ความคิดเห็นที่ 1 ตอบจขกท.ก่อน HR ไม่ได้ทำเท่าที่จขกท.ถามมาครับ มีความรับผิดชอบอีกมากที่ HR ต้องดูแล แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับธุรกิจของบริษัทด้วยน่ะครับ ทั้งนี้ธุรกิจไหนใช้คนมากยิ่งควรมี HR เยอะครับ อัตราส่วนที่เหมาะสมรู้สึกจะอยู่ที่มีพนักงาน 100 คน ก็ควรมีฝ่ายบุคคล 1 คนครับ ทำไมตำแหน่งนี้เปิดรับบ่อย? เพราะเมืองไทยยังขาด HR ที่เป็นมืออาชีพ เป็นผู้เชี่ยวชาญในสายของตัวเองอีกมากครับ โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงยิ่งขาดแคลนมากครับ รอท่านอื่นมาช่วยเสริมนะครับ ^_^ จากคุณ : sleeper_j - [ 3 ม.ค. 52 01:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่ จขกท เข้าใจน่าจะเป็นแค่ function นึงของ HR นะครับ จริงๆแล้ว HR มีด้วยกันหลายฟังก์ชันด้วยกัน ขออธิบายคร่าวๆ นะครับ 1. Recruit / Employment ทำหน้าที่วางแผนกำลังคนที่จะรับให้กับ แผนกต่างๆ รวมถึงการรับสมัคร สัมภาษณ์ ต่อรองเงินเดือน ปฐมนิเทศน์พนักงานใหม่ หรือแม้กระทั่ง exit interview หากพนักงานลาออก 2. Training: ทำหน้าที่จัดอบรม เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้ตรงกับ competencies ที่บริษัท หรือ แผนก ต้องการ 3. Compensation and Benefit  ดูและเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ของพนักงาน เช่นเงินเดือน โบนัส สวัสดิการต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล สวัสดิการเงินกู้ เงินช่วยเหลือพนักงาน 4. Employee Relation ดูเรื่องสหภาพแรงงาน รวมถึงคอยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่าง สหภาพ กับ บริษัทฯ รวมถึงดูแลกิจกรรมต่างๆ ที่พนักงานมีส่วนร่วม เช่น การจัดกีฬา เชื่อมความสัมพันธ์ของพนักงานเป็นต้น, การจัดให้มีการท่องเที่ยวประจำปีให้กับพนักงาน 5. HRIS ทำหน้าที่ดูแลฐานข้อมูลพนักงาน ฐานข้อมูลเงินเดือน ข้อมูลการประเมินผลงาน พูดๆง่ายๆ ก็คือดูและฐานข้อมูลของพนักงานทั้งหมด  คอยจัดการเรือ่งรายงาน ให้กับผู้บริหาร 6. HR Business Partner ปัจจุบันหลายบริษัทได้จัดตั้งแผนกนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของ HR ในการติดต่อกับแผนกต่างๆ รวมถึงเป็น strategic partner ในการให้คำปรึกษาผู้บริหารในการวางกำหนดกลยูทธ์องค์กร Business Partner จะเป็น Contact Point ที่ฝ่ายหรือแผนกต่างๆ ในบริษัทสามารถติดต่อ เพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องต่างๆ ขอ HR เช่น หากต้องการฝึกอบรมพนักงาน Business Partner ก็จะทำให้หน้ารวบรวมความต้องการ แล้วส่งมายังแผนกฝึกอบรม เป็นต้น รอคนอื่นมาเสริมนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 07:02:07 จากคุณ : AllBlack (AllBlack) - [ 3 ม.ค. 52 06:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คห2ครอบคลุมมากครับ ขอเสริมนิดนึงนะครับ งาน HR เป็นงานที่มีทั้งหน้าบ้าน และหลังบ้าน หน้าบ้าน หมายถึงพนักงานทุกคนเห็น และส่วนมากจะคิดว่างาน HR มีแค่นี้ ก็อย่้างเช่น พวก Recruitment พวกจัดอบรม พวกจัดกิจกรรม,กีฬา เป็นต้น งานเหล่านี้ พนักงานจะเห็นเป็นรูปธรรม แต่งานหลังบ้านนี่แหละ ที่ทำให้บรรดาเหล่า HR ปวดกบาลไปตามๆกัน ซึ่งเป็นงาน Support Business และ Line Manager เช่นการทำเรื่องโยกย้าย (Rotate พอดีอยู่ในองค์กรที่ใ้ห้ความสำคัญกับการโยกย้าย เพื่อ Job Enlargement...เอ๊ะ หรือ Enrichment ไำม่แน่ใจ) การวางระบบงานด้านบุคคลต่างๆ เช่นระบบการประเมินผล ระบบการจ่ายผลตอบแทน ระบบสวัสดิการ ซึ่งระบบเหล่านี้ผู้ใหญ่มักจะปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อที่องค์กรจะได้แข่งขันได้ โดยที่งานหลังบ้านนี้ พนักงานมักจะไม่ทราบ เลยพาลไปคิดว่า HR มีแต่งานที่พนักงานเห็นเป็นต้นครับ รอความเห็นอื่นๆเพิ่มเติมครับ จากคุณ : MDHK (DmonD) - [ 3 ม.ค. 52 14:28:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลืมตอบไปอีกคำถามนึง ว่าทำไมถึงเห็นลงโฆษณาตำแหน่งงานว่างบ่อยๆ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างที่คห1ตอบอ่ะครับ โดยที่สาเหตุเบื้องต้น น่าจะเกิดจาก งาน HR เพิ่งจะมาบูมไม่นาน (ขออธิบายคร่าวๆ ว่า คนที่ทำงานด้าน HR ส่วนมากจะจบคณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์...สะกดไม่เคยถูกเลย...มันยาว หรือไม่ก็บริหารธุรกิจ สาขา HR ซึ่งเป็นสาขาีที่นักศึีกษาเลือกไม่มาก ทำให้เด็กจบน้อย) แต่ดันสวนทางกับจำนวนเด็กที่จบ ทำให้สัดส่วนตำแหน่งงานที่องค์กรต้องการ (Supply) กับ จำนวนคนที่จบทางนี้โดยตรง (Demand) มันไม่สมดุลกัน ทำให้มีการถ่ายเท จากองค์กรหนึ่ง ไปยังอีกองค์กรหนึ่ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นยุคของ HR เพราะองค์กรมีความต้องการ ทำให้มีอำนาจต่อรองในการหางานเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง...สรุปว่าเป็นเพราะเด็กจบน้อย แต่องค์กรเพิ่งมาให้ความสำคัุญ จึงขยายตำแหน่งงาน ทำให้ตลาดแรงงานต้องการ แต่สถานศึกษายังผลิตเด็กไม่ทัน จึงต้องมีการแย่งตัวกันไปมาครับ หากใครคิดว่าเป็นเพราะสาเหตุอื่น ก็ช่วยกันแชร์ได้ครับ จากคุณ : MDHK (DmonD) - [ 3 ม.ค. 52 14:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ยืนยันตาม คห 2 ครับ เพียงแต่ว่าเราอาจจะคุ้นเคยกับงาน hr เวลาเขา recruite คนมาสัมภาษณ์ เลยเข้าใจว่างั้นเท่านั้นเอง แต่จริง ๆ สายงานทั้งหมดคือการบริหารทรัพยากรมนุษย์ครับ ยิ่งองค์กรใหญ่คนเยอะ ก็ต้องมี hr ดูแลเยอะครับ จากคุณ : Sand and Sea (เม็ดทราย กะ ชายหาด) - [ 3 ม.ค. 52 20:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ได้ความรู้ดีจัง ขอบคุณทุกท่านที่มาตอบนะคะ จากคุณ : deepriver - [ 3 ม.ค. 52 22:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตาม คห. 2 ค่ะ ----------- มีข้อสงสัย+ข้อสังเกตุ อย่างนึงว่า การให้ความสำคัญกับงาน HR หรือการทราบรายละเอียดของงาน HR ก็มีผลกับอัตราการลาออกของ จนท. HR ด้วย รวมทั้งอาจจะมีผลต่ออัตราการลาออกของพนักงานด้วย >ถ้าบริษัทให้ความสำคัญกับงาน HR รู้ว่าจริงๆแล้ว..งาน HR มีอะไร ที่ต้องทำอีกเยอะ ทั้งหลังบ้าน หน้าบ้าน --> อัตราส่วนที่ จนท. HR ลาออกก็น้อย >แต่ถ้าบริษัท ไม่ให้ความสำคัญ รู้เพียงว่าแค่รับสมัคร จ่ายเงินเดือน ทำงานไม่ได้ก็ลาออกไป แค่นั้น --> อัตราส่วนที่จนท. HR ลาออกก็สูง บริษัทไหน รับตำแหน่ง HR ตำแหน่งเดิมๆบ่อย ๆ ก็น่าจะเป็นจุดสังเกตุนะคะ ไม่ทราบว่าท่านอื่นๆ แตกต่างไหม ลองแชร์ความเห็นกันนะคะ จากคุณ : Nice_CD - [ 3 ม.ค. 52 23:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่มเติม รายละเอียดปลีกย่อยนะคะ บางบริษัท HR อาจจะต้องดูโดยรวมไปถึง เรื่องที่เกี่ยวกับ เงิน ๆ ทอง ๆ และผลประโยชน์ของบริษัทด้วย เช่น เรทการเบิกเงินค่าประกันภัย ค่าประกันรถ ค่าน้ำมันรถ ฯลฯ บางบริษัท จะต้องมี HR Analyst ที่คอยดูแลตรงนี้เพิ่มเติม ว่า วงเงินประกันเท่าไหร่ ค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่ เป็นจุดที่เหมาะสม และ ยุติธรรม สำหรับ พนักงานทั้งหมด ทั้งในกทม และต่างจังหวัด บางบริษัท รวมไปถึง สาขา ต่างประเทศ เทียบ เงินเดือน ว่าองค์กรที่ทำอยู่ และองค์กร ที่มีฐานธุรกิจใกล้เคียงกัน ให้เงินเดือน และสวัสดิการ มาก หรือ น้อยกว่ากันเท่าไหร่ ควรจะปรับไม่ให้ เกิดช่องว่างมากเกินไป วางแผนงบประมาณ ที่จะใช้ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท ว่าจะต้องติดต่อที่ไหน งบเท่าไหร่ เช่นการจัดสัมมนาของบริษัท ที่จะต้องติดต่อ โรงแรม ติดต่ออาหารสำหรับงานเลี้ยงต่าง ๆ วิเคราะห์เหตุผล และปัจจัย ที่มีกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ที่เกี่ยวข้องกับพนักงานในบริษัท เช่น พนักงานลาออกเยอะ ช่วงไหน สาเหตุคืออะไร การร้องเรียนของพนักงานที่มีต่อหัวหน้า ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในแผนก การร้องเรียนของหัวหน้า ที่ลูกน้องขาดความสามารถด้านใด ที่มีผลกระทบต่อองค์กร และหน้าที่การงาน ประกันสุขภาพต่าง ๆ รวมถึงรายละเอียด ปลีกย่อยของประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ เงินกู้ของบริษัท วิเคราะห์ การประเมินผลงานประจำปี การปรับเงินเดือน ยอดเงินโอที การเรียกใช้บริการของบริษัทจัดหางานต่าง ๆ ถ้าบริษัทมี ต่างชาติ ก็จะรวมไปถึงการดูแลเอกสารของต่างชาติ ทั้งวีซ่าของพนักงานต่างชาติ และ ครอบครัว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งที่พักอาศัย ยานพาหนะ รวมไปถึงค่าเทอมของลูก ๆ พนักงาน การติดต่อสำหรับพนักงาน เมื่อต้องมีการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก อีกสารพัดค่ะ งานจิปาถะเยอะแยะ งานที่เหมือน "ใคร ๆ ก็ทำได้" แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด ต้องคนที่ได้สัมผัสกับงานพวกนี้อย่างละเอียดจริงๆ ถึงจะซึ้งแล้วก็เข้าใจอ่ะค่ะ ว่างานของ HR ก็สำคัญไม่แพ้ แผนกอื่น ๆ เหมือนกัน จากคุณ : เคยผ่านมาก่อน (ผู้หญิงเหมือนงูพิษ) - [ 3 ม.ค. 52 23:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 งาน HR มากกว่าที่พนักงานเห็นจริงๆ ที่บริษัทเราHR มี 3 คน สรรหา สวัสดิการ เงินเดือน คนลาออก ก็บอก HR ไม่เก่ง หาคนไม่ทันก็บอก HR ไม่เวิร์ค ท้อเลยเนี่ย . . . จากคุณ : green cup - [ 4 ม.ค. 52 14:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้อยู่ปี 4 กำลังจะจบ รัฐศาสตร์ บริหารรัฐกิจ ของม.รัฐ อ่ะค่ะ อยากถามความคิดเห็นว่า จะเรียนต่อดีหรือทำงานเลย เพราะจบมาก็คิดว่าตอนนี้อาจหางานยาก แต่มีคนบอกว่าถ้าเรียนโทต่อ เวลาจบมาหางานยากยิ่งกว่า เพราะเงินเดือน ป.โท ไม่ค่อยมีใครอยากรับ จากคุณ : เลี้ยวปี้เอ่อ - [ 5 ม.ค. 52 20:00:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีค่ะพี่ๆทุกคน ตอนนี้หนูรอสัมภาษณ์ คณะวจก.บริหารทรัพยากรมนุษย์ อยุ่ค่ะ ที่มอ.อยุ่ค่ะ หนูอยากทราบว่า เรียนจบแร้วจามีงานที่รับเฉพาะคณะนี้มากน้อยแค่ไหนค่ะ จบแร้วจามีงานทำเลยมั้ย อยากหั้ยพี่ๆที่จบคณะนี้ช่วยบอกหน่อยค่าาา ^^ จากคุณ : F^o^N - [ 20 ม.ค. 52 21:05:40 A:118.174.82.228 X: ]