ความคิดเห็นที่ 1 ไม่รู้จะช่วยเจ้าของกระทู้ไงดีค่ะ  อ่านแล้วมึนเหมือนกัน  ส่งเบอร์โทรคนที่พอรู้เรื่องvat7% ให้เจ้าของกระทู้ทางหลังบ้านแล้วนะคะ  ยังไงก็ลองโทรไปปรึกษาดูละกันค่ะ  ว่าทางไหนพอจะลดหย่อนได้บ้าง  หรือพอจะผ่อนชำระได้ไหม จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 28 ส.ค. 51 23:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลองปรึกษาสภาทนายความไหมครับ วัน-เวลาราชการ โทร 0-2281-6463, 0-2281-5170, 0-2281-8308 ^_^ จากคุณ : กะต่อ - [ 29 ส.ค. 51 00:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยกับคุณกะต่อเจ้า  ลืมสภาทนายไปเลย @^ 0 ^@ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 29 ส.ค. 51 01:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ประจำ มันชอบนึกได้ตอนเลยไปนานแล้ว รากับปีที่แล้วมันไม่ได้ทำงาน เลยย้อนไป 2 ปี จากคุณ : 4004 (lifemirror) - [ 29 ส.ค. 51 05:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไอ้คนที่ประชาชนอยากให้เก็บสรรพากรมันดันไม่ไปเก็บ เฮ้อ ราชการไทย จากคุณ : น้ำค้างเดือนเก้า - [ 29 ส.ค. 51 06:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คือมันไม่อยากเก็บท้ากสิน ก็ต้องมาเก็บกับคนทำงานอย่างนี้แหล่ะ รายได้ ล้านแปด หลายปี จะเก็บแปดแสน     ผมน่ะ ไม่อยากเสียภาษีให้ไอ้พวกนี้ ทุกวันนี้ก็กรวดน้ำตอนเสียภาษีให้มัน   ทั้งนายก  รัฐมนตรี  ทหารขี้ครอก จากคุณ : anonyS - [ 29 ส.ค. 51 07:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ช่วยเหลือค่อนข้างยากครับ กรณีนี้ เพราะ จขกท ผิดเต็มๆ ไม่ได้ซ้ำเติมนะครับ เพียงแต่ว่า ตามบทบัญญัติคือ ผู้กระทำผิด จะกล่าวอ้างว่า ที่ทำผิดเพราะไม่ทราบกฎหมาย นั้นไม่ได้ ที่ดีที่สุดคือ การต่อรองกับสรรพากรครับ ให้อยู่ในจำนวนเงินที่พอจะรับได้ และขออนุโลมการ ผ่อนชำระ และขอละเว้นการเก็บเงินเพิ่ม (1.5% ต่อเดือน แต่ไม่เกิน จำนวนภาระภาษีที่ถูกเรียกเก็บ) หากการต่อรองไม่ได้ผล และนำไปสู่ศาล ถ้าหากแพ้ขึ้นมา จะมี "ดอกเบี้ย" ตามมาด้วยนะครับ จากคุณ : kitz - [ 29 ส.ค. 51 09:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 งง ไม่ได้เปิด บ. หรือ ห้างหุ้นส่วนต้องเสีย vat ด้วยเหรอ อย่างมากสุด ก็ภาษีเงินได้ไม่ใช้เหรอครับ งง สุดที่จะ งง จากคุณ : muk_22 - [ 29 ส.ค. 51 09:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นบุคคลธรรมดาแล้วมีรายได้เกิน 1.8 ล้านต้องจดทะเบียน vat 7% ด้วยเหรอคะ ขอความรู้หน่อยคะ แล้วพวก MD หรือผู้บริหารที่มีรายได้เป็นหลายๆล้าน ซึ่งเกิน 1.8 ล้านแน่นอน อย่างนี้ถือว่าเกี่ยวด้วยไหมคะ สงสัยจัง จากคุณ : อากิ (i_picnic) - [ 29 ส.ค. 51 09:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ#8 ถ้ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปี กฎหมายบังคับให้จดครับ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา ร้านค้า หรือบริษัท จากคุณ : MAX - [ 29 ส.ค. 51 09:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แนะนำให้ต่อรองกับเจ้าหน้าที่ดีกว่าจะไปฟ้องร้องกัน ไม่ใช่เราไม่ยอมจ่ายภาษีเพียงแต่อาจจะจ่ายไม่ถูกต้องเท่านั้น ดิฉันขายวัสดุก่อสร้างเคยถูกเรียกย้อนหลังสูงๆแบบนี้แหละ เพราะยอดเงินมันสูงมากแต่ก็มีการคุยต่อรอง ชี้แจงสารพัดเหตุผลกับเจ้าหน้าที่ คุยตั้งแต่คนที่เรียกตรวจไล่ขึ้นไปจนถึงระดับสูงเลย ในที่สุดก็ตกลงกันได้ในยอดที่เราพอจ่ายได้และสรรพากรรับได้ จากคุณ : jomo (jomoland) - [ 29 ส.ค. 51 09:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพเป็นปกติธุระ ไม่ว่าจะประกอบกิจการในรูปของบุคคลธรรมดา คณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิใช่นิติบุคคล หรือนิติบุคคลใด ๆ หากมีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน โดยคำนวณภาษีที่ต้องเสียจากภาษีขายหักด้วยภาษีซื้อ อ้างอิง เว็บกรมสรรพากร http://www.rd.go.th/publish/7061.0.html ถึง คหที่ 9 ครับ ผู้บริหารพวกนั้นมีรายได้ประเภท 1 นั่นคือเงินเดือนครับ ยื่นแบบ ภงด 91 ขณะที่ จขกท มีรายได้ประเภทอื่นๆ ที่ต้องยื่น ภงด 90 ภาษี VAT เอามาใช้กับรายได้ที่ไม่ใช่เงินเดือนครับ เห็นใจเจ้าของกระทู้มากๆ ครับ ผมเองก็เคยผ่านเหตุการณ์นั้นมาก่อน แต่โชคดีกว่าที่ไม่ถูกย้อนหลังมากนัก ( ผมโดนหลักหมื่น ) ผมเชื่อว่าคุณสามารถผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ครับ ถ้าจะต่อสู้ขอให้ปรึกษาทนายก่อนครับ เสียค่าปรึกษาน่าจะไม่แพง ขอให้ทำใจไว้ก่อนล่วงหน้าเลยนะครับ เพราะต้องยอมรับว่า คุณเป็นฝ่ายผิดกฏหมายจริงๆ การอ้างในชั้นศาลว่าไม่รู้กฏหมายนั้นไม่ได้ครับ สิ่งที่พอจะทำได้คือการยื่นขอผ่อนชำระภาษีได้ 6 งวด โดยไม่มีดอกเบี้ยครับ จากคุณ : Cecil - [ 29 ส.ค. 51 09:51:49 A:58.8.161.113 X: TicketID:097746 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ดีจริงๆเนาะ คนบางคนเลี่ยงภาษีได้หลักหมื่นล้าน ดันตามเก็บไม่ได้... ...หรือพอโดนเงินฟาดปากก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ก็ไม่รู้ได้ เห็นใจจขกท. แต่ถ้าดูตามคคห.ข้างบนๆ ตามกฎหมายแล้วก็ผิดเต็มๆ แนะนำปรึกษาสภาทนายความเช่นกันครับ รู้กฎหมายได้ประโยชน์ เพราะอย่างนี้นี่เอง จากคุณ : OxfordGuy - [ 29 ส.ค. 51 10:05:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 29 ส.ค. 51 10:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตามคห12 ถูกต้องนะครับ สงสัยว่าเจ้าของกระทู้มีรายได้ประเภทไหนหรอครับ สรรพากรถึงให้เสีย vat จากคุณ : twist_t - [ 29 ส.ค. 51 10:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วถ้าสินค้าที่เรานำเข้ามาและจำหน่ายเป็นสินค้าได้รับการยกเว้น VAT ล่ะคะ จะต้องจด VAT ด้วยไหมคะ จากคุณ : veryveron - [ 29 ส.ค. 51 11:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอโ?ษครับ คุณ 3d-animator ช่วยบอกผมที่เถอะว่า ตกลงคุณมีรายได้กี่ทาง เท่าที่จับประเด็นได้ คุณมีรายได้ 2 ทาง คือ เป็นพนักงานบริษัท กับ รับงานพิเศษ รับงานพิเศษคุณคืออะไร และ รายได้เท่าไหร่ต่อปีครับ ที่ถามเช่นนี้ เพราะว่า อยากรู้ว่าที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปีนี่ จากรายได้ทั้ง 2 ประเภท หรือ รายได้ประเภทเดียว - ถ้ามาจากรายได้จากรับงานพิเศษ ก็ต้องพิจารณาตาม คห12. - ถ้ามาจากทั้ง 2 ประเภท อาจจะใช้ในการต่อสู้ได้ครับ จากคุณ : เตร็ดเตร่ - [ 29 ส.ค. 51 11:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จริงครับ ที่ว่าบุคคลธรรมดา มีรายได้เกินกว่ากี่ล้านบาท ตามที่ กม.กำหนด จะต้องจด Vat พนักงานธนาคารบางคน ขายประกันได้เบี้ยมากกว่า 2 ล้านต่อปี แต่ไม่อยากเสียภาษี Vat ก็เลยซิกแซกขายในนามตัวแทนคนอื่น พอเงินโอนเข้าบัญชีตัวแทนคนอื่น เขาก็เลยปลอมลายเซ็นถอนเงิน จากบัญชีตัวแทนคนนั้น ธนาคารก็เลยเชิญออกไปขายประกันอย่างเดียวครับ จากคุณ : Knight - [ 29 ส.ค. 51 12:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณ คุณ : MAX  มากครับ ผมก็พึงจะรู้นะเนี่ย ทั้งๆๆ ที่จขกท ก็ไม่ได้เปิดร้านค้าอะไรกับต้องเสีย แปลกดีเหมอืน กัน จากคุณ : muk_22 - [ 29 ส.ค. 51 12:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณพระเจ้า ที่มีคนโดนเหมือนผม ผมทำฟรีแลนซืเหมือนคุณและครับ เป็นพนักงานบริษัทด้วย ผมยอมรับว่าผมหลีกเลี่ยง โดยจ่ายภาษีบางจ๊อบ บางจ๊อบก็ตีมึนไม่จ่าย เมือ่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา สรรมพากร โทรมาตอน 6 โมงเย็น นอกเวลาราชการ และพูดจาด้วยน้ำเสียงที่ดูหมิ่นที่สุด ให้เข้าไปคุยและชำระเพิ่มเติม นู้นนี่นั้น เครียดเลยครับ ผมอยากบอกว่า คนทำฟรีแลนวืไปด้วย ถ้าไม่จน ไม่ทำหรอกครับ มันเหนือ่ย แต่พ่อผมเป็นอัมพาต แม่ก็ต้องดูแล ที่บ้านไม่มีรายได้ น้องก็เรียนหนังสืออีกสองคน แล้วขอลดหย่อนพ่อแม่ก็ไมไ่ด้ เพราะอายุยังไม่ถึง60 ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆครับ แต่ต้องมาซวยเพราะว่ายังงี้ครับ สมมุติ ค่าจ๊อบ 100,000 บาท ต้องมีทุนจ้างคนอื่น นู้นนี้ 80,000 บาท ตอนที่ลูกค้าจ่าย จะหักTax 3 เปอรืเซ้นช่ายป่ะครับ ก้จะได้ตังมา 97000 บาท จ่ายค่าจ้างคนอื่นไป 80,000 + Vat7%ต้องจ่ายภาษีเพิ่มตามรายได้ฐาน10 --เค้าบอกผมมาแบบนี้ครับ เค้าถือว่ารายได้ผมได้มา 100,000 บาทเต็ม ไม่มีทุน ดังนั้นเค้าจะเก็บภาษีผมเพิ่ม 10,000-3000 = 7000 บาท สรุปว่ากำไรจากจ๊อบนี้จะเหลือ 11400-7000= 4400 บาท นี่ครับเหลือ 4400 บาท จากที่เก็บลุกค้า มา 100,000 ค่าแมสเซนเจอร์ ค่าปริ้นงาน ค่าไฟ ยังไมไ่ด้เลยครับ แล้วจะให้ผมตามจ่ายครับได้ยังไง ในเมือ่บุคลธรรมดาโดนหนักแบบนี้ ผมก็ต้องหาเลี้ยงครอบครัวเหมือนกัน เอาเงินไปจ่ายค่าเทอมน้อง ค่ายาพ่อดีกว่าครับ แต่ที่เสียความรู้สึกที่สุด คือการโดนโทรมาพูดจาไม่ดีใส่ผม ตอนเย็นวันอาทิตย์ เครียดมากครับ ยังไมไ่ด้ไปเคลียร์ หลายหมื่นเหมือนกัน แต่ไม่มากเท่าเจ้าของกระทู้นะครับ เห็นใจเจ้าของกระทู้มากๆ ได้ข่าวว่าอ๊อฟฟิชผมโดนกันไปหลายคน จากสรรมพากรสำนักงานเขต วัฒนา --พูดแค่นี้จะโดนฟ้องมั้ย มีทางออกแล้วช่วยให้ความรู้ผมเพิ่มเติมด้วยนะครับ จะได้หาทางแก้ ขอบคุณมากครับ ปล. ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องภาษีหรอกครับ แต่คิดๆว่าเข้าใจประมาณนี้ อาจจะคิดไม่ถูกรบกวนให้ความรู้ด้วยครับ ผมจะได้ฝึกตัวเองให้ถูกต้องครับ จากคุณ : Art-Di บ้านจน - [ 29 ส.ค. 51 15:16:51 A:10.137.129.125 X:202.183.146.5 TicketID:105819 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กรณีของคุณ ควรจะพิจารณาเป็นสองกรณีน่ะ หนึ่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %คงต้องเสีย แต่เบี้ยปรับ สามารถลดลงได้ต่ำกว่าที่เจ้าพนักงานสรรพากรประเมินไว้(อาจได้ลดทั้งหมด) โดยการยื่นจดหมายต่ออธิบดีฯขอลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มต่ออธิบดีฯ (วิธีนี้ดีกว่า)หรือ ให้เจ้าพนักงานสรรพากรประเมินภาษีไป และขออุทธรณ์ภาษี ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ภาษี(เสี่ยงไปหน่อย) อีกทั้งภาษีซื้อที่เกิดขึ้นช่วงเวลานั้นก็ไม่สามารถนำมาใช้หักจากภาษีขายได้ด้วย(ตามคำพิพากษาฎีกา) สอง ในส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การหักค่าใช้จ่ายที่สรรพากรให้หัก จะมีให้เลือกสองแบบ คือแบบเหมาจ่าย(ซึ่งสรรพากรอาจใช้วิธีนี้คิดภาษีให้คุณ) กับอีกแบบคือหักค่าใช้จ่ายตามจริง  ซึ่งถ้าคุณสามารถแสดงได้ว่าค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนของคุณมีมากกว่าแบบเหมาจ่ายได้ ก็ควรเลือกแบบหักค่าใช้จ่ายตามจริง  จะทำให้คุณมีส่วนต่างเพื่อคำนวณภาษีน้อยลง ส่วนการที่สรรพากรตรวจสอบเจอ เกิดจากระบบคอมฯกรมสรรพากรที่ใช้เก็บข้อมูล การหักภาษีณ ที่จ่าย ที่คุณถูกหักไว้  มันจะไปปรากฎ เปรียบเทียบกันกับแบบแสดงรายการภาษีที่คุณยื่นไว้ ซึ่งมันไม่ตรงกัน จึงทำให้เกิดกระบวนการตรวจสอบเกิดขึ้น และกว่าจะเจอเลยกินระยะเวลาล่วงมาหลายปี เคสนี้มีคำพิพากษาฏีกา เกิดขึ้นแล้วรอหาดูจากเวปศาลภาษีอากรดูครับ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๕๕๑/๒๕๔๙ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๔๙๒/๒๕๔๙ จากคุณ : mr.we - [ 29 ส.ค. 51 16:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ คห.20 ถ้าคุณเก็บเงินเค้ามา 107 บาท แสดงว่า เป็นยอดรวม VAT นะครับ รายได้คุณแค่ 100 บาท VaT 7 บาท WHT (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ) สมมุติเป็นรายได้ค่าเช่าก็ 5 บาท สรุปคุณได้รับเงิน 102 บาท คุณต้องส่งสรรพากร 7 บาทในส่วนของ VAT พอปลายปี สมมุติคุณต้องเสียภาษี 50 บาท คุณสามารถนำ 5 บาทที่โดนหักมาลบได้ จะเป็นคุณเสียภาษีแค่ 45 บาท หรือถ้าปลายปีคุณเสียภาษี 1 บาท ส่วนที่คุณโดนหักไป 5 บาทคุณก็จะขอคืนได้ 4 บาทครับ ขอคืนภาษีในรูปบุคคลธรรมดาไม่ยากนะครับ ส่วนใหญจะได้คืนแทบทุกคน แต่ถ้าเป็นรูปบริษัทไม่มีความเห็นครับ จากคุณ : ปป-5 - [ 29 ส.ค. 51 16:48:16 A:10.29.37.130 X:203.144.139.230 TicketID:170723 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถาม คุณ Art-Di บ้านจน ความเห็น 20 คุณรับงานเฉย ๆ ไม่ได้จดทะเบียน VAT อะไรใช่มั๊ยครับ แล้วคุณยื่นเสียภาษีไป รายได้เกิน 1.8 ล้านบาทหรือเปล่า ถ้าคุณพิสูจน์ได้ว่า รายได้ไม่ถึง 1.8 ล้าน แสดงว่าเจ้าหน้าที่มันมั่วครับ คุณไม่ต้องเสีย VAT 7% คุณไม่มีความรู้อะไรเลยแบบนี้ถึงได้ถูกขูดรีดเลือดเนื้ออยู่ไง ริจะเป็นคนไทย ไม่มีเส้นสาย กฏหมายอะไรพวกนี้ หาเข้าหัวเยอะ ๆ ครับ ผมว่างาน outsource ของคุณเข้าข่ายเงินได้บุคคลธรรมดาแบบไหน ซึ่งน่าจะเข้าข่ายอยู่ 3 แบบคือ 40(6), (7) หรือ (8) ตามนี้ http://www.rd.go.th/publish/553.0.html ดังนั้น เงินได้จากส่วนนี้ทั้งหมด คุณสามารถนำมาหักค่าใช้จ่ายได้ตามที่กฏหมายกำหนด รายละเอียดว่าหักได้ กี่ % ก็ตามนี้ http://www.rd.go.th/publish/556.0.html จะเห็นได้เลยว่า กฏหมายบอกว่า คุณสามารถหักตามจำเป็นและสมควรได้ ดังนั้นคุณต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า คุณมีค่าใช้จ่าย 80,000 บาทเกิดขึ้น เมื่อคุณพิสูจน์ได้แล้ว รายได้ 100,000 ของคุณ ก็จะถูกหักรายจ่ายออกไป ดังนั้น รายได้ที่คุณต้องนำไปคำนวณภาษีคือ 100,000 - 80,000 = 20,000 บาท คุณบอกเสียภาษีที่ฐาน 10% ก็หมายความว่า คุณควรเสียเพียงแค่ 2,000 บาท บวกค่าปรับอีกตามที่ท่านจะปรับ แต่ว่า คุณเสียภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว 3% จาก 100,000 ซึ่งก็คือ 3,000 บาท ตามที่คุณบอกว่า ได้มา 97,000 บาท ****** ตรงนี้สำคัญแล้วนะ ****** 1. พิสูจน์ให้ได้ว่า คุณมีค่าใช้จ่ายตามจริง 80,000 บาท 2. เงินได้คุณที่ผ่านมา ไม่ถึง 1.8 ล้านบาท หรือเกณฑ์ที่ต้องจด VAT 3. คุณถูกหัก ณ ที่จ่ายไปแล้ว 3% หรือ 3000 บาท 3. ถ้าผ่านข้อ 1,2,3 ได้ ถ้าผมเป็นคุณอย่าว่าแต่ไปเสียภาษีเลย ผมจะไปขอภาษีคืนด้วยซ้ำ เนื่องจากว่าผมเสีย ณ ที่จ่ายไป 3,000 แต่ต้องเสียจริง 2,000 ดังนั้นผมจะขอคืน 1,000 บาท และไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มเติมเลยอีกต่างหาก เข้าใจตามนี้เปล่าครับ? แต่ถ้าคุณไม่ตรงตามที่ผมเข้าใจ ก็ไปหาที่ปรึกษาทางด้านภาษีดีกว่าครับ จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา *********** ขอ Comment นิดหนึ่ง **************** ตามความเข้าใจผม ผมคิดว่าเงินได้จาก outsource ของคุณ น่าจะเข้าข่ายประกอบวิชาชีพอิสระ 40(6) หรือ รับเหมา 40(7) ซึ่งถ้าคุณสามารถทำให้รายได้คุณเป็น "รับเหมา" หรือ 40(7) ได้ ก็ตามนี้ - 40(7) สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 70% เท่ากับว่า รายได้ที่คุณต้องยื่นคือ 30,000 บาท - แต่คุณเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายไปแล้ว 3% จาก 100,000 เท่ากับว่า คุณไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มอีก แต่ถ้ารายได้คุณไปตกอยู่ที่ 40(6) - พิสูจน์ให้ได้ว่ามีรายจ่ายเกิดขึ้น 80,000 บาท (ต้องมีหลักฐานนะ) คุณจะขอภาษีคืนได้ 1,000 บาท ตามข้างบน - ถ้าทำไม่ได้ คุณคงหักรายจ่ายได้แค่ 30% จาก 100,000 นั่นคือ คุณต้องเสียภาษี 7,000 ในอัตรา 10% แต่คุณเสีย ณ ที่จ่ายไป 3% คือ 3,000 หมายความว่าคุณมีความผิดที่ไม่ยื่น และต้องจ่ายเพิ่มอีก 4,000 บวกค่าปรับ ก็ตามนี้ครับ ************ Comment รอบ 2 **************** ถ้าคุณต้องเสียภาษีเพิ่มอีก 7,000 ตามที่สรรพากรว่าละก็ บอกได้เลยว่า คุณโดนเจ้าหน้าที่หลอกซะแล้ว บ้าเหรอจ่ายภาษี 10,000 จะไม่ให้หักค่าใช้จ่ายตามกฏหมายเลยเหรอ เตรียมตัวให้ดี จากที่จะโดนฟัน จะเป็นฟันเค้ากลับแทนครับ *********** Comment สุดท้าย ************ ถ้าเกิดว่าสุดท้ายแล้ว รายได้คุณส่วนนี้ มันดันถูกตีความว่าเป็น 40(1) หรือ 40(2) ล่ะก็ ตามที่เจ้าหน้าที่เค้าว่ามา ก็ถูกต้องแล้วล่ะครับ คุณต้องจ่ายเพิ่มอีก 7,000 + ค่าปรับ ก็ซวยไปล่ะกันนะ ถือว่าเป็นค่าความไม่รู้ ยังดีแค่ไม่กี่พัน (รวมค่าปรับด้วยอาจจะถึงหมื่น) แต่ผมคิดว่า รายได้แบบนี้ น่าจะไปตกอยู่ที่ 40(6) มากกว่า ลองไปปรึกษาคนที่มีประสบการณ์ยื่นเสียภาษีรายได้แบบคุณดูละกันครับ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 51 22:03:30 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 51 19:07:26 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 51 19:04:05 จากคุณ : Morning Star - [ 29 ส.ค. 51 18:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ Morning Star รบกวนดูหลังไมค์ มีส่งคำถาม ข้อสงสัยเรื่องภาษีค่ะ ขอความรู้หน่อยนะคะ จากคุณ : wendyprog - [ 29 ส.ค. 51 20:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ปวดหัวแทนเลยอ่ะ 7 แสนกว่า เราไปสลบดีกว่า จากคุณ : สลัดผักรวม - [ 30 ส.ค. 51 15:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ปรึกษาทนายค่ะ ถ้าไม่สะดวกให้ข้อมูลในนี้ เท่าที่อ่านดู ไม่น่าจะต้องจ่ายมากขนาดนั้นค่ะ ตอนนี้ไปจดทะเบียน VAT ก่อนเถอะค่ะ จากคุณ : บุษยมาศ - [ 30 ส.ค. 51 20:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เบื่อ สรรพากรเหมือนกัน ไม่มีการประชาสมัพันธ์ห่าอะไรเลย ทีวี ก็มีแต่ละคร  เรื่องที่มีประโยชน์ไม่เคยทำ ไม่เคยประชาสมัพันธ์ แล้วทีคนที่มันเลี่ยงภาษีเป้นหมื่นๆ ล้าน  ไม่มีคนไหนไปตามเก็บ เยินจริงๆ จากคุณ : Dirty_Face - [ 31 ส.ค. 51 10:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ได้แต่ต่อรองให้เสียน้อยที่สุดครับ ยังไงก็ต้องเสีย หลายปีก่อนแม่ผมมีรายได้จากการให้เช่าที่ดินไม่รู้จะเสียภาษีอย่างไร ไปขอคำแนะนำที่สรรพากรเจ้าหน้าที่แสนจะใจดี แนะนำแถมกรอกรายละเอียดให้เสร็จ แม่ผมเซ็นต์ชื่ออย่างเดียว แต่เวนกรรม เจ้าหน้าที่ดันคิดผิด(ใครจะไปรู้วะ) โดนครับ โดนย้อน พูดเหมือนคุณแหละว่าเราต้องรู้ เจ้าหน้าที่คิดแล้วกรอกข้อมูลให้อย่างเดียว เรามีหน้าที่ตรวจสอบก่อนเซ็นต์ชื่อ 555(ถ้ากรูรุ้ไม่ไปให้มรึงคิดให้หรอก) ผมจำยอดไม่ได้แต่ประมาณสองล้านกว่าบาทครับ เซ็งจิต แถมมีขู่อีกด้วยนะว่าถ้าฟ้องแล้วแพ้จะต้องเสียเท่าไหร่คิดให้ดูกันเลย จากคุณ : เคยเจ็บใจที่โดนมา - [ 31 ส.ค. 51 16:36:23 A:58.9.19.53 X: TicketID:027045 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมไม่คิดว่าคุณจะต้องเสียมากขนาดนั้น กรณีรายได้คุณเข้าข่ายต้องจด vat แต่คุณไม่ได้จดเนี่ย คุณก็จะผิดข้อหาไม่ได้จดVat ซึ่งมีค่าปรับ มีบทบัญญัติอยู่แน่นอน   แต่คิดว่าไม่มาก  อาจจะแค่หลักพัน ส่วนการที่เจ้าหน้าที่จะปรับย้อนหลัง 2 ปีนั้น เขาขู่คุณมากกว่า คุณยังไม่ได้อยู่ในระบบ vat  ยังไม่เคยออกใบกำกับภาษี จะเอาความผิดในระบบ Vat มาบังคับไม่ได้   ถ้าคุณอยู่ในระบบ vat แล้ว ขาย ไม่ออกใบกำกับภาษี  หรือ ออกใบกำกับภาษีแต่ไม่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม อันนี้ผิดแน่นอน ซึ่งจะมีเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม มากมาย ตามคำขู่ เจ้าหน้าที่พวกนี้ มักขู่ด้วยเหตุผล 2 ข้อ 1 อยากได้กล่อง  คือได้เงินมากๆ เข้ากรมเพื่อให้ตัวเองได้หน้า 2 อยากได้เงิน เผื่อคุณจะติดสินบนเขา เพื่อให้จ่ายน้อยลง ดังนั้น เขาจึงมักขู่เว่อร์  ให้คุณกลัว และพอคุณเอ่ยปากจะให้ เขาก็จะทำเป็นลด หรือประเมินน้อยๆ เพื่อว่า นอกจากจะได้ทั้งเงิน ทั้งกล่อง  คุณยังอาจเป็นหนี้บุญคุณด้วย วิธีสังเกต ว่าเขาขู่หรือไม่ ง่ายนิดเดียว ให้เขาแจ้งประเมินเป็นลายลักษณ์อักษร ด้วยเอกสารเป็นทางการ เอกสารของทางราชการ  ไม่ใช่คำพูดหรือเอกสารส่วนตัวของเขา คุณไม่ต้องท้าเขา  แค่เลื่อนนัด โยกโย้ อ้างไม่มีเงิน ฯลฯ ดึงเรื่องไปเรื่อย เดี๋ยวเขาก็จะเป็นฝ่ายออกอาการเอง เช่น เอ่ยปากว่า จ่ายเท่านี้ได้ไหม เนี่ย ช่วยเหลือแล้วนะ  ถ้าจ่ายมาจะได้จบเรื่องไป ถ้าเขาเห็นประเด็นว่าคุณผิดจริง  และคุณทำท่าโยกโย้ เขาก็จะไม่รอ  แต่จะทำเรื่องประเมินเลย  และถ้าทางการจะประเมิน ต้องเป็นความผิดชัดแจ้ง   อ้างอิงมาตราตามกฏหมายได้ ซึ่งคุณ ก็ยังพอมีเวลา ที่จะดูว่าผิดตามข้อกฏหมายใด นำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้  พอมีเงินจ่ายได้หรือ จะแบ่งชำระ ฯลฯหรือจะอุทธรณ์หรือไม่ คำขู่ที่ไม่ได้ผิดจริงตามกฏหมาย  เขาจะไม่กล้าเขียนลงในเอกสาร เพราะมันจะเป็นหลักฐานมัดตัว  และคนลงนามในเอกสารประเมิน ก็เป็นระดับบังคับบัญชา  ซึ่งจะไม่กล้ามั่วเหมือนปาก ที่พูดออกมาง่ายๆ จำไว้ว่า เจ้าหน้าที่สรรพกร มีหลักในการทำงาน คือ ขู่ให้กลัว และให้คุณมอบตัวเอง  หมายถึง ทำให้คุณเป็นผู้สารภาพผิด โดยหลอกล่อให้คุณเป็นผู้กรอกแบบฟอร์มเสียภาษีเพิ่มเติมเอง ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณสารภาพไปแล้ว แม้คุณอาจไม่ได้กระทำผิด แต่คุณเป็นคนยื่นแบบเอง (โดยเขาอาจเตรียมฟอร์ม ตัวเลข ให้คุณลงชื่อ) นั่นถือเป็นความสมัครใจของคุณ  ไม่ใช่ความผิดของเขา และก็จะไม่มีใครตามมาพิสูจน์ว่า ตกลงคุณผิดหรือไม่ผิด เพราะเมื่อคุณยื่นแบบ และจ่ายภาษีเพิ่มแล้ว เรื่องกจะจบ เจ้าหน้าที่ก็บรรลุเป้า  ผู้บังคับบัญชาก็พอใจ กรมสรรพากรก็ไม่รับรู้แล้ว  (ขอแค่หาเงินเข้ารัฐให้พอใช้ก็พอ ผิดถูกตามหลักการ หรือ มนุษยธรรม ไม่สนใจ ทั้งสิ้น) ที่จริงน่าตั้ง web site ช่วยเหลือ ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่รีดไถ พวกที่เจอปัญหา มารวมตัวกัน  ผู้รู้เข้ามาร่วมให้ข้อคิดเห็นกฏหมาย หากผู้เสียภาษีทั่วประเทศ นับแสนราย ที่ถูกข่มขู่ รวมตัวกัน อุทธรณ์เนี่ย สงสัยว่า กรมสรรพากรจะทำอย่างไร จากคุณ : มีประสบการณ์ - [ 31 ส.ค. 51 22:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เพื่อนเป็น freelance เช่นกันค่ะ   เขาจะจดเป็นคณะบุคคล เพื่อแบ่งรับรายได้ค่ะ โดยรายได้ส่วนหนึ่งเข้าเป็นส่วนตัว และอีกส่วนเป็นของคณะบุคคล และเพื่อเป็นการวางแผนการชำระภาษีปลายปีด้วยค่ะ ลองเข้า google search คำว่าคณะบุคคลนะคะ มีข้อมูลเพียบเลยค่ะ ขอให้ผ่านพ้น วิกฤตนี้ไปด้วยดีค่ะ  ใจเย็น ๆ นะคะ ไม่พร้อมก็ขอเลื่อนไปก่อนเรื่อย ๆ ผ่อนผันได้  ขอแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ก็ได้  ไม่ต้องเครียดมากนะคะ ทุกปัญหาต้องมีทางออก สู้สู้ จากคุณ : prettypoom - [ 1 ก.ย. 51 09:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอเพิ่มเติมบางส่วนนะคะ 1. ยอดรายได้ที่ใช้คำนวณ vat ที่ถูกปรับ คือยอดรายได้ของปีที่เค้าปรับ หลังจากที่เกิน 1.8 ล้านแล้ว และยอดทั้งหมดของปีถัดไป 2. รายได้คุณถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายทั้งหมดหรือเปล่า ถ้าใช่ไม่สามารถเลี่ยงได้ 3. การตีความเป็น 40(2) หรือ (6) หรือ (7) หรือ (8)    3.1 40(2) กรณีค่านายหน้าที่ทำคนเดียวไม่มีสำนักงาน ไม่มีลูกน้อง  หัก ค่าใช้จ่ายได้แค่ 60,000.- รวมกับ (1) ด้วย สำหรับคุณเราเข้าใจว่า น่าจะใช้หักกับเงินเดือนของคุณหมดแล้ว    3.2  40(6) ไม่ใช่ว่าตีความเป็น (6) ได้ จะเป็นเฉพาะประเภทที่กำหนดเท่านั้น เช่น หมอ นักแสดง บัญชี ลองอ่านเพิ่มเอา    3.3  40(7) เฉพาะ รับเหมาก่อสร้าง    3.4  40(8) จะคล้าย ๆ กับ 40(2) แต่ถ้าจะตีความต้องเข้าข้อกำหนด เช่น มีสถานประกอบการ  มีลูกจ้าง ต้องเข้าระบบvat เป็นต้น ถ้าเข้าตามนี้ จะหักค่าใช้จ่ายตามจริงได้ ซึ่งจะดีกว่า 40(2) ได้แค่ 40% ไม่เกิน 60,000.- บาท เท่านั้น    แต่ 40(8) คุณต้องจัดทำบัญชีให้เรียบร้อยเพื่อให้ค่าใช้จ่ายของคุณมีหลักฐานถูกต้อง     เพิ่มเติม 1. ตามที่เพื่อข้างบนบอก     1.1 คุณควรของดเบี้ยปรับ ซึ่งน่าจะได้     1.2 คุณจะต้องเสียภาษีจาก  7% ของเงินได้ที่เกิน 1.8 ล้านของปี 49 และ 7% ของ เงินได้ปี 50 จากยอดเงินได้ที่ถูกหักไว้ ซึ่งไม่สามารถเลี่ยงได้เพราะคุณมียอดที่คนจ่ายเงินคุณหักไว้     1.3 คุณต้องเสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน ของภาษีข้อ 1.2 ไม่สามารถลดได้เช่นกัน 2. ถ้าคุณจะมีรายได้เช่นนี้ต่อไป ควรไปทำให้ตัวเองเข้า40(8) ส่วนใหญ่จะยากตรงที่ต้องจด vat แต่คุณโดนจดไปแล้ว เพียงทำให้ทีสถานประกอบการ และ พนักงาน จะได้หักรายจ่ายเป็นรายจ่ายจริง 3. การคำนวณภาษี แม้ว่าคุณจะมีรายจ่ายมากจนหลือกำไรน้อย เมื่อคำนวณภาษีแล้ว  ยังต้องเอามาเทียบกับ 0.5% ของรายได้ เป็นภาษี อันไหนมากกว่า เสียตามนั้น      ดังนั้นจะเห็นว่า บุคคลธรรมดา ยังไงก็ตามต้องเสียภาษี คุณจะขาดทุนให้ตายก็เสียภาษี       ถ้าคุณมีรายจ่ายที่เกี่ยวเนื่องจับงานของคุณสูง (ไม่ใช่รายจ่ายส่วนตัว) ควรจัดตั้งเป็นบริษัท เพราะ ขาดทุนได้ และเสียภาษีตามกำไรที่เกิด    ขอโทษด้วยเขียนยาว เพราะอยากให้คุณมีความรู้ขึ้น จะได้เตรียมตัวทำให้ถูกต้องต่อไป ไม่ต้องกลัวการประเมินภาษี    สงสัยอะไรหลังไมค็มาถาม จะพยายามหาคำตอบให้ จากคุณ : จุก (khunnawat) - [ 1 ก.ย. 51 14:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณทุกๆคนครับ อยากถามคุณ  "มีประสบการณ์" ผมมีเซ็นต์บันทึกถ้อยคำทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่เค้าเขียนมาครับ แต่ยังไม่ได้เซนต์แบบฟอร์มอะไรเลย ยังไม่ได้จด vat ด้วยครับ อย่างนี้ผม เพลี่ยงพล้ำ ไปรึยังครับ แต่เจ้าหน้าที่พยายามให้ผมจด vat ก่อน เพื่อจะได้ลดค่าปรับ อีกล้านกว่าบาทไป แต่ไม่ยอมลด ดอกเบี้ยเงินเพิ่มนะครับ จากคุณ : 3d-animator - [ 2 ก.ย. 51 00:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ยังครับ  คำให้การเนี่ย  แค่เศษกระดาษ ฉีกทิ้งได้ การจด Vat จะส่งผลให้คุณต้องเริ่มออกใบกำกับภาษี และเข้าสู่ระบบอย่างแท้จริง ทางที่ดี คุณ ไปจดคณะบุคคล  และเจรจาลูกค้าขอใช้ชื่อคณะบุคคลรับงาน เพื่อแบ่งเบาภาระยอดรายรับลงก่อน ซึ่งอาจจะทำให้ รายได้ปี 51 ไม่เข้าเกณฑ์ต้องจด vat แค่นี้คุณก็หยุดปัญหาของปี 51 ลงแล้ว สำหรับปัญหาที่ค้างมาจากปีก่อนๆ  ก็อย่างที่บอกไว้ สำหรับเทคนิคอื่นๆ ในรายละเอียด ผมขอไม่ตอบในที่แจ้งนะครับ หลังไมค์ดีกว่า  ไม่อยากถูกเจ้าหน้าที่สรรพากรเพ่งเล็ง หลายๆคนในที่นี้ ที่เข้ามาตอบ มีความรู้ทางกฏหมายภาษีดีพอควร แต่ประเด็นอยู่ที่ข้อเท็จจริงที่แต่ละคนได้รับ ซึ่งเกิดจากคำบอกเล่า อาจไม่ชัดเจนพอ แต่ละคนก็จะตอบไปตามประสบการณ์ของตน ลองโทรปรึกษา บ.ธรรมนิติ ดูครับ บริษัทนี้ค่อนข้างเก่าแก่ และน่าจะตอบคำถามโดยอ้างอิงมาตราตามประมวลรัษฎากร ตลอดจน อ้างอิง แนวทางคำพิพากษาของศาลภาษีอากร และมีประสบการณ์สูงมากกว่า บริษัทรับทำบัญชีทั่วไป ประเด็นของผม ที่ฟังจากคุณ ก็คือ คุณยังไม่เคยจดvat ไม่เคยออกใบกำกับภาษีขาย  ไม่เคยเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้า แล้วจะไปผิดในข้อหาที่เกิดจากการออกใบกำกับภาษีได้อย่างไร ( เว้นแต่ว่า คุณไม่ได้อยู่ในระบบvat แต่ดันออกvat และเรียกเก็บจากลูกค้า อันนี้เข้าข่ายออกใบกำกับภาษีปลอม โทษหนัก ) หวังว่าคงพอยิ้มได้  คลายเครียดลงบ้างนะครับ พยายามคุยกับหลายๆคน แล้วนำมาประเมินสถานการณ์ และค่อยๆคิดอ่านไป ปัญหา ก่อให้เกิด ปัญญา และ ปัญหามีไว้เพื่อแก้  ไม่ใช่เพื่อ เอาไว้แบก จากคุณ : มีประสบการณ์ - [ 2 ก.ย. 51 08:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ มีประสบการณ์ ช่วยเช็ค  หลังไมค์ ด้วยนะครับ หรือว่า ผมขอเบอร์โทรทางหลังไมล์ด้วยได้มั้ยครับ จากคุณ : 3d-animator - [ 4 ก.ย. 51 01:08:00 ]