Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 60 งานของเซอร์วิสเซนเตอร์

    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 60  งานของเซอร์วิสเซนเตอร์





    ปกติงานของเซอร์วิสเซนเตอร์นี้  ลุงไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่  ไม่ใช่ไม่

    สำคัญ  แต่เพราะเป็นงาน “ของตาย”  ซึ่งบริษัท ซิมมิทกรุ๊ป ใช้งานของศูนย์

    บริการของบริษัทมาตั้งแต่เริ่มตั้งกิจการ





    ความจริงแล้ว  ก่อนที่จะมีแผนกขายคอมพิวเตอร์ยูนิแวคเสียอีก  ก็โดยที่

    เจ ซี ฮวงซึ่งเป็นคนเห็นความสำคัญของการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ใน

    การคำนวณจำนวนน้ำมันที่ผลิตได้ในแต่ละวัน  จำนวนที่ต้องระเหยไปใน

    อากาศ  จำนวนที่จะต้องผลิตชดเชยให้ได้ตามที่สัญญาไว้แก่รัฐ  ในตอน

    แรก  ซี เจ ได้เช่าเครื่องไอ บี เอ็ม มาให้บริการก่อน  แต่พอยูนิแวคเข้ามา

    หาตัวแทนในประเทศไทย  ซี เจ ซึ่งชอบของใหม่ ไฮเทคอยู่แล้ว ก็ตอบรับ

    ในการเป็นตัวแทนจำหน่าย พร้อมสั่งเอาเครื่อง 9300 รุ่นแรกๆ เข้ามาแทน

    ไอ บี เอ็ม ในศูนย์บริการ  แล้วก็ขายเครื่องมันเองซะเลย





    ดังนั้น  พูดก็พูดเถิด  ศูนย์บริการเขาเกิดก่อนที่ลุงจะเข้าไปเป็น MD ให้เขา  

    แต่ในเมื่อเขาจัดตั้งเป็น “บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์” ขึ้นมา  ก็โอนกิจการ

    ของศูนย์บริการมาอยู่ในความดูและของซัมมิท คอมฯ ด้วย





    ที่ลุงพูดว่าไม่สนใจ  ไม่ได้หมายความว่า  มันไม่มีความหมาย  หรือลุงไม่

    อยากเอาใจใส่แต่ประการใด  แต่เนื่องจาก  ศูนย์บริการฯ ได้จัดตั้งขึ้นมา

    อย่างมีระบบ  มีระบบ Operation  ระบบ Key Data & Verification  ระบบ

    ตรวจสอบ Input Output ระบบ Back up อะไรต่อมิอะไรเป็นระเบียบเรียบ

    ร้อยดีอยู่แล้ว  ผิดกับของหน่วยขาย  ซึ่งไม่มีอะไรเลย  ลุงจึงต้องให้ความ

    สนใจกับการขายก่อน





    แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังนี้ขึ้น  “งานบริการเป็นงานแรกที่ลุงนึกถึง”





    ใช่ซิ  รัฐเขายึดเอาสัมปทานคืนจากซัมมิทได้ในพริบตาเดียว แต่.....งาน

    เหล่านี้ยังต้องดำเนินอยู่  คืองานกลั่นน้ำมัน  งานคำนวณ  งานข้อมูลด้านตัว

    เลขต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลุงคิดว่า “จำเป็น” ต่อการบริหารงานของโรงกลั่น.....

    ซึ่งหยุดไม่ได้  และต้องทำทุกวัน





    คนที่รู้ดีเรื่องนี้ที่สุดในบริษัทของเราคือ คุณนงลักษณ์ หรือคุณแดง ซึ่งคุณ

    อมร เพิ่งสั่งให้ขึ้นไปช่วยงานด้านการขาย............................





    ลุงสั่งให้มีการประชุมในบ่ายวันนั้น  เอากันให้รู้เรื่องไปเลยว่า  “ใครทำหน้าที่

    อะไร  มีความรับผิดชอบอะไร  และงานที่ทำ  ทำอะไรอยู่  มีปริมาณมากแค่

    ไหน  ต้องรับข้อมูลมาจากใคร  เมื่อไหร่  ได้ข้อมูลมาแล้ว  ต้องมาทำอะไร  

    ใส่เข้าไปใน Key Punch เมื่อไหร่  ออกมาแล้ว  ต้อง Verify อย่างไร  แล้ว

    ไปไหนต่อ ....”






    ลุงพร้อมกับแดง  นั่งคู่กัน  ลุงเป็นคนจดบันทึกในรายละเอียด  คุณแดงเป็นผู้

    ซักถาม.....เรียกเข้ามาทีละแผนก  ที่ละคน  ไม่ว่าจะพวกเตรียมข้อมูล  

    พวก Operator  พวก Programmer พวก Analyst ฯลฯ





    คำถามที่ลุงไม่ลืมถามในครั้งสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะออกไปจากที่ประชุม

    ก็คือ...  




    “คุณคิดว่างานของคุณสำคัญอย่างไร  ....  ถ้าไม่มีงานของคุณ....โรงกลั่นจะ

    เสียหายอย่างไร  คุณจำเป็นแค่ไหน  ที่กิจการโรงกลั่นจะต้องการเก็บคุณไว้”






    ปรากฏว่า  “คำถาม”  ประโยคสุดท้ายนี้  กระตุ้นให้ทุกคนที่รับผิดชอบชอบ

    งานกิจการของโรงกลั่นอยู่  ได้พิจารณาตัวเอง  พิจาณางานของตัวเองอย่าง

    รอบคอบ  และคิดหนัก  บางคนก็ตอบได้คล่องแคล่ว  บางคนก็คิดหนัก.....

    แต่ลุงก็ได้ให้โอกาสเขาเหล่านี้  ไปหาคำตอบที่ดูดีที่สุด  และเอามาให้ลุง

    ภายในเย็นนั้น





    ในระหว่างนั้น  ลุงก็ได้ให้เลขาฯ มาพิมพ์ดีด  (ยังไม่มี “พีซี” ในสมัยนั้น ....

    อย่าลืมนะครับ)  มาพิมพ์เอกสารในรูปแบบของ “Proposal” เตรียมไว้





    คืนวันนั้น  งาน “Proposal” ของบริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ ก็ค่อยๆ เป็นรูป

    ร่างขึ้น  





    “คุณอมร  เตรียมเอาไว้เสนอใครค่ะ”   คุณนงลักษณ์ถาม





    “ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน  แต่พรุ่งนี้เราก็คงจะรู้  เพราะงานประจำวันของโรง

    กลั่นที่คุณวิชิต  ทำอยู่ มันหยุดไม่ได้เลยแม้แต่วันเดียวใช่ไหมแดง  ถึงเขา

    จะยึดโรงกลั่นไป  ก็ไม่ได้หมายความว่า  เขาจะหันมาคำนวณงานของโรง

    กลั่นด้วยมือ  มันสายเกินไปที่เขาจะหันกลับมาทำงานด้วยมือ.....   ดังนั้น  

    ใครก็ตามที่รับงานต่อจากซัมมิทกรุ๊ปไปทำ  เขาก็ต้องหันมาหาเราเป็นอันดับ

    แรก  ใช่ไหม แดง.....”






    .................................................................................................





    วันรุ่งขึ้น  สายของบริษัท  ที่วางกระจายออกไปหลายสาย ก็ส่งเสียงรายงาน

    เข้ามาให้ทราบว่า





    “ตกลงงานโรงกลั่น  เขาจะให้การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเป็นผู้

    ดูแล.....”






    และ Key man คนหนึ่งในสายงานดูและการรับโอนงานจากซัมมิทกรุ๊ป ก็

    คือ  “พี่ประทิน.....” ผู้อำนวยการฝ่าย ซึ่งดูแลระบบคอมพิวเตอร์ของอีแก

    ตเป็นผู้ดูแล........นายด้องรายงานต่อ





    ลุงสั่งให้ “นายด้อง”  ติดต่อพี่ประทินทันที   ความจริงพี่ประทินนี้  เป็นผู้ใหญ่

    ที่อารมณ์ดี  เป็นผู้หนึ่งที่เป็นกรรมการประกวดราคาระบบคอมพิวเตอร์ของ

    การไฟฟ้าฝ่ายผลิต  และเป็นลูกค้าที่ดีของบริษัทเสมอมา





    ลุงมาสนิทกับพี่ประทินก็ตอนที่ อีแกตหมดสัญญาเช่า (ซึ่งทำสัญญากันทุก

    3 ปี) กับซัมมิท  ซึ่งในตอนนั้น  ลุงเข้าไปใหม่ๆ  อีแกตเองก็ได้ที  บีบว่าจะ

    ไม่ต่อสัญญากับเรา  พร้อมได้เรียกไอบีเอ็ม เข้าไปเจรจาให้เสนอราคา

    เครื่องมาแข่ง  ลุงเลยจำเป็นจะต้องเสนอเครื่องเมนเฟรมรุ่นใหม่  คือ รุ่น

    1100/60  ซึ่งรุ่นที่เร็วกว่า  ขยายตัวได้กว่าเครื่องรุ่นเก่าที่อีแกตใช้อยู่หลาย

    ตัวนัก  โดยคิดค่าเช่าเท่าเดิม  แต่ค่าวันไทม์ชาร์จ  (ค่าภาษีขาเข้า  ค่าขน

    ส่ง  ค่าอินชัวรันฯ ) ทางอีแกตจะต้องเป็นผู้ออก





    วิ่งกันหลายหนหลายครั้ง  กว่าจะสำเร็จ โดยจำได้ว่า ในวันสุดท้าย ที่เข้าไป

    ต่อรองกับพี่ประทิน  พี่ประทินบอกให้ลดราคาสุดๆ แล้วจะพิจารณาให้  ใน

    ขณะเดียวกัน ไอบีเอ็มก็นั่งรออยู่นอกห้อง  เตรียมที่จะยื่นราคา  พอซัมมิท

    เข้าไปเสนอราคาเสร็จ  ไอบีเอ็มก็เข้าไป  เห็นหายเข้าไปนาน  ลุงก็ชักไม่ไว้

    วางใจ  ไม่รู้ไอบีเอ็มจะมีทีเด็ดอะไร  ก็ยังไม่ยอมกลับ  รอจนไอบีเอ็มยิ้ม

    ระรื่นกลับออกมาจากห้องพี่ประทิน  เห็นพี่ประทินเดินมาส่งถึงหน้าห้อง  ลุงก็

    หันกลับเข้าไปในห้องพี่ประทินใหม่  เข้าไปเล่าให้ฟังว่า  เครื่องใหม่ของเราดี

    กว่ายังไง  และการที่ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่  ไม่ต้อง Convert งานใหม่ มี

    ข้อได้เปรียบกว่าไอบีเอ็มอย่างไร  พี่ประทินก็ฟังแต่โดยดี  พอลุงบอกกล่าว

    เสร็จ  พี่ประทินก็บอกให้กลับบ้านได้  พี่ก็จะกลับเหมือนกัน  เพราะนี่จะทุ่ม

    หนึ่งแล้ว  แกก็เดินมาส่งเราที่หน้าห้อง  ออกมาเห็นพวกไอบีเอ็มยังไม่กลับ  

    กำลังจับกลุ่มรอกันอยู่  แกก็เชิญไอบีเอ็มเข้าไปในห้องใหม่  ลุงก็ยังไม่

    กลับ  ขืนกลับได้อย่างไร  กำลังหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนั้น





    ตกลง พอพี่ประทินออกมาเห็นลุงยังไม่กลับ  ก็เกรงว่าสงสัยไอ้พวกนี้มันตื้อ

    กันจัง  ไม่ยอมกลับบ้านง่ายๆ  ขนาดจะสองทุ่มแล้ว  พี่ประทินบอกหิวข้าว

    แล้วโว้ย.....รีบเก็บของกลับบ้าน  ลุงกับไอบีเอ็มจึงได้กลับบ้านไปด้วยกัน  

    หลังจากที่ได้เดินไปส่งพี่ประทินให้เห็นกับตา  ว่าพี่ประทินได้กลับบ้านไป

    จริงๆ





    พออีกสองสามลุงก็ได้ Order จากอีแกต  สำหรับเป็นเครื่องเช่าต่ออีก 5 ปี  

    แทนเครื่องเดิม .... และหลังจากนั้น  พี่ประทินก็ได้ย้ายไปอยู่ฝ่ายอื่นโดยไม่

    ได้ติดต่อกันอีกเลย

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 19 พ.ย. 51 09:42:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com