ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเก็บไว้ คนใต้บังคับบัญชาเค้าจะเสียไปด้วย เค้าจะกลายเป็นอีกขั้วอำนาจแล้วคุณจะเอาไงหละ ถ้ารอเค้าอยู่จนเก๋าๆ แล้วเกิดใช้ไม้ตายไล่ออกแล้วลูกน้องเค้าพากันหยุดงานให้เค้ากลับมาคุณจะทำไง วันดีคืนดีไม่มาทำงานซักอาทิตย์นึง งานไม่เสีย การปกครองเสียไหม? ผมถามว่าถ้าเนื้อร้ายขึ้นในสมองจะตัดทิ้งดีไหม หรือจะปล่อยไว้ให้มันลุกลาม จากคุณ : Black-ops - [ 11 ก.ย. 51 22:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอแยกประเด็นเป็น 3 ประเด็นนะครับ 1.  คนที่ performance ดีๆ แต่เจ้าเล่ห์ egoสูง จะเก็บไว้ไหม    ถามเล่นๆว่า  เอาคนอ่อนน้อมถ่อมต้น  ซื่อๆจริงใจ  แต่ทำงานไม่ดี  น่าสนใจกว่าไหม    สำหรับผม  แมวจับหนูได้ จนในบ้านไม่มีหนู   กลางวันจะนอนขี้เกียจยังไง ผมก็ไม่สน    กลางคืนจะร้องหง่าว จะอาววๆ ก็ช่าง  จะทำตัวเป็นแมวเกเรไล่กัดแมวข้างบ้านผมก็เฉยๆ    แต่ถ้าขี้รดเรี่ยราดในบ้านจนเหม็นสุดทนเนี่ย ก็ไม่ไหว ก็ต้องไสหัวเจ้าเหมียวจอมซ่าส์ออกจากบ้าน    ดังนั้น คงต้องแยกแยะดีชั่ว หนักเบา ให้ออก  แล้วพิจารณาให้ดีว่าอะไรคือเป้าหลัก  อะไรเป้ารอง    ถ้าแยกไม่ออก  กว่าจะหาแมวที่ได้ดังใจทั้งจับหนูเก่ง เรียบร้อย  หนูคงเต็มบ้านไปก่อน 2.  เจ้าของ  VS  ผู้จัดการ     ปัญหานี้ผมค่อนข้างสนใจมานานแล้ว   เพราะเราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป     ตั้งแต่กิจการโรงน้ำแข็งยันทีมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 555     ปกติเจ้าของมักคิดว่าตัวเองมีศักดิ์และสิทธิ์เต็มที่ในการจัดการใดๆก็ตามที่คิดว่าถูกต้อง ซึ่งนั่นไม่ผิดเลย     แต่ปัญหาคือ  สาเหตุที่เราจ้าง  ผู้จัดการมาเป็นมือเป็นทีนให้เราเนี่ย  ไม่ใช่เพราะให้มาทำงาน day to day operation หรอกหรือ     เห็นด้วยว่าถ้ามีอะไรไม่ถูกไม่ควร  เราก็ควรไล่เบี้ยกับผู้จัดการเอา แล้วให้ไปดำเนินการตามความต้องการเรา     หลายครั้งที่ความคิดไม่ตรงกันระหว่างเจ้าของและผู้จัดการ     ก็คงต้องไปทบทวน บทบาทหน้าที่ ของตัวเองว่า  ตกลง กรูหรือมันว้าที่ผิด 3.  การสร้างอำนาจต่อรองของน้องเหมียว    แมวเวลาจับหนูไปมากๆเข้า วันนึงก็นึกขึ้นมาว่าหากขาดกรูไป หนูคงเต็มบ้าน ว่าแล้วก็ยิ่งนัดกันหยุดงาน  ขู่ลาออก  หยุดไม่มีเหตุผล  เรียกร้องเงินเดือน    มันเป็นการขีดเส้น โดยเริ่มจะเป็นการลองตีเส้น  ถ้าคุณยอม พื้นที่เขาก็เยอะขึ้น  ซึ่งที่ผ่านมาคุณอาจพลาดที่ยอมมาให้หลายๆอย่าง        วิธีแก้ก็ง่ายๆ  เปลี่ยนแมว  ซะงั้น (เมี้ยวว)    แต่ปัญหาคือ  การหาตัวใหม่มาแทนคงไม่ง่ายเหมือนใจคิด    ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำคือ   ไม่เปลี่ยนแมว  แต่ทำให้แมวรู้ว่า  เราไม่ง้อแมว    ผจก.ลูกน้องคุณท่าทางจะเริ่มอหังการ ซึ่งผิดที่คุณปล่อยปละละเลยจนขาดวินัย    สังเกตดูว่าเขาพยายามจะขีดเส้นตีวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ  และคุณก็ยอมเรื่อยมา ดังนั้นมันจึงยากหากจะดึงกลับ    คุณควรเริ่มแผนในการเอาผจก.คนนี้ออก (แต่ยังไม่ต้องเอาออก)    เตรียมหาคนแทน  หรือทำเอง ซึ่งน่าจะหาแนวทางได้ไม่ยาก (ดูจากที่บอกว่า คนนี้หยุดบ่อย ระหว่างนั้นคงมีการทดแทนได้)    หรือวิธีใดๆที่ลดภาระพึ่งพิงนี้ออกไปให้ได้    เมื่อไรก็ตามที่คุณลดภาระพึ่งพิงกลับมาสู่สถานะปกติ    คุณก็สามารถแสดง positionให้เค้าเห็นว่า   เค้าสามารถถูกปลดออกได้ตลอด    สร้างอำนาจกลับคืนมา    ในทางกลับกัน  หากธุรกิจคุณต้องพึงพิงเขา  ไม่สามารถหาคนแทนได้ คุณเองก็ทำแทนไม่ได้  มันก็ชัดเจนมากว่าเขาเป็นคน contribute value    แนวทางก็จะเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ โชคดีครับ ^^ จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก - [ 11 ก.ย. 51 23:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยกับ คุณ ความคิดเห็นที่ 2 แต่วิธีแก้ขอเสนอ "ให้หาคนมาคานอำนาจเค้าครับ" สำหรับเรื่องเวลางานเนี่ย ไม่น่าซีเรียสเท่าไหร่ ถ้างานไม่เสีย แต่การที่ตอกบัตรให้คนอื่นเนี่ย แล้วไปรับผลประโยชน์นี่ ไม่ไหวครับ ต้องคุย ว่าสิ่งที่เค้าทำมันไม่ดีไม่งามครับ จากคุณ : um_exact - [ 12 ก.ย. 51 00:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปัญหามันอยู่แค่ว่า ธุรกิจคุณ ขาดคุณ หรือขาดเค้า แล้วจะตาย?? ถ้าขาดน้องคนนี้แล้ว ธุรกิจคุณไม่รอดแน่ ๆ ก็คงต้องปล่อยไป แต่ถ้าขาดแล้ว คุณยังประคองได้ ไม่เจ๊ง หรือไม่ขาดทุน ก็ควรเชือดซะ พระเดช พระคุณ ใช้ให้เป็น คุณเป็น the boss นะ จากคุณ : Morning Star - [ 12 ก.ย. 51 00:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลอกคราบเอาข้อมูลฐานลูกค้ากลับมาทั้งหมดก่อน แล้วค่อยถีบส่ง วิธีลอกคราบก็เล่นง่ายๆส่งมือขวาคุณเข้าไปประกบซะ ถ้าคุณไม่มีมือขวาก็ทำให้มีหรือหามา จากคุณ : Jump.Jr - [ 12 ก.ย. 51 06:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วุ่ย มีตอบกันเยอะแยะแต่เช้าเลยเชียว... ขอบคุณนะคะ ถามว่าขาดน้องคนนี้ไป ธุรกิจเรารอดมั้ย... รอดค่ะ แต่เราจะเหนื่อย(มาก)หน่อย ตั้งแต่มีน้องมา เราสบายไปเยอะมากๆ เพราะเค้าสามารถจัดการทุกอย่างแทนเราได้ คิดโน่นคิดนี่แทนเราได้ หัวไวมากๆ คือก็ชื่นชมเค้าในเรื่องการทำงานตลอดมา แต่ติดที่พฤติกรรมบางอย่างเท่านั้นเอง เราไม่ชอบคนตุกติก ไม่ซื่อสัตย์อ่ะค่ะ แต่ no one perfect อ่ะนิเนอะ ตอนแรกเราก้อปล่อยเค้าเต็มที่อ่ะค่ะ แต่กลายเป็นว่าต้องลงมาดูมากขึ้นเพราะเรื่องเงินๆทองๆเนี่ย วันดีคืนดี ไปบอกลูกน้องว่าจะขึ้นเงินเดือน ไม่ถามเราซักคำ เพราะคนจ่ายเงินอ่ะเรา ลดราคาสินค้าโดยไม่บอก เพราะหวังให้ขายมากขึ้น แต่น้องไม่รู้เรื่องต้นทุนกับพวก fix cost ไรพวกนี้ หารู้ไม่ ลดจนจะเท่าทุนอยู่แร๊ว กลายเป็นยอดขายเฟื่อง กำไรหด แต่จริงรับไม่ได้นี่เรื่องอมเงินอ่ะค่ะ อมเนียนๆ จนเราระแวงว่าจะมีมาแบบไหนอีก พอจับได้ หาว่าเราไปจับผิดเค้า ไม่ไว้ใจเค้า ไม่คิดซะเรยว่าที่ตัวเองทำนั่น ถือว่าทุจริต ถ้าทำงานดีๆไม่เล่นแง่ เราคงไม่ต้องลงมาแบบนี้หรอกค่ะ ถ้าเป็นขงจื๊อ จะให้ตัดทิ้งทันที ปล่อยมานไป ถ้าเป็นโจโฉ  หลอกใช้มันให้หมดประโยชน์แล้วค่อยเจี๋อนทิ้ง -_-" ตอนนี้ เริ่มให้ทาง agency ช่วยหาคนให้แล้วล่ะค่ะ แล้วก็ดูน้องเค้าไปก่อนด้วย ขอบคุณ คุณ Black-ops , คุณ วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก , คุณum_exact , Morning Star และคุณ Jump.Jr  สำหรับทุกคำแนะนำค่ะ ใครมีความเห็นอะไร แนะนำอีกได้นะคะ ชอบๆ ชอบฟังความเห็นหลากหลาย จากคุณ : ซักวันหนึ่งเราจะครองโลก... - [ 12 ก.ย. 51 08:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่ บ.เก่าเคยมีเคสแบบนี้ค่ะ ทำงานเป็นเซลล์ ยอดดีมากถือว่าเป็นคนสร้างรายได้ของ บ.เลยก็ว่าได้ แต่พี่แก ขาด ลา มา สายบ่อย นึกจะหยุดก็หยุด บางทีอ้างไปหาลูกค้าทั้งๆที่ไม่ได้ไป  แต่ยอดขายก็ดีกว่าคนอื่น แต่นายรับไม่ได้ เรียกมาเตือนค่ะ  แต่ก็ยังทำอีก ต่อจากนั้นนายก็เริ่มหาเซลล์คนใหม่ ให้คอยประกบพี่คนนั้นตลอดเวลา เริ่มแบ่งลูกค้าให้คนใหม่ดูแลบ้าง  และพี่เขาก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ไม่กระเตื้อง นายก็ให้ใบเตือน จนครบ 3 ใบค่ะ แล้วเชิญออก นายบอกว่าแม้พี่เขาจะทำงานเก่ง ยอดขายดี แต่ไม่เคารพกฏระเบียบของ บ.ก็ไม่ควรเอาไว้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อคนอื่น และคนอื่นก็จะทำตาม ทีนี้ก็จะเละเทะไปกันใหญ่ค่ะ จากคุณ : khunrarin - [ 12 ก.ย. 51 09:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมให้ออกครับ เสียระบบการปกครอง คนไม่ซื่อสัตย์ไม่เลี้ยงครับ จากคุณ : ลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ - [ 12 ก.ย. 51 11:01:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 evrything is fine, It's just working style. But this, "ผู้จัดการคนนี้ จะตอกบัตรลงเวลาแทนให้ แม้ในวันที่ลูกน้องไม่มา เพื่อที่จะหักเงินในส่วนนั้นเข้ากระเป๋าตัวเองแทน -_-"  ": This is un exceptable. We called "cheating". I would suggest you to slowly draw him out, and replace with someone you can "trustable". Then next 3-4 month. You may want to reconsider again. What you'll going to do with him. best wishes, vee แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 51 12:45:44 จากคุณ : tanoy_delphi - [ 12 ก.ย. 51 12:44:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขาดเขาแล้วเราไม่รอดนี่ ผมว่าเป็นความคิดที่ผิดมากๆเลยนะ ในโลกนี้ มี case นี้ด้วยเหรอ จากคุณ : ผ่านมา (เดินดงพงไพร) - [ 13 ก.ย. 51 15:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คนที่ไม่ทำตามกฎและ ประเพณี นิยมของบริษัทแล้ว จะเก็บเอาไว้ จะทำให้ระบบโดยรวมของบริษัท เสียหาย ตอนนี้ก็ถือว่าเสียหาย มากขึ้นเป็นลำดับ ๆ ตั้งแต่ การ มาสาย คิดว่าตนเอง เป็นคนสำคัญของบริษัท มาจนถึงการ โกงเงิน ซึ่ง แบบนี้ถือว่ารับได้ ? สิ่งที่พนักงานคนสำคัญทำงาน ก็สร้างทีมไปรวมงานเพื่อจะ สร้างคนให้รู้งานและวิธีปฎิบัต เมื่อเวลาผ่าน  พนักงานคนนี้อาจจะเปลี่ยนความคิด จากสิ่งรอบข้าง หรือไม่ก็สมควรลาออก เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะทำให้ระบบเสีย จากคุณ : VanillaS - [ 13 ก.ย. 51 20:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วขาดเค้าแล้วคุณไม่รอดจริงหรือเปล่าหล่ะ ถ้าไม่ใช่ ก็อย่ารอให้ใช่เลย จากคุณ : จุก (khunnawat) - [ 14 ก.ย. 51 11:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องนี้ปัญหาเกิดจากการที่คุณไม่มีเวลาให้กับธุรกิจของคุณ ทั้งนี้ การปล่อยปะละเลยกับพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ เป็นสิ่งที่คุณผิดพลาด การสร้าง Double Standard ทำให้ภาพลักษณ์ของคุณต่อพนักงาน ดูแย่ลง การเอาแต่ใจของผู้จัดการเป็นผลพวงของการกระทำของคุณ ดังนั้น ผลที่ได้จากเหตุที่คุณก่อ ก็ส่งผลให้คุณเห็นแล้วว่า ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เมื่อถึงขั้นนี้ อาจจะมีทางให้คุณเลือกเดินคือ 1. ไล่ออก - วิธีการง่าย แต่ผลเสียอาจจะเกิดกับองค์กร ทั้งนี้ ถ้าไม่ที่สุดจริงๆก็อย่าทำ 2. หาคนมาทำตำแหน่งเขา และเมื่อเรียนรู้หมด ก็ไล่ออก - วิธีการนี้ โอกาสที่จะหาคนมาเรียนรู้หมดคงยาก อาจจะเกิดการกั๊กวิชา หรือ ข้อมูล ทำให้งานแย่ลงอีก 3. หาคนมาทำตำแหน่งเดียวกัน และ ให้มีการแข่งขันยอดขายกัน - วิธีการนี้ ทำให้ยอดขายขององค์กรเพิ่มมากขึ้น ลดความสำคัญของคนเก่าลง และ บอกให้คนเก่ารู้ว่า เขาเองก็ไม่ใช่ว่าสำคัญที่สุดแล้ว จากนั้น ค่อยเอาเรื่องพฤติกรรม มาเป็นตัวกำหนดว่า เขาจะทำอย่างนี้ หรือ ให้คนอื่นแซงไป ทั้งนี้ เขาอาจจะลาออกไป แต่อย่างน้อยคุณก็มีคนแทนแล้ว 4. สร้างภาพถึงความก้าวหน้าในบริษัทฯ และ จุดมุ่งหวังในตัวเขา - ถ้าไม่สามารถเอาเขาออกได้ ให้สร้างภาพความฝันของเขาขึ้น โดยบอกเขาว่า คุณอาจจะได้เลื่อนเป็นผู้จัดการทั่วไป หากคุณไม่ทำ..... ทั้งนี้ ขอให้เขาเปลี่ยนแปลง และคุณจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง 5. หาคนมาทำเป็น ผู้จัดการทั่วไป และให้เขามาควบคุมคนนี้อีกที - หาผู้จัดการทั่วไปมารับผิดชอบงานต่างๆแทนคุณ เพราะคุณไม่มีเวลามากพอในการดำเนินงาน และ ให้ผู้จัดการทั่วไป จัดการกับผู้จัดการคนนี้แทนคุณ ยืมมือคนอื่นฆ่า ทำให้คุณดูดี และ อาจจะทำให้องค์กรดีขึ้นด้วย 6. ไม่ต้องทำอะไร และ ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้ - ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เขาอีกที เพราะลักษณะนี้ เขาจะเริ่มกอบโกยมากขึ้น และ ทำผิดมากขึ้น คุณก็จะไล่เขาออกเอง หรือ เขาอาจจะทำให้คุณล่มจมได้มากจนคุณคิดไม่ถึง 7. ให้พนักงานลงมติว่าจะเอาคนนี้อยู่หรือเปล่า - ให้พนักงานทั้งหมดโหวตว่า พนักงานคนนี้เป็นอย่างไร เป็นการประจานเขาว่าเขาทำพฤติกรรมที่สุดจะทนของคนในองค์กร ซึ่งไม่ใช่ว่าคุณอยากจะเอาเขาออก แต่เป็นเสียส่วนใหญ่ขององค์กร ทั้งนี้พนักงานก็จะรู้ว่า พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จะทำให้ออกได้ เท่ากับเชือดไก่ให้ลิงดู คิดเล่นๆให้พิจารณาละกันครับ เผื่อว่า จะได้มองเห็นทางเลือกอื่นๆบ้าง จากคุณ : Wiboon Joong (wbj) - [ 14 ก.ย. 51 14:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สงสัยต้องออกมาทำเต็มตัวแล้วมั้งเนี่ย พี่ wbj คะ หนูอยู่บริษัทวิจัยมาตลอดเหมือนกันอ่ะค่ะ เป็น Research Manager  งานหนักมากแต่สนุกมากด้วย เรื่องคนเรื่องทีมไม่เคยมีปัญหาเลย ลูกน้องก็เชื่อฟังกันดี เรยคิดว่า management skill เราค่อนข้างดี  เลยลองมาทำของตัวเองอีกอย่าง ด้วยความที่มาดูมั่ง ไม่ดูมั่ง ไม่สม่ำเสมอ มันเลยกลายเป็นงี้อ่ะค่ะ  โทษใครก็ไม่ได้ เป็นลูกจ้างกะเจ้าของกิจการนี่ต่างกันจริงๆค่ะ ตอนนี้กำลังชั่งใจอยู่ ว่าจะทำ agency ต่อ หรือออกมาทำของตัวเองดี จิงๆแล้วไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาทำกิจการเองเลยค่ะ ลำพังเงินเดือนก้อเยอะอยู่ เสียดายก็เสียดายความรู้ด้าน research กับประสบการณ์ที่ได้รับมา รวมถึงคำชมต่างๆที่เคยได้จากลูกค้า อีก แต่ถ้ามาทำเอง รายได้ดีกว่า มีเวลามากกว่า เราคิดว่าเราทำได้ดีด้วย  แต่ความเสี่ยงก้อมีมากกว่า ถ้าทำเองเต็มตัว คงไม่ต้องง้อผู้จัดการคนนี้แล้ว ฮึ่ม... จากคุณ : ซักวันหนึ่งเราจะครองโลก... - [ 14 ก.ย. 51 23:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เพื่อนผม เจ้าของ ธุรกิจ กว่าร้อยล้าน มันบอกว่า เฮ้ย กรูดูมาหมดแล้ว ทั้งเก่ง ทั้งฉลาด เทียบกับ ไม่โง่ แต่ซื่อ  อั๊วเอาอย่างหลังดีกว่า เพราะคนไม่โง่ แต่ซื่อนี่ฝึกได้ แม้ใช้เวลาฝึกนานหน่อย ยังดีกว่า พวกฉลาดแกมโกง พวกนี้ ไม่ซื่อต้องระวังอยู่ตลอดเวลา ปวดหัวตาย Ha จากคุณ : น้าพร - [ 16 ก.ย. 51 14:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ออฟฟิศหนูก้อมีคนแบบนี้ค่ะ ต้องตัดใจต้นลม เอ้ยตัดไฟต้นลม Ego สูงมาก เข้ากะใครไม่ได้เลย แต่นายเลือกจะเก็บมันไว้ ไม่เข้าใจเลย คนเยอะแยะ ง้อมันทำไม คนนี้ออก คนอื่นเข้ามา ก้อเข้ากะมันไม่ได้อยู่ดี ทำไมเราไม่แก้ที่ ต้นเหตุของปัญหาล่ะคะ บรรดานาย ๆ ทั้งหลาย จากคุณ : Jaddy (mecool) - [ 20 ก.ย. 51 10:48:09 ]