ความคิดเห็นที่ 1 ลดวันทำงานพนักงาน -_-' จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 30 ธ.ค. 51 04:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จัดโปรโมชั่นนนนน  กิน 5 แก้วแถม 1 แก้ว มีพนักงานเชียร์อยุ่หน้าร้าน อบรมพนักงาน ให้ รุ้จักบริการ การพูด การต้อนรับ ราคาอย่าเวอร์ กินน้อยๆ กินนานๆ อาศัยกินเยอะๆ  อยู่รอดแน่อะครับ จากคุณ : sorn (darkmetter) - [ 30 ธ.ค. 51 08:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พนักงานสำคัญมากเลยนะครับ พนักงานต้องมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ผมกิน D'Oro ที่ ปั้ม เชลล์ เมืองเอก บ่อย พนักงานจะทำได้เลย ว่า คนไหน กินอะไร อย่างเดินเข้าไป พนักงานจะถามเลย ว่า รับดิโอโร่เย็นหวานน้อย 1 หวานปกติ 1 นะคะ อะไรเทือกนี้ มีโปรโมชั่นอะไรใหม่ๆ ก็บอกลูกค้า สาขานี้ลูกค้าประจำเยอะมากๆๆๆ อ่อ บางทีเห็นมีลูกค้าโทรสั่งด้วย ขับรถมาถึงก้รับได้เลย จากคุณ : mm_takky - [ 30 ธ.ค. 51 08:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปิดน้ำ ปิดไฟ หากไม่จำเป็น ปิดแอร์บางส่วนแล้วใช้พัดลมช่วย จากคุณ : bfs04 (bfs04) - [ 30 ธ.ค. 51 10:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มุมกว้างที่สุด มี 2 วิธี ในการจัดการปัญหาคือ 1. เพิ่มรายได้ 2. ลดรายจ่าย วิธีเพิ่มรายได้ - เพิ่มสินค้าใหม่ ๆ เช่น ขนม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คุณจะสามารถคิดได้ - ทำโปรโมชั่น แจกของแถม (เช่น ถ้วยกาแฟ) แต่ก็เสี่ยงอีก - เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า เอาเป็นว่าส่วนนี้คุณไปคิดเองละกัน วิธีลดรายจ่าย - ปลดพนักงานเท่าที่ทำเป็น อย่าลืมว่า ถ้าเราไม่กล้าปลดคนออก ที่เหลือจะตายกันทั้งหมด - ถ้ายังใจดี ก็ลดเงินเดือน วันทำงาน (แต่ไม่ได้ปิดร้านนะ) อย่างที่คุณกุนซือว่าไว้ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ ได้ - ลดต้นทุนสินค้า ... อันนี้ต้องไปหาเทคนิคเอาเอง ไม่ค่อยอยากแนะนำเท่าไหร่ ช่วงนี้ใคร ๆ ก็ลำบากกันครับ บางเวลาจะมัวมาลังเลก็ไม่ได้นะ ต้องจำกัดความเสียหาย จากคุณ : Morning Star - [ 30 ธ.ค. 51 10:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยังไม่ทราบว่าอยู่แถวไหน แล้วที่ร้านมีบริการอะไรบ้าง มีอินเตอร์เนตไหม มีอะไรบ้าง ขนม แล้วทำเลเป็นยังไง กลุ่มลูกค้าประกอบด้วยใครบ้าง ค่าเช่า พนักงาน กี่คน ขายกีวัน พวกนี้ต้องลองคำนวณดู แล้วหาจุดที่เราทำแล้วไม่คุ้มทุน วันไหนที่เราขายได้น้อย เราอาจจะหยุดบ้าง ลดค่าใช้จ่ายบ้าง ลองแชร์ ข้อมูลกันดูนะ เพราะเคยมีพี่ที่เขาเปิดร้าน เขาทำสารพัดเลย ทั้งร้านเช่า วีซีดี ร้านกาแฟ ร้านจัดดอกไม้ ทำกันในที่เดียวนี่แหละ แต่แบ่งโซน โดยให้บริการอินเตอร์เนตด้วย อันไหนซบเซา เขาก็เอากำไรจากอันอื่นมาโป๊ะ เพราะถือว่า ค่าเช่ามันจ่ายตายตัวอยู่แล้ว แต่ต้องดูก่อนว่า อันไหน เป็นธุรกิจหลักที่ช่วยเราอยู่ได้ ไม่ใช่ทำมั่วไปหมดแล้วไม่รู้ว่ากำไรเกิดจากอันไหน ลองดูครับเป็นกรณีศึกษา จากคุณ : peggo - [ 30 ธ.ค. 51 12:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปิดน้ำ ปิดไฟ ที่ไม่จำเป็น ปิดแอร์บางส่วน  แล้วค่อยตามด้วยปิดร้านครับ จากคุณ : โปรดฟังอีกครั้ง - [ 30 ธ.ค. 51 12:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มี internet  เข้าไปด้วยครับจะลูกค้าได้นั่งนานขึ้น ทำการตลาด และ ประชาสัมพันฯให้หนัก และ มากๆเข้าไว้ครับ จากคุณ : okb - [ 30 ธ.ค. 51 12:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพิ่มรายได้ เช่น -อินเตอร์เนตฟรี -หาหนังสือวารสารหรอการ์ตูนให้อ่าน -เพิ่มขายน้ำสมุนไพร น้ำผลไม้ปั่น นมผสมผลไม้ปั่น เพราะคนเริ่มเน้นสุขภาพกันมากขึ้น มีบอกคุณสมบัติของสมุนไพรก็ดีค่ะ -จัดโปรโมชั่นทำเป็นบัตรเติมเงิน แ้ล้วจะซื้อเครื่องดื่มได้ราคาพิเศษ -จัดโปรโมชั่นแก้วที่สองลดราคา ทำให้ลูกค้าอาจจะชวนเพื่อนมาลอง ทำให้มีคนรู้จักร้านคุณเพิ่มขึ้น -เมื่อลูกค้าซือสินค้าแจกคูปองให้ชิมสินค้าตัวใหม่ แต่สิ่งสำัคัญที่สุดคือพนักงานค่ะ ต้องบริการด้วยใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส ร้านและภาชนะต้องสะอาดคะ อยากให้ลองฟังเสียงพนักงานของคุณด้วยว่าคิดอย่างไร บางที่พนักงานที่ได้สัมผัสลูกค้าอาจจะมีความคิดอะไรดีๆ ทีจะช่วยให้คุณปรับปรุงร้านได้ค่ะ จากคุณ : Hanachan - [ 30 ธ.ค. 51 20:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้ ก็ต้องลดรายจ่ายนะครับ  ลดเงินเดือนลูกน้องพอไหวไหม บอกเขาว่าไม่ไหว  ช่วยกันได้ไหม จากคุณ : ป้อม (Bgate) - [ 30 ธ.ค. 51 20:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พนักงาน ยิ้มๆ คุย สนุกๆ อย่าสร้าง negative กะลูกค้า รับรอง ขาประจำเพียบบบบ... จากคุณ : SikorSky - [ 30 ธ.ค. 51 20:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมมีร้านกาแฟเล็กๆ อยู่หน้าบ้านนะครับ แล้ตรงข้ามก็มีร้านกาแฟ โบราณอยู่ร้านนึง (ทำไมต้องเรียกกาแฟโบราณ ใครก็ได้บอกผมที) ร้านกาแฟหน้าบ้านผมขายแก้วละ17บาท ร้อน10บาท ของผม เย็น22บาท ร้อน15บาท ถามว่า อะไรเป็นสิ่งที่ำยังทำให้คนกินกาแฟตรงข้ามร้านผมมากกว่ากาแฟที่ผมทำอยู่จากที่ทำมาประมาณ2เดือนสรุปได้ดังนี้ 1. รสชาด บ้างคนชอบกินแบบของเก่าๆๆ บ้างคนไม่เคยลอง (เราจะทำยังไงให้คนที่ไม่เคยลองมาลองสำคัญมาก) 2. ราคา แพงกว่ากันตั้ง 5 บาท ถ้าคนกินสองคนก็10บาท 3. ระยะเวลาการทำต่อแก้ว ของผม 1 แก้วเฉลี่ย40 วินาที แต่ถ้าของโบราณไม่เกิน20วินาทีต่อแก้ว 4. คนทำ อันนี้สำคัญมาก คนทำบ้างคนทำเพราะไม่มีงาน ทำแบบชีวิตนี้กรูไม่มีวิญญาญ อะไรแบบนี้ไม่ต้องให้เขาทำเลยร้านคุณพังแน่ เจอมากะตัวแล้ว คนทำของผม ตกงาน ผัวทิ้ง มีลูกเล็กๆๆ โดนไล่ออกจากห้องพัก ตอนเช้ามาทำงานน้ำไม่อาบ เหออออออออออออออ ชีิวิต พอเขาออก ผมถามลุกค้าว่า เป็นไงครับวันนี้อร่อยไหม เขาตอบว่าวันก่อนที่น้องตัวดำๆๆ ทำๆ ไม่ได้เรื่อง T_T พี่ทำอร่อยกว่าเยอะ จากประสบการณืตรงนี้ทำให้ผมทำแบบนี้ครับ 1.ทำโปรโมชั่นเช่นจากปกติ โกโก้ผมแก้วละ 22 ผมลดราคาเลยเหลือ 15บาทต่อแก้ว ยอดขายขึ้นครับ แต่กำไร ไม่ต้องพูดถึงถ้าคุณขายกาแฟแล้วมีโกโก้ด้วยคุณคำนวณต้นทุนโกโก้ผมออกแน่ว่ากำรไแก้วล่ะเท่าไร อีกอย่างแก้วที่ผมใช้อยู่ต้นทุนเหลือแก้วล่ะ 1.5 รวมฝาแล้วนะครับ เรียกว่าถูกที่สุดในร้านขายแกล้วเลย เพิ่มเติมอีกนิด โปรโมชั่นี้ผมเปลี่ยนไปเรื่อยๆๆนะครับ อาทิตย์ก่อน นมเย็น ยอดขายไม่ ดีเท่าไร แต่พอเป็นโกโ้ก้ ก็ดีขึ้นนะครับ เฉลี่ยวันละ 5 แก้ว แต่ตอนนี้ยังไม่กล้าแตะกาแฟครับ เพราะยังหาวิธีทำโปรไม่ได้อยู่ 2.บัตรสะสม 3. door to door 4. การพูดคุยถามรสชาดของกาแฟกะลุกค้า (สำคัญมาก การพูดคุยทำให้เราได้อะไรจากตรงนี้เยอะมาก) นึกไม่ออกและ กินเบียร์ไป คุยไปก็แบบนี้และ มึนๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 51 22:37:28 จากคุณ : muk_22 - [ 30 ธ.ค. 51 22:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พฤติกรรมการกินกาแฟของผม(เผื่อมีประโยชน์) ตอนหัดกินใหม่ๆก็ติดร้านกาแฟในปั้ม บ้านใร่(ตอน60บ.)คอฟฟี่บอย กินไปเรื่อยรู้สึกว่างั้นๆ บางวันมีปวดหัว ก็ไม่กินประจำ อยากเมื่อไหร่ก็ซื้อกิน ไม่มีร้านประจำ ต่อมาได้ไปกินร้านนึง (แถวท่าน้ำศิริราช) รสชาดได้ใจมาก คนขายเป็นลูกจ้างก็ok ไม่ถึงกับจำเราได้ แต่แค่ไม่ทำหน้างอใส่เราก็โอแล้ว ละแวกนั้นร้านกาแฟใกล้ๆกันประมาณ6ร้าน ร้านนี้คนเยอะสุด รอคิวยาว ช่วงเที่ยงรอจนเมื่อย ชอบร้านนี้ที่สุดตรงรสชาดเข้มข้น หอมอร่อย ราคาเท่ากับร้านอื่น 35 บาท แต่ถ้าคิวยาวมาก ขี้เกียจรอ ก็ไม่กินร้านอื่น เพราะเคยกินแล้วเซ็งกับรสชาด จากคุณ : โรงน้ำแข็งร้าง - [ 30 ธ.ค. 51 23:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 30 ธ.ค. 51 23:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ่ายรูปหน้าร้าน  พร้อมทำเล ลงประกาศเซ้งร้านกาแฟในเน็ต ไม่นานเกินรอ  เซ้งได้แน่นอน เพราะมีคนอยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟเยอะแยะ จากคุณ : --^ไชโย^-- - [ วันสิ้นปี 10:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอมองต่างมุมกับหลายคนนะครับ ผมแนะนำว่าให้ปิดกิจการทันที ถ้าเป็นไป ตามที่คุณได้บอกมาตั้งแต่ต้นว่ากิจการไม่ดีมาหลายเดือนแล้ว และผมคิดว่า คงไม่มีเหตุปัจจัยอะไรที่จะกลับมาดีได้ในวันแค่ข้ามคืน สิ่งหนึ่งที่คุณทำได้ตอนนี้ผมว่าน่าจะถอยกลับไปตั้งหลักใหม่ครับ ถ้าเรามีเงินเพียงพอในการทำธุรกิจ คุณสามารถเปิดธุรกิจได้ภายใน 1 นาที ผมขอเป็นกำลังใจให้นะครับ เพราะผมพอมีประสบการณ์แล้วได้เห็นคนอื่นมามาก อย่างดีอาการที่เรียกว่า ดื้อ กับเสียหน้า จะไม่มีในธุรกิจที่ทำแล้วถูกต้องตามครรลองธรรมครับ ผมแค่พูดเป็นแนวทาง แต่ตัวคุณจะรู้ว่า ข้างหน้าเป็นบ่อน้ำ หรือทะเลทราย จากคุณ : smilehand (smilehand) - [ วันสิ้นปี 20:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมพี่ผมมันชอบเหลือเกินจะเปิดร้านกาแฟ ไปซื้อเฟรนไชส์ไปรษณีย์มาเปิด ถามทุกวัน คงเป็นความอยากไม่ได้ทำไม่รู้สึก มองแต่สิ่งดีๆ อย่าให้ความคาดหวังปล่อยให้คุณเหมือนเพ้อว่าสักวันมันต้อง work แน่เลย ระวังจะจมลงไปลึกจนหมดตัว โดยส่วนตัวผมมองว่าธุรกิจนี่เริ่มโหล มันพ้นจุดสูงสุดมาแล้ว แต่คิดว่าคงไม่ปิดเพราะพนักงานยังไม่อยากปลดเลย ก็ดีสู้ได้ก็ลองสู้ เป็นอีกทางเลือก ก่อนที่คุณจะเริ่มปรับปรุงอะไร ผมว่าลองไปทำ research ดีกว่า ไม่ต้องคนเดินแล้วไปถามเขาก็ได้ ถามคนกันเอง หาคนแบบนิสัยตรง ๆ ไม่เข้าข้างใคร ให้เขาลองบอกเกี่ยวกับทุกอย่างของร้านคุณให้ฟัง  ผมโดนประจำแหล่ะแบบนี้ ชอบมาถามว่าร้านเป็นไง มีไรไม่ดี  ให้พูดแล้วต้องรับได้นา ปล. ใครเล่นทองซื้อไว้เน้อ ตรุษจีนขึ้นชัวร์ๆ พรายกระซิบเยาวราชบอกมาแล้ว แต่ขึ้นไม่หนักมาก เพราะเขากั้กกันไว้แล้ว จากคุณ : kobkung - [ วันปีใหม่ 09:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลองทำเบเกอรี่ควบคู่ไปด้วย เพราะมีหน้าร้านขายของอยู่แล้ว คือร้านกาแฟ อีกส่วนหนึ่งก็เอาเบเกอรี่ไปส่งฝากขายที่อื่นที่ทำเลน่าจะขายดี พนักงานที่ว่าง ๆ ก็มาช่วยกันทำขนม หรือไปช่วยขายที่ตลาดนัดออฟฟิซ จากคุณ : มุมมองหลายมิติ - [ 3 ม.ค. 52 21:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ซื้อ 2 แก้ว แถมขนมละกัน จากคุณ : ตาชิโบ - [ 5 ม.ค. 52 12:35:12 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ก่อนอื่น อยากให้นั่งคุยกับพนักงานทุกคนดูว่า ตอนนี้สถานการณ์ร้าน เป็นอย่างไร แล้วลองถามความคิดเห็นเขาดูว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไร กันบ้าง ให้เขาลองช่วยกันคิดดูคนละข้อ สองข้อ ว่าจะช่วยกันได้อย่างไร แต่ก่อนคุยคุณ จขกท น่าจะมีแผนในใจแล้วว่าจะเพิ่มรายรับ ลดรายจ่าย อย่างไรบ้าง จากคุณ : jaja - [ 7 ม.ค. 52 13:50:41 A:125.25.249.166 X: TicketID:191767 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เราตอบฐานะลูกค้าร้านกาแฟนะ ร้านที่เราจะเข้า 1. ราคาต้องไม่เว่อร์เกินไป 2. พนักงานต้องมีมนุษยสัมพันธ์ดี (อันนี้สำคัญมากนะ เราเคยไปซื้อกาแฟร้านนึงที่ไม่ใช้ร้านเฟรนไชส์ ราคาก็ไม่ถูกนะแก้วละ 60 พนักงานนี่แบบ โห ทำหน้าหงิกอย่างกะมาขอกินฟรี ซื้อขนมเพิ่มก็แทบจะโยนมาให้ ชาตินี้จะไม่เข้าอีกเลย) 3. รสชาติถ้าไม่แน่จริงว่าอร่อยกว่าเจ้าอื่นในระแวก ก็ขอให้ตั้งราคาให้เหมาะสมกับรสชาติจะดีกว่า ถ้าราคาแพงมาก รสชาติก็ควรจะดีตามราคา แต่ถ้าคุณตั้งราคาถูก รสชาติพอรู้ว่าเป็นกาแฟก็ยังพอถูไถ แต่ถ้าเป็นน้ำล้างกาแฟนี่ก็ไม่ไหว ส่วนเรื่องรายจ่ายนี่อันไหนที่มันไม่ได้เป็น Fixed cost ก็พยายามลดอย่างที่คห.ข้างต้นบอก แล้วก็หาขนมมาเพิ่ม  หาโปรโมชั่น ทำแต้มให้สะสมมาแลกขนม แลกกาแฟ แต่ถ้าทำเลไม่ดีนี่ต้องคิดหนักๆแล้ว จากคุณ : อีกฟาก (อีกฟากหนึ่งของความฝัน) - [ 8 ม.ค. 52 13:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ  แสดงว่ามีคนสนใจเปิดร้านกาแฟเยอะจริงๆ   ขอบอกเลยค่ะว่า ร้านแบบ premium มีต้นทุนสูงมาก ใครคิดอยากจะเปิดร้านก็ขอให้คิดให้ดีหน่อย  ทำเลสำคัญที่สุด  แต่ก็อย่างว่าทำเลดี ค่าเช่าก็แพงเป็นเงาตามตัว  พอยอดตกค่าเช่าก็เลยกลายเป็น fixed cost ที่ค่อนข้างสูง จะย้ายออกก็ต้องเริ่มใหม่กับทำเลใหม่  ไหนจะค่าขนย้าย ทำตลาดใหม่อีก ก็เลยต้องถูไถกันต่อไป  ไปต่อรองลดค่าเช่าก็ได้ลดอีกนิดหน่อย  คงต้องประคองสถานการณ์ไปก่อน  แต่ถ้าไม่ไหวจิงๆก็คงขายอุปกรณ์ค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาแชร์ไอเดียค่ะ จากคุณ : ซีเจ็กฉ่ายใส่โหล - [ 8 ม.ค. 52 20:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรากำลังหาทำเลทำร้านกาแฟอยู่เหนคุณบอกเศรษกิจไม่ดีใจเราเริ่มทดถอยเลยว่าแต่ร้านอยู่แถวไหนค่ะพนักงานสำคัญนะค่ะแต่ก้อมีแค่เพียงพอและจำเป็นกับหน้าที่ด้วยค่ะ...ขอแนะนำคุณอย่างนะถ้ามีคนสั่งกาแฟเย็นหรือร้านล่ะทานที่ร้านคุณเอาขนมปังกรอบๆเค็มที่เป็นตัวเอบีซี(คงรู้จักนะค่ะ)ไว้ข้างๆจานเล็กๆนะค่ะพร้อมกันชาร้อนแก้วเล็กๆนะค่ะเท่านั้นก้อพอดึงดูดลูกค้าได้นะค่ะแนะนำให้นะค่ะในฐานะทำงานโรงแรมอ่ะค่ะเพราะที่โรงแรมก้อทำนะบางที่เอาใจช่วยนะค่ะสู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : ปอนด์ (เลขาค่ะ) - [ 19 ม.ค. 52 21:12:48 ]