Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 57 พระอาทิตย์เริ่มก่อตัวแทรกซึมเป็นผู้ก่อการร้าย

    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 57 พระอาทิตย์เริ่มก่อตัวแทรกซึมเป็นผู้ก่อการร้าย



    ตั้งแต่วันที่  1 สิงหาคม 2521          ซึ่งเป็นวันแรกที่เดินเข้าไปในซัมมิท

    คอมพิวเตอร์  ลุงหารู้ไม่ว่า  ในซัมมิท คอมพิวเตอร์นั้น มีความหลังที่สลับซับ

    ซ้อนเพียงใด  ลุงมีแต่ความปรารถนาดี  จะเข้าไปทำงานให้เต็มที่  ทำยี่ห้อยู

    นิแวคให้ดังระเบิด  ลุงอยากจะแข่งขันกับ IBM  CDC  NCR  BURROUGHS

    เหมือนกับอย่างที่ลุงต่อสู้มาแล้วในอดีต



    ในระยะแรกๆ ลุงก็ฉงนใจ ที่พวกเก่าๆ (หมายความว่า พวกที่อยู่กันมาเก่าๆ

    สมัยยังเป็นซัมมิทฯ เดิม) มีการประชุมกันบ่อยๆ  และพวกเขาไม่ได้บอกลุง

    ว่า ประชุมกันเรื่องอะไร  มีตั้งแต่คุณนงลักษณ์ หรือแดง  คนที่สนิท และเป็น

    ถึงรองกรรมการผู้จัดการ  คุณพรเทพ  หัวหน้าฝ่ายช่าง  คุณโกศล  รองหัว

    หน้าฝ่ายช่าง  คุณวิวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายเซอร์วิส เซนเตอร์  แค่นี้ก็กวาดเอาหัว

    หน้าเข้าไปหมดทั้งบริษัทแล้ว และยังมีฝ่ายซับพอร์ต  ฝ่ายช่าง  ฝ่าย

    Admin อีกประมาณ 35 คน



    ส่วนมากเขามักจะประชุมกันตอนเย็นๆ หลังจากเลิกงานแล้ว  ลุงเคยถามคุณ

    นงลักษณ์ว่าประชุมเรื่องอะไรกัน  ไม่เห็นเชิญผมเข้าด้วยเลย  คุณนงลักษณ์

    ก็เพียงแต่บอกว่า  



    “เป็นเรื่องของคนเก่าๆ ที่บริษัทซัมมิท อินดัสเทรียล จำกัด (ปานามา) ทำ

    สัญญาไว้ให้.....ไม่เกี่ยวกับคุณอมรหรอก”




    ตอนหลังก็มีคนหน้าตาแปลกๆ มาเข้าประชุมด้วย  ที่ว่าหน้าตาแปลกๆ ก็คือมี

    ผู้ชาย บ้างก็ไว้หนวดเครายาวเฟื้อย  บ้างก็พูดเสียงดัง  เข้มแข็ง  บางครั้งลุง

    เดินเข้าไปในที่ประชุมของเขา  เขาก็หยุดการประชุมกัน  และแนะนำให้ลุง

    รู้จักว่า  “นี่คุณอำมาตย์  จากซัมมิท ออยส์  นี่คุณธวัชชัย     จากซัมมิท อิน

    ดัสเทรียล”
      ทุกคนหันมาทักทายลุงเป็นอย่างดี  และพลอยหยุดการสนทนา

    ในเรื่องที่กำลังพูดไปด้วย  ทำให้ลุงไม่รู้ว่าเขาประชุมเรื่องอะไรกัน



    จนมาวันหนึ่ง  เป็นวันเกือบจะสิ้นปี   ประมาณเดือนตุลาคม พฤศจิกายนเห็น

    จะได้  คุณจรัลก็สั่งให้ลุงเตรียม Budget ในการพิจารณาเงินเดือนให้

    พนักงานของบริษัทฯ ซัมมิท  คอมพิวเตอร์ทุกๆ คน  เตรียมไว้เผื่อเสนอต่อ  

    ซี เจ ฮวง



    ในขณะที่ลุงกำลังทำ Budget อยู่นั้น  ก็ได้เรียกคุณนงลักษณ์เข้ามาปรึกษา

    ในขั้นตอนของนโยบายการขึ้นเงินเดือนของบริษัท  เพื่อจะได้แจ้งให้หัวหน้า

    แผนกนำไปดำเนินการต่อไป



    คุณนงลักษณ์มีท่าทีอึดอัด  และแสดงให้ลุงเห็นอย่างชัดเจนว่า  มีข้อข้องใจ

    บางประการ  ลุงสังเกตได้ถนัดว่า  แกไม่ค่อยอยากปรึกษาเรื่องนี้เท่าไหร่  

    ซึ่งผิดปกติของ Staff ทั่วไป  ที่จะยินดีเมื่อเจ้านายขอปรึกษาเรื่องการ

    พิจารณาเงินเดือนเช่นนี้



    ลุงจึงถามขึ้นมาโดยตรง



    “แดง  เป็นอะไรไปรึ  ดูหน้าตาของคุณไม่สบายเลย  คุณอึดอัดเรื่องอะไร

    หรือ”




    ลุงถามตรงๆ.....แดงยังนั่งก้มหน้านิ่ง



    “...แล้วผมขอถามอะไรสักอย่าง  เรื่องที่พวกคุณประชุมกันบ่อยๆ ตอนเย็นๆ

    และตอนนี้ก็ชักถี่ขึ้น  มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องนี้  เรื่องการพิจาณาเงิน

    เดือน.....มันเกี่ยวกันใช่ไหม...แดง”




    ลุงถามนิ่มๆ ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่ซ่อนเอาความตื่นเต้นไว้ข้างใน

    คำตอบของแดง  ทำให้ลุงช็อกไปชั่วขณะหนึ่ง



    “คุณอมรคะ  แดงไม่อยากเล่าให้คุณอมรฟังเลย  แต่ตอนนี้จำเป็นแล้วละ

    ค่ะ  คือตอนที่พวกเราออกมาตั้งบริษัทฯ กันใหม่ๆ นั้น  ก่อนที่จะประกาศหาผู้

    จัดการทั่วไปคนใหม่  พวกเรากลัวความไม่แน่นอนของบริษัทใหม่ที่จัดตั้ง

    ขึ้น  กลัวจะไปไม่รอด  พวกเราจึงให้บริษัท ซัมมิท อินดัสเทรียล ทำหนังสือ

    ให้กับพวกเราไว้เป็นรายคนว่า  หากผลประโยชน์สิ่งใดที่พึงจะมีแก่พนักงาน

    ของบริษัท ซัมมิท อินดัสเทรียล  พนักงานที่ย้ายมาจากบริษัทซัมมิท  อิน

    ดัสเทรียลมาอยู่ที่บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์จะต้องได้รับด้วย”




    แดงเล่าติดต่อกันโดยไม่หายใจ  คล้ายๆ กับ ต้องการระบายให้มัน

    โล่งอกไปฉะนั้น



    แต่เมื่อลุงตั้งสติได้  ลุงยิ้มออก  พลางพูดปลอบใจแดงว่า



    “โถ....นึกว่าเรื่องอะไร  ก็คุณเคยบอกผมแล้วนี่  ว่ามันเป็นเรื่องที่บริษัท

    ซัมมิท เขาทำให้กับคนเก่าที่ย้ายโอนมา  ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับบริษัทของเรา

    เลยนี่”


    “มันเกี่ยวซิคะ  ....”  แดงเถียง


    “มันไม่เกี่ยวได้อย่างไรคะ  ในเมื่อคุณอมรกำลังพิจารณาเงินเดือนอยู่ใน

    ขณะนี้  .....คุณอมร  ต้องขึ้นเงินเดือนตามที่สหภาพเรียกร้องกับ ซี เจ ฮวง  

    และตอนนี้ได้ยินข่าวว่า  สหภาพยื่นเรื่องเข้าไปแล้ว  จะขอเงินเดือนขึ้น

    25%  และขอโบนัสอีก 7 เดือน  ซึ่งคุณอมรจะต้องจ่ายให้ตามที่ซัมมิท  อิน

    ดัสเทรียลทำสัญญาไว้ให้กับคนเก่า  แล้วคุณอมรจะเอาที่ไหนมาจ่าย”





    ลุงงง  งง  งง  งง  งง  เป็นไก่ตาแตก  ไม่รู้ว่าเรื่องที่เคยได้ยินข่าวว่า “ที่

    ซัมมิท อินดัสเทรียลและซัมมิท ออยส์เขามีสหภาพกัน และมีการต่อรอง

    เรียกร้องกัน  เรื่องมันจะผูกพันมาถึงบริษัทซัมมิท คอมพิวเตอร์ของเราด้วย”




    “แดง  ถ้าไม่คิดว่า เป็นการละลาบละล้วง  ขอเป็นดูจดหมายที่ ซี เจ ทำให้

    เป็นลายลักษณ์ได้ไหม.....”


    คุณนงลักษณ์ทำท่าอึดอัด  



    “เราไม่อยากให้เรื่องนี้มาเกี่ยวกับคุณอมรเลยค่ะ....”



    “เอาน่า  ผมขอแค่อ่านเท่านั้น  ไม่เอาไปทำอะไรหรอก”



    ....แล้วคุณแดงก็ไปหยิบของเธอมาให้ลุงอ่าน..............ซึ่งลุงก็คืนให้เธอ

    เมื่ออ่านเสร็จ พลางพูดว่า



    “เอาละครับแดง  ผมว่า  วันนี้  เราหยุดคุยกันเรื่องเงินเดือนก่อน  ผมจะลอง

    ไปคิดดูเรื่องจดหมายนี้ก่อนว่าจะมีทางออกอย่างไรบ้าง  ผมเห็นด้วยกับแดง

    ว่า  ซัมมิท  คอมฯ ไม่ควรจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้  และขณะเดียวกัน  พวกคุณ

    ก็รับใช้ทำความเจริญให้บริษัทเก่ามานับสิบปี  ก็สมควรที่จะได้ผลตอบแทน

    เหมือนกับยังอยู่ที่บริษัทเก่า”



    .................................................................................................



    ลุงก็พูดปลอบใจคุณนงลักษณ์ไปอย่างงั้นเอง  แต่ความจริงลุงปลอบใจตน

    เองมากกว่า  เพราะเห็นพายุแห่งเค้ารอยหายนะก่อตัวมาแต่ไกล



    ลุงไม่เคยเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้  เราเคยแต่สมัครสมานน้ำใจ  ช่วยกันทำ

    งานหามรุ่งหามค่ำ  ถึงแม้จะผิดใจกันบ้าง  แต่ก็เป็นเรื่องขัดกันเรื่องงานบ้าง  

    เรื่องส่วนตัวบ้าง  แต่เวลาทำงาน  ทุกคนไม่ว่าเซลส์ ช่าง หรือซับพอร์ท ต่าง

    ก็ลืมเรื่องส่วนตัวเสียจนหมดสิ้น    พอไร้คู่แข่งขันแล้ว  หรือว่างจากการรบ

    ทัพจับศึก  เราค่อยมาทะเลาะกันใหม่  .....



    แต่นี่เหตุการณ์มันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น  เพราะ “สหภาพแรงงาน”  ซึ่งเป็น

    ของใหม่ในสมัยป๋าเปรม  มีสหภาพเกิดขึ้นเกลื่อนกลาด  มีสหภาพที่แข็ง

    กล้า  ไม่มีการเรียกร้องใดที่สหภาพไม่ชนะ  และตอนนั้น  ศาลแรงงานก็เพิ่ม

    เริ่มต้นตั้งขึ้นแถวถนนพระราม 4  ถ้าเรื่องขึ้นสหภาพแรงงานเมื่อไหร่  เชื่อขี้

    หมากินไว้ได้เลย ว่าพนักงานผู้เรียกร้อง และสหภาพต้องชนะ  




    และเรื่อง “คน”  เป็นเรื่องใหญ่ในปัจจัยของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ

    คอมพิวเตอร์   ซึ่งลูกค้าจะไว้วางใจให้ใครรับใช้นั้น  ไม่ใช่แต่คุณภาพของ

    Hardware หรือ Software แต่อย่างเดียว  แต่จะต้องมี Peopleware ที่แข็ง

    แร่งอีกด้วย  นั่นหมายความว่า  จะต้องรักกัน  สมานสามัคคีกัน  ทำงานเป็น

    เนื้อเดียวกัน  มีสปิริต  มีวินัยในงานทำงาน   เรื่องความแตกแยกของบุคคล

    กรทางด้านของบริษัทผู้ขายคอมพิวเตอร์  ถึงมี....ก็ไม่เคยปรากฏก็สู่การรับรู้

    ของโลกภายนอก  



    ดังนั้น  คุณอมร  จะปล่อยให้ปัญหานี้ลุกลามต่อไปอีกไม่ได้  เพราะถ้า HW

    ของเราดี  SW ของเราก็ไว้ใจได้  แต่ถ้า PW ไม่น่าเชื่อถือ แม้จะมีความรู้ที่

    ดี แต่ของทัศนคติที่ดีต่อบริษัท  ก็เป็นจุดด้อยอันใหญ่หลวงต่อการทำธุรกิจ

    ในอนาคต



    ลุงตัดสินใจไปปรึกษาคุณจรัลเป็นคนแรก.....


    คุณจรัลอุทานขึ้นว่า


    “เอาอีกแล้วหรือนี่....”  เมื่อได้ยินลุงเล่าเรื่องที่ฟังจากแดงให้ฟัง



    ลุงได้ที  ก็เอานโยบาย เรื่องของ “คน” ตามที่ลุงพยายามจะทำให้สำเร็จ มา

    เล่าให้คุณจรัลฟัง  ซึ่งคุณจรัลก็เห็นด้วย



    แต่.....คุณจรัลไม่เห็นด้วย  ที่จะให้พนักงานคนเก่าของซัมมิท ได้ตามอะไรก็

    ตามที่ควรจะได้จากที่สหภาพเรียกร้อง  เพราะมันจะขัดกับความเสมอภาค  

    พวกที่เข้ามาใหม่อาจจะได้เงินเดือนขึ้นน้อย  เพราะบริษัทเพิ่งเริ่มก่อร่าง

    สร้างตัว  ประกอบกับโดนพ่อเจ้าสองกรม สูบเอาโลหิตที่มีอยู่น้อยนิดไปเสีย

    อีก  เรื่องโบนัสก็เหมือนกัน  ปีนี้ซัมมิท คอมฯ คงไม่ได้  เพราะดูแล้ว ไม่ได้

    กำไรสักเท่าไหร่.....และอีกประการหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ



    “ซี เจ ฮวง มีนโยบายจะให้ซัมมิท คอมฯ ยืนอยู่ได้บนขาของตนเองให้เร็วที่

    สุด  เพราะ ซี เจ คาดเดาเอาไว้แล้วว่า  กิจการโรงกลั่นนั้น  ขึ้นอยู่กับ

    สัมปทานของรัฐ ซึ่งสหภาพที่ก่อตั้งกันขึ้นมา  ก็เพื่อที่จะขับไล่นายทุนให้

    ออกไปจากประเทศ  ซัมมิทก็เป็นโรงกลั่นหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของ

    สหภาพ ที่ต้องการเรียกร้องเพื่อให้รัฐไม่ต่อสัมปทานให้ซี เจ อีกต่อไป  ....  

    ดังนั้น  หากบริษัทแม่ เป็นอะไรไป  บริษัทลูกๆ เช่น  ซัมมิท เอ็นจิเนียริ่ง  

    บริษัท ไฟเซอร์ (ซึ่งตอนนั้น ยังเป็นบริษัทลูกของบริษัท ซัมมิท ออยส์) ก็

    จะได้ไม่พลอยติดร่างแหไปด้วย”



    ข่าวที่ลุงไปปรึกษาคุณจรัล  แพร่ออกไปอย่างรวดเร็วภายในบริษัท  ลุงเลย

    ต้องเรียกประชุมพวกหัวหน้าทั้งหลาย  และให้นโยบายว่า  



    “คุณอมรได้รับเรื่องทั้งหมดแล้ว  และก็ได้เห็นใจพวกเราเป็นอย่างยิ่ง  ใน

    การที่ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการที่จะประคองให้บริษัทอยู่ต่อไปได้  แต่

    เรื่องสัญญา ก็ต้องเป็นสัญญา  ที่พวกเราได้รับจากซัมมิท  อินดัสเทรียล  ซึ่ง

    บริษัท ซัมมิท อินดัสเทรียลก็ต้องรับผิดชอบ  ไม่เกี่ยวกับบริษัท ซัมมิท

    คอมฯ  ขอให้สบายใจได้ว่า  คุณอมรจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องใดๆ เกี่ยว

    กับสัญญาเก่าที่พวกเราได้ทำกันไว้”



    ทุกคนดูจะโล่งอก  เดินออกจากห้องประชุมด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส

    และคุณอมร ก็พาพรรคพวกทุกคนไปเลี้ยงข้าวกลางวันกันอย่างแช่มชื่นใน

    วันนั้น



    โดย คุณอมรหารู้ไม่ว่า  “นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  เค้าโครงแห่งความยุ่ง

    ยากก็ทยอยบังเกิดขึ้นกับตัวคุณอมรเอง และพนักงานทุกระดับ  ไม่ว่าคน

    เก่า หรือใหม่  โดยไม่มีทางที่จะหยุดยั้งได้เลย”





    นี่แหละครับ  เซลส์แมนผู้เก่งกาจในการขาย  แต่พอมาครองตำแหน่งเอ็มดี  

    มันไม่สามารถใช้ความสามารถเหล่านั้นเข้ามาใช้ได้เลย




    “คุณอมร  เป็นผู้ที่ทำให้เกิดความแตกแยกในบริษัท  โดยพวกคนเก่ายืนอยู่

    ทางขวา  พวกคนใหม่ยืนอยู่ทางซ้าย  โดยมีคุณอมรยืนอยู่ตรงกลางโดยไม่

    ทำอะไรเลย....”





    คุณอมร  ได้ยินเสียงติฉินนิทาดังมาจากทุกฝั่งของซัมมิทฯ  ............




    โปรดฟังลุงเล่าต่อไปครับ  มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง  และลุง “ไม่สามารถ” แก้

    ปัญหานั้นได้อย่างไร อันเป็นบ่อเกิดของการลาออกจากซัมมิท คอมพิวเตอร์

    ของลุงเป็นครั้งแรก  




    โปรดติดตามครับ  ทุกอย่างยังประทับอยู่ในหัวใจของคนแก่อายุ 64 คนนี้

    อย่างไม่มีวันลืม  ทั้งๆ ที่เรื่องราวมันผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว




    อมร  ถาวรมาศ

    amorntvm@hotmail.com

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 31 ต.ค. 51 07:18:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com