ความคิดเห็นที่ 1 เย่... จากคุณ : jaminonez - [ วันลอยกระทง 16:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อี๊ย่ะส์ จากคุณ : ผชปปร (ผู้ชายปากปลาร้า) - [ วันลอยกระทง 16:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อืม.... เดี๋ยวรอเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ AMWAY มาแฉ  เอ้ย! มาอธิบายต่อแล้วกันเนอะ (หรือจะรอคุณดีอาร์ก็ได้....อุ๊บ!) จากคุณ : ว่าตามกัน - [ วันลอยกระทง 16:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วย 1 เสียง จากคุณ : เก็บข้อมูล - [ วันลอยกระทง 16:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตั้งไปเพื่ออะไรครับ เพื่อความสะใจเหรอ จริงๆก็ ไม่อยากตอบอ่ะครับ พอเริ่มมีกระทู้ถล่ม ก็มีตามมาติดๆ ท่าทางจะเข้าใจอะไรเยอะเหมือนกันนะครับ สงสัยเคยสมัครทำธุรกิจ หรือไม่ก็มีเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจ เอาซะหน่อย - ถ้ายอดธุรกิจ ตัวเองเป็น0 แต่มียอดองค์กร 21% นั้น ตัวเองจะได้เงินหรือเปล่าครับ  ตอบ  ก็ได้จาก 4% อย่างที่คุณบอกในข้อ 2 ไงครับ แต่ต้องมียอดธุรกิจขององค์กร ที่ไม่รวมยอดของสาย 21% เป็น 55,000 PV ขึ้นไปเท่านั้น แต่ถ้ามี 21% 2 สายขึ้นไป ไม่ต้องมียอดธุรกิจ ก็จะได้ 4% ด้วย ถ้าเคยดูแผนการตลาดของแอมเวย์ จะรู้ว่าถ้าคุณไม่มียอด คุณก็ไม่ได้เงินจากยอดธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว แต่การจะทำให้องค์กรเป็น 21% ได้ก็ไม่ใช่นั่งๆ นอนๆ เค้าก็ทำเป็นนะครับ - บริษัท เค้าจ่ายไม่ไหว ก็เลย แปลงเป็น 4% แล้วบอกว่าเป็นค่าลิขสิทธิ์   ตอบ ธุรกิจนี้ ถ้าจะมั่นคง ก็ต้องมองกันยาวๆ ครับ ถ้าไม่อยากได้ 4% ก็ ก็ขายกันหูตูบทุกเดือนเพื่อให้เป็น 21% ซึ่งไม่ใช่แนวคิดการทำแอมเวย์ครับ - บริษัทมั่นคง ทรัพย์สินมากมาย อยู่นาน มั่นคงที่สุดในโลก   ตอบ อันนี้เข้าใจถูกแล้วครับ ว่าทุกอย่างมันต้องมีการเริ่มต้น เพียงแต่ บริษัทพิสูจน์ตัวเอง ว่าอยู่มานาน ก็น่าเชื่อถือ ก็เท่านั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่ - มีโรงงานของตัวเอง  ตอบ เค้าก็เริ่มมาจากไม่มีอะไรเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ ถ้าเค้าไม่ลงทุน ทำโรงงาน เค้าก็ไม่มีทางโตมาจนทุกวันนี้หรอกครับ - เค้าจะบอกว่า แอมเวย์ มีฟาร์มของตัวเอง ผลิตด้วยชีวภาพ ปลอดภัย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อาหารเสริมยี่ห้ออื่นเหรอ ผลิตที่ไหน มั่นใจเหรอว่าปลอดภัย   ตอบ เลือกได้ ดีกว่าเลือกไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ ยิ่งอาหารเสริมราคาสูงๆ ถ้าเสียเงินซื้อ อาจจะเพราะอยากกิน หรือจำเป็นก็แล้วแต่ ก็น่าจะคิดถึง คุณภาพมาก่อนนี่ครับ สินค้าที่ขายทั่วไป ก็มีการเปรียบเทียบกับสินค้าอื่น แต่ไม่ชัดเท่านั้นเอง ว่าเป็นการโจมตี อีกอย่าง ปัจจุบัน แอมเวย์ก็มีโครงการเสริมสร้างให้ นักธุรกิจมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ส่วนทำได้มาก ได้น้อยแค่ไหน ก็แล้วแต่ละครับ ทั้งนี้ ไม่ใช่เพราะตัวเองทำธุรกิจก็เลยต้องมาแก้ตัว แค่อยากแสดงความคิดเห็นครับ อ้อ ทุกวันนี้ ยังอยู่ดี ยังไม่ถูกล้างสมอง อย่างที่หลายคนเข้าใจครับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 51 23:02:05 จากคุณ : Hirun - [ วันลอยกระทง 17:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่สำคัญแอมเวย์จะยังไงเราไม่ว่า แต่ที่ไม่ชอบคือการดูถูกอาชีพอื่นๆๆ หาว่าทำไปทำไมไม่สบายเหมือนแอมเวย์ เวลานั่งรถไปด้วยกันเห็นพวกทำงานประจำก็ดูถูกเค้า หาว่าเป็นพวกลูกจ้างทำงานทั้งวันไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ไม่ว่าอาชีพอะไรก็ดูแย่ในสายตาพวดแอมเวย์ไปหมด แล้วพ่อเรามีโรงงานก็หาว่าทำโรงงานเหนื่อยไม่มีเวลาพัก ไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ เราไม่ถีบยอดหน้าให้ก็บุญแล้ว มาดูถูกสิ่งที่พ่อเราทำ ที่เรามีเงินซื้อข้าวกินก็เพราะงานของพ่อรเน่ะนั่น ขอร้องอย่างเดียวอย่าดูถูกคนอื่น เห็นใครไม่สนใจทำก็ว่าเค้าว่าเป็นพวกบัวใต้น้ำมั่ง บัวในตมมั่ง ทำของแอมเวย์สบายแถมได้ไปเมืองนอก โถ ต้องทำยอดตั้งเท่าไร เราไม่ทำแอมเวย์เราก็มีเงินไปเที่ยวเองได้อยู่แล้ว เบื่อมากๆๆ ไอ้บีบเท่าเมล็ดถั่วเขียวเนี่ย จากคุณ : เหล้าปั่น - [ วันลอยกระทง 17:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แอมเวย์ ชอบสร้างฝัน จากคุณ : muk_22 - [ วันลอยกระทง 18:27:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คห 5 ไม่รู้จะมาตอบทำไมให้เสียเวลาพิม อ่ะครับ ผมตั้งไว้ ก็เพื่อ คนที่ทำแอมเวย์แล้ว ชอบไปเกทับคนอื่นต่างหาก ผมไม่ได้บอกว่าแอมเวย์ไม่ดีนี่ ---------------------- ถ้ายอดธุรกิจ ตัวเองเป็น0 แต่มียอดองค์กร 21% นั้น ตัวเองจะได้เงินหรือเปล่าครับ ตอบ ก็ได้จาก 4% อย่างที่คุณบอกในข้อ 2 ไงครับ ถ้าเคยดูแผนการตลาดของแอมเวย์ จะรู้ว่าถ้าคุณไม่มียอด คุณก็ไม่ได้เงินจากยอดธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว แต่การจะทำให้องค์กรเป็น 21% ได้ก็ไม่ใช่นั่งๆ นอนๆ เค้าก็ทำเป็นนะครับ - บริษัท เค้าจ่ายไม่ไหว ก็เลย แปลงเป็น 4% แล้วบอกว่าเป็นค่าลิขสิทธิ์ ตอบ ธุรกิจนี้ ถ้าจะมั่นคง ก็ต้องมองกันยาวๆ ครับ ถ้าไม่อยากได้ 4% ก็ ก็ขายกันหูตูบทุกเดือนเพื่อให้เป็น 21% ซึ่งไม่ใช่แนวคิดการทำแอมเวย์ครับ ----------------------------------------- ***แล้วตอนยังไม่เบรคล่ะ จะได้4% เหรอครับ แน่นอน ต้องทำยอดส่วนตัวใช่มั้ย ครับ ที่ผมโพสมา มันก็ชัดเจนดีแล้ว แล้วจะมาตอบทำไมอีกอ่ะ จากคุณ : จขกท - [ วันลอยกระทง 18:40:02 A:125.26.82.10 X: TicketID:192515 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพิ่งโดนกับตัวเองเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เรื่องรุ่นน้องเค้าไปเป็นสมาชิกของแอมแวย์ กลับมากลายเป็นคนละคนไปเลย ฝันเฟื่องไปเลย บอกว่าถ้าทำยอดถึงจะได้ไปต่างประเทศด้วยนะ ไอ้เราก็เอ้อ อ้า ให้มัจบๆ ไปซะ พอดี เพื่อนจากประเทศออสเตรียนั่งอยุ่ด้วย ก็เลยเปลี่ยนไปคุยเป็นภาษาอังฤษแทน น้องเค้าก็พูดอังกฤษได้ เพื่อนเราก็บอกว่า เนี่ยนะ ที่ประเทศเค้าน่ะ เมื่อก่อนเคยมีแอมเวย์ด้วยละ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เพราะเป็นธุรกิจที่เห็นแก่ตัวมากๆ คนไม่ชอบ ก็เลยเจ็งไปแล้ว เค้าก็งงว่า ทำไมที่เมืองไทยมีธุรกิจนี้อยุ่ บ้านเค้าน่ะ หายสาบสูญเป็นสิบปีได้แล้วละ และสินค้าก็ไม่มีวางขายด้วย เพราะที่โน่นเค้าควบคุมเรื่องการผลิตด้วบ เรามองกว้างๆ นะ ทำไม้ ทำไม สินค้านี้มันยังอยู่ในประเทศไทยน่ะ ประเทศที่พัฒนาแล้วเค้ายกเลิกสาบสูญไปแล้ว แต่น้องเค้าก็เถียงนะ เราว่าโดนล้างสมองไปหมดแล้วละ แต่เราบอกน้องเค้าว่า อย่าเอาอะไรที่เกี่ยวกับแอมแวย์มาขายเราเด็ดขาด ของเราใช้ยาสีฟันตราดอกบัวคู่ฟันก็ขาวสะอาดแข็งแรงดี และเราก็บีบยาสีฟันของเราเท่าเม็ดถั่วเขียว ก็ใช้ได้นานเหมือนแอมเวย์เลย และล้างรถกับนำ้ยาล้างรถธรรมดาก็พอแล้ว ไม่แพง และเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นได้ตั้งเยอะ จากคุณ : SEAPATCHA - [ วันลอยกระทง 19:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คห9 ครับ จริงๆแล้ว amway มันอยู่กับประเทศพัฒนาแล้ว ทั่วโลกน่ะครับ http://www.amway.com/en/GlobalComm/global-community-10339.aspx คนทุกประเทศก็มีคนเกลียดแอมเวย์ครับ แต่ที่ ออสเตรเลีย ก็ยังมีคนทำอยู่นะ สายงานที่แข็งๆ เค้าอยู่ที่นั่นกัน จากคุณ : โย่วว - [ วันลอยกระทง 20:35:20 A:125.26.82.10 X: TicketID:192515 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เกลียดamway ชอบหลอกให้ไปฟัง ชอบโทรมาตื้อ ทั้งๆที่ก็พยายามเลี่ยงว่าอย่างสุภาพ ว่า ไม่ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รำคาญๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นธุรกิจที่หลอกลวง เกลียด คนดีๆ เค้าไม่ทำกัน ถามอะไร พวกนี้ชอบแทงกั๊ก ขอเตือน ใครขวนเราไปร่วมงานหรือกิจกรรมอะไรก็ตาม ถ้าไม่ยอมบอกรายละเอียด ให้สันนิฐฐานเอาไว้ก่อน ว่ามันคือ amway แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 51 22:36:03 จากคุณ : ขอระบาย เบื่อๆๆสุดๆๆ (treser[*_-]) - [ วันลอยกระทง 22:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Amway.... ผมเฉยๆนะ แต่เมื่อวันก่อนผมเข้า ซีเอ็ด เจอหนังสืออยู่เล่มนึง รู้สึกจะชื่อว่า ทายาทธุรกิจหมื่นล้านอะไรซักอย่างนี่แหละ..... ลองเปิดอ่านดูแทบจะกระอัก อาหารราคาถูกๆที่กินเข้าไปจริงๆ เพราะพี่แกเล่นเขียนอวดความรํ่ารวย ของเจ้าของธุรกิจ แอมเวย์ ประมาณว่า..... คุณแม่ซื้อนาฬิกาล้อมเพชรให้จากร้านนาฬิกา บนเทือกเขาอะไรซักอย่างที่สวิส...... ซึ่งเป็นร้านนาฬิกาที่สูงที่สุดในโลก...... T T แต่ไม่อยากใส่ เอาไปให้คุณแม่ใส่ แต่แม่ไม่เอา เพราะแม่มีเรื่อนที่แพงกว่านั้นอีกหลายเท่า.....กรรม จริงๆ.....เกิดมาไม่เคยเจอหนังสืออะไร จะเขียนออกมาได้ขนาดนี้........ จากคุณ : enfahrung - [ วันลอยกระทง 22:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ วันลอยกระทง 23:00:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พี่ที่ทำงานที่ทำนะ เห็นวาดฝันไว้สองสามปีแล้วแหละว่าจะได้ไปเที่ยว ต่างประเทศกับแอมเวย์  จนกระทั่งวันนี้ยังไม่ได้ไปถึงไหนเลย (สงสัย ว่าชาติหน้าจะได้ไปไหม) นอกจากไปอบรมต่างจังหวัดแล้วเสียเงินตัวเอง อีก สินค้าตัวอย่างมาให้ลูกค้าทดลองก้ต้องซื้อเอง คงรวยกันอยู่หรอกนะ แต่บริษัทที่รวย คนขายก็อยู่จน ๆ ต่อไป จากคุณ : Two ways - [ วันลอยกระทง 23:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอโทษ จขกท. ครับ ที่เข้ามาตอบแล้วทำให้เสียเวลาอ่าน เพราะผมเข้าใจว่า เรื่องของแอมเวย์ ก็ไม่ต่างกับเรื่องศาสนา หรือการเมือง ที่แตะเมื่อไหร่ ก็เป็นประเด็นเมื่อนั้น ผมเคารพในทุกความคิดเห็น ของทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะรู้สึกอย่างไร กับเรื่องนี้ เพราะคนเราต่างจิตต่างใจ ชอบ ไม่ชอบ ไม่เหมือนกัน เพียงแต่อยากขอให้ท่านที่ได้อ่าน ใช้วิจารณญาณของท่านเอง ในการเลือกที่จะเชื่อ หรือไม่เชื่อ และเพียงแต่มีความรู้สึกว่า เหมือนกำลังคุยกันคนละภาษา คุยไป ก็เข้าใจไม่ตรงกัน เรื่องแอมเวย์ แทนที่จะมองว่า เป็นอย่างโน้น อย่างนี้ อย่างที่ผมเองก็เคยเป็นแบบหลายๆ คน อยากขอให้ตัดสินใจเชื่อ บนข้อมูลที่เป็นความจริงมากกว่า สิ่งที่ เขาบอกว่า หรือได้ยินมาว่า หรือ คิดว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสแสดงความคิดเห็นครับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 51 23:22:41 จากคุณ : Hirun - [ วันลอยกระทง 23:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เชื่อมั้ย กำลังนั่งรถสองแถมเข้า ม. อยู่ดีๆผู้ชายวัยทำงานที่นั่งข้างๆหันมาขอเบอร์ งงมากๆ เลยถามว่าเอาไปทำไม เค้าบอกว่า อยากเสนอธุรกิจ รู้ทันทีเลย อมเวร แน่ๆ สรุปใช่จริงๆด้วย เลยบอกว่าอยู่ปี4 ต้องทุ่มเวลาให้กับทรีสิด ไม่มีเวลาจริงๆ เมื่อตอน ปี2 ก็เคย เพื่อนเก่าหลอกให้ไปฟัง ตอนแรกมันบอกว่าไปฟังสัมนา เกี่ยวกับการลงทุน ตอนนั้นไม่ค่อยรู้จัก อมเวร เลยไม่รู้ทันไปฟัง ไปถึงหน้างานเสียตังค์อีกต่างหาก สรุปคือเข้าไปนั่งฟังคนบรรยายล้างสมอง หลังจากนั้นก็มีรุ่นพี่ของเพื่อนคนนั้นโทรมาตื้อ โทรมานัด โทรมาบ่อยมากโคดน่ารำคาญเลย -*- ปล.ธุรกิจเค้าอาจจะดีนะ(อันนี้ไม่รู้จริงๆ) แต่เซลล์โลภมาก ขี้ตื้อ ทำตัวน่ารำคาญบางคนต่างหากที่ทำเสียชื่อเสียง และทำให้คนส่วนใหญ่มองบริษัทนี้ในแง่ลบ... **edit แก้คำผิด** แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 51 23:50:53 จากคุณ : 76 (KuMp) - [ วันลอยกระทง 23:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องของเรื่องก็คือ เราเป็นมนุษย์ที่กำเนิดมาจากต่างพันธุ์ของบรรพบุรุษ เรื่องที่มีความเหมือน ความแตกต่าง ความชอบ ความเกลียด เป็นเรื่องที่แต่ละคนก็มีติดตัวอยู่แล้ว ผมคนนึงอยากเคารพกับความเห็นทุกความเห็นเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นในธุรกิจนี้ก็คือคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว กับคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จแต่กำลังจะประสบความสำเร็จ และคนที่ไม่ต้องการประสบความสำเร็จ ทุกๆอย่างมีเหตุผลที่คนเหล่านี้จะตอบได้อย่างดี "ว่าทำไม" ถึงเป็นอย่างนั้น เรามีอะไรอยู่รอบตัวเราอีกตั้งหลายอย่างที่ต้องการคำตอบว่าทำไมต้องเป็นอย่างโน้น ต้องเป็นอย่างนี้ ผมขออนุญาตบอกในความเห็นส่วนตัวครับ คนที่ได้เข้ามาทำธุรกิจนี้จะจริงจังหรือไม่ ผมรู้ว่ามีเป็นล้านคนแน่ แต่ทำไมคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆตามแผนการตลาดถึงมีไม่มาก ตอบตรงๆนะครับ ไม่รู้ครับ แต่ไม่ต้องสงสัยเพราะมันเป็นเรื่องของเขา ว่าเขาจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว มันเป็นเรื่องของเขาจริงๆครับ ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ด้วยศักยภาพทางแผนงานธุรกิจที่ผมรู้มา เป็นกันทั่วโลกครับ ว่า มีคนจำพวกหนึ่งที่เขาต้องการประสบความสำเร็จอย่างมากๆหลังจากที่เขาอาจเคยล้มเหลวมาหลายอย่างได้กระทำการบางอย่างที่เราอาจจะไม่ได้รับด้วยประการทั้งปวง แต่อยากให้รับรู้ถึงจิตใจคนเหล่านั้นที่ทำธุรกิจแบบมือใหม่ด้วยครับว่า เขาต้องการประสบความสำเร็จเหมือนกับอีกหลายคนที่เขาได้ไปเห็นมา ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องทำบางอย่างเหนือความคาดหมายเพื่อให้สำเร็จในการทำธุรกิจนี้ให้ได้ อภัยให้เขาเถิดครับ และน่าจะเป็นกำลังใจให้เขาไปทำตามฝันที่เขาอยากเป็น ทั้งๆที่คุณไม่ต้องบริจาคเงินให้เขาหรอกครับ เขาแค่ต้องการให้คุณพูดกับเขาว่า "ทำธุรกิจให้สำเร็จนะ จะเป็นกำลังใจให้" ผมว่ามันน่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีนะครับ เพราะเขาก็จะกลับมาให้กำลังใจคุณในวันที่คุณ ท้อแท้ และอาจต้องการเขากลับมาเป็นมิตรกับคุณ จะขอเป็น กำลังใจ ให้เสมอ             ไปถึงเธอ ผู้ไขว่คว้า ตามทางฝัน มีชีวิต อยู่ตอนนี้ ให้ฝ่าฟัน                เพื่อถึงวัน  ที่มุ่งหวัง คือหลักชัย อาจจะท้อ แต่อย่าถอย ค่อยค่อยคิด   ฟ้าไม่ปิด  ทางไม่กั้น อย่าสงสัย เกิดมาแล้ว ให้ทุ่มเท ต้องเดินไป        เพราะหลักชัย ไม่เดินมา คว้าเอาเอง จากคุณ : smilehand (smilehand) - [ วันลอยกระทง 23:52:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ทำซูเลียนดีกว่า สินค้าถูกกว่าแผนการตลาดดีกว่า สินค้าคุณภาพชาววัง..ไม่ต้องรักษายอดด้วย สุดยอด...แอมเวย์ ยี้!!!! จากคุณ : FORY - [ 13 พ.ย. 51 02:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมรักแอมเวย์ ผมรักแผนธุรกิจแอมเวย์ ผมชอบแอมเวย์ ผมใช่สินค้าแอมเวย์ แต่... ผมไม่คบคนแอมเวย์ ผมไม่ชอบกิจกรรมที่ทสร้างขึ้นด้วยคนแอมเวย์ ผมไม่เห็นด้วยกับวิธีของคนแอมเวย์ ผมไม่ศรัทธาในวิถี/แนวทาง ของคนแอมเวย์ ผมไม่ชื่นชมในความสำเร็จของคนแอมเวย์ ระดับสูง สรุป ผมรักแอมเวย์ แต่(ค่อนๆ ไปทาง) เกลียดคนแอมเวย์ (บางกลุ่มที่เห็นแก่ได้) รักนะ แอมเวย์ จุ้บๆ จากคุณ : -*- (ภูแกร่งผาชัน) - [ 13 พ.ย. 51 07:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เถียงไปก็เท่านั้น มากว่าร้อยละ 90 ของคนทำแอมเวย์มีพฤติกรรมแย่ ๆ จะมาอธิบายในนี้เท่าไร ก็เทียบเท่าไม่ได้กับที่แต่ละคนเคยเจอมาด้วยตัวเอง ของมันเห็น ๆ กันอยู่ จากคุณ : jaminonez - [ 13 พ.ย. 51 08:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ข้อเสียที่แย่ที่สุดของแอมเวย์ เท่าที่คิดได้ ก็คือ.... เนื้อหาของงาน มันไม่ได้ทำให้เกิดความสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆต่อสังคม ไม่ได้ช่วยเหลือใคร ไม่ได้ทำให้ผู้อื่นมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถ้าแอมเวย์จะเอาทุนที่ไปทำวิจัย เครื่องสำอางค์ อาหารเสริม มาทำวิจัยเรื่อง ยารักษาโรค วิจัยเรื่องปัญหาสังคม นั่นแหละ เราถึงอาจจะสนใจมันขึ้นมาบ้างก็ได้ จากคุณ : จำฉันได้ไหม - [ 13 พ.ย. 51 08:31:49 A:122.154.6.11 X: TicketID:036500 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ปล. ถึง คห 9 คุณ SEAPATCHA คิก...คิก...ชอบใช้ยาสีฟันตราดอกบัวคู่เหมือนกันเลย ชอบกลิ่นและรสมากๆ ใช้แล้วให้ความรู้สึกสะอาด ผสมไปด้วยความโบราณๆ(คลาสสิค) ฮ่าๆๆๆ รู้สึกว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่แพง ให้ความคุ้มค่าต่อผู้บริโภค เป็นสินค้าของคนไทย เป็นตัวของตัวเองดี ( ภาพลักษณ์ของสินค้าไม่ต้องเลียนแบบฝรั่ง ) จากคุณ : จำฉันได้ไหม - [ 13 พ.ย. 51 08:45:07 A:122.154.6.11 X: TicketID:036500 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่อง AMWAY มันเป็นเหมือนเรื่องแนวคิดน่ะครับ ห้ามพูดกันในวงสนทนาเด็ดขาด เพราะเด๋ววงแตก คล้ายๆ เป็นเรื่องที่ไปทำลายความเชื่อที่ปลูกฝังหรือได้รับกันมา ตั้งแต่ยังเด็กจนถึงปัจจุบันเลย จะใช้เวลาเพียงข้ามวัน หรือ อ่านบทความสองสามบทความ แล้วจะเปลี่ยนความคิดได้เลย มันก็อัศจรรย์เกินไปแล้วน่ะครับ มันก็แล้วแต่ประสบการณ์ที่แต่ละคนเคยเจอสะสมกันมา ดีบ้าง แย่บ้าง ผมเป็นคนนึงที่ครอบครัวเคยโดนโกงเกี่ยวกับธุรกิจคล้ายๆแบบนี้ไปเป็นแสน แรกๆ แอนตี้มาก ธุรกิจแบบนี้ แต่พอดีผมอยากมาลองดูมาสัมผัสด้วยตัวเอง ว่ามันแย่ยังไง หรือดียังไง ทำไมมาชวนจัง ผมอาศัยหลัก กาลามสูตร ตามพุทธศาสนาน่ะครับว่า เลยลองเข้ามาศึกษาดีกว่า ถ้าไม่ดีก็ชั่งมัน ถ้าดีแล้วไม่ทำอาจจะเสียโอกาส เหมือนเดินไปเจอแบงค์พันขยำตกอยู่ที่พื้น ถามหน่อยว่าจะเดินผ่านไปเฉยๆหรอ มันก็ต้องลองเก็บดูหน่อย เอามาคลายดู เป็นแบงค์จริง ผมก็โชคดี เป็นแบงค์ปลอม ผมก็ทิ้งแล้วเดินผ่านไป ไม่มีอะไรเสียหายนี่ครับ ต้องขอบคุณคนชวนผมที่ถ่ายทอดแนวคิดดีๆให้ผม เพราะใน 100 คน จะเจอคนที่ทำถูกวิธีแค่ซัก 5 คนเท่านั้นเองครับ ตอนผมเจอคนทำผิดวิธีมาชวนประมาณ 6 คนซึ่งผมรู้จักผมก็ยังไม่สนใจที่จะเข้าไปศึกษานะครับ ผมไม่ได้ถูกล้างสมองนะครับ ยังดีอยู่ ผมไม่ได้ลาออกจากงานประจำนะครับ ยังทำอยู่ ที่ผมเปลี่ยนไปก็คือจากที่ผมเคยเอาเวลาที่เหลือไปกินเหล้า เที่ยวผับกับเพื่อน ไปดูหนังกับแฟน หรือนั่งเล่นเกมเล่นเนตจับเจ่าอยู่ที่บ้าน เพื่อนผมก็ยังรักผมเหมือนเดิม แฟนผมก็รักผมเหมือนเดิม ผมก็ยังมีความสุขเหมือนเดิม ผมแค่เอาเศษๆเวลาที่ผมเหลือในแต่ละวัน ไปทำให้มันมีค่าในธุรกิจส่วนตัวของผมเทานั้นเอง สำหรับคนที่เข้ามาอ่านแล้วอาจจะรู้สึกดีหรือรู้สึกแย่นะครับ ไม่มีใครบังคับให้ใครทำอะไรในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบหรือไม่อยากทำได้หรอกครับ ผมไม่เคยดูถูกอาชีพอื่น ผมไม่เคยดูถูกความคิดคนอื่น คนทุกคนมีคุณค่าในตัวเราด้วกันทั้งสิ้น คนที่มีความคิดแตกต่างจากเราก็มีอีกมาก แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ คุณว่าจริงไหมครับ จากคุณ : Cybercopj - [ 13 พ.ย. 51 09:43:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรารู้สึกเฉยๆนะ เพราะที่บ้านก็ทำแอมเวย์ ทั้งบ้านเลย แต่เราไม่ได้ทำธุรกิจนี้แบบเต็มตัว ไม่ได้มาแก้ตัวให้แอมเวย์หรือแก้ตัวให้ใคร แอมเวย์ อาจจะเป็นภาพลบในสายตาหลายๆท่าน แต่ทุกวันที่แอมเวย์เป็นแบบนี้เพราะคนที่ทำแอมเวย์ บางกลุ่ม   เน้น บางกลุ่ม นะคะ สร้างความเชื่อผิดๆให้ลูกทีม   ไปพูดทับถมคนอื่น หรือยี่ห้ออื่นมากเกินไป แต่ก็ยังมีนักธุรกิจแอมเวย์บางกลุ่มที่ยังมีจรรยาบรรณของนักขายอิสระ  หรือ มีจรรยาบรรณของคนที่ทำงานขายตรงอยู่   เพียงแต่เราอาจไม่มีโอกาสได้เจอ และสิ่งที่ดิฉันเห็นในแอมเวย์คือ   แอมเวย์ไม่ใช่ธุรกิจล่าหัวคิว เพราะดิฉันเองก็เคยทำงานเป็น Officer ให้ บ.ขายตรงมาแล้ว 2 ที่ ดิฉันก็เห็นว่าแผนธุรกิจของแต่ละที่อำนวยผลประโยช์ให้แม่ทีมมากกว่าลูกทีม ทั้งๆ ที่แม่ทีมแทบไม่ได้ทำอะไร  ก็ได้เงินใช้ฟรีๆ แต่ต่างจากแอมเวย์ หากคุณเป็นแม่ทีม แล้วไม่ทำอะไร ไม่ทำยอดขาย คุณก็ไม่ได้อะไรเลย  คนที่ทำเท่านั้นจึงจะได้ หลายคนรับแต่ด้านลบของแอมเวย์ จากคนที่ทำแอมเวย์แต่พวกเขาเหล่านั้นสอนหรือให้แต่สิ่งที่ผิดๆ หากวันไหนมีโอกาสเจอคนที่มีจรรยาบรรณจริงๆ จะรู้ว่าจริงๆ แอมเวย์ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ไม่เถียงว่าแอมเวย์ทำยาก   บางคนทำมาจะ 10 ปียังไม่ไปไหน ก็เพราะเขาไม่ทำงานไงหล่ะ   เป็นแม่ทีมคนอื่นแต่ตัวเองไม่ทำงาน มันก็ไม่โต แต่ต่างจากขายตรงที่อื่น เป็นแม่ทีม ไม่ต้องทำอะไร ให้ลูกทีมทำยอดไปเรือ่ยๆ แต่ตัวเองกลับมีแต่ได้   ทุกอย่างมีบวกมีลบ  แล้วแต่จะเลือกมองด้านไหน แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 51 11:02:51 จากคุณ : khunrarin - [ 13 พ.ย. 51 11:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ทั้งหมดนี้คิดดีๆครับว่าปัญหาอยู่ตรงไหน อยู่ที่คนทั้งนั้นเลยครับ คนที่ทำทั้งนั้นเลยครับว่าทำดีหรือทำไม่ดี ฉะนั้นนานาจิตตังครับ ทำดีได้ดีทำไม่ดีก็ได้ไม่ดีไปละกัน สาธุ จากคุณ : Fays (by_faith) - [ 13 พ.ย. 51 11:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ที่คนมอง Amway ไม่ดี ไม่ใช่เพราะธุรกิจของเขา แต่เป็นตัวบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งทำตัวเข้าข่ายหลอกหลวงซะด้วยซ้ำ คนดีก็มี พอกับคนไม่ดีแหละครับ แค่คนเราถ้าเห็นด้านไม่ดีแล้ว จะไม่ค่อยพูดถึงด้านดีกันหรอกครับ เหมือนกับ จขกท แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเจอจะเป็นคนที่ทำธุรกิจเขาเสื่อมทั้งนั้น เพราะ คนดีๆ ที่เขาทำ Amway จะไม่มาชวนผมหรอก เนื่องจากรู้ๆ นิสัยกันอยู่ ว่าผมไม่ชอบเรื่องแบบนี้ ฮ่าๆ ปล ผมเชื่อนะว่าคนที่ทำ Amway เเล้วรวยอะมีจริง และก็ไม่ใช่พวกที่ทำตัวแบบที่ จขกท พูดถึงด้วย แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 51 14:56:47 จากคุณ : not (Teranot) - [ 13 พ.ย. 51 14:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ธุรกิจแอมเวย์เป็นงัยไม่รู้ค่ะ ไม่รูจริงๆเพราะไม่เคยสนใจแต่เคยลองไปเข้าค่ายแอมเวย์กับเพื่อน จ่ายตังค์ซะด้วยสิ ไม่ได้อยากเข้าร่วมธุรกิจหรอกค่ะ แค่หวังว่าจะทำอะไรสนุกๆ เพราะตอนนั้นยังเรียนมหาลัยอยู่เลย ไม่ได้คิดจะหารายได้แต่ปิดเทอมแล้วมันว่างพอดี มันก็สนุกนะ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆมากมายแล้วเพื่อนๆก็น่ารัก แต่อาจเป็นเพราะพวกเค้าเหล่านั้นยังไม่ได้ทำแอมเวย์เต็มตัวก็ได้ แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกแย่และรับไม่ได้จริงๆก็คือพิธีอะไรซักอย่างที่มีการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วสั่งให้ทุกคนหลับตาอธิษฐาน แล้วพิธีกรก็จะพูดประมาณว่าถ้าดีจริง ถ้ามีเจตนาดีและสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอะไรประมาณเนี๊ยค่ะ (จำไม่ได้เพราะหลายปีแล้ว) ขอให้เทวดาฟ้าดินจงดลบันดาลให้ฟ้าผ่ามายืนยันความจริง (อันที่จริงเค้าใช้ศัพท์หรูกว่านี้นะ แถมคนๆนั้นเป็นอาจารย์ด้วย เราก็ไม่รู้อาจารย์อะไรแต่คนเรียกกันอาจารย์ๆ) เราลืมตาอยู่ค่ะ อันที่จริงไม่ได้จ้องจับผิด แต่เราไม่ได้นับถือพุทธเลยไม่อยากมีส่วนร่วมในพิธีกรรมต่างศาสนา ก็เห็นว่าไกลออกไปเจ้าหน้าที่กำลังทำการจุดกระจับ คือแบบว่าเซ็งอ้ะค่ะ ทีนี้ข้องใจมากเลยค่ะเลยไปถามเค้าว่าทำแบบนี้ทำไมมันหลอกลวงกันนะ เค้าก็บอกว่านี่ไม่ใช่การหลอกลวง แค่สร้างบรรยากาศให้ ทุกคนตั้งใจและจะได้ร่วมกิจกรรมอย่างจริงจังเพื่อประโยชน์ของแต่ละคนเอง เค้าไม่ได้เอาไสยศาสตร์มาชักจูง เพราะทุกคนก็ย่อมรู้ว่าไม่ใช่ ฟ้าผ่าแต่เป็นเสียงกระจับ (อะไรประมาณเนี๊ยะค่ะ จำเนื้อความไม่ได้) แต่เข้าใจมั๊ยคะว่าในค่ายเนี่ยมีคนหลายอาชีพ หลากหลายการศึกษามารวมกัน ทั้งคนแก่ คนหนุ่มสาว เด็กๆ ทั้งชาวไร่ชาวนา นักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ พนักงานออฟฟิซ มารวมกัน มีทั้งคนที่รู้และหลายคนที่ไม่รู้ เรายังได้ยินคุณป้าคนนึงพูดกับหลานเค้าเลยว่าเห็นมั๊ยว่าเนี่ยมันดีจริงๆ เทวดาท่านยังให้ฟ้าผ่ามายืนยันเลย เราเลยเซ็งค่ะ เซ็งมากๆ ไม่ได้บอกว่าธุรกิจคุณไม่ดีเพราะเราไม่เคยทำและไม่เคยศึกษาเลยไม่รู้ ไม่ได้บอกว่าบุคลากรไม่ดีเพราะเพื่อนเราก็เป็นคนดี แต่บอกว่าคนที่จัดค่ายๆนั้นเนี่ย เลือกวิธีการได้แย่มากๆเหมือนจงใจล่อลวงคนอื่นด้วยวิธีการที่ไม่โปร่งใส ที่เขียนมาก็แค่อยากจะแชร์สิ่งที่ได้เจอมาค่ะ จากคุณ : อ้วนน้อยต่อยหนัก - [ 13 พ.ย. 51 15:59:18 A:192.168.0.220 X:203.146.171.14 TicketID:187891 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าอยากให้กระทู้นี้สร้างสรรค์ตอบโต้กันได้จริงๆ อยากเอาสินค้าตัวเด่นๆ มาเปรียบเทียบกับท้องตลาดดีกว่า ใครเคยใช้แล้วมาเล่าประสบการณ์กันหน่อย ตัวอย่าง 1 ยาสีฟัน ผมชอบเดนทริสเต้มากกว่านะ ใช้น้อยเหมือนของแอมเวย์แหละ 2. น้ำยาล้างจาน ผมก็ว่าซันไลน์ใช้เยอะกว่าแต่มันก็ล้างแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่ ราคาเมื่อลองบวกลบคูณหารแล้วซันไลน์ถูกกว่านะ ของคนอื่นมีไรอีกไหม แต่ผมยอมรับตัวนึงคือน้ำยาล้างรถ ที่พอจะโอเค มียี่ห้อที่พอสูสีก็ kit หรือ carlac ลองเอามาเป็นประสบการณ์กันจะได้ตอบข้อสงสัยให้กับเซลล์แอมเวย์ว่าสินค้าอื่นก็มีดีเหมือนกัน เอามาเปรียบกันได้ จะได้ลดความร้อนแรงและความมุ่งมั่นของเขาลงได้บ้าง เราจะได้มีทางหนีทีไล่หน่อย เพราะเขาถูกอบรมการตอบโต้ข้อขัดแย้งมา มันเป็นจิตวิทยาอย่างนึง คนที่อบรมแอมเวย์ก็จะได้ความรู้ตรงนี้ แต่ถ้าเขาประยุกต์ใช้ได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็กลายเป็นสาวกกันไป จากคุณ : peggo - [ 13 พ.ย. 51 18:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มันสะท้อนให้เห็นน่ะครับ ว่าคนเมื่อถูกความโลภกระตุ้นแล้ว แสดงออกอย่างไร สภาพสังคมเราส่วนใหญ่ก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับ 90% โลภจนไม่สนใจคนอื่น T_T จะยังคงยืนหยัดช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป หยิบยื่นโอกาสต่อไป โดยเป็นแค่ตัวเลือกเท่านั้น ขอบคุณสำหรับคนที่ชวนผมเข้ามาในธุรกิจนี้ ขอบคุณครับ จากคุณ : Pegasus7th - [ 13 พ.ย. 51 18:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สำหรับคำแก้ของเจ้าของกระทู้ ใช้กับคนที่เข้าใจแผนและสินค้าครึ่ง ๆ กลาง ๆ ได้เท่านั้นครับ สำหรับคนที่เข้าใจแผนการตลาด และสินค้าอย่างถ่องแท้ในหลาย ๆ แง่มุมแล้ว จะตอบให้เจ้าของกระทู้เข้าใจได้มากขึ้น จากคุณ : Pegasus7th - [ 13 พ.ย. 51 18:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 TO คว.10 คว.9 เค้าเขียนว่า ออสเตรีย คะ ไม่ใช่ ออสเตเรีย อิอิอิ ไม่ชอบทำMLM เพราะขี้เกลียด เเต่ใช้ของ  AMWAY ของเค้าก็ดีนะคะ เเต่เอ๊ะ เครื่องสำอางค์ไม่ชอบคะ จากคุณ : สามสิบยังเปรี้ยวได้ (one-similun) - [ 13 พ.ย. 51 21:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ของต้นทุน สองร้อย ขาย หนึ่งพัน ไม่ต้องโฆษณา เพราะเราขายตรง ขายแล้วแบ่งให้บริษัท ส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็เป็นของคนขาย ตามลำดับชั้น มันก็เท่านั้น  ไม่มีแผนการตลาดอะไรทั้งนั้นครับ เรียกว่า วิธีการแบ่งเงิน ครับ คำว่า "วิธีการแบ่งเงินนี่" มันไม่ไพเราะเอาเสียเลย จึงตั้งชื่อใหม่ว่า "แผนการตลาด"  โอ้ยยยย ฟังแล้วดูดีจังงงงง เดี๋ยวก็ จะมีเจ้าพ่อเจ้าแม่แอมเวย์ มา ท้วงอีกว่ามีซิ up line down line ไง มีเพชร มีทับทิม มีมงกุฏทูต ไง มีสามขา มียอด มี PV ไง เนี่ย แหละแผนการตลาด--> เข้าจั๊ยมั้ยยยยย  เอาเข้าไป อย่างนี้เรียกว่า ลำดับการจัด ชั้นของคนในองค์กรแบบหลวมๆครับ ที่โยงยึดกับ "วิธีการแบ่งเงิน" ครับ ไม่มีแผน ครับ เรียกกันเอง เออเอง จากคุณ : น้าพร - [ 13 พ.ย. 51 23:34:52 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตอบ คคห. 33 คุณว่าน้ำเปล่าขวดละ 10 บาท ต้นทุนออกจากโรงงานกี่บาทละครับ ก็ 2 - 3 บาท ที่เหลือแบ่งกำไรกัน 7 - 8 บาท คุณก็จ่ายค่่าสินค้าเท่ากันอยู่ดีนี่ครับ - -. แล้วถ้าแบ่งกำไรกลับมาที่ผมบางส่วนเวลาที่ผมไปแนะนำสินค้าแล้วเพื่อนเกิดสนใจขึ้นมา มันก็โอเคนี่ครับ (ถ้าไม่ได้ไปยัดเยียดนะครับ อย่าลืมว่าคนไปยัดเยียด หรือไปแนะนำ คือตัวคุณ คุณมีสิทธิ์เลือกเสมอ) ส่วนวิธีแบ่งกำไรไม่เหมือนกัน ย่อมให้ผลไม่เหมือนกันครับ ถ้าคุณเรียกว่าวิธีการแบ่งเงินแล้วเข้าใจง่ายกว่า ก็เรียกไปเถอะครับ ขอแค่ให้เข้าใจก็พอ ^_^ ถ้าคุณมองสินค้าแอมเวย์ด้วยกรอบคุณค่าจากสินค้าอื่น ๆ สินค้าแอมเวย์เกือบทั้งหมดจะแพงครับ (ยกเว้นสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันจะถูกกว่า) แต่ถ้าคุณพิจารณาคุณภาพสินค้าแอมเวย์ที่ช่วยลดปัญหาบางอย่างให้กับตัวคุณได้ และช่วยลดปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมได้ คุณจะพบว่ามันอาจจะราคาพอ ๆ กัน หรือถูกกว่า หรืออาจจะยังแพงอยู่ดีก็ได้ เพราะบังเอิญคุณไม่มีปัญหากับสินค้าทั่ว ๆ ไป ปล. อย่าถามว่าผมรู้ราคาต้นทุนน้ำขวดได้อย่างไร เพราะผมก็เดาเหมือนคุณเดา เอ้ย เคยฟังในทีวีมา จากคุณ : Pegasus7th - [ 13 พ.ย. 51 23:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ้อต้นทุน น้ำดื่ม แอมเวย์ ขวดละ 2-3 บาท ความรู้ใหม่ครับ จากคุณ : น้าพร - [ 14 พ.ย. 51 00:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อหลายปีก่อนตอนที่แฟนทำก็หวังอยากไปเที่ยวต่างประเทศ แต่พอทำไปๆ เงินหายเกลี้ยงไม่งอกเงย ไป ตจว. ก็มีแต่ประชุมไม่เคยได้เที่ยวไม่เคยได้พักผ่อน แต่พอเลิกทำนี่สิ  ปีแรกก็ไปฮ่องกง ปีต่อมาก็ออสเตรเลีย และปีถัดมาก็อีก 4-5 ประเทศ เลิกทำแอมเวย์แล้วชีวิตดีขึ้นจริงๆเลยค่ะ...ทันตาเห็น ^ ^ จากคุณ : ภาษาดาว - [ 14 พ.ย. 51 09:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คือเราสงสัยน่ะค่ะ อ่านกระทู้แอมเวรมาก็เยอะ มันจะมีซัก ๑% ได้ ที่บอกว่า คนทำแอมเวร มีความประพฤติดี ไม่ตื๊อน่ารำคาญ  นอกนั้น ๙๙% พูดเป็นเสียงเดียวกันหมด ว่าเสียความรู้สึกกับคนทำแอมเวรเนี่ยแหละค่ะ     เราว่า แอมเวรเค้าน่าจะรับผิดชอบความประพฤติของคนที่บ้างนะคะ นี่ทำเหมือนปิดตา ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แล้วโบ้ยไปว่ามันขึ้นอยู่กับคน คนก็เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนะคะ นึกถึงบริษัทเอกชน ถ้าปล่อยให้พนักงานไปทำอะไรเสื่อม ๆ กับว่าที่ลูกค้า เช่นโกหก หลอกลวง ดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือก่อความรำคาญให้ลูกค้า พนักงานคนนั้น เบาะ ๆ ก็โดนตักเตือนนะคะ   เราก็เคยเจอ เป็นพี่ที่ทำงานเก่า ๆ เสียความรู้สึกมาก ๆ ตอนแรกมาชวนเรา เหมือนให้ไปเที่ยว ไอ้เราก็ตกลงดิ ชอบเที่ยวอยู่แล้ว    แต่ตอนหลังบอกว่าเป็นแอมเวร แล้วตื๊อให้เราไปฟังสัมนาอยู่นั่นแหละ เราปฏิเสธไป พี่เค้าก็บอกประมาณ ไม่ได้นะ นี่จ่ายเงินค่าจองให้เราไปตั้งห้าร้อยแล้ว  เรางี้เคืองมาก ๆ ปฏิเสธยังไงเค้าก็ไม่ฟัง บอกเค้าไปแล้ว ว่าหนูนึกว่าไปเที่ยวธรรมดา ถ้ารู้ว่าเป็นแอมเวรไม่ไปด้วยหรอก แต่แกก็ตื๊อ เราเลยตอบตกลง ไปก็ไปวะ เจอกัน พรุ่งนี้     พอวันนัด เราก็โทรไปใกล้ ๆ เวลานัดเลยค่ะ บอกเค้าว่า ไม่สบาย ไปไม่ได้แล้ว  จริง ๆ ไม่อยากทำแบบนี้หรอก แต่ไม่รู้ทำไงดีแล้ว เจอคนพรรค์นี้ ก็ต้องเล่นแบบนี้แหละ    หลังจากนั้น เจอหน้าแก เราแทบไม่อยากพูดด้วยเลยค่ะ    เราว่า ถ้าเจอใครที่ตื๊อ ๆ มาก ปฏิเสธยังไงก็ไม่ฟัง ก็รับๆนัดมันไปเหอะ ตัดรำคาญ แต่อย่านัดที่บ้านนะ     ถึงเวลานัดก็ปิดมือถือหนีซะ หมดเรื่องหมดราว จากคุณ : แมวน้ำทะเลเดือด - [ 15 พ.ย. 51 23:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ที่ว่าเป็นบุคคลบางกลุ่มที่ทำให้เเอมเวย์เสียชื่อเสียง กลุ่มนั้นเป็นบุคคลส่วนใหญ่หรือเปล่า แล้วคิดว่าสาเหตุที่พวกเค้าเป็นแบบนั้น คิดว่ามันเกิดจากอะไร จากคุณ : naminan (naminan) - [ 16 พ.ย. 51 01:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ได้เป็นหน้าม้าแอมเวย์ แต่ใช้สินค้าแอมเวย์อยู่ สินค้าแอมเวย์ใช้ดีมาก จบ!!!! จากคุณ : วรพล (warapol) - [ 16 พ.ย. 51 20:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอคนรวยจริงๆ จากการทำธุรกิจแอมเวย์มาคุยแชร์ประสบการณ์หน่อยสิคะ ส่วนตัวเจอคนทำธุรกิจแอมเวย์เยอะค่ะ แต่ไม่เคยเห็นใครไม่ต้องทำงานหนักเลยค่ะ บางทีสี่ห้าทุ่มก็ยังต้องตะลอนๆ มีลูกเต้าก็ต้องฝากคนอื่นเลี้ยง หรือบางทีก็ต้องกระเตงไปประชุมด้วย และก็ยังไม่เห็นคนที่รวยเพราะทำธุรกิจนี้สักที ไม่ได้ไม่เชื่อนะคะ แต่ดิฉันต้องเห็นก่อนถึงจะเชื่อน่ะค่ะ ให้พูดให้สวยหรูยังไงก็ได้ แต่ในทางปฏิบัติมันยากค่ะ จากคุณ : ผ่านมา - [ 17 พ.ย. 51 06:33:02 A:115.129.13.119 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เราว่าสินค้าแอมเวย์ดี แต่ที่ไม่ดีอะคนขาย - - เราก็เป็นคนนึงที่เป็นสมาชิกแบบธุรกิจ (แม่บังคับ แล้วแม่ก็จัดการทำทุกอย่างให้หมดเลย) เราไม่ค่อยชอบวิธีการของแอมเวย์เหมือนกัน แต่ก็ใช้ของหลายๆอย่างของแอมเวย์อยู่ สรุปๆของแอมเวย์ที่เราใช้ เครื่องกรองน้ำ (ไม่ได้ซื้อเองแม่ซื้อ)ก็ใช้ๆไปสะดวกดี ดีกว่าซื้อน้ำถัง (เพราะไม่ได้ออกตังค์ซื้อเครื่องกรองเอง) ยาสีฟัน ก็ดีนะ แต่จืดไปหน่อย เราผสมกับยี่ห้ออื่นให้มันซ่าๆ สบูน้ำผึ้ง ดี แต่ แพง ซื้อเองไม่ซื้อ 555 (ใช้ของแม่เอา) สบูก้อนก็ดี  แต่สบู่เหลวแบบที่เป็นสีขาวไม่ชอบกลิ่น น้ำยาล้างจาน ก็ใช้ดีนะ ยิ่งถ้ามันไม่ขายเป็นขวดใหญ่ๆแบบเข้มข้นจะดีมาก มาผสมใช้เป็นชาติแล้วยังไม่หมดเลย - - โฟมล้างหน้าเพียวไวท์ ใช้ดีมากๆ (เราใช้น้อยกว่าถั่วเขียวอีก แค่นี้ก็ฟองเยอะแล้ว) อันนี้ขโมยน้องใช้ เพราะของตัวเองหมด แหะๆ (แต่ผลิตภัณฑ์ครีมอย่างอื่นของ อาทีสตี้ไม่ถูกกับหน้าเรา) LOC  ใช้ดี เป็นชาติยังไม่หมดเช่นกัน(ขวดใหญ่แบบเข้มข้น) - -* อาหารเสริม ที่กินอยู่เป็นตัววิตามิน C  พริมโรส ก็ดี โปรตีนผงก็ดี แต่แพงไปหน่อย กินแป๊บๆก็หมดแระ+ขี้เกียจชง -..- แม่เราเป็นสาวกแอมเวย์ ใช้ผลิตภัณฑทุกอย่างของแอมเวย์ อายุเกือบๆ 60 แล้ว แต่ยังดูเหมือน 30 ปลายๆ แต่แม่เราเวอร์มากกินอาหารเสริมแอมเวย์ทุกตัว ชนิดที่ว่า มื้อนึงกินอาหารเสริมเป็นกำๆ (แค่เห็นก็อิ่มแระ ทำตามไม่ไหว) สรุปเอาเป็นว่า สำหรับเราเราคิดว่าสินค้าแอมเวย์ดี แต่การที่มันบังคับขายแบบเข้มข้นบริมาณเยอะๆ ทำให้ต้องซื้อสินค้าในราคาสูง (ถ้ามันไม่ใช่แบบเข้มข้นก็ไม่แพงหรอก) ทำให้ดูแล้วเหมือนแพง เพราะเงินเราไปจมอยู่กับของ (ไม่รวมพวกอาหารเสริมนะ พวกนี้แพง แถมหมดเร็ว) แต่เราเกลียดการขายแบบแอมเวย์มากๆโดยเฉพาะการหลอกไปฟังอบรม เคยโนแม่หลอกไปฟัง โมโหอยู่ตั้งนาน -..- เพราะคนแอมเวย์นี่แหละ ที่ทำให้คนอื่นๆแอนตี้แอมเวย์อะเราว่านะ จากคุณ : ข้าวปั้นหน้าไข่กุ้ง - [ 17 พ.ย. 51 17:09:54 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบของแอมเวย์นะ แต่ให้ไปขาย ไม่เอาหรอก จากคุณ : คนหัวฟู - [ 22 พ.ย. 51 20:43:40 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมขอแสดงความเห็นในประเด็นของการทำธุรกิจ MLM ครับ การทำธุรกิจอะไรทุกอย่างก็ต้องหวังผลกำไรทั้งนั้นครับ : ) ธุรกิจขายของ MLM เป็นธุรกิจที่ใช้จิตวิทยากับลูกค้าหรือสมาชิกสูง (ผมไม่ขอพูดถึงคุณภาพของสินค้าครับ เพราะเป็นเรื่องของวิจารณญาณส่วนบุคคล และไม่ต้องการโจมตีธุรกิจประเภทนี้) ชักชวนให้คนมาใช้สินค้าและขายสินค้าโดยสมัครสมาชิก เป็นการการันตีรายรับของเขา เป็นหลักการตลาดของเขา กำไรปันกัน ผมมองว่าเหมือนธุรกิจอื่น ๆ นะ ที่กำไรต้องปันมากับสายงาน มากบ้างน้อยบ้างก็ขึ้นกับระดับสายงาน ผู้บริหารได้เยอะคนอยู่ระดับต่ำกว่าได้น้อยเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถามว่าทำไมเกิดประเด็นคนทำธุรกิจ MLM ไม่ประสบความสำเร็จ ต้องการรวยทางลัด เป็นหนี้เป็นสินเดินผิดทาง สุดท้ายก็จบเส้นทางสายอาชีพนี้พร้อม "อคติ" ตามมาล่ะครับ เพราะว่าธุรกิจ MLM นั้นใช้วิธีการเล่นกับ "กิเลส" ของคนไงครับ เอา "ความฝัน" ของคนและ "ภาพลักษณ์" ของสินค้ามาเป็นที่ตั้งในการดำเนินธุรกิจ เพื่อดึงคนมาใช้สินค้า ทำให้คนที่เข้ามาในสายธุรกิจนี้เป็นคนติดภาพลักษณ์ และมีความหวังในการประสบความสำเร็จสูง (ถึงสูงมาก) ในเวลาอันรวดเร็ว ต้นทุนทาง "จิตใจ" ของธุรกิจนี้สูงกว่ามูลค่าของสินค้ามากครับ ดังนั้นเมื่อธุรกิจนี้เล่นกับจิตใจมนุษย์ (ใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง) ดังนั้นคนทำธุรกิจประเภทนี้จะต้องสร้างแรงจูงใจสมาชิกให้ดำรง "ความฝัน" และ "ความหวัง" อยู่เสมอ ด้วยการจัด ประชุม อบรม สัมนา อยู่บ่อยครั้งเพื่อดึงคน "ของตัว" ให้อยู่ และเมื่อดึงไว้ไม่อยู่ ( มีมากมายครับ - -' ) นั่นคือไม่ได้ "ดังหวัง" บางคนอาจจะ "ฝันสลาย" ไปเลยก็ได้ จึงเกิดผลสะท้อนกลับที่รุนแรงกว่าธุรกิจประเภทอื่นครับ รวมไปถึงการสูญเสีย "ภาพลักษณ์" ของธุรกิจด้วย นี่เป็นจุดด้อยครับ จุดด้อยอีกอย่างของธุรกิจประเภทนี้ คือการชู "ระดับสายงาน" โดยการโฟกัสที่ "ยอดขาย" หรือให้สมาชิก "ทำคะแนน" เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับสายงานไปสู่จุดสูงสุดมากจนเกินไป (เรื่องนี้คนทำธุรกิจประเภทนี้คงรู้ดี มากกว่าผมนะครับ) ทำให้คนที่ขาด "ปัญญา" (มีมากอีกแล้ว - -") คือไม่รู้จักพิจารณาเหตุและผล หรือแนวทางที่ถูกต้องในการดำเนินธุรกิจ และมี "ความโลภ" เป็นตัวชักนำ(ก็คุณกระตุ้นเขาเอง) เดินทางสายผิด เพื่อสู่จุดหมาย และเมื่อเขาขึ้นไปได้ ก็จะถ่ายทอดค่านิยมที่ผิด ๆในการทำธุรกิจลงไปสู่ระดับล่างได้ไม่ยาก ( ธุรกิจเอื้ออำนวย ) เข้าทำนองปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้องครับ ผมไม่ได้มีอคติกับธุรกิจประเภทนี้นะครับ จริงๆ ตอนนี้ผมก็มองธุรกิจแบบนี้อยู่เหมือนกันแต่ยังไม่ได้ทำ (แต่ไม่ใช่แอมเวย์นะ อิอิ) แต่ผมอยากให้(หวังว่า)คนที่กำลังจะเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ เดินเข้ามาด้วยปัญญามากกว่าเดินทางลัด(ไม่มีทางลัดหรอกครับ) ค่อยๆทำตามแผนธุรกิจแบบมีวินัยครับ (แต่ต้องเลือกธุรกิจด้วยนะ ) และต้อง "มีสติ" ครับ สติมาปัญญาเกิด เมื่อมีปัญญาแล้ว ทรัพย์สมบัติแก้วแหวนเงินทองจะตามมาเองครับ สุดท้าย ที่แอมเวย์โดนเยอะ เพราะเป็นธุรกิจ MLM ที่อยู่มานาน สมาชิกเยอะคนผิดหวังเยอะ เข้าทำนอง ผมผ่านมาเยอะ เจ็บก็เยอะนั่นเอง : ) จากคุณ : nohnbook (nohnbook) - [ 11 ธ.ค. 51 11:15:48 ]