|
ไดอารี่ คนตกงาน โดย เลขาฯ ตัวแสบ! ตอน 10: ความรู้เพียงแค่นี้ทำธุรกิจส่วนตัวได้ด้วยหรือ?
ช่วงนี้รู้สึกตัวเองดวงไม่ค่อยจะดีแฮะ
มีงานเข้ามามากและมีเรื่องที่ทำให้สมองต้องเครียดและจิตใจไม่สงบ
สงสัยต้องไปหาซินแสตรวจดวงชะตาและชี้แนะทางเดินให้อีกแรงซะแล้ว อิอิอิ
ล้อเล่นหรอก แค่ได้กำลังใจจากเพื่อน ๆ ในห้องสีลมแห่งนี้ และได้อ่านความคิดเห็นที่สามารถสัมผัสได้ถึงจิตใจที่งดงามก็ซาบซึ้งใจเป็นที่สุดแล้ว
ที่ว่าดวงไม่ดีและเกิดปัญหาอุปสรรคมากมายนั้น ก็หมายรวมถึงแม้แต่เครื่องมือทำมาหากินอย่างเจ้าโน๊ตบุ๊คตัวเก่งนี่ก็ยังไม่เข้าข้างกันเล๊ยยย!!
เมื่อช่วงวันหยุดยาวกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา วันนั้นฉันก็นำเจ้าโน๊ตบุ๊คตัวเก่งออกจากบ้านไปนั่งทำงานตามปกติ เนื่องจากเจ้าโน๊ตบุ๊คตัวนี้เริ่มแก่ (เหมือนเจ้าของ
?) แล้ว ^_^ การเปิดเครื่องแต่ละครั้งจะใช้เวลาในการโหลดนานถึงนานม๊ากกกก ทำให้วัยรุ่น young at heart ที่ใจร้อนอย่างฉันมักจะกดสวิทช์เครื่องก่อน เสร็จแล้วตามด้วยการเสียบสายไฟเข้ากับเครื่องและเสียบกับปลั๊กตามผนังห้องเป็นขั้นตอนต่อไป
กดปุ่มครั้งแรกไม่มีปฏิกิริยาและไม่มีแสงไฟใด ๆ ปรากฏที่เครื่อง
ฉันคิดว่าสงสัยจะกดเบาไปจึงกดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือคงจะมีเสียงตอบว่า ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
แต่นี่เป็นโน๊ตบุ๊คนอกจากไม่มีเสียงแล้วยังไม่แสดงสีหน้าท่าทางอะไร ทำให้ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คราวนี้ฉันจึงนำสายไปเสียบปลั๊กก่อนแล้วมากดปุ่มสวิทช์เปิดเครื่องใหม่ ปรากฎว่าไม่มีอาการตอบรับใด ๆ เหมือนเดิม
ตอนนั้นฉันเริ่มรู้สึกเซ็ง
แล้ววันนี้ฉันจะทำงานอย่างไรล่ะเนี่ย?
นั่งเซ็งคิดหาทางแก้ปัญหาสักพักก็ลองกดปุ่มใหม่อีกครั้งหนึ่ง ปรากกฏว่าคราวนี้ได้ผลแฮะ เย้.
เครื่องใช้การได้แล้ว! เฮ้อ
ค่อยยังชั่วหน่อย
ไม่งั้นวันนี้คงเคว้งทำอะไรไม่ถูกเป็นแน่
คิดแล้วก็แปลกดีนะ
เดี๋ยวนี้วิถีชีวิตของคนเราเปลี่ยนไปมากถึงขนาดนี้แล้วหรือ?
เราอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์และโลกแห่งอินเตอร์เนตมากเกินไป จนวันไหนถ้าขาดมันไปแล้วรู้สึกว่าเราไม่สามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติได้
ท่านผู้อ่านเป็นแบบนี้บ้างหรือเปล่าล่ะ?
พอเจ้าโน๊ตบุ๊คใช้การได้ปกติแล้วฉันก็นำ Dream List มาทบทวนอีกที พบว่ายังมีความฝันอีก 2-3 รายการที่ฉันสามารถทำไปพร้อม ๆ กันไปได้อีก นั่นก็คือความฝันที่อยากจะเรียนรู้เรื่องโปรแกรม Photo Shop, Illustrator และการทำ VDO Movie
เนื่องจากตอนนี้ฉันกำลังทำหนังสือด้วยจึงคิดถึง Program Page Maker ขึ้นมาอีกหนึ่งโปรแกรม เพื่อที่จะได้หัดจัดเรียงหน้าหนังสือเองเนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าเนื้อเรื่องที่ฉันส่งไปให้โรงพิมพ์ ซึ่งอยู่ในรูปของ Microsoft Word นั้นทางโรงพิมพ์ต้องนำไปแปลงและจัดเรียงใหม่ ทำให้ต้องใช้เวลาในส่วนนี้อีกเป็นสัปดาห์
หากฉันสามารถเรียนรู้วิธีจัดเรียงหน้าและจัดแต่งรูปเล่มเองได้ นอกจากจะช่วยประหยัดเวลาแล้วยังประหยัดค่าทำอาร์ตเวิร์คนับหมื่นบาททีเดียว
การเรียนรู้โปรแกรมต่าง ๆ ข้างต้นทำให้ฉันคิดถึงหลักสูตรที่ทางกรุงเทพมหานครจัดสอน แต่ตารางเรียนและเวลาที่สอนอาจจะไม่สะดวกสำหรับฉันในตอนนี้ ดังนั้นฉันคิดว่าฉันอยากจะลองเรียนรู้เองก่อน
คิดได้ดังนั้นฉันก็คิดถึงร้านซ่อมคอมพิวเตอร์และลงโปรแกรมต่าง ๆ ตามห้างสรรพสินค้า ฉันคิดว่าวันนี้ฉันควรเอาเจ้าโน๊ตบุ๊คตัวเก่งไปให้ที่ร้านโหลดโปรแกรมที่ต้องการ ขณะเดียวกันก็จะได้ถือโอกาสให้ช่างตรวจสอบความผิดปกติของโน๊ตบุ๊ค ที่สตาร์ทเครื่องไม่ได้ก่อนเสียบปลั๊กรวมทั้งหลังเสียบปลั๊กใหม่ ๆ ด้วย
บ่ายนั้นฉันจึงเดินทางไปห้างสรรพสินค้าและได้เข้าไปในร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ร้านหนึ่ง หน้าร้านมีป้ายรับซ่อมอัพเกรดเครื่องคอมพิวเตอร์ เดินแลน รับลงโปรแกรมและซ่อมโน๊ตบุ๊ค ต่าง ๆ
พอเดินเข้าไปในร้านพบช่างท่าทางชำนาญการจึงถามเรื่องการลงโปรแกรมที่ต้องการ ช่างคนนี้ชี้ให้เดินเข้าไปถามหนุ่มน้อยอีกคนหนึ่งด้านในร้าน แต่พอหนุ่มน้อยคนนั้นเดินออกมาต้อนรับฉันจึงแจ้งความจำนงค์อีกครั้งพร้อมถามราคา
เขาบอกว่าคิดค่าบริการโหลดโปรแรม 300 บาท ฉันบอก โห
ทำไมแพงจัง ผมต้องจ่ายค่าเช่าแพงนะครับ เขาตอบ
พอเขาพูดจบฉันก็ตอบตกลงให้เขาลงโปรแกรมให้ พร้อมกับให้เขาดูเครื่องเพื่อตรวจสอบแบตเตอรี่ที่สงสัยจะเป็นตัวต้นปัญหา เขาบอกว่าแบตเตอรี่เสื่อมและถ้าจะเปลี่ยนใหม่ราคา 4 พันกว่าบาทซึ่งไม่คุ้มกับเครื่องเก่า แต่ถ้าให้เขาเปลี่ยนเฉพาะไส้แบตเตอรี่ก็จะคิดที่ราคา 2,500 บาท
ว่าแล้วเขาก็ถอดแบตฯ ออกแล้วบอกว่าถ้าไม่ถอดแบตฯ ออกปัญหาจะลุกลามกระทบกับเครื่องได้ ถ้าฉันยังไม่ต้องการจะเปลี่ยนแบตฯ ก็สามารถใช้เครื่องแบบไม่มีแบตฯ และต้องเสียบปลั๊กก่อนจึงจะเปิดเครื่องได้
เขาบอกว่าการลงโปรแกรมจะใช้เวลาดาวน์โหลดเป็นชั่วโมง และแนะนำให้ฉันไปเดินเล่นในห้างและหาซื้อของก่อนแล้วค่อยกลับมารับเครื่องก็ได้ แต่ฉันเลือกที่จะนั่งคอยในร้านดูการทำงานของเขามากกว่า
ฉันนั่งดูหนุ่มน้อยวัย 24 ย่าง 25 ปีที่ชื่อ P ลงโปรแกรมด้วยความคล่องแคล่วว่องไว เห็นแล้วรู้สึกทึ่งจึงชวนเขาคุยไปด้วยขณะที่เขากำลังทำงาน
ในระหว่างที่พูดคุยอยู่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นที่มือถือของเขา ฉันได้ยินเขาพูดว่า กำลังซ่อมให้อยู่ครับคุณบัณฑิต พรุ่งนี้บ่ายเสร็จหมดแน่นอนครับ พอวางสายโทรศัพท์เขาก็บอกว่าที่จริงเขาจะปฏิเสธงานของฉันแล้วแต่รู้สึกเกรงใจจึงรับ เพราะตอนนี้กำลังเร่งทำงานให้คุณบัณฑิต อึ้งรังษีที่ขนเครื่องคอมฯ ทั้งออฟฟิศมาให้ซ่อม
การที่เขาพูดถึงคุณบัณฑิตทำให้ฉันคิดถึงแรงบันดาลใจ ที่ฉันได้รับจากการที่ได้ไปฟังสัมนาของเขาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ฉันบอกหนุ่ม P ว่าฉันกำลังเขียนหนังสือและได้กล่าวถึงคุณบัณฑิตที่เป็นแรงบันดาลใจให้ด้วย
ปรากฏว่าข้อมูลที่ได้รับจากการได้พูดคุยกับเขาทำให้รู้สึกทึ่งในตัวหนุ่มน้อยคนนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ฉันคิดถึงเพื่อน ๆ ที่ห้องสีลมและคิดว่าเรื่องราวของเขาจะเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างที่น่าสนใจสำหรับเพื่อน ๆ ในการที่จะใช้เป็นแนวทางในการทำธุรกิจส่วนตัวเองเช่นกัน
ถึงแม้ว่าปัจจุบันบุคลากรทางด้านไอทีเป็นที่ต้องการของหลาย ๆ องค์กรเป็นอย่างมาก แต่วิกฤตเศรษฐกิจที่ได้เกิดขึ้นและกำลังจะส่งผลกระทบอย่างมากในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไป อาจจะทำให้ความต้องการบุคลากรด้านไอทีลดลง นักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ อาจจะหางานได้ยากขึ้น คนทำงานทางด้านไอทีอาจจะต้องถูกเลิกจ้างและตกงาน
เรื่องเล่าของหนุ่ม P ต่อไปนี้จึงน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่อยู่ในข่ายข้างต้น หรือท่านที่มีงานทำอยู่แล้วแต่อยากจะออกมาประกอบธุรกิจเป็นของตนเอง
หนุ่ม P เล่าให้ฉันฟังว่าตอนเด็ก ๆ เขาเกเรไม่ยอมเรียนหนังสือ เรียนจบแค่ ม. 3 ก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะมัวแต่หลงระเริงกับการเที่ยวไม่สนใจการเรียนและการทำงาน แต่ตอนหลังไม่มีเงินเที่ยวจึงจำเป็นต้องหางานทำและได้เรียนต่อการศึกษานอกโรงเรียนจนจบม. 6
หลังเรียนจบม. 6 เขาได้เริ่มทำงานตอนอายุประมาณ 18 ปีโดยเป็นเด็กรับใช้ ทำงานในส่วนของ grocery ทั่วไปในศูนย์ไอทีแห่งหนึ่งในศูนย์การค้าพันทิพย์ ในขณะที่ทำงานรับใช้ทั่ว ๆ ไปรวมทั้งเป็นเซลส์ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หน้าร้าน เขามีโอกาสได้หยิบจับอุปกรณ์ต่าง ๆ และทำไปทำมาได้เข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วยช่างซ่อมคอมฯ ในขณะเดียวกันเขาได้ใช้เวลาในวันหยุดและหลังเลิกงาน ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ถึงบ้านผู้ใช้งานเลย นับเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เขาสามารถนำมาประกอบอาชีพได้ในวันนี้
P ทำงานในศูนย์ไอทีอยู่ประมาณ 4 ปี จึงออกมาเปิดร้านซ่อมและขายมือถืออยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่มือถือกำลังบูมและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก แต่เนื่องจาก P ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญทางด้านมือถือจึงไม่ประสบความสำเร็จและต้องปิดร้านไป หลังจากเปิดทำการได้เพียง 3-4 เดือน
เนื่องจาก P เป็นหนุ่มน้อยที่ขยันขันแข็งหลังจากที่เคยเกเรมามากแล้วในช่วงวัยรุ่น P มีโอกาสได้เข้าไปซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้างสรรพสินค้า ผลงานของ P และการบริการของเขาเป็นที่ยอมรับและเข้าตากรรมการ และทุกครั้งที่มีงานซ่อม P มักจะถูกเรียกใช้จนกลายเป็นคนในของห้างฯ แห่งนั้น
จากการที่เป็นคนในทำให้ P ได้ inside information หรือข้อมูลภายในจากห้างฯ และทราบมาว่ากำลังจะมีห้องเช่าภายในห้างฯ ว่าง P จึงรีบติดต่อขอเช่าเพื่อเปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์จากห้างฯ นั้นทันที
เขาเช่าร้านขนาดเล็ก ๆ ด้วยพื้นที่ประมาณ 3x3 ตรม. ในราคาค่าเช่าเดือนละ 15,000 บาทรวมค่าน้ำค่าไฟค่าส่วนกลางคิดเป็นเงิน 20,000 บาท
ตอนที่เริ่มเปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์นั้น P อายุประมาณ 22 ปี เขาเล่าให้ฟังว่าธุรกิจของเขาเริ่มต้นจากการซ่อม P เล่าว่าตอนที่เริ่มเปิดร้านใหม่ ๆ เขาไม่มีเงินทุนอะไรเลย ไม่มีแม้กระทั่งเครื่องคอมพิวเตอร์มีแค่เพียงอุปกรณ์สำหรับซ่อมเครื่องเท่านั้น ส่วนในตู้โชว์ซึ่งมีไว้สำหรับโชว์อุปกรณ์ชิ้นส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์แพง ๆ เขาก็ไม่มีทุนซื้อ มีแต่กระดาษหนึ่งแผ่นพร้อมรายการชิ้นส่วนอุปกรณ์แทน เมื่อลูกค้านำเครื่องมาซ่อมและต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวใดจึงค่อยหาเงินไปซื้อมาเปลี่ยน
จากนั้นก็มีลูกค้าที่เขาเคยให้บริการที่ศูนย์ทยอยกลับมาหาเขา ทำให้ฐานลูกค้าของเขามีเพิ่มมากขึ้น
นอกจากจะเป็นเพียงร้านซ่อมคอมพิวเตอร์เล็ก ๆ ที่ให้บริการทั้งซ่อมและโหลดโปรแกรมต่าง ๆ เขายังรับประกอบคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คตามคำสั่งของลูกค้าอีกด้วย การประกอบเครื่องเองเช่นนี้ต้องใช้เงินทุนค่อนข้างสูงเนื่องจาก order ที่ได้รับแต่ละครั้งมีนับ 10 เครื่อง เขาโชคดีที่มีผู้ให้ความอุปถัมภ์ในเรื่องเงินทุนที่ทำให้การทำงานของเขาเป็นไปอย่างราบรื่น
ฉันถามว่าอะไรคือจุดเปลี่ยนที่ช่วยพลิกสถานการณ์จากเด็กเกเรคนนั้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจในวันนี้ แม้จะเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ที่ดำเนินกิจการมาได้เพียง 2 ปี P เล่าว่าเขายังไม่คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จ แต่เขาพอใจกับสิ่งที่เขาได้รับในวันนี้เพราะถึงแม้เขาจะเคยเกเรและไม่ได้เรียนหนังสือสูง แต่เขาภูมิใจที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายมาเป็นคนขยันและตั้งใจทำงานได้ เขาภูมิใจที่สามารถมีรายได้มากกว่าพี่น้องหลายคนในครอบครัวรวมกันซึ่งทุกคนเรียนจบระดับอุดมศึกษาแล้วทั้งสิ้น
ในระหว่างการสนทนา P ยังได้กล่าวถึงบุคคลคนหนึ่งที่เคารพนับถือเป็นเสมือนอาจารย์ เขาเล่าถึงพี่อ๊อดของเขาด้วยความภาคภูมิใจและได้พูดถึงพี่ดุสิตซึ่งเป็นลูกพี่ของพี่อ๊อด ซึ่งทั้งสองท่านมีส่วนช่วยให้เขามีวันนี้ด้วยการสอนทุกอย่างเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจให้แก่เขา
P กล่าวว่าเขาไม่คิดว่าเขา เก่ง ที่ก้าวขึ้นมายืนอยู่ ณ ที่นี้ แต่เขาคิดว่าเขา เฮง ที่มีโอกาสและคนดี ๆ คอยให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเขา รวมทั้งอาจารย์คนหนึ่งของเขาที่มาช่วยดูแลการเงินการบัญชีและผู้ช่วยในร้านซึ่งเป็นญาติของเขาด้วย
ฉันขออนุญาต P นำเรื่องราวของเขามาเล่าเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเป็นวิทยาทานให้เพื่อน ๆ ที่อาจจะนึกไม่ถึงว่าความรู้ความสามารถที่มีอยู่ในตัวเราสามารถนำมาประกอบธุรกิจส่วนตัวได้ด้วย P อนุญาตแต่ขอไม่ให้เปิดเผยรายละเอียดส่วนตัวและชื่อจริงแต่ฉันได้ใส่ชื่อจริงของพี่อ๊อดและพี่ดุสิต ที่ P เคารพนับถือไว้ ณ ที่นี้ด้วยเผื่อว่าทั้งสองมีโอกาสได้มาอ่านจะได้รับทราบว่า หนุ่มน้อยคนนี้ระลึกถึงบุญคุณของเขาและทุก ๆ คนที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเขาอยู่
การตกงานของฉันในครั้งนี้ทำให้ฉันมีเวลาพบปะพูดคุยและเรียนรู้จากผู้อื่นได้มากขึ้น วันนี้ได้รับฟังเรื่องราวของ P แล้วคิดถึงเพื่อน ๆ จึงได้นำมาแบ่งปัน แม้จะเป็นเรื่องที่ธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นกับใคร ๆ ได้ตลอดเวลา แต่หากไม่มีการบันทึกและบอกต่อ เรื่องที่เราได้ยินได้ฟังมาก็จะถูกลืมและไม่เกิดประโยชน์กับใครบางคนที่อาจจะเกิดแรงบันดาลใจ ช่วยให้เขาสามารถนำไปฝัน ไปคิด ไปทำ และสานฝันของเขาเองให้ไปถึงดวงดาวได้เช่นกัน
จากคุณ :
"เลขาฯ ตัวแสบ!"
- [
23 ธ.ค. 51 11:08:03
]
|
|
|
|
|