้วยมากๆ คนนอนข้างกันแท้ๆไม่ปรึกษาสักคำ ทั้งนี้ เราออกความเห็นจากข้อความในกระทู้นะคะ มันไม่สามารถเอาใช้ได้จริงก็ได้ค่ะ เพราะประสบการณ์ชีวิตคู่อาจไม่เหมือนกัน ^_____________^ จากคุณ : โอ้ย...แจ่ม - [ 27 ส.ค. 51 18:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 -*-  เป็นดิชั้นจะเผารถเลยเจ้าค่ะ  ตอนที่เอาทุบหัวสามีเอาไปนั่งที่นั่งคนขับก่อนด้วยนะ  แง่ง ๆ ๆ ๆ พูดเล่นน่ะเจ้า  อย่าไปทำจริงล่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 27 ส.ค. 51 20:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อิฉันทนผู้ชายอย่างสามีคุณไม่ได้แฮะ ดูจะห่วงความรู้สึก "คนอื่น" มากกว่าเมียซะอีก... จากคุณ : คนดีผีคุ้ม - [ 27 ส.ค. 51 21:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นคนอื่นสำคัญกว่าภรรยาตัวเอง แสดงว่าภรรยาตัวเองไม่มีอะไรผูกใจสามีเลยทั้งการบ้านการเรือน และความสามารถนอกบ้าน รึไม่ก็เกิดจากพฤติกรรมส่วนตัวของสามีเอง ที่ภรรยาทำดีแค่ไหนก็ไม่ขึ้น งานนี้ช่วยเหลือตัวเองแล้วกันนะ จากคุณ : talingpling - [ 27 ส.ค. 51 21:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมต้องถามคุณก่อนว่าสามีคุณเค้าบกพร่องกับครอบครัวรึเปล่า ถ้าสามีคุณไม่บกพร่อง ผมว่าคุณคิดมากไป และคุณไม่ให้เกียรติสามีเลย จากคุณ : + (Once in a while) - [ 27 ส.ค. 51 22:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณทุกคน แต่ ทำยังไงต่อไปดี เศร้ามาก เราผิดทุกอย่างเลย จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 27 ส.ค. 51 23:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ : โอ้ย...แจ่ม  คะ ป้าลาออกจากงานประจำมา5ปี แล้วค่ะ ก็เลี้ยงลูก3คน จนพอพวกเค้าเริ่มโต ก็มาจับงานบริษัทได้ 2 ปีแล้วค่ะ   แต่เงินเดือนไม่มี สามีแบ่งให้2หมื่น  ค่าอาหารในบ้าน 5 คน ค่าเรียนพิเศษ ค่าส่วนตัวเราเอง  เยอะมากนะคะ ก็เอาเงินออมของตัวเองมาโปะตลอด   เราเคยบอกเค้าว่าไม่พอ  เค้าบอกว่าต้องใช้ให้พอ   เราก็ต้องหาเงินเพิ่มโดยทำparttime แต่เพิ่งลาออก เพราะถ้ามีเวรตรงกับวันที่สามีไม่ว่างไปส่งลูกไปโรงเรียน   ก็แลกเวรไม่ได้  พอไปสายก็โดยหักเงินค่ะ  ทำฟรีบ่อยเลย บริษัทเป็นชื่อเราและสามีค่ะ  เราดูแลจัดซื้อ สต๊อก บัญชีแบบง่ายๆ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 27 ส.ค. 51 23:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เราว่า คุณทำไม่เหมาะสมอย่างมากเลย คุณเป็นเจ้าของบริษัท แล้วสามีมาเกาะรึเปล่า ถ้าไม่  เขาเป็นเจ้าของ คุณเป็นเมีย เขาจะใช้เงิน..เขาต้องคิดแล้วว่า  เลี้ยงใจมือขวา มันคุ้มค่าพอ คุณไปวีนไร้สติม๊ากมาก   ทำให้สามีเป็นอ้ายงั่ง  และคุณเป็นอ้ายบ้า ความผิดครั้งนี้  มากพอจะหย่ากับคุณได้เลยนะ วันนึงถ้าคุณคิดว่า  พ่อโอ๋ลูก ซื้อของให้ลูกมากไป  คุณไม่ตบลูกตายเลยเหรอ ตอนนี้มือขวาไปแล้ว  เมียเขาคงไปด้วย  ตำแหน่งว่าง2เลย บริษัทเล็กๆด้วย   ดีใจไหม   แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 51 01:02:28 จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 27 ส.ค. 51 23:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทำดี ล้างผิด ด่วน จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 27 ส.ค. 51 23:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ซึ่งเป็นเรื่องปกติว่า ถ้าใครมาจับงานเหล่านี้ ก็จะรู้อะไร อะไร ในบริษัท เราผิดเอง  ที่รู้ว่า บริษัทรับทำบัญชีคิดภาษีบุคลธรรมดา ไม่รอบคอบ ทำให้เราเสียมาก   คิดภาษีหัก ณ ที่จ่าย กลางปี สิ้นปีมั่วๆ  นั่งเทียนทำงบดุลส่งมาให้เรา จัดซื้อ : ซื้อตะปี้ตะบัน ตามที่ช่างขอให้ซื้อ  ไม่เคยดูสต็อกการ์ด ซื้อสินค้ารายการเดิมๆสลับๆกันไป   จัดซื้ออยู่ใต้อำนาจวิศวกร  ปล่อยให้พวกนี้ติดต่อเซล แล้วเราก็มารู้ว่าซื้อของได้ราคาแพงกว่าโฮมโปรอีกนะ คนงานที่ซื้อของ : ไม่ไปซื้อของให้ช่าง  ให้ช่างไปซื้อเอง ก็เอาของได้ตามใจ (เพราะเปิดเครดิตไว้) คนจ่ายของ : ทำstock card ตามยถากรรม  ข้อมูลผิดๆ ถูกๆ ตัวเมียของคนก่อเรื่อง เป็นบัญชีทั่วไปค่ะ   เราก็รู้อีกว่าเอาเงินสดย่อยที่เค้าดูแลไปหมุนกัน 2คนผัวเมีย มีช่างอีกคนเบิก อลูมิเนียมผิดสังเกตุไม่เหมาะกับsiteงานที่เค้าทำ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 00:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 จาก คคห30 ตัวเมียของคนก่อเรื่อง เอ... หรือใช้คำว่า ตัวเมีย ที่  ก่อเรื่อง ก็ อิชั้นไง ขอบคุณ ที่มีพันทิป จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 00:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ มิมิแพนด้า คะ โดนใจทุกอย่างค่ะ พรุ่งนี้ก็คิดว่า คงไปหย่ากันค่ะ . ไปซะเลย 2คนผัวเมีย  บริษัทเล็กๆด้วย ดีใจไหม   . ประโยคนี้เค้าพูดเย็นนี้ค่ะ แล้วเค้าก็พูดว่า เค้าเลือก 2คนผัวเมีย ค่ะ ร้องไห้อีกครั้งนึง  สมน้ำหน้าดิฉันมั้ยคะ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 00:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ใจเย็นๆหน่อยค่ะ  คุณน้ำว้าวว้าว คนเราทำผิดกันได้...บอกสามีไปตรงๆว่า ขอโทษ  ดิฉันจะมีสติมากกว่านี้ คุณกำลังเสียใจและตกใจหนักใช่ไหม   เพราะเราอ่าน คห. 30-30-32 ไม่เข้าใจ ใจเย็นๆหน่อย  บอกขอโทษสามีซะ  แล้วสงบใจตัวเองซะหน่อย นอนหลับสักคืน....พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อ.... มีลูกสามคน   เขาคงโกรธเลยพูดประชด (หรือจริงๆแล้ว  เขาไม่ได้พูด  แต่เป็นคุณน้ำว้าวว้าว พูดประชดดิฉันเอง) อย่าถือสา  คำพูดที่พูดขณะโกรธ บอกเขาว่า   อย่าถือสา  สิ่งที่คุณทำลงไปขณะโกรธจัด...ครั้งหน้าจะระวัง จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 00:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ที่ดิฉันพูดแรง...เพราะเกรงว่า  คุณไม่คิดว่าคุณผิด  และอาจไม่ต่อว่าสามีอีก ซึ่งเรื่องมันจะบานปลายมากกกกกกกก ดิฉันแค่อยากให้คุณหยุดโกรธ แล้วตระหนักว่าตัวเองผิด..แล้วไปขอโทษสามีซะ ดิฉันอาจรุนแรงไป  ขออภัยด้วยค่ะ   ใจเย็นๆนะ    นอนสักคืน จะดีขึ้น ทั้งสามีและคุณ ดิฉันสงสัยว่า  สามีคุณพูดว่า  "เลือกสองผัวเมียนั่น  ไม่เลือกคุณ" เพราะคุณไปท้าทายเขารึเปล่าว่า   เธอจะเลือกชั้น หรือสองผัวเมียนั้น ซึ่งมันไม่เกี่ยวกันเลย ว่า   เขาไม่ได้เลือกคุณหรือเค้า     เขาโกรธและเลือกความถูกต้อง   เพราะคิดว่า สามีคุณเต็มใจจ่าย   สองผัวเมียไม่ผิด  แต่คุณผิด ผู้หญิงชอบพูดประโยคนี้  ด้วยความวู่วาม    ว่า   คุณสามี คุณต้องเลือก...เขาหรือฉัน....   ผลคือ  สามีจะโกรธและประชดค่ะ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 01:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หยุด จากคุณ : numnumnum1 - [ 28 ส.ค. 51 01:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่เห็นด้วยกับคุณมิมิแพนด้านะคะ จาก ข้อมูลใน #27 และ #30 สามีคุณ จขกท แย่มากๆ ค่ะ เงินใช้จ่ายในบ้านไม่พอ บังคับให้ใช้ให้พอ จนคุณ จขกท ต้องไปหาเงินเอง กิจการในบริษัทก็ปล่อยปละละเลยจนมั่วซั่ว ให้ลูกน้องโกงเอาๆ แถมซื้อรถแจกลูกน้องด้วยเงิน OD เนี่ยนะ บ้าป่าวคะ คุณ จขกท ไม่ผิดที่โกรธ แต่แย่หน่อยที่วีนแตกโดยไม่วางแผนไว้ก่อน ลูกๆ กี่ขวบแล้วคะ ตอนนี้ที่ต้องคิดหนักคือเป็นห่วงเด็กเท่านั้น ไอ้พ่อน่ะไม่ต้องไปห่วงเขาเลย เราเข้าใจคุณนะ คุณ จขกท จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 28 ส.ค. 51 01:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อืมมม  ขอโทษด้วยค่ะ   ถ้าคำตอบของเราไม่ดี   ไม่ต้องทำตามก้อได้ค่ะ และเราขออภัยที่พูดรุนแรงไป    อย่าเสียใจเพราะคำพูดเรานะ  เรามันแค่คนนอก แต่ ณ เวลานี้  ต้องมีสักคนที่อ่อนลง คุณจะเลือก ขอโทษเอง หรือวีนต่อ...แล้วแต่คุณนะ จับอารมณ์สถานการณ์ให้เหมาะนะ...เป็นห่วง คุณยังไม่พร้อมจะดูแลตัวเอง หรือเด็กๆ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 02:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณสาวน้อยร้อยแปด   เราไม่ได้เห็นว่า สามีเขาถูกทีซื้อรถ หรือวิธีบริหารกิจการเขาดี แต่ผู้ชายกับผู้หญิงมองประเด็นต่างมุนมองกัน ผู้ชาย มองประเด็นเป็นจุด   เวลาทะเลาะกันตอนนี้  เขามองแค่เรื่องซื้อรถ-ทุบรถ-ผลลาออก แต่ผู้หญิง  เวลาทะเลาะ จะขุดรามเกียรติ์ประวัติปัญหาชีวิตคู่ทั้งหมด มาพูด ซึ่งไม่มีทางแก้ปัญหาร้อยแปดในการคุยครั้งเดียว   ผลคือ  ปัญหาไม่จบ  แต่สร้างรอยร้าวครั้งใหม่ นี่คือจิตวิทยา....ผุ้ชายมองลึก( focus )   ผู้หญิงมองกว้าง อีกปัญหาที่ผู้หญิงชอบท้าทาย...เลือกฉันหรือเขา...ผลคือ  สามีประชด...เรื่องแย่ลง วันนี้คุณอาจคิดว่า...ทำไมฉันต้องยอม?...   เราว่า คำว่าขอโทษคำเดียว   ทำให้โลกสดใสได้มากกว่าที่คิดนะ วันนี้ คุณอาจไม่เข้าใจ....วันหน้า..ไม่ว่าเลือกทางไหน...ลองมองกลับมานะ ถ้าวันนั้น  เราขอโทษ      เราคงไม่ต้องแยกกันหรือร้าวกันอย่างนี้ ถ้าวันนั้น  เราไม่ขอโทษ... เราอาจไม่ได้มาสวีทกันแบบนี้นะจ๊ะ ที่รัก... อนาคต ...อยู่ในมือคุณ  วันนี้ (เหมือนตอนนี้  ที่คุณกำลังคิดว่า   ไม่น่าทุบเลย) จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 02:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เฮ้อ... เป็นห่วง จขกท จัง เมื่อกี้ส่งหลังไมไปนะคะ ครอบครัวนะคะ จะอยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง ก็ด้วยความอดทนของคนเป็นแม่เท่านั้นแหละค่ะ แม้ว่าคนเป็นพ่อจะห่วยขนาดไหนก็ตาม ที่แย้งคุณมิมิแพนด้าข้างบน เพราะไม่อยากให้ จขกท โทษว่าตัวเองเป็นคนผิด แล้วแบกเหตุการณ์นี้ซ้ำเติมตัวเองไปตลอด ถึงตอนนี้ คนที่เป็นปัญหาก็ออกไปจากบริษัทแล้ว ถ้าปรับความเข้าใจกันได้ กิจการก็น่าจะไปต่อได้ เพราะคุณ จขกท ก็ทำแทนคนเมียได้ คุณสามีก็เหนื่อยหน่อยเพราะไม่มีมือขวา แต่รูรั่วจะลดลง กำไรน่าจะมากขึ้นนะ ปล. คราวต่อไปถ้าจะวีนก็วางแผนดีๆ หน่อยละกันค่ะ -_-" จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 28 ส.ค. 51 02:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โอ๊ย   ชอบทู้นี้จัง ไม่ได้ชอบที่คนตีกันนะ แต่ชอบมุมมอง ของพี่มิมิแพนด้า   กับพี่สาวน้อยร้อยแปด มองต่างมุมกันดี    ทำให้สามารถไปใช้ในชีวิตจริงได้เลยนะเนี่ย   คุณ  น้ำว้าวว้าว  สู้ๆ น๊า   ตั้งสติก่อน เน้อ รักทุกคน  จุ๊บ  จุ๊บ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 02:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เราเคยทะเลาะกับแฟน..แรงที่สุด...ก้อแค่ทำม่านขาดไปหนึ่งตะขอแขวน จำเนื้อหาไม่ได้   แต่ทะเลาะกันแล้วม่านเปิดอยู่ เราเลยเดินไปปิดม่าน   แต่ปิดแรงไปหน่อย  ทำให้ตะขออันนึงหัก  ม่านห้อยจิ๊ดนึง ผ่านมาห้าปี   ยังมองเห็นม่านห้อยนั้น   และเตือนใจทุกที   อย่าร้อนพร้อมกัน แฟนยังแซวเสมอ  เมื่อเราวีน    เขาจะชี้ที่ผ้าม่าน...เราจะเบาลงทันที บางครั้งตัวเราเอง  ยังไม่พอใจตัวเองเลย ....นับประสาอะไร กับคนอื่น แม้เวลาเดียวกัน   เรายังอาจคิดไม่ลงรอยกัน ในตัวเองเลย  เคยไหม ลังเลทางไหนดี จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 02:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 42 "เค้ารักลูกน้องคนนี้เหมือนน้องชาย ตอนนี้มันเก็บข้าวของ ไปหมดแล้ว ลาออกแล้วด้วย มันทำงานหาเลี้ยงเธอและลูกอยู่นะ เธอพอใจแล้วใช่มั้ย" ไอ้รถคันที่ก่อเรื่อง เค้ารับซื้อไว้แล้ว เก็บไว้ที่โกดัง อยากทุบก็ไปได้ ^ ^ Funny that you two are fighting because this kind of person. That guy doesn't even care about your husband or the company. He didn't even buy that car with his own money, still he was upset enough that he "sold" the car back to your husband, AND left the company!? One of the most ridiculous story I've ever heard. ก็มาจับงานบริษัทได้ 2 ปีแล้วค่ะ   แต่เงินเดือนไม่มี สามีแบ่งให้2หมื่น  ค่าอาหารในบ้าน 5 คน ค่าเรียนพิเศษ ค่าส่วนตัวเราเอง  เยอะมากนะคะ ก็เอาเงินออมของตัวเองมาโปะตลอด   เราเคยบอกเค้าว่าไม่พอ  เค้าบอกว่าต้องใช้ให้พอ ^ ^ Your husband said "มันทำงานหาเลี้ยงเธอและลูกอยู่นะ เธอพอใจแล้วใช่มั้ย" 20000 bath a year? If all this is true, you may be more well off on your own. What you did to that car was not a smart move, but it's already happened. Please ตั้งสติ, and then think calmly of the whole thing. I wish you best on this family matter krub. จากคุณ : Gaignun - [ 28 ส.ค. 51 03:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 43 20,000 a month naka. เราว่า  ถ้าเราเป็นลูกน้อง  เจอเมียนายแบบนี้  เราก้อต้องเผ่น เพราะมองหน้ากันไม่ติด...   อาจคิดว่าตนเป็นต้นเหตุให้นายกะเมียทะเลาะกัน  จะทำงานต่อยังไงได้ ส่วนเรื่องรถ   ตามนิสัย คุณสามีต้องเสนอแกมบังคับว่า  เขาซื้อต่อเอง คดีแบบนี้ เป็นคดีอาญา   แจ้งความได้   พยานเยอะ     สามีต้องรับมาอยุ่แล้วล่ะ จะให้ลูกน้องรับความเสียหายของรถ  ได้ยังไง  เขาไม่ได้ทุบรถ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 03:53:10 ]

ความคิดเห็นที่ 44 พี่มิมิแพนด้า นอนดึกเหมือนเดิมนะครับ ผมพึ่งสังเกตว่าพี่ชื่อ "มิมิ" ไม่ไช่ "มินิ" ... หลงเรียกพี่ "มินิ"แพนด้าอยู่ตั้งนาน ... ไม่มีอะไรจะเสริมนะครับ สำหรับพี่น้ำว้าวว้าว ... เพราะมีคำแนะนำดีๆ จากหลายๆท่านเยอะมาก ... ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ก่อนนะครับ (ไม่ไช่คำแนะนำเด้อ) มุมมองด้านบริษัท จะเห็นว่ามีการโกงเกิดขึ้น เจ้าของอาจจะมีปัญหาอ่านบัญชีไม่เป็น สักแต่ว่ารับงาน ได้เงินมาก็เป็นเงินหมุนหมด ไม่ได้มีแยกว่า ส่วนกำไรสะสมที่เป็นส่วนของเจ้าของ เท่าไหร ... ถ้าส่วนต่างมันเยอะ ก็ดีไป เช่น กำไร เดือนละ 10 ล้าน โดนโกงไปสัก 5 แสน ก็ไม่เท่าไหร่ ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายได้ แต่ถ้ากำไร 1 ล้าน โดนโกงไป 5 แสน นี่ต้องคิดแล้ว มันคุ้มค่าเหนื่อยต่อการเป็นเจ้าของหรือไม่ ผู้ชายมักจะมองในมุมมองการลงทุน การทำงานให้บรรลุเป้าหมาย แม้ว่าจะลงทุนจนกระทั่งขาดทุนก็ตาม ...เหมือนเขาเรียกว่า ยอมขาดทุนก่อน ไปถอนคืนทีหลัง ประมาณนี้ครับ =========== มุมมองเรื่องครอบครัว ค่าใช้จ่ายที่เขาให้พี่ใช้ในครอบครัว บอกตรงๆ ว่า "น้อยไปครับ"  ... นี่เขาบอกว่า ต้องใช้ให้พอ ดูแลบ้านด้วย ... อึ้งจริงๆ (ต้องขอโทษที่วิจารณ์นะครับ) ... ถ้าเป็นเถ้าแก่ แล้วให้เงินดูแลครอบครัวเท่านี้ ไปเป็นลูกจ้าง บ. ดีกว่า ... ผมยังให้ ภรรยาเดือนละ 25,000 เลย ค่าใช้จ่ายในบ้านผมออกเองหมด =========== ต่อจากนี้ ผมหวังว่า คำว่า ครอบครัวน่าจะพยายามเคลียร์กันได้นะครับ (ปัญหาแบบนี้ ยังแก้ง่ายกว่าปัญหาการนอกใจนะครับ ผมว่า) ... หากสามีพี่เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น (เรื่องการโกงใน บ.) และมองว่ามันเป็นจุดที่ทำลาย บ. จริงๆ ... เขาน่าจะปรับปรุงการบริหารของเขาบ้างนะครับ จากคุณ : KENG76 - [ 28 ส.ค. 51 04:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เมื่อคืนก็ซักผ้าไปร้องไห้ไป แล้วก้อหลับไป............ เช้านี้ ตากผ้า หาอาหารให้ลูก มานั่งอ่านอีกที อ่านไป ก็ร้องไห้อีกแล้ว ทำไมทุกคนใจดีจัง มาช่วยปรึกษา ทุกคนรู้มั้ยว่า  เวลาเรามีปัญหาแบบนี้ ทะเลาะกับสามี เราไม่เคยปริปากปรึกษาใครได้เลย ขอบคุณ อีกครั้ง คงต้องไปส่งลูกไปรร. ก่อนค่ะ แล้วเราก็จะไปหางานทำข้างนอกแล้ว งานก็หายากเหมือนกันนะคะ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 06:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 46 บริษัทเล็ก ๆ แต่ไปเปิด OD ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง บริษัทเล็ก ๆ แต่ไม่เจ่ายเงินเดือนให้ จขกท. บริษัทเล็ก ๆ แต่เหมือนบริหารงานมีปัญหา ถ้าไม่มีลูก ผมคงแนะนำให้หย่าไปแล้วอ่ะครับ แต่ลองคอย ๆ คุยกันดูครับ สามีคุณผิดแน่ ๆ ครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะยอมรับได้แค่ไหน จากคุณ : MAX - [ 28 ส.ค. 51 07:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 47 K. มิมิแพนด้า My point was that this employee never seemed to care of his employer or the company. He is someone who dared accept the money he did not earn and the giver did not own... (And I'm giving him the benefit of doubt that did not ask K.น้ำว้าวว้าว's husband for the car himself) If what K.น้ำว้าวว้าว said about the employee and his wife was true about them spending money and not concerning of the company loosing money, he was not a good employee. เราว่า  ถ้าเราเป็นลูกน้อง  เจอเมียนายแบบนี้  เราก้อต้องเผ่น เพราะมองหน้ากันไม่ติด...   อาจคิดว่าตนเป็นต้นเหตุให้นายกะเมียทะเลาะกัน  จะทำงานต่อยังไงได้ ^ ^ If that's the case, they wouldn't bring the car when K.น้ำว้าวว้าว asked them not to in the first place. I agree K.น้ำว้าวว้าว's action was wrong. But I don't see this employee as a caring person either, based on what K.น้ำว้าวว้าว has told us. About 20000 a month/year, sorry If I confused anyone else! จากคุณ : Gaignun - [ 28 ส.ค. 51 07:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ น้ำว้าวว้าว จำเย็นๆครับ เอาเป็นว่าถอยคนละก้าว หลับตาข้างหนึ่ง ทำลืมๆไปบ้าง แล้วยิ้มคุยกับสามีแบบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีไหมครับ เรื่องงานลองถอยออกมาเลิกยุ่ง รับเงิน 20K ที่สามีให้(ขอเพิ่มอีก 10 K จะดีมากๆ) แล้วเลี้ยงลูกๆอยู่บ้านดีกว่า กรณีนี้ ที่ทะเลาะกันจนบานปลาย เพราะนิสัยผู้ชาย(ผมก็เป็น) ไม่ชอบเสียหน้า น่าจะเป็นอาการโดนคุณหักหน้า เลยอยากเอาชนะคุณใตอนนี้เฉยๆ ปล.ถ้าฟุ้งซ่าน แนะนำไปบริจาคทาน และทำบุญนะครับ แล้วจะรู้สึกดีขึ้นเอง ปล2.การทำบุญไม่ได้วัดที่จำนวนเงิน วัดที่จิตศรัทธา จากคุณ : คิดบวก - [ 28 ส.ค. 51 08:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เอาแค่จากปัญหาเบื้องต้นคือเรื่องงาน(ซื้อรถให้ลูกน้อง) เรื่องเงิน(เงินเดือนสองหมื่น+เงินบริษัทซื้อรถให้ลูกน้อง) เรื่องครอบครัว(เงินเดือนสองหมื่นดูแลทั้งบ้าน) เรื่องชีวิตคู่(ทำอะไรไม่ปรึกษากัน เห็นคนอื่นสำคัญกว่าภรรยาตัวเอง) เท่านี้คุณสามีก็ผิดเต็มประตูแล้วค่ะ ส่วนคุณจขกท.ก็ผิด(มากๆ)ในเรื่องสติ(ที่ไปทุบรถ) ไปขอโทษเค้าเรื่องทำลายทรัพย์สินและขาดสติ แต่ไปบอกเขาด้วยว่าคุณไม่พอใจเรื่องดังต่อไปนี้ อย่างนี้ๆ ถ้าเค้าไม่ยอมรับผิดก็แล้วแต่คุณจขกท.แล้วค่ะ(เป็นเราจะทุบคุณสามีจนรับผิด) ป.ล.วงเล็บเยอะจัง เง้อ... จากคุณ : doxday - [ 28 ส.ค. 51 09:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาอ่านค่ะ แต่ยังไม่มีเรี่ยวแรงเขียน ขอบคุณที่ยังห่วงใยดิฉัน ตอนนี้ดิฉันเป็นเหมือนตัวร้ายในทำเนียบเลย จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 10:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นใจคุณน้ำว้าวว้าวนะคะ เพราะถ้าเป็นเราก็ปรี๊ดแตกเหมือนกัน อาจจะเป็นมากกว่าคุณน้ำว้าวว้าวด้วยซ้ำ ยังไงก็สู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ปัญหากันไป จากคุณ : DL4 1EX - [ 28 ส.ค. 51 11:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ใจเย็น ๆ ครับ โอกาสจะมาให้กับคนที่ใจเย็นและมีสติอยู่เสมอ จากคุณ : VanillaS - [ 28 ส.ค. 51 11:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ปรกติเราอ่านอย่างเดียว นานๆจะโพสซักที เข้าใจจขกท.นะคะ ใจเย็นๆน๊า เราว่าคุณผิดที่ไปทุบรถลูกน้องเองค่ะ ไม่ผิดหรอกที่คุณจะไม่พอใจ เพราะหลายๆอย่างมันก็น่าน้อยใจมิใช่น้อย ที่จริงก็น่ากลัวอยู่นะคะ ลูกน้องคนนึงเป็นมือขวา ส่วนภรรยาลูกน้องทำบัญชี เสี่ยงมากค่ะ-_-" จากคุณ : i (He once smiled at me) - [ 28 ส.ค. 51 13:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 54 บริษัทเป็นชื่อเราและสามีค่ะ  เราดูแลจัดซื้อ สต๊อก บัญชีแบบง่ายๆ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว  - [ 27 ส.ค. 51 23:46:42 ] ถ้าเป็นแบบนี้ จขกท ก็มีสิทธิในการพูดจาเกี่ยวกับนโยบายของบริษัท และเงินod แต่ ณ. เวลานี้ การประคองชีวิตคู่ เป็นสิ่งสำคัญกว่า หากใจ จขกท ต้องการที่จะอยู่เป็นครอบครัวต่อ การหย่าอาจไม่ใช่คำตอบจริงๆ ตอนนี่สามีจขกท เหมือนน้ำเชี่ยว เพราะเสียมือดีของบริษัท และคิดว่า จขกท ยุ่งไม่เข้าเรื่อง เราว่า ถ้าเป็นเราในตอนนี้ การคุยด้วยอารมณ์จะไม่ช่วยอะไรเลย ลองคุยกันและบอกความรู้สึกจากใจ ด้วยน้ำเสียงปกติ อย่าเอาอารมณ์ต่ออารมณ์นะคะ ใช้ภาษาเย็นๆ   ให้ออกมาจากใจ ของเรา บอกไป เรื่องที่ควรจะขอโทษก็ขอโทษ เราว่าสามีคุณต้องรู้สึกเสียหน้ามากๆเหมือนกัน ผู้ชายนี่เรื่องศักดิ์ศรียังไงเขาก็ต้องมี เรื่องที่อยากจะบอกก็บอก อธิบายแบบน้ำเย็นใสๆ พยายามระงับอารมณ์ขุนมัวไว้นะคะ ถ้าอารมณ์เย็นๆลงกันแล้ว ค่อยอธิบายเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านให้เขาฟังนะคะ ว่า 20000 บาทมันไม่พอจริงๆ ลูกตั้ง 3 คน แต่การบอกนี่ไม่ได้หมายความว่าจะขอเพิ่ม แต่ชี้ให้เห็นว่า ในครอบครัวยังต้องประหยัดเลย แล้วเงินในบริษัทล่ะ เงินที่ให้ลูกน้องเอามาส่งเสริมลูกดีมั้ย ลูกน้องเราก็ควรให้ได้ตามสมควร ไม่ควรมากไป ลูกน้องคนอื่นๆจะได้ไม่หาว่าลำเอียง เพราะสุดท้ายหากเกิดอะไรขึ้น ก็เหลือแค่คุณกับฉัน ที่ต้องสู้กันไป จขกท.อยู่กับสามีมานานแล้วคงรู้ใจสามีนะคะว่าชอบคำพูดแบบไหน การกระทำแบบไหน ------------------------------------- ของเราเวลาอยู่กับเพื่อน จะไม่หักหน้าแฟนอ่ะค่ะ เพราะรู้ว่า ผู้ชายศักดิ์ศรีมันค้ำคอค้ำหน้า มีอะไรเก็บมาคุยในบ้าน เพราะในบ้านเราใหญ่ที่สุด 555555+ เวลาทะเลาะกัน ถ้าร้อนต่อร้อน บ้านก็พังกันไป แต่ตอนนี้เราจะใช้วิธีพูดเนิบๆ อธิบาย ประเด็นไหนประเด็นนั้น ไม่ขุดเรื่องเก่ามาพูด อันไหนเราผิดก็บอกว่าขอโทษ อันไหนอยากให้เขาเปลี่ยนก็บอกด้วยเหตุผล อยู่กันมาย่างเข้าปีที่ 5 2 ปีหลังนี่แทบไม่ทะเลาะกันเลยค่ะ เวลาเราโมโห(คนเราก็ต้องมีบ้าง) แฟนจะบอกว่า หิวใช่มั้ย ไปหาอะไรกินกันไป เวลาแฟนโมโหเราก็จะทำอะไรขำๆ ก็อารมณ์เย็นลง ไม่ก็เงียบกันไป 5 นาทีแล้วค่อยมาคุยกันใหม่ ที่สำคัญ งานบ้านทุกอย่างต้องไม่บกพร่องค่ะ หน้าที่ของการเป็นภรรยาและแม่ต้องไม่บกพร่อง สามีจะได้ตระหนักในหน้าที่ของคนเป็นสามีและพ่อของลูกค่ะ สู้ๆนะคะ   แวะไปทำบุญบ้าง  ยังไม่รู้จะคุยกับสามียังไงก็ชวนไปทำบุญก่อนก็ได้ค่ะ อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร สัมมาอาชีพของเรา เอาใจช่วยค่ะ ^_____________^ จากคุณ : โอ้ย...แจ่ม - [ 28 ส.ค. 51 13:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เอ่อ ถ้าเป็นผมจะทำมากกว่านี้อีก เพราะไม่คิดว่าต้นเหตุของปัญหาไม่ได้อยู่ที่คุณ ก็มันบอกแล้วไม่ฟังอ่ะ ลูกน้องกำลังลองดีคุณอยู่นะ.... เหมือนไม่เห็นหัวอ่ะ แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไม ไม่มีมาตรการในการป้องกันการโกง ทั้งๆ ที่ก็รู้ปัญหาของมันอยู่... จัดซื้อทำอะไรอยู่ (แล้วจะมีมันทำไมเนี่ย ให้วิศวะ ไปซื้อเลยไม่ดีกว่าเหรอ จะจ้างมันให้เปลืองค่าแรงทำไม) แต่บางทีเมียเถ้าแก่ เข้าไปยุ่งมากๆ ก็จะดูไม่ดีอ่ะนะ เถ้าแก่ก็ดูเสียหน้าไม่ใช่น้อย   ผลลัพธ์มันก็จบไปแล้ว ก็ประคับประคองชีวิตคู่แล้วกัน   ขอให้โชคดีครับ... จากคุณ : อยู่กับผี - [ 28 ส.ค. 51 14:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เป็นกำลังใจให้ครับ ทุกปัญหามีทางออก แต่ระวัง อย่าเอาเรื่องที่มาเล่าไปอ้างอิงกับสามีนะครับ เดี๋ยวเขาจะมองว่า เอาความในออก จากคุณ : kiox - [ 28 ส.ค. 51 15:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มี จข. บริษัทแห่งหนึ่ง ( รู้จักกับพ่อ) ผู้หวังดีประสงค์ร้าย  เข้ามาปะเหลาะๆ พี่แกก็เชื่อเขาไปซะหมด คนดีๆ  ที่เขาหวังดี  มาเตือน   ก็ไม่ฟัง สุดท้าย บริษัทเจ๊ง โดนโกงไปตั้งแยะ ต้องขายของเก่ากิน ( คนๆนี้ เกิดมาโชคดี  ฐานะร่ำรวยมากๆ เงินที่ใช้เปิดบริษัท  ก็เป็นเงินจากมรดก  บุญเก่าทั้งนั้น) จากคุณ : นางสเตนเลส - [ 28 ส.ค. 51 15:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ตอนนี้กลายเป็นปัญหาครอบครัวไปแล้ว ทุกคนในนี้ก็เหมือนคนนอกซึ่งคงช่วยคิดตัดสินใจอะไรให้ไม่ได้ แต่ผมว่าตอนนี้มีอยู่สามประเด็นสำหรับทั้งคุณเจ้าของกระทู้และสามีนะครับ ที่จะต้องฝ่าฟันไปให้ได้ 1. ชีวิตคู่ จากเหตุการณ์ทะเลาะกันคงมีผลพอสมควร ควรตกลงกันไว้เลยดีมั้ยครับ ว่าบทบาทของคุณน้ำว้าวว้าวในบริษัทเป็นอะไร มีอำนาจหน้าที่แค่ไหน และบทบาทที่บ้านเป็นอะไร ของบางอย่างสามีคุณอาจจะตัดสินใจในบริษัทแต่ก็ควรปรึกษาหารือกับคุณที่บ้านบ้าง 2. ลูกสามคน ทำอะไรคิดถึงลูกไว้ก่อน ถามสามีคุณดูว่ามีความพร้อมสำหรับอนาคตลูกแค่ไหน มีเงินออมสำหรับการศึกษาในอนาคตหรือไม่ แทนที่จะนำเงินไปช่วยเหลือลูกน้อง บางทีอาจจะต้องคิดถึงคนในครอบครัวก่อน อย่ามองแต่ข้างหน้า ให้มองรอบๆตัวบ้าง ค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคุณถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับคนห้าคน ถึงสามีคุณจะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างหากแต่ก็ยังกินข้าวบ้านอยู่ดี การเอาเงินไปให้ลูกน้องซื้อรถแล้วไปขายต่อถือว่าไม่สมควร เพราะถือว่าไม่จำเป็น ไม่ใช่สวัสดิการใดๆ เพราะลูกน้องเขามีรถอยู่แล้วไม่ใช่ไม่มี สามีคุณซื้อกระบะให้เมื่อสามปีก่อนไปคันนึงแล้วนี่ จะให้อะไรมากมาย ยิ่งใช้เงินโอดีซื้อ บริษัทต้องเสียดอกเบี้ยแต่ลูกน้องขายรถได้กำไร บริหารอย่างนี้รอดยากครับ หากต้องการให้เงินซื้อใจลูกน้องควรทำในรูปแบบปกติเช่น โบนัส น่าจะดีกว่า 3. บริษัทของคุณทั้งคู่ ตอนนี้ขาดคนไปสองคน ช่วยกันคิดดูว่าจะทำอย่างไร จะหาคนมาแทนมั้ย หรือใช้คนที่มีอยู่ทำแทน ตอนนี้ควรจะเป็นโอกาสแล้วด้วยซ้ำหากคุณน้ำว้าวว้าวมองเห็นรูรั่วของบริษัท รู้ว่ามีการยักยอกเงิน ซื้อของเกินบัญชี ใช้จ่ายผิดปกติ ฯลฯ ก็บอกสามีคุณไป ช่วยกันหาทางแก้กันดีกว่า ไม่มีใครไว้ใจกันเองได้ดีกว่าคนในครอบครัวหรอกครับ กิจการที่สร้างมากับมืออย่าให้ไปล้มด้วยอารมณ์ชั่ววูบเลย เมื่อก่อนตอนทำงานบริษัท ผมก็เคยเป็นมือขวาเหมือนกัน เจ้าของเคยจะดาวน์รถให้ผมครึ่งนึงแล้วที่เหลือผ่อนเอาเอง ผมยังไม่เอา เพราะมันดูไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆ ในบริษัท อีกอย่างนึงก็คือว่าผมกลัวด้วยแหละ กลัวว่าอนาคตเราอาจจะทำงานไม่ได้อย่างที่เขาหวัง คิดอย่างสบายใจนะครับ ลูกน้องสามีคุณก็ไม่ใช่คนดีนักหรอก สามีคุณให้ขนาดนี้ คุณขอร้องเขาเรื่องเล็กน้อยเขากลับทำให้ไม่ได้ พอมีเรื่องกลับทิ้งกันไปง่ายๆ ดูจากการไปกระทันหันนี่ไม่น่าจะเคลียร์งานที่ค้างไว้ด้วยซ้ำ แล้วกระบะคันเก่าที่สามีคุณซื้อให้เขาคืนหรือเปล่า หรือเอาไปด้วย คนประเภทนี้ผมถือว่าเนรคุณครับ ถึงตอนนี้ผมก็ยังยืนยันว่าเป็นแค่คนนอกนะครับ แต่ผมว่าคุณอย่าไปคิดถึงสิ่งที่เกิดจากคนที่ไม่อยู่กับเราแล้วเลย คิดถึงคนที่อยู่ด้วยกันไว้ดีกว่า คุยกันดีๆ พูดด้วยเหตุผล นาทีนี้จะถูกจะผิดแต่ผมว่าก็ต้องเป็นคุณแหละครับที่ต้องเป็นคนประคองทั้งบริษัทและทั้งชีวิตคู่ไป ลองคิดถึงตอนคบกันใหม่ๆ ถามตัวเองว่ารักเค้ามั้ย ทุกอย่างน่าจะผ่านไปได้ดีเองครับ จากคุณ : คนรู้มาก - [ 28 ส.ค. 51 15:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ดีใจนะคะ ที่คุณน้ำว้าวว้าว กลับมาอ่านอีกครั้ง มิมิแพนด้า เองก้อไม่ได้คิดชอบลูกน้องและแฟนเขานะ   พวกเขาทำไม่ถูก และไม่ได้ชอบสิ่งที่สามีคุณกระทำด้วย แต่เรื่องในบ้าน  ระหว่างคุณกะสามี  ต้องเคลียร์กันต่อไป ที่เราแนะนำ  คือเคลียร์เรื่องแรกก่อน  เรื่องรถ   ควรขอโทษในสิ่งที่เราผิด คือวู่วามทุบรถ แต่รายละเอียดอื่นๆ...รอให้สงบลงก่อน ...ค่อยมาคุยใหม่ ทีละประเด็น เน้นว่า ทีละประเด็นนะ   วันนี้คุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน วันต่อมาคุยเรื่องการบริหารเงินในบริษัท วันต่อมาคุยเรื่องบุคลากร /เรื่องงานของคุณ วันต่อมาคุยเรื่องลูกๆ   วางแผนอนาคต วันต่อมาคุยเรื่องความสัมพันธ์สามีภรรยา วันต่อมาคุยเรื่อง..... อย่าคุยพร้อมกันในวันเดียวนะ   ผู้ชายมีสัญชาตญาณต่างจากผู้หญิงค่ะ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 16:00:30 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ส่งลูกๆเข้านอนหมดแล้วค่ะ ได้มานั่งอ่านทุกคำตอบอีกครั้ง ทุกคนในนี้มีน้ำใจมากเลยค่ะ และแสดงความคิดเห็นที่ทำให้ดิฉันรู้สึกดีๆ ขึ้นมาเป็นกองเชียว ขอบคุณจริงๆ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 21:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สงสารคุณ จขกท.จังค่ะ พักเหนื่อยก่อนนะคะ ทำใจให้สบาย...ไม่ทราบจะแนะนำยังงัยดีจริงๆค่ะ จากคุณ : Gifted_Giftie - [ 28 ส.ค. 51 21:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อคืนเราก็ขับรถไปที่บ้านลูกน้องค่ะ   แต่ไปถึง3ทุ่มบ้านเค้าปิดไฟ เงียบหมดแล้ว เมื่อคืนเราก็ขอโทษสามี แต่เค้าก็ไม่รับคำขอโทษเราค่ะ มันก็จริงนะคะ ภรรยาอวดดี หักหน้าเค้า แค่คำขอโทษ มันคงไม่พอหรอก ------------------------------------------------------ วันนี้ทั้งวัน หน้าเรา เค้ายังไม่มองเลย เค้าคงหมดรักเราแล้วค่ะ เราก็ทนไม่ได้ที่อยู่บ้านเดียวกันแล้วกระด้างกระเดื่องใส่กันแบบนี้ เราคงมีทางไปของเราค่ะ ---------------------------------------------------------------- ตลอดมาเราไม่เคยคิดว่าสามีเราบกพร่อง เราระลึกตลอดว่า เค้าเก่ง และดี เราไม่เคยพูดท้าทายใดๆ  เลือกใคร  ชั้นเป็นเมียนะ เพราะเราคิดว่าทุกคนสำคัญหมด ไม่มีใครเก่งคนเดียว เราเป็นเมีย  แล้วไงล่ะ  ไม่ใช่แม่เค้านะคะ ถึงจะพูดแบบนั้นได้ เป็นเมีย ก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่มาคลิกกัน โดยบังเอิญ ก็แค่นั้น ไม่ได้มีความผูกพันทางสายเลือดใดๆเลย บริจาคอวัยวะให้กันยังไม่ได้เลย มีแต่คำอุปโลก  ว่า รัก รัก รัก   แค่นั้น แหละที่หลอกพวกเราให้หลงกล จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 21:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 63 จริงๆวันนี้เราหยุดร้องไห้แล้วนะ ปวดตามาก และมีไข้ด้วย แต่พอเรามานั่งพิมพ์อีกครั้ง เราก็นั่งร้องไห้อีกแล้ว จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 21:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ใจเย็นๆครับ ถามตัวเองก่อนว่ายังรักสามีคุณอยู่หรือเปล่า แล้วลองคิดถึงลูกด้วยนะครับ ว่าหากแยกกันจะอยู่กับใคร อย่าให้ความน้อยใจมาเป็นสิ่งทำให้ชีวิตต้องเปลี่ยนไปอย่างนี้เลยครับ สามีคุณตอนนี้อาจจะไม่ได้โกรธมาก แต่อาจจะงอนมากกว่า คุณขอโทษไปแล้วก็น่าจะผ่อนคลายไปบ้างแล้วแหละครับ จากคุณ : คนรู้มาก - [ 28 ส.ค. 51 21:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 65 วันนี้เมียลูกน้องที่เป็นบัญชี เค้ามาทำงานค่ะ เราเลยขอโทษที่ทุบรถ ------------------------------------------------------ เรื่องราวในบริษัท มันสัมพันธ์กันเป็นวงกลมเลยค่ะ ปกติแล้วตอนดึก เราจะเอาบัญชีเงินสดย่อยมาดู ก็ดูแค่ตัวเลข บวก ลบ ให้ตรงกัน  แค่นั้น บังเอิญเราขี้สงสัย ว่า ทำไมวงเงินเพิ่มขึ้น เรื่อย ๆ กำหนด วงไว้2หมื่น   ตัวเลขตอนจบวัน เพิ่มเป็น 3 หมื่น  จน 4หมื่น เงินที่ขายหน้าร้าน ก็ไม่เอาเข้าธนาคาร เราถามบัญชี เค้าบอกว่า เผื่อซื้อของ  (ก็แน่ละสิ เงินสดย่อยก็มีไว้ซื้อของ) สามีบอกเราว่า  เค้า(บัญชี)ก็ตอบแล้วงัย  อย่าไปจู้จี้เลย เราเลยนับเงินที่เหลือ (นับคนเดียวตอนกลางคืนค่ะ  เพราะกลางวันไม่มีเวลาทั้งคู่) เงินก็ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง หลักพัน หลักร้อย มีศุกร์นึง เงินขาดไปหมื่นกว่าๆ เราเล่าให้สามีฟัง  เค้าบอกว่าก็ไปถามบัญชีสิ แต่ยังหรอกค่ะ เราจะแหวกหญ้าให้งูตื่นได้ไง เรายังซุ่มดูเค้าค่ะ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 21:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เข้ามาเป็นกำลังใจให้อีกรอบ และจะเข้ามาตลอด จนกว่าคุณน้ำว้าวว้าวจะดีกันกับแฟน เอาดอกทานตะวันมาฝากด้วย ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ พักผ่อนเยอะๆ จะได้มีแรงไว้สู้กับวันพรุ่งนี้ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:09:59 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ลืมรูป จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เราก็ยังนับเงินสดย่อยบ้าง ไม่สม่ำเสมอนะคะ แล้วประมาณเดือนก่อน เงินขาดไป 3000บาท เราไปเจอกระดาษที่บัญชีเขียนชื่อสามีเค้าเบิกเงิน 1000/20000 รุ่งเช้า เราบอกบัญชีว่าต่อไปนี้เรามานับเงินสดย่อยบ้างมั้ย จะนับเช้า หรือเย็นดีล่ะ บัญชีหน้าตึงขึ้นมาทันที ถามเราว่า มีอะไรเหรอ ทำไมต้องนับเงิน   ถ้าอยากนับก็นับ เช้าหน กลางวันหน เย็นหน สิค่ะ มีเวลามั้ย พอนับแล้ว เงินขาด3000บาท บัญชีบอกว่าช่างเบิกซื้อของ บิลยังไม่เอามา แต่บอกชื่อช่างไม่ได้ เราถามว่า สามีเธอเบิกไปเหรอ ค่าอะไร เพราะสามีเค้าไม่มีหน้าที่ถือเงินไปซื้อของ (พร้อมยื่นกระดาษชื่อสามีเค้าเบิกเงิน 1000/2000) ชีบอกว่า 1000 นี้เค้าวานให้ไปรับสมุดเช็ค ชีโกหกค่ะ   เพราะ1. อย่างชีไม่สามารถไหว้ววานสามีได้                        2. บริษัทไม่เคยใช้ให้วิศวกรไปทำธุระอื่น                        3. ไม่มีใบมอบอำนาจ                        4. วันถัดมามีรายการเบิดเงิน 1000 ค่าเช็ค ที่ชีไปเองกับคนขับรถ พอเราไล่เบี้ยได้ ชีบอกว่า อุ้ย ลืมไป 1000นี้เอาไปเลี้ยงข้าวช่างที่โรงงาน จับโกหกได้อีก เพราะ ข้าวกลางวันไม่ต้องเลี้ยง ส่วนข้าวเย็นก็มีช่างอีกตนเบิกไปแล้ว ส่วนอีก2000      เอาไปซื้อแบตเตอรี่รถ  แต่ไม่รู้ว่าคันไหน ก็โกหกอีกค่ะ   เพราะ ร้อยวันพันปี ฮีก็ไม่เคยต้องยุ่งเลยเรื่องดูแลรถบริษัท แต่เราก็บอกว่า ก็เอาบิลมาก็แล้วกัน จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 22:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 69 พึ่งได้อ่าน คห 65 คุณน้ำว้าวว้าว   ทำถูกแล้วค่ะ ทำเนียนๆขอโทษไปก่อน มีอะไรในใจเก็บให้มิดเลย แล้วเก็บข้อมูล     เปิดโปงทีหลัง ใช้สมองมากกว่าอารมย์น๊า จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 70 คุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก เวทีนี้คงอีกยาวไกลค่ะ ขอบคุณกับดอกไม้ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 22:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 71 รู้สึกว่า ภรรยาของลูกน้อง  แข็งข้อจังเนอะ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อ่านแล้ว จี๊ดแทนหลายรอบมาก สามี - ภรรยาคู่นี้  เลวได้ใจจริง ผีเน่า กะโลงผุ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ผ่านไป 1อาทิตย์ บิลก็ไม่มี เราถามว่าเคลียเงินหรือยัง  ก็ยัง ตรงนี้แหละ   จุดสำคัญ สามีต่อว่าเราเรื่อง 1. นับเงินสด  บอกว่าไม่ให้เกียรติบัญชี  เค้าจะรู้สึกยังไงที่ไปเฝ้านับเงิน 2. เงิน1000/2000  เราทำผิดที่ไปไล่เบี้ยเค้า สามีบอกว่า ถ้ารู้ว่าเค้าเอาไปก็จบแล้ว ไม่ต้องไปไล่ทีละข้อ จนคนต้องโกหกไปเรื่อยๆ ขืนทำงี้ต่อไป บัญชีเค้าคงลาออก แล้วสามีเค้าก็คงออกด้วย แล้วจะเอาใครมาทำแทน   ถ้าวันไหน2คนนี้ลาออกนะ เธอรับผิดชอบด้วย สามีบอกว่า ถ้าบัญชีลาออกเค้าขอเลือกบัญชี จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 22:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สามีบอกว่า ถ้าบัญชีลาออกเค้าขอเลือกบัญชี กรรม จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:29:04 ]

ความคิดเห็นที่ 75 แอบกลัวเหมือนกันนะ ที่ผู้หญิงบัญชี มาทำงานอีกอ่ะ ไม่รู้เค้าคิดอะไรเหมือนกัน นู๋ว่าพี่พาแฟน  ไปอาบน้ำมนต์  7  วัดเหอะ สงสัยโดนของแล้ว จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สามีบอกว่า  เค้าไม่สนใจเลย ถ้าบัญชีจะเอาเงินไปใช้ก่อน แต่ในที่สุดเงินก้อนนี้ไม่ได้หายไปไหน งงมั้ยคะ กับความคิดนี้ สามีบอกว่า แค่3000 บาทแต่ก็เอามาคืน แล้วเรื่องนี้เราผิด (อีกแล้ว)ที่ไม่มอบให้สามีเป็นคนเคลีย เราผิดหมดทุกข้อ หาความดีไม่ได้เลย จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 22:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขออนุญาต ถามได้ไหม แฟนพี่เป็นผู้ชายจริงป่าว กลัวว่าจะเป็นไบ  อ่ะ เพราะเฮียแกหลงE ลูกน้องมือขวาเหลือเกิน Eลูกน้องมือขวาก็อาจเป็นไบเหมือนกัน มีภรรยาด้วย จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 78 รู้สึกว่า ภรรยาของลูกน้อง  แข็งข้อจังเนอะ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก ไม่อยากคิดแบบนี้ค่ะ ถ้าเรายังคุมเค้าได้อยู่ บางทีเวลาเค้าแข็งข้อ ความซื่อบื้อของเราก็มีประโยชน์นะคะ เพราะซื่อบื้อ ก็คิดไม่ทันกับกิริยาวาจาที่ไม่ดีของเค้า ก็ไม่เอามาใส่ใจ เอาสมองมาเพ่งเล็งที่งานอย่างเดียว ความรู้สึกรับรู้ไวไปก็ไม่ดีนะคะ ซื่อบื้อ ซะบ้าง  ผู้ชายคงชอบ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 22:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ความคิดเห็นที่ 77 เป็นการหัวเราะครั้งแรกของพี่นะนี่ เอ...........   หรือว่ามีหัวข้อใหม่ให้ระดมสมองปัญญาชนคะ อิอิอิ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 22:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เอ่อ...ตกลงสองผัวเมียนี่ จะไปแล้วใช่ไหม ถ้าไป...แล้วคุณจะมาเจียรนัยอีกทำไม คุณไม่หย่ากันแล้วใช่ไหม...เขาปั้นปึ่งกัน....ฉันก้อมีทางไป แต่ไปทำงานต่อที่บริษัท ไปจับผิด   ทั้งที่เพิ่งบอกไม่สนใจ สามีบอกไม่ต้องยุ่งบริษท สรุป ไม่หย่า ไม่เลิกทำงาน  ไม่ยอม  ผัวเมียไม่ไป  จับผิดต่อ   มีโอกาสจะโวยวายใหม่  ไม่สิโรราบ สามีเมิน ฉันก้อมีทางไป แต่ไปทำงาน  จับผิด  หมกมุ่น สาธยาย  วังวน วังวน วังวน เด็กเอาแต่ใจ   คุณแม่ลูกสาม   วังวนชีวิตคู่ที่สามีภรรยาเปิดบริษัทด้วยกัน จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 22:43:57 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุณ รักนะแต่ไม่แสดงออก ดึกแล้ว พี่ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้ลูกๆมีเรียนคุมองจน1ทุ่ม ค่ะ แล้วจะไปmidnightsaleต่อค่ะ หาซื้อชุดให้ลูกๆแสดงคอนเสิร์ตเปียโน ใช้เงินอีกแล้ว ฝันดีนะคะ ขอบคุณที่ปิดกระทู้ด้วยเสียงหัวเราะ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 22:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เย้  เย้  เย้ ดีใจจังทำให้พี่ หัวเราะได้ ไม่แน่นะพี่นะ  ลองสังเกตุดู ผู้ชายสมัยนี้เป็นเกย์กันเยอะ ยิ่งวิศวะ  ด้วยแล้ว  เกย์เยอะมาก เพื่อนที่เรียนกับนู๋  เกย์ทั้งนั้น   แต่มานบอกว่า  จะแต่งงานกับผู้หญิงอ่ะ เพราะเกรงใจพ่อ แม่ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คุณ มิมิแพนด้า เราอ่านหลายรอบแล้ว เราอาจไม่เข้าใจค่ะ ช่วยอธิบายใหม่ได้มั้ย เรื่องหย่า เราพูดกันแล้วค่ะ สามีไม่หย่า และห้ามพูดแบบนี้อีก สามีบอกว่าแม้เค้าจะมีหรือไม่มีเงิน  มีหนี้สินเต็มตัวยังไง จะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ไม่หย่า จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 28 ส.ค. 51 22:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ดีใจด้วยค่ะ   ที่เคลียร์ได้แล้ว จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 22:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 85 บ๊ายบาย   เดี๋ยวไปลุ้นการเมืองต่อ รถไฟหยุดเดินบางส่วนแล้ว ประเทศหาทางออกลำบากขึ้นทุกที ซาโยนาระ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 22:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 86 พี่  มิมิแพนด้า จ๋า พี่ น้ำว้าวว้าว  เค้าแค่ระบายอ่ะค่ะ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้พูดให้ใครฟังเลย ให้พี่เค้าระบายในบอร์ดอ่ะดีแล้ว    ดีกว่าเก็บไว้เยอะ  แล้วระเบิดที่หลังเนอะ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 28 ส.ค. 51 22:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 87 จ๊ะ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 28 ส.ค. 51 23:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 88 สามีบอกว่า ถ้าบัญชีลาออกเค้าขอเลือกบัญชี - เอาค้อนที่ทุบรถทุบหัวสามีตอนหลับแทนได้ไหมคะ -*- จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 29 ส.ค. 51 00:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขอโทษนะครับ สามีคุณทำธุรกิจส่วนตัวมานานหรือยังครับ.. เรื่องตัวเลขนี่เป็นหัวใจของบริษัทเลยนะครับ.. เงินกำลังไหลออกนอกบริษัท โดยไม่รู้ตัว.. อีกอย่าง ไว้ใจ"คนอื่น"มากกว่า"ภรรยา"ของตัวเองได้ยังไง.. จากคุณ : JamesBond - [ 29 ส.ค. 51 02:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ความคิดเห็นที่ 89 บริษัทนี้ 10ปีแล้วค่ะ ดิฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 29 ส.ค. 51 06:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขัดใจมาก ถ้าสามีเชื่อคนอื่นมากกว่าเมียตัวเองนี่ ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว จากคุณ : yatiko - [ 29 ส.ค. 51 09:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 92 แนะนำให้ออดิสมาตรวจครับ 1.บีบให้ออกทั้งผัวเมียเลย สาเหตุที่สามีออกเพราะน่าจะร้อนตัวเรื่องโกงอะไรซักอย่าง ที่เมียยังอยู่น่าจะ กำลังกลบรอยอยู่ บริษํทคุณน่าจะโดนโกงย่อยๆไปเยอะอยู่นะครับ วันละ 1000 แค่ 1 เดือนก็ 3 หมื่นแล้วนะครับ สาเหตุที่สามีโกรธก็เพราะโดนหักหน้า อยากแนะนำไม้อ่อน บอกสามีทุกรายละเอียดและสงสัย บอกเขาว่าลองจับตาดู เก่งแต่โกงก็ไม่เอาไว้นะครับ อยู่ไปบริษัทปิดแน่ๆ จากคุณ : คิดบวก - [ 29 ส.ค. 51 09:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 93 หาหลักฐานแจ้งความเลยครับ สองผัวเมียนี่แย่จริงๆ สามีคุณก็เป็นคนที่แปลกมากๆ แถมผมยังแปลกใจอีกว่า หละหลวมอย่างนี้ ทำไมบริษัทถึงอยู่มาได้สิบปี จากคุณ : หล่อเลิศ ฉลาดล้ำ - [ 29 ส.ค. 51 20:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 94 สงสัยวันนี้พี่ น้ำว้าวว้าว ยังเหนื่อยอยู่ เลยไม่มีเวลามาเล่าความคืบหน้าให้ฟังเลย สู้ สู้น๊า จากคุณ : *--------------------* (รักนะแต่ไม่แสดงออก) - [ 29 ส.ค. 51 20:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 95 คุณ : คิดบวก สาเหตุที่สามีโกรธก็เพราะโดนหักหน้า ---------------------------------------------- คคห 55 : บางทีเมียเถ้าแก่ เข้าไปยุ่งมากๆ ก็จะดูไม่ดีอ่ะนะ เถ้าแก่ก็ดูเสียหน้าไม่ใช่น้อย -------------------------------------------- คงจะใช่ ดิฉันคงยุ่งมากไปจริงๆ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 30 ส.ค. 51 05:38:42 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ปกติแล้ว สามีจะปรึกษาเราทุกเรื่อง ถ้ามีงานใหญ่ๆเข้ามา หรือ มีงานต่างจังหวัด ก็จะปรึกษากันว่าจะรับมั้ย การเงิน เริ่มฝืด   ต้องการเงินก้อนกรณีodเต็ม ยังมายืมเงินส่วนตัวเราไปเลย หรืองเอาเงินสดทำแบงค์การันตี  ก็มาเอาเงินส่วนตัวเรา เวลาสามีมีไอเดียเรื่องการลงทุนทางอื่นๆ เค้าก็จะปรึกษาเรากับปรึกษามือขวา แล้วมือขวาก็จะพาไปดูสถานที่จริง เช่นโรงสี  โรงงานน้ำแข็ง เต้นท์รถ เห็นด้วยกับลูกพี่ทุกครั้งไป ส่วนตัวเรามักจะไม่เห็นด้วยกับไอเดียเค้า เราก็บอกเค้าว่า ไม่ใช่ง่ายๆนะจ้ะ บอกข้อดี ข้อเสียไป หรือบางที่มือขวาก็พาเค้าไปดูซื้อที่ดินบ้าง  ตึกแถวบ้าง พอเค้าพาเราไปดู  เราก็ไม่ซื้อ โถ....  ตึกแถวของราชพัศดุบ้าง  ตึกแถวที่ปิดทั้งแถบ บ้าง ที่ดินมีแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงหรือไม่ก็เสาโทรศัพท์อันบิ๊กเบิ้ม ตั้งอยู่    หรือที่นาที่ลึก(ต่ำกว่าถนนนะค่ะ  แต่ต่ำมาก๊ มาก)จากถนนลงไป ใครซื้อก็เก่งสิค่ะ ------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 51 06:05:06 จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 30 ส.ค. 51 06:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ส่วนเรื่องซื้อ ขาย รถ ก็ปรึกษาเรา  เราบอกว่า รถกระบะแรงๆ เปลืองน้ำมัน น้ำมันแพง เศรฐกิจไม่ดี น่าจะขายยากนะ  ขนาดfortunerที่บ้านคุณยังไม่ขับเลยเพราะเปลืองน้ำมัน   --------------------------------------------- สามีกับมือขวาชอบไปประมูลรถด้วยกัน ชอบรถกันทั้งคู่ ไปด้วยกัน เออ ออ ด้วยกันไป 3เดือนก่อนได้มา2คัน เราก็บอกว่าพอแล้วนะ  เราก็ไม่ซักไซ้ร ว่าเค้าเอาเงินที่ไหนไปซื้อ ต่อมาได้อีก2คัน (รวมคันเจ้าปัญหานี้ 5551 ) ก็เลยเกิดปัญหาจริงๆ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 30 ส.ค. 51 06:18:23 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ฟังแล้วเครียดแทนเลยค่ะ เฮ้อ :s บัญชียังมาทำงานอยู่ มีวี่แววมากว่า ลูกน้องมือขวาก็จะกลับมาด้วย คุณสามีคงไปขอให้กลับมาช่วยแหละ แถมห้ามคุณไปยุ่งอีก ต่อไปถ้าจะมาขอยืมเงินสดส่วนตัวก็อย่าไปให้แล้วค่ะ อิตอนใช้จ่ายไม่คิด ห้ามแล้วไม่ฟัง ยังจะเอาตังค์เราอีก ฝันไปเถอะ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 30 ส.ค. 51 15:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ฟังแล้วเครียดแทนเหมือนกัน ค่อยๆคิด  แก้ปัญหา  ด้วยสมอง แต่ถ้าอยากจะระบายอะไร   ก็ระบายในพันทิปแล้วกัน นู๋พร้อมรับฟังพี่เสมอ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 30 ส.ค. 51 19:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 100 วันนี้คิดได้แล้วค่ะ หลังจากรวบรวมคำแนะนำของทุกท่าน ก็คิดเอง เออเอง หย่า ?? คงไม่ดีแน่  เพราะลูกสาว3คน ไม่อยากเสียภาพพจน์ กับแม่และญาติพี่น้อง ที่สำคัญ (พูดความจริง) ลำพังเราคนเดียว ไม่มีปัญญาหาเงินเลี้ยงลูกได้หรอก เราก็เป็นคนยอม ก็แล้วกัน ยอมเสียหน้ากับพนักงานในบริษัท กำหนดหน้าที่ของเราเลี้ยงลูก ดูแลบ้านก็พอ -------------------------------------------------------- แต่ว่าวิธี อุปอิปเงินบริษัทนี่มีใครทำบ้างคะ แนะนำบ้างสิ เราจะได้ฉลาดๆกับเค้าบ้าง จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 30 ส.ค. 51 20:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 101 อืมม์ เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมรู้สึกว่า...สามีคุณไม่ให้ความสำคัญกับคุณเลยแม้แต่นิดครับ ไม่ว่าจะในฐานะภรรยา ฐานะคนทำงานมีชื่อเป็นเจ้าของบริษัท หรือในฐานะคู่คิด วัดจากไหน วัดจากการที่คุณลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก 3 คน เขายังให้เงินดูแลบ้านและตัวคุณเพียงแค่ 20,000!!! บ้าไปแล้ว ถ้าคุณดูแลบ้านดูแลลูกขนาดนั้น เขาควรให้เงินใช้ส่วนตัวสัก 10,000 ยังน้อยไปเลย แล้วพอคุณทำงานในบริษัท  เขาก็ไม่จ่ายเงินเดือนอีก เหมือนคุณถูก underappreciated มาก สามีไม่เห็นคุณค่าคุณเลย พอเขามาปรึกษาคุณ คุณไม่เห็นด้วย ท้ายที่สุดเขาก็ทำเองอยู่ดี ผมว่าปัญหาบริษัทเป็นตัวสะท้อนปัญหาชีวิตคู่ของคุณสองคนต่างหากครับ ว่าเขามีความสุขและตื่นเต้นในโลกของเขากับลูกน้องมากกว่า (ไปประมูลรถด้วยกัน อาจไปเที่ยวเฮฮาด้วยกัน) แล้วทิ้งคุณไว้อยู่วงนอก สามีคุณเริ่มหมดรักคุณลงทุกที   เพราะฉะนั้นการที่คุณจะทำอะไรรุนแรงไป..ไม่ฉลาดเอาเลยครับ ณ ตอนนี้ผมขอแนะนำว่า..คุณควรจะเก็บออมเงินส่วนตัวให้มากที่สุด แล้วถอนชื่ออกจากบริษัท ถ้าวันหนึ่งถูกโกงหมดจริงๆ คุณจะได้ไม่เจ็บตัว แต่ถ้าคุณไม่อยากถอน มันคือสมบัติของชั้นเหมือนกันนี่นา คุณก็ต้องขอไปทำงานเป็นเรื่องเป็นราว ยื่นคำขาดเลยว่าขอเงินเดือนประจำ แล้วดึงนักออดิตบัญชีมาตรวจดู แตกเป็นแตก ทะเลาะเป็นทะเลาะ ดีกว่าบ.เจ๊ง แต่ผมพนันได้ว่าคุณจขกท.ไม่กล้าครับ เพราะคุณกลัวไม่มีที่ไป กลัวเลี้ยงลูก 3 คนไม่ได้ เพราะถ้าคุณกล้าหาญกว่านี้ คุณยื่นคำขาดไปนานแล้ว ถ้าเช่นนั้น คุณต้องเจอปัญหานี้ต่อไปครับ  คุณต้องเป็นฝ่ายยอม ตรงกลางไม่มีนะครับ ต้องเลือกเอาทางใดทางหนึ่ง ทำได้ไหมครับ? จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 31 ส.ค. 51 01:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ถ้าไม่อยากหย่าเพียงเพราะกลัวเสียภาพพจน์ก็ทำตามที่คุณผึ้งน้อยแนะนำด้วยนะครับ คุณควรได้เงินใช้ส่วนตัวด้วย ไม่ใช่ว่าเอาเงินตัวเองมาโปะเพราะสามีให้ค่าใช้จ่ายในบ้านไม่พอ เพื่อนผมที่เป็นผู้หญิงทำงานเก่งมากๆบางคน เขากลัวเรื่องทำนองนี้จึงไม่ค่อยคิดเรื่องแต่งงาน เห็นบอกว่าถ้าต้องให้เลิกงานมาดูแลบ้าน เลี้ยงลูกอย่างเดียว 5ปี 10ปีต่อมาเกิดสามีทิ้งจะทำอย่างไร สรุปว่าเขากลัวช่วยตัวเองไม่ได้กัน หากโชคร้ายเจอคนไม่ดีเข้า จากคุณ : Gaignun - [ 31 ส.ค. 51 03:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 103 คุณ : ผึ้งน้อยพเนจร ผมรู้สึกว่า...สามีคุณไม่ให้ความสำคัญกับคุณเลยแม้แต่นิดครับ ไม่ว่าจะในฐานะภรรยา ฐานะคนทำงานมีชื่อเป็นเจ้าของบริษัท หรือในฐานะคู่คิด ---------------------------------------------------------------- เราก็เคยคิดเช่นนี้ค่ะ เราเลยดิ้นรน แสดงตนว่าเราสำคัญ เราเก่ง โดยวิธี เขี่ยวเข็ญลูกให้เรียนพิเศษ  ทั้ง คนตรี กีฬา ศิลปะ วิชาการ ให้ลูกสอบเรียนให้เก่ง แข่งวาดรูป แข่งเปียโน สอบเกรด หวังว่าจะได้คำชมจากสามี แต่เปล่าเลย  เค้าเฉยมาก เวลาที่ลูกได้รางวัลมา ----------------------------------------------------------------- เราอยากให้เค้ารู้ว่าเราเก่ง   เราพยายามทำงานหลายอย่าง ไม่ว่าจะpartime  ขายประกัน เล่นทองคำ งานขายประกัน รายได้ดีมาก  ปีก่อนเราได้รางวัลไปออสเตรเลีย เราซื้ออีก1ที่ ให้เค้าไปด้วย  มีความสุขมากค่ะการเที่ยวครั้งนี้ เค้าก็ยังไม่ชื่นชมเรา ปีนี้เราได้รางวัลไปญี่ปุ่น  ซึ่งเราตกลงกับบริษัทว่าจะไปครบ5คน แต่มาทะเลาะกันก่อน  เค้าก็ให้เรายกเลิกการเดินทางไป ------------------------------------------------------------- จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 31 ส.ค. 51 05:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 104 สุดท้าย ยิ่งดิ้น เรายิ่งเจ็บเอง จากที่รู้กันแค่2คน สามีภรรยา ว่าเค้าไม่ได้แคร์เราเลย ก็รู้กันทั้งบริษัท ก็ยิ่งทำงานในบริษัทลำบาก ---------------------------------------------- คุณ : ผึ้งน้อยพเนจร คุณควรจะเก็บออมเงินส่วนตัวให้มากที่สุด แล้วถอนชื่ออกจากบริษัท ถ้าวันหนึ่งถูกโกงหมดจริงๆ คุณจะได้ไม่เจ็บตัว เป็นคำแนะนำที่ดี ที่เราคาดไม่ถึงค่ะ รอให้สามีใจเย็นลงกว่านี้ เราจะถอนชื่อออกจากบริษัทค่ะ เพราะถ้าถอนชื่ออกตอนนี้ เค้าคงประชดเราด้วยการใส่ชื่อลูกน้องเข้าไป  เพื่อไถ่โทษแน่ๆ ------------------------------------------------------------------ คุณ : Gaignun ถ้าต้องให้เลิกงานมาดูแลบ้าน เลี้ยงลูกอย่างเดียว 5ปี 10ปีต่อมาเกิดสามีทิ้งจะทำอย่างไร ก่อนที่เราจะลาออกก็มีแต่คนบอกแบบนี้   แต่เรามัวแต่คิดถึงสามีและลูกค่ะ   ตอนนี้ คนที่เคยบอกไม่ให้เราลาออก คงสมน้ำหน้าเรา จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 31 ส.ค. 51 05:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เข้ามาอ่าน คงแนะนำอะไรไม่ได้ ขอให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : Kissune - [ 31 ส.ค. 51 11:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 106 บางทีสามีคงคิดว่าคุณเก่งกว่าเค้านะคะ (จากที่คุณบอกว่าอยากให้สามีชมแต่เค้าไม่ชม) เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของผู้ชายนะคะ ส่วนเรื่องจะถอนชื่อออกจากบริษัท ขนาดมีชื่ออยู่ยังไม่เคารพกันถอนชื่อไปคงเหยียบหัวกันเลยมั๊ยคะ ถ้าเป็นหุ้นส่วนที่เป็นเพื่อนกันก้อควรจะบ๊ายบายล่ะค่ะ เตือนไม่ฟังรีบถอนตัวปล่อยมันเจ๊งไป แต่นี่สามีคุณนะคะ เค้าหมดคุณก้อหมด  ไหนจะลูกอีกค่าใช้จ่ายเยอะจะตาย ควรเก็บเงินออมให้มากที่สุดอันนี้จิงค่ะ คิดดีๆนะคะอย่างน้อยมีคุณอยู่ก้อยังขวางหูขวางตาลูกน้อง ไม่กล้าโกงกันเท่าไหร่ถ้าคุณลองออกไปโดนโกงหมดแน่ค่ะ คุณพลาดไปหน่อยตรงตั้งใจทำมาหากินในส่วนของตัวเอง โดยไม่ได้เข้ามาดูระบบตั้งแต่แรก ตอนนี้ถึงเวลาแล้วค่ะ ระหว่างวางระบบการควบคุมคุณก้อเก็บข้อมูลการโกงไปด้วย ไอ้พวกปลาซิวปลาสร้อยสามีคุณไม่สนใจหรอกค่ะ เพราะที่ เค้าเต็มใจให้เยอะกว่านั้นอีก (รถคันนั้นไงคะ) หาตัวเลขใหญ่ๆ ไปเซอร์ไพร้สามีดีกว่าค่ะ -- ใช้สติอย่าใช้อารมณ์ โชคดีนะคะ จากคุณ : mae_may - [ 31 ส.ค. 51 15:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ชอบคำตอบของคุณผึ้งน้อยพเนจร ในหลายๆกระทู้ พอมาทู้นี้อีก  ก็ชอบอีก ใช่เลยพี่น้ำว้าวว้าว   ทำตามอย่างที่คุณผึ้งน้อยพเนจร บอกเลยจ้า จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 31 ส.ค. 51 23:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ไม่มีใครสมน้ำหน้าหรอก   ขอบอกเลยว่า ผู้หญิงที่มีลูก มีครอบครัว ส่วนใหญ่คิดแบบคุณทั้งนั้น มีลูก มีสามี เป็นที่ตั้งทั้งนั้น จนลืมนึกถึงตัวเองไปเลย ยังไงเป็นกำลังใจให้  จะตัดสินใจทางไหน คุณเท่านั้นที่จะตอบตัวเอง.....ได้ดีที่สุด จากคุณ : nelumbo - [ 1 ก.ย. 51 16:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 109 จะมาบอกว่า ปัญหาบริษัท ................. ยังแก้ไม่ได้ แต่ปัญหาเรื่องสามีภรรยาโกรธกัน..................... ตอนนี้ดีกันระดับนึงแล้วค่ะ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 1 ก.ย. 51 18:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ปัญหาบริษัท .................ปวดหัวอีกแล้ว ตอนเช้า ชีที่เป็นเมียมือขวา ยังคงมาทำงานอยู่ แสดงว่าชีไม่ลาออกแน่นอน และมือขวาก็คงไม่ลาออกด้วย พอตอนเย็น........... เราได้ยินสามีเรียกประชุมพนักงาน (บ้านเราเป็นโฮมออฟฟิสจ้ะ) (เราว่าจะไม่ยุ่งแล้วเชียวก็อดแอบฟังไม่ได้) จึงรู้ว่า สามีเราเสนอให้มือขวามารับเหมางานช่วงต่อจากบริษัทเรา ที่เรียกว่าซับงานน่ะค่ะ สามีบอกว่าไม่มีใครอยากเป็นลูกน้องไปตลอดหรอก มันมีสองแบบคือ 1 ลูกน้องเปิดร้านเองแข่งกับเราหรือบริษัทคู่แข่งซื้อตัวไป 2  จากกันแบบเป็นคู่ค้ากันอยู่ ซึ่งเค้าเลือกแบบที่สองนี้ และเค้าก็ขอให้เราดูแลออฟฟิสต่อไป  แต่ไม่ต้องเข้มงวดมาก ทำยังไง วะ ทำแบบไม่เข้ม.................. จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 1 ก.ย. 51 21:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ส่วนเราก็มีคิดต่างกับสามี  (อีกแล้ว)ว่า ให้เปิดห้างหุ้นส่วนอีกอันเลย โดยมีสามีและมือขวา ร่วมกัน ประกาศให้ทั่วว่าเราเปิดบริษัทในเครือ บัญชีในบริษัทใหม่ก็ให้บริษัทเราดูแลได้ จะได้ดูทั่วถึง ศัตรูควรเอามาใกล้ๆ มีใครคิดต่างมั้ยคะ จากคุณ : น้ำว้าวว้าว - [ 1 ก.ย. 51 21:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เป็นดิชั้น จะบอกว่างานบัญชีมันซับซ้อน ปีที่แล้วคิดภาษีผิด ปีนี้จากออดิทมาดูดีกว่า เค้าเป็นมืออาชีพกว่า เดี๋ยวก็เห็นตัวเลขออกมาเองว่าโดนไปเท่าไหร่ จากคุณ : drunk on the beach~* - [ 1 ก.ย. 51 22:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ไม่ได้อะไรนะคะ อ่านๆไปแอบคิดว่า บัญชีเนี่ย เป็นเมียน้อย สามีพี่ป่ะคะ คือทำไมเค้าโอ๋กันจังเลย - -* ปล.จ้างบริษัท ทำบัญชี มาดูแลเลยมั้ยคะ ถ้าสนใจสามารถแนะนำได้เพราะว่าที่บ้านก็ใช้บริการเค้าอยู่ค่ะ ตกเดือนละ 4000 บาทค่ะ จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 4 ก.ย. 51 16:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ความคิดเห็นที่ 55 เอ่อ ถ้าเป็นผมจะทำมากกว่านี้อีก เพราะไม่คิดว่าต้นเหตุของปัญหาไม่ได้อยู่ที่คุณ ก็มันบอกแล้วไม่ฟังอ่ะ ลูกน้องกำลังลองดีคุณอยู่นะ.... เหมือนไม่เห็นหัวอ่ะ แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไม ไม่มีมาตรการในการป้องกันการโกง ทั้งๆ ที่ก็รู้ปัญหาของมันอยู่... จัดซื้อทำอะไรอยู่ (แล้วจะมีมันทำไมเนี่ย ให้วิศวะ ไปซื้อเลยไม่ดีกว่าเหรอ จะจ้างมันให้เปลืองค่าแรงทำไม) แต่บางทีเมียเถ้าแก่ เข้าไปยุ่งมากๆ ก็จะดูไม่ดีอ่ะนะ เถ้าแก่ก็ดูเสียหน้าไม่ใช่น้อย ผลลัพธ์มันก็จบไปแล้ว ก็ประคับประคองชีวิตคู่แล้วกัน ขอให้โชคดีครับ... จากคุณ : อยู่กับผี ดิฉันคิดเหมือนกับคุณ อยู่กับผี ค่ะ " ลูกน้องกำลังลองดีคุณอยู่นะ.... เหมือนไม่เห็นหัวอ่ะ " เข้าใจความรูู้สึกของคุณมาก ๆเลยค่ะ ดิฉันก็เป็นอย่างคุณค่ะ มันรับไม่ได้ค่ะ ที่รุ้สีกว่า พนักงานกำลังลองดี ทำเป็นไม่เห็นหัวเราค่ะ ต่อหน้าสามีก็ทำดีกับเราแต่ว่าัลับหลังประมาณว่าไม่สนใจ ถ้าเราบอกให้เขาทำอย่างนึง เขาจะทำอีกอย่างนึง ลองดีกับเรา สามีคิดว่าปัญหามาจากเรา โอ๊ย ช้ำใจอย่างมากมาย เลิกเป็นเลิกค่ะ ขอกลับเมืองไทย จะไม่กลับมาอีก ถ้าต้องเดินอยุ่ในบริษัทอย่างไร้ซี่งศักดิ์ศรี จะอยุ่ได้อย่างไร เราก็เป็นเจ้าของบริษัทนะ บริษัทนะมันชื่อของเรา ถ้าบริษัทมีหนี้สิ้นขี้นมา เราก็เั็ป็นคนรับ ถึงพนักงานคนนี้จะขายเก่งแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทำอะไรได้ตามใจชอบ มันต้องแยกออกจากกัน ทำงานดีก็ส่วนทำงานดี มันจองหองกับดิฉันมากเลยค่ะ ดิฉันก็ช้ำใจไปร้องไห้ไปแทบทุกวัน สามีเริ่มเั็ป็นห่วง งานก็ไม่ได้ไปทำ ขอเลิกกับสามีค่ะ ถ้ามันยังอยุ่เราไป ถ้ามันไปเราอยุ่ จะเอายังไง เืลือกมา มันสำคุญมากใช่ใหม ต่อไปนี้เอกสารทุกอย่าง เอาให้มันเซ้นต์ ถ้าเราอยุ่อย่างมีศักดิ์ศรีไม่ได้ ก็อย่าอยุ่มันเลย คุณเป็นคนเดียวที่จะช่วยฉันได้ ดิฉันบอกกับสามี เล่าสรุปเลยนะคะ ตกลงพนักงานชายคนนี้ก็ยังทำงานต่อไป ดิฉันก็กลับไปทำงานต่อไป พบกันครึ่งทาง ถ้าพนักงานคนนี้ไม่เห็นดิฉันอยุ่ในสายตา พนักงานคนนี้ก็จะไม่อยุในสายตาของสามีของดิฉันเช่นกันค่ะ คนกลางคือสามีนั่นแหละค่ะ สำคัญมาก อย่าไปโอ๋มันมาก ต่อให้เขาเป็นพนักงานดีเด่นยังไง ไม่ได้หมายความว่าจะมาทำเป็็นจองหองไม่เห็นหัวเรา เราก็เป็นเจ้านายของเขาคนหนี่งเหมือนกัน ตอนนี้มันเลิกผยองแล้วค่ะ คุณ จขกท เข้าไปขอโทษสามีของคุณนะคะ อย่าให้ใครเข้ามาทำลายความสุขของครอบครัวค่ะ ใครจะเข้าจะออกมาใ็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคุณ พวกเขาแค่คนนอกค่ะ พวกเขาเป็นแค่ส่วนประกอบชั่วคราวแค่นั้นค่ะ เสียเขาไปก็หาคนใหม่เข้ามาแทน การทำธุรกิจที่ดี ไม่ใช่พนักงานมีความสำคัญเท่านั้น มือของสามีและภรรยาจะต้องจูงไปด้วยกันค่ะ ระบบภายในครอบครัวแข็ง ระบบภายในบริษัทก็จะแข็งแรงค่ะ ภรรยามีส่วนสำคัญมากในด้านการเงินของครอบครัวมาก ๆค่ะ พวกนั้นกินแค่เงินเดือน เขาทำงานให้เราแค่เพื่อเงินเดือนนะค่ะ จากคุณ : = - [ 5 ก.ย. 51 16:44:17 A:87.166.61.197 X: TicketID:131036 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ให้เป็นซับ ก็ดีนะคะ ให้เขาบริหารงานเอง กลัวแต่ว่าจะฮั้วราคาแพงๆ แถมเอาทรัพย์สินเครื่องมือของบริษัทไปใช้ด้วยน่ะสิ (งานก่อสร้างด้วยใช่ไหมคะ) อันนี้ไม่รู้จะป้องกันยังไง ยิ่งเห็นว่ารักเหมือนน้อง ก็คงยอมให้เอาไปใช้ บริษัทใหม่กินกำไรเนื้อๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย จ้างบริษัทบัญชีมาทำก็ช่วยได้ส่วนหนึ่ง รวมถึงผู้ตรวจสอบที่เก่งๆ หน่อย ยอมเสียแพงนิดนึงได้ผู้ตรวจสอบที่ตรวจจริงๆ ไม่ใช่ผู้ตรวจสอบที่สักแต่เซ็นๆ ผ่าน แล้วบริษัทโดนภาษีย้อนหลังอาน แบบที่เจอๆ กัน ยังเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 6 ก.ย. 51 01:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 116 อ่านมาทุกอันจนครบทุกเม้นเลยอ่ะค่ะ.... ใครเจอสภาพสามีแบบนี้ คงเสียน้ำตาไม่รู้เท่าไหร่แล้วนะเนี่ย... ไม่ได้จะปลอบใจหรืออะไรนะคะ เพราะว่า ในนี้ทุกคนให้กำลังใจมาแยะแล้ว... แต่...แอบคิดนิดนึงว่า .... แล้วมะกลัวว่า พวกเค้า สองคน จะมาแอบอ่านพันทิพและรุ้ความคืบหน้าในการตรวจสอบของ จขกท หรอคะ มะได้จะมากวนให้ระแวงกันเองในนี้นะคะ...แต่เป็นห่วงง่ะ ผ่านพ้นไปได้ไว ๆ นะคะ...อ้อ...อย่างที่มี คห บน ๆ บอกว่า สามีคุณโดนของรึป่าว แอบคิดแบบนั้นเหมือนกันนะนี่ - -' จากคุณ : raccoon_n - [ 6 ก.ย. 51 13:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 117 อ้อ อีกนิดนึงนะคะ... สามีคุณเป็นคนเก่งมากรึป่าว แบบเรียนเก่ง ได้เกียรตินิยม หรือ เคยประสบความสำเร็จมาก ๆ มาก่อน จนคนรอบข้างทึ่ง หรือ ยกย่องมากมาย.. ถ้าใช่...คุณคงเจอของยากเข้าแล้ว (แต่มะได้ให้ท้อนะ) ..เพราะ แบบนี้เท่ากะว่า เค้าจะเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง เชื่อว่าตัวเองเก่ง..เชื่อว่า บริหารคนเป็น ..เชื่อว่า ซื้อใจลูกน้องที่มันกำลังคิดจะทรยศ ให้กลับมาภักดีได้ ด้วยวิธีต่าง ๆ นานา (ที่คิดเอาเองว่า จะขุนหอกข้างแคร่ ให้กลายเป็นมือเอกที่ภักดีได้)... งานนี้นึกไรมะออกจิง ๆ นอกจากคุณต้อง...... เหมือนซูเปอร์วูแมนอ่ะ...ที่...ดีเพียบพร้อม... ปล. สามีคุณอาจจะเป้นพวก คิดว่าผู้ชายต้องเหนือเมีย รึป่าว... ต้องเก่งกว่า ทุกอย่างทำนองนั้น แต่..............สู้ ๆ นะ.................อย่าปล่อยให้โดนโกง แต่........ก็ต้องเตรียมพร้อมเผื่อสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ... หาทางต่อยอดเงินส่วนตัวของตัวเอง และ กันเอาไว้ยามฉุกเฉิน เป็นสิ่งที่ต้องทำมากในตอนนี้นะคะ สู้ ๆ จ้า จากคุณ : raccoon_n - [ 6 ก.ย. 51 13:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ผมว่าสามีเจ้าของกระทู้เป็นเกย์แน่ๆเลยอ่ะ ไม่ได้ล้อเล่นนะ จากคุณ : Jamie - [ 6 ก.ย. 51 15:37:43 A:58.8.212.225 X: TicketID:162535 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เรื่องนี้คล้ายๆกับเรื่องของพ่อแม่เราเมื่อตอนเรายังเด็ก พ่อเราเปิดอู่ซ่อมรถ แต่ไม่เคยสนใจในรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆเลย บัญชีก็ไม่สนใจ ช่างจะเบิกเงินซื้อของก็ให้เงินไป ไม่ดูว่ไอ้ที่ซ้อมันจำเป็นหรือเปล่า ตรงสเป็กหรือเปล่า พวกเครื่องไม้เค่รองมอ อุปกรณ์ต่างๆ ใช้แบบทิ้งๆขว้างๆ น้อตหล่นพื้นก็ไม่เก็บ ใจดีกับลูกน้องสุดๆ ตอนนั้นแม่เราดำรงตนเป้นช้างเท้าหลัง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอู่ของพ่อเท่าไหร่ นานจะเข้าไปซะที แต่ถึงจะนานๆไป พวกลูกน้องก็ไม่ค่อยชอบแม่เรา เพราะไปแล้วก็จะไปเข้มงวดกับลูกน้อง สุดท้ายอู่เจ๊ง พ่อเราเกือบกลายเป็นคนล้มละลาย ติดหนี้คนเป็นล้านๆ ในสมัยสามสิบกว่าปีก่อนนี่เงินล้านไม่ใช่เงินน้อยๆเลย ส่งผลให้พวกเราลำบากมาก อยากได้อะไรก็ไม่เคยได้ ไม่เคยได้ใช้เงินตามใจตัวเองซะที บ่อยครั้งที่เราคิดว่าถ้าพ่อเราทำงานอย่างละเอียดรอบคอบ ไม่ปล่อยลูกน้องจนเกินไป เรากับพี่คงสบายกว่านี้มาก โชคดีที่แม่เราปฎวัติยึดอำนาจพ่อได้สำเร็จ แม่เราจึงสามารถล้างหนี้ได้สำเร็จ ปัจจุบันมีบ้านสองหลัง รถสองคัน ส่งเรากับพี่และหลานอีกสามคน(น้องอีกสองคนเป็นเด็กกำพร้าแม่เราส่งเสียเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก)เรียนจบปริญญา โดนเฉพาะเราจบปริญญาโท ทุกอย่างในบ้านเป็นเงินที่แม่เราหามาทั้งนั้น พ่อเรากลายเป็นช้างเท้าหลังโดยสมบูรณ์แบบ ไม่สามารถมีปากเสียงอะไรได้อีก เรากับพี่รู้สึกตรงกันว่า ถ้าตอนนั้นให้แม่เราบริหารงานแทน อู่รถคงไม่เจ๊ง ตอนเด็กเราคงไม่ลำบาก ขนาดต้องกินข้าวต้มกับไข่เค็มหนึ่งลูกแต่แบ่งกันสี่คนหรอก คุณจขกท ต้องใจเย็นไม่ต้องโวยวายให้เขารำคาญเลยค่ะ ถ้าลูกน้องมือขวาเขาออกไปพร้อมกับเมียของเขา เราก็ทำงานแทนซะเลย และพร้อมกับจัดระเบียบการทำงานภายในบริษัทด้วยซะเลย หรือไม่เราก็จ้างตนใหม่เข้ามาแทน บอกกับสามีคุณว่าให้มันรู้ไปว่าขาดสองคนนี้แล้วบริษัทจะเจ๊ง ถ้าสามีคุณไม่พอใจก็เฉยๆค่ะ แบ่งหน้าที่ระหว่างตุณกับสามี เช่นเขาหาลูกค้า คุณดูแลเรื่องการเงิน บัญชี สต๊อก ฝ่ายบุคคล งานติดต่อกับลูกค้าภายนอกให้สามมีเป็นคนรับผิดชอบแล้วไม่ต้องก้าวก่ายกันค่ะ จากคุณ : แม่เฒ่าจิบน้ำชา - [ 8 ก.ย. 51 02:12:31 A:58.64.108.115 X: ]

ความคิดเห็นที่ 120 ถ้าเป็นแบบเดียวกันกับของคุณแม่เฒ่าจิบน้ำชา  จ้างให้ออกเลยดีกว่าไหมเนี่ยะ    เอาไปเลย 12 เดือนล่วงหน้าทั้งสองคน    แล้วเราจะได้จัดการง่าย ๆ จากคุณ : nelumbo - [ 9 ก.ย. 51 09:41:45 ]