ความคิดเห็นที่ 44
ในวิชาชีพ ออกแบบ รังสรร ผืนแผ่นดิน จนก่อสร้างเสร็จ แต่สมัย 1993 -1994 ที่ฟากอเมริกา เข้ามาตั้ง branch ในเอเชีย พบว่า งาน hand sketch งานทำมือ Presentation เป็นงานที่ราคาสูง ยักษ์ค้าปลีกชั้นแนวหน้าเรียก อเมริกัน มาขึ้น overall perspective ภาพละ 80 000 บาท
10 ปีต่อมา ก้าวเข้าสู่ยุค 2003 -2004
คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี 3 มิติ จำลอง เพิ่งเผยแพร่ในวงการวิชาชีพ ยิ่ง งานที่เป็น Mass Building Geometric Form กลายเป็น "พลุกลางสวน" ฮือฮา ตื่นตา ตื่นใจ ใครใช้เทคนิคคอลนี้ได้ ถือเป็นที่สนใจ
แต่ลูกค้าตะวันตก กลับหลงใหล ชื่นชอบในงาน handmade และสิ่งที่คอมพิวเตอร์ ไม่สามารถทำได้ feeling เท่า Virtual Reality
สายงานจำเพาะ ทีต้องใช้คน งานศิลปะ วิชาชีพเฉพาะ ที่ผสมองค์ความรู้ ทางธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ คณิตศาตร์ การตลาด การขายไอเดีย และ การโน้มน้าวจิตใจ "ผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อ ให้อยู่รอด เติบโต ต้องเก็บเงินได้ " ปี 2004 ก่อนตบเท้าออกมา เป็น Freelance ... Director คนไทยประจำ Bangkok Branch กล่าวถึง อนาคตทางงานวิชาชีพที่เป็นศิลปะ เกี่ยวข้อง สร้างจริง ว่าอย่างไร คอมพิวเตอร์ก็ยังไม่สามารถทดแทน ในปี 2014- 2015 ต้องใช้คน skilled labour ...ยิ่งในระดับ Middle Executive ขั้นบนสุด ยิ่งขาดแคลน ควานหา เพราะเป็นรุ่น ที่ถ้าไม่บาลานซ์แรงกดดันบนได้ ก็ จะไปเปิดบริษัท กิจการตัวเอง ... เป็น Blue Ocean ใหม่ ...
จากประสบการณ์ ภาคสนาม ปี 2005 -2007 ที่ขาข้างหนึ่ง ก้าวไปอยู่สาย Niche Marketing and Sales Strategies ทำให้รู้ว่า "เจ้าของเงิน ที่มีกำลังซื้อในตลาดเฉพาะ ต้องการคุยกับคนที่เป็นมากกว่าเซลล์ " ซึ่งหมายรวมไปถึง " ผู้นำ อนาคต ธุรกิจใหม่ๆ การลงทุนที่สร้างมูลค่า เมื่อตกลงทำการซื้อ ขายใน mission นั้นๆ "
ตัวอย่าง แวดวงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลาดเฉพาะกลุ่มบน เริ่มเพาะเซล ฝีไม้ลายมือเฉพาะกิจ ที่มีพื้นฐาน มาจากหลากหลายอาชีพ ตั้งแต่ Finance, Communication Marketing, Architect, Engineer
การพูดนั้น เป็นแค่ใบเบิกทางเบื้องต้น แต่การทำได้อย่างที่พูดนั้น คือ " สลักเครดิต" ปูทาง สร้างตลาด และ นำไปสู่ Branding ที่เติบโต ตาม วัน เวลาของธุรกิจ
การรันให้ผลประกอบการสวย ตลอดรอดฝั่ง ฝีมือเป็นเพียงส่วนหนึ่ง อีกหลายส่วน มาจาก โชค (Luck) ผู้อุปถัมภ์ ( Sponsors / Coach) และ อำนาจในการยืนระยะอยู่ตรงนั้น ซึ่ง ไม่ได้หมายถึง เงินเพียงอย่างเดียว แต่การนำไป applied ใช้กับ ปัญหา เหตุการณ์ และวิกฤติ อยู่ที่การจับพลิกเหลี่ยม เบี่ยงมุม ที่เห็น อะไรไม่เท่ากัน มองอะไรไม่เหมือนกัน ...
อ้างอิงจากการทดลองธุรกิจที่ผ่านมา พบว่า ช่วงขาขึ้นของธุรกิจ เงินที่เข้ามาในระบบ แต่หากขาด การควบคุม บริหาร จัดการ ที่ แข็งแกร่ง เข้มแข็ง แต่ยังเปี่ยมไปด้วยแรงเสน่หาในการใช้บริการ สินค้า จากลูกค้าแล้ว ระบบเวลา และ ชีวิต จะสะเปะสะปะ เหนื่อยล้า ตรึงเครียด ได้...
สิ่งที่ได้รับการถ่ายทอด จาก 3 working woman วัย 55 - 60 กว่า เจ้าของธุรกิจ เครื่องสำอาง ร้านอาหาร และ สินค้าฝ้ายทอ ที่กำลังกล่าวถึงในปัจจุบัน ได้กล่าวถึง Success Keys
1. การแสวงหา "ความรู้เป็นที่สดใหม่" ซึ่งเป็นที่ต้องการจากลูกค้า "ไม่ใช่ความรู้ตายที่ลอกกันมาจากคู่แข่ง " จะช่วยเสริมสร้างจินตนาการ บนพื้นฐานธุรกิจ ที่เป็นจริง ทำได้ แต่แทคติกในการทำกำไรมาก น้อย อยู่ที่ความได้เปรียบในสถานที่ การผลิต การตลาด Zero การกระจาย ความเสี่ยง โอกาส การผูกขาด การสร้างภาวะการแข่งขันกันเองในหมู่ ลูกค้า ในกติกา ที่กำหนดให้เดินเครื่องไปเอง ... " สำทับด้วยการปิดรับการขาย" Time out , Sale is closed การพัฒนาทั้งแก้ปัญหา และ ต่อยอด เข้าถึง พื้นที่ area of business connection ทางการตลาด ที่คนอื่นเข้าถึงได้ยาก ทำให้คู่แข่งน้อย และวิธี ปิดเกม อย่างใช้เวลา แต่เข้าเป้า ...
2. การพัฒนางานอดิเรกที่ชอบ มาใช้กับ การบริหารระบบธุรกิจส่วนตัว ไม่ใช่คนลงทุนหวือหวา หรือ ต้องการการเป็นเป้าทางตลาด แต่ลงทุน บน asset ที่มั่นคง ยิ่งนานวัน ยิ่งประกาศความ Firm และ Stability ของฐานที่มั่น เจ้าของ operate เอง คือ จุดขายที่แตกต่าง ...
Price, Places&Setting, Innovation, Product, Promotion,Connections, Customer Relationship Management ( CRM ) Customer Service Relationship ( CSR )
ทั้งหมด ถูกนำมาใช้แก้ปัญหา ปรับกระบวนยุทธ์ ในทุกบททดสอบ ของธุรกิจ 11 เดือนที่ผ่านมาใกล้ Aniversary กับการปรับโฉมใหม่ " เล็กแต่แข็งแกร่ง " ... หลายกิจการ ที่อยู่ใต้มือคนอื่น โดยขาดการใส่ใจ พัฒนาต่อเนื่อง คือ นับการถอยหลังของอายุธุรกิจ ...
จากคุณ :
kuddle
- [
21 ต.ค. 51 00:46:18
]
|
|
|