ความคิดเห็นที่ 1 คงต้องคุยกับผู้จัดการฝ่ายขายนะ พนักงานขายหลายแห่ง คิดแต่จะขาย ๆ เพื่อสร้างยอด บางทีมีรายการรับคืนสินค้ามาเยอะแยะ ต้องเอามาคิดด้วยนะครับ พนักงานขายเค้าเกิดมาเพื่อขาย เลยชอบสร้างปัญหา แต่ถ้าระบบมันดี เค้าก็จะเข้าใจครับว่า การผลิตสินค้ามาก ๆ ทำให้มี inventory เยอะ ๆ มันเป็นการสูญเสียอย่างหนึ่ง - เงินจมขาดสภาพคล่อง ต้องเสียดอกเบี้ย  สินค้าอาจจะล้าสมัย เกิดสูญหายได้ ชำรุดเสียหายได้ เสียพื้นที่ในการเก็บรักษา ต้องเสียเงินเดือนคนเก็บสตอค นับสตอค และการสูญเสียอื่น ๆ อีกจิปาถะ โดยเฉพาะการสูญเสียโอกาสจากการนำเงินทุนไปผลิตสินค้าที่ขายได้แทน ทำไมไม่ลองให้บริษัทจัดสัมนา แล้วหยิบเอาปัญหาพวกนี้มาพูดคุยกัน จะได้เข้าใจกันทั้งสองฝ่ายถึงบทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบของกลไกในบริษัท มีปัญหาต้องปรึกษากัน ลองดูนะครับ มาบ่นในนี้ก็คงได้แค่ระบาย แก้ปํญหาบ่ได้หรอกครับ  ถ้าไม่ไหวก็ทำเป็นบันทึกไปถึงฝ่ายขายผ่านหัวหน้าฝ่ายผลิต จะได้รับรู้กันไว้ พอมีปัญหา จะได้ไม่เดือดร้อนมาถึงตัวครับ... สู้ ๆ ๆ จากคุณ : sakchai splash - [ 21 พ.ย. 51 15:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กำหนดค่าคอมฯ  โดยให้มีค่า Inventory ส่วนเกินของความเหมาะสม มาเป็นตัวแปรของการเพิ่มขึ้นหรือลดลง ในการคำนวณค่าคอมมิชชั่น ปัญหามันเกิดจากอะไร ก็เอาสาเหตุของปัญหาไปแก้ไข โหดป่ะ     เชื่อเหอะ  จะคุยยังไงก็แล้วแต่ หากผู้มีอำนาจในบริษัทฯ หลงระเริงกับแค่ยอดขาย โดยไม่ใส่ใจกับตัวเลขสต็อก   ก็ไม่เกิดผลครับ จากคุณ : กระบือหน้าหวาน (MR.Bigsu) - [ 21 พ.ย. 51 15:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ใช่ว่าฝ่ายขายพูดไม่รู้เรื่องหรอกครับ เพียงแต่เค้าก็มียอดขายที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน แล้วก็เค้าคงจะพูดไม่ได้หรอกครับว่า "เดือนนี้คงขายของไม่ได้ ไม่ต้องผลิตออกมาหรอก" ถ้าหากว่าลูกค้าสั่งของมาจริงๆแล้วคุณไม่มีของส่ง ทางฝ่ายขายก็เดือดร้อนเหมือนกัน แต่ถ้าผลิตออกมามากๆแล้วลูกค้าไม่สั่ง ทางคุณก็ลำบาก ผมอยากให้คุณคิดว่าที่บริษัทเค้าจ้างคุณมาทำงานก็เพราะเค้าต้องการให้คุณมาบริหารเรื่องพวกนี้แหละ เพราะถ้า planner หรือ logistic มีหน้าที่แค่ผลิตตามที่ลูกค้าออเดอร์มาจริงๆเท่านั้น เค้าก็คงไม่ต้องจ้าง Planner หรือ Logistic แพงๆหรอกครับ เรื่องแบบนี้ต้องแก้ปัญหาร่วมกันครับ กำหนดนโยบายให้ชัดเจน และต้องให้นโยบายครอบคลุมถึง KPI ของทุกฝ่าย เช่น - กำหนดว่าสินค้าตัวไหนผลิตตามออเดอร์จริงๆเท่านั้น ตัวไหนต้องมีการเก็บ stock ไว้บ้าง - commission หรือ Incentive ของฝ่ายขายต้องครอบคลุมถึงความถูกต้องในการ forecast ด้วย - เปรียบเทียบยอดขายจริงกับ Forecast อย่างสม่ำเสมอ แล้วก็หาข้อสรุปร่วมกันการผลิต ลองหาหนังสือที่พูดเกี่ยวกับ CPFR (Collaborative, planning, forecasting and replenishment) ดูนะครับ ผมว่ามันน่าจะช่วยคุณได้ จากคุณ : comeDD - [ 21 พ.ย. 51 16:16:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้าใจ คห3 ค่ะ  ตัวเราก็มียอดขายร่วมกับพนักงานขายเช่นกัน   แต่ลูกค้ารายนี้และพนักงานคนนี้ เคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว  คือสมุติสั่งของไว้ 700 ตัวส่งจริง 300 ตัว  อีก400 ตัวทิ้งไว้ 4 เดือนก็ยังไม่ได้ส่งไปลูกค้า   จนในที่สุดต้องตัดขายขาดทุนไปช่วงปลายปี   คราวนี้ลูกค้ารายเดิมและพนักงานคนเดิมจะเอาของ3000 ตัวทั้งที่ตอนนี้ลูกค้า confirm 600 ตัว เอง ตอนนี้เศรษกิจไม่ดียอดขายลดลงมากเลยเทียบกับปีที่แล้ว   อีกทั้งวิธีการทำงานที่เอาแต่ใจ มาก  โทรไปจะคุยด้วยก็ไม่คุย  จะคุยแต่ หัวหน้าเราอย่างเดียวก็แล้วแต่คุณเธอ แต่รายละเอียดสินค้า หัวหน้าเราก็ไม่รู้น่ะ  ถ้าจะผลิตต้องอาศัย ความรู้ของเรา เราว่าโตๆกันแล้วเราสามารถคุยได้ถึงมีปัญหาถ้าเป็นเรื่องงาน   แต่คนบางคนก็ไม่สามารถแยกเรื่องงานและความรู้สึกส่วนตัวออกจากงานได้แสดงออกแบบเด็กๆ จากคุณ : Mom9 - [ 21 พ.ย. 51 17:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 งานนี้คงต้องอาศัยการเข้าใจซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่ายถึงจะดีค่ะ โจทย์คือทำอย่างไรให้ฝ่ายขายเข้าใจว่าคนอื่นเดือดร้อนยังไงที่ต้องแบกรับภาระตรงนี้ พยายามทำให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมจะดีที่สุดค่ะ ไม่ใช่แค่เข้าใจแต่ตัวเองหรือทีมตัวเอง แต่คำว่าทีมในที่นี้หมายถึงทีมทั้งบริษัทค่ะ หากทั้งทีมไปไม่ได้ บริษัทก็ไม่รอดเหมือนกัน จากคุณ : Urizah (mushroomja) - [ 21 พ.ย. 51 20:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กำจัดทิ้งเลยค่ะ จากคุณ : เจ้านายตัวเอง - [ 21 พ.ย. 51 22:34:38 ]