Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 9 - โอนถ่ายงานให้ลูกน้อง

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 1 - สมัครงาน
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7400209/B7400209.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 2 - ตกลงการทำงาน
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7402344/B7402344.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 3 - เริ่มงานวันแรก
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7405223/B7405223.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 4 - เป็นคนของใคร
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7408009/B7408009.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 5 - เริ่มเรียนรู้แผนกอื่นที่เกี่ยวข้อง
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7409476/B7409476.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 6 - รายงาน กับ ฟ้อง ไม่เหมือนกันนะ...
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7410604/B7410604.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 7 - แผนกบัญชี
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7413611/B7413611.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 7.5 - เป็นฑูต หรือ เป็นพวก ?
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7421552/B7421552.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 8 - เปลี่ยนงานตัวเองดีกว่า..
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7417808/B7417808.html

    -----------------------------------------------------------------------------

    ผมสร้างงานให้กับตัวเองจนดูเหมือนว่าผมจะงานยุ่งทั้งวัน คุณหน่อยเขาก็สังเกตุเห็น เพราะโต๊ะของคุณหน่อยอยู่หน้าห้องของผม ซึ่งสามารถมองเข้ามาเห็นห้องของผมได้อย่างง่ายดาย คุณหน่อยเสนอตัวที่จะเข้ามาช่วยงาน ทำให้ผมต้องถามคุณหน่อยให้แน่ใจก่อนว่าจะทำแน่หรือ เพราะมันไม่ใช่งานที่คุณหน่อยถนัดเลย คุณหน่อยตอบว่า...

    "หน่อยก็อยู่ว่างๆ พี่ก็สอนงานหน่อยละกัน"

    คุณหน่อยเคยโดนคุณลักษณ์ กีดกัน ไม่สอนงานให้มากนัก แต่กลับผม ผมสอนงานในสิ่งที่เขาทำได้ให้หมด เพราะ ผมก็แปลกที่ใครให้สอนอะไรก็จะสอนให้ทั้งหมดด้วย แต่เนื่องจากคุณหน่อยชอบทำงานที่ซ้ำๆ อย่างเช่นประมวลผล ออกรายงาน ตรวจเช็คปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆจากประสบการณ์ ผมจึงสอนงานในส่วนที่เหมาะกับคุณหน่อย ให้คุณหน่อยทำงานที่ถนัด ผมสอนทีละขั้นตอนการทำงาน ซึ่งตอนนั้น ผมทำโปรแกรม MAGIC ไว้เป็นเมนูเพื่อใช้ในการเรียกใช้โปรแกรมเรียบร้อยแล้ว ทำให้เวลาสอนคุณหน่อย ก็แค่บอกขั้นตอนว่า ต้องทำอะไรก่อนหลัง เครื่องก็จะประมวลผล และ พิมพ์รายงานออกมาให้เจ้านาย ฝ่ายภาคสนาม และ ฝ่ายช่างได้อย่างง่ายๆ

    งานของผมในช่วงนั้นเป็นงานประจำสัปดาห์ หมายถึง หนึ่งสัปดาห์ทำเพียงหนึ่งครั้ง ซึ่งจะมีกำหนดระยะเวลาที่ค่อนข้างแน่นอนหากข้อมูลเสร็จเรียบร้อย ดังนั้น คุณหน่อยเลยเครียร์งานของคุณหน่อยได้ไม่ยาก และ มาเรียนรู้การประมวลผลงานของผม

    ในสัปดาห์แรก ผมสอนให้คุณหน่อยทำ โดยทำให้ดู และ ให้เขาจดขึ้นมาว่าขั้นตอนเป็นอย่างไรก่อน และ ผมก็จะอธิบายแต่ละขั้นแต่ละตอนให้คุณหน่อยได้รับรู้

    สัปดาห์ถัดมา ผมก็นั่งข้างๆ คุณหน่อยและให้คุณหน่อยลองทำ ซึ่งก๊มีผิดบ้างถูกบ้างตามประสา ซึ่งผมก็ต้องอธิบายเพิ่มเติมให้ เนื่องจากคุณหน่อยใช้จดและจำ ดังนั้นขั้นตอนการทำงาน ก็จะไม่เหมือนกับคนที่เขียนโปรแกรมเองที่รู้ว่า แต่ละขั้น แต่ละตอนนั้น เป็นอย่างไร ซึ่งก็ต้องปรับให้คุณหน่อยเข้าใจขั้นตอนก่อน

    สัปดาห์ที่ 3 ผมก็ยังคงนั่งข้างๆ และให้คุณหน่อยทำ เมื่อติดขัดผมก็จะชี้แนะให้ทำ หรือ ถ้าผมเห็นว่าทำผิดแล้วยังไม่รู้ตัว ผมก็จะจี้ให้เห็นว่า ทำผิดแล้ว เพราะ ...  มันต้อง ... อย่างนี้

    สัปดาห์ที่ 4 คุณหน่อยก็ทำงานคล่องมากขึ้น ติดขัดน้อยลงมาก ซึ่งคุณหน่อยเองก็ถามผมในสิ่งที่ติดขัด

    สัปดาห์ที่ 5 ผมปล่อยให้คุณหน่อยทำเองทั้งหมด โดยไม่เข้าไปนั่งข้างๆ สรุปว่าผลงานที่ได้รับไม่ผิดเลย และพบว่า คุณหน่อยเชื่อมั่นในการทำงานต่างๆมากขึ้น ผมก็ถึงปล่อยให้คุณหน่อยได้ทำงานตามขั้นตอนที่วางไว้ทั้งหมด

    เอาละซิ... ผมเอางานของผมไปให้คุณหน่อยทำซะส่วนใหญ่ เป็นงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์ แค่มีการสังเกตุ และ พลิกแพลงในการทำงาน นิดหน่อยก็สามารถทำได้แล้ว

    เมื่อโอนงานไปทำให้ผมเริ่มมีเวลาเหลือจากการทำงานอีกครั้ง ผมก็เป็นคนอยู่เฉยๆไม่เป็น ผมจึงแกะข้อมูลของโปรแกรมทางด้านประมวลผลข้อมูลที่มาจากบ้านตัวอย่าง (บ้านที่เป็นตัวแทนการสำรวจ) ซึ่งจัดเก็บอยู่ในก้อนหน่วยความจำ สมัยนั้น ก้องข้อมูลที่ใช้ 512K มีขนาดประมาณ กว้าง 4 ซม. ยาว 6 ซม. และ สูง 1 ซม. เป็นก้อนหน่วยความจำเพื่อใช้ในการใส่เข้าไปในกล่องตรวจวัดเพื่อจัดเก็บข้อมูลต่างๆของทางบ้านตัวอย่าง เพื่อเอามาประมวลผลขององค์กร

    โชคดีที่โปรแกรมชุดนี้ มีรูปแบบของไฟล์ต่างๆให้เรียบร้อย เขียนอยู่ในคู่มือของโปรแกรม แต่เป็นไฟล์ประเภทข้อมูลเชิงลึก ซึ่งต้องใช้ภาษา C หรือ PASCAL เท่านั้นถึงจะอ่านข้อมูลออกมาได้ ผมขออธิบายเพื่อให้เข้าใจเล็กน้อยถึงการจัดเก็บข้อมูลนะครับว่า ทำไมต้องใช้ภาษา C หรือ PASCAL ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมี คำตอบว่า ใช่ กับ ไม่ใช่ จำนวน 8 ข้อมูล ในการเขียนโปรแกรมทั่วไปก็จะใช้ 8 ข้อมูล แต่ละข้อมูลอย่างน้อยจะใช้เนื้อที่เก็บ 1 Byte  แต่ข้อมูลตัวนี้ เขาใช้เนื้อที่เก็บ 1 Byte  สามารถเก็บข้อมูลใช่กับไม่ใช่ได้ถึง 8 ข้อมูล ต่างกันถึง 8 เท่าเลยทีเดียว (ถาคนคอมพิวเตอร์เชิงลึก จะรู้ว่าเป็นการเก็บในเชิง Bit ซึ่ง 8 Bits จะมีค่าเท่ากับ 1 Byte) เพื่อทำให้ก้อนข้อมูลเพียง 512K สามารถจัดเก็บข้อมุลได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    ในระบบปัจจุบัน เขาจะกำหนดข้อมูลว่า
    00000000 =  จริง
    00000001 = ไม่จริง

    ดังนั้น ถ้ามีข้อมูล ทางตรรกะ 8 ตัว เป็น จริง จริง ไม่จริง ไม่จริง จริง ไม่จริง ไม่จริง จริง ก็จะเก็บข้อมูลดังนี้
    ข้อมูลตัวที่ 1 = 00000000
    ข้อมูลตัวที่ 2 = 00000000
    ข้อมูลตัวที่ 3 = 00000001
    ข้อมูลตัวที่ 4 = 00000001
    ข้อมูลตัวที่ 5 = 00000000
    ข้อมูลตัวที่ 6 = 00000001
    ข้อมูลตัวที่ 7 = 00000001
    ข้อมูลตัวที่ 8 = 00000000

    แต่ในข้อมูลสมัยก่อนเขาจะเก็บแค่ 00110110 เพียง Byte เดียวเท่านั้น ซึ่งจะเห็นว่าจะประหยัดเนื้อที่ในการเก็บข้อมูลอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันเด็กที่เขียนโปรแกรมใหม่ๆ ไม่ต้องคิดถึงการประหยัดเนื้อที่เพราะเนื้อที่ในการเก็บข้อมูลมีราคาถูกกว่าแต่ก่อนมาก แต่ในสมัยนั้นไม่สามารถทำได้ ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีในการเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด โดยใช้เนื้อที่ในการเก็บข้อมูลน้อยที่สุดด้วย

    เมื่อรู้แล้วว่าข้อมูลเก็บอย่างไร ผมก็เริ่มที่จะทำรายงานว่า ข้อมูลแต่ละบ้านนั้น มีข้อมูลรวมอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ ต้องแก้ไขในจุดไหน ซึ่งเมื่อข้อมูลออกมาก็มีตรงกับโปรแกรมที่ออกมาบ้าง บางบ้านก็ไม่ตรง ซึ่งผมก็ต้องตรวจเช็คโปรแกรมของผมว่า มันถูกต้องหรือไม่ แต่พบว่ามันเป็น Bug ของโปรแกรมจริงๆ ทำให้ผมต้องชี้ประเด็นให้กับทางอังกฤษ แก้ไขโปรแกรม ซึ่งผมก็รายงานกับเจ้านายตามตรง

    เจ้านายก็โทรไปต่อว่าคนเขียนโปรแกรม และ สั่งให้เขาแก้ไขโดยด่วน เพราะมันเป็นหัวใจขององค์กรเลยทีเดียว จึงทำให้คนที่อังกฤษ ต้องรีบแก้ไขให้ ซึ่งหากเรื่องนี้รู้ไปถึงประเทศต่างๆ ก็จะทำให้องค์กรในอังกฤษขาดความน่าเชื่อถือไป

    ทางอังกฤษแก้ไขมา ก็ยังมีจุดผิดพลาดอยู่ดี จนทางนั้นต้องส่งคนเข้ามาประกบกับผมว่า ผมตรวจเช็คข้อมูลอย่างไร และมาเขียนโปรแกรมที่ประเทศไทย ทำให้ผมได้ฝึกภาษาเล็กๆน้อยๆไปด้วย และ โปรแกรมเมอร์ของอังกฤษ ก็ได้ทิ้ง Source Program (โปรแกรมที่เขียนไว้แต่ยังไม่ได้ทำให้เป็น .EXE หรือ .COM ซึ่งสามารถแก้ไขได้) ให้ทำให้ผมเจอที่ผิดก็จะแก้ไขให้เขา แต่ผมก็สัญญาว่าผมแก้ไขก็จะส่งไฟล์กลับให้เขาทุกครั้ง และ ผมก็ทำตามสัญญาด้วยเหมือนกัน

    เมื่อแกะฐานข้อมูลมากขึ้น ก็ไปเจอว่า โปรแกรมของทางมาเลเซีย ก็มีที่ผิดพลาดเช่นกัน หรือที่เรียกว่า Bug แต่ผิดพลาดเยอะมากหลายจุด ผมก็ต้องเขียน Memo เข้าไปแจ้ง และก็ได้รับการแก้ไขโปรแกรมกลับมา ช้ามากๆ เมื่อเจ้านายผมรู้เรื่อง ก็จัดแจงออกหน้าให้ผมเช่นเคย

    แต่ทางนั้นกลับเถียงว่าโปรแกรมของเขาไม่ผิด แล้วถามกลับว่าผมรู้ได้อย่างไรว่ามันผิด ซึ่งก็ต้องอธิบายกันยกใหญ่ จนเขารู้ว่าผมแกะฐานข้อมูลของเขาเกือบหมดแล้ว และตรวจเช็คการเขียนโปรแกรมของทางมาเลเซียได้ว่าผิดพลาด แต่ครั้งนี้ มาเลเซีย ไม่ยอมที่จะแก้ไขอย่างรวดเร็วเหมือนอังกฤษ และในช่วงนั้นมีการประชุมฝ่ายบริหารทั่วโลก เจ้านายผมก็เอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ทำให้แต่ละประเทศไม่มั่นใจในการใช้โปรแกรมของทางมาเลเซีย และ ทำให้แต่ละประเทศ เริ่มตั้ง IT ในประเทศของตน และบังคับให้ทางมาเลเซียส่งรูปแบบฐานข้อมูลให้กับทุกประเทศเพื่อพัฒนารายงาน และ ตรวจเช็คข้อมูล เหมือนประเทศไทยบ้าง

    เหตุการณ์ที่เล่ามานี้ ใช้เวลาประมาณเกือบปี และ ต้นปี 1995 เจ้านายก็พูดกับผมว่า

    "คุณวิบูลย์ ผมจะส่งคุณไปแก้ไขโปรแกรมที่มาเลเซียสัก 2 สัปดาห์ คุณไปทำ Passport ไว้นะ..."

    . - . - . - . - . - . - . - . - . - .

    (อ่านต่อตอนหน้านะครับ...)

    ข้อคิดที่ได้รับ

    - เจ้านายบางคนกลัวว่าตัวเองจะไม่มีงานทำ หากไม่กุมงานที่สำคัญๆ ไว้สักงาน ก็จะไม่มีความหมายกับองค์กร ในยุคนั้น ผมไม่ชอบคนที่มีความคิดเช่นนี้ ผมจึงสอนงานทุกอย่างที่ผมคิดว่า เขาจะรับได้และทำได้จริงให้แต่ละคน เพื่อเอาไว้เป็นตัวสำรองหากผมไม่อยู่งานก็ไม่สะดุด แต่เนื่องจากคุณหน่อยไม่ได้มาทางสายคอมพิวเตอร์ ดังนั้น จึงไม่สามารถสอนในเรื่องลึกๆในการเขียนโปรแกรมได้

    - การสอนงานของผม ผมจะตามงานว่า สิ่งที่สอนไปนั้นเขารู้เรื่องและทำงานได้จริงๆหรือไม่ เข้าใจขั้นตอนการทำงานหรือไม่ ทั้งนี้ผมยอมเสียเวลาในช่วงแรก แต่งานทั้งหมดที่ทำจะไม่มีการติดขัด

    - การให้งานของผม ผมจะสังเกตุนิสัยของลูกน้องผมแต่ละคนว่าเหมาะกับงานอย่างไร ไม่เพียงเท่านั้น การรับคนผมก็จะสัมภาษณ์ลึกไปถึงนิสัยเลยว่า เหมาะกับงานที่จะรับผิดชอบไม๊ มีความกระตือรือล้นมากแค่ไหน และสอนเรื่องต่างๆได้ ไม๊ เปลี่ยนแปลงตนเองได้ไม๊ เป็นต้นครับ

    - ในปัจจุบันเครื่องแต่ละเครืองมีความจุทั้งหน่วยความจำ ทั้ง Harddisk สูงมาก ในราคาที่ต่ำมากๆ แต่ในยุคนั้น หน่วยความจำมีราคาแพง การใช้หน่วยความจำภายนอก 512K ในสมัยนั้น นับว่าล้ำหน้าชาวบ้านไปมากแล้ว

    - การที่ผมไม่หยุดในการเรียนรู้ ทำให้ผมเรียนรู้สิ่งต่างๆได้มาก และ ผมสนุกกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆอย่างลึกซึ้ง โดยยึดหลักว่า "เรียนให้รู้ลึกสักหนึ่งเรื่อง ดีกว่ารู้ทุกเรื่องแต่ไม่เก่งสักอย่าง"

    - คนอังกฤษให้การยอมรับผมในฐานะโปรแกรมเมอร์มือดีของไทยที่สามารถจับผิดโปรแกรมเขาได้ และได้ช่วยให้ข้อมูลของประเทศอื่นๆไม่ผิดพลาดเหมือนที่ผมพบ ซึ่งชมผมต่อหน้าเจ้านายเลยทีเดียว ทำให้เจ้านาย และ เจ้านายใหญ่หน้าบานไปหลายวัน แต่เขาก็คอมเม้นต์ว่า "ถ้าผมพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่านี้อนาคตก็จะไปไกลกว่านี้" ซึ่งกลายเป็นเรื่องจริง แล้วผมจะเล่าให้ฟังหลังๆ

    - คนมาเลย์คิดว่าตนเก่งกว่าคนไทย และ เมื่อผมจับผิดเขาได้ เขาก็จะไม่ยอมรับ ทำให้เรื่องขึ้นไปถึงการประชุมใหญ่ เขาเสียหน้ามาก และ ทำให้เขาต้องเสีย รูปแบบฐานข้อมูลที่เขาไม่ให้กับใคร กลายเป็นของสาธารณะของทุกประเทศไป แต่ก็แอบเก็บรูปแบบฐานข้อมูลของไฟล์สำคัญ 2 ไฟล์ และ วิธีการคำนวนไม่ให้ใคร แต่ผมก็ดึงมาได้ "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย" จริงๆ

    ----------------------------------------------------------------------------------

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 10 - ไปนอกครั้งแรก
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7435824/B7435824.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 11 - ได้มือขวา
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7439474/B7439474.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 12 - เครื่อง Server มีปัญหา
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7442344/B7442344.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 13 - อบรมพร้อมกับประชุมด้วยเลย
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7446652/B7446652.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 14 - ลุยไปยังไงก็ตาย ลุยเลย...
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7451348/B7451348.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 15 - บทเรียนจากการบังคับ
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7458441/B7458441.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 16 - มาเลย์ทึ่ง
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7461463/B7461463.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 17 - ที่ปรึกษาเข้าประเทศไทย
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7470280/B7470280.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 18 - เจาะลึกให้ถึงแก่น
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7486689/B7486689.html
    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 19 - จัดระบบให้เวียดนาม
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7495522/B7495522.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 20 - พนักงานพอใจไม๊?
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7497764/B7497764.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 21 - ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจปี 40
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7504720/B7504720.html

    แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 12:44:43

    แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 03:42:13

    แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 52 14:18:46

    แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 52 16:07:04

    แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 16:27:49

    แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 52 03:37:04

    จากคุณ : wbj - [ 16 ม.ค. 52 03:08:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com