ความคิดเห็นที่ 1 ตอบแบบคนรู้ งูๆปลาๆละกันน่ะครับ คุณคงไม่สามารถนำเข้าเองได้หรอก เพราะมันมีขั้นตอนพอควร อย่างน้อยๆเวลาที่คุณไปทำการเบิกของเนี่ย คุณก็ต้องไปจ้างชิปปิ้งที่เค้ามีบัตรผ่านพิธีการมาดำเนินการให้อยู่ดี จ้างชิปปิ้งให้เค้าดำเนินการให้น่ะ ง่ายที่สุดแล้วครับ อีกอย่าง สินค้าที่มาจากจีน จะต้องถูกทำการเปิดตรวจทุกตู้ อันนี้ก็ไม่น่าจะรอด เกิด จนท.บอกว่า คุณแจ้งสินค้าผิดประเภท จะทำไงล่ะครับ แล้วเรื่องพิกัดอัตราภาษีอีก ต้องมานั่งเปิดดูว่าเสียพิกัดอะไร โอย เหนื่อย ยุ่งยากมากมาย เด๋วมีค่าโน่นค่านี่อีก ค่า THC ค่า CFS อีก เรื่องค่าระวางเรืออีก ซึ่งตรงนี้มันอยู่ที่ว่า คุณซื้อขายกับเทอมไหน ต่อมาก็เรื่องจ้างหัวลาก การเอาของออกจากอารักขาศุลฯ และอื่นๆอีกมากมาย แค่คิดก็เครียดแล้วครับ จากคุณ : 9ตะวัน - [ 22 ธ.ค. 51 15:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอบเจ้านายไปซิว่า สามารถนำเข้าสินค้าจากจีนได้ แต่ต้องผ่านขั้นตอนการเคลียร์สินค้าและตรวจสอบสินค้า โดยตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทฯ เท่านั้น ซึ่งชิปปิ้งจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีกว่า รวดเร็วกว่า เพราะเค้ารู้จักเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานกรมศุลกากร หากเจ้านายยังมองไม่เห็นภาพรวม ให้เรียกชิปปิ้งที่คุณคิดว่าเชี่ยวชาญ นัดมาพูดคุยให้กระจ่างกันไปเลย รวมทั้งแจกแจงค่าใช้จ่ายในการนำเข้าต่าง ๆ เช่น ค่าภาษีนำเข้าสินค้า ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ค่าใช้จ่ายในการตรวจปล่อยสินค้าที่ด่านศุลกากร เป็นต้น เหล่านี้ ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นทั้งสิ้น จากคุณ : bfs04 (bfs04) - [ 22 ธ.ค. 51 16:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำได้ครับ ไม่ยากอย่างที่คิด มีห้าส่วนเท่านั้นเอง สั่งของ คุณติดต่อได้อยู่แล้ว แต่ระวังเรื่องจ่ายเงิน กับคุณภาพสินค้าเช็คให้ดีนะครับ สายเรือ เรือจะถึง ก็เตรียมตัวหน่อย confirm BL จะชื่อเรา ลูกค้า สินค้าถูกต้องหรือเปล่า ลากตู้หรือ เอาแต่ของ อย่าให้ผิดนะครับ เดี๋ยวมีปัญหา แล้วก็ไปจ่ายตัง เอาตั้วมา(D/O) เอกสารพิธีการนำเข้า จำนวนของไม่เยอะ จ้างให้เค้าทำใบขนให้ (ใบละ ร้อยยี่สิบ เพิ่มรายการละๆยี่สิบ จำได้คร่าวๆ ลองไปถามดู ที่ท่าเรือ มีหลายเจ้า ถ้าเริ่มของนำเข้า เยอะ ก็ค่อยติดต่อซื้อโปรแกรมอีกที พิกัดก็ถามๆๆๆ และก็ถามครับ) ใบนี้สำคัญนะครับผิด แล้วเรื่องยุ่งเลย พิธีการนำเข้า ส่วนการไปติดต่อปล่อยของกับ ศุลฯ ก็ถามอีกครับ (อย่าลืมค่าธรรมเนียมิพเศษล่ะ เดี๋ยวจะออกของยาก ) ใช้เอกสารอะไรบ้าง เอกสารครบหรือเปล่า ประกอบด้วย ใบขน B/Lหรือ D/O ใบอนุญาต(ของนำเข้าบางอย่างต้องใช้ แตกต่างกันไปไม่เหมือนกัน เช็คดู) เอกสารรับรองจากนอก(นี้ก็แล้วแต่สินค้า สินค้าเกษตร อาจใช้ FROM E C/O นำของออก ติดต่อรถหรือคนขนของครับ บริษัทรถเยอะๆ ที่อยากทำ สรุปมาทั้งหมด ไม่ยากที่จะทำ แต่ยุ่งยาก และจุกจิกที่จะติดต่อ ถ้าคิดว่ามีเวลาก็ลองดูครับ ขอให้โชคดี จากคุณ : p_peang (p_peang) - [ 22 ธ.ค. 51 16:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กะทู้ดีมากๆๆครับ ช่วยๆๆกันโหวตก็ดีนะครับ จากคุณ : okb - [ 22 ธ.ค. 51 17:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นำเข้าเองได้ครับ แนะนำให้โทรสอบถามวิธีการที่กรมศุลกากรโดยตรงจะดีกว่าครับ โทร.0-2249-0431-40 บอกว่าถามเรื่องพิธีการนำเข้าสินค้า จากคุณ : ครั้งแรกอาจจะยากนิดหน่อย (Once in a while) - [ 22 ธ.ค. 51 19:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คิดว่าบางส่วนสามารถทำเองได้ แต่เรื่องการไปเบิกของจากตู้ ก็ต้องดูอีกว่า FCL หรือ LCL ดูประเภทสินค้าด้วยอ่ะค่ะ ว่านำเข้าอะไร เป็น bulk (สินค้าเทกอง) หรือเปล่าคะ จริงๆ แล้วเราก็ต้องอาศัยชิปปิ้งในการติดต่อดำเนินพิธีการทางศุลกากรอ่ะค่ะจะสะดวกกว่ามาก เพราะเดี๋ยวนี้เค้าใช้ผ่านระบบ e-custom อ่ะค่ะ แปปเดียวออกของได้แล้ว แล้วก็เทอมในการจ่ายเงินด้วยอ่ะค่ะ นอกจากพวก Incoterm ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประกันภัยแล้ว ยังมีวิธีการชำระเงินอีก แบบว่าเปิด L/C ไม๊ B/C, advance payment etc. ขนส่งแบบไหน เพราะ carrier ที่เป็นสายเรือ หรือสายการบิน ก็จะมีวิธีออกของต่างกันนิดหน่อยค่ะ รวมถึงค่าบริการของแต่ละ carrier ด้วย (ค่าขนส่งใครเป็นคนจ่ายนั้นก็จะขึ้นอยู่กับ Incoterm นะคะ เช่นแบบ FOB CIF EXW) คุณต้องศึกษาเรื่องพวกนี้นี้ให้ดี เพราะว่ามันเป็นความเสี่ยงของบริษัทคุณด้วยค่ะหากเจ้านายต้องการให้คุณทำ ลองไปซื้อหนังสือมาอ่านก็ได้นะคะ เรื่องความรู้การส่งออก-นำเข้า อ่ะค่ะ ตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ ^ ^ ยินดีให้ความรู้ (เท่าที่มี) ค่ะ จากคุณ : หนูไม่รู้เค้ามีแฟน (riliza) - [ 22 ธ.ค. 51 20:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นำเข้าเองได้ค่ะ แต่ ต้องมีความรู้พอสมควรในเรื่องของ Customs และ Shipping จิงๆ พวก Frt Forwarder เค้าก็ ทำแบบ one stop service แต่ ถ้า คุณมีความเชี่ยวชาญ เชื่อได้เลยค่ะ ไม่ยากหรอก ติดต่อ สายเรือ แล้ว ให้ ทำ Shipping แต่ ที่ยาก ก็คือ Shipper คุณเป็นใคร Term การซื้อขาย เป็นงัย ต้องศึกษาเรื่อง Sales Contract ให้ดี เพราะว่า จะมี conditons and terms ต่างกัน โชคดีค่ะ จากคุณ : ติอาโม่ (TIAMO_MI) - [ 22 ธ.ค. 51 20:43:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าใช้ Shipping  ก็ดีแล้วนะครับ เดี๋ยวของจะออกยาก แต่นายสั่งก็ลองดูครับ จากคุณ : คิดบวก - [ 22 ธ.ค. 51 22:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สั่งมาเยอะถึงขนาดตั้งลงเรือมาเลยเหรอครับ? ถ้าลงที่ท่าเรือ ผมว่ายังไง ๆ จ้าง shipping ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด (ถึงแม้จะโดนโขกเยอะอยู่) ต้องเข้าใจความจริงว่า ของมาทางเรือ กับ shipping (ผมไม่อยากพูดตรง ๆ) มันเป็นประเภท น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ครับ ค่อนข้างจะมีกำแพงสำหรับคนที่อยากจะลัดตัดตอนพวก shipping อยู่เหมือนกัน จริงอยู่ ถ้าคุณไม่ใช้ shipping คุณจะประหยัดส่วนนี้ แต่อาจจะไปเสียส่วนที่ไม่มีบิลเยอะอยู่ ที่สำคัญ เสียเวลาเป็นวัน กว่าจะเคลียร์เสร็จเหมือนกันนะ คำนวนดูแล้ว อาจจะถูกแพงกว่ากันไม่มาก ถึงแม้เอกสาร สินค้า อะไรต่าง ๆ จะถูกต้องหมด แต่ปัญหาก็มีแหละ เชื่อสิ เหมือนอย่าง #3 เค้าว่าไว้ แต่ถ้าของชิ้นเล็ก ๆ น้ำหนักไม่มาก ผมว่าลอง FedEx หรืออะไรพวกนี้ก็น่า ok อยู่นะครับ จากคุณ : Morning Star - [ 23 ธ.ค. 51 02:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขั้นตอนมันยุ่งยาก เค้าถึงใช้ตัวแทน(freight forwarder)ดำเนินการให้ เพราะสะดวกกว่ามาก แต่ถ้าอยากจะทำเอง ต้องดูเอกสารเป็น ต้องยื่นขอทำบัตรลายเซ็นต์ผู้นำเข้า-ส่งออก ต้องขอหนังสือรับรองฯ/ใบอนุญาตในการนำเข้าสินค้า ฯลฯ มาทางเรือ ต้อง book เรือเอง มาทางแอร์ ก็ต้องติดต่อ Airlines เอง แค่นั้นยังไม่พอ ต้องมีบัตรประจำตัวผู้ส่งออก-นำเข้า ซึ่งเป็นบัตรที่กรมการค้าฯ ออกให้กับผู้ประกอบการ ส่วนต้องติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ออนไลน์ เชื่อมต่อ กับศุลกากร นั้นคือระบบ EDI ที่จะต้องทำตั๋ว ผิดก็ไม่ได้นะจ้ะ ถึงตรงนี้ คิดว่ายุ่งยากพอหรือยัง นี่แค่เริ่มก่อนจะนำเข้า-ส่งออกนะ ต้องทำเอกสารพวกนี้ ยังไม่นับการเดินพิธีการ ซึ่งต้องมีบัตรอนุญาตต่างหาก ในการเข้าคลังสินค้า ไม่ใช่ใครๆก็เดินเข้าไปหยิบของได้ ลองอธิบายให้เจ้านายฟังดู ถ้ายังจะดึงดันว่า ทำเองดีกว่า ถึงตอนนั้นค่อยมาว่ากันใหม่ จะต้องทำอย่างไร จากคุณ : นางสาวจำเป็น - [ 23 ธ.ค. 51 07:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เหอเหอเหอ ยุ่งยากจริงๆด้วยหละครับ ... ก็ขอขอบคุณทุกคนมากๆเลยครับ ที่เข้ามาให้คำแนะนำและความรู้ต่างๆอีกมาก เดี๋ยวผมขอลองคิดดูอีกสักพักน่ะครับ ว่าจะทำยังไง.. เฮ้อ.. อ่อ ของสั่งเข้ามาเยอะเลยครับ ประมาณ 500 ชิ้น แต่ละชิ้นก็หนักประมาณ3-5 กิโลน่ะครับ อืม พูดถึงตรงนี้แล้วได้คำถามเพิ่มขึ้นเลย คือผมยังสงสัยอยู่ว่าตกลงค่า freight นั้นขึ้นกับน้ำหนักด้วยหรือเปล่าครับ หรือว่าขึ้นอยู่กับค่าความจุอย่างเดียว (เท่าที่ผมสอบถามบริษัทshippingมา เค้าบอกคิดลูกบาศก์ละ 1,000 บาท อันนี้ถือเป็นค่ามาตรฐานใช่หรือเปล่าครับ แล้วเค้าบอกว่าถ้าจะซื้อเหมาทั้งตู้แทนก็ 800 เหรียญ ถูกต้องใช่มั้ยครับ) แล้วสรุปค่าน้ำหนักมีส่วนไหมครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : พลิ้ว (พริ้วไหวไปตามสายลม) - [ 23 ธ.ค. 51 09:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมโทรไปกรมศุลกากร(0-2249-0431-40) ไม่มีคนรับเลยอ่ะ..(โทรตอน 9โมงกับ10 โมงอ่ะครับ)  ไหงเป็นงั้น จากคุณ : พลิ้ว (พริ้วไหวไปตามสายลม) - [ 23 ธ.ค. 51 10:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณพลิ้ว ควรไปติดต่อเองที่กรมศุลกากรที่คลองเตย น่าจะใกล้กว่าไปแหลมฉะบังหนะ โทร.ไปถามไม่ได้เรื่องอะไรหรอก เจ้าหน้าที่ ไม่มานั่งตอบเรื่องพิธีการนำเข้าสินค้า ขั้นตอน บลา บลา บล้า ให้คุณหรอก  ไม่เชื่อคุณลองดู ถ้าติดก็จะโอนสายไปมา จนคุณหมดความอดทนไปเอง   บริษัทฯ นำเข้า ส่งออก ส่วนใหญ่ ก็ จ้างชิบปิ้ง เป็นตัวแทนทำด้านพิธีการศุลการกรให้ทั้งนั้น   1. กรณีของคุณ น่าจะให้ผู้ขายเสนอราคา เป็น CNF ราคาที่รวมค่า freight เรือแล้ว คุณก็จะทราบราคาสินค้า ต่อชิ้น 2.แล้ว นำชื่อสินค้า หรือ คำอธิบายลักษณะสินค้า ไป หาพิกัด อัตราภาษี นำเข้า (ในเวปกรมศุลกากร ก็มี http://customs.go.th) ว่าสินค้าประเภทนี้ คิดอัตราภาษี กี่เปอร์เซ็นต์ต่อ กิโล หรือ ต่อมูลค้ารวมทั้งหมด  และ ถ้าซื้อจากจีน มีสิทธิพิเศษลดภาษีตามข้อตกลงทางค้าระหว่างกันหรือเปล่า เช่น FTA, WTO 3. คุณก็ถามชิบปิ้งว่า ถ้านำเข้าสินค้าประเภทนี้ จำนวนเท่านี้ ต้องเสียค่าใช้จ่าย  พิธีการศุลกากร เคลียร์ของออกจากท่าเรือ มีอะไรบ้าง เท่าไหร่. จาก1-3 คุณก็จะรู้ว่า ราคาสินค้า+ภาษีนำเข้า+ค่าใช้จ่ายทางพิธีการศุลกากร  แล้วคิดราคาเฉลี่ยต่อชิ้น  ก็จะได้ต้นทุนสินค้าต่อชิ้นแล้วหละ 4. ถ้าคุณจะทำขั้นตอนด้านชิบปิ้งเอง ควรเข้าไปกรมศุลฯด้วยตัวเอง แล้ว เอาระเบียบ วิธีการมาอ่านว่าต้องทำอะไรบ้าง จากคุณ : Varnamo - [ 23 ธ.ค. 51 11:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 23 ธ.ค. 51 11:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ^ โทรบ่อยๆครับ เดี๋ยวก็รับ มีเบอร์hotlineเป็นเลขสี่ตัวด้วยนะครับลองหาดูในเว็บกรมศุลดู การนำเข้าสินค้าเองทำได้ครับแต่ต้องมีคนคอยทำเฉพาะที่มีความรู้ทางเอกสารด้านนี้ หากเจ้านายคุณอยากทำเองก็ส่งคนไปเรียนก็ได้ครับ จากนั้นก็ทำบัตรผ่านต่างๆ และบัตรติดต่อกรม อย่างไรก็ตาม ใหม่ๆต้องทำใจไว้รับความผิดพลาดด้วยนะครับ การสั่งของจากจีนนี่ ผมว่าทางที่ดีคุณควรหาsurveyหรือใครไปตรวจสินค้าก่อนเข้าตู้ก็ดีนะครับ ที่จริงถ้าใช้บริการ Forwarder จะดีกว่าเลยแหละ แต่คนเราบางทีเสียน้อยเสียยากครับ ถ้าไม่มีคนไปตรวจระวังนะครับ บางทีสั่งอย่างได้อย่างแล้วจะเครียดเอา จากคุณ : คนรู้มาก - [ 23 ธ.ค. 51 11:41:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นำเข้ามาเป็นตัน จ้าง shipping เหอะครับ ต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่น่ามากมาย ก่อนที่เรื่องง่าย ๆ จะกลายเป็นเรื่องยาก จากคุณ : Morning Star - [ 23 ธ.ค. 51 12:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ค่าFreight ขึ้นอยู่กับ Weight และ Volume ขึ้นกับว่าอันไหนมากกว่าเค้าก็คิดอันนั้น เช่นของน้ำหนักเบา แต่Volume มาก เค้าก็เอาตัวVolume มาคิด ส่วนเรื่องที่จะทำเอง ทำได้ค่ะแต่ก็ต้องอาศัยShipping ที่มีบัตร  ตอนแรกเราก็ทำเอง  สาเหตุที่ทำเองเพราะว่าไม่เข้าใจว่า พอถามForwarder ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ได้ จะเอาของเร็วก็ไม่ได้ ลำคาญมาก อะไรกันนักหนา เลยลองลุยเองสักครั้ง  พอได้รู้ก็รู้ว่าอะไรต้องทำยังไง  ได้ความรู้แบบครูพักลักจำ  ตอนนี้ใช้Shipping อยู่ค่ะ แต่ก็รู้ขั้นตอนแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง เจ้านาย จขกท คงคิดว่าบางอย่างทำเองได้ก็จะประหยัดมั๊ง  แต่ขอบอกว่า ถ้าทำแรกๆก็ใช้ Shipping ดีกว่า แล้วค่อยศึกษาเมื่อมีเวลาเพื่อให้เข้าใจว่าขั้นตอนมันเป็นไง  มีอะไรที่เป็นค่าใช้จ่ายบ้าง  ปรกติค่าจ้างShipping ก็มี Rate ต่างกัน  ต่อรองแบบที่ดีที่สุดละกัน  อีกอย่าง เดี๋ยวนี้ คุณไปทำเองไม่ได้ ต้องมีบัตร Shipping ค่ะ  (คนที่จะได้บัตรก็ต้องผ่านการอบรม ซึ่งก็ต้องไปอบรมที่กรมศุลกากร ที่เปิดเป็นช่วงๆ มีค่าใช้จ่ายเหมือนกันสำหรับการอบรม แต่ก็จะได้เข้าใจและได้บัตรShipping ซึ่งต้องมีการสอบด้วย) สมัยก่อนเค้าให้เดินพิธีการเองได้  แต่ตอนนี้เค้าไม่ให้ทำแล้ว  ต้องมีบัตร Shipping ขนาดรถที่จะขนของออกจากท่าเรือหรือ Airport ยังต้องมีบัตรเลย  แล้วแถมถ้าเป็นหน้าใหม่เข้าไป เดี๋ยวตอบคำถามไม่รู้เรื่องต้องไปเคลียร์กันยาวเหมือนกัน จากคุณ : happybaby - [ 23 ธ.ค. 51 12:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 18 การพยายามทำในสิ่งที่ไม่ถนัด มีแต่จะสร้างต้นทุนให้สูงขึ้น สู้เอาเวลาไปเลือกหา freight forward ที่เค้าบริการครบวงจร ราคาไม่แพง มาเป็น partner ดีกว่ามั้ยครับ จากคุณ : Pong Wim - [ 23 ธ.ค. 51 12:47:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณไม่สามารถนำของเข้ามาเองได้แน่นอนค่ะ  ถ้าสินค้าคุณมาเป็น LCL อธิบายง่าย ๆ คือไม่ได้เหมาตู้ หรือ FCL มาน่ะค่ะ  ยังไงซะคุณต้องผ่าน forwarder อยู่ดี ถ้าจะผ่านสายเีรือ ตามคุณ คห.ที่ 3 คือมาเป็น FCL เท่านั้น แต่ถ้าคุณโทรไปหาสายเรือ เค้าจะเสนอบริษัท ที่เป็นบริษัทลูกที่เป็น forwarder ให้คุณค่ะ เช่น Mersk logistics, Evergreen logistics หรืออะไรทำนองนั้น ในเรื่องของค่า freight ถ้าคุยกะคู่ค้าได้แนะนำให้จ้ายต้นทาง เพราะปลายทางก็บวกค่า freight จากต้นทางนั่นแหละค่ะ ส่วนการทำ shipping การยิง paperless ผ่าน customer service ยังไงก็ต้องลงทะเบียนผ่านกรมศุลกากรค่ะ (แต่ทำไม่ยากเลยค่ะ)  เตรียมเอกสารให้พร้อม (หาดูได้ที่ www.customs.go.th) มีค่าใช้จ่ายในส่วนของ TOT เพื่อยิง paperless เท่านั้น แต่ถ้าจะให้ customer service ยิงก็ไม่ต้องเสียค่ะ และการยื่นลงทะเบียนแนะนำให้ยื่นเองไว้เลย ค่ะ จะได้ไม่ต้องโดน 500 หรือ 1000 บาท โดยไม่จำเป็นจาก บริษัท shipping ส่วนการออกของ เรียนให้ทราบว่า ที่เค้ามีบริษัท shipping หลายบริษัทให้เราเลือกใช้นั้น มันขึ้นอยู่กับความชำนาญของคนเดินพิธีการ ค่ะ ก็รู้ ๆ กันอยู่ ว่า ซี้มากหรือน้อย ชั้นเชิงแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ของน่ะออกมาได้ค่ะ แต่ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ยิ่งถ้าสินค้าคุณเ็ป็นพวก machine หรือ spare part แนะนำ shipping ดีกว่าค่ะ งั้นเมื่อมีระบบ paperless แล้ว ทำไม shipping ยังอยู่ได้ล่ะเน๊อะ.... ^_^ แต่ถ้าจะลองดูซักตั้งทำได้ค่ะ ไม่มีปัญหา อ้อ...เกือบลืมจ๊ะ ลองกด 1164 ถามข้อมูลจากกรมศุล ฯ จะดีกว่าจ้าา สู้เค้าน๊าาา เย้ เย้!!!! จากคุณ : อาจตอบได้ไม่ดีมากแต่พยายามแล้ว (Richny) - [ 23 ธ.ค. 51 17:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ก็ตามที่ความเห็นด้านบน ที่หลายๆท่าน ว่าไว้นะครับ ส่วนที่ว่า ทำไมยังต้องใช้ shipping  ก็เพราะซื้อเวลาครับ ทำเอง เดินเอง ออกเอง ทำได้แต่เสียเวลา มาก ถ้าเจอเตะถ่วงอีก ก็หลายวันกว่าจะออกของได้ จ้างshipping เก่ง มีเส้นในเส้นนอก ไม่ต้องทำอะไร ครึ่งวันก็ออกของได้ สมัยก่อน ขึ้นกับคน ระบบขึ้นอยู่ความพอใจ ค่าใช้จ่ายรายทาง มาก จุกจิก ปวดหัว ทำถูกทำผิดไม่รู้ อยู่ที่ความพอใจของคนว่าจะปล่อยหรือไม่ปล่อยของ สมัยนี้ถือว่าดีมากแล้วนะครับ ค่าใช้จ่ายตามรายทางน้อยลงมามาก แต่ก็ยังมี  จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ว่าเจอใคร สินค้ายุ่งยากหรือเปล่า แล้วเรารู้จริงหรือเปล่า แต่ถ้าทำถูกซะอย่าง ยังงั้ย ของก็ต้องปล่อย กั๊กไว้ไม่ได้ เคยไปโวยวายที่สายเรือ ความผิดที่สายเรือ แต่สายเรือจะเก็บตัง ถามค่าอะไร บอกค่าใช้จ่ายที่แก้ไข shippingเอาไปจ่ายให้เจ้าหน้าที่  ถ้าไม่จ่ายจะมีปัญหา ผมไม่ยอมจ่าย บอกเลยคุณทำตามของคุณไป ส่วนค่าใช้จ่าย ตอนไปออกตู้ ผมไปจัดการเอง  สุดท้ายก็ไม่มีอะไร ขอให้จขกท โชคดีครับ จากคุณ : p_peang - [ 24 ธ.ค. 51 15:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อย่างน้อยคุณควรจะจ้าง shipping (customs broker) น่ะครับ เพราะถ้าคุณเช็คพิกัด(กรณีนำเข้าหลายๆแบบเปลี่ยนไปเรื่อย) ยิงตั๋วเอง(อันนี้งานช้างครับ ต้องลงทะเบียน ลงโปรแกรม) เดินเอกสาร ติดต่อเจ้าหน้าที่ หาของในโกดัง(กรณีไม่เต็มตู้) เรียกเจ้าหน้าที่มาตรวจปล่อย หารถออกมาจากท่า ทำคนเดียวลำบากครับ มันต้องมีทีม ที่สำคัญคุณต้องรู้ขั้นตอนให้ดีพอ ก่อนที่จะทำเองได้ ไม่งั้นคงติดปัญหาเคลียร์ของไม่รู้จบน่ะครับ(โดนจับปรับ ขึ้นกองคดี แบบไม่ตั้งใจมีโอกาสเกิดขึ้นได้เยอะแยะครับ ถ้าไม่แม่นจริง) ส่งของไม่ทัน ลูกค้าหนีหมดครับ ส่วนที่เหลือคุณค่อยติดต่อเองก็ได้ครับ ลองอธิบายหัวหน้าคุณดูสิครับ ให้คนที่เค้าเป็นทำดูก่อนดีกว่า แล้วเราค่อยเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ไว้ปีกล้าขาแข็ง หรือปริมาณนำเข้ามากพอ ที่จะคุ้มทุนในการจัดการ แล้วค่อยลุยเอง ยังน่าจะดีกว่า ปล1# ถ้าสินค้าไม่เต็มตู้ หรือนำเข้าทางแอร์ ยังงัยคุณก็ต้องใช้บริการ Freight Forwarder ครับ ปล2# การจองผ่าน Freight Forwarder อาจจะได้ราคาถูกว่าคุณติดต่อเอง เพราะเค้า อาจมีอำนาจการต่อรองกะสายเรือ มากกว่าคุณนะครับ ปล3# Freight Forwarder เค้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ครับ เค้าถนัดกว่าเรามาก ให้งานเค้าไปเถอะครับ จากคุณ : childrens - [ 24 ธ.ค. 51 17:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เคยคิดจะทำเมื่อสักเดือนก่อน deal กับ supplier ที่จีนแล้ว มานั่งคิดภาษี ราคาถูกกว่าที่รับจากภายในประเทศนิดเดียว เมื่อเทียบกับความปวดหัวที่จะได้รับอีกมากมาย คงไม่คุ้ม เลยถอยดีกว่า  แต่ถ้าหนีภาษีถูกกว่ากันมาก แต่ไม่อยากไปนั่งในคุก จากคุณ : toy1152 - [ 26 ธ.ค. 51 14:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่รู้จักกรมศุลฯ กันซะแล้ว อย่าไปทำกันเองเลย เชื่อเถอะ เขามีเจ้ามีนายมีขาประจำทำกันอยู่ หน้าใหม่ๆมา ทำไปซักระยะ เดี๋ยวก็รู้เอง....อิอิอิ จากคุณ : Bond - [ 26 ธ.ค. 51 21:49:17 A:124.120.153.184 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทำไม่ยาก แต่ยุ่งยาก เพราะคนบ้านเรา(บอกเขาไปตรง ๆ ครับ ไม่งั้นเขาก็จะหาทางให้คุณทำเองอยู่ดี) จากคุณ : MlCHAEL - [ 27 ธ.ค. 51 10:23:24 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ทำได้ยากครับ ถึงแม้ว่าคุณอ่านหนังสือการนำเข้าส่งออกที่ขายอยู่เกลื่อนเมืองมาเป็นร้อย ๆ รอบ คุณก็ไม่สามารถทำได้จริง เพราะคุณยังไม่มีความเชี่ยวชาญ ความสนิทคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่เพียงพอ แล้วยิ่งหน้าใหม่เข้าไปไม่ต้องห่วงเลย เค้าไม่ปล่อยคุณแน่ ทั้ง ศร. นายตรวจ สารวัตร เจ้าหน้าที่ บลา ๆๆๆ จ่าย...ทั้งนั้น คุณยอมให้มืออาชีพเค้าทำดีกว่า ไม่แพงมากหรอกครับ ตั๋วละไม่กี่บาท ให้เค้ามีงานทำกันบ้างนะครับ หรือหากบริษัทคุณจริงจังมากกับส่วนนี้ คุณก็แนะนำให้เจ้านายคุณเปิดแผนกใหม่ไปเลย จ้างชิปปิ้งเดินเอกสาร ซื้อโปรแกรม EDI ฯลฯ จบ ขอบคุณที่อ่าน จากคุณ : heroin (heroin) - [ 8 ม.ค. 52 22:33:10 ]