Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - เป็นคนของใคร

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 1 - สมัครงาน
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7400209/B7400209.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 2 - ตกลงการทำงาน
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7402344/B7402344.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 3 - เริ่มงานวันแรก
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7405223/B7405223.html

    -----------------------------------------------------------------------------

    ระหว่างการสอบถามงานคุณหน่อย ซึ่งเขาเป็นคนเก่าของที่นี่ อยู่มานานแต่ก็ยังเป็นพนักงานธรรมดา แต่รู้เรื่องของแผนกนี้เกือบทั้งหมด เมื่อรู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น คุณหน่อยก็เปลยๆมาให้ฟัง...

    "พี่หน่อยนะกลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลยตอนตัดสินใจอยู่ทำงานที่นี่"
    "ทำไมหละ...?"
    "ในส่วนของเจ้านายเก่าของหน่อย เขาต้องการให้ทุกคนไม่มาร่วมงานกับทางนี้ค่ะ เขาให้หน่อยกลับไปคิด แล้วบอกว่าแผนกใหม่นี้ไม่มีความแน่นอนนะ ถ้าหน่อยไปอยู่กับเขาเขาจะโปรโมทให้เป็น Supervisor แต่หน่อยก็ตัดสินใจอยู่ที่นี่ พวกพี่ลักษณ์กับใครต่อใครก็ต่อว่าหน่อยใหญ่เลย นี่นะ เหลือหน่อยทำงานกับน้องๆอีกไม่กี่คนเอง"

    ผมฟังแล้วก็เข้าใจถึงสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณหน่อย เจ้านายเก่าที่กำลังถูกริดรอนอำนาจไป ย่อมจะแสวงหาพวก กลุ่มคนที่ภักดีก็จะรวมตัวกัน และ ต่อต้านกับคนที่แตกแยก

    แต่ผมก็ยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางขององค์กรนี้ดีนัก ทำให้ต้องสังเกตพนักงาน รวมทั้งคุณหน่อยมากขึ้นกว่าเก่า ผมถามคุณหน่อยถึงพนักงานที่จะทำงานกับเราและไม่ทำว่ามีใครบ้าง นั่งโต๊ะตัวไหนกัน ผมจดโน๊ตไว้แต่ละหน้า ในข้อมูลของพนักงานแต่ละคน ชื่ออะไร ทำงานมานานมากน้อยเพียงใด อยู่กับเราไม๊ เพื่อว่าจะใช้ในการจำ และ เอามาวิเคราะห์อีกทีหนึ่ง แต่ข้อมูลทั้งหมด

    หลังจากคุณหน่อยออกจากห้องทำงานผมไป ผมก็ทำงานอีกสักครู่ใหญ่ๆ แล้วจึงบอกคุณหน่อยว่า ผมขอเรียกประชุมพนักงานทั้งหมด ช่วยจองห้องประชุม และ เรียกพนักงานเข้าห้องประชุมให้ผมด้วย

    ในห้องประชุม ผมแนะนำตัว และ ให้ทุกท่านแนะนำตัวอีกทีหนึ่ง ซึ่งผมก็ได้ข้อมูลเพิ่มในแต่ละคนจากปากของเจ้าตัวเอง ผมบันทึกลักษณะนิสัย และ ท่าทางที่ผมพอจะสังเกตได้ลงไปด้วยเพื่อจะใช้ดูว่าผมจะรับมือกับพนักงานแต่ละคนอย่างไร เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จ ผมก็แค่กล่าวถึงแนวทางการทำงานของผมกับทุกคน

    "... ผมมีนิสัยพูดตรงๆ เสียงดัง จริงใจ และ ผมมาทำงาน ไม่ชอบเล่นการเมือง ดังนั้น ผมก็หว้งว่าทุกคนจะทำงานในหน้าที่ของตนเองให้เต็มกำลัง หากมีปัญหาอะไรก็เข้ามาคุยกับผมที่ห้องได้ตลอดเวลา ผมให้ความสำคัญของลูกน้อง มากกว่างานที่ผมต้องทำอยู่เสมอ ดังนั้น ถ้าเห็นผมทำงานก็ไม่ต้องเกรงใจ เข้ามาคุยกับผมได้ตลอดเวลา แล้ว ตอนนี้มีใครอยากที่จะคุยอะไรให้ผมรับรู้บ้างหรือเปล่า ผมยินดีรับฟังทุกเรื่อง..."

    สิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือความเงียบ ซึ่งก็เป็นพฤติกรรมปกติ ของคนไทย ผมจึงคุยอีกเล็กน้อยแล้วปิดประชุม

    หลังจากเข้ามาทำงานในห้อง พฤติกรรมของพนักงานเริ่มเปลี่ยนไป มีการคุยกันมากขึ้น ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าเขาคุยอะไรกัน เพราะปิดประตูห้องไว้ ซึ่งห้องผมทั้งห้อง เป็นห้องไม้มีกระจกครึ่งหนึ่งทุกด้าน จึงเห็นได้ทั้งห้อง ช่วงวันแรกนี้ผมอยากจะได้ข้อมูล และ ขอสังเกตสิ่งที่ผมเห็นก่อนว่ามันเป็นอย่างไร

    ก่อนเลิกงาน ผมเดินไปทักทายน้องๆที่ทำงานทีละคน สอบถามถึงการทำงานในวันนี้ คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่ก็แค่บอกว่า ไม่มีปัญหาค่ะ... ซึ่งผมสังเกตเห็นได้เลยว่า พวกเขาแปลกใจว่า ทำไมผมต้องไปทักทายทุกคน และ เมื่องานเลิก น้องๆที่ทำงานก็กลับกันตรงเวลามาก ผมก็อยู่ต่ออีกสักครู่ แล้วเข้าไปหาเจ้านายใหม่ และ เล่าถึงสิ่งที่ได้รับมาจากการประชุมเมื่อบ่ายวันนี้...

    เจ้านายผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามา...

    "...ผมก็เพิ่งเข้ามาเมื่อเดือนที่แล้ว เท่าที่ผมได้ข้อมูลจากเจ้านายใหญ่ แต่ก่อนที่นี่แบ่งงานกันทำ ฝ่ายป้อนข้อมูลก็ทำของทุกๆ BU (ฝ่ายที่หาเงิน) ฝ่ายออกไปทำงานภาคสนามก็จะออกภาคสนามให้กับทุก BU แต่ตอนนี้ เรา กับ อีกแผนก แยกตัวออกมาอยู่ตึกนึ้ เพราะต้องการเอางานป้อนข้อมูล และ ออกภาคสนาม แยกออกมาให้แต่ละ BU ทำกันเอง ผมก็ได้รับมอบหมายมาเพื่อจัดการตรงนี้ทั้งภาคสนามและป้อนข้อมูล ผมอยากให้คุณเป็นหูเป็นตาให้ผมทั้งสองส่วนด้วย..."

    อืม ไม่ใช่แค่ส่วนของผมเสียแล้วที่จะมีปัญหา ภาคสนามก็เพิ่งแยกตัวออกมา ซึ่งภาคสนามก็อยู่ตรงข้ามห้องทำงานผมเสียด้วย แต่ห้องเจ้านายแยกออกไปอยู่รวมกับฝั่งผู้บริหารระดับสูง และ กลุ่มบริการลูกค้า เจ้านายเลยให้เป็นหูเป็นตาให้อีก อย่างนี้คงต้องเข้าไปทำสนิทสนมเพิ่มเติมพรุ่งนี้แล้วกระมัง...

    วันรุ่งขึ้น ผมเข้ามาทำงานเช้ากว่าเวลาทำงานเล็กน้อย และ สังเกตว่า น้องๆที่ทำงานของผม มาก่อนผมเพียงไม่กี่คน มาถึงก็เข้าไปนั่งทำงานกันเลย และก็จะมีคนมาสายกว่าผม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่จะไม่อยู่กับแผนกนี้อีก คุณหน่อยก็ไม่ได้ต่อว่าใครเลย ปล่อยให้เขาเข้ามาทำงานสาย แต่กลับตรงเวลา ทำให้ผมสงสัยในเรื่องนี้ จึงเรียกคุณหน่อยมาสอบถาม

    "หน่อย ที่นี่มีลงเวลาเข้าออกหรือเปล่า"
    "มีค่ะ แต่เป็นการลงข้อมูลประจำวันว่าแต่ละวันทำงานอะไรไปบ้างค่ะ"

    ผมเลยขอบันทึกข้อมูลประจำวันของแต่ละคนมาอ่านได้สักครู่ แต่ระหว่างรอ ผมก็เข้าไปทักน้องๆที่ทำงานที่โต๊ะทำงานทุกคน ระหว่างนั้น เจ้านายก็เข้ามาที่ทำงานผมพร้อมกับแฟ้มเอกสารขนาดใหญ่...

    "ห้องทำงานดูดีมากเลยนะ ขาดเหลืออะไรหรือเปล่า"
    "ไม่มีปัญหาอะไรครับ"
    "ผมเอาแฟ้ม Memo ที่ติดต่อกับมาเลย์มาให้อ่านจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น..."

    ผมรับแฟ้มข้อมูลมา โอ้แม่เจ้า ข้อมูลที่เก็บตั้งแต่ผมเพิ่งสอบเอ็นทรานซ์ เลยนะเนี่ย แล้ว อ่านทั้งหมดจะเข้าใจหรือเนี่ย ผมเลยมานั่งอ่าน อ่านไปไม่กี่เรื่อง คุณลักษณ์ก็เข้ามา ห้องผมเพื่อจะใช้เครื่องผมประมวลผลข้อมูลประจำสัปดาห์ ผมเลยอยู่เรียนกับคุณลักษณ์ถึงการประมวลผลข้อมูล มันก็ไม่ยาก แต่มีขั้นตอนมากมาย และ ขั้นตอนแต่ละขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากมากนัก ผมเลยถามคุณลักษณ์ถึงโปรแกรมที่ใช้บ้างว่าเป็นอย่างไร

    "ระบบนี้เพิ่งเริ่มใช้เมื่อกลางปีเอง พีลักษณ์ ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมากนัก มีแต่ติดต่อให้ทางมาเลย์จัดการให้ ดีนะที่พี่สนิทกับคนเขียนโปรแกรม เขาเข้ามาก็เลยทำระบบให้ง่ายๆ ที่ยากก็ตรงที่ต้องรอข้อมูลจากทางภาคสนามให้อ่านข้อมูลให้เสร็จ แล้วมา Clean (แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง) ซึ่งใช้เวลามาก เออ เราไปเรียน Btrieve มาจากไหน พี่ไปหาเรียนตั้งหลายที่ไม่มีใครสอนเลย..."

    . - . - . - . - . - . - . - . - . - .

    (อ่านต่อตอนหน้านะครับ...)

    ข้อคิดที่ได้รับ

    - ผมถูกปลูกฝังมาให้ฟังความทั้งสองฝ่าย การที่มีใครสักคนมาบอกผมถึงเรื่องต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับอีกคน ผมก็จะไปหาข้อมูลของคนที่ถูกอ้างถึงเสมอและสังเกตว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ เพราะทั้งนี้ การฟังความข้างเดียวอาจจะทำให้ผมตัดสินใจอะไรลงไปผิดพลาดได้

    - คุณหน่อยกล่าวถึงถ้าเขาอยู่กับเจ้านายเก่า เขาจะเป็น Supervisor ซึ่งคำกล่าวลักษณะนี้เหมือนจะมาต่อรองกับผมว่า เขาควรจะขึ้นเป็นตำแหน่งนี้ เพราะเขายอมทิ้งเจ้านายเก่ามาทำงานกับแผนกนี้ ซึ่งทำให้ผมให้คะแนนความภักดีของเขา ลดลงเล็กน้อย

    - ผมใช้สมุดในการจดบันทึกพนักงานทุกคน ว่ามีลักษณะนิสัยอย่างไร ข้อมูลของแต่ละคนเป็นอย่างไร เพื่อเป็นการเตือนความจำ ผลดีที่ได้รับ คือ ผมจะสามารถเข้าใจพฤติกรรมของแต่ละคน จากข้อมูลที่ผมจดไว้ได้ และ ทำให้ผมสามารถจดจำชื่อของพวกเขาได้จากการทบทวนอ่านสมุดบันทึกของผมบ่อยๆ (ในยุกนั้นยังไม่มี Word หรือ Excel ขนาด CU Word ตอนนั้นก็ยังไม่เกิด จึงใช้สมุดในการบันทีก)

    - ผมมักเรียกประชุมพนักงาน ตอนที่ผมเข้าทำงานใหม่ หรือ ได้รับตำแหน่งใหม่เสมอๆ เพราะ ผมจะบอกแนวทางการดำเนินงานของผมให้กับน้องๆเสมอว่า การทำงานกับผม ผมหวังอะไร คาดหวังอะไร หรือ ตำแหน่งใหม่ของผม มีการเปลี่ยนแปลงและรับผิดชอบอะไรมากขึ้นกับพนักงานก่อน ทั้งนี้ ก็เพื่อละลายน้ำแข็งของพนักงานในสายงาน แนะแนวทางการทำงาน และ บอกให้เขาปรับตัวให้เข้ากับผม หรือหากเขายอมรับพฤติกรรมบางอย่างของผมไม่ได้ เช่น เสียงดัง ผมก็จะอ้างว่า ผมได้บอกคุณไว้แล้วตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานว่า ผมมีเสียงดัง แต่จริงๆไม่มีอะไร ทำให้พนักงานสามารถอ้างถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับงานกับผมได้น้อยมากหรือแทบไม่มีก็ว่าได้

    - ผมติดนิสัยเดินทักทายน้องๆเพื่อนร่วมงาน ทั้งตอนเช้าและเย็น เพราะหากเขาต้องการอะไรหรือเดือดร้อนอะไร เขาก็จะสามารถคุยกับผมได้ในทันที เป็นการสร้างความใกล้ชิดสนิทสนม สร้างกำลังใจให้กับพนักงาน ทำให้ระยะห่างระหว่างผมกับเขาน้อยลง แต่ก็ยังมีช่องว่างที่เขาไม่ควรจะข้าม อีกทั้ง ทำให้ผมได้ข้อมูลข่าวสารของพนักงานโดยตรงอีกทางหนึ่ง เพื่อเทียบกับข้อมูลที่ได้รับจากหัวหน้างาน และใช้วิจารณญาณของผมตัดสินใจว่าข้อมูลใดที่ถูกต้องจริงๆ ทำให้หัวหน้างานของผมไม่สามารถที่จะพูดในสิ่งที่ไม่จริงเพราะผมจะมีข้อมูลโต้แย้งเขาหากเขาทำเช่นนั้น

    - เจ้านายให้ผมเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้านาย นั่นแสดงออกมาให้เห็นถึงความไว้วางใจของเจ้านายที่มีต่อผม แต่การเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้านายทำให้ผมต้องมีงานเพิ่ม ต้องสังเกตแผนกภาคสนาม และ ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนในแผนกอื่นๆ มากขึ้น แต่ผมก็ทำให้เจ้านาย ไม่ใช่ว่าเจ้านายสั่ง แต่ผมคิดว่า นี่ก็คืออีกงานที่ผมจะช่วยเหลือองค์กรได้มากขึ้น

    - การจดบันทึกการทำงานของพนักงานแต่ละคน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะเขาอาจจะเขียนในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำก็ได้ หรือ พยายามสร้างภาพให้ดูดี ดังนั้น สิ่งที่ผมจะต้องเปลี่ยนคือ สร้างตัวตรวจวัดขึ้นมาว่าพนักงานเขาทำงานมีประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผลอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร เพื่อให้คนทำงานหนัก และ ดี ได้ประเมินผลงานแล้วดีตามงานที่เขาทำจริงๆ

    - ความสนิทสนมส่วนตัว หรือ การใช้ Connection ให้เกิดประโยชน์อย่างคุณลักษณ์ ที่สนิทกับโปรแกรมเมอร์และให้เขาสร้างโปรแกรมเพื่อช่วยในการทำงานของคุณลักษณ์ให้ง่ายขึ้น โดยปกติ ก็มีลักษณะนี้อยู่แล้ว แถมเรายังสามารถแนวทางนี้มาประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจอีกด้วย..

    -----------------------------------------------------------------------------

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 5 - เริ่มเรียนรู้แผนกอื่นที่เกี่ยวข้อง
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7409476/B7409476.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 6 - รายงาน กับ ฟ้อง ไม่เหมือนกันนะ...
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7410604/B7410604.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 7 - แผนกบัญชี
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7413611/B7413611.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 7.5 - เป็นฑูต หรือ เป็นพวก ?
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7421552/B7421552.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 8 - เปลี่ยนงานตัวเองดีกว่า...
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7417808/B7417808.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 9 - โอนถ่ายงานให้ลูกน้อง
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7425084/B7425084.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 10 - ไปนอกครั้งแรก
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7435824/B7435824.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 11 - ได้มือขวา
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7439474/B7439474.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 12 - เครื่อง Server มีปัญหา
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7442344/B7442344.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 13 - อบรมพร้อมกับประชุมด้วยเลย
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7446652/B7446652.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 14 - ลุยไปยังไงก็ตาย ลุยเลย...
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7451348/B7451348.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 15 - บทเรียนจากการบังคับ
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7458441/B7458441.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 16 - มาเลย์ทึ่ง
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7461463/B7461463.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 17 - ที่ปรึกษาเข้าประเทศไทย
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7470280/B7470280.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 18 - เจาะลึกให้ถึงแก่น
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7486689/B7486689.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 19 - จัดระบบให้เวียดนาม
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7495522/B7495522.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 20 - พนักงานพอใจไม๊?
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7497764/B7497764.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 21 - ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจปี 40
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7504720/B7504720.html

    แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 12:55:15

    แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 03:47:15

    แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 52 14:20:39

    แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 52 16:27:24

    แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 16:30:45

    แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 52 02:12:47

    แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 52 01:36:08

    แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 23:24:43

    แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 02:15:34

    แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 52 19:16:26

    จากคุณ : wbj - [ 11 ม.ค. 52 02:47:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com