ความคิดเห็นที่ 1 ลาออกอย่างถูกต้อง โดย ยื่นใบลาออก หรือว่า ออกมาเฉย ๆ ครับ แล้วเอกสารสัญญานั้น คุณมีรายละเอียดอยู่หรือเปล่าครับ ถ้ายังไงมีในมือ อ่านเรื่องเงื่อนไข ให้ละเอียดครับ ว่า อายุงาน 1 ปี เริ่มนับตั้งแต่เซ็นต์สัญญาเข้างาน หรือ หลังจากผ่านโปรฯ จากคุณ : FishLover - [ 26 ธ.ค. 51 12:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องเอาสัญญามาดูแบบที่ข้างบนออกนะค่ะ แต่ถ้าเดาจากตำแหน่งงาน น่าจะเป็นบริษัทแถวรัชโยธิน ถ้าไม่ไช่ก็ขอโทษนะค่ะ ถ้าตอบโดยยังไม่ดูสัญญา คิดว่าเค้าคงสามารถปรับได้ แล้วคุณคงทำผิดสัญญาจริงๆ ไม่งั้นมันคงไปไมถึงมีหมายศาลมาแปะหน้าบ้าน ค่าใช้จ่ายในการฟ้องเนี่ยก็ไม่น้อยเมื่อเทียบกับเงินที่ฟ้องเกือบแสนค่ะ บริษัทต้องมั่นใจมากอ่ะค่ะถึงเดินเรื่อง  คิดว่าคุณต้องจ่าย แต่สงสัยนิดนึงตอนที่คุณขอลาออก ทาง HR เค้าไม่ได้แจ้งหรือท้วงติงเกี่ยวกับเรื่องนี้เหรอค่ะ ว่าถ้าคุณลาออกแบบนี้แล้วคุณต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ถ้าต้องจ่ายจริงๆ ก็ควรขอเจรจากับบริษัท หรือศาล ว่าขอเป็นการผ่อนชำระได้มั้ยเป็นงวดๆ เพราะไม่มีเงินก้อนประมาณนี้นะค่ะ เอาใจช่วยให้ออกมาดีที่สุดแล้วกันนะค่ะ จากคุณ : fiat_marketing - [ 26 ธ.ค. 51 12:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมจาก คห.1 .................................................................................................. เงินค่าปรับ  หรือเงินประกันค่ะ แต่อย่างไร  ในกฎหมายแรงงาน  ไม่มีคำว่า เงินค่าปรับ (ยกเว้น เงินค่าปรับตาม ม.127(4) แต่เมื่อมิใช่การกระทำความผิดตามพรบ.แรงงานจึงไม่เข้าข้อนี้)  บริษัทจึงไม่สามารถปรับพนักงานเป็นเงินค่าปรับได้ เนื่องจาก  สัญญาแรงงานมิได้อยู่ในกฎหมายเอกชนอันถือตามเจตนารมย์ของประชาชนเป็นสำคัญ  หากแต่สัญญาแรงงานนั้นอยู่ภายใต้อำนาจของกฎหมายมหาชนและกฎหมายเอกชนร่วมกัน  จึงถือเอาข้อสัญญาระหว่างเอกชนมาบังคับเอกชนด้วยกันโดยฝ่าฝืนกฎหมายมิได้ ส่วนเงินประกัน   งานตำแหน่ง Management Trainee สภาพของงานต้องเกี่ยวข้องกับการเงิน ทรัพย์สินของนายจ้างหรือเปล่า  ถ้าเกี่ยวข้องก็อาจจะถือเป็นเงินประกันได้ .............................................................................................. หมายศาลที่เอามาแปะหน้าบ้านของคุณนั้นเป็นคำฟ้องในคดีแรงงานใช่ไหมค่ะ  หรือเป็นหนังสือทวงถามที่ออกโดยบริษัทซึ่งอ้างตามอำนาจกฎหมาย  กัน???? .............................................................................................. แต่อย่างไรเสีย  คิด 4 เท่าของเงินเดือน  สาวกุมภ์ว่าออกจะมากเกินไป  ในทางกฎหมายมีวิธีการคิดคำนวณถึงความเสียหายของผู้เสียหาย ซึ่งในที่นี้คือ บริษัท  โดยศาลท่านจะพิจารณาถึงคำนึงถึงความเสียหายที่แท้จริงอันได้เกิดขึ้นแล้วจากการะทำของคุณ  ไม่คิดคำนึงถึงค่าเสียหายในอนาคตอันอาจจะเกิดขึ้นได้  ดังนั้น  การทำงาน 1 เดือนของคุณไม่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ถึง 4 เท่าของเงินเดือน  แต่อย่างไรเสียต้องพิจารณาจากคำฟ้องของบริษัทว่าเขาคิดคำนวณอย่างไรถึงได้จำนวนเงิน 4 เท่าของเงินเดือนนี้ จากคุณ : สาวกุมภ์ - [ 26 ธ.ค. 51 12:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แสดงว่าตอนลาออกไม่ได้คุยเรื่องนี้กันล่ะสิ ยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการหรือแค่ออกมาเฉยๆ เห็นคุณบอกว่าช่วงโปรฯสามารถเลิกสัญญาได้โดยไม่ผิดกฏหมาย แสดงว่าคุณยังไม่เข้าใจว่ากฏหมายไม่มีคำว่า Probation การที่บริษัทกำหนด Probation ขึ้นมาก็เพื่อเป็นเงื่อนไขในการจ่ายค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างเท่านั้น ถึงแม้คุณจะอยุ่ในช่วงโปรฯ คุณก็ต้องยื่นหนังสือลาออกและแจ้งล่วงหน้าเหมือนปกติ ตำแหน่ง Management trainee มักจะมีกฏแบบนี้ เพราะการรับพนักงานในตำแหน่งนี้ บริษัทต้องลงทุนค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น บางบริษัทผู้สมัครต้องบินไปสัมภาษณ์ที่เมืองนอกทีเดียว งานนี้คงต้องเจรจาแหละครับ บอกเค้าตรงๆว่าคุณไม่ชอบ ถึงแม้จะให้อยู่ต่อคุณก็อยู่แค่ครบกำหนดปีเดียวเท่านั้น เค้าอาจจะยอมตัด loss ให้คุณออกไปเลยก็ได้ จากคุณ : comeDD - [ 26 ธ.ค. 51 13:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการครับ ทำเรื่องหัวหน้าเซ็นเรียบร้อยตามขั้นตอนทุกอย่างทุกประการครับ แต่ตอนลาออกไม่มี HR หรือใครท้วงเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยครับ ไม่ใช่เงินประกันครับ และตำแหน่งนี้ไม่เกี่ยวกับสภาพของการเงินหรือทรัพย์สินของนายจ้างเลยครับ แล้วก็ตอนที่ผมอยู่หนึ่งเดือนก็ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ นั่งเรียนอย่างเดียวแล้วก็ฝึกงาน on the job บ้าง ไม่ใช่บริษัทแถวรัชโยธินครับ เป็นบริษัทแถวรังสิต ไม่รู้กล่าวชื่อได้รึเปล่า แต่เอาเป็นว่าไม่พูดละกันครับ ปวดหัว T_T แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยนะครับ จากคุณ : JP Mystic - [ 26 ธ.ค. 51 13:21:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่า โทรไปคุยดีกว่านะ ว่า 1 เดือนที่คุณเข้าไปทำงาน มันสร้างความเสียหาย เงินจำนวน 9 หมื่น เป็นไปไม่ได้หรอก ฟ้องร้อง คงต้องไปพิสูจน์กันหลายเรื่อง จากคุณ : ตะวันรุ่งทุ่งรังสิต - [ 26 ธ.ค. 51 13:32:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีหมายศาลก็ทำอะไรไม่ได้แล้วแหละครับ ต้องไปสู้ในชั้นศาลแล้วแหละครับ จากคุณ : jaminonez - [ 26 ธ.ค. 51 13:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แนะนำให้โทรคุยกับ hr ของบริษัทครับ ว่าจริง ๆ แล้ว เหตุ คืออะไรกันแน่ ถ้ายังไงมันจบที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล กับเงิน เกือบแสนก็คงมากไป อย่างน้อย ตกลงกัน จ่ายเฉพาะส่วนค่าอบรมที่เราเรียนไปก็เพียงพอ แล้วก็ ลองติดต่อ - สภาทนายความ ขอความช่วยเหลือเขาเรื่อง ทนาย หรือ ปรึกษาข้อกฏหมาย http://www.lawyerscouncil.or.th/ProjectLaw/index_1.php - อีกอันก็ เปิดเว็บไซท์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หาอ่านรายละเอียด พร้อมกับโทรเพื่อปรึกษากรณีเช่นนี้ได้ครับ http://www.labour.go.th/index.jsp จากคุณ : FishLover - [ 26 ธ.ค. 51 13:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พิจารณาดูรายละเอียดเงื่อนไข ตามที่คห. 3 คุณสาวกุมภ์ แนะนำ และทำตาม คห. 8 ที่คุณ : FishLover แนะนำมา เลยดีกว่านะคะ จากคุณ : GarfiledPingPong - [ 26 ธ.ค. 51 16:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอาใจช่วยครับ โดยท้ายที่สุด ศาลท่านจะพิจารณาเองครับ จากคุณ : ภูแกร่งผาชัน - [ 26 ธ.ค. 51 16:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คิดว่า บริษัทคงจะฟ้องเป็นคดีแพ่ง เรื่องผิดสัญญา ทำงานไม่ครบ 1 ปี แล้วเรียกค่าเสียหาย ตามที่ระบุไว้ในสัญญาแล้ว ถ้าดูตามสัญญา คุณจะเสียเปรียบแน่นอน เพราะศาลท่านจะต้องนำสืบ ตามเอกสารหลักฐานซึ่งมีการเซ็นต์โดยความสมัครใจของคุณเอง บริษัทจะอ้างว่า ทำให้เค้าเสียโอกาสที่จะรับคนอื่นเข้ามาทำงาน เค้าจะต้อง recruit คนใหม่ มีค่าใช้จ่ายอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าโฆษณา หรือค่านายหน้าให้ Head Hunter , ขบวนการคัดสรรอื่นๆ เวลาที่เสียไปกับการสอนงานคุณอีก 1 เดือน , ฯลฯ ติดต่อขอไกล่เกลี่ยประนีประนอมกับบริษัทดีกว่าค่ะ ขอลดค่าปรับลงสัก 1-2 เดือน แล้วก็ขอผ่อนเขา พยายามอธิบายให้บริษัทเข้าใจว่า ... ถ้าสู้คดีไป แล้วศาลตัดสินให้คุณแพ้ ถ้าคุณไม่มีทรัพย์สินอะไรให้บริษัทยึดได้ บริษัทก็จะไม่ได้อะไรเหมือนกัน ปล. สงสัยในเรื่องข้อ กม. สอบถามเพิ่มเติมได้ จากคุณ : ตุ๊กตาดิน *_* - [ 26 ธ.ค. 51 17:13:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ว่ากันตามเนื้อเรื่อง 1. เมื่อมีหมายศาลมาถึงบ้านแล้ว จขกท.ต้องไปศาลตามวันเวลานัดหมาย โดยเตรียมเอกสารทุกอย่างเท่าที่มีไม่ว่าจะเป็นสัญญาจ้างคู่ฉบับ หลักฐานการฝึกอบรมในช่วง 1 เดือน(ถ้ามี) ทั้งนี้กลับไปอ่านสัญญาให้ละเอียด... 2. ไม่ต้องกังวลเรื่องไปศาล เพราะปัจจุบันศาลแรงงานมีนโยบายให้มีการไกล่เกลี่ยก่อนนำคดีขึ้นพิจารณา การไกล่เกลี่ยประกอบด้วยบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของศาล 1 คนและบุคลากรที่มาจากสาขาอาชีพอื่นซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากภาคเอกชน มีโจทก์(ตัวแทนจากนายจ้างซึ่งมักเป็นทนาย)และจำเลย(จขกท.) บรรยากาศจะเป็นลักษณะประนีประนอมโดยผู้แทนของศาลจะสอบถามรายละเอียดทั้งหมดจากทั้งสองฝ่าย จากนั้นจะพยายามไกล่เกลี่ยให้ยอมความกันโดยไม่ต้องนำคดีไปให้ศาลพิจารณา(ผู้พิพากษาไม่ต้องขึ้นนั่งบัลลังก์)... 3. จำเลยไม่จำเป็นต้องมีทนายก็ได้ แต่ถ้าไม่มั่นใจให้ทำตาม คห. 8... 4. เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้จึงไม่จำเป็นต้องเจรจากับทางบริษัท รอไปพบกันที่ศาลเลยทีเดียว และศาลมักตาชั่งเอียงมาทางลูกจ้างอยู่แล้วเป็นปกติวิสัย เพราะศาลจะมองในแง่ที่ว่านายจ้างมีโอกาสได้เปรียบลูกจ้างอยู่แล้วในทุกทาง... 5. ยามนี้ให้หาข้อมูลเตรียมตัวไว้ให้มาก ไปขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่แรงงานเขตในท้องที่ที่บริษัทตั้งอยู่ หรือ search เข้าไปใน google ในประเด็นที่เกี่ยวกับกฏหมายแรงงานซึ่งมีอยู่มากมาย... 6. ถ้าสุดท้ายต้องจ่ายค่าเสียหาย เชื่อว่าตัวเลขไม่มีทางมากขนาดนั้น อย่างเก่งก็จะมีค่าฝึกอบรมที่บริษัทส่งไปฝึกกับหน่วยงานภายนอกที่มีค่าใช้จ่ายซึ่งไม่น่ามากมายอะไร และอาจมีค่าบริการบริษัทจัดหางานซึ่งมากน้อยขึ้นอยู่กับความมีชื่อเสียงของบริษัทดังกล่าว รวมท้ังความยากง่ายในการสรรหาบุคลากรในตำแหน่งนั้น ๆ... ส่วนเรื่องการฝึกอบรมภายในที่จขกท.บอกว่าเป็นลักษณะ on the job trainning นั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่นายจ้างมักจัดให้แก่ลูกจ้างที่เพิ่งรับเข้าทำงาน อีกอย่าง ระยะเวลา 1 เดือนนี่ยังทำให้เกิดค่าใช้จ่ายไม่เท่าไหร่หร็อก ถ้านายจ้างส่งจขกท.ไปดูงานต่างประเทศ หรือจ้างผู้ฝึกอบรมด้วยเงินจำนวนมากก็ว่าไปอย่าง... เอาน่า เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว พยายามทำใจดีสู้เสือ จะได้มีประสบการณ์ไว้เตือนใจตัวเอง... จากคุณ : ไม่ได้แก่ แค่เกิดก่อน - [ 26 ธ.ค. 51 19:00:18 A:124.120.72.118 X: TicketID:186229 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มีทางประณีประนอมไหมคะ จากคุณ : หนังยางยืด - [ 26 ธ.ค. 51 20:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 26 ธ.ค. 51 20:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มีบริษัทหลายบริษัทที่ทำตรงนี้   ในตำแหน่งงานบางอย่าง    เมื่อรับคนเข้าทำงานแล้ว   เขาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฝึก  อบรม  ทดสอบ ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ   ซึ่งบริษัทเขาเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้สูง  ดังนั้นเขาจึงกำหนดในสัญญาว่า  คุณต้องทำงานให้ครบเป็นระยะเวลา 1  ปี  หรือ  2  ปี ในสัญญาเขาก็ระบุใว้ชัดเจนถึงรายละเอียด   ซึ่งตรงนี้คุณก็ได้เซ็นยินยอม  เมื่อคุณลาออกไป   คุณก็รู้ถึงสภาพที่ต้องรับ   ผมว่าคุณไปหาทางประนีประนอมกับบริษัทดีกว่านะครับ จากคุณ : ชญาณัตถภัทร์ - [ 26 ธ.ค. 51 22:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยืนยันตาม คห.12  คุณไม่ได้แก่ แค่เกิดก่อน จากคุณ : สาวกุมภ์ - [ 26 ธ.ค. 51 22:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องสัญญาว่าต้องทำงานให้ครบ 1-2 ปีนะผมว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องของประมวลรัษฎากรนะครับ เพราะประมวลฯ กำหนดให้ค่าฝึกอบรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นสามารถหักลดหย่อยได้ 2 เท่าซึ่งการฝึกอบรมนั้นพนักงานจะต้องปฏิบัติงานใหักับบริษัทด้วยนะครับ ไม่งั้นทางบริษัทจะไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ เลยนะครับ ก็เลยเป็นที่มาของสัญญา แต่พูดถึงบริษัทก็ฉวยโอกาสด้วยแหละครับผมว่านะ เหอๆ อีกอย่าง ถ้ามองอีกแง่นึง เค้าจ้างคุณ จขกท. 20 เค ต่อเดือน แต่ผมว่าเดือนนึงที่เพิ่งเข้าไปทำงานนี่ยังไม่ค่อยจะได้เริ่มทำอะไรเลยมั้้งครับ แล้วก็ออกรับมา สองหมื่น บริษัทก็ว่า ฉันยังไม่ได้ใช้อะไรมันเลย แถมต้องจ่ายเงินเดือนและเสียค่าฝึกอบรมให้อีกต่างหาก แนะ ใจเขาใจเราครับไม่มีใครอยากเสียเงินโดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทนหรอก จากคุณ : nipart - [ 27 ธ.ค. 51 01:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไปให้ศาลตัดสินครับ ผมว่าคุณชนะคดีแน่นอน เพราะเขาต้องชีแจ้งว่าคุณทำให้เขาเสียหายจริง แต่ผมว่า ยังไงคุณก็ชนะคดี จากคุณ : คิดบวก - [ 27 ธ.ค. 51 12:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จขกท.น่าจะคุยกับ HR เรื่องนี้ก่อนยื่นลาออกนะ โดยเฉพาะยิ่งถ้ารู้ว่ามีเงื่อนไขแบบนี้แล้วยิ่งน่าจะต้องคุย จะได้รู้ว่าลาออกแล้วผิดเงื่อนไขหรือไม่ การที่ไม่ไปคุย ทาง HR เขาคงสรุปเอาเองว่าเข้าใจเงื่อนไขดีและพร้อมให้ปรับ แต่นี่คงคิดเอาเองว่า HR ไม่ทักท้วงแสดงว่าไม่ปรับ จขกท.ผิดเงื่อนไขนั้นผิดแน่ เขาถึงกล้าฟ้องศาล แล้วการที่เขาจะปรับเท่านั้นเขาย่อมต้องชี้แจงต่อศาลได้ว่าตัวเลขนั้นมีที่มาอย่างไร ผมเข้าใจว่าตัวเลข 4 เท่าของเงินเดือนนั้น มาจากการคำนวณว่าสมมุติได้คนมาแล้วยังต้องใช้เวลาอีก 4 เดือนเพื่อที่จะให้คนที่มาใหม่ผ่าน Probation และพร้อมบรรจุเข้าตำแหน่งงานที่เตรียมไว้ ผมว่าเขาไม่ได้คิดเว่อร์ไปหรอก ต้องเสียใจกับจขกท.ด้วยที่เอาความจริงมาพูด คิดในแง่ดีนั้นคิดได้แต่ต้องอิงความเป็นจริง แม้จะเจ็บปวด จะได้เตรียมตัวเองให้พร้อมเผชิญหน้ากับปัญหานี้ และจำเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน มี 2 ทางเลือก 1.ขอให้ใบลาออกเป็นโมฆะแล้วกลับไปทำงานต่อ 2. ขึ้นศาลแล้วขอให้ศาลเมตตาลดค่าปรับ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 51 18:14:18 จากคุณ : Kingdom of Heaven - [ 27 ธ.ค. 51 18:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่รู้จะทันหรือเปล่านะครับ ช่วยตอบดังต่อไปนี้ 1 คุณเข้าใจผิดเรื่องสัญญาครับ สัญญาประเภทที่คุณทำเรียกว่า สัญญาจ้างแบบมีกำหนดระยะเวลาจ้างแน่นอนตายตัว ดังนั้นเมื่อเขาระบุในสัญญาด้วยระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี ก็ถือว่าบริษัททำถูกต้องแล้ว ไม่ว่าคุณจะลาล่วงหน้า หรืออยู่ในช่วงทดลองงานก็ไม่เกี่ยวครับ ถ้ายังอยู่ในระยะเวลา 1 ปีที่ทำสัญญาไป ก็ต้องถูกปรับ ส่วนค่าปรับคิดถูกหรือไม่ก็ต้องไปว่ากันอีกที 2 สรุป งานนี้คุณผิดแน่นอนครับ 3 แล้ว คำว่า ค่าเสียหายนี่ จริงๆ แล้วมันคนละเรื่องนะครับ ค่าเสียหายคือการเรียกร้องในกรณีที่นายจ้างเห็นว่าเขาได้รับความเสียหาย ซึ่งต้องพิสูจน์ในชั้นศาลว่าเสียหายหรือไม่ แต่อันนี้เขาระบุเป็นค่าปรับ ดังนั้นไม่ต้องพิสูจน์ความเสียหาย เพียงแค่ดูว่าผิดจริงตามสัญญาหรือเปล่าและสัญญาเป็นธรรมหรือเปล่าเท่านั้น แปลว่า คุณคงต้องเสียค่าปรับ ถ้าสัญญาที่เซ็นเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม มันมีวิธีแก้ เพราะในการพิจารณาคดีแรงงานสามารถประนีประนอมได้ตลอดเวลาการพิจารณาคดี ต่างจากศาลอื่น จึงขอแนะนำให้คุยกับนายจ้างเพื่อหาทางประนีประนอม หรือกลับไปทำงานกับเขา หรือขอผ่อนชำระครับ จากคุณ : ciri - [ 29 ธ.ค. 51 15:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เฮ้ย เดี๋ยวนี้ที่นี่เค้าจริงจังขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย สมัยก่อนก็คิดว่าแค่ขู่เล่นๆ โหดจิงๆ ไปแกล้งเด็ก จากคุณ : reJoyce (reJoyce) - [ 30 ธ.ค. 51 10:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ วันปีใหม่ 21:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ... เข้ามาดูด้วย จากคุณ : Legendary Pon - [ 4 ม.ค. 52 15:26:17 ]