Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 19 - จัดระบบให้เวียดนาม

    แด่องค์กรที่แสนรัก

    เป็นการ เขียนประสบการณ์การทำงานในองค์กรอันดับหนึ่งของประเทศและของทั่วโลกในสาย อาชีพนี้ ตลอดระยะเวลา 15 ปี 2 เดือนที่อยู่ในองค์กรแห่งนี้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดมีโครงเรื่องจากเรื่องจริง อาจจะมีการดัดแปลงเพื่อทำให้เนื้อเรื่องสอดประสาน และ จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ทั้งนี้ จุดประสงค์ก็เพื่อที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ในแนวการบริหารจัดการ การพัฒนาความคิด และ ทางด้านอื่นๆ กับเพื่อนๆเท่านั้น...

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 1 - สมัครงาน
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7400209/B7400209.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 2 - ตกลงการทำงาน
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7402344/B7402344.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 3 - เริ่มงานวันแรก
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7405223/B7405223.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 4 - เป็นคนของใคร
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7408009/B7408009.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 5 - เริ่มเรียนรู้แผนกอื่นที่เกี่ยวข้อง
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7409476/B7409476.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 6 - รายงาน กับ ฟ้อง ไม่เหมือนกันนะ...
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7410604/B7410604.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 7 - แผนกบัญชี
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7413611/B7413611.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 7.5 - เป็นฑูต หรือ เป็นพวก ?
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7421552/B7421552.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 8 - เปลี่ยนงานตัวเองดีกว่า..
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7417808/B7417808.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 9 - โอนถ่ายงานให้ลูกน้อง
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7425084/B7425084.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 10 - ไปนอกครั้งแรก
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7435824/B7435824.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 11 - ได้มือขวา
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7439474/B7439474.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 12 - เครื่อง Server มีปัญหา
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7442344/B7442344.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 13 - อบรมพร้อมกับประชุมด้วยเลย
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7446652/B7446652.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 14 - ลุยไปยังไงก็ตาย ลุยเลย...
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7451348/B7451348.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 15 - บทเรียนจากการบังคับ
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7458441/B7458441.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 16 - มาเลย์ทึ่ง
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7461463/B7461463.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 17 - ที่ปรึกษาเข้าประเทศไทย
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7470280/B7470280.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 18 - เจาะลึกให้ถึงแก่น
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7486689/B7486689.html

    ----------------------------------------------------------------------------

    องค์กรของผมในประเทศไทย เราได้มีโอกาสในการเปิด องค์กรใหม่ที่เวียดนาม ซึ่งศูนย์กลางของเวียดนามอยู่ที่ โฮจิมินซิตี้ เจ้านายส่งผมไปเพื่อสอนงานและดูแลระบบงานต่างๆ ของเวียดนามในระยะต้นๆ เพื่อให้หน่วยงานเหมือนกับที่ผมทำอยู่ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

    แต่เมื่อผมลงจากสนามบิน เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ผมไปกับเพื่อนที่มารับ เนื่องจากมีการเปลี่ยนกฎระเบียบใหม่ ในช่วงก่อนที่ผมเข้าประเทศไปไม่ถึงสัปดาห์ ว่าต้องนำเอาจดหมายเชิญตัวจริงเท่านั้น ถึงจะให้ผ่านเข้าเมืองได้ ทำให้ผมต้องโดนพาตัวไปที่ โรงแรมของทางราชการ จนเมื่อเพื่อนๆผมได้ไปเอาหนังสือเชิญตัวจริงมา เขาถึงปล่อยตัวผมให้ไปกับเพื่อน

    ไม่ใช่ผมคนเดียวที่โดนอย่างนี้ นักธุรกิจหลายคนก็โดนเช่นกัน อยู่ในล๊อบบี้ กันหลายสิบคนเลยทีเดียว ซึ่งเป็นวันเสาร์ ติดต่อกับหน่วยงานก็ยาก เพราะบางองค์กรก็ปิดเสาร์/อาทิตย์ จึงเห็นฝรั่งอารมณ์เสียในล๊อบบี้กันมากมายเลยทีเดียว

    เพื่อนผมชื่อ ชิน เป็นคนที่ต้องเรียนรู้งานของผมทั้งหมด ได้มารับตั้งแต่ในสนามบิน และตามอยู่เป็นเพื่อนผมในโรงแรมของทางราชการด้วย ซึ่งกว่าที่ผมจะออกจากสนามบินได้ก็ปาเข้าไป 5 โมงเย็นแล้ว ดีที่เป็นวันเสาร์ ผมเลยไม่ค่อยกังวลมากนัก เพราะพรุ่งนี้ผมกะว่าจะไปพักผ่อนเดินเที่ยวเล่นอีก 1 วัน เมื่อออกจากโรงแรมที่ใช้กักตัวได้ ชิน กับ เพื่อนร่วมงาน 2 คนก็ได้แต่พาผมเข้าโรงแรมที่จองไว้ แล้วเขาถามถึงพรุ่งนี้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ซึ่งผมก็ไม่รู้จริงๆ เลยถามเขาว่าที่นี่คนต่างชาติมักไปที่ไหน ชิน เลยนัดว่าเขาจะพาไปเที่ยวเอง

    ทางเวียดนาม จองโรงแรมชั้นหนึ่งของที่นั่นให้พัก ซึ่งถ้าเทียบไปแล้ว ก็เหมือนกับโรงแรมชั้นสองของเรา ห้องน้ำมีคราบเล็กน้อย และมียุงเป็นเพื่อนด้วย ซึ่งก็แจ้งให้ ชิน รับทราบ พวกนั้นทำท่า งงๆ เล็กน้อย เพราะโรงแรมที่จองให้มีค่าห้องพักค่อนข้างแพงมาก แล้วทำไมคนที่มาจากเมืองไทย ถึงได้บอกว่ามันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ (เมื่อ ชิน ได้มีโอกาสมาที่ประเทศไทย เขาถึงรู้ว่า โรงแรมที่เราให้เขาพัก กับ โรงแรมที่เขาให้เราพักมันต่างกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว)

    กว่าผมจะทำอะไรเสร็จ ก็ปาเข้าไป ทุ่มครึ่ง เดินออกมาที่ถนน มืดไปหมด ไม่มีจุดไหนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆเลย เข้าไปถามพนักงานต้อนรับ เขาก็บอกว่าไม่น่าจะไปเที่ยวกลางคืนเพราะอันตราย และ ถ้าต่างชาติ ก็อย่าไปเที่ยวคนเดียว เพราะอาจจะโดนขโมยได้ ทำให้ผมต้องทานข้าวที่โรงแรม ดูโทรทัศน์ฟังภาษาเวียดนามก็ฟังไม่ออก ก็เลยปิดไฟแล้วนอนดีกว่า...

    วันรุ่งขึ้น ชิน เอารถตู้มารับผม พร้อมกับ พนักงานอีก 2-3 คน ที่อยู่ในแผนกเดียวกัน เพื่อทำความรู้จักซึ่งกันและกันก่อน ทำให้ผมรู้สึกดี เราไปเที่ยวที่ "กู๋จี" เป็นหลุมสู้รบตอนสงครามเวียดนาม เป็นหลุมขนาดเล็กๆ แค่คนรอดเข้าไปเดินสวนทางได้แค่ 2 คน ในถ้ำมีทางเข้าออกหลายทางมาก หน้าปากถ้ำมีการอำพรางซึ่งถ้าไม่สังเกตุก็มองไม่เห็น มีอยู่ปากถ้ำหนึ่งเขาไกด์บอกว่ามีปากถ้ำอยู่หาอย่างไรก็หาไม่เจอจนเขาต้องชี้ให้เราดู อีกทั้ง ถ้ำยังมีปล่องระบายควัน และ รับอากาศจากด้านบนพื้นดินแบบ ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ในสมัยนั้น เขาช่างคิด ช่างสร้างสรร และ ช่างเป็นนักขุดกันจริงๆ

    ในหลุมเล็กๆเหล่านั้น ประกอบไปด้วย ห้องพักทหาร มีห้องประชุม มีห้องวางแผน มีห้องเก็บอาวุธ และ อื่นๆ จัดแบ่งสรรปันส่วนอย่างดี ที่นอนพักผ่อนของทหารบางหน่วยก็ทำแค่ยื่นเข้าไปในผนังถ้ำเพื่อเป็นที่นอน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนเวียดนามในสมัยนั้น เราเที่ยวไป ไกด์ก็ชี้ให้เห็น ซากหลุมที่ถูกระเบิดลง ซากระเบิด และ อื่นๆ จากสงคราม มันเป็นอะไรที่ดูแล้วทำให้รู้สึกสงสารคนเวียดนาม ที่โดนรังแกจากประเทศมหาอำนาจ

    ตกเย็นก็กลับที่พัก ซึ่งคราวนี้กลับมาเช้าหน่อย เลยได้เดินรอบๆแถวนั้น เห็นคนเขาขายของกินข้างทางก็ไปซื้อกินด้วย เป็นก๋วยเตี๋ยวข้นๆ ก็อร่อยดีนะ แต่ก็ไม่กล้าออกไปไกลๆ เพราะพนักงานต้อนรับในโรงแรมบอกว่า คนต่างชาติไม่น่าจะออกไปเดินคนเดียวระแวกนั้น ผมเดินต่ออีกหน่อยก็กลับ

    เช้าวันรุ่งขึ้น ชิน มารับผมที่โรงแรมเพื่อไปที่ทำงาน ถนนที่นี่ในตอนเช้า มีแต่เสียงแตรของรถเสียงกริ่งของจักรยาน ถ้าในบ้านเราเขาเรียกว่ากดแตรด่า แต่ที่นั่น เหมือนกับเป็นเรื่องปกติไป วัฒนธรรมช่างแตกต่างกันจริงๆ รถยนต์ต้องกลัวมอเตอร์ไซด์และจักรยาน อีกทั้งที่นี่ก็ใช้รถตู้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งน้อยนักที่จะมีรถเก๋งให้เห็น

    เมื่อถึงที่ทำงาน เป็นสำนักงานไม่กี่ชั้น ซึ่งภายในไม่ได้ตบแต่งอะไรไว้มากนัก เข้าไปพบกับหัวหน้าใหญ่ที่นั่น ก่อนที่จะเข้าไปดำเนินการตรวจเช็คระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด และ ลงโปรแกรม ให้เริ่มทำงานได้

    ในแผนกมีเพียง 4 คน แต่ต้องทำการป้อนข้อมูลเป็น 2 เท่าของคนในไทย อีกทั้งยังมีศูนย์การเก็บข้อมูลอีก 2 ศูนย์ แยกอยู่ที่จังหวัดใหญ่ๆ ทางตอนเหนือ และ ตอนกลาง ดูเหมือนงานต่างๆจะยุ่งยาก แต่เมื่อดูข้อมูลแล้วส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนักสำหรับคนที่ทำงาน เนื่องจาก ข้อมูลของเขาง่ายกว่าของคนไทยมาก การแบ่งประเภทข้อมูลก็ง่ายกว่า จัดเก็บง่ายกว่า และ ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลซ้ำๆทั้งนั้น

    ผมให้ ชิน รับผิดชอบงานในส่วนการประมวลผลทั้งหมด ซึ่งเขาก็สามารถทำงานได้ดี และ ถามเขาว่า ทำไมเขาถึงมาทำงานที่นี่ คำตอบเป็นที่น่าแปลกมากที่เขาบอกว่า ที่นี่เป็นที่ๆมีเงินเดือนมากที่สุด คนอยากเข้าทำงานที่นี่มาก เมื่อเทียบกับเงินเดือนของลูกน้องผมแล้ว ชิน ยังได้เงินเดือนน้อยกว่าหัวหน้างานในตำแหน่งเดียวกันเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเมื่อ ชิน ถามถึงอัตราเงินเดือนของตำแหน่งเดียวกับเขา ผมก็เลยจำเป็นต้องบอกปัดไปว่า "ก็พอๆกับที่นี่" เพราะไม่ต้องการทำให้ ชิน และ เพื่อนๆ เสียกำลังใจในการทำงาน

    เพื่อนๆที่นั่นพยายามสอนให้ผมพูดภาษาของเขา ซึ่งก็สนุกสนานไปอีกแบบ แต่ผมก็พูดไม่ได้อยู่ดี ขนาดนับ 1 ถึง 10 ก็ไม่สามารถ เมื่อมองกลับมาตอนที่ต่างชาติเข้ามาเมืองไทยแรกๆ ผมก็พยายามสอนภาษาไทยให้กับเขา ตอนนี้โดนกับตัวเองถึงจะรู้ว่า บางทีคนเราก็ต้องยอมทำตามคนในพื้นที่ เพื่อที่จะไม่สร้างความแตกต่างมากนัก และ เพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรมของเพื่อนต่างชาติ และจะได้ทำงานประสานกันได้ง่ายขึ้น

    (หลังจากกลับมาเมืองไทย ผมกับชิน ก็ติดต่อกันค่อนข้างมาก ทั้งทางโทรศัพท์ และ เมล์ หลังๆ ก็จะเมล์กันอย่างเดียว จน ชิน ออกไปเรียนต่อที่ อเมริกา เราก็ยังติดต่อถามทุกข์สุขกันตลอดมา)

    กลับมาถึงเมืองไทยได้ไม่นาน บริษัทฯแม่ก็สั่งให้มีการจัดให้พนักงานทุกคนทำแบบสอบถาม "ความพึงพอใจของพนักงาน" ซึ่งต่างคนก็ต่างตอบอย่างตรงไปตรงมาตามแบบสอบถามนั้นๆ

    เมื่อผลออก MD เรียกประชุมผู้จัดการทุกแผนก มารับฟัง ผลของความพึงพอใจของพนักงานในไทย เมื่อเทียบกับต่างประเทศ ผลออกมาคือ...

    . - . - . - . - . - . - . - . - . - .

    (อ่านต่อตอนหน้านะครับ...)

    ข้อคิดที่ได้รับ

    - องค์กรระดับประเทศ ที่มีการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน โดยไม่ผ่อนผันอะไรเลย ทำให้ภาพพจน์ของประเทศดูไม่ดีในสายตาคนต่างชาติ ทั้งนี้ เวียดนาม ทำให้ผมรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงระบบใดๆก็ต้องให้เวลาในการปรับตัวของคนในระบบ อย่างค่อยเป็นค่อยไป

    - อะไรที่ไม่เคยเห็นกับตา ส่วนใหญ่จินตนาการไม่ออก ทั้งนี้ การอธิบายให้ชินรับรู้ กับการที่ชินได้มาเมืองไทย ทำให้เขารู้ว่า โรงแรมที่เขาจองให้ผมพัก กับโรงแรมของกรุงเทพฯ คุณภาพมันแตกต่างกันค่อนข้าง

    - แม้นแต่การทหารของเวียดนาม การบริหาร การจัดการ ทั้งโครงสร้างอาคาร และ ความเป็นอยู่ ก็ยังเป็นไปอย่างมีระบบ ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่สื่อให้เห็นว่า ชัยชนะของเวียดนาม ไม่เพียงแต่กลยุทธ์ที่ดี แต่ยังมีระบบการจัดการที่ดี เข้ามาเสริม ถึงได้ชัยชนะกลับมา (ลองเปรียบเทียบกับธุรกิจดูก็จะรู้ครับ)

    - วัฒนธรรมขององค์กร เกิดจากสภาพขององค์กร และ การยอมรับของคนในองค์กร การที่เวียดนามใช้แตรมากๆ นั่นถือเป็นวัฒนธรรมของเขาในการใช้รถใช้ถนน ดังนั้น อะไรที่องค์กรทำกันมากๆ หรือบ่อยๆครั้ง จนสมาชิกในองค์กรไม่เห็นว่าเป็นสิ่งผิดปกติ หรือ กลายมาเป็นเรื่องธรรมดาไป

    - การสร้างมิตรภาพ ง่ายกว่า การรักษามิตรภาพให้อยู่ตลอดไป คนส่วนใหญ่หวังแต่จะสร้างมิตรภาพ โดยไม่ได้คิดที่จะพยายามทำให้มิตรภาพเหล่านั้นอยู่ยั่งยืน เพราะว่ามันทำยากกว่า แต่ถ้าได้มิตรภาพนี้มา มันจะมีความจริงใจมากกว่า

    ---------------------------------------------------------------------------------

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 20 - พนักงานพอใจไม๊?
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7497764/B7497764.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 21 - ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจปี 40
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7504720/B7504720.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 22 - กำแพงวัด ที่มีรอยตำหนิ
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7512058/B7512058.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 23 - ช่วงเวลาขยายกิจการ
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7529263/B7529263.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 24 - ทุ่มเทด้วยใจ ได้ใจตอบแทน
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7543385/B7543385.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 25 - ซื้อตัวกับการวัดใจ
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7552106/B7552106.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 26 - พนักงานกลางคืน
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7568204/B7568204.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 27 - ความสงบสยบความเคลื่อนไหว
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7574934/B7574934.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 28 - กลยุทธ์ดึงพนักงานไม่ให้ลาออก
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7585141/B7585141.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 29 - ยกเครื่องทั้งระบบ
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7596543/B7596543.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 30 - ผลอยู่ที่ไหน...
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7603982/B7603982.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 31 - ทีมควบคุมคุณภาพ แต่โดนควบคุม
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7609860/B7609860.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 32 - จากหัวสมอง สู่กระดาษ
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7635568/B7635568.html

    wbj - แด่องค์กรที่แสนรัก - 33 - มีไฟ...ไฟก็เผาตัวเอง
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7643389/B7643389.html

    แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 14:23:14

    แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 52 01:34:44

    แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 52 01:10:15

    แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 00:39:06

    แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 12:30:06

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 00:55:05

    จากคุณ : wbj - [ 5 ก.พ. 52 13:27:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com