Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เมื่อผมต้องตกตะลึงกับเศรษฐกิจพอเพียงที่หลังบ้านผม

    ***สืบเนื่องจากตอนที่แล้ว***

    สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกคน
    ขอขอบคุณสำหรับทุกความเห็นที่ทุกท่านมอบให้เป็นอย่างมากเลยนะครับ
    หลังจากที่ผมได้อ่านความเห็นของบทความแรกของผม เรื่อง "เมื่อผมขายของในอีเบย์ ด้วย แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง"
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7492911/B7492911.html

    ผมแทบไม่อยากเชื่อว่า ทุกท่านจะให้ความสนใจกับบทความแรกของผมขนาดถึงนี้
    ดีใจมากเลยครับ
    ไม่อยากเชื่อเลยว่า แค่ผมได้เห็นคำง่ายๆ อย่าง "ขอบคุณ" หรือ "รออ่านต่อ" เพียงแค่นี้
    ก็ทำให้ผมรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาซึมเลยครับ
    และสำหรับคำแนะนำดีๆมากมายที่เพื่อนๆมอบให้กับผม
    ผมขอขอบคุณ และจะนำไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาตนเองและงานเขียนให้ดียิ่งๆขึ้นไปครับ
    ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความที่ผมเขียนจากประสบการณ์เล็กๆของผม
    จะสามารถสื่อถึงความรู้สึกดีๆที่ผมค้นพบจากปรัชญาพอเพียง ให้กับเพื่อนๆทุกๆคนครับ
    _______________________________________________________________________________


    "เมื่อผมต้องตกตะลึงกับเศรษฐกิจพอเพียงที่หลังบ้านผม"


    หลังจากที่ผมได้ขายโปสการ์ดรูปในหลวงไปได้ซักระยะหนึ่ง
    ผมก็รู้แล้วว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องหาสินค้าเกี่ยวกับในหลวงมาขายให้เยอะยิ่งขึ้น

    เพราะผมทราบดีว่า โปสการ์ดที่ผมขายอยู่นั้น เป็นสินค้าที่จะขายได้ดีในช่วงเทศกาลเท่านั้น
    เมื่อจบเทศกาลแล้ว จำนวนผู้สนใจจะซื้อก็คงจะลดลง จนถึงหมดไปในที่สุด
    เหมือนกับชะตากรรมของโปสการ์ดที่เหลือของผม ซึ่งจะต้องเข้าไปนอนหลับอย่างสงบ ในห้องเก็บของจนถึงปีหน้านั้นแหล่ะครับ

    ผมจึงเริ่มปรึกษากับภรรยาของผมอีกครั้ง
    โดยพยายามอธิบายว่า ทำไมผมถึงยังอยากขายสินค้าเกี่ยวกับในหลวง
    เหตุผลสำคัญของผมก็คือ ละแวกบ้านผมนั้น ถือเป็นแหล่งขายส่งสินค้าเกี่ยวกับในหลวงเลยทีเดียว

    ขออธิบายเพื่อให้เพื่อนๆได้เห็นภาพซักเล็กน้อยนะครับ
    ในสมัยเด็กๆ ตอนช่วงประถม ราวๆป. 5-6
    ช่วงนี้นั้น ผมได้รับอนุญาตให้เดินกลับบ้านจากโรงเรียนได้เองแล้ว

    สิ่งที่ผมชื่นชอบก็คือ การมองดูร้านค้าที่เปิดกิจการอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน
    ผมชอบดูร้านซ่อมรถและมอเตอร์ไซด์, ร้านขายอาหารตามสั่งที่ตั้งอยู่ติดๆกันหลายร้าน
    เมื่อเดินผ่านคอนโดฯ ผมก็อดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปดูว่า ต้นไม้ที่ห้องชั้นสามยังออกดอกสวยอยู่รึเปล่า?
    เมื่อมองข้ามถนนไปอีกฝั่ง จะมีร้านขายของเล่นเพื่อการศึกษาสำหรับเด็ก ขนาดหนึ่งห้องแถวอยู่หนึ่งร้าน
    ผมไม่กล้ามองร้านนี้ เพราะหน้าร้านจะมีหุ่นไม้ที่แสดงรูปตับไตไส้พุงของคนอยู่หนึ่งตัวเสมอ
    แม้คุณพ่อผมจะซื้อตัวต่อไม้สุดโปรดของผมจากร้านนี้ แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบมองหน้าร้านนี้เท่าไร
    ทุกครั้งที่ผ่าน ผมมักจะคิดเสมอว่า ซักวันเมื่อผมโตพอที่จะไม่กลัวเจ้าหุ่นไม้จอมโชว์ตับไตไส้พุงนี้เมื่อไร ผมจะเข้าไปเพื่อดูของเล่นในร้านดูซักครั้ง

    มีอยู่ร้านหนึ่งซึ่งพิเศษมาก ร้านนี้เขาขายเทปธรรมะครับ และจะมีคุณลุงป้านั่งเฝ้าร้านอยู่เสมอ
    แม้ผมจะยังเด็ก แต่ผมก็รู้สึกชอบร้านนี้มาก เพราะผมไม่เคยได้ยินใครบอกว่า แถวบ้านของเขามีร้านขายเทปธรรมะอยู่เลย
    นี่ทำให้ผมรู้สึกว่า ช่างเป็นเรื่องที่เท่เหลือเกิน ที่แถวบ้านผมมีร้านขายเทปธรรมะอยู่คนเดียว

    แต่ที่ผมแอบไม่บอกที่บ้านก็คือ บางวัน ผมก็จะเถลไถล เดินอ้อมไปอีกไกลว่าจะเดินเข้าบ้าน
    ที่ๆผมชอบแวะไปดูก็คือ ละแวกร้านขายธงชาติที่อยู่หลังวัดแถวบ้านนั้นเองครับ

    สิ่งที่ดึงดูดผมก็คือ ทุกร้านจะมีธงชาติเยอะแยะเต็มไปหมด ส่วนมากก็จะเป็นธงชาติไทยหลายขนาด
    มีพานธูป เครื่องบูชา และรูปในหลวงวางขายอยู่มากมาย
    ภาพร้านที่มีธงชาติและรูปในหลวงเยอะแยะเต็มไปหมดนั้น ถือเป็นความทรงจำที่ระลึกถึงการแอบเถลไถล ไม่ยอมกลับบ้านของผมเลยครับ

    จากคุณ : แมวกนล - [ 5 ก.พ. 52 14:26:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com