Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    วิธีทำใจให้มีความสุขแม้จะเบื่องานนั้น

    วันก่อนตอนพักกลางวัน ดิฉันกับเพื่อนร่วมงานไปนั่งกินกาแฟที่ร้านประจำแถวๆ ออฟฟิศ (พูดว่ากินกาแฟ แต่ความจริงกินอย่างอื่นในร้านแกแฟเนื่องจากดิฉันเป็นคนไม่กินกาแฟมาแต่ไหนแต่ไรเพราะกลัวแก่ 555)

    ดิฉันนั่งอ่านนิตยสารไปและฮัมเพลงไปด้วย เพื่อนร่วมงานดิฉันคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "ดีเนอะ ทำไมมีความสุขอยู่ได้วะ อีตอนนั่งทำงานก็นั่งฮัมเพลง ทั้งๆ ที่เบื่องานจะแย่ ทำอย่างกับมีความสุขซะเต็มประดา" ดิฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่า นั่นสินะ ทำไมเราถึงมีความสุขอยู่ได้ทั้งๆ ที่เราก็เบื่องานนี้มากๆ

    ดิฉันทำงานอยู่ในธุรกิจส่งออก วันๆ ต้องคุยกับลูกค้าต่างประเทศทั้งอีเมล์ทั้งโทรศัพท์ คนโน้นจะเอาโน่น คนนี้จะเอานี่ เซลล์ว่าอย่างนั้น โรงงานว่าอย่างนี้ แบงค์ว่าอย่างนู้น นายก็ดันว่าอีกอย่างนึงซะงั้น เรียกได้ว่าตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าออฟฟิศก็ยุ่งทุกลมหายใจ ลาหยุดซักวันนี่กลับมาแทบขาดใจตายกับงานที่ทับถมเข้ามา

    นอกจากนี้ ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนทำให้มีการเลย์ออฟพนักงานออกจำนวนหนึ่ง ทั้งออกปกติ ทั้งบีบออก ทั้งปิดโรงงานไปหลายแห่ง คนที่เหลือก็ทำงานกันหูตูบ ยุ่งหนักกว่าเก่า เงินเดือนไม่ขึ้น สวัสดิการปรับลด เฮดออฟฟิศก็ได้ข่าวว่าจะย้ายจากสุขุมวิทหรูไฮไปอยู่ไกลปืนเที่ยง โปรเจ็คที่เคยทำไว้ก็ยกเลิก ต่างประเทศก็ไม่ได้ไป

    ดิฉันเบื่องานนี้เสียจริงๆ เป็นคนหนึ่งที่จ้องสมัครงานใหม่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
    แต่เวลาทำงานดิฉันก็ยังทำใจให้มีความสุขอยู่ได้ ซึ่งที่จริงดิฉันไม่ค่อยได้สังเกตข้อเท่าไหร่จนเพื่อนร่วมงานพูดขึ้นมา ทำให้ดิฉันลองทบทวนดูว่าดิฉันทำใจให้มีความสุขทั้งๆ ที่เบื่องานนี้ได้อย่างไร จึงอยากเอามาแชร์กันเผื่อเพื่อนๆ คนไหนกำลังเบื่องานอาจจะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ มันอาจจะฟังดูติงต๊องบ้าง แต่มันก็ทำให้ดิฉันผ่านแต่ละวันไปได้ง่ายขึ้นจริงๆ

    1. ค้นหาไฮไลท์ประจำวัน
    แต่ละวันของดิฉันจะมีไฮไลท์ที่ดิฉันรอคอยเสมอ ไฮไลท์ในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ มันอาจจะเป็นอะไรเล็กๆ เช่น ภาคเช้า วันนี้วันพฤหัส ร้านข้าวแกงจะมีปลาหมึกผัดกระเทียมมาขาย ทำงานเบื่อๆ ก็คิดว่าเดี๋ยวพักกลางวันฉันก็ได้กินปลาหมึกแล้ว ... หรือไม่ก็รอที่จะซื้อของตลาดนัดเจ้านั้นเจ้านี้ ส่วนภาคบ่ายก็รอว่า เดี๋ยวเลิกงานจะทำอะไรบ้าง อีกสักพักก็ได้ทำมันแล้ว

    คิดถึงสิ่งที่เรารอและกำลังจะได้ทำมันก็ทำให้จิตใจมีความสุขค่ะ

    2. พรุ่งนี้ยังมี
    ทำงานไม่เสร็จอย่าเครียดค่ะ เบื่อมากก็ไปทำต่อพรุ่งนี้ ไม่ต้องดันทุรัง คิดซะว่าพรุ่งนี้ตื่นให้เช้าหน่อย ทำงานตอนหดหู่งานออกมาสู้ตอนสดชื่นไม่ได้

    3. ออกกำลังกาย
    วันไหนเครียดจัดๆ ดิฉันจะต้องเข้าฟิตเนสเสมอค่ะ ขาดไม่ได้ ได้ออกกำลังกายทีไรความเครียดหายไปเมื่อนั้น เมื่อได้กลับบ้านนอน ชีวิตก็เริ่มต้นใหม่

    หลายๆ คนอาจจะบอกว่าทำงานเครียดจะตาย งานหนัก ฯลฯ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ดิฉันขอบอกว่าท่านกำลังพยายามไม่พอค่ะ ลองเริ่มจากอาทิตย์ละ 1 วันให้ได้ก่อน แล้วค่อยๆ เขยิบเป็นอาทิตย์ละ 3 วัน

    ไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนสก็ได้ค่ะ ไปวิ่งสวนก็ได้ ตีแบดก็ได้ อะไรก็ได้ที่เป็นการออกกำลังกาย ความเครียดหายไปจริงๆ ค่ะ

    4. คิดเรื่องตลก
    พยายามคิดเรื่องตลกเท่าที่จะคิดได้ค่ะ เช่น บางทีคนพูดอะไรมา เราก็เอามาต่อมุขให้มันขำ หรือพวกคำผวนก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันค่ะ ที่ออฟฟิศดิฉันจะมีลูกคู่อยู่คนนึงคอยต่อมุขกัน บางทีก็ฮากันสองคน คนอื่นนั่งเครียดกันต่อไป ^^

    5. ทำแต่สิ่งสำคัญเท่านั้น
    งานทุกงานไม่ได้สำคัญเท่ากันค่ะ ดิฉันเลือกทำงานสำคัญหรืองานนายรอก่อนเสมอ งานเล็กๆ หรืองานเพื่อนร่วมงานรอดิฉันก็ทำไม่ต้องละเอียดมาก บางทีก็เบี้ยวด้วยซ้ำ คุณก็จะยังมี performance ที่ดีอยู่โดยไม่เครียดมากด้วย

    6. ดราม่าเสียบ้าง
    เบื่อหน่ายเซ็ง ก็บ่น ว้ากกกก ออกมาบ้างก็ได้ค่ะ ระบายอารมณ์แล้วมันก็รู้สึกดี

    7. อ่าน forward mail ขำๆ
    ข้อนี้คงไม่ต้องแนะนำมั้งคะ ^^

    8. ทิ้งความเครียดไว้ที่ทำงาน
    อย่าพกมันออกจากออฟฟิศด้วยค่ะ เลิกงานคือเลิกงาน ลืมเรื่องงานให้หมด แล้วไปใช้ชีวิตหลังเลิกงานให้สนุกดีกว่า

    9. รักษาความเป็นส่วนตัว
    ดิฉันบอกทุกคนเสมอว่าเบอร์โทรส่วนตัวดิฉันไม่คุยเรื่องงาน บอกให้รู้กันไปเลยว่าดิฉันไม่ยินดีจะคุยเรื่องงานนอกเวลางาน คนก็จะไม่กล้าโทรตามเราค่ะนอกจากจะสำคัญจริงๆ

    10. รักษาจุดยืน
    ถ้าวันไหนมีนัด ดิฉันก็ออกจากออฟฟิศตรงเวลาค่ะแม้จะมีประชุม ดิฉันก็บอกที่ประชุมตรงๆ ว่าวันนี้ดิฉันต้องออกจากออฟฟิศ 17.30 เป๊ะ ถ้าประชุมยืดกว่านั้นดิฉันขอตัวก่อน ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ บางทีเราเข้าใจไปเองว่านายยังไม่เลิกเราก็ต้องไม่เลิก แต่ดิฉันเชื่อว่าถ้าเรามั่นคงและบอกนายไปเขาก็ต้องเคารพเวลาของเรา อันนี้ก็แล้วแต่นายด้วยนะคะ ดิฉันอาจจะโชคดีที่มีนายดี

    ด้วยการรักษาจุดยืน ดิฉันก็สามารถทิ้งการประชุมไปดูหนังหรือไปฟิตเนสได้สบายๆ เสมอค่ะ

    ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นวิธีการที่ไม่ได้ช่วยให้ท่านก้าวหน้าในที่ทำงาน แต่ช่วยรักษาสุขภาพจิตให้ผ่านการทำงานอันน่าเหนื่อยหน่ายแต่ละวันไปได้ค่ะ ต้องลองปรับใช้ดูกันเอาเองนะคะ

    ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีความสุขกับการทำงานนะคะ ใครมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยให้เราทำใจกับการทำงานน่าเบื่อได้ก็มาแชร์กันค่ะ ^^

    มาแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 11 - 13 ค่ะ

    11. ให้รางวัลกันเองถ้าทำความดี
    เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญค่ะ วันนี้พี่ที่ทำงานคนนึงส่งเมล์ถามหัวหน้าเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นผลประโยชน์แก่คนในแผนก ดิฉันเลยส่งเมล์กลับไปเล่นๆ ว่า "ให้โบว์แดงสำหรับอีเมล์นี้"   ก็เลยกลายเป็นเกมที่รู้กันทันทีว่าใครที่ทำอะไรให้คนอื่นในแผนกก็จะถือว่าได้ "โบว์แดง" วิธีการให้ก็ง่ายมากๆ แค่พูดธรรมดาว่า "เยี่ยมมาก เอาโบว์แดงไป"  แค่นี้เองก็สนุกได้ คนอื่นๆ ก็พยายามทำความดีความชอบกันใหญ่ เช่นพี่คนนึงก็เอาไฟล์ที่มีประโยชน์ไปเก็บในโฟลเดอร์รวม แล้วส่งเมล์แจ้งคนอื่นๆ พร้อมกับถามว่า "พี่ได้โบว์แดงรึยัง" ดิฉันก็บอกว่า "เก็บผิดที่ หัก 1 แต้ม" หลังจากนั้นเรื่องโบว์แดงก็เป็นเรื่องฮาไปเลย

    12. แปลงงานให้เป็นเกม
    ระบบจัดการที่บริษัทของดิฉันใช้ SAP ต้องมีการสร้างสูตรวัตถุดิบใหม่ๆ อยู่ตลอด ตอนนี้อยู่ที่สูตรที่ 5 แสนปลายๆ ดิฉันก็ส่งอีเมล์ไปเทียบเชิญเพื่อนร่วมงานที่สนิทๆ กันซึ่งรวมคนในแผนกอื่นด้วยว่า ให้ส่งคำทายซิว่าจะเข้าสูตรที่ 6 แสนเมื่อไหร่ ทำเหมือนล็อตเตอรี่ ตอนนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 แล้วค่ะ ผลตอบรับดีมาก ที่จริงรางวัลไม่มีให้ แต่ก็ได้ความสนุกไว้เกทับกันเล่นๆ ว่าคนนี้ชนะ คนนั้นแพ้

    13. เหน็บแนมแบบมิตรภาพ
    บางทีเราหมั่นไส้เพื่อนร่วมงาน แทนที่จะเก็บไว้ในใจให้หนักอกอึดอัด ก็พูดมันออกมาเลยค่ะ แต่แทนที่จะพูดตรงๆ ให้มันแรง ก็เปลี่ยนเป็นคำเหน็บแนมแบบแฝงมิตรภาพ เช่น เวลามีคนเลียนาย ก็พูดแซวไปเลยว่า "ระวังกินข้าวไม่อร่อยนะ เดี๋ยวต่อมรับรู้รสเสียหมด" หรือ "นายขาชุ่มหมดแล้ว รีบให้แม่บ้านเอาผ้าไปเช็ดเร็ว" คนทำก็จะรู้ตัวแต่ก็ไม่รู้สึกว่าถูกตำหนิ ออกเป็นแนวฮาไป เราก็ไม่เสียสุขภาพจิต ถือว่าได้ระบายออกไปแล้วด้วย

    ใครมีอะไรเพิ่มเติมขอเชิญมาช่วยกันแชร์นะคะ

    แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 00:09:38

    จากคุณ : Without me - [ 19 ม.ค. 52 22:40:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com