ความคิดเห็นที่ 1 ตัวธุรกิจน่ะมันไม่ได้มีอะไรเสียหายหรอกครับ แต่สิ่งที่คนเค้าเกลียดกันคือ "พฤติกรรมของคนทำแอมเวย์" ชอบตื้อ พูดจากเหมือนมาจากดาวอังคาร มีเหตุผลก็ไม่ยอมฟังกัน คิดว่าตัวเองดี ถูก เลิศ อยู่ฝ่ายเดียว คือคุยไปก็เหมือนคุยกับคนบ้าน่ะครับ เค้าก็เลยเกลียดกัน มันพอ ๆ กับพวกขายประกันแหละ ผมซื้อประกันเมื่อผมเห็นประโยชน์ เห็นความจำเป็นในการซื้อ แต่ไม่เข้าใจว่าพวกขายประกันเป็นบ้าอะไรกัน ถึงไม่เข้าใจว่า "ตอนนี้กรูไม่ต้องการซื้อ" ตื้ออยู่ได้ บ้าจริง ๆ จากคุณ : jaminonez - [ 11 พ.ย. 51 16:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ใช่ไม่ชอบค่ะ แต่ไม่ใช้...พอไม่ใช้ ก้อยังมีคนขายแอมเวย์เข้ามาในชีวิตบ่อยครั้งมาก จนอึดอัดหน่ะค่ะ...บางครั้งทำให้เราปฏิเสธเค้าตั้งแต่ยังไม่อ้าปากพูดเลยก็มี.. ปล. แต่ตอนนี้สามารถปฏิเสธได้เต็มปากเพราะได้คิดแล้วว่า สินค้าแอมเวย์ไม่ถูกกับlifestyle ของเรานั่นเอง... จากคุณ : กุ้งกระเบื้อง - [ 11 พ.ย. 51 16:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คห2 รู้มั๊ยพวกขายน่ะจะตอบคุณว่าไง AM : เรามีสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันนะครับ ยาสีฟัน ข้าวสาร อาหารสำเร็จรูป เสื้อผ้า และอีกสารพัด US: แมร่งงงงงงงงงง ครอบจักรวาลจริงๆเล้ยยยยยยยยย ( แอบคิดในใจ ) อยากทำน่ะ แอมเวย์ แต่ไม่ชอบ ลักษณะการขยายธุรกิจ มันน่ารำคาญอ่ะ จากคุณ : play_brain - [ 11 พ.ย. 51 17:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สนับสนุนครับ  ตัวธุรกิจมันดีของมัน สินค้าก็ดีของเขา  คนที่ทำนี่ล่ะปัญหาว่าไม่เข้าใจระบบธุรกิจ  เอาแต่จะขายๆๆๆสมัครๆๆๆยอดๆๆๆๆๆ  แต่ถ้าสนใจทำก็เป็นการดีครับ  ลองศึกษาดู  ดีชอบก็ทำครับ จากคุณ : Fays (by_faith) - [ 11 พ.ย. 51 17:24:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สินค้า ok แต่คนทำไม่ ok พึ่งมีคนทำมาชวนผม พูดเหมือนตัวเองดีเลิศ สินค้าเทพขายได้สบาย ไม่ต้องไปเสนอขายใครมันเป็นวิธีของพวกคุณปู่คุณยายโน้นล้าสมัย ผมรู้อยู่แล้วคับว่ามันเป็นเหมือนลูกโซ่ หาลูกข่ายไปเรื่อยๆ แต่เค้ามาพูดกับผมแบบนี้ มันเหมือนเค้าเทพมาก สินค้าสูงส่ง ผมไม่อยากจะฟังหรอกคับ จากคุณ : เก็บข้อมูล - [ 11 พ.ย. 51 17:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ป่าวหรอกคับ ผมแค่อยากรู้ความคิดของคนทั่วไปน่ะครับ อย่างผมน่ะ เข้าใจอยู่แล้วว่าการถูกปฏิเสธเป็นธรรมชาติของธุรกิจนี้ ตลกมากครับ ผมเคยคุยกับคนที่เพิ่งรู้จก ผมแอมยังไม่ทันลงเวย์ ก็ขึ้นรถเมล์หายไปแล้ว ผมไม่เคยอายนะครับถ้าใครถามว่าผมทำ AMWAY หรอ ดีซะอีก บางคนเค้ากำลังอยากใช้ผลิตภัณ แต่หาซื้อไม่ได้ พอเจอผมดีใจสมัคร member กับผมเฉยเลย ถูกต้องแล้วครับ AMWAY มันคล้ายๆกับตำรวจ เวลาตำรวจซักคนทำเรื่องเสียหาย ก็กลายเป็นมองตำรวจทั้งหมดไม่ดี ผมทำมา 2 เดือนแล้ว ตอนนี้เป็น 9 % แล้วครับ เครือข่ายผมประมาณ 20 คน ทำแบบสบายๆ ก็ได้ 2000 กว่าบาทต่อเดือนแล้ว ^ ^ จากคุณ : Cybercopj - [ 11 พ.ย. 51 17:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คห.5 การเสนอสินค้าแบบที่คุณเจอมาอาจเจอแบบผิดๆก็ได้นะครับ ถ้าเสนอที่ถูก มันต้องเอาความจริงใจเข้าไปเสนอ โดยไม่หวังว่าคนที่เราพูดด้วยจะต้องมาซื้อนะ จะต้องทำนะ เหมือนเพื่อนคุณบอกว่า "เฮ้ย หนังเจมบอนภาคใหม่สนุกมาก" แต่เผอิญคุณยังไม่อยากดูหนัง คุณก็ยังไม่ต้องไปดูก็ได้ ต้องเข้าใจคับ บางคนอาจจะคาดหวัง หรือ ตื่นเต้นรีบทำมากเกินไป ทำแบบชิวชิว ก็สบายแล้ว อีกอย่างเรื่องลูกโซ่เนี่ย ต้องเข้าใจว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังไปยึดติดกับธุรกิจลูกโซ่แบบผิดกฏหมายอยู่ เช่น แชร์ข้าวสาร แชร์แม่ชะม้อย หรือ แชร์สัญญาณอินเตอร์เนต เราต้องแยกให้ออก ระหว่าง ธรุกิจเครื่อข่าย กับ ธุรกิจลูกลูกโซ่ หรือ แบบปีระมิด ซึ่งธุรกิจลูกโซ่นั้น รายได้จากการทำธุรกิจนี้ จะเกิดจากการชวนคนใหม่เข้ามาร่วมธุรกิจด้วย โดยอาจมีค่าหัวคิว ค่าสมัคร หรือบังคับซื้อสินค้าเมื่อแรกเริ่มสมัคร แต่ธุรกิจเครือข่ายรายได้หรือส่วนลดที่ได้จะมาจากการซื้อสินค้าทั่วไปไปใช้อุปโภคบริโภค รายได้จะไม่ค่อยหวือหวาในช่วงแรกเริ่มหรอกครับ อย่าเดือนแรกที่ผมทำ ได้ส่วนลดกลับมา 200 กว่าบาทเอง  ^ ^" แต่นั่นเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ Modern Trade ส่วนตัวของคุณเอง แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 51 18:00:25 จากคุณ : Cybercopj - [ 11 พ.ย. 51 17:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 5555 คนขายแอมเวย์คล้ายแมลงสาบจริงๆ มาบ้านเราบ่อยจนแม่เราอึดอัดเลยล่ะ ประมาณว่ามาชวนคุยเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่บ้านก็เลยตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกแล้วไปซื้อที่ร้านเอง แต่ที่ใช้ผลิตภัณฑ์บางตัว ก็ไม่ได้ต่างกับ ของตามห้างทั่วไปหรอกค่ะ จากคุณ : puipolicy - [ 11 พ.ย. 51 17:57:06 A:172.16.125.50 X:58.137.54.34 TicketID:183567 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คห.8 สินค้าก็ดีบ้าง ธรรมดาบ้าง เหมือนทั่วไปแหละครับ ว่าแต่ คนแนะนำครอบครัวคุณได้สอนวิธีใช้รึป่าวครับ เพราะถ้ารู้วิธีใช้ จะทำให้คุณใช้ผลิตภัณได้คุ่มค่ามากทีเดียว ผมชอบสินค้าแอมเวยอย่างนึงก็คือ มันสามารถเอาไปทำธุรกิจได้ครับ อย่างสมมุติ ผมไปบอกเพื่อนว่า "เฮ้ยกูใช้ยาสีฟันคอลเมท ,ไกลชิบ,ดอกบัวบาน..... แล้วปากกรูโครตหอมเลยว่ะ" เพื่อนผมเชื่อแล้วก็ไปซื้อยี่ห้อพวกนี้มาใช้ กลายเป็นว่าผมทำหน้าที่โฆษณาให้ยี่ห้ออื่นไปเรียบร้อยแล้ว กลับกันผมบอกเพื่อนว่า ผมใช้ยาสีฟันของแอมเวย์ไม่มีกลิ่นปากตอนเช้าเลยว่ะ หากเพื่อนเชื่อผม ก็เหมือนผมกำลังโฆษณาสินค้าในร้านตัวเองอยู่ นี้แหละครับที่ผมชอบสินค้าของที่นี่ จากคุณ : Cybercopj - [ 11 พ.ย. 51 18:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตกลงมาถาม หรือเนียนมาโฆษณาคะเนี่ย อ่านแล้วขำ ๆ อ้อ..ขอเพิ่มนิดนึงดีกว่า ที่เปรียบเทียบว่าแอมเวย์เป็นตำรวจอ่ะ มันแปลก ๆ อ่ะค่ะ หรือที่ว่าเปรียบเหมือนตำรวจเพราะชอบรีดไถนะ เย้ยย ล้อเล่นค่า เพิ่มอีกนิดดีกว่า..เราไม่ชอบคนขายแอมเวย์ แต่สินค้าบางอย่างเราก็ใช้ค่ะ แต่คนขายส่วนมาก รับไม่ได้ โดยเฉพาะพวกที่คิดว่าชั้่นเอาเรื่องดี ๆ มาบอก แต่คุณยังไม่เห็นคุณความดีของชั้นประมาณนั้น มันจะอะไรกันนักหนาเนี่ย แล้วอีกอย่าง ก็เพื่อนที่เคยเป็นคนธรรมดา พอไปขายเท่านั้นแหละ ชาตินี้พูดคำอื่นเป็นมั๊ย ดูเป็นลัทธิที่น่ากลัวจริง ๆ เลยค่ะ เอาเพื่อนเราคืนมาาาาา แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 51 19:08:39 จากคุณ : fantastic GiRL - [ 11 พ.ย. 51 19:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทำให้คนบางคน มองเห็นเพื่อน เป็นแค่ลูกค้า ... จากคุณ : maxijojo123 - [ 11 พ.ย. 51 21:42:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ชอบครับ ขายของบนความเกรงใจคนอื่น ทำคนเป็นญาติกัน เพื่อนกันต้องคอยรู้สึกระแวงว่าวันนี้มันมาหาเรามันจะชวนเราไปงานไหนหรือขายอะไรของแอมเวย์อีก ต้องคอยนึกหาแต่ข้ออ้างปฏิเสธเพื่อรักษาน้ำใจ เพื่อนคนอื่นๆเองก็รู้สึกแบบเดียวกับผมครับ อึดอัดครับ จากที่เคยเป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เดี๋ยวนี้คุยอะไรก็จะเข้าแอมเวย์หมด ผมบอกเรียนจบบอกว่าอยากทำงานบริษัท มันก็ชอบบอกว่าผมชอบที่จะเป็นลูกจ้างเหรอ ทำธุรกิจส่วนตัวก็น่าสนใจนะครับ แต่ต้องไม่ใช่แอมเวย์ ที่มีระบบการขายของบนความเกรงใจคนอื่น แต่สินค้าแอมเวย์เป็นสินค้าที่ดีนะครับ แต่ไม่ชอบที่มันเปลี่ยนเพื่อนผมไปขนาดนี้ จากคุณ : 21 - [ 11 พ.ย. 51 21:51:22 A:192.168.0.16 X:58.9.227.32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เพื่อนขาย AW เผลอๆชอบมาขายของให้ทุกที จากคุณ : Ace-pilot - [ 11 พ.ย. 51 22:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พนักงานขายแอมเวย์....ที่ผมเจอ เหมือนโดน "กัดคอ" มา เป็นบริวารกันหมด รักบริษัทและสินค้าของตัวเองจนโอเว่อร์ พูดๆๆๆๆ เหมือนโดนต้องมนต์สะกด ที่สำคัญพูดเหมือนกันทุกคน จนดูไม่จริงใจ ...สินค้าของเค้า ส่วนตัวผมว่าแพงไป และอวดอ้างสรรพคุณเหมือนมาจากสวรรค์ เช่น กินแล้วดีจะนอนหลับง่าย ลองซื้อมากิน กรูก็ยังหลับยากเหมือนเดิม ที่ซื้อก็ไม่ใช่อะไร เห็นน้องที่รู้จักมาทำมาหากินก็อยากช่วย ตอนน้องมันจะขายของ ยังบอกมันว่า "ไม่ต้องพูดเยอะ กรูเป็นคนอยากได้อะไร กรูจะหาซื้อเอง กรูไม่ชอบคนมาเสนอก่อน" จากคุณ : Pain in the neck - [ 11 พ.ย. 51 23:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นเพื่อนเป็นลูกค้าอ่ะ เป็นเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน แล้วเจอมาหาที่บ้านแบบวันเว้นวันเลย แล้วก็บอกว่าไม่ซื้อไม่เป็นไร ขอแค่สาธิตเท่านั้น ก็มาตั้งแต่ 1 ทุ่ม จนถึง 5 ทุ่มตลอด ไม่ไหวเลย ไม่เกรงใจ เลยอุดหนุนยาสีฟันไป 1 หลอด พอหลังจกนั้นไม่กล้ากลับบ้านก่อน 3 ทุ่มเลยชั้น แหยงอ่ะ มันเลยเป็นการแอนตี้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้ไปเลย ใครมาชวนทำหรือซื้อ ให้หยุด อย่าได้คิดพูดออกมาเลยทีเดียว จากคุณ : ice_icecool (ice_icecool) - [ 11 พ.ย. 51 23:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คือเอางี้แหละกัน ผมขายประกันอยู่สนใจเจ้าของกระทู้และทีมงานมากไม่ทราบว่าพอจะทิ้งเมลล์ไว้ได้ไหมคับ เห็นเริ่มมีรายได้และคงอาจมีภาระผมกังวลใจแระเป็นห่วงเดี๋ยวขอไปแนะนำตัวหน่อยนะคับ อย่าลืมทิ้งเมลล์ให้หน่อยนะคับ(มีตั้ง20คนแน่ะ) จากคุณ : ชาย - [ 11 พ.ย. 51 23:14:06 A:124.122.167.168 X: TicketID:191627 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าเจ้าของกระทู้ท่าทางจะร้อนวิชา กระทู้ Amway มีมาเป็นระยะๆ ยาวทุกรอบในคลังกระทู้ก็มีอยู่ ผมรู้สึกว่าบริษัทจะมีกฎว่าห้ามทำธุรกิจทางเนตนี่ครับ ผมว่ายังไงไปหาคนสปอนเซอร์ ฝึกการตอบข้อโต้แย้ง แบบปกติดีกว่านะครับ จากคุณ : Roby - [ 11 พ.ย. 51 23:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีเพื่อนเก่าคนนึงโทรหา โทรมาเล่าให้ฟังว่า แม่ป่วยอะไรนี่แหละ จำไม่ได้แล้ว  เกี่ยวกับมดลูก นู้นนั่นนี่ เราก็ฟัง ๆ คิดในใจว่าเพื่อนคงเศร้ามาก เลยโทรหา เราก็ปลอบๆนะ สงสารจริงๆ ตอนนั้นเราขับรถอยู่ ก็ฟังอย่างตั้งใจ มาลงท้ายว่า เธอเคยกินน้ำทับทิบของแอมเวย์ไหม กินแล้วหาย จะไม่เป็น เรานี่ปี๊ด เลย  ว่า  นี่ตกลงจะมาหลอกขายแอมเวย์เหรอ   เพื่อนเราเข้าเรื่องว่าดีนั่นนู่นนี้ เราเลยตัดสายบอกว่า แค่นี้เลย เสียความรู้สึกมากๆ ป จากคุณ : MultiPlus - [ วันลอยกระทง 00:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอออกตัวอีกคน เป็นคนทำธุรกิจแอมเวย์เหมือนกันครับ แต่ก็มีงานประจำที่ดีทำอยู่เหมือนกัน ทุกท่านที่แสดงความเห็นมา ก็เห็นตรงกันนะครับ ว่าสินค้าของแอมเวย์ดี ที่ดีเพราะเค้ามีการลงทุน ทำวิจัย ทำการตรวจสอบ ทดสอบเป็นอย่างดี มีนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย มาทำงานให้เป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้น สินค้าจึงการันตีได้ ว่ามีความแตกต่างจากสินค้าตามท้องตลาดอย่างแน่นอน ส่วนประเด็นที่เขามาขายๆๆ ชวนสมัคร หรือตื๊อเยอะๆ นั้น ก็ยังยืนยันนะครับ ว่าเป็นที่ตัวบุคคล แล้วแต่ว่าใครจะคิด จะทำอย่างไร จริงๆ แล้วเป็นการเสี่ยงมากๆ ที่บริษัทจะปล่อยให้ใครก็ได้ เข้ามาเป็น ตัวแทนจำหน่ายสินค้าของตนเอง เพราะถ้าไปทำชื่อเสีย ไว้ ก็จะทำให้สินค้าขายไม่ได้ และเท่าที่ผ่านมา บริษัทก็เน้นย้ำเสมอ เรื่องการทำตามกฎจรรยาบรรณของการทำธุรกิจ ซึ่งบริษัทก็ออกมายอมรับ ว่าจะให้ทุกคนทำตาม คงเป็นไปได้ยาก เพราะบริษัท ไม่สามารถไปตรวจสอบได้ทั้งหมด แต่ก็อาศัย การดูแลจากผู้ที่ทำธุรกิจ จนประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง (ตั้งแต่แพลตินัมขึ้นไป) เป็นผู้แนะนำ ถ่ายทอดแนวคิดที่ถูกต้องในการทำธุรกิจ จากคุณ : Hirun - [ วันลอยกระทง 00:13:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ท่านที่ยังไม่เคยเข้ามาเรียนรู้ หรือแม้แต่ศึกษาแนวคิดการทำธุรกิจ จากบริษัทแอมเวย์ ผมอยากแนะนำให้ไปขอข้อมูลได้จากบริษัทแอมเวย์โดยตรงครับ ไม่ต้องมาขอผ่านผม หรือผ่านนักธุรกิจคนอื่นๆ เพราะท่านจะได้ข้อมูล ที่เป็นของจริงที่สุด ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะกล่อมให้สมัครหรอกครับ เวลาพิจารณาข้อมูล ก็ให้มีสติ จะได้พิจารณาข้อมูลอย่างถูกต้อง อยากให้ท่านเอะใจ สงสัยกันหน่อย คนจำนวนมาก เข้ามาทำธุรกิจเพราะเงิน แต่ก็มีไม่น้อย ที่ไม่จำเป็นต้องมาทำธุรกิจ ก็สามารถอยู่ได้สบาย อย่างล่าสุด เพิ่งไปงานประกาศเกียรติคุณนักธุรกิจแอมเวย์ท่านหนึ่ง อดีตเป็นผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ ด้านการเกษตร มีรายได้จากเงินเดือน เป็นหลายแสนบาท แต่ตัดสินใจเปลี่ยนมาทำธุรกิจอย่างเต็มที่ รับเงินจาก ธุรกิจ น้อยกว่าเงินเดือนในอดีตหลายเท่า จนปัจจุบัน มีองค์กรกว่า 126,000 รหัสทั่วประเทศ สิ่งที่ได้รับ มีคุณค่ามากกว่าแค่เงิน อย่างที่หลายท่านเข้าใจ จากคุณ : Hirun - [ วันลอยกระทง 00:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ดังนั้น ผมว่า มองให้เข้าใจเถอะครับ คนที่ใช้สินค้าอย่างเดียว เป็นคนที่รู้ว่าสินค้าดี ใช้คุ้มกับเงินที่จ่ายไป คนที่ตั้งใจขายอย่างเดียว ก็ต้องเข้าใจว่าเขาตั้งใจทำธุรกิจ คนตั้งใจชวนคนเข้างาน ก็เพราะเขาอยากขยายธุรกิจ ดังนั้น ถ้าเราไม่ชอบ ก็ขอแค่บอกเขาไปดีๆ ก็พอครับ ถือว่าเป็นกำลังใจให้คนที่เค้าตั้งใจ ได้มีแรงทำเพื่อความฝันของเขาต่อไป ส่วนนักธุรกิจทั้งหลายครับ อย่าลืมกฎจรรยาบรรณครับ คุณกำลังทำธุรกิจครับ ไม่ใช่ขายของไปวันๆ ถ้าไม่มีทิศทางที่ถูกต้อง ก็จะต้องขายอย่างนี้ไปตลอดชีวิต เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคนครับ จากคุณ : Hirun - [ วันลอยกระทง 00:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หลักๆ ที่ไม่ชอบก็คือ 1. พฤติกรรมของคนทำแอมเวย์ (บางส่วนที่เจอ ย้ำบางส่วนไม่ใช่ทั้งหมด) 2. จากข้อ 1 ซึ่งมักนำมาซึ่งทัศนะคติปลูกฝังชักชวนว่าให้ว่ามีเงินเยอะๆ ก่อน ค่อยทำตามฝัน (ชีวิตคนเรามันสั้นจะทำอะไรก็รีบทำเลยดีกว่า ^^) 3. จริงๆ แล้วสินค้าทั่วๆ ไปในตลาด ก็มีคุณภาพระดับเดียวกัน 4. จากข้อ 3 โดยส่วนตัวไม่มี brand royalty สำหรับสินค้าบางประเภท ชอบเดินเลือกได้อย่างอิสระมากมายหลายยี้ห้อมากกว่า แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร เข้าใจเพราะยังไงก็นับเป็นว่าธุรกิจสุจริตธุรกิจหนึ่งครับ (เพียงแต่ไม่เอา ไม่ใช่ฉันเท่านั้นเอง ^^) จากคุณ : ดอกฟ้ากับนายกระจอก - [ วันลอยกระทง 01:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเดินเข้า 7 - 11 อยากจะซื้อมาม่ามู๋สับห่อจัมโบ้ 8 บาท เพราะที่บ้านชอบทานมาตั้งแต่สมัยอากงพายเรือมาจากซัวเถา พอจะจ่ายเงิน พนักงานบอกว่า พี่ อย่าซื้อเลยมาม่าเนี่ย ไม่อร่อย อากงพี่น่ะโง่แล้ว ซื้อไวไวช้างน้อยดิ ดีกว่า ถูกกว่าด้วย ผมบอกว่าไม่เอาหรอก ผมชอบมาม่า พนักงานเลยทำหน้าหยามเหยียด บอกว่าเสนอสิ่งทีดีกว่าให้แล้วยังโง่ไม่เอา แล้วก็ยัดเยียดไวไวใส่กระเป๋าผม พร้อมกับไม่ทอนเงิน อารมณ์ประมาณนี่ครับ จากคุณ : cookiecompany - [ วันลอยกระทง 03:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ บรรยายได้เห็นภาพแจ่มชัดเลยครับ จากคุณ : แสงเรืองรองของฟ้าหลังฝน - [ วันลอยกระทง 08:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมเข้าใจเองว่า เป็นเพราะคนขายบางส่วนทำระบบเสีย เค้าต้องการให้ขายเป็นระบบ แต่คนขายบางส่วนอยากรวย เลยต้องพยายามขายให้ได้ทุกทาง จนเหมือนยัดเยียด หรือให้ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับสินค้า หรือข้อมูลบิดเบืยนให้ downline ปล.ที่ผมเจอมาเป็นอย่างนี้นะครับ (เจอมา 3 ราย ส่วนรายอื่นไม่คุยแล้วครับ) ผมเคยเถียงกับเพื่อนที่ชวนผมทำ จนเพื่อนผมหรือคนที่เคยชวนผมเถียงไม่ออกมาแล้ว...... และผมก็ทำงานเป็นปกติจนทุกวันนี้ 4-5 ปีแล้ว ส่วนคนที่เคยมาชวนผม มันพึ่งไปทำงานประจำเมื่อ 2 ปีที่แล้วครับ จากคุณ : LoginM2F - [ วันลอยกระทง 08:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 26 น่าเบื่อเหมือนกันครับ พี่ที่ทำงานหลายคนทำกัน ต้องทนฟังเรื่องสินค้า คุณภาพดีเลิศครอบจักรวาลทุกวัน มันก็น่าเบื่อนะ  หลัง ๆ มานี่ไปกันใหญ่ คนป่วยยังมีหน้ามาเสนอขายอีก บอกถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์จะ ไม่ป่วยแบบนี้หรอก แต่แอบสะใจตอนคนขายป่วยเอง ไม่เห็นพูดถึงโปรตีน น้ำส้ม เครื่องกรองน้ำ เครื่องฟอกอากาศไปหลายวัน ที่จริงอยากจะบอกว่าสมัยนี้คนซื้อสินค้ามากมายเขาก็ไม่ได้โง่ที่จะเชื่อ คนขายไปหมดหรอก ไม่ต้องมาโอ้อวดคุณภาพระดับเทพก็ได้  ผลิตภัณฑ์ บางตัวแค่เปรียบเทียบที่คนขายแอมเวย์พูดกะข้อมูลที่อยู่บนกล่อง มันก็ขัดแย้งกันเองแล้ว(โดยเฉพาะพวกอาหารเสริมทั้งหลาย) หลัง ๆ มานี่ไปอีกขั้น มาอ้างแพทย์ พยาบาลบอกว่าถ้าใช้ยาจะไม่หาย ต้องมาใช้แอมเวย์ดีกว่าไปหาหมอหรือใช้ยาอีก กะแค่หมอหรือ นักโภชนาการที่บริษัทจ้างไปบรรยาย คนขายพวกนี้เล่นเอามาหากินได้ อีกเป็นชาติ ถ้ามีคนนามสกุลเหมือนตระกูลนักธุรกิจดัง ๆ หลงเข้ามาใน วงจรนี่ เฮกันลั่นเพราะสามารถเอาไปอ้างได้อีกว่าพวกรวย ๆ มีธุรกิจดัง ๆ ยังมาทำแอมเวย์เลย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้อยู่ในวงธุรกิจนั้นเลย แค่นามสกุล เหมือนกัน ยังจะเอามาหากินเอง เฮ้อ... แล้วมีผลิตภัณฑ์ไหนดีเลิศอย่างที่ว่าไหม อันนี้ไม่รู้ เพราะเท่าที่ทดลองใช้ เมื่อเทียบกะราคาและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในท้องตลาดแล้ว ไม่มีความ แตกต่างกันเลย ที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือต้องเสียเงินมากกว่าเดิม เลยไม่เห็นประโยชน์ว่า จะเสียเงินให้มันมากกว่าเดิมทำไม ในเมื่อไม่ได้ ทำให้อะไร ๆ เปลี่ยนแปลงไป............ จากคุณ : Two ways - [ วันลอยกระทง 08:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มันก็เหมือนกับเล่น "พนันบอล" แรก ๆ ก็ถูก ได้เงินดีหรอก แต่ทำ ๆ ไปความโลภ มันก็เกิดไง จากถูก(ได้เงินเยอะ ๆ ) ก็เป็นถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง ก็เลยต้องตุนสินค้าไว้ในมือ (เพราะจะได้เหมือนกับว่าถูกเยอะ ๆ) จนถึงวันหนึ่ง ดันแทงไม่ถูกเลย เงินหมุนไม่ทัน เงินจม สุดท้ายก็แปลงร่าง จากคุณ : samporndanai - [ วันลอยกระทง 08:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แอมเวย์  เป็นเหมือน ตำนานครับ  คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า สินค้าดี ครับ ยอมรับ แต่ก็แลกด้วยราคาที่สูงด้วยครับ แต่ที่ทำให้คนไม่ยอมรับ เพราะ สมาชิกที่พยายามจะขายให้ได้ จำได้เมื่อก่อนเน้นให้สมาชิกขาย ไม่โฆษณา ไม่มีตั้งหน้าร้าน แต่ปัจจุบัน มีโฆษณา ล่า สุดขายบัตรสมาชิกให้ไปซื้อสินค้าได้ มีที่ทำการยังกับซุปเปอร์สโตร์ ส่วนสินค้า นั้น ผมไม่ทราบครับ ว่า ปัจจุบัน ยังมีคุณภาพสูงเหมือนเดิมหรือเปล่า แล้วแบบนี้คุณยังจงรักภักดีกับ แอมเวย์ต่อไปเถอะครับ จากคุณ : alpha_sss - [ วันลอยกระทง 09:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 1. คนที่มาชวน ไม่จริงใจ ไม่บอกเงื่อนไขความจริงทั้งหมด บอกแต่ส่วนดี แต่ไม่บอกส่วนร้ายให้เห็น 2. เป็นธุรกิจที่เอาเปรียบ ต้องขายให้ได้เท่านั้นเท่านี้ถึงจะได้ค่าคอมฯ / เงินปันผล แต่ถ้าขายแล้วไม่ถึงยอดไปตกที่ upline แล้วไงค่ะ ก็ upline รวยซิ 3. มันไม่ได้เป็นธุรกิจเสริมแล้ว มันเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เวลาทำอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้เงินพอยาไส้... 4. สรุปคนที่รวยที่สุดคือพวก Upline ต่างๆ ทำให้คนอื่นใช้...ทำไปทำไม จากคุณ : คนเคยถูกหลอก - [ วันลอยกระทง 09:40:00 A:124.120.34.70 X: TicketID:193740 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ความเห็นส่วนตัว เพราะธุรกิจไม่มีทางลัด แต่จะมีบางคนบอกว่ามันจะมีทางลัดทำให้มีความหวัง ธรรมชาติของคนมีความกลัวอยู่แล้ว เมื่อผิดหวังก็กลายเป็นเกลียดไป เรื่องแบบนี้ก่อนตัดสินใจต้องศึกษาก่อน ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไปแน่นอน คุณภาพราคาความคุ้มค่า อยู่ที่เราจะเอาอะไรมาตัดสิน มันเป็นแค่ทางเลือกนึงเท่านั้น แต่ที่แน่ๆคนทำไม่ควรยัดเยียดสิ่งที่เขาไม่ต้องการ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 51 12:01:32 จากคุณ : EDM - [ วันลอยกระทง 11:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเคยโดนเพื่อนพาไปฟังประชุมแอมเวย์ และพาไปดูตอนรับรางวัลครับ ผมเห็นคนทำแอมเวย์  มี  หลายหมื่นคน แต่มีคนที่ ไปรับรางวัล จริงๆ ประมาณ ไม่ถึง 100 คนครับ มีไม่ถึง 1% ที่จะไปยืนที่จุดนั้นครับ  ส่วนมากจะ พูดเก่งจริงๆ ครับ อันนี้ผมยอมรับ ว่า คนเหล่านั้น มีฝีมือ จริงๆครับ แต่ คนอื่นๆ ที่เหลือ บางคน ทำได้ 3 เดือน  6  เดือน  9 เดือน 1 ปี ฯลฯ คนที่ทำได้ เกิน 1 ปี ผมว่ามีไม่มากนะครับ เพราะว่า เวลาคุยกับ เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง   หรือคนรู้จัก จะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ดูเหมือนว่า เป็นห่วงเป็นใย สุดท้าย จบ ลงด้วยการขายสินค้า ครับ เลยทำให้คนอื่นคิดว่า ที่พูดมาทั้งหมด นี่มัน จริงใจ แค่ไหนครับ แล้ว คนทำแอมเวย์ จะ รู้สึกว่าตัวเอง มีความสามารถทางการพูดมาก (มากกว่าความสามารถจริง) คิดว่า ตัวเองปิดการขายได้ เก่ง  ฯลฯ อะไรประมาณนั้นครับ เหมือน คนโดนสะกดจิต โดยไม่รู้ตัว ใครจะว่า ใครจะเตือนอะไร ก็ ไม่เป็นไร  รอวันที่เราประสบความสำเร็จก่อนเถอะ  ฯลฯ กว่าจะรู้ตัวอีกที คนอื่นรอบตัวก็หายหมดแล้วครับ ธุรกิจนี้ ได้เงิน แต่ เสีย อะไรไปมากมาย ครับ จากคุณ : Rhythm Investor - [ วันลอยกระทง 14:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เคยเข้าไปฟังอบรม และใช้สินค้าของ AW ค่ะ เพื่อเกรงใจเพื่อน ที่สำคัญเพื่อนขอให้ช่วยเข้าไปฟัง เราก็ไม่เอะใจไปสัก 2-3 ครั้ง ถึงเริ่มรู้ว่าเพื่อนมีอะไรปิดบังเรามาก  ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ ม.ต้น โดยที่เพื่อนอ้างว่ามาฟังบ่อย ๆ เดี๋ยวก็รุ้และเข้าใจเอง เรารึก็เชื่อสรุปก็คือ ได้สมัครเป็นนักธุรกิจ AW เพราะเพื่อนชวน โดยที่เราไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง สรุปคือ ต้องซื้อสินค้าลองใช้เองทุกตัว (แต่เราไม่ได้ซื้อ ยกเว้นเครื่องสำอางที่ใช้แล้วดี) การเข้าฟังอบรมในแต่ละครั้งต้องเสียเงินตลอด หลัง ๆ เริ่มคิดได้ว่าเอะอะไรกัน ทำไมเข้าไปฟังอบรมต้องเสียเงินด้วย สรุป คือ เพื่อนไม่บอกเลยปล่อยให้เราเรียนรู้เอง สุดท้ายถามเพื่นตรง ๆ เพื่อนบอกมันเป็นทริกอย่างหนึ่ง ถ้าบอกหมดเราจะไม่เป็นสมาชิก สรุปคือซวยเองเลยงานนี้ ตอนนี้เพื่อนก็ยังทำอยู่แต่เราขอบ๊าย บาย ตั้งแต่รู้ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด คนที่ทำงานตรงนี้ที่ดี ๆ ก็มีเยอะ แต่ที่ไม่มีก็มากเหมือนกัน แอมเวย์เหมือนเป็นองค์กรหนึ่งที่เมื่อเราหลงทางเข้าไปแล้ว เราก็จะไปเจอโลกอีกโลกที่ทุกคนต้องทำได้ (ขายของได้) ตอนนี้เราก็ยังดำรงสภาพเป็นนักธุรกิจอยุ่แต่ไม่เคยขายสักครั้ง ไม่รู้สิโกหกคนอื่นไม่เป็น ทำงานตรงนี้ไม่ได้ ที่สำคัญไม่เหมาะกับเราด้วย ลาก่อนแอมเวย์ จากคุณ : เส้นขอบฟ้าลายสีรุ้ง (เส้นขอบฟ้าลายสีรุ้ง) - [ วันลอยกระทง 15:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไปต่อกันที่ กระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7200182/B7200182.html ผมเองก็ไม่ได้เกลียดแอมเวย์นะ แค่บางครั้งเบื่อคนทำบางคน ผมขออธิบาย บางอย่างที่ไม่เข้าใจกันนะครับ คห26 "หลัง ๆ มานี่ไปอีกขั้น มาอ้างแพทย์ พยาบาลบอกว่าถ้าใช้ยาจะไม่หาย ต้องมาใช้แอมเวย์ดีกว่าไปหาหมอหรือใช้ยาอีก กะแค่หมอหรือ นักโภชนาการที่บริษัทจ้างไปบรรยาย คนขายพวกนี้เล่นเอามาหากินได้ อีกเป็นชาติ ถ้ามีคนนามสกุลเหมือนตระกูลนักธุรกิจดัง ๆ หลงเข้ามาใน วงจรนี่ เฮกันลั่นเพราะสามารถเอาไปอ้างได้อีกว่าพวกรวย ๆ มีธุรกิจดัง ๆ ยังมาทำแอมเวย์เลย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้อยู่ในวงธุรกิจนั้นเลย แค่นามสกุล เหมือนกัน ยังจะเอามาหากินเอง เฮ้อ..." --จริงๆ เรื่องโภชนาการบำบัดนั้น เป็นเรื่องที่หลายคนไม่เข้าใจครับแม้กระทั่งหมอหลายคน ยาไม่ได้ทำให้ร่างกายฟื้นฟูขึ้นครับ ยาทำหน้าที่ ยับยั้ง ฆ่าเชื้อหรืออกฤทธิ์กับระบบประสาท ทำให้ บรรเทาอาการบางอย่างเท่านั้น ไม่สามารถให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดีเท่ากับสารอาหารที่สกัดมาเฉพาะ และดูดซึมได้มากกว่าปกติหรอก เรื่องนี้อธิบายแล้วยาวครับ แต่เรื่องจ้างหมอจ้างพยาบาลมาน่ะ มีกัน2แบบครับ ไม่ว่าจะบริษัทไหน 1 หมอ พยาบาล เภสัช มาทำธุรกิจเอง 2บริษัทจ้างมาเป้นวิทยากรรับเชิญ กรณีนี้ บริษัทจะแจ้งอย่างเปิดเผยเอง อย่าไปเหมาว่าเค้าจ้างมาทั้งหมดครับ -------------------------------------------------- คห28 "จำได้เมื่อก่อนเน้นให้สมาชิกขาย ไม่โฆษณา ไม่มีตั้งหน้าร้าน แต่ปัจจุบัน มีโฆษณา ล่า สุดขายบัตรสมาชิกให้ไปซื้อสินค้าได้ มีที่ทำการยังกับซุปเปอร์สโตร์" -โฆษณาต้องมีแน่ครับ เพราะถ้าออกโปรดักซ์ใหม่มา แล้วไม่โฆษณา มีหวัง สินค้าใหม่ไม่เกิดครับ เพราะตอนนี้ แอมเวย์ โดนแย่งตลาดสินค้าแทบทุกกลุ่มไป ก็บริษัทขายตรงตอนนี้มันมีกันครึ่งพัน บริษัทแล้ว คุณภาพ ก็ถือว่าดีพอๆกัน ยอดขายปีละ หมื่นกว่าล้าน แบ่งให้สมาชิกไปแล้ว ไม่ถึง30% หรอกครับ ดังนั้นจะอัดงบโฆษณา ปีละ 2-3ตัว ก็ไม่ถือว่าขัดกับรูปแบบการตลาดเท่าไหร่นัก ถ้าบริษัทเพิ่งเปิด ทำขายตรงแล้วมาโฆษณาสิ แปลก คงหมดงบตั้งแต่ยังไม่ครบ1ปีแล้วล่ะ ----------------------------------------------------------- คห31 "แต่มีคนที่ ไปรับรางวัล จริงๆ ประมาณ ไม่ถึง 100 คนครับ มีไม่ถึง 1% ที่จะไปยืนที่จุดนั้นครับ ส่วนมากจะ พูดเก่งจริงๆ ครับ อันนี้ผมยอมรับ ว่า คนเหล่านั้น มีฝีมือ จริงๆครับ" -- จะบอกว่าทุกคนที่ขึ้นเวทีนั้น พูดเก่งหมดล่ะครับ ไม่ได้เพราะเค้าพูดเก่งมาก่อนแล้วประสบความสำเร็จหรอกครับ แต่ทุกวันเค้าต้องเจอคน พูดกับคน แล้วต้องพัฒนาบุคลิกตัวเอง หาข้อมูลโต้ข้อโต้แย้งตลอดเวลาทำแบบนี้ บ่อยๆ ซักครึ่งปี ก็กลายเป็นคนพูดเก่งแล้วล่ะครับ ---------------------------------------------------------- คห 32 "การเข้าฟังอบรมในแต่ละครั้งต้องเสียเงินตลอด หลัง ๆ เริ่มคิดได้ว่าเอะอะไรกัน ทำไมเข้าไปฟังอบรมต้องเสียเงินด้วย" --การเข้าอบรมต้องเสียเงินครับ จะทำให้คนเห็นคุณค่าของธุรกิจ ไม่ใช่ ไปนั่ง5นาทีแล้วกลับบ้าน จะกลายเป็็นว่า ไม่ได้รุ้อะไร แล้วกลับไป เสียเวลาเปล่าๆครับ การทำธุรกิจเครือข่าย ต้้องเข้าประชุมทั้งนั้นล่ะครับ ไม่มีใครสำเร็จโดยไม่เข้าประชุม อบรม หลายคนอาจให้ความเห็นว่า ตัวเองไม่ชอบเข้ามานั่งฟังอบรม แล้วเสียตัง แต่อยากถามกลับเหมือนกันว่า 1 ไม่ชอบเข้าอบรม แล้วเรียนจบมาได้ยังไง ตอนเรียน ก็นั่งอยู่ในห้อง อบรมเหมือนกัน ตอนเรียนอยุ่ เค้าสอนวิธีการหาเงินหรือเปล่า แทบจะ70% การศึกษาในห้องเรียน สอนให้เราได้แต่จำ เอาไปสอบ แต่การอบรมธุรกิจแบบนี้ เค้าสอนให้เราไปทำงานให้ได้เงิน 2 ถ้าคิดว่า อบรมแล้วเสียตัง เป็นเรื่องไม่ดี แล้วตอนเรียนน่ะ เสียตังรึป่าว หรือว่าเรียนฟรี ---------------------------------------------------- ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับแอมเวย์นะครับ แค่อยากจะเล่าถึงที่มาที่ไป ที่บางคนไม่เข้าใจน่ะครับ จากคุณ : โย่วว - [ วันลอยกระทง 19:20:40 A:125.26.82.10 X: TicketID:192515 ]

ความคิดเห็นที่ 34 2 ถ้าคิดว่า อบรมแล้วเสียตัง เป็นเรื่องไม่ดี แล้วตอนเรียนน่ะ เสียตังรึป่าว หรือว่าเรียนฟรี ------------------------------------------------------------------------- ถ้าคุณเป็นพนักงานหรือผู้หาผลประโยชน์เข้าองค์กร แต่คุณ ยังต้องมาจ่ายในส่วนที่องค์กรควรจะจ่ายให้ ถามว่ามันแฟร์กับคุณไหม ไม่ต้องมายกไปเปรียบเทียบกับการเรียนหนังสือเลย เพราะนักเรียน นิสิตนักศึกษา ไม่ได้ไปขายสินค้าหาเงินหรืออะไรเข้าโรงเรียน วิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย แต่เขาจ่ายเงินเพื่อแลกกับความรู้ที่มันเป็น general เอาไปใช้ได้ในวงกว้าง ไม่ใช่มาอบรม skill ที่ต้องใช้ในการหาประโยชน์ ให้บริษัทแต่ต้องจ่ายตังค์ ถ้าเป็นองค์กรทั่ว ๆ ไป พนักงานในองค์กรเขาก็ได้รับการพัฒนาโดยที่ บริษัทเป็นคนจ่ายเงินให้ เพราะเขาจะมองในเชิงที่ว่าผลจากการอบรม จะนำมาซึ่งประโยชน์แก่องค์กรอยู่แล้ว โดยเฉพาะการอบรมที่เอา เจ้าหน้าที่ในองค์กรมาเป็นวิทยากรจะไม่มีการเก็บเด็ดขาด เพราะบริษัท ก็จ่ายเงินเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ท่านนั้นอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีองค์กรไหน เห็นแก่ได้ขนาดต้องมาเก็บตังค์หรอก คห 35 คู่ค้าหรือ partner หรือตัวแทนจำหน่าย ก็ควรได้รับการอบรมฟรี จากบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้วยครับ ลองหันไปดูบริษัทข้ามชาติอื่น ๆ ดูนะครับ เขาจะจัดพนักงานฝึกอบรมของเขาไปอบรมให้ความรู้ให้กับ ตัวแทนจำหน่ายหรือคู่ค้าของเขาตลอด ผมเองก็ยังเข้าร่วมการฝึกอบรม มากมายหลาย course แต่ไม่เห็นจะมีที่ไหนเก็บเงิน แถมเขายังมีอาหาร เครื่องดื่มเลี้ยงอีก หรือไปต่างจังหวัดก็จ่ายค่าที่พัก ค่าเดินทางให้ เพราะบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์เขาถือว่าผมก็ทำผลประโยชน์ให้กับเขา ถึงแม้จะไม่ได้เป็นพนักงานเขาโดยตรง แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 51 23:50:30 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 51 23:46:26 จากคุณ : Two ways - [ วันลอยกระทง 23:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ^ ^ เพราะบริษัทปฏิบัติต่อคุณแบบคู่ค้า หรือ partner ไงครับ ไม่ได้ปฏิบัติแบบพนักงานขาย ที่ทำยอดให้บริษัท ผมว่าคุณโย่วว ก็ตอบได้ดีแล้วนะครับ จากคุณ : Hirun - [ วันลอยกระทง 23:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คห 34 ครับ แอมเวย์เค้าไม่ได้จ้างใครเลยครับ เพราะฉะนั้นจะไปเปรียบกับ บริษัทอื่นๆไม่ได้หรอก ธุรกิจครับ ไม่ใช่การจ้างงาน แยกให้ออกด้วย การที่มีการเสียเงินเข้าอบรมนั้น ก็อย่างที่บอกล่ะ ไม่ใช่เฉพาะ แอมเวย์ครับ ขายตรงที่อื่นเค้าก็ทำ เพื่อให้คนเห็นคุณค่า ต่อการเข้าไปเรียนรู้วิธีการทำงานนั้น ผมขอแยกก่อนนะครับ การเข้าประชุมนั้น มีอยู่2 กรณี 1 บริษัทจัดเอง แบบนี้ ก็เสียค่าใช้จ่ายแน่นอนครับ เพราะเป็นการสอน เทคนิคต่างๆ เช่น การพูดในที่ประชุม การอบรมแต่งหน้า การฝึกการบริหารธุรกิจ ฯลฯ จะเห็นได้ว่า ถ้าบริษัทจัดเองจะเน้น เกี่ยวกับ เทคนิค ความรู้มากกว่า การเก็บเงินก็เพื่อให้ นักธุรกิจ เห็นความสำคัญ เหมือนไปเรียน รร เสียค่าหน่วยกิตแล้ว ก็ต้องให้คุ้ม ส่วนงานที่บริษัทส่วนมากจะไม่เก็บค่าใช้จ่าย มักเป็นลักษณะ งานเปิดโอกาสธุรกิจครับ 2 ทีมงานจัดกันเอง เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจ แบบนี้ ยังไงก็ต้องเก็บเงินครับ เพราะ นักธุรกิจเหล่านี้ จะปลูกฝัง การทำธุรกิจกันอยู่แล้ว ถ้าทุกคนเข้าฟรีแล้วใครจะออกเงิน แบบนี้ คนใหม่มาเรื่อย คนเก่าออกให้ตลอดไปเหรอครับ ธุรกิจเป็นของทุกคนครับ อะไรก็ต้องมีการลงทุนล่ะ ------------------ ** ฝากไว้นิดนึงครับ คนส่วนใหญ่ที่ทำงานประจำ หรือ เป็นตัวแทนขายประกัน จะมีมุมมองทางด้านรายได้ต่างจากนักธุรกิจครับ นั่นคือ รายได้ที่มานั้น ต้องมาจาก เอาแรงและเวลาไปแลก กลุ่มนี้จะมองว่า อะไรๆที่ต้องเสียตังก่อนเป็นเรื่องควรเลี่ยง ซึ่งต่างจากนักธุรกิจทั่วๆไป ซึ่งจะทำธุรกิจอะไรซักอย่าง ก็ต้องมีการลงทุนอยู่แล้ว เพราะรายได้เค้าอยู่ในรูป กำไร ไม่ใช่ค่าจ้าง จากคุณ : โย่วว - [ 13 พ.ย. 51 01:38:46 A:125.26.82.167 X: TicketID:192515 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คหที่ 36 แอมเวย์เค้าไม่ได้จ้างใครเลยครับ เพราะฉะนั้นจะไปเปรียบกับ บริษัทอื่นๆไม่ได้หรอก *ซึ่งต่างจากนักธุรกิจทั่วๆไป ซึ่งจะทำธุรกิจอะไรซักอย่าง ก็ต้องมีการลงทุนอยู่แล้ว เพราะรายได้เค้าอยู่ในรูป กำไร ไม่ใช่ค่าจ้าง -------------------------------------------------------------------------- เปรียบได้ครับ ถ้าคุณบอกว่าคุณไม่ได้เป็นลูกจ้างหรือพนักงาน แต่เป็น partner หรือคู่ค้า แล้วแอมเวย์เป็นผู้ผลิตหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ ในฐานะคู่ค่าไม่ใช่การจ้างงาน(ซึ่งคุณบอกว่ามีรายได้จากกำไร) คุณลอง พิจารณากับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ดูนะ ว่ามีอะไรที่เหมือนและแตกต่างกันบ้าง ที่เหมือนกันแน่นอนคือมีรายได้จากผลกำไรจากการขายสินค้า แต่รูปแบบ กำไรที่ได้แตกต่างกันไป และไม่ได้รับเงินเดือน/ค่าจ้าง ที่แตกต่างกันแน่นอนคือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่คู่ค่าควรจะได้ ไม่ว่าจะเป็น การฝึกอบรม การสัมมนา ที่องค์กรส่วนใหญ่จะจัดให้คู่ค้าฟรี ตัวอย่างสินค้า ทดลองใช้งานฟรีเพื่อให้คู่ค้านำไปสาธิตให้กับลูกค้า ธุรกิจต้องมีการลงทุน นั้นก็จริงครับ แต่ไม่ใช่ให้ partner เป็นคนลงทุน ฝ่ายเดียว เจ้าของสินค้าก็ต้องช่วย support ด้วย เพราะได้ประโยชน์จาก partner ไปเต็ม ๆ จากคุณ : Two ways - [ 13 พ.ย. 51 09:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 38 การทำอะไรทุกอย่างในธุรกิจ ก็ต้องมีการลงทุนทั้งนั้นครับ การอบรม การสัมมนา ที่จัดให้ฟรีนั้น บริษัทก็ต้องมองแล้วว่า ในแง่ผลประโยชน์ที่ได้รับกลับมา ต้องมากกว่าที่เขาเสียไปก่อนแน่นอน แต่จะกลับมาในรูปแบบไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เขาทำธุรกิจนะครับ ไม่ใช่งานการกุศล ต้องมีการคำนวณอย่างรอบคอบแล้ว ว่าบริษัทไม่เสียผลประโยชน์แน่นอน จึงจัดขึ้น อะไรฟรีๆ ใครก็อยากได้ครับ แต่ให้คิดต่อหน่อยนึง ว่าทำไมเขาให้ฟรีได้ ส่วนการเก็บเงินจากการอบรมของแอมเวย์นั้น ผมมองว่าเป็นเพราะการอบรมนั้น เขามีค่าใช้จ่ายเพราะ ไม่มีการรับประกันว่า ทุกคนจะสามารถเอาไปทำเงิน กลับมาให้กับบริษัทได้ ดังนั้น การเสียเงินค่าประชุม ก็ถือเป็นการแชร์ค่าจ้างวิทยากร ค่าสถานที่ และอื่นๆ ส่วนใครจะเอาไปทำอะไร แล้วได้ยอดธุรกิจ กลับมาหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่บริษัทไปบังคับไม่ได้ ฉะนั้น ผมขอผ่าน ประเด็นที่ว่าทำไมไม่ฟรี ท่านอื่นจะถกกันต่อ ก็ตามสบายนะครับ ผมจะนั่งรอฟัง จากคุณ : Hirun - [ 13 พ.ย. 51 09:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เรื่อง AMWAY มันเป็นเหมือนเรื่องแนวคิดน่ะครับ ห้ามพูดกันในวงสนทนาเด็ดขาด เพราะเด๋ววงแตก คล้ายๆ เป็นเรื่องที่ไปทำลายความเชื่อที่ปลูกฝังหรือได้รับกันมา ตั้งแต่ยังเด็กจนถึงปัจจุบันเลย จะใช้เวลาเพียงข้ามวัน หรือ อ่านบทความสองสามบทความ แล้วจะเปลี่ยนความคิดได้เลย มันก็อัศจรรย์เกินไปแล้วน่ะครับ มันก็แล้วแต่ประสบการณ์ที่แต่ละคนเคยเจอสะสมกันมา ดีบ้าง แย่บ้าง ผมเป็นคนนึงที่ครอบครัวเคยโดนโกงเกี่ยวกับธุรกิจคล้ายๆแบบนี้ไปเป็นแสน แรกๆ แอนตี้มาก ธุรกิจแบบนี้ แต่พอดีผมอยากมาลองดูมาสัมผัสด้วยตัวเอง ว่ามันแย่ยังไง หรือดียังไง ทำไมมาชวนจัง ผมอาศัยหลัก กาลามสูตร ตามพุทธศาสนาน่ะครับว่า เลยลองเข้ามาศึกษาดีกว่า ถ้าไม่ดีก็ชั่งมัน ถ้าดีแล้วไม่ทำอาจจะเสียโอกาส เหมือนเดินไปเจอแบงค์พันขยำตกอยู่ที่พื้น ถามหน่อยว่าจะเดินผ่านไปเฉยๆหรอ มันก็ต้องลองเก็บดูหน่อย เอามาคลายดู เป็นแบงค์จริง ผมก็โชคดี เป็นแบงค์ปลอม ผมก็ทิ้งแล้วเดินผ่านไป ไม่มีอะไรเสียหายนี่ครับ ต้องขอบคุณคนชวนผมที่ถ่ายทอดแนวคิดดีๆให้ผม เพราะใน 100 คน จะเจอคนที่ทำถูกวิธีแค่ซัก 5 คนเท่านั้นเองครับ ตอนผมเจอคนทำผิดวิธีมาชวนประมาณ 6 คนซึ่งผมรู้จักผมก็ยังไม่สนใจที่จะเข้าไปศึกษานะครับ ผมไม่ได้ถูกล้างสมองนะครับ ยังดีอยู่ ผมไม่ได้ลาออกจากงานประจำนะครับ ยังทำอยู่ ที่ผมเปลี่ยนไปก็คือจากที่ผมเคยเอาเวลาที่เหลือไปกินเหล้า เที่ยวผับกับเพื่อน ไปดูหนังกับแฟน หรือนั่งเล่นเกมเล่นเนตจับเจ่าอยู่ที่บ้าน เพื่อนผมก็ยังรักผมเหมือนเดิม แฟนผมก็รักผมเหมือนเดิม ผมก็ยังมีความสุขเหมือนเดิม ผมแค่เอาเศษๆเวลาที่ผมเหลือในแต่ละวัน ไปทำให้มันมีค่าในธุรกิจส่วนตัวของผมเทานั้นเอง สำหรับคนที่เข้ามาอ่านแล้วอาจจะรู้สึกดีหรือรู้สึกแย่นะครับ ไม่มีใครบังคับให้ใครทำอะไรในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบหรือไม่อยากทำได้หรอกครับ ผมไม่เคยดูถูกอาชีพอื่น ผมไม่เคยดูถูกความคิดคนอื่น คนทุกคนมีคุณค่าในตัวเราด้วกันทั้งสิ้น คนที่มีความคิดแตกต่างจากเราก็มีอีกมาก แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ คุณว่าจริงไหมครับ จากคุณ : Cybercopj - [ 13 พ.ย. 51 09:44:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ช่วยกัน กด โหวตกะทู้ก็ดีนะครับ จากคุณ : okb - [ 13 พ.ย. 51 17:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สาวก AMWAY เยอะเหมือนกันนะ อิอิอิ คุณโย่วว บอกว่าไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับแอมเวย์นะครับ แค่อยากจะเล่าถึงที่มาที่ไป ที่บางคนไม่เข้าใจ เเต่รู้เรื่อง  ดีจัง เป็นสาวกเเน่ๆเลย ขี้จุ๊ อิอิอิ เอาน่า อย่าซีเรียสกันมาก ที่บ.เค้าพยามสร้างฝันให้คนขาย ก็เพื่อทำให้ ธุรกิจเดินได้ ไม่งั้นใครจะอยากมาทำละคะ จริงมะ.....(อย่างเช่น ขายๆไปเถอะวันนึงก็รวยเองละ หรือ อย่าคิดฝันไปไกลมาก ขายคนใกล้ตัวให้ได้ก่อนเถอะ) อือ......อย่างี้จะมีใครไปทำมั๊ยงะ  -_-" เเต่บางครั้งคนเราพูดอะไรที่มันมากเกินไป ก็ทำให้มองเป็นไม่จริงใจ เเล้วก็พาลลำคาญไปด้วย จริงๆของ AMWAY ดีนะคะ เเต่พอคนเค้าไม่ชอบพวก ตัวเเทนที่มาเสนอ ก็พาลเกลียดเเบรนด์นี้ไปด้วย จริงๆ ถ้าบ. หาทางปรับปรุงอะไรบ้างก็ดีนะคะ เป็นกลางนะคะ รักทุกฝ่าย จู๊บๆ จากคุณ : สามสิบยังเปรี้ยวได้ (one-similun) - [ 13 พ.ย. 51 23:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอบ คห. 36 เปรียบได้ครับ ถ้าคุณบอกว่าคุณไม่ได้เป็นลูกจ้างหรือพนักงาน แต่เป็น partner หรือคู่ค้า แล้วแอมเวย์เป็นผู้ผลิตหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ ในฐานะคู่ค่าไม่ใช่การจ้างงาน(ซึ่งคุณบอกว่ามีรายได้จากกำไร) คุณลอง พิจารณากับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ดูนะ ว่ามีอะไรที่เหมือนและแตกต่างกันบ้าง ที่เหมือนกันแน่นอนคือมีรายได้จากผลกำไรจากการขายสินค้า แต่รูปแบบ กำไรที่ได้แตกต่างกันไป และไม่ได้รับเงินเดือน/ค่าจ้าง ที่แตกต่างกันแน่นอนคือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่คู่ค่าควรจะได้ ไม่ว่าจะเป็น การฝึกอบรม การสัมมนา ที่องค์กรส่วนใหญ่จะจัดให้คู่ค้าฟรี ตัวอย่างสินค้า ทดลองใช้งานฟรีเพื่อให้คู่ค้านำไปสาธิตให้กับลูกค้า ธุรกิจต้องมีการลงทุน นั้นก็จริงครับ แต่ไม่ใช่ให้ partner เป็นคนลงทุน ฝ่ายเดียว เจ้าของสินค้าก็ต้องช่วย support ด้วย เพราะได้ประโยชน์จาก partner ไปเต็ม ๆ ----------------------------------- ผมเห็นว่าธุรกิจ Francise ทั่ว ๆ ไป เค้าก็คิดค่าความรู้กับ Partner ทั้งนั้นนะครับ ส่วนการฝึกอบรม เป็นการลงทุนเพื่อพัฒนา Resource ของบริษัทครับ สำหรับกำไรในการทำธุรกิจ แบ่งกันเป็น % สำหรับหุ้นส่วนครับ สำหรับลูกจ้าง แบ่งเป็นค่าจ้างรายเดือนไปครับ ข้อแตกต่างคือ หุ้นส่วนจะได้ผลตอบแทนตามแรงที่ออก แต่ลูกจ้างได้ผลตอบแทนตามที่เจ้าของแบ่งให้ ส่วนการลงทุนของ Amway อยู่ในรูปของการคิดค้นผลิตภัณฑ์ การทำสต๊อค การทำหน้าร้าน การทำบัญชี การประชาสัมพันธ์ การลงทุนของผม เรียนรู้สินค้า (เลือกวิธีเรียนเองได้) และออกไปทำตลาด (เลือกวิธีทำตลาดเองได้ แค่ไม่ต้องผิดกฏจรรยาบรรณ) กับเงิน 900 บาทเริ่มต้น และต่ออายุรายปี 450 บาท ส่วนสินค้าที่ต้องซื้อมาใช้นั้้น ผมไม่นับเป็นการลงทุนสักเท่าไหร่ เพราะแค่เปลี่ยนยี่ห้อ มีโอกาสลองใช้ได้ ไม่ดีไม่เหมาะ หรือแพงไปก็เอาไปคืนได้ ถ้าใช้แล้วดี ใช้แล้วถูก ก็ค่อยใช้ครับ ส่วนถ้าจะมีการอบรมฟรี ก็หมายความว่าค่าอบรมนั้น บวกเข้าไปกับต้นทุนสินค้าด้วยนะครับ ผมว่าแค่นี้ก็มีแต่คนบ่นว่าสินค้าแพงกันอยู่แล้วนะ - -. แล้วจรรยาบรรณสำหรับคู่ค้า ก็มีไว้เพื่อให้คู่ค้าแต่ละคนทำได้อย่างเท่าเทียมกันโดยไม่มีฐานะทางการเงินมาเป็นตัวขัดขวางเท่านั้นเองครับ แต่มีอิสรภาพในการทำงานทุกอย่าง (แต่คนส่วนใหญ่มักเลือกเดินตามความโลภไปเอง ทั้ง ๆ ที่บริษัทสนับสนุนให้ทำตามความเมตตามากกว่า) แตกต่างจากพนักงาน ที่มีกฏระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ในวิธีการทำงาน ไม่มีอันไหนดีกว่าอันไหนหรอกนะครับ แล้วแต่คนจะชอบแบบไหน เพราะแต่ละวิธีการก็เหมาะกับจุดประสงค์ของแต่ละองค์กร แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 51 23:37:31 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 51 23:25:24 จากคุณ : Pegasus7th - [ 13 พ.ย. 51 23:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คห 16 ผมก็อยากแชร์กับคนทำประกันเหมือนกันครับ เห็นคนรู้จักทำกันหลายคน เห็นบอกว่าเกี่ยวกับการออมเงินด้วย ยังไงก็ลองเมลืมานะครับ ถือว่ามาแลกเปลี่ยนความรู้กัน cybercopj@hotmail.com จากคุณ : Cybercopj - [ 14 พ.ย. 51 01:46:47 ]