Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    วันนี้ ขนาดซาเล้งขายของเก่ายังเจ๊งแล้วธุรกิจทั่วไปจะเหลือเร๊อะ

    ซาเล้งแตกทัพ ของเก่าราคาตก! [11 พ.ย. 51 - 17:07]

    เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว...ฉันใดวิกฤตการเงินโลกหนนี้ สั่นสะท้านร้านรับซื้อของเก่าและกองทัพซาเล้ง จนเกือบต้องสูญพันธุ์ไปด้วย...ฉันนั้น

    เรวัตร ชาวนา ลูกจ้างเทศบาลตำบลบางหลวง เมืองปทุมธานี ผู้ใช้ เวลาว่างหลังออกเวรจากการขับรถเก็บขยะ ตระเวนหาขยะมีค่าและของเก่าขาย บอกว่า

    ช่วงนี้ทั้งขยะมีค่าและของเก่าที่มีคนทิ้งตามบ้าน มีให้เลือกเก็บก่ายกอง ทั้งขวดพลาสติก กระดาษหนังสือพิมพ์ กระป๋องเบียร์ และอีกสารพัด

    “ราคาของเก่าทุกอย่างลงหมด ลงมา 2 เดือนแล้ว เมื่อของไม่มีราคา เก็บขายแล้วไม่คุ้มค่าน้ำมัน เลยไม่มีใครเก็บ”

    เรวัตรบอกว่า ปกติมีอาชีพหลัก ขับรถขนขยะของเทศบาล มีเงินเดือน 6,080 บาท แต่ไม่พอเลี้ยงปากท้องตัวเองและครอบครัว จึงใช้เวลาว่างหลังออกเวร หาลำไพ่พิเศษด้วยการตระเวนขับมอเตอร์ไซค์ ออกหาขยะมีค่าและของเก่า ส่งขายให้ร้านรับซื้อ

    หนุ่มใหญ่วัย 39 เล่าว่า ปกติเขาเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เต็มถัง ประมาณ 100 บาท ตระเวนหาของเก่าตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น ได้ ของกลับมาพูนกระบะพ่วงข้างมอเตอร์ไซค์ เคยขายได้เงินเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 400-500 บาท

    หักค่าน้ำมัน ก่อนเข้าบ้านมีเงินติดกระเป๋าเฉลี่ยวันละ 300-400 บาท

    ชีวิตของเรวัตร แฮปปี้เรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

    เขาบอกว่า แม้ยังคงปฏิบัติภารกิจเหมือนเดิมทุกวัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา เริ่มเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า

    “อุตส่าห์ทนอดตาหลับขับตานอน ของที่หาได้ก็อย่างเดียวกัน ปริมาณก็เท่าเดิม แต่เดี๋ยวนี้เหลือเงินเข้าบ้าน วันละไม่ถึง 120 บาท”

    เรวัตรบอกว่า แม้เขาจะใช้ต้นทุนความเหนื่อยยากเท่าเก่า แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่เท่าเดิม เพราะราคาสินค้าของเขา พากันตบเท้ากราวรูดร่วงลงตาม ราคาเหล็ก

    เขายกตัวอย่าง เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ราคารับซื้อ ทองแดง ขึ้น-ลงเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 215-240 บาท วันนี้เฉลี่ยเหลือ 70-100 บาท

    อะลูมิเนียม จำพวกกระป๋องเบียร์ กระป๋องน้ำอัดลม ฝาขวดซุปไก่สกัด เมื่อสองเดือนก่อน เคยขายได้ กก.ละ 45-65 บาท วันนี้เหลือ 32 บาท

    สเตนเลส จำพวกหม้อ กระทะ กะละมังเก่า จากเคยขายได้ กก. ละ 70 บาท เมื่อช่วงต้นปี วันนี้เหลือเพียง กก.ละ 25 บาท

    ตะกั่ว ที่ได้จากหัวก๊อกน้ำ หัวเตาแก๊ส หรือแผ่นธาตุในแบตเตอรี่รถยนต์ เมื่อต้นปีเคยมีราคา กก.ละ 35-40 บาท วันนี้เหลือ กก.ละ 12 บาท

    เศษเหล็กอย่างหนา เช่น นอต เหล็กข้ออ้อย เหล็กฉาก เหล็กบีม (แผ่นเหล็กที่ใช้รองถนนในงานก่อสร้าง) ต้นปี กก.ละ 17-18 บาท วันนี้ราคากราวรูดเหลือแค่ 3 บาท

    เศษเหล็กแบบคละ (เหล็กทุกชนิดคละกัน) เมื่อต้นปี กก. ละ 2-3 บาท วันนี้หลายร้านหยุดรับซื้อไม่มีกำหนด อ้างว่า โรงหลอมและโรงรีดเหล็ก รับซื้อไว้ก่อนหน้านี้บานเบอะ แต่ป่านนี้ของเก่าในสต๊อก ยังขายไม่ออก

    กระดาษกล่องสีน้ำตาล สองเดือนก่อน กก.ละ 7 บาท วันนี้เหลือแค่ 2 บาท

    กระดาษเล่ม (จับจั๊ว) เช่น หนังสือและนิตยสารเก่า ก่อนหน้านี้เคยขายได้ กก.ละ 3 บาท วันนี้เหลือเพียง 1 บาท

    กระดาษหนังสือพิมพ์ เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว กก.ละ 5 บาท วันนี้เหลือ 4 บาท

    กระดาษขาว-ดำ จาก กก.ละ 8 บาท เดี๋ยวนี้เหลือเพียง 7 บาท

    ขวดพลาสติกขุ่น เมื่อต้นปี กก.ละ 26 บาท เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เหลือ กก.ละ 10 บาท มาวันนี้ร้านของเก่าส่วนใหญ่ ไม่ยอมเปิดราคา หรือพูดอีกอย่าง ยังไม่รับซื้อ

    เช่นเดียวกับ ขวดพลาสติกใส หรือขวดเพ็ท ต้นปีเคยขายได้ กก.ละ 18 บาท เดี๋ยวนี้ร้านค้าของเก่าส่วนใหญ่ หยุดรับซื้อ อ้างว่า ยังไม่มีออเดอร์

    คงเหลือแต่ พลาสติกสี จำพวกกะละมังพลาสติก ลังใส่ของพลาสติก ก่อนหน้านี้เคยรับซื้อ กก.ละ 15 บาท ปัจจุบันเหลือ กก.ละ 5 บาท

    ขวดแก้วสี เช่น ขวดกระทิงแดง และขวดเบียร์ จาก กก.ละ 2-3 บาท เหลือ กก.ละ 1.20 บาท ขวดแก้วใส จาก กก.ละ 2.50-3.50 บาท เหลือแค่ 1.60 บาท

    เรวัตรบอกว่า ไม่เพียงรายได้เสริม ที่เคยแซงหน้ารายได้หลักของเขา ร่วงลงกราวรูดตามทิศทางราคาเหล็ก วันนี้เขายังต้องยอมกัดฟัน นำมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ ไปตึ๊งไว้กับเถ้าแก่ร้านรับซื้อของเก่าผู้มากน้ำใจ (ไม่คิดดอกเบี้ย) ในราคา 3,000 บาท

    “กะว่าเดือนหน้าโบนัสออก ค่อยไปไถ่ เพื่อนฝูงที่เคยเก็บขยะขาย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปรับจ้างก่อสร้างบ้าง กลับบ้านนอกบ้าง เหลือหร็อมแหร็มแค่คนสองคน แทบจะสูญพันธุ์กันหมด”

    ใช่แต่นักค้าขยะอย่างเรวัตรเท่านั้น ที่เข้าตาจน แม้แต่ หมวย เจ้าของ “ร้านรวมทรัพย์” รับซื้อ-ขายของเก่า รายใหญ่ย่านรังสิต ก็พลอยติดร่างแหไปด้วย

    หมวย บอกว่า ผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ทำให้เวลานี้ ผู้มีอาชีพค้าของเก่าอยู่กันแทบไม่ได้ แต่ละวันทั้งซาเล้ง และรถกระบะที่เก็บของเก่าไปส่งขาย กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ทยอยเลิกอาชีพนี้

    “ราคารับซื้อของเก่าทุกชนิดช่วงนี้ ถือว่า ร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 10 ปี แต่ในข้อเสียก็มีข้อดี ทั้งนอตเสาไฟฟ้าแรงสูง และฝาท่อของทางราชการอยู่ครบ ไม่มีหาย”

    เธอว่า วงการค้าของเก่า เคยพร่ำสอนกันมาแต่รุ่นพ่อรุ่นปู่

    “จะดูว่าช่วงไหนเศรษฐกิจดีหรือไม่ ไม่ต้องดูอะไรมาก ให้ดูที่ราคาเศษเหล็กเป็นหลัก เพราะเหล็กเป็นวัสดุที่ถูกนำไปใช้งานมากที่สุด ดูง่ายๆช่วงไหนหยุดใช้เหล็กมากเท่าไหร่ ภาวะเศรษฐกิจก็ยิ่งเน่า หรือซบเซามากเท่านั้น”

    หมวยบอกว่า ยามที่เศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีเมกะโปรเจกต์ หรืองานก่อสร้างขนาดใหญ่ ทำให้เหล็กขายไม่ออก เกี่ยวพันไปถึงภาวะการจ้างงาน

    ไม่มีงาน ก็ไม่มีเงิน ทำให้คนไม่กล้ากิน ไม่กล้าใช้

    กลับกัน เมื่อมีโปรเจกต์ขนาดใหญ่ หรือเห็นมีการขึ้นโครงสร้างเหล็กเมื่อไหร่ หมวยบอกว่า ดูเถอะอีกไม่นานทั้งอิฐ หิน ปูน ทราย กระจก ไม้ และทองแดง พลอยขายได้ตามไปด้วย เพราะต้องมีงานก่อสร้าง และงานเดินสายไฟตามมา

    “พอคนเรามีงานทำ มีรายได้ ก็กล้ากลับมากินใช้อย่างเก่า วัฏจักรของวงการค้าของเก่า ก็พลอยมีขยะเหลือจากการกินใช้ เอาไปรีไซเคิลต่อ ทุกปัจจัยมันเชื่อมกันอย่างนี้”

    หมวยบอกว่า เวลานี้ราคาเหล็กและเศษเหล็กในตลาดโลก ปรับตัวลงอย่างหนัก ทำให้ผู้ผลิตและผู้ขาย มีปัญหาเรื่องเหล็กค้างสต๊อกอยู่อีกประมาณ 1-2 เดือน ส่งผลให้ผู้ที่มีสต๊อกล้น และค้างอยู่ในมือ ขาดทุนกันป่นปี้

    เฉพาะราคาเหล็กที่ลดลงเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้ผู้ค้าเหล็กรายใหญ่ในประเทศ ขาดทุนไป ไม่น้อยกว่า 4 หมื่นล้านบาท

    จากราคาเฉลี่ยของเหล็กก่อนหน้านี้ กก. 35-40 บาท เวลานี้เหลือเพียง 16-17 บาท

    ราคาเศษเหล็กเมื่อต้นปี ตันละ 600 เหรียญสหรัฐฯ เวลานี้ร่วงลงเหลือแค่ 200 เหรียญสหรัฐฯ ยิ่งถ้าเป็นเหล็กก่อสร้าง มูลค่าจะหายไปทันทีครึ่งหนึ่ง

    หมวยว่า ปกติถ้าสินค้าราคาลง วงการค้าของเก่าจะรีบช้อนซื้อกันไว้ แต่ราคาเหล็กที่ลดลงช่วงนี้ ทางโรงหลอมกลับไม่ยอมรับซื้อ เพราะสต๊อกเก่า ยังระบายไม่ออก

    “พอโรงหลอมเจ๊ง เริ่มไม่มีการซื้อของเข้า กระเทือนไปถึงยี่ปั๊วใหญ่ต้องเก็บของไว้ในสต๊อก ราคาของทุกอย่างจึงนิ่ง”

    หมวยบอกว่า แต่นั่นยังไม่เท่าไหร่ ยังมีอีกสิ่งที่น่ากลัวกว่า

    “พอโรงหลอมเหล็กเจ๊ง ทีนี้ก็เริ่มมีการตีเช็คเด้งให้โรงรีดขึ้นรูป กับร้านรับซื้อของเก่า ที่ส่งเศษเหล็กไปขายให้ ทำให้ช่วงนี้เช็คเด้งดึ๋งกันทั้งวงการ

    http://www.thairath.co.th/news.php?section=hotnews02&content=110912

    จะได้เลิกเก็บกระป๋องน้ำอัดลมซักทีขายไม่มีราคาแล้ว

    จากคุณ : lovewhite - [ 11 พ.ย. 51 11:58:33 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com