ความคิดเห็นที่ 1 เฮ้อ  ตอบยากจังนะคะกรณีนี้  ยิ่งสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย เราก็เคยไม่มีความสุขในที่ทำงาน ตัดสินใจลาออก พอดีคุณยายป่วยเป็นอัมพาต  ก็เลยมาดูแลคุณยายได้ปีกว่าๆ แล้วทีนี้พี่สาวญาติๆกัน เปิดกิจการ  เลยโดนเด้งมาช่วยงานเค้า แต่เรามีความฝันเรื่องการเรียนภาษาญี่ปุ่น เราก็ไปลงเรียน สักวันจะทำความฝันให้มันเป็นจริง คุณ จขกท. ได้ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่หรือยัง บางทีท่านอาจจะมีคำแนะนำที่ดีแบบทีเราอาจคาดไม่ถึงก็ได้นะคะ สภาพเศรษฐกิจแบบนี้  ลองทนดูอีกสักหน่อยไหมคะ แนะนำอะไรได้ไม่มากเท่าไร เพราะทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับใจ จขกท. เองด้วยค่ะ สู้ๆนะคะ  เอาใจช่วย เราเองก็สภาพจิตใจไม่สู้ดีเท่าไร ไปอ่านกระทู้ของเราได้ที่ห้องสยามสแควร์นะคะ จากคุณ : ตุ๊กตาหน้ารถวีออส - [ 30 ม.ค. 52 19:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลองนึกดูว่า ก่อนจะออกจริง 1.มีสิ่งดีๆกี่อย่าง(ที่ทำงานปัจจุบัน) 2. มีสิ่งที่ไม่ดีไม่ชอบกี่อย่าง กรณีนี้ต้องไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน (ไม่มีหนี้+มีเงินเก็บไว้ใช้อย่างน้อยก็อยู่ได้เป็นปีแบบสบายๆ) หลังจากตัดสินใจแล้วก็ลุยงานเลย ไม่ว่าจะเลือกงานที่ไม่เจริญหรืองานที่ชอบ ทำให้มันดีลองทำดูสัก 5 ปี หลังจากนั้นก็ยังไม่สายที่จะคิดทำอะไรก็ได้ จากคุณ : เพื่อลูก - [ 30 ม.ค. 52 19:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องถามว่าอะไรสำคัญที่สุดสำหรับ จขกท  เงิน หรือ ความสุข ถ้าตอบว่าเงิน ก็จงตั้งหน้าทำงานไปทุกทางเพื่อให้ตัวเลขในบัญชีพุ่ง ถ้าตอบว่าความสุข ก็ทำงานที่รักชอบไปแล้วใช้จ่ายอย่างพอเพียงค่ะ เราเคยเจอชาวบ้านคนหนึ่งมีฝีมือในการทอผ้าฝ้ายและตัดเย็บกระเป๋า เราเดินเข้าไปดูแล้วชื่นชมฝีมือเค้าเลยถามว่ารู้จักอินเตอร์เน็ตไหมค่ะ ทำไมไม่นำเอาสินค้าไปขาย หรือรับ order ผ่านอินเตอร์เน็ต เค้าเงยหน้าขึ้นยิ้ม ตอบเราว่า ไม่รู้ว่าจะขายให้ได้เงินเยอะ ๆ ไปทำไม เพราะที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็ใช้พอแล้ว ลูก ๆ ก็เรียนจบแล้ว บ้านก็มีอยู่ ข้าวก็ปลูกเอง เป็ดไก่ ผักปลา กล้วย มีหมด เราฟังแล้วอึ้ง มันก็จริงนะ ถ้าหากเค้ารู้สึกว่าพอแล้ว ไม่ได้อยากได้บ้านหลังใหญ่กว่านี้ เงินมากกว่านี้ และไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้เงิน จำนวนมาก ๆ แค่มีความสุขกับงาน ได้เป็นนายตัวเองก็สุดยอดแล้ว เพราะท้ายที่สุด เราทำงานหาเงินมา นอกจากใช้ไปกับพวกปัจจัย 4 แล้ว เราก็เอาเงินพวกนั้น มาใช้จ่ายเพื่อสนองกิเลสตัวเองเท่านั้น  ส่วนเรื่องตำแหน่ง ยศฐา บันดาศักดิ์ เรามองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่จีรัง วันหนึ่งเมื่อแก่ตัวลง ปลดเกษียณจากวัยทำงานแล้ว เราก็จะกลายเป็นคนแก่ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ** แต่ จขกท ต้องมองให้ครบรอบด้านนะค่ะ ถ้าจำเป็นต้องหาเงินมา เพื่อช่วยเหลือครอบครัว บางทีความสุขของตัวเราเองอาจจะเป็นเรื่องรอง แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 20:16:29 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 20:13:30 จากคุณ : sampim - [ 30 ม.ค. 52 20:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราเข้าใจนะคะ ตอนนี้เราก็เป็นอยู่ นายดันเด็กของเค้า มาทำในตำแหน่งที่เราทำอยู่ ส่วนเราก็กลายเป็นทำงานกิ้กๆก็อกๆ เรื่อยเปื่อย ทั้งที่เด็กนั้นมาทำงานได้ไม่เท่าไร..เราอยากลาออกมาก เหมือนพยายามทำมากเท่าไร นายก็ไม่เห็นค่า มันหมดไฟ หมดแรงที่จะทำงานอ่ะค่ะ แต่ที่นี่เงินพิเศษเยอะ เดือนๆหนึ่งได้เป็นพันๆ ที่สำคัญคือ เราไม่ได้มีฐานะดีอะไร  ถ้าลาออกไปทำที่ใหม่ได้เงินน้อยจะทำงัย เพราะขนาดได้เงินพิเศษ ก็ยังแทบเเย่เลย แล้วพี่ที่สนิทก็บอกว่าให้อดทน... อดทน... มันก็เลยกลายเป็นว่า ถ้าเรารู้สึกท้อ เราจะพยายามทำงานเยอะๆให้ลืมค่ะ ^^ พอเงยหน้ามาก็เลิกงานแล้ว..ผ่านไปอีกวัน ขอโทษค่ะ ที่เล่าซะยาว แค่อยากให้รู้ว่าเรื่องที่คุณเจอคงไม่เลวร้ายเท่าเรา การทำงานที่มองไม่เห็นอนาคต หรือ ความก้าวหน้า แต่เราต้องทนอยู่ มันเหนื่อยมากค่ะ สู้ๆนะคะ ^^ จากคุณ : รักนะ..พ่อพยูนน้อย - [ 30 ม.ค. 52 20:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราเคยเจอปัญหาเดียวกันกับเจ้าของกระทู้เลย ตอนเรียนจบมาใหม่ๆ และตัดสินใจไปแล้ว นี่ก็ผ่านมาแล้วประมาณ 8 ปี  ...  ถ้ามว่าตัดสินใจอย่างไรดี  เราว่าขึ้นอยู่กับความต้องการที่แท้จริงของแต่ละคน เราเลือกงานที่เราชอบ และมีความสุขที่ได้ทำ แม้ตอนนั้นเงินเดือนจะน้อยกว่ากันเกินครึ่ง ความก้าวหน้า ความมั่นคงน้อยกว่า  ...  ตอนนั้นที่ตัิดสินใจหลายคนไม่เห็นด้วย แต่คงเพราะเรายังเด็กความอดทนต่อความไม่ชอบคงน้อยด้วย กับความรู้สึกเช่นเดียวกับเจ้าของกระทู้เลยค่ะ ตอนนี้งานที่ทำก็ยังคงเป็นงานที่ตัวเองได้เลือกแล้วครั้งนั้น จากที่เลยรู้สึกว่าไม่มั่นคง ความชอบ รักในงานที่ทำมันทำให้เรามีแรงผลักดันที่จะทำให้ตัวเองมีความมั่นคงมากขึ้น ...  มีความสุขกับการทำงานและใช้ชีวิตสุด ๆ แต่เงินเดือนยังคงน้อยกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างมากเหมือนเดิม 555 ถ้าเงินไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญอะไรมากมาย  เงินเดือนของงานที่ชอบสามารถทำให้เจ้าของกระทู้อยู่ได้ และคิดว่าจะทำงานนั้นได้ดี แนวโน้มการเลือกคงจะเป็นงานที่ชอบ   แต่ก็ควรเช็คความอยู่รอดว่าจะอยู่รอดหรือไม่ขึ้นอยู่กับอะไร เราสามารถบริหารจัดการส่วนนั้นได้มากน้อยขนาดไหน ถ้าเราจัดการได้มากโอกาสอยู่รอดคงสูง โอกาสเลือกงานที่ชอบคงมากขึ้น  และก็ควรคิดต่ออีกนิดว่าถ้ามันไม่รอดเราจะอยู่ได้ไหม ให้เวลากับตัวเองในการตัดสินใจนิดนึง ค่อย ๆ คิด พยายามคิดให้รอบ  ...  สู้ ๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : นางมารสวยมีฤทธิ์ - [ 30 ม.ค. 52 21:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าพร้อมเริ่องเงินอยู่แล้ว ก็ทำในสิ่งที่ชอบเถอะ แต่ถ้าตรงข้าม ก็อาจทำไปสักพักตั้งหลักให้ได้ เก็บเงินแล้วค่อยย้ายไม่น่าจะมีปัญหานะ สู้ๆ ^ ^ จากคุณ : KimYee - [ 30 ม.ค. 52 21:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่มีคำแนะนำคะ มาให้กำลังใจ   อย่าเครียดนะคะ  ค่อยๆตัดสินใจ จากคุณ : DeleteOne - [ 30 ม.ค. 52 21:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นเรื่องของ จขกท.แล้วอดตอบไม่ได้ เราเคยเป็นแบบคุณอ่ะค่ะ แล้วเราตัดสินใจเลือกงานที่ชอบ ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากที่สุดในชีวิต โดนคนรอบข้างประณามจนรู้สึกแย่ ตอนลาออกมาใหม่ๆ มีแต่คนมารุมถามว่าลาออกทำไม องค์กรนี้มีแต่คนเค้าอยากเข้า จะกลับไปหางานลูกจ้างพนักงานราชการแถวบ้านทำก็โดนแม่ว่า บอกไม่ต้องมาทำหรอก มาก็เป็นลูกน้องเพื่อนตัวเอง(แม่เค้าอาย) งานที่ใหม่ที่ทำก็เป็นงานของวุฒิ ม.6 เค้าทำกัน ก็มีแต่คนมาถามว่ามาทำทำไม ไม่มีอะไรหรอกค่ะ อยากบอกว่าบางครั้งมันก็ต้องแคร์สถานะภาพทางสังคมบ้างอ่ะค่ะ ยิ่งเราคน ตจว. ไอ้ที่ชอบเอาเรื่องลูกตัวเองคุยมาอวดกันอ่ะ คนเป็นลูกพาลจะเครียด จากคุณ : เข้าข่ายโฆษณา - [ 30 ม.ค. 52 21:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต้องดูฐานะที่บ้านน่ะค่ะ ถ้าที่บ้านมีกิจการหรือพ่อแม่ไม่ต้องมาเดือนร้อนจากเงินเดือนของเรา ก็เลือกทำอะไรที่ทำให้เรามีความสุขเถอะค่ะ แต่ถ้าต้องเลี้ยงหลายปากและหลายท้อง ก็ควรเลือกความมั่นคงให้กับชีวิต (ตัวเองและครอบครัว) ก่อนค่ะ จากคุณ : ยัยลีลี - [ 30 ม.ค. 52 21:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าฐานะไม่ลำบากอยากทำอะไรก็ทำครับ จากคุณ : Jump.Jr - [ 30 ม.ค. 52 21:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตามมาจากห้องแป้ง... ขั้นแรก ต้องตอบคำถามก่อนว่า จขกท ทำงานเพื่ออะไรคะ บางคน ทำงาน เพราะต้องการรายได้มายังชีพ ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องมุ่งที่ผลตอบแทนที่สูงกว่า ถูกไหมคะ อย่างธารน้ำ ก็ทำงานเพื่อแลกเงิน ความสุขจากการทำงานเป็นเรื่องรอง ความสุข สามารถไปหาจากที่อื่นค่ะ เพราะธารน้ำไม่ได้ทำงานแลกความสุข แต่กับคนอีกกลุ่ม ครอบครัวมีฐานะ หรืออาจจะใช้ชีวิตพอเพียง ก็สามารถเลือกงานที่มีความสุข เลือกทำในสิ่งที่ชอบได้ เช่นเพื่อนธารน้ำ ก็ผันตัวไปเป็นเกษตรกรซะงั้น ก็สุขแบบพอเพียง ไม่วุ่นวายค่ะ แต่ต้องมั่นใจนะคะ ว่าถ้ารายได้ลดลง แล้วจะเหลือเงินพอที่จะซื้อความสุขบางประเภทได้ (เช่นอาหารมื้ออร่อย หรือ ท่องเที่ยวทั่วไทยไกลทั่วโลก ฯลฯ) อ้อ สุภาษิตคำพังเพยไทย บอกว่า "หนีเสือปะจระเข้" เคยได้ยินไหมคะ ทุกองค์กรมีปัญหาค่ะ ยิ่งใกล้ ก็ยิ่งเห็นปัญหา .. ไม่มีที่ใด perfect แม้แต่บนสวรรค์ค่ะ จากคุณ : ธารน้ำ - [ 30 ม.ค. 52 22:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอนนี้ขออาสาไปทำงานดีเจ ลองไปทำดูรึยังค่ะ ลองรับโทรศัพท์ พูดคุยกับคนไม่รู้จัก เรียนรู้ระบบงานต่างๆ และที่สำคัญคือ การหาคนมาลงโฆษณา ที่หาได้ยากมากในยุคนี้ คิดดูดีๆ ถ้าเป็นเรา เราจะขอช่วยช่วงหลังเลิกงาน หรือตอนค่ำ แล้วมาคิดวิเคราะห์ว่า แท้จริงแล้ว เราต้องการอะไร บางอย่างดูผิวเผินว่า น่าทำ น่าสนุก ไม่เครียด แต่ลองทำจริงๆอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ถ้าให้ตอบอย่างไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้น "เลือกทำงานที่มีความสุขที่จะทำ" จากคุณ : MaiEsTa - [ 30 ม.ค. 52 23:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อยากให้จขกท.ทำอย่างนี้นะครับ ลองมองตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้าดูครับ คุณเห็นภาพตัวคุณในอนาคตที่มีความสุขกำลังทำอะไรอยู่ครับ ^_^ ทีนี้ขั้นต่อมาให้มองไปอนาคตไกลอีกนิด 10 ปีข้างหน้าครับ คราวนี้คุณเห็นอะไร ^_^ อย่าลืมคิดเผื่อกรณีสร้างครอบครัวด้วยล่ะครับ ทีนี้สิ่งที่ทำให้จขกท.ลังเลอยู่นั้น อะไรทำให้อนาคตจขกท.เป็นรูปเป็นร่างได้มากกว่ากันครับ? ^_^ จากคุณ : sleeper_j - [ 30 ม.ค. 52 23:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตามมาจากโต๊ะเครื่องแป้งครับ ถ้า จขกท.เพิ่งจบ ผมว่าชีวิตในการเลือกงานและปัญหาเหล่านี้ยังมีอีกสักพักแหละครับ ถ้าจะให้วิเคราะห์นะครับ ในมุมที่จะแนะนำให้เลือกทำงานที่เดิม... เพราะ 1.คุณอาจเพิ่งจบ ยังทนรับแรงกดดัน (ที่ยังไม่มาก..แต่คุณคิดว่ามาก เพราะคุณยังไม่เคยเจอประสบการณ์ที่แสนโหดร้ายในการทำงานมาก่อน พอมาเจอเลยเขว) 2.ถ้าที่บ้านมีหนี้สินพอประมาณ หรือคุณมีภาระทางครอบครัว ควรเลือกข้อนี้ครับ แต่......... ในมุมย้ายงานไปเลย เพราะ.. 1.คุณไม่มีภาระอะไรมากมาย และรับได้จากการถูกแรงเสียดทาน เสียดสีของคนรอบข้างถ้าจะออกมาทำงานดีเจ ก็เอาเลยครับ 2.คุณทนงานนั้นไม่ได้จริงๆ ย้ำว่า ไม่ได้จริงๆ 3.คุณมองอย่าง คห.13 ว่าไว้ 5 ปี 10 ปี ข้างหน้า คุณยังจะ Happy กับงานดีเจอยู่มั๊ย หรือแค่เบื่องานเดิมมากซะจน อยากหาไรทำที่ไม่เหมือนงานเดิม และคิดว่า (ย้ำนะครับว่า..คิดว่า คิดว่า) คิดว่าดีเจคืองานที่ใช่ เพราะทุกงานพอเอาเข้าจริง มีปัญหาหมด อยู่ที่ว่า คุณรับปัญหานั้นได้มากแค่ไหน หรือสำหรับคุณ ปัญหานั้นคือ ความท้าทาย หรือความเบื่อหน่ายที่จะแก้ ผม... เคยทำงานที่ได้เงินมาก มากกว่าวุฒิที่จบด้วยซ้ำ อยู่หลายปี แต่สุดท้าย มันเป็นงานที่ผมเป็นต้องนอนเครียดทุกวัน ทุกวันจริงๆครับ งานดีนะครับ และผมพยายามปรับตัวทุกอย่าง แต่ใจเรา เรารู้ครับว่ามันทุกข์ตอนทำ สุดท้ายตัดสินใจเปลี่ยนงาน งานใหม่ เงินต่ำกว่าเกินครึ่งของงานเดิม ลดระดับใบปริญญาลงอีกด้วย คนรอบข้างงี้อาจมอง แต่ไม่พูด เวลาคุยกับเพื่อนแทบไม่อยากพูดถึง เพราะไม่ใช่งานที่มีหน้ามีตาเท่าไหร่ โอกาสก้าวหน้า ไม่มากนัก แต่ทุกวันนี้ผมทำมา 2 ปีแล้ว และเวลาที่ผ่านมา 2 ปีนี้ ผมยังคิดเหมือน 2 ปีที่แล้วตอนที่เริ่มทำงานนี้ใหม่ๆว่า ผมชอบ ผมรัก และผมสนุก มันทำให้ผมเครียดน้อยลง มีความสุข ทั้งๆที่ปัญหาก็มีนะครับ ไม่ใช่ไม่มี แต่มันเป็นปัญหาที่ผ่านมา แล้วมันก็ผ่านไป ถึงตอนนี้ ผมว่าผมเลือกไม่ผิดครับ จากคุณ : stevyboy26 - [ 31 ม.ค. 52 00:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้ามั่นใจว่าออกไปไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ที่อาจจะไม่มั่นคงในอนาคต คือ มีเงินเก็บมีฐานเงินที่ดีแล้ว ..เป็นเรา เราก็ออกนะ (แต่ต้องแบบมั่นใจว่าจะไม่เดือดร้อนตัวเอง และ เดือดร้อนทางบ้านนะ) แต่ถ้าเพิ่งจบ เราจะทำงานองค์กรสักสองปีหละ .. เราคิดว่า ถึง มันจะระบบห่วยยังไง เราก็ยังได้เรียน รู้ว่า ถ้าจะให้ดีเป็นไง เป็นพื้นฐานไว้ก่อน ได้เห็นภาพรวมองค์กรประมาณนึง เก็บไว้เป็นทุน เผื่อจะต้องทำอะไรเองในอนาคต จะได้พอเห้นภาพ ส่วนงานที่ชอบ ถ้ายังต้องทำงานที่ต้องทำเพื่อการเรียนรู้ เราจะหาทางไปเรียนรู้มันด้วย ถ้าทำได้นะ ... เพื่อจะได้รู้ว่า เราชอบมันจริงๆ ไม่ใช่แค่ ชั่ววูบ แต่จะอย่างไรก็ดี ขอให้โชคดีในการตัดสินใจค่า สู้ๆ จากคุณ : greenmania - [ 31 ม.ค. 52 00:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ชีวิตมันก็เหมือนเล่นเกมผ่านด่านนะแหละครับ ตอนแรกที่เล่นมันจะรู้สึกว่ายากเล่นไปนานๆก็จะง่าย แล้วพอผ่านไป มันก็จะไปเจอด่านยากกว่าไปเรื่อยๆ...บางคนก็หยุด บางคนก็ผ่านได้ บางคนใช้ตัวช่วย....... ....งานบางงานดูแล้วสนุกมีความสุข แต่มันจะไปมีทุกข์หลังเลิกงาน 555 ....บางงานตอนทำมีปัญหามากมาไม่มีที่สิ้นสุดต้องมีปากเสียงกับคนรอบข้างทุกวัน แต่พอกลับมาอยู่บ้าน ปุบมันมีสุข จากคุณ : วิญญาณพเนจร - [ 31 ม.ค. 52 07:58:48 A:192.168.0.17 X:202.62.105.155 TicketID:177078 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เคยเจอแบบนี้เหมือนกันเลยค่ะ เมื่อปลายปีที่แล้วเราได้งานสองที่พร้อมกัน ที่แรกเป็นองค์กรใหญ่ ใครๆก็อยากจะเข้า ดูดีมั่นคงมั่งคั่งมากๆ อีกที่เป็นพนักงานขายหนังสือค่ะ แล้วเราก็เป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อยากไปทำร้านหนังสือที่สุด แต่ใครๆก็บอกว่าไปทำที่แรกเหอะ เงินเดือนมากกว่าตั้งหลายพัน แถมยังมีโอกาสก้าวหน้า ไม่ต้องมานั่งจมอยู่หน้าร้านขายของไปวันๆ ไอ้เราก็ลังเล แต่ก็คิดว่าเอาวะ ลองไปทำงานกับองค์กรใหญ่ดู น่าจะได้ประสบการณ์ดีๆ ก็เลยตัดสินใจไปทำงานกับบริษัทใหญ่ค่ะ ขอบอกว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาดที่สุด เพราะพอทำงานได้สามวัน ขึ้นวันที่สี่เค้าก็ไล่เราออกด้วยเหตุผลงี่เง่าว่า over qualify ตอนนั้นอึ้งมากค่ะ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มึนตึ๊บ เพิ่งจบใหม่เริ่มทำงานประจำ (ก่อนหน้านั้นทำเป็นโปรเจกท์) ไม่เคยคิดเลยว่าต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ มารู้ตอนหลังว่าแผนกนี้เค้าใช้คนละบัดเจทกับบริษัท แล้วแผนงานของทางแผนกก็โดนชะลอ ก็เลยถึงบางอ้อว่าเค้าคงไม่มีตังค์จ่ายเราอ่ะ เจอมาแบบนี้แล้ว เราว่างานที่ว่ามั่นคงหรือมีหนทางก้าวหน้า มันก็ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอไป ชีวิตคนเรามันไม่มีอะไรแน่นอน มันไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเหมือนตอบข้อสอบในโรงเรียน แต่ถ้าถามเรา คิดว่าเลือกงานที่ชอบไปเถอะค่ะ ถ้าไม่ได้เดือนร้อนเรื่องเงิน และไม่แคร์ขี้ปากคนอ่ะนะ ทำงานที่ชอบ จะได้มีความสุขและอยู่กับมันไปนานๆ จากคุณ : inventio - [ 31 ม.ค. 52 09:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าไม่ลำบากเรื่องเงน เลือกงานที่ชอบ แต่ถ้าอยู่ในระหว่างสร้างเนื้อสร้างตัว  เลือกงานที่มีโอกาสก้าวหน้า เงินดีค่ะ จากคุณ : khunrarin - [ 31 ม.ค. 52 09:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านๆไปเอ.....ทำไมมันเหมือนเราเมื่อ4ปีที่แล้วเลยแฮะ ทั้งอาชีพที่ดีเจที่แสนสนุกสนาน ตอนนั้นเราเพิ่งเรียนแฟชั่นดีไซน์จบ และเลือกที่จะกลับมาช่วยงานที่บ้าน (เพราะที่บ้านเป็นร้านตัดเสื้อ ) ตอนที่ตัดสินใจไปเรียนเพราะอยากช่วยที่บ้าน แต่กลับมาทำงานที่บ้านได้ 6-7ดือน ก็มาทำงานเป็นดีเจ จนถึงปัจจุบัน แล้วก็ค่อยๆทิ้งงานที่บ้านไปทีละนิด จนถึงตอนนี้ถ้าจะกลับไปทำอีกแปลว่าเราต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีก ซึ่งตอนนี้เรากำลังเสียใจที่เราทิ้งอาชีพที่เราตั้งใจและ.....สามารถเลี้ยงชีพเราได้......อันนี้คือเรื่องของเรา ที่เรากำลังเจอ แต่ไม่ได้แปลว่าคุณต้องเจอกับที่เราเจอ ใช่คะเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด เราเคยคิดแบบนั้น แต่คุณจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเงิน  เงินสามารถบัลดาลชีวิตเราให้เป็นในแบบที่เราต้องการได้นะคะ ตอนนี้เรายังไม่เห็นความจำเป็นของคุณที่ต้องลาออก จากงานที่มั่นคงเลยนี่คะ ทำไมไม่เลือกให้ดีเจ เป็นงานอดิเรก และเป็นเรื่องผ่อนคลายหลังเลิกงานก็ได้นี่ (ที่ออฟฟิศเรา ก็มีดีเจที่มาจัดรายการหลังเลิกงานนะคะ) เห็นบอกว่ารู้จักกับเจ้าของสถานี ไม่ลองคุยกับเค้าดูก่อนหล่ะคะ บางทีคุณอาจจะไม่ต้องเลือกก็ได้นะคะ..... อันนี้เป็นเรื่องที่อยากบอกคะ อาชีพดีเจ ไม่แค่สนุกไปวันๆนะคะ ความรับผิดค่อนข้างเยอะ คำพูดที่คุณพูดออกจากปากไปมันต้องมีความรับผิดชอบต่อคำพูดทุกคำ และอาชีพนี้จะทำให้คุณได้เรียนรู้ชีวิตแบบต่างๆจากคนฟัง เพราะคุณจะกลายเป็นศิราณีแบบ งงๆ ยังลองตัดสินดูนะคะ >>>แล้วก็ขอให้มความสุขแล้วก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่คุณเลือกนะคะ   >_______<   สู้ๆๆนะคะ จากคุณ : dj_golfmale - [ 31 ม.ค. 52 10:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อายุมันถอยหลังไม่ได้ถ้ามัวแต่ art อย่างเดียวจนอายุเกิน35แล้วยิ่งไม่มีกิจการเป็นของตัวเองด้วยแล้วเกิดพลาดพลั้งอะไรไปมันเริ่มต้นใหม่ยาก จากคุณ : กำลังคิดหนัก - [ 31 ม.ค. 52 12:08:09 A:125.25.169.67 X: TicketID:125520 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อาร์ตตัวแม่ จากคุณ : ขาจร (snookie) - [ 31 ม.ค. 52 18:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทำในสิ่งที่ชอบ  ทำในสิ่งที่รัก  อยู่กับมันและยอมรับมันครับ คุณคงต้องถามตัวเองนะครับ  ว่างานนั้นมันเป็นรักแท้ของคุณเลยหรือเปล่า  ถ้าใช้  จะรออะไรอยู่ครับ หลายคนในโลกนี้เกิดมา  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากทำอะไร  อยากเป็นอะไร  การที่คุณรู้ว่าตัวเองชอบอะไร รักอะไร  ถือว่าเป็นโชคดีของคุณแล้ว   อีกหลายคนในโลก  ก็รู้ว่าตัวเองชอบ หรือ รัก จะทำอะไร  แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ   ส่วนเงิน ก็แค่ให้พอค่าใช้จ่าย ค่าข้าว อย่าให้ขาดมากนัก   และ ถ้าได้ทำในสิ่งที่รัก  ทุ่มเทกับมัน  แล้วสิ่งอื่นๆ จะตามมา..... แต่........แน่ใจนะครับว่า ไม่ได้แค่ หลงคิดว่าไปเองนะว่า ที่ใหม่จะมีความสุขมากกว่า..... โตๆ กันแล้วด้วย  เมื่อตัดสินใจจะทำอะไร ก็เตรียมใจรับผลจากการตัดสินใจด้วย นะครับ โชคดี ....สู้ๆ จากคุณ : Mine_Knight - [ 31 ม.ค. 52 18:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ลองถามตัวเองว่าถ้าอายุสัก 40 คุณต้องการอะไร คุณจะต้องแต่งงาน มีภาระ มีลูก หรือรับผิดชอบดูแลพ่อแม่หรือเปล่า สิ่งที่คุณกำลังจะเลือก.....มันให้ในสิ่งที่คุณต้องการได้หรือไม่ สิ่งที่อยากทำ กับสิ่งที่ควรต้องทำ...มันแตกต่างกันค่ะ บางคนโชคดี ก็สามารถคอนโทรลสองสิ่งนี้ให้มันไปด้วยกันได้ แต่บางคนก็ไม่ใช่นะคะ.... ถ้าตัวเองมี background ที่ดี ไม่เดือดร้อน ไม่มีภาระ ก็ทำสิ่งที่อยากทำเถอะค่ะ แต่ถ้าไม่ใช่....ก็อย่าตามใจตัวเองให้มาก ใช้เหตุผลเยอะๆ ความกดดันในที่ทำงาน เท่าที่คุณเล่ามานั้น ดิฉันเจอมากว่าสามปีแล้วค่ะ ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงาน รายละเอียดในงานที่ทำ เท่านั้น แต่ไหนจะเรื่องเจ้านาย การเมืองในบริษัท สิ่งแวดล้อมและสภาพในที่ทำงาน......บลา บลา บลา คนเราจะไม่รู้จักความโชคดีของตัวเองในปัจจุบัน จนกว่าสิ่งนั้นจะกลายเป็นอดีตเพราะไปเจอสิ่งที่ร้ายกาจมากกว่า ประสบการณ์ตรงค่ะ จากคุณ : kookate - [ 31 ม.ค. 52 20:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าไม่มีภาระ เราทำงานที่รักค่ะ จากคุณ : HuGGie - [ 1 ก.พ. 52 21:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าเป็นเรา  จะทำงานเก็บเงิน ให้ได้ไปสักพัก รอให้รู้สึกว่า มั่นคงอยู่ตัว ก็ลาออก  เเล้วมาทำในสิ่งที่เรา ชอบเลย เพราะคุณเป็นคนโชคดี ขนาดของไม่ชอบ ยังมีโอกาสก้าวหน้าเงินเดือนดี เเล้ว พอ มีเงิน มึ แฟน ดูมั่นคง จะออกมาทำในสิ่ง ที่ตนเองชอบ สิ่งที่ตนเองรัก เเสดงว่าเราทำได้ดี ก็มีโอกาส ก้าวหน้าหรือ รวยได้มาก เหมือนกันนะคะ จากคุณ : prettyfit - [ 1 ก.พ. 52 23:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 งานที่ชอบดีกว่า จากคุณ : RedMiyoun - [ 1 ก.พ. 52 23:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมเป็นดีเจ  เป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆทางด้านดีเจ,และรายการวิทยุ แต่ผม มีความฝันอยากเป็นนักแต่งเพลง ใครว่าเป็นดีเจ เป็นเรื่องง่าย  ไม่ง่ายเลยนะ(ตอนแรกๆที่จะทำก็นึกว่าง่ายเหมือนกัน) คุณดูค่าใช้จ่าย ของคุณก่อนดีกว่า ว่าเดือนๆนึง ค่าใช้จ่ายสุงไหม (ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ให้แม่ ส่งน้องเรียน หรืออื่นๆ) เพราะงานดีเจ ก็ไม่ใช่ว่าเงินเยอะอะไรนักหนา ผมแนะนำนะครับ ดีเจ คือสิ่งที่คุณชอบล่ะก็  แบ่งเวลามาจัดรายการ เป็นงานอดิเรก ดีกว่าไหม ทำงานของคุณไปเรื่อยๆอ่ะแหล่ะ แล้วจัดเวลาสัก อาทิตย์ละ3ชั่วโมง มาจัดรายการวิทยุเป็นการคลายเครียด   แล้วถ้าคุณได้ลองงานดีเจ จริงๆจังๆแบบนี้แล้วรู้สึกว่า เลี้ยงตัวเองไหว ก็ค่อยลุยเต็มทีเลย จะดีกว่าไหม จากคุณ : aumpaump12 - [ 2 ก.พ. 52 05:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 รายละเอียดไม่พออ่ะค่ะ-*- เราอยากรู้เงินเดือนปัจจุบันของคุณกับเงินเดือนงานใหม่ที่คุณอยากทำ แล้วก็ภาระที่คุณต้องรับ ถ้างานใหม่ไม่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายของคุณได้ งานที่ชอบอาจทำให้คุณทุกข์ได้ในเรื่องการเงิน สังคมในการทำงานส่วนใหญ่มันก็เป็นอย่างนี้ล่ะค่ะ ไม่มีหรอก เจ้านายใจดี รุ่นพี่น่ารัก เพื่อนร่วมงานแสนดี ถ้าจบใหม่อาจจะยังรับไม่ค่อยได้ จากคุณ : นางเอกหนังไทย - [ 2 ก.พ. 52 12:49:07 ]