ความคิดเห็นที่ 1 แนะนำให้แจ้งทุกคนว่า ปีนี้จะมีหัวข้อการประเมินผลงานเพิ่มคือการขานรับและความเร็วในการปฎิบัติตามคำสั่งของหัวหน้างาน ให้เหตุผลว่าเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยการลดเวลาที่สูญเสียไปจากการเริ่มลงมือทำงานช้า ให้ยกตัวอย่างเพิ่มว่าการลงมือเริ่มทำงานช้ามีผลกระทบอย่างไร จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร ขอให้โชคดีนะครับ จากคุณ : Coach The Lead - [ 22 ก.ย. 51 04:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มองหาคนที่เป็นหัวโจกครับ แล้วลงไปพูดด้วยตรงๆ ว่าบริษัทเห็นความสำคัญกับงานที่เค้าทำ ถ้าเค้าทำงานอย่างรวดเร็ว เต็มความสามารถ เราก็สามารถเอาไปบอกเจ้านายเราได้ ว่าทีมนี้เยี่ยมมาก สมควรพิจารณาให้อะไรเพิ่ม เช่น เพิ่มเงินเดือน เพิ่มสวัสดิการ หรืออะไรก็ตาม เป็นการสร้างแรงจูงใจทางบวกน่ะครับ ที่ต้องเป็นหัวโจก ก็เพราะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยไปพูดหลายครั้ง แล้วคนที่เป็นหัวโจก จะรู้สึกได้ว่าเราให้ความสำคัญกับเค้า เค้าก็จะเอาไปบอกต่อลูกน้องเค้าเองครับ ว่าควรทำยังไง อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่เราคิดครับ จากคุณ : Hirun - [ 22 ก.ย. 51 09:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนระดับนี้ต้องยอครับ หาจุดดียกย่องสรรเสริญเข้าไป เห็นงานเป็นลม เห็นนมสู้ตาย จากคุณ : TingTing - [ 22 ก.ย. 51 11:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คราวหน้า เวลาสั่งงานเสร็จ อย่าลืมกำชับไปด้วยนะครับว่า "กรูเอาเดี๋ยวนี้!!!" พวกได้วิ่งกันหน้าตั้งแน่ จากคุณ : Pong Wim - [ 22 ก.ย. 51 11:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ธรรมชาติของผู้ชายจะมีฟอร์ม ไม่ชอบฟังใคร การเสียหน้าและการอยู่ต่ำกว่าก็เป็นเรื่องน่าอาย โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับคนกลุ่มใหญ่ สำหรับคนที่คุณพูดถึงมา ถ้าอยู่กันเป็นกลุ่มจะซ่าและฮึกเหิม แต่ถ้าอยู่คนเดียวจะหงิมๆและขาดความมั่นใจ คิดว่า 1. จะหาทางทำให้พวกเค้าแยกกันอยู่ก่อน และอย่าให้มีเวลาว่างตรงกัน พยายามอย่าให้มาจับกลุ่มกันเป็นกลุ่มใหญ่ได้(จะคุมยาก) 2. ให้ใช้เป็นรายๆไป ถ้าดูแล้วว่าคนไหนแข็งไม่เชื่อฟังบ่อยๆ ก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก หาคนอื่นที่ใช้ได้แทน แล้วก็ลดชั่วโมงการทำงานในงวดต่อไปของเค้าลง(แต่ก่อนจะทำ ต้องให้เค้ารู้สึกนะว่าเพราะเค้าแข็งเราถึงทำ) 3. งานพวกนี้ ถ้าไม่ใช้งานที่ใช้ฝีมืออะไรมาก อย่าเลี้ยงพนักงาน เพราะคนพวกนี้จะสร้างความเป็นใหญ่ในระดับเดียวกัน(หัวโจก) แล้วก็ไม่ค่อยมีเหตุผล การดิวงานจะยาก จากคุณ : มาโบโรแมน - [ 22 ก.ย. 51 11:50:32 A:210.86.206.151 X: TicketID:095024 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คืองานเป็นงานเครื่องยนต์น่ะคะ ก็จะมีแต่พวกผู้ชาย แล้วก็เป็นงานที่ต้องทำงานกันเป็นกลุ่มๆ เลยจับแยกไม่ได้น่ะค่ะ บางทีในใจก็อยากจะโละออกทั้งกลุ่ม แต่พอดีมันเป็นงานเครื่องยนต์ซึ่งก็ต้องใช้ฝีมืออยู่บ้างน่ะคะ ถ้าไม่ใช้งานที่ต้องใช้ฝีมือคงโละไปนานแล้วค่ะ หัวโจกก็จะเป็นพวกที่อยู่มานานหลายปีแล้ว จากคุณ : k - [ 22 ก.ย. 51 12:14:20 A:125.27.197.198 X: TicketID:166133 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขออนุญาตถามสักหน่อยนะครับว่า คุณเองต้องการให้เขาทำงานให้คุณเร็วนี่ คือต้องการผลงาน คือสั่งแล้วทำเสร็จเร็ว หรือ สั่งแล้วต้องวิ่งไปทำให้เห็นกับตาเลย คือถ้าเป็นอย่างหลังนี่ ก็จะเจอปัญหาบ่อยกับพนักงานครับ แม้ว่าเขาจะว่างอยู่ก็ตาม ทั้งนี้เพราะเขาอาจจะรู้สึกว่ามันไม่ต้องรีบเร็วมากอย่างที่คุณอยากเห็นก็อาจเป็นไปได้นะครับ ทางแก้ก็มีหลายทางครับ 1 แก้ที่ตัวเอง ให้จัดลำดับความเร่งด่วนดูครับ บางที ถ้าคุณลดลง คุณก็อาจเห็นว่าเขาทำงานได้ตามกำลังความสามารถของเขาแล้ว 2 แก้ด้วยการทำความเข้าใจ คุยกับเขาดูสิครับว่า สาเหตุมันเกิดจากอะไร บางทีมันก็อาจเกิดขึ้นเพราะมองต่างมุมก็ได้นะครับ 3 ลองศึกษารูปแบบการสั่งงานหลายๆ แบบเพิ่มขึ้นครับ บางทีรูปแบบการสั่งงานอาจทำให้เขารู้สึกต่อต้านก็ได้ เขาถึงทำพฤติกรรมที่ตรงข้ามออกมา 4 ปรึกษาฝ่ายบุคคลเรื่อง การออกหนังสือเตือน อันนี้ก็ช่วยได้ แต่จะทำให้เกิดผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างกันนะครับ จากคุณ : ciri - [ 22 ก.ย. 51 14:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระดับปฏิบัติการแบบนี้เค้าห่วงอย่างเดียวเงินครับ ใครยึกยักมากๆ คุณเป็นหัวหน้ามีสิทธิตัดโอทีให้น้อยลงได้ ให้ไปเฉลี่ยๆคนที่ขยันแทน บอกเลย สิ้นปีระวังเรื่องเงินเดือนจะไม่ได้ขึ้นไว้ (ถ้าคุณเป็นคนพิจารนาส่งเรื่องให้ HR ด้วยนะ) ลอยแพไปเลยไม่ต้องสั่ง ไปสั่งให้คนอื่นมาทำแทน เดี๋ยวถ้าลองได้นั่งเฉยๆดูเพื่อนร่วมงานทำงานนาน จะเริ่มรู้ตัวเอง ถ้ายึกยักหลายคนให้ลอยแพทีล่ะคน จากคุณ : Jump.Jr - [ 22 ก.ย. 51 15:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบคุณ คคห.7 ค่ะ คือที่ต้องการคือสั่งแล้วต้องทำเลยค่ะ เพราะลองสังเกตุแล้วคือพวกนี้ถ้าสั่งแล้วไม่ทำเลยก็ต้องสั่งอีกรอบ เบื่อค่ะ คือพูดทีเดียวอยากให้รู้เรื่องไม่ต้องให้พูดซ้ำ (แฮะ แฮะ เผด็จการเกินไปหรือเปล่าค่ะ) เพราะก่อนที่จะสั่งจะเช็คแล้วว่าเริ่มว่างกันแล้ว ส่วนเรื่องสั่งแล้วทำเสร็จเร็วหรือไม่นี้ ถ้าช้าแต่ชัวร์ก็ยอมรับได้ค่ะ จากคุณ : k - [ 22 ก.ย. 51 20:20:09 A:125.27.197.113 X: TicketID:166133 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สั่งแล้ว  กำหนดเวลาแล้วเสร็จ ครับ กะเอาว่า ถ้าไม่รีบทำ ก็จะไม่เสร็จให้ทันเวลาครับ ปล. บางที จขกท ก็ ควรปรับตัวเองบ้างนะครับ ในกรณี ที่เรา ต้องการเร็วเกินไป เหมือนแม่ ผม สั่งแล้วต้องทำทันที ไม่มีเดี่ยว ซึ่งผม ก็ไม่ทำทันทีอยู่ดี แล้ว แม่ ก็ หงุดหงิดเอง -*- จากคุณ : Rhythm Investor - [ 22 ก.ย. 51 22:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่า นั่นก็เป็นจุดนึงที่ทำให้เกิดอาการต่อต้านครับ เกิดจาก สไตล์การทำงานที่ขัดกันครับ คือ คุณมองว่าต้องไปทำเลยทันที ขยับทันที ในขณะที่พวกเขามองว่า มันไม่ได้ด่วนขนาดนั้น มันก็คือความขัดแย้งทางความคิดนั่นเองครับ แต่เขาจะไม่เถียงคุณหรอกครับ แต่เขาก็จะอิดออดไม่ทำ หรือทำช้าๆ หน่อย เป็นการตอบแทนให้คุณนั่นเอง อย่าไปโกรธเขาเลยครับ เป็นธรรมดามนุษย์ มีทิฐิเป็นของธรรมดา ยังมีกิเลส รักโลภโกรธหลง ปรับที่ตัวเองง่ายกว่าครับ ว่าจริงๆ เราต้องการเร็วขนาดนั้นเลยหรือเปล่า ถ้ามันช้าลงไป 10 นาทีจะเป็นอะไรไหม ถ้างานมันมีกำหนดเวลาเท่าไร ถ้ายังอยู่ในกำหนดก็โอเค เหมือนที่ คห 10 บอกครับ ทำใจร่มๆ ครับ จากคุณ : ciri - [ 23 ก.ย. 51 17:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 1.  อำนาจที่มากับตำแหน่ง   VS  อำนาจที่มาจากคุณลักษณะส่วนตัว     นึกภาพไปถึง กิจการครอบครัว  และนึกจขกท.เป็น  ลูกที่เข้ามาดูแลต่อ     พนักงานเก่าๆที่อยู่มานานรู้ทางลม รู้่ว่ามีช่องว่างตรงไหนให้เล่นแง่เล่นตัว     ดีไม่ดีอาจเห็นจขกท.มาตั้งแต่ยังเด็กๆ  ยังวัยรุ่น  ทำให้ขาดความเกรงใจนับถือ     จริงๆปัญหานี้เกิดได้ทั่วไป  วิธีแก้อาจทำได้หลากหลาย  แต่โดยสรุปคือการใช้ authority และ power     authority คือ อำนาจหน้าที่ ที่ให้มาติดกับตำแหน่งที่ได้รับ เช่น หัวหน้าฝ่ายให้มีอำนาจสั่งงาน สั่งการ ดูแล ลูกน้องในฝ่าย เป็นต้น     power คือ อำนาจที่มีขึ้นด้วย พลังต่างๆ ทั้ง พลังความรู้ ความฉลาด  ความแข็งแกร่งทางร่างกาย  ความสวย เสน่ห์ยวนใจฯลฯ     กรณีนี้ แม้คุณมีอำนาจสั่งการเต็มที่ (authority) แต่ขาด power     สำหรับความคิดผม  ต้องวิเคราะห์ให้ดีว่า  พฤติกรรมที่เกิดขึ้นเกิดจาก ทัศนคติอะไร     ทัศนคตินั้นเกิดจากความเชื่ออะไร  แล้วแก้ที่ความเชื่อนั้น     พยายามแก้ปัญหาให้ตรงจุด และต้องใช้ authority และ power อย่างผสมผสานให้เหมาะสมตามแต่กรณี     ถ้าใช้พระเดชมากไป แทนที่จะได้ผลก็อาจถูกต่อต้าน     ถ้าใช้พระคุณมากไป ก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ     ตัวอย่างเช่น  ถ้าคุณใช้การประเมินผลเป็นตัวกดดันให้พนักงานทำตาม หากใครทำไม่ได้ตามเป้าหมาย จะถูกลงโทษ     อาจมีการต่อต้านเพิ่มขึ้นและถ้าอำนาจต่อรองคุณน้อยกว่า อาจเกิดความเสียหายต่อธุรกิจ     หรือการให้ benefit เพิ่ม  ทั้งๆที่สิ่งที่ให้เค้าทำนั้น เป็นหน้าที่รับผิดชอบของเขาอยู่แล้ว     คนงานจะเรียนรู้ที่จะโลภ   เรียนรู้ที่จะใช้อำนาจของตนในการเรียกร้อง benefit ที่เพิ่มขึ้น 2.  แนวทางการแก้ปัญหา??     อย่างที่บอกว่าต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่า สาเหตุคืออะไร  แล้วค่อยใช้อำนาจแต่ละแบบอย่างเหมาะสม     การใช้โดยไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้  ปัญหานอกจากจะไม่ได้รับการแก้ไข จะยิ่งลุกลามเพิ่มขึ้น     ให้ผมสมมติเล่นๆ   ผมเดาว่าสาเหตุน่าจะมาจากจขกท.ใช้แต่ authority เพียงอย่างเดียว     มีอะไรก็สักแต่ว่าสั่ง  ถือว่ามีสิทธิ์สั่ง ก็สั่งแหลก  ขาดลูกล่อลูกชน     หรืออาจขาดไปถึงความน่าเชื่อถือในเรื่องความสามารถ ประสบการณ์     หรือขาดเสน่ห์จูงใจ (ไม่ใช่เสน่ห์ในความหมายผู้หญิงนะ  แต่หมายถึง เสน่ห์ของผู้บังคับบัญชา)     ขาดความน่าเชื่อถือในด้านการบังคับบัญชา หรือ ในเนื้องาน     ทางแก้คือพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าคุณมีอะไรดีพอที่จะคุมพวกเขา 3.  สั่งขี้มูก  VS  สั่งแหลก     ผู้บังคับบัญชาแต่ละคนย่อมมีทัศนคติต่อการทำงานไม่เหมือนกัน     โชคร้ายที่มันส่งผลต่อผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง     เจ้านายบางคน  คิดว่า การนั่งเฉยๆคือไร้ประโยชน์  ก็มักจะต้องหาอะไรให้ทำอยู่เสมอ     แม้จะเป็นงานที่ไร้เหตุผล  หรือมีความสำคัญอันดับท้ายๆ  ก็ยังสั่งเพื่อให้ไม่ว่าง     เจ้านายบางคน  คิดว่า คำสั่งของตนต้องได้รับคำตอบสนองที่รวดเร็ว  เหมือนเข้าไปนั่งในร้านอาหาร     ทันทีที่นั่งต้องมีพนักงานเข้ามารับออเดอร์  เมื่อสั่งแล้วก็คาดหวังว่าจะต้องได้รับอาหารอย่างรวดเร็ว     ซึ่งความคาดหวังในแต่ละคนไม่เท่ากัน     คงต้องลองสำรวจตัวเองด้วยว่า  มีอะไรที่ล้น หรือ รั่ว เกินไปหรือไม่ี     ถ้ามีต้องแก้ไข โชคดีครับ ^^ จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก - [ 24 ก.ย. 51 08:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 7, 10, 11 และ 12 มากๆๆๆๆ =ส่วนตัวเราแล้วบางทีเวลาเราสั่งงานอะไรไปลูกน้องบางคนจะต้องเล่นตัวก่อนเพื่อแสดงให้เพื่อนๆคนอื่นๆเห็นว่าไม่กลัวผู้หญิงสั่งงานนะ (แต่ในใจจริงกลัว แต่ต้องแสดงให้เพื่อนๆเห็นว่าไม่กลัว เพราะสั่งแล้วจะต้องยืดยาดกันพักใหญ่ แต่เดี๋ยวก็ทำ)= ผมคิดว่า ประเด็นนี้ไม่น่าจะเกี่ยวนะครับ สมัยนี้คนงานก็รู้ว่าผู้หญิงก็เป็นใหญ่ได้ อย่างเจ๊เกียว แกยังคุมคนขับรถบขส.ได้ทั้งประเทศเลย ผมเคยทำงานในห้างมาก่อน หัวหน้าแผนกก็เป็นผู้หญิงตั้งหลายคน ลูกน้องก็ทำตามปกติ ไปๆมาๆ ผมว่า Power ของคุณยังไม่พอมากกว่า บารมีอาจยังไม่ถึง ลูกน้องไม่เกรงใจ(จริงๆ) =แต่คือเราเป็นคนไม่ชอบใครทำอะไรชักช้าด้วย สั่งปุ้บต้องทำทันที = อ่านเผินๆเหมือนคุณค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเองนะคับ?? หรือเปล่า? จากคุณ : เบื่อหัวหน้าเอาแต่ใจ - [ 24 ก.ย. 51 16:17:38 A:125.24.74.219 X: TicketID:188286 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ลองเปลี่ยนจากไม่แข็งเป็นไม้อ่อนสิคะ ใครทำดีให้รางวัลกันเห็นๆ ไปเลย แทนที่จะลงโทษใช้อีกทางเลยเพราะคุณเป็นผู้หญิง ต่อให้ใหญ่กว่าแต่มันคงน่ารำคาญน่าดูกับคนงานเหล่านั้นที่อยู่มานานแล้วด้วย ส่วนใหญ่ลูกน้องจะเกรงใจเจ้านายที่ทำได้ทุกอย่างเก่งกว่าเค้า อันนี้โดยธรรมชาตินะคะ คนเราย่อมเชื่อฟังคนที่เราเห็นว่าเค้ารู้มากกว่าเราในด้านนั้นๆ ซึ่งด้านเครื่องยนต์อาจจะยากที่ทำให้เค้าเชื่อว่าผู้หญิงเก่งกว่าได้ ถึงจะเป็นหัวหน้าก็ตาม ลองพิจารณาไอเดียนี้ดูนะคะ ซื้อลิโพ เอ็มร้อย กาแฟดี7 ถั่วต้ม เบียร์(ต้องมั่นใจว่าเสร็จงานปุ๊บเลิกงานปั๊บนะคะ) ฯลฯ แล้วแต่ที่เห้นว่าน่าจะโดนใจใส่ตู้เย็นไว้เลยค่ะ ใครช่วยแบบออกนอกหน้า หยิบสักอย่างให้ไปเลยเป็นรางวัลของคนทำดี เน้นความสมานฉันท์ค่ะ เพราะเค้าเป็นผู้ชายเราเป็นผู้หญิง นี่ไม่ได้หมายความว่ายอมอ่อนกับลูกน้องนะคะ ถ้าวิธีนี้สำเร็จเท่ากับลูกน้องคุณโดนคุณวางเงื่อนไขไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ลองหาวิธีดูนะคะ ลองหลายๆ มุม มันน่าจะแก้ปัญหาได้สักทางแหละ จากคุณ : เอาใจช่วยค่ะ - [ 27 ก.ย. 51 00:29:59 A:124.120.42.201 X: TicketID:188541 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอาเรื่องเงินมาอ้างคะ พวกนี้จะกลัวมาก หากมีการจะตัดเงินอ่ะ จากคุณ : สลัดผักรวม - [ 27 ก.ย. 51 11:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตามวิธีที่คุณ คคห. 14 แนะนำนะค่ะ เคยทำแล้วค่ะ คือ ใครทำดีก็ให้รางวัล แต่กลายเป็นว่าใครที่ได้รางวัลไปก็จะโดนพวกที่ไม่ได้เหน็บแหม นี่กลายเป็นคนที่ไม่ได้ก็อิจฉาคนที่ได้อีก ตอนนี้เลยแบบว่าใครทำดีเราก็แอบให้ไปจะได้ไม่ต้องโดนพวกอิจฉามาพูดเหน็บแนม ส่วนเอาเรื่องเงินมาอ้างช่วยได้จริงๆค่ะ เพราะเราบอกว่าใครขาดไม่บอกลาโดนหักเงิน เท่านั้นแหละค่ะ มาลากันทุกคน จากคุณ : จขกท - [ 27 ก.ย. 51 17:25:14 A:125.27.192.79 X: TicketID:166133 ]