ความคิดเห็นที่ 1 วันที่ 2 ของการไปตะลอนบางแสน อากาศมันร้อนครับ อยากหาร้านกาแฟเย็น ๆ นั่ง ไปเจอร้านนึง หน้า ม บูฯ เลย เห็นมี PC ตั้งอยู่ในร้านสองเครื่องด้วย น่าจะให้เล่นคิดรายชั่วโมง พอเข้าไป พนักงาน [เป็นเด็กม บูฯ นี่ละครับ ทำงานพิเศษ] บอกว่า เล่นฟรีค่ะ ขอแค่สั่งกาแฟสักแก้ว ผมก็เลยขอเมนู พอเห็นราคาเท่านั้นละครับ... ชาผลไม้ร้อน 1 แก้ว 20 บาท !!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : cookiecompany - [ 7 ก.พ. 52 23:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในร้านที่เล่น Net ฟรี เห็นมีแปะไว้ด้วยว่า Wi-Fi ผมก็เลยถามว่า แบบนี้ ผมเอา Laptop มาเล่นเองได้ไหม ? พนักงานสาวน่ารักก็บอกว่า "ได้ค่ะ" ซึ่งความหมายก็คือ เล่น Wi-Fi ฟรีเช่นกัน วันรุ่งขึ้น ผมก็แบก Laptop มาเลย พอดีตอนเช้ามีคนโทรมาให้รับ Project ใหม่พอดีตอนนั่งกินข้าวผัดปูอยู่ริมทะเล - - "มีปลั๊กไฟนะคะ ชาร์จได้" พนักงานบอกผมเพิ่ม ผมสั่งชาเขียวนมสด 1 แก้ว [เรียกให้กระแดะคือ Green Tea Frappe - -/] ราคา 20 บาทอีกแล้ว !!! นั่งเล่นได้ไม่จำกัดเวลา เพราะในร้านคนก็ไม่เต็ม มีแค่ 2 - 3 จาก 6 - 7 โต๊ะ จนผมเองเป็นฝ่ายละอายใจ ต้องขอสั่งชาร้อนเพิ่มอีก 1 แก้ว 20 บาทอีกแล้ว... รวมแล้วทั้งสิ้น 40 บาท ได้เล่น Wi-Fi ไม่จำกัด + เสียบปลั๊กไฟด้วย - - จากคุณ : cookiecompany - [ 7 ก.พ. 52 23:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หลายท่านที่อยู่ตจว อยู่แล้ว อาจจะงงว่า... กระทู้นี้สื่ออะไรหว่า... ? แต่ผมสาบานได้ครับว่าผมเหวอมาก ที่สามารถนั่งกินกาแฟ + WiFi + ปลั๊กไฟได้ในราคา 20 บาท !!! ปรกติ ผมเป็นขาประจำ Starbucks ครับ ไอ้ชาเขียวนรกปั่นใส่นม ที่เรียกว่า Green Tea Frappe & Green Tea Latte นี่แก้วละ 150 - 170 บาท ถ้าละอายใจสั่งอีกแก้ว [ไม่เคยละอายใจหรอกครับ โดนแก้วแรกไป 150 - 170 เนี่ย - -] เอาชาเปล่า ๆ ร้อน ๆ 1 ถ้วย อย่างเช่นชา Zencha นี่ก็อีก 70 - 90 บาท ค่า Wi-Fi ถ้าอยากเล่นมีครับ ของ KSC คิดเป็นชั่วโมงแยกอีก สะระตะแล้ว... สถานการณ์เดียวกันเลย ต้องจ่ายอย่างน้อย ๆ ก็ 250 - 300 บาท แพงกว่านิดหน่อยเองแค่ 1200% เท่านั้น o_O!!! จากคุณ : cookiecompany - [ 7 ก.พ. 52 23:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นอกจากร้านกาแฟร้านนี้แล้ว ผมยังกินผัดไทยใส่กุ้ง 6 - 7 ตัวได้ในราคา 25 บาท จากร้านหน้า ม. ก่อนกลับแวะไปทานร้านป้าอ้วน [เพื่อนที่อยู่นั่นบอกให้ทานด้วยนะก่อนกลับ] สั่งข้าวเต้าหู้ไข่ทรงเครื่องใส่กุ้ง ราคา... 25 บาทอีกแล้ว o_O!!! ผัดไทยกุ้งสดที่ผมทานในกทม ขั้นต่ำจากร้านริมถนนก็ 50 บาท แพงกว่าแค่ 200% - - ถ้าทานในห้าง หนึ่งจาน ไม่ต่ำกว่าร้อย - - อยู่ที่นั่น 2 คืน เรื่องของกินนี่ประหนึ่งราชา อ้อ... มีไปนั่งร้านนมหลังมหา'ลัยชื่อ King โคนม สั่งมอลต์ปั่น ราคา 17 บาท เหวออีกแล้ว o_O!!! จากคุณ : cookiecompany - [ 7 ก.พ. 52 23:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปาดดดด ปกติแล้วของกินแถว ๆ มหาลัยก็ราคาประมาณนี้ครับ ถือว่าราคานศ. แล้วถ้ายิ่งเป็น ม.ตจว. อย่าง ม.บู หรือ มข. หรือ มทส. มันก็จะรู้สึกอย่างที่จขกท.บอกแหละครับ ป.ล.บางทีของแพงกว่ามาก ๆ ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีไปได้มากกว่าของถูก ๆ แต่ถูกใจหรอกครับ จากคุณ : Shinemon คุง - [ 7 ก.พ. 52 23:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คิดแง่แรก... Starbucks นี่เขาเก่งนะครับ ต้นทุนกาแฟจริง ๆ คงไม่ได้สูงเท่าไรแต่ขายได้แก้วละ 150 บาท แล้วก็มีคนไปกินเพียบ บางสาขาต้องแย่งที่นั่งกันเลย [ถึงตอนนี้จะมีข่าวปลดคนงานออก 7000 คนก็เถอะ - -] แต่พอคิดว่าเราก็เป็นหนึ่งในคนที่ไปนั่ง Starbucks แล้วก็อืม... - -a ถือว่าเค้าทำ Brand มาดีจริง ๆ สร้าง Value จาก... จากอะไรก็ไม่ทราบได้นะครับ ตอนนี้เศรษฐกิจบ้านเราไม่ดีเลย คนตกงานเพียบ ไม่ก็โดนลดเงินเดือน แต่ลองไปเดินตาม Starbucks บางสาขา อย่าง Siam Paragon / Villa Market พวกนี้ คนก็ยังล้นตลอด น่าแปลกจริง ๆ นะครับ คนกำลังซื้อสูงคงกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ส่วนคนทั่วประเทศยังมีกำลังซื้อต่ำกว่ามาก ผมเองเกิดและอยู่ในกรุงเทพตลอด อยู่ในเมือง ใช้ชีวิตแบบเมืองมาก ๆ เคยมีคนบอกว่า อยู่กทม น่ะ ค่าครองชีพมันสูง ผมก็คิดว่าสูง แต่ไม่คิดว่ามันจะต่างได้ขนาดนี้ ผมนี่โลกแคบจริง - - จากคุณ : cookiecompany - [ 7 ก.พ. 52 23:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อิ อิ สุขขีเจงๆ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 7 ก.พ. 52 23:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สมมติ รายได้ผมเดือนละ 50000 บาท ทำงานแถว BTS กิน Starbucks วันละ 1 แก้ว 150 บาท เดือนนึง 30 วัน คิดแค่วันทำงาน 20 วันก็เป็นเงิน 150 x 20 = 3000 บาท เอาไปสั่งชาเขียวนมสดที่บางแสนได้ 150 แก้ว กินได้ครึ่งปี - - ถามตัวเองว่า Starbucks นี่มันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ ? อืม... มันอร่อยแน่อยู่แล้ว แต่มันอร่อยกว่าชาเขียวนมสดแก้วละ 20 บาทแค่ไหนกัน ? จากคุณ : cookiecompany - [ 7 ก.พ. 52 23:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมมีเพื่อนคนนึง มีวิธีการคิดน่าสนใจ เธอบอกว่า ห้างไหนขายคนกลุ่มไหน ดูได้จาก Starbucks คือห้างไหนมี Starbucks แปลว่าหรู ยิ่งมีมากร้านในตัวห้างยิ่งหรูมาก อย่าง Siam Paragon นี่ รู้สึกจะมี 3 ร้าน Central World มี 2 ร้าน และความแน่นของลูกค้าในร้านก็บอกได้ว่า ห้างนั้น คนเดินมีกำลังซื้อแค่ไหน ผมเป็นจับกัง ถามจริง ๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่า Starbucks มันอร่อยกว่ากาแฟที่แก้วละ 20 - 40 บาทเท่าไรหรอก แต่ถ้าจะนัดใครสักคนมาคุยงาน หรือจะจีบสาวน่ารักสักคนหนึ่ง คนเมืองแท้ ๆ แบบผมคงไม่สามารถพูดว่า "ครับ ผมนัดที่ร้านกาแฟอาแปะ หลังตลาด ติดร้านหมูกระทะนะครับ" ยิ่งนัดสาวด้วย ใครจะกล้า - -? เมื่อผมรู้ตัวแว้บขึ้นมาแล้วว่า เอ... Starbucks มันไม่ได้อร่อยขนาดนั้นนี่หว่า แต่เราก็ยังต้องนัดที่นี่ ผมว่าบางที มันเหมือนเป็นกรรมของคนเมืองเหมือนกัน กับรายจ่ายประหลาด ๆ ต่อเดือนที่ไม่รู้จะจ่ายทำไม จากคุณ : cookiecompany - [ 7 ก.พ. 52 23:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ว่าใครก็คงคิดว่าทำงานในกรุงเทพฯ รวยกว่าคนตจว แน่ ๆ แต่เอาจริง ๆ อาจจะไม่ใช่อย่างนั้น เพื่อนผมทำงานอยู่ที่ Central world Office เงินเดือน 50000 Up ถูกซื้อตัวมา แต่ละเดือนต้องจ่ายค่าเสื้อผ้า คสอ ค่าดูแลตัวเองไม่ต่ำกว่า 1xxxx บาท ยังไม่รวมค่าเข้าสังคม ค่าซื้อกระเป๋าที่ทุกคนต้องมี เพื่อนผมกันเงินเดือนไปจ่ายตรงนี้ 2xxxx บาทต่อเดือน นี่ยังไม่นับค่ากินอยู่ในแต่ละวัน ค่าเดินทาง ค่ามือถือ และค่าผ่อนอื่น ๆ ตามแต่ละคน ลองมานั่งแยก ๆ ดู ครึ่งหนึ่งของเงินเดือนหายไปไหนก็ไม่รู้ คือไม่ได้แม้แต่วนอยู่ในประเทศ แต่ส่งกลับไปยังเจ้าของ Brand ที่เราจ่ายเงินให้ กาแฟ Starbucks กระเป๋า Long Champ ครีม Philosophy ร้านอาหาร Mc Donald มือถือ Apple iPhone ผมมีอาจารย์คนหนึ่งมาจากญี่ปุ่น จะอยู่ยาวในไทย เลยพาแกไปซื้อมือถือ มี Nokia / Samsung / Motorola แกถามว่า "มี Panasonic ไหม ?" สุดท้าย แกก็ซื้อ Panasonic ใช้ ไปเดิน Supermarket ซื้อของ บางอย่างในไทยก็มี คนไทยทำเป็นยี่ห้อไทย ราคาถูกกว่า แกก็เลือกซื้อของญี่ปุ่นที่ Imported เข้ามา ให้เหตุผลว่า เงินก้อนนี้จะกลับไปที่ญี่ปุ่น ของ Imported จากญี่ปุ่นจะได้เพิ่มยอดขายที่ต่างประเทศไปในตัวด้วย จากคุณ : cookiecompany - [ 8 ก.พ. 52 00:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ค่ากาแฟต่างกันไม่เท่าไร   ขับรถไปกินถึงบางแสนทุกวัน  ค่าน้ำมันกินเรียบ อิอิ เข้ามาดูวิบากกรรมของชีวิตคนเมืองหลวง จากคุณ : PaNok@WanDeRer - [ 8 ก.พ. 52 00:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่เคยกินสตาร์บั๊กแหละ  เคยแต่กินกาแฟปั่นใส่วิปครีมตลาดนัด20บาทเจ้า  ขนาด20บาทยังคิดประหยัดมาทำกินที่บ้านเองเลยค่ะ  น้ำแข็ง5บาทได้ตั้งหลายแก้ว  นมเราก็มีติดบ้านตลอด  เครื่องปั่นเราก็มี  ซื้อวิปครีมมาก็พอ ผล...จืดมั่ก ไม่อร่อย T-T  ไปซื้อกินตลาดนัดต่อดีกว่าเจ้า แก้ไขคำผิดจ้า แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 00:09:49 จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 8 ก.พ. 52 00:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หวัดดีครับ คุณคุกกี้ มะได้เจอสะนาน สำหรับต่างจังหวัดผมว่าไม่ไดถูกแบบนี้หมดหรอกนะครับ เพียงแต่คุณไปกินแถวที่มีเด็กเยอะ เด็กกำลังซื้อไม่มาก เขาตั้งราคาขายไม่สูงหรอกครับ ที่ กทม ก็มี ผมเรียนเกษตร กินข้าวในมหาลัยรวมน้ำไม่เกิน 30 กาแฟสดดอยตุงหอมกว่า starbuck อีก เพราะเขาเสริฟบนการบินไทย first class 25 บาท เค๊กมะตูม 30 บาท ถูกครับ ตอนนี้ผมทำงานแล้ว การกินกาแฟแก้วละ 150 ก็ถือว่าไม่มากสำหรับเงินเดือนผม แต่ก็ไม่คุ้มหรอกครับ ผมใช้วิธีซื้อเมล็ดกาแฟ จาก starbuck มาชงกับเครื่องที่บ้าน เพราะว่า starbuck ไม่มีเตียงให้ผม เวลาวิเคราะห์งบยากๆ ผมคิดบนเตียง wifi ฟรี ขนมเพียบ เพราะในห้องนอนมี mini bar คุณคุกกี้ครับ ความเห็นส่วนตัวของผมนะ ผมว่ากินกาแฟมาหลายร้าน ตั้งแต่ร้านแพงๆ ถึงกาแฟตาแป๊ะใส่กระป๋องนมข้น อร่อยเหมือนกันหมด แต่ starbuck ไม่ได้ขายกาแฟ แต่ขายประสบการณ์ในการกินกาแฟ เพราะการกินในร้านนั้น มันมีเรื่อง รสนิยม การแสดงฐานะทางสังคม รวมเข้าไปอยู่ด้วย ขนาดผมมี macbook ผมยังไม่เคยเอามันไปกางในร้านกาแฟเลย เผมก็ไม่เข้าใจนะว่า ถ้าอย่างคุณคุกกี้ จำเป็นต้องติดต่องาน มันคือความจำเป็นในอาชีพ แต่เด็กๆ เข้าไปนั่งกาง notebook ใน starbuck ทำไปเพื่ออะไร .... จำเป็น หรือ อวดว่ากูมี ค่านิยมล้วนๆ จากคุณ : moojiw - [ 8 ก.พ. 52 00:09:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดีจังคะ  ชอบ ชอบกระทุ้นี้ที่สุดดดด แหะ แหะ  (สารภาพ)เป็นเด็กบางแสนอ่ะ เคยกิน starbucks ครั้งเดียวคะ(มีคนเลี้ยง  ฮิ  ฮิ)แต่ก็รู้สึกเฉยๆ สู้กินร้านลุงหน้าหมู่บ้าน 15บาท อร่อยด้วยสบายกระเป๋าด้วยดีกว่า (จริงๆแล้วลิ้นไม่ถึงและไม่ชอบของแพงอ่ะน้า... ฮ่า  ฮ่า) มาบ่อยๆนะคะ  บางแสนยินดีต้อนรับนะจ้า จากคุณ : Work-Heart&Mr,Post-Man (Work@heart) - [ 8 ก.พ. 52 00:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เศรษฐกิจไม่ดี ใครก็พูดแบบนี้ ลองมานั่งนึกดู ไม่รู้ว่าที่เงินไม่พอใช้นี่เพราะรายรับน้อยไปหรือว่ารายจ่ายมากเกิน เมื่อวานผมไป Pub แถวอารีย์ เลี้ยงวันเกิดเพื่อน ยังเต็มทุกโต๊ะ เดือนที่แล้วไป Pub แถวเอกมัยมา ค่าเหล้า Smirnoff โดนไปขวดละ 1700 บาท ถ้าซื้อข้างนอกกินเองไม่ถึงพัน แพงค่าที่ ค่ารสนิยม [+ ค่ามองสาว ๆ ใน Pub ในระดับน่ารักมาก ๆ อันนี้ไม่แพง :)] เรารับน้อยไป หรือเราจ่ายมากเกิน บางอย่างเราจ่ายแพงเพื่อความจำเป็น ลองมานังนึกดู มันจำเป็นอย่างไร กาแฟแก้วละ 150 จำเป็นเพราะนัดลูกค้า นัดสาว จิบไปมองตากันไป นัดทานข้าวครั้งแรก อย่างน้อยต้องร้านอาหารญี่ปุ่นมื้อละพัน ต่อด้วยเค้กชิ้นละ 200 นัดสาวงวดหน้า ผมจะนัดไปทานผัดซีอิ๊วร้านอาแปะแถวบ้าน - -/ จากคุณ : cookiecompany - [ 8 ก.พ. 52 00:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถูกจริงๆ ค่ะ อยากให้ที่ทำงาน มีอาหารราคานักศึกษาบ้างจัง ราคาวัยทำงานรับไม่ได้ เกิดมาจนต้องทำใจ - -" จากคุณ : เจ้านายตัวเอง - [ 8 ก.พ. 52 00:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาพยักหน้าเห็นด้วยครับ ^__^ จากคุณ : sleeper_j - [ 8 ก.พ. 52 00:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนไป Singapore คราวก่อน เพื่อนคนไทยผมคุยกับเพื่อนชาว Singapore ไอ้ไทย : ประเทศเมิงน่าสงสารเนาะ เล็กกระปิ๊ดเดียว ธรรมชาติแมร่งก็ไม่มี ต้องสร้างเกาะ อนาถจิ๊บ ไอ้ SG : จริง ประเทศกรูเลยให้เงินเดือนเยอะ ๆ ไง จะได้เอาเศษ ๆ เงินไปจ่ายทิ้งเล่นที่ประเทศเมิง [อย่าถามผมนะครับว่ามันเป็นเพื่อนกันได้ไงวะ - -?] จริง ๆ ที่ตั้งกระทู้นี้มาก็เพื่อ.... ลืมแล้วว่าตั้งทำไม - -''' จะบอกว่าบางแสนนี่ดีจัง อาหารการกินก็ถูก สาว ม บูฯ ก็น่ารัก ไม่ไกลกทม ด้วย ผมว่านะ ช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี น่าจะเป็นช่วงที่เราได้พัก หันกลับมาดูว่า เอ... เดือน ๆ นึงเราใช้เงินกับอะไรไปบ้าง เห็นเคาน์เตอร์ คสอ ตามห้าง พอแปะป้าย Sale 20 - 50% ก็ยังมีคุณสาว ๆ แย่งกันซื้อเหมือนแจกฟรีอยู่ - - แล้วพอซื้อกลับมา ก็ไม่ได้ใช้ คือเห็นถูกปุ๊บ คนมุงเยอะ ๆ ปั๊บ ชั้นแย่งไว้ก่อน เอามาทำอะไรก็ไม่รู้ บางที ผมยังแอบคิด ๆ ว่า อืม... Starbucks เจ๊งได้ก็ดี คนจนลง ไม่มีเงินนั่งร้านกาแฟแพง ๆ ก็ดี ถ้าไม่มีกาแฟแก้วละ 150 บาท อาจเป็นทีของกาแฟคนไทยแก้วละ 50 บาทบ้าง เมื่อเรามีเงินน้อยลง เราก็น่าจะจ่ายน้อยลง ลองมองดูดี ๆ ของที่แพงทุกอย่าง เป็นของที่สุดท้าย เงินเทออกไปนอกประเทศทั้งนั้น จากคุณ : cookiecompany - [ 8 ก.พ. 52 00:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จ่ายค่าโลเกชั่นให้สตาร์บั๊คส์ไงคะ เลยแพงไปมาก จากคุณ : HuGGie - [ 8 ก.พ. 52 00:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนไทยบริโภค Alcohol ติดอันดับโลก ทั้งที่เป็นเมืองร้อน ไม่ได้จำเป็นต้องกินเหล้าให้ร่างกายอบอุ่นเลย ตอนอยู่ในร้านกาแฟที่บางแสน มีฝรั่งเยอรมันคนนึงเข้ามาในร้าน แกมองเห็นเบียร์ยี่ห้อหนึ่งขวดสีเขียว ๆ แช่อยู่ในตู้ แกก็ถามพนักงานว่า "มีเบียร์สิงห่ามั้ย" พนักงานบอกว่าไม่มี มีแต่ไอ้เบียร์สีเขียวแต่ดาวแดง แกหันไปพูดกับผู้หญิงที่มาด้วยกันว่า "เบียร์สีเขียวนี่ ที่ประเทศผมไม่เรียกว่าเบียร์หรอก" ผู้หญิงก็เลยบอกว่า เดี๋ยวจ่ายเงินให้เด็กในร้านวิ่งไปซื้อเบียร์สิงห่าเข้ามาให้มั้ย แปลกไหมครับ อาจารย์ผมเป็นคนญี่ปุ่น ที่เขาเรียกว่า Sensei ผู้หญิงประเทศนี้ทานเหล้ากันดุเดือดมาก ไม่แพ้ผู้ชาย เบียร์ที่ดังก็คือ Asahi เชื่อไหมครับว่า ญี่ปุ่นทุกคน ถ้าได้ลองเบียร์สิงห่าแล้วละก็ จะลืม Asahi ไปเลย เบียร์สิงห่าก็คือ Singha Beer นี่เอง ฝรั่งรวมทั้งเยอรมันประเทศแห่งเบียร์ ชอบมันมาก ญี่ปุ่นก็ชอบ แต่คนไทยไม่สั่งเบียร์สิงห่า เพราะมันเป็นเบียร์ในกลุ่มที่ต่ำกว่าเบียร์ขวดเขียว อันนี้ ถ้าใครชอบรสของเบียร์ขวดเขียวมากกว่าจริง ๆ ก็ไม่ได้ว่ากันครับ แต่อย่างผม ลิ้นจับกัง กินไปก็ไม่ค่อยรู้รสหรอก แยกไม่ออก ขอสั่งเบียร์ขวดเขียวดีกว่า เพราะตั้งอยู่บนโต๊ะแล้วมันดูดีกว่าเบียร์ขวดเหลือง นี่เป็นความจำเป็น ? หรือเราอ้างว่าจำเป็นก็ไม่รู้ เหมือน ๆ กับที่บอกว่าจำเป็นต้องนั่ง Starbucks นั่นละ จากคุณ : cookiecompany - [ 8 ก.พ. 52 00:45:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ้าวผมเข้าใจผิดมาตั้งนานเหรอครับเนี่ยว่า "เบียร์สิงห่า" เป็นเบียร์ระดับพรีเมี่ยมถ้าจะเอาความเท่ห์ผมว่ามันก็ไม่แพ้ดาวแดงนะ ส่วนตัวถ้าไม่จำเป็นหรือลูกค้าไม่นัดเองจะไม่เข้าร้าน starbucks ชอบเข้าร้านที่บรรยากาศเป็นมิตรมากกว่าร้านนี้ จากคุณ : normalfx - [ 8 ก.พ. 52 01:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สิ่งที่ผมอยากจะเล่า ผมเกิดมาในบ้านที่ฐานะไม่ได้ดี จำได้ว่าตอนเด็ก ทุกอาทิตย์ ผม พี่น้องและพ่อแม่จะพร้อมหน้ากันที่ Chester's Grill นั่งกินไก่ย่าง พ่อผมชอบทาน Hot Dog มาก เป็นอาหารฝรั่งในความเข้าใจของคนที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่เป็นมื้อที่อร่อย มีความสุข ตอนนั้น แค่ได้ทาน Chester's Grill ก็ดีมากแล้ว บ้านผมไม่มีรถยนต์ พ่อทำงานขี่มอเตอร์ไซค์ส่งของ แดดออกก็ร้อน ฝนตกก็เปียก Chester's Grill ในวันนั้นอร่อยมาก ผมยังจำโต๊ะที่เรา 5 คนนั่งริมประตูทางออกด้านหลังในห้างแถวท่าพระได้ เวลาผ่านไป สี่ปีก่อน พ่อผมเสีย ปีที่แล้วน้องสาวได้ทุนจากจุฬาฯ ไปเรียนที่ญี่ปุ่น พี่สาวผมเป็นคนเก่งมาก ทำงาน กลับบ้านแค่อาทิตย์ละ 2 - 3 วัน เรามีบ้านหลังที่ 2 ใหญ่ขึ้น แต่คนอยู่น้อยลง บางวันผมไปออกงานข้างนอก มีคุณแม่อยู่บ้านคนเดียว ตอนนี้ Chester's Grill ไม่อร่อยอีกแล้ว มันไม่ได้เป็นมื้อพิเศษอีกต่อไปแล้ว Chester's Grill คืออาหารขยะ ที่มีแต่เนื้อไก่เร่งโตกับขนมปังแห้ง ๆ ไว้ทานเวลารีบก่อนไปประชุม ผมคิดว่า Chester's Grill ปัจจุบันนี่เป็นอาหารที่แย่มาก ไม่อร่อย ไม่น่าเข้า พี่สาวผมบอกว่า Chester's Grill ยังอร่อยเท่าเดิม แต่เรา "ตัวใหญ่" ขึ้นเท่านั้นเอง เหมือนที่ทำไมตอนเด็ก ๆ การได้ไปทาน Swensen ต้องตื่นเต้นดีใจ แต่ตอนนี้ Swensen ทานไม่ได้ แสบคอ หวาน ไม่ได้เรื่อง อย่างน้อย ๆ ต้องเข้า Haagen Dazs เพราะว่าเรา "ตัวใหญ่" ขึ้นต่างหาก คิดแล้วก็เศร้าใจ ตอนนั้น ทุกวันอาทิตย์ Chester's Grill คือมื้อพิเศษจริง ๆ จนถึงตอนนี้ ผมยังคิดถึงรสชาติหนึ่ง ที่หาไม่ได้จากร้านอาหารแพง ๆ มันคือรสชาติของความพิเศษ คือรสชาติของความสุข ที่เราย้อนกลับมาไม่ได้ เมื่อเรา "ตัวใหญ่" ขึ้น สิ่งเล็ก ๆ ที่เราเคยมีความสุขกับมันได้ ก็กลับกลายเป็นแค่ขยะไร้ค่า มีเรื่องหนึ่งที่ผมไม่เคยบอกใคร นาน ๆ ครั้ง ผมยังแวะกลับไปที่ห้างเก่าตรงบ้านหลังเดิม เดินไปหยุดดูที่มุมร้าน Chester's Grill ใกล้กับประตูด้านหลัง มีครอบครัว พ่อแม่พร้อมหน้าลูก ๆ มานั่งทานไก่กัน อาจเป็นครอบครัวของคนตัวเล็ก ที่พ่อขี่มอเตอร์ไซค์ส่งของ แต่ Hot Dog ก็อร่อย และ Chester's Grill ก็เป็นมื้อที่พิเศษ บางครั้ง เห็นภาพความสุขบนสิ่งเล็กและเรียบง่าย ก็ทำให้เศร้าอย่างไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน สิ่งนั้นอาจเป็นความอิจฉาลึก ๆ ที่เห็นใครคนอื่นอยู่กันพร้อมหน้า กับความสุขที่แสนง่าย กับคำถามว่าทำไม... สำหรับเราที่ตัวใหญ่ขึ้น ถึงมีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีค่ามากไม่ได้เหมือนอย่างครั้งนั้นแล้ว Chester's Grill ยังเป็นมื้อพิเศษได้อยู่หรือเปล่า... ? จากคุณ : cookiecompany - [ 8 ก.พ. 52 01:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สิงห่า เบียร์จาก Singapore ไทเกอ เบียร์จาก Thailand :) จากคุณ : Morning Star - [ 8 ก.พ. 52 02:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านแล้วรู้สึกดีใจจัง  ที่เรามันพวกลิ้นจระเข้  กินอะไรก็อร่อยหมดเจ้า  ถ้าร้านไหนเรากินแล้วไม่อร่อย แหวะ ร้านนั้นเตรียมตัวเจ๊งได้เลย -_-'  ดีจังไม่ต้องห่วงว่าอาหารร้านไหนอร่อยไม่หร่อย  เพราะกินได้หมด 555 จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 8 ก.พ. 52 02:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบ คห.22 ที่สุดครับ ปล.ชลบุรีก็น่าเที่ยวจริง ๆ แหละ เสียอย่างเดียว มันอันตรายมาก ๆ เมื่อก่อนตอนเรียนที่หัวตะเข้ใหม่ ๆ กลางคืนก็ไปกันกับเพื่อน ๆ ประจำ นั่งเล่น กินอะไรเรื่อยเปื่อยแถว ๆ บางแสน บางคืนเด็กแว๊นซ์เยอะ ขี่รถมาตีกิน ไล่ยิงกันก็มี จากคุณ : high_voltage_XL - [ 8 ก.พ. 52 03:46:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอแชร์ด้วยคนค่ะ ดิฉันคิดว่าสิ่งที่เราขาดคือการภูมิใจในสิ่งที่เรามี และชาตินิยมนะคะ ฟังดูเหมือนตลก เพราะทุกคนคงเถียงว่าคนไทยรักชาติมาก ใช่ค่ะ คนไทยรักชาติมาก แต่ยังขาดในเรื่องนิยมของที่เป็นของชาติอยู่นะคะ ดิฉันอยู่ตปท (ออสเตรเลีย) กาแฟสตาบัคส์ ไม่สามารถต่อกรกับกาแฟสัญชาติออสเตรเลียที่มีอยู่ได้เลย ช่วงวิกฤษเศรษฐกิจแบบนี้ก็เลยเห็นสตาบัคส์ปิดไปหลายร้านเลยค่ะ ในขณะที่กาแฟสัญชาติออสเตรเลียยังเปิดให้บริการคนเนืองแน่นค่ะ นอกจากนี้ทุกคนตระหนักว่า ตอนนี้เป็นช่วงที่ไม่มั่นคง คนที่นี่ก็พร้อมใจกันเลือกที่จะไปเที่ยวในประเทศมากกว่าไปเที่ยวตปทค่ะ จากคุณ : ผ่านมา - [ 8 ก.พ. 52 05:54:15 A:115.129.3.165 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นกระทู้ ที่ดี ครับ อ่านแล้วชอบ จากคุณ : พนมพร - [ 8 ก.พ. 52 09:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ สาเหตุหลักเลยด้วยซ้ำ ที่ทำให้ผมอยากกลับไปอยู่แถวนั้น ทำงานแถวนั้น จะมีอะไรเลิศไปกว่า วิวข้างหน้าเป็นทะเล (หรือภูเขา) เรานั่งพิมพ์งานส่ง เพื่อนก็ทักผ่าน WLM มาว่า ร้านโรจน์มั้ยแก คิดถึงจริง ๆ ให้ดิ้นตายยยยยยยยยยย....... จากคุณ : ตวงสิทธิ์ - [ 8 ก.พ. 52 11:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ใช่กรรมอะไรของคนกรุงเทพหรอก พวกคุณมันไปยึดติดเรื่องค่านิยมที่ฟุ้งเฟ้อกันเอง ผมเงินเดือนมากกว่าเพื่อนคุณอยู่หลายหมื่น แต่การใช้จ่ายแต่ละเดือน หมื่นเดียวก็เอาอยู่ เพราะผมไม่ฟุ้งเฟ้อ สตาร์บั๊คอะหรอ อย่าหวังว่าจะได้กินเงินผมหรอก จากคุณ : bloody_bunny - [ 8 ก.พ. 52 11:08:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาอ่านครับ จากคุณ : นายไวรัส - [ 8 ก.พ. 52 11:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 บางครั้งจ่ายเงิน 150-200 ได้อะไรมากกว่ากาแฟนะครับ จากคุณ : ชายผู้ไร้ซึ่งความรัก - [ 8 ก.พ. 52 12:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ชอบแนวคิดคุณ cookie เสมอ อ่อ อยากบอกว่าตอนแรก (เมื่อประมาณปีก่อน หรือสองปีก่อนเนี่ยแหละได้มั้ง) ที่เราเห็น ชื่อคุณcookiecompany เรานึกว่าคุณทำเบเกอรี่ขายซะอีก -- แอบโง่ อ่อ เราว่าคุณนี่เหมาะเขียนหนังสือเหมือนกันแฮะ แล้วอย่าลืมไปตั้งบทความน่ารักๆที่ห้องแป้งบ้างนะคะ คุณ moojiw อีกคน เราว่าไม่เห็นคอมเม้นท์คุณนานเหมือนกัน ชอบอ่านอ่ะค่ะ อ๋อ แล้วตอนนี้สตาร์บัคตอนนี้เนี่ย ถ้ามีบิลตอนเช้า ตอนบ่ายมันลด 50% น่ะค่ะ เราว่าเป็นเหตุหนึ่งที่คนเยอะ (เพราะออฟฟิสเรา ปกติไม่ค่อยมีคนกินเพราะมันแพง พอมีลดแบบนี้ ไปกินกันเพียบเลย แล้วบอกว่าซื้อประสบการณ์อ่ะค่ะ) แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 13:38:20 จากคุณ : แผนกอ่านแล้วเก็บไปคิด (@Nana-cute@) - [ 8 ก.พ. 52 13:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 บางทีเราก็ไปกางโนตบุคในสตาร์บัคส์เหมือนกันนะคะ เพราะออกมาคุยงานกับเพื่อนที่มหาลัย แล้วต้องหาที่นั่งทำงานต่อ ทั้งๆที่กินไม่เป็นหรอกกาแฟ ไปถึงก็สั่งแต่ชอคโกแลต เพื่อนเราหลายๆคนก็เป็น ที่จะหอบหิ้วเอาแลปทอปมานั่งทำงานข้างนอก มันสะดวกเวลาเจอคนที่ติดต่องานน่ะ แต่ก็มีบางประเภท บอกว่าอยู่บ้านคิดไม่ออก เอาแต่อู้ ออกมานั่งทำข้างนอกแล้วได้งาน อันนี้ก็ต้องถือว่าจ่ายค่าที่ให้เขาไป ส่วนเรื่องราคาอาหารที่คุณคุกกี้ไปทาน เป็นเพราะอยู่ใกล้มหาลัยด้วยแหละค่ะ ตั้งราคาตามกำลังซื้อ แต่ทำไมจามจุรีสแคร์หรือสยามไม่ราคาแบบนี้บ้างนะ จากคุณ : Claudia - [ 8 ก.พ. 52 14:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความสุขที่สุดของชีวิต คือการได้ทำงาน ท่ามกลางความสุข และความสุขก็ไม่จำเป็นต้องซื้อด้วยเงินแพงๆ อิจฉาค่ะ อิจฉา เราอยู่บางแสนแท้ๆ ยังไม่เคยไปในมุมที่หนุ่มกรุงเทพมาถ่ายทอดให้ชม เฮ้อ.... เสาร์-อาทิตย์นี้ ขอไปนั่งชมวิวบางแสน ชิมกาแฟหอมๆ ด้วยคน ซะแล้ว... จากคุณ : เดี๋ยวเจอกัน (Nice_CD) - [ 8 ก.พ. 52 15:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำทีเดียวสองห้อง ทั้งสีลมและก้นครัว เหวอไปเลยผม ^^'' ตอนแรกเริ่มกระทู้นี้กะจะเอาฮา ทำไมไป ๆ มา ๆ น้ำตาท่วม - - ทักทายคุณ moojiw ด้วยเช่นกันครับ ไม่ได้คุยกันนานทีเดียว มุมนึง ก็เหมือนบ่นว่าทำไมต้องไปกิน Starbucks แพง ๆ แต่มองอีกมุม ก็น่าชื่นชมเขานะครับ ว่าเอ... เขาทำได้ไงนะ แล้วถ้าของไทยอยากทำบ้างละ จะได้ไหม ? อย่าง Naraya นี่เมืองไทยขายถูกมาก แต่เมืองนอกเขาดังนะครับ ญี่ปุ่นมาที หอบกลับเป็นกิโล ๆ แต่คนไทยด้วยกันเองไม่ชอบ ตอนนี้ต้อง Longchamp :P ว่าแต่ เบียร์สิงห่า นี่มัน Singapore จริงรึครับ เพิ่งรู้จริง ๆ ครับเนี่ย = = บางแสนเมืองสวยนะครับ คนก็เป็นมิตรมากกว่าคนกทม ส่วนใหญ่ ไปแล้วชอบมาก ใกล้ ๆ ด้วย ขับแค่ 1 ชม เอง จากคุณ : cookiecompany - [ 8 ก.พ. 52 15:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมว่า สตาร์บัค ไม่ได้ขายจุดเด่นที่ มันอร่อย อย่างเดียว แต่มันคือ "ทำเล " ไงครับ สังเกต มันจะอยู่ในห้างหรูๆ เท่านั้น ในย่านคนทำงาน และเน้นบรรยากาศ คนนั่งกินสบายๆ มันก็เหมือนเดินห้างมาเหนื่อยๆ อยากหาที่นั่งพักขาสักนิด หรือหาที่เงียบๆ คุยธุรกิจ งานการกัน ก็ต้องกินกาแฟ ถ้าจะให้กินข้าวมันก็ หนักและ วุ่นวายเกินไป ผมก็เคยสงสัยตัวเอง ที่กินเบียร์สิงห์ ขวดละ 150 ได้ไง ในร้าน คาราโอเกะ ก็เพราะมัน มีอย่างอื่นเสริมนอกจากเบียร์ อาหารก็แพง กินไปได้ไง มันก็เหมือนสตาร์บัค ซึ่ง สิ่งที่เรากินไม่ใช่แค่กาแฟ เราบริโภค โต๊ะนั่ง บรรยากาศ ไปด้วย จากคุณ : handsumboy (handsumboy) - [ 8 ก.พ. 52 16:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาอ่านค่ะ เป็นกระทู้ที่ตรงใจจริงๆ ชอบค่ะ จากคุณ : มอมแมม - [ 8 ก.พ. 52 17:09:18 A:58.8.18.117 X: TicketID:127128 ]

ความคิดเห็นที่ 38 "ของแพง" ช่วยแบ่งชนชั้น "คนชั้นบน" ไม่ชอบอยู่ปนกับ "คนชั้นล่าง" "คนชั้นกลาง" บางกลุ่ม ก็อยากขึ้นไป "ข้างบน" ของ Brand ที่ "หรู" และ "แพง" เลยขายดี น่าแปลกที่ ความสุขที่แท้จริงของเรา มักจะมาจาก "ของถูก" แต่คนมากมายก็ยังอดไม่ได้ที่ขวนขวายหา "ของแพง" มาติดตัว "ของถูก" ส่วนใหญ่ให้ความสุขทางใจ "ของแพง" ส่วนใหญ่ให้ความสุขทางกาย ซื้อของ "ลดราคา" หลายคนก็อิ่มเอมใจ รู้สึกว่าจ่าย "ถูก" ได้ของ "แพง" จากคุณ : jezo - [ 8 ก.พ. 52 17:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมซวยกว่า ตัวเองไม่ได้กินกาแฟหรอก นะ ดังนั้น stbck กินผมยาก แต่ทำไงได้ ไปกะสาว ก็ต้องเลี้ยงเธอ ผมก็ต้องกินด้วย รวมเค้ก อีก ก็ สี่ร้อย ยังไม่พอ สักพัก เพื่อนเธอมาอีกสาม ก็ นะ ... โดนไปอีก หกร้อย เจ็ดเข้ แค่ dessert โดนไปพันนึงแย้ว ขนาด รายได้ผมต่อเดือน หกหลัก ยังเซ็งเลย ไอ้ stbck เนี่ย อยากให้ร้านมันเจ้งไปเลย แพงชิบ จากคุณ : เชื่อเหอะ - [ 8 ก.พ. 52 18:43:07 A:192.168.0.17 X:210.203.191.253 TicketID:201386 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมกินได้หมดอะ ไป mbk ขากลับผ่านร้านกาแฟหลังหอศิลป์ ซื้อทุกครั้ง 15 บาท บางครั้งซื้อชาเขียวปั่น 90 บาท (ทรูคอฟฟี่) ก็อร่อยนะ เเต่ก็แอบเสียดายตังนิดๆ เรื่องยังงี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมจริงๆ   จากคุณ : papayatop - [ 8 ก.พ. 52 20:11:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เคยได้ยินมาว่า Starbucks ไม่ได้ขายแค่กาแฟ แต่ขาย experience ด้วย ของบางอย่าง เราไม่ได้ซื้อมันแค่สิ่งของ แต่เรายังซื้อเรื่องราวของมันด้วย เหมือนการซื้อคนมาทำงานที่บริษัท เราไม่ได้ซื้อประสบการณ์ปัจจุบันของเค้าอย่างเดียว แต่เราซื้อความมุ่งมั่น ทุ่มเทตั้งแต่สมัยเรียนของเค้า ซื้อประสบการณ์ที่เค้าสั่งสมมาหลาย 10 ปีจนประสบความสำเร็จจนเตะตาให้บริษัทไปคว้าเค้ามาร่วมงาน ส่วนเรื่อง Chester's Grill เราว่ามันเป็นเรื่องพัฒนาการของ "ความอยาก" ของเราค่ะ อย่างที่เราไปปฏิบัติธรรม แล้วได้ฟังคุณอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง คนที่เขียนหนังสือ "เข็มทิศชีวิต" ทั้งเล่ม 1 และ 2 ขายดิบขายดีจนถึงทุกวันนี้ คุณอ้อยบอกว่า วิชาความรู้ทั้งโลก สอนให้เราทำยังไงก็ได้ให้หาน้ำให้เต็มแก้ว แต่เราไม่ได้เรียนจากโรงเรียนก็คือ แก้ว หรือ ความอยาก ไม่เคยหยุดโต ความอยากของมนุษย์มันจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าเราจะพัฒนาความสามารถในการหาน้ำเก่งซักแค่ไหน เราจะไม่มีวันหาน้ำได้ทันกับแก้วที่ไม่เคยหยุดโต เมื่อก่อน อาจะเทียบเมื่อตอนเราเด็ก ๆ เราอาจจะคิดว่าถ้ามีอันนี้แล้ว (Chester's Grill หรือ Swensen) เราจะมีความสุข แต่พอเอาเข้าจริง ๆ มันก็อยากได้อย่างอื่นต่อไป แค่ตอนอยากได้ ก็ทุกข์แล้ว พอได้มา กลัวเสียไป กลัวคนอื่นแย่งไป หงุดหงิด ทะเลาะกัน ทุกข์อีก แล้วพอเสียไปจริง ๆ ทุกข์หนักกว่าตอนไม่มีเป็นไหน ๆ แค้ถึงแม้จะไม่เสียไปเนี่ย ของข้างนอกเนี่ย พอได้สมอยากแล้ว เดี๋ยวมันก็อยากได้อย่างอื่นต่อไปอีก ในโลกเรา มันมีหลุมกับดักล่อเราตลอดเวลา ล่อให้เราไปซื้อ ของที่เราไม่ควรซื้อ ไปใช้เวลาสิ่งที่ทำให้เราหายนะ เมื่อไหร่ที่เรารู้ทันความอยาก เราจะสามารถปรับขนาดของแก้ว ไม่ให้มันใหญ่ขึ้น หรือรู้ทันไปเรื่อย ๆ เราจะสามารถปรับขนาดของแก้วหรือความอยาก หรือ กิเลสให้มันเล็กลงไปเรื่อย ๆ ถ้าเรามีน้ำครึ่งแก้ว แล้วเราปรับขนาดของแก้วให้เหลือแค่ 1/4 เราก็จะมีเกินพอ จากคุณ : ยัยลีลี - [ 8 ก.พ. 52 20:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คห.ที่23 เป็นมุข ขำๆ ใช่ปะ  เบียร์สิงห์ของ ไทย  เบียร์ไทเกอร์ ของ มาเล ค่ะ และอีกอย่างหนึ่งในฐานะที่เป็นคนดื่มเบียร์บ้างเป็นบางครั้ง คิดว่า รสชาดของ เบียร์ขวดเขียวจะอ่อนกว่า เบียร์สิงห์ ค่ะ ดื่มง่าย ไม่ค่อยเมาค่ะ แต่ถ้าต้องการเมาเร็วๆ ก็สิงห์ เลย อร่อย และก็เมาดี แต่ เมาไม่ขับนะคะ อันตรายค่ะ ดื่มเพื่อสังสรรค์สนุกสนาน แต่ไม่เป็นภาระใคร และไม่เสียงานค่ะ จากคุณ : มาสคาร่าฟ้าใส - [ 8 ก.พ. 52 21:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 44 starbucksนี่นานๆทีจะได้ซื้อกินซะที ด้วยงบนิสิตคนนึง ให้กินทุกวันคงไม่ไหว จนตายพอดี.... อย่างที่เคยเรียนมา starbucks เค้าขายexperienceอย่างที่พี่ๆว่ากัน แต่หนูว่าประสบการณ์ที่ว่านี่มันก็ค่านิยมเมกันดีๆนี่แหละค่า.... จากคุณ : OriGaml - [ 8 ก.พ. 52 22:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 45 1. มนุษย์ต้องการสิ่งที่ตนเองไม่มี 2. เวลาที่เราวิ่งมารับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ เมื่อถึงโทรศัพท์ เสียงมันมักจะหยุด เราจะช้าไป 1 จังหวะเสมอ 3. ถ้าแอบรักใคร อย่าฝากใครไปบอก บอกด้วยตัวเองจะดีกว่า 4. เวลาสั่งอาหารไว้นานแล้วยังไม่ได้สักที ให้พูดว่า " ไม่เอาแล้วนะ " จะได้เร็ว 5. ถ้าเรียกเก็บเงินแล้ว ไม่มีใครมาเก็บเสียที ให้ลุกขึ้นทำท่าจะกลับทั้งโต๊ะ จะมีพนักงานพุ่งมาทันที 6. ปลูกต้นลั่นทมไว้หน้าบ้าน ไม่เกี่ยวอะไรกับความทุกข์ระทมของตัวเราเลย 7. ระวังคนขายโรตีที่เพิ่งเดินออกมาจากป่าละเมาะ, พุ่มไม้, ซอกตึก อย่าตัดสินใจซื้อจนกว่าเขาจะล้างมือ 8. ไม่มีสัจจะในร้านตัดเสื้อ 9. ระวังคนที่แสดงออกว่าเป็นคนดีมากๆ 10. อย่าซื้อทุเรียนมาปอกเอง 11. หนังสือดี คือหนังสือที่เราชอบอ่าน หนังดีคือ หนังที่เราชอบดู 12. อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เรานินทามากๆ อย่าลืมย้ำบ่อยๆ ว่า " อย่าบอกใครนะ " 13. อย่าทิ้งกระดาษชำระไว้ในชามก๋วยเตี๋ยว คนล้างจะเสียความรู้สึก 14. เรียกยามว่าซีเคียวรีตี้ การ์ด ยามจะตั้งใจโบกรถ 15. อย่าซื้ออะไรที่ต้องเอามาซ่อมต่อ 16. รถในเมืองไทยพวงมาลัยอยู่ทางขวา แต่ฝาน้ำมัน ไม่อยู่ขวาเสมอไป 17. ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน ไม่ต้องเอายาสีฟันไปก็ได้ ยังไงเพื่อนต้องมีอยู่แล้ว 18. ตลาด อ.ต.ก. มาจากคำว่า เอเวอรี่ติง เกินราคา 19. เวลาดูหนังโรง ควรจำว่ากระบอกน้ำของเราน้ำอยู่ด้านไหน 20. ตัดผมวันพุธได้ ไม่บาป 21. คนไม่กินเนื้อ ไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีเสมอไป 22. เวลาบ้วนน้ำยาลิสเตอรีนออกจากปาก ให้หลับตาด้วย 23. ปูอัด มันทำมาจากปลา 24. กินก๋วยเตี๋ยวด้วยตะเกียบไม้ ... อร่อยกว่า 25. อย่าไปจ่ายตลาดเวลาหิว เราจะซื้อมาเยอะเกินจำเป็นเสมอ 26. ในโลกนี้จะชอบมีคนมาทักเราอยู่ 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรก อ้วนขึ้นนะ กับประเภทที่ 2 ผอมลงนะ ไม่มีใครเข้ามาทักว่า " ปกติดีนี่ ไปทำอะไรมา " 27. คนที่เอาหมวกตำรวจ หรือชุดตำรวจแขวนไว้หลังรถ มิใช่เพราะบ้านเค้าไม่มีตู้ เค้าไม่ได้ลืม เค้าแค่กลัวคนไม่รู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร 28. คนที่มีรถทะเบียนเลขเดียวเรียงติดกันหลายๆ ตัว เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา 29. คนที่มีความรู้มากๆ เขามักจะใช้ความรู้ขังจินตนาการ 30. ฟู่ฟ่าเดี๋ยวก็วาย เรียบง่ายอยู่ได้นาน 31. จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา 32. เวลาที่เปิดหนังสือให้เพื่อนดู หน้าที่ตัวเองพูดถึงมักจะหาไม่เจอ 33. ขนม และน้ำในโรงหนัง จะแพงกว่าข้างนอก 34. ห้องน้ำผู้หญิง ผู้ชายเข้าไปดูเป็นพวกโรคจิต, ห้องน้ำผู้ชาย ผู้หญิงเข้ามาดูเป็นแม่บ้าน 35. เวลารถติด เลนอื่นมักไปได้เร็วกว่าเลนเราเสมอ 36. ถ้าเราขับรถไม่ทันไฟเขียวเป็นคันสุดท้าย ให้คิดว่าเดี๋ยวเราจะได้ไปเป็นคันแรก 37. ถ้ามีการแนะนำตัวว่า " นี่เพื่อนฉัน " หมายความว่า " แฟนฉัน " 38. ถ้ามีการแนะนำตัวว่า " นี่แฟนฉัน " หมายความว่า " ผัว / เมียฉัน " และ ... 39. "สตาร์บัคส์" กาแฟสัญชาติอเมริกัน ที่วางตำแหน่งแบรนด์และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกาแฟระดับหรูหราหรือพรีเมียม และมีสาขาทั่วโลก เฉพาะที่ประเทศไทยเปิดให้บริการไปแล้วมากกว่า 130 สาขาทั่วประเทศในปัจจุบัน แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 52 00:12:54 จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 8 ก.พ. 52 23:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ภาพในคห.6 ถ่ายที่ซีคอนใช่ไหมครับ ผมไม่ได้คิดว่าซีคอนหรูนะ แต่มันก็ยังมี Starbucks แถมติด ๆ กันนั้นก็มีอีกยี่ห้อนึงที่แพงรองลงมา นั่นคือ Coffee World อ่านไปอ่านมาไม่คิดว่าจะซึ้งขนาดนี้ ทำเอาผมน้ำตาซึมเลยเมื่อเจอเรื่อง Chester's Grill กับ Swensen's เข้าไป เพราะเป็นเหมือนกันเลย ตอนเด็ก ๆ ผมมีความสุขมากที่พ่อแม่ชวนผมไปกินผัดไทยที่ทองหล่อตอนกลางคืน หรือว่าไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัฒนาพานิชที่เอกมัยกันวันอาทิตย์ แต่ทำไมตอนนี้ของแบบนั้นกลับไม่ได้ทำให้ผมมีความสุขอีกแล้วนะ ทำไมต้องกินเหลาแพง ๆ สเต็กอย่างดี บุฟเฟต์ในโรงแรม หรือว่าต้องมาใส่ Adidas, Vans, Onit ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนใส่ Breaker ก็เท่สุด ๆ แล้ว เห้อออ เราตัวใหญ่ขึ้นจริง ๆ ไปปฏิบัติธรรมตาม คห.42 ดีกว่า... จากคุณ : Shinemon คุง - [ 8 ก.พ. 52 23:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 47 นิยามรักฉบับ MBA วิชา Consumer Behavior (CB0143) ********* PLC 1 Introductory Stage************* แรกพบ - Unique Selling Point ปรับปรุงการแต่งตัว - Re-packaging เริ่มจีบ - Service Minded โทรคุย - Telemarketing เทียวไล้เทียวขื่อ - Home Delivery เลี้ยงข้าว - Financial Investment NPV 0 มอบดอกไม้ - Impulse Purchase เจอคู่แข่ง - Frontal Attack Strategy ปรึกษาเพื่อน - Decision Influencer ถามพี่น้อง - Market Research พ่อสื่อแม่ชัก - Multi Level Marketing ตัดสินใจไม่ได้ - Awareness Buying Process No.1 ถามแม่ดูก่อน - Information Gatering Buying Process No.2 เอาว่ะไม่ลองไม่รู้ - Decision Buying Process No.3 จูงมือชมฟาร์มจรเข้ - Action Buying Process No.4 *********** PLC 2 Growth Stage **************** คบเป็นแฟน - Product Oriented เปิดตัว - Product Launching ที่เก่าเวลาเดิม(นะจ๊ะ) - Brand Loyalty ดูหนังฮันนีมูนซีท - Bundling กุ๊กกิ๊ก - Kuk Kik ป้อนข้าวป้อนขนม - Customer Satisfaction ************* PLC 3 Mature Stage ****************** ที่เก่าเวลาเดิม(อีกแหละ) - Commodity พรุ่งนี้ค่อยคุยนะวันนี้เหนื่อย - Half Truth ********** PLC 4 Decline Stage **************** โรคแพ้สายเดี่ยว - Differentiated Product สายตาสอดส่าย 360 องศา - Targeting Market Coverage เราเป็นเพื่อนกันนะ ?............ - Brand Switching แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 52 00:14:01 จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 9 ก.พ. 52 00:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอมองต่างมุมติ๊สนึง ทำไมคุณ cookie ถึงต้องเศร้าใจด้วยละครับเรื่อง swensen กับ chester grill บางที chester มันก็อาจจะห่วยลงจริง ๆ ก็ได้นี่ ส่วน swensen มันก็อาจจะไม่ดีจริง ๆ ตรงที่ว่า มันหวานกว่า และเรื่องรสชาติก็อาจจะไม่ดีกว่า โอเค เมื่อเราพบสิ่งที่ดีกว่า เราก็ไปหาสิ่งนั้น ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะโอเคนี่นา ถ้าเราเอาการค้นพบสิ่งที่ดีกว่าแล้วไปหา อย่างในกรณี เช่น อ๊า บะหมี่ร้านอาโก อร่อยกว่าร้าน อาม่า เราก็ไปกินร้านอาโกกัน มันก็อาจจะเป็นแค่ พัฒนาการ ธรรมดา ๆ ที่คนเราก็มักจะไปหาสิ่งที่คิดว่าตัวเองดีกว่า แต่ไหง chester กับ swensen ถึงเป็นความเศร้าที่โดดออกมาสำหรับคุณ cookie แต่เรื่องการเปลี่ยนไปหาสิ่งที่ดีกว่าเรื่อง ๆ อื่น ดูจะเป็นเรื่อยเฉย ๆ ล่ะครับ ปล ถ้ามันเกี่ยวกับความหลังครอบครัวลึก ๆ ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เ็ป็นไรนะครับ :-D --- ที่ผมถามผมคิดในแง่ที่ว่า บะหมี่อาโก --> บะหมี่อาม่า Swensen --> Haagen Daz Chester --> ????? ทำไม 2 อันหลังถึงมีความแตกต่างจากอันแรก คนเราก็ต้องไปหาอะไรอร่อย ๆ ใส่ปากนี่นา ไม่น่าจะเกี่ยวกับตัวใหญ่ตัวเล็ก, unlimited greed ตรงไหนเลย จากคุณ : ขอมองต่างมุม (EAGo) - [ 9 ก.พ. 52 00:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ คุ๊กกี้ และ #43 ไอ้เรื่องเบียร์ไทยเบียร์สิงคโปร์มันเป็นมุกครับ พวกที่เคยเป็นจับกังอยู่ต่างประเทศ (อย่างผม) จะเข้าใจดี ว่าฝรั่งมักเข้าใจผิดเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอาหาร + ราคา จะว่าไป การที่เราโตขึ้น มันทำให้ผมเข้าใจว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือข้างทางชามละ 25 บาท มันอร่อยกว่าก๋วยเตี๋ยวเรือท่าสยามเป็นไหน ๆ ยิ่งไม่ต้องเทียบกับก๋วยเตี๋ยวเรือเศษผักเศษเนื้อที่อนุสาวรีย์เลย ส่วนเรื่อง Chester Grill กับ Swensens บางทีความคิดที่ว่า เราตัวใหญ่ขึ้น มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดไปซะทีเดียว สมัยก่อนผมได้เดินพาต้า ได้ขึ้นเมอร์รี่คิงส์ นี่ สุดยอดไปเลย สมัยนี้ถ้าจะให้ไปเดิน บอกได้คำเดียวว่า จะเสียเวลาไปทำไมเนี่ย ... นี่เราตัวใหญ่ขึ้นหรือเปล่าเนี่ย แล้วไอ้เรื่องแต่งตัว เรื่องการกิน สร้างภาพอะไรทั้งหลายแหล่ จริงอยู่สังคมมันพาไป แต่สำคัญที่สุดคือ เราจะยอมตามกระแสสังคมไปหรือเปล่า มันอยู่ที่ใจเราเองต่างหาก แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 52 01:12:57 จากคุณ : Morning Star - [ 9 ก.พ. 52 01:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมคิดว่าความเศร้ามาจากที่มันไม่เหมือนเดิมแล้วต่างห่างครับ เมื่อก่อนได้กินกันพร้อมหน้า  พ่อ แม่ ลูก แต่ปัจจุบัน มีบ้านหลังใหญ่ขึ้น  ไปกินร้านที่หรูขึ้น แต่ไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันเหมือนเดิม ไม่ได้เป็นมื้อพิเศษเหมือนเดิมอีกแล้วครับ จากคุณ : canosiso - [ 9 ก.พ. 52 01:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คิดถึงบางแสนจัง ... อิอิ ศิลย์เก่า ม.บู ครับ รายการอาหาร + ที่เทียววันนี้ 1. เช้ามืด ตักบาท ตลาดหนองมน 2. เช้า กินโจ๊ก ริ่มหาด ตรงแยกร้านหินทราย 3.สายๆ เที่ยว สถาบันวิทยาศาสตร์ ทางทะเล + หอศิลปะภาคตะวันออก ม.บูรพา 4. เที่ยง กินส้มตำป้าแป๊ด หลัง ม. (แนะนำ หอยนางรมสด , กุ้งแช่น้ำปลา) หรือ ก๊วยเตี๋ยวดูดี๋ หน้า ม. (แนะนำ ขลุกขลิ๊กกระดูกอ่อน หรือจะเป็นข้าวมันไก่ ก็อร่อย) หรือ ข้าวมันไก่หนองมน ตรงวัดดอน (น้ำจิ้มอร่อยมากๆ) 5. บ่าย เที่ยว วิหารเทพ ตรงทางไปอ่างศิลา 6. บ่ายแก่ๆ  ดูหนังซักเรื่อง ณ. SF ห้างแหลมทอง หน้า ม. 7. เย็นๆ ไปสปา ณ. เดอะไทด์รีสรอท์ หน้าหาดบางแสน ริมทะเล 8. หัวค้ำ กินอาหารค้ำ ร้านคุณย่า หรือ ร้านวังมุข ร้าน Relex ตีนเขาสามมุข ตบท้ายด้วย ข้าวต้มปลา ลุงหรั่ง แยกถนนบางแสน ซอย 2 9.ปิดท้ายด้วย เบอร์เกอรี่ โรงแรมเดอะไทด์รีสรอท์ จิบช้าร้อนๆริมหาด 10. ซัก 4 ทุ่ม ออกกำลังกายยามดึก ที่เบอร์ด๊อก เยื่อย หน้า ม. สาวตรึม 11. เธ๊คปิด กินเย็นตาโพ พี่แมว หน้า ม. ก่อนนอน อิอิ เมื่อไรจะได้ไปอีกเนี้ย แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 52 01:30:42 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 52 01:29:28 จากคุณ : AHA (Trerak) - [ 9 ก.พ. 52 01:28:51 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมไม่ค่อยได้เข้ามาสีลมนานพอสมควร พอดีช่วงนี้  ผมกำลังหาข้อมูลทำโปรเจ็ค( เล็ก ๆ )ใหม่ ( อาจเก่าของคนอื่น ) วันนี้ก็เลยกลับเข้ามาอ่านอีกครั้ง เลยได้เจอข้อมูลที่ใกล้เคียง ได้รับแนวคิดและมุมมองอีกด้าน เป็นแนวคิดที่ดีครับ  ต้องขอขอบคุณไว้ด้วย ณ.โอกาสนี้ ทั้งของคุณ  cookiecompany   และของคุณ ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) โดยส่วนตัว  ผมชอบวิถีชีวิตแบบติดดินครับ เคยคิดเหมือนกันว่า  เมื่อก่อนเราเคยชอบกินอะไรที่มันอร่อยจนฝังใจ ปัจจุบันบางทีก็ยังนึกอยากกินอย่างนั้นอีก แต่นับวันมันจะหารสชาดแบบที่เราชอบยากขึ้นเรื่อย ๆ บางทีขับรถผ่าน  เห็นข้างทางขายอยู่  เรากลับไม่กล้าที่จะจอดลงไปซื้อซะงั้น เลยต้องมาตรวจสอบความคิดตัวเองอยู่เหมือนกัน ถึงได้รู้ว่า  ตัวเราเองนี่มันหลอกตัวเองได้แยบยลจริง ๆ ตอนนี้ถ้าขับรถผ่าน  เจออะไรที่อยากกินก็ไม่คิดมากแล้วครับ หาที่จอดลงไปซื้อ   แต่งตัวแบบไม่สนใจรสนิยม ( กางเกงขาสั้น / เสื้อยืด ) ไม่มีเครื่องประดับ ถ้าอยากเที่ยวก็จะเที่ยวในวันธรรมดา ( วันหยุดคนจะเยอะมากในบางที่ ) วันที่คนอื่นหยุดหรือไปเที่ยว  เราอยู่บ้านดีกว่า อันนี้  หลบความแออัดได้เป็นอย่างดีครับ ผมคงต้องมาขอเก็บข้อมูลดี ๆ  อย่างนี้ให้บ่อยขึ้นแล้วครับ จากคุณ : Dman - [ 9 ก.พ. 52 02:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไปบางแสนบ่อยเหมือนกันครับ ชอบไปนั่งที่ริมหาด มันผ่อนคลายดีครับ ส่วนเรื่องการใช้เงิน สำหรับคนขี้งกอย่างผม ป้ายSaleตามห้างมันไม่มีผลอะไรกับการตัดสินใจซื้อของผมเลยครับ ถ้าผมจะใช้เงินกับอะไรสักอย่าง อย่างเดียวที่ผมจะคิดคือ ผมจะซื้อมันมาทำอะไร ถ้าตอบตัวเองไม่ได้ ผมก็จะไม่ซื้อ ไม่ว่ามันจะถูกสักแค่ไหน จากคุณ : มือปราบPlaygirl - [ 9 ก.พ. 52 02:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คห#22 เราอ่านแล้วซึ้งมากๆ....แอบร้องไห้เลย จริงๆแล้วสิ่งที่เรียกว่าความสุข มันไม่ใช่ความหรูหรา ความใหญ่โต หรือราคาแพง....จึงมึความสุข แต่อาจเป็นความพร้อมหน้าพร้อมตากัน การได้กินอาหารมื้อเล็กๆ แต่ คนที่เรารักและเค้าก็รักเรา.......ได้อยู่ด้วยกัน จากคุณ : gigil (gigil) - [ 9 ก.พ. 52 07:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เขียนได้ดีค่ะ สะท้อนแง่มุมของชีวิตได้ดี เรื่อง Singha Beer นี่จริงๆเลยนะ อาเพื่อนเราพาแฟนเค้าคนต่างชาติมา เค้าถามแต่สิงหาๆๆๆๆ เค้าบอกว่าสิงหานี่อร่อยที่สุดเลยในบรรดาเบียร์ จากคุณ : Melodysixty - [ 9 ก.พ. 52 10:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ของผมโชคดีครับ มีพี่ 4 คนรวมผมด้วยเป็น 5 ผู้ชายหมด มีครอบครัวหมดแล้วผมคนสุดท้อง ทุกคนเปิดร้านค้าขายที่อำเภอเดียวกันหมด อาทิตย์นึงจะมาทานข้าวด้วยกัน 1-2 ครั้งพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อแม่ พี่ๆ และหลานๆ ทั้ง 8 รวมถึงลูกสาวแสนสวยผมอีก 1 มีความสุขที่สุดครับ นี่ยังไม่รวมตอนเย็น ไปเตะบอลพร้อมกันทั้ง 5 พี่น้องอีกนะครับ อิอิ จากคุณ : prystal - [ 9 ก.พ. 52 10:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ชอบจังเลยคะกระทู้นี้  รู้สึกมันหลากอารมณ์นี้   เห็นภาพแรกวิวสวยจังเหมือนอยู่ห้อง  Blueplanet  แต่พอดูรูปกลางๆ กระทู้แล้วน้ำลายไหลชวนอยาก Drink นึกว่าอยู่ห้องก้นครัว   แต่ในเนื้อหาก็การตลาดสอดแทรก...      ที่โม่งหัวมาแจมกระทู้นี้เพราะคิดถึงบางแสนคะ  ในช่วงชีวิตหนึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่แถวนั้น  ทำงานอยู่  อมตะ  แต่เช่าห้องอยู่หน้าม.บู  เพราะหาของกินง่าย  ของถูก  มองน้องนักศึกษาก็เจริญหูเจริญตา   วันไหนวันหยุดไม่ใส่ชุดทำงานก็แอบเนียนคิดว่าเราเป็นนักศึกษาลดอายุบ้าง  ชีวิตก็มีสีสรรดี  ที่สำคัญแถวนั้นบรรยากาศดีวันไหนทำงานเครียดๆ  ทำโอดึก  ก็จะมาปล่อยอารมณ์ทิ้งลงทะเลยามค่ำคืน  หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง...      ว๊า..พูดแล้วก็คิดถึงบางแสนจัง จากคุณ : very_berry - [ 9 ก.พ. 52 12:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ชอบกระทู้นี้จังเลยครับ หลายๆ อย่าง มันเป็นสิ่งที่ผมคิด และพูดกับตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่าเราจะกินแพงๆทำไม ใส่เสื้อผ้าแพงๆทำไม ซื้อของแพงๆ ทำไม แต่คิดไปคิดมาก็วกกลับมากิน มาซื้อ มาใช้เหมือนเดิม ผมสวนกระแสสังคมไม่ไหวครับ เห้อ โทษใครไม่ได้เลยจริงๆ  T_T จากคุณ : areskimo - [ 9 ก.พ. 52 19:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ผมว่าเข้าใจคุณ คุกกี้นะ แต่ก่อนครอบครัวผมลำบากครับ พ่อ-แม่ มาจาก 0 จริงๆ พอเริ่มมีโอกาสค้าขายก็ทำดู สุดท้ายเจ๊ง เป็นหนี้เป็นสินมากมาย แต่ก่อน การกินส้มตำ ไก่ยาง แปปซี่ เป็นอะไรที่วิเศษสุด กินพร้อมกัน พ่อ แม่ ลูก 4 คน kfc ก็เป็นอาหารมื้อพิเศษ ตอนที่พวกผมลำบาก รู้ซึ้งเลยครับว่า ความลำบากเป็นอย่างไร อะไรที่ลูกชาวบ้านเขามี ผมไม่เคยได้ พ่อ แม่ บอกว่า ผมได้เรียนก็บุญแล้ว ชีวิตมาพลิกไม่กี่ปีนี่เองครับ ... จากหน้ามือเป็นหลังมือ ครอบครัวเราฐานะดีขึ้นจนน่าตกใจ เงินทองไม่ขาดสาย ผมเองก็เรียนจบ พ่อ แม่ผมปลดหนี้ได้ ได้พักสักที ทุกวันนี้ผมยังถวิลหา ความสุขจากสิ่งเล็กน้อย   และเจ้าความสุขจากสิ่งเล็กน้อยนี่แหละ ที่ทำให้ชีวิตวัยเด็กที่ค่อนค้างลำบาก มีความสุขได้ พอตัวเราใหญ่ขึ้น ก็ต้องหาความสุขใหญ่ขึ้น .....บ้าน รถ สาวงาม.... ทั้งที่แต่ก่อน ไอติมไผ่ทอง ราดมันเชื่อม กลับทำให้ผมมีความสุขมากกว่าได้ camry อีก... อดีตที่ไม่ยอมหวนกลับ.. จากคุณ : moojiw - [ 9 ก.พ. 52 19:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อ่านแล้วชอบค่ะ คห. 10 โดนเหลือเกิน ขวนขวายหางานเงินดี ๆ แต่ค่าครองชีพสูงเหลือเกิน อยู่ ตจว. สบายกว่าเยอะ ชีวิตไม่เร่งรีบ ไม่ต้องอัพเกรดตัวเองมากมาย เฮ้ออ.. เลื่อนมา ๆ เจอ คห. 22 เข้าไป น้ำตาไหลเลย คิดถึงความสุขง่าย ๆ แบบเด็ก ๆ มาก ๆ เลย ตั้งแต่โตมา ก้อชีวิตซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ความสุขก็ยากขึ้นทุกที แต่ก่อนแค่เล่นตุ๊กตากระดาษแผ่นละบาทก็มีความสุขเล่นได้ทั้งวัน เดี๋ยวนี้ไม่ว่าทำยังไงก็หาความสุขได้ยากมาก ๆ  เงินเดือนเท่าไร ก็ไม่เคยเติมความสุขได้ซักที หรือเราจะทำตัวให้ใหญ่เกินไปแล้วนะ ขอบคุณสำหรับกระทู้ที่ให้ข้อคิดและเตือนสตินะคะ จากคุณ : fantastic GiRL - [ 9 ก.พ. 52 20:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เกิดมายังม่ะเคยกินตาบั๊กเลยเรา ^^ ค่า experience มันต้อง ++ เข้าไปขนาดนั้นเลยเหรอคะ จากคุณ : riskx_ray - [ 9 ก.พ. 52 21:39:39 ]

ความคิดเห็นที่ 62 "ความสุข" ซื้อหาไม่ได้ด้วย "เงินตรา" แต่ "เงินตรา" เป็นพาหนะนำพาไปหา "ความสุข" บางครั้ง "เงินตรา" พาเราไปถึงที่แล้ว แต่เราไม่ยอมลงไปหา "ความสุข" เอง บางคน "เงิน" เยอะ ขอต่อตั๋ว นั่งจนเลยป้าย "ความสุข" ป้ายแรกนี้ เพื่อไปหาป้ายที่ไกลกว่า "เงินตรา" ที่มากขึ้น พาเราไปหา "ความสุข" ที่ไกลขึ้น กว่าจะถึง "ความสุข" นั้น บางทีเราก็รู้สึกเหนื่อย เพราะนั่งมาไกล แต่ครั้นจะลงตั้งแต่ป้าย "ความสุข" แรกนั้น ก็รู้สึก "น้อยหน้า" เพราะ "เพื่อน" ยังนั่งต่อ ไม่ค่อยมีใครลงป้ายแรก อีกทั้งคนที่ลงป้ายแรก ยังถูกมองว่าเป็นพวก "ชั้นล่าง" เลยไม่ค่อยมีใครกล้าลง รถวิ่งไปเรื่อยๆ ใครที่ "เงินตรา" ไม่พอ ก็ทยอยลงกันไปตามป้ายถัดมา สุดท้าย คนที่ "เงินตรา" เหลือเฟือ ก็ไม่ได้ลงไปหา "ความสุข" เสียที จากคุณ : jezo - [ 9 ก.พ. 52 23:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สิงหา เมืองนอกนี่ถือเป็นเบียร์ระดับบนๆเลยนะครับ ขายแพงกว่าอาซาฮี หรือขวดเขียวอีกนะ และขายดีกว่ามากๆ เมื่อสัก 2 ปีที่แล้วในร้านพี่ผมขายอยู่ 4.25 คูณ 36 เอา มั้งถ้าจำมะผิด (ขวดเล็กนะครับ) จากคุณ : ไม่หมูนะครับ - [ 10 ก.พ. 52 13:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ของกินของใช้รอบๆ มหาวิทยาลัยหลายร้านราคาไม่แพงครับ เพราะ นศ.เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องขอเงินพ่อแม่ใช้ (ไม่นับสาวๆหน้าตาน่ารักบางคนที่อาจจะมีคนให้เงินใช้มากกว่าพ่อแม่ ฮา ) เรื่องรสนิยมกับการใช้ชีวิต ต่างคนก็แตกต่างกันไป บางคนที่ติดค่านิยมใช้ของแพงหรือมียี่ห้อส่วนมากก็เพราะพื้นฐานของจิตใจนั้นเป้นคนไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองครับ ขาดความเชื่อมั่นเมื่ออยู่ในสังคม อับอายเมื่อโดนมองจากคนนอก เคยได้ยินคำพูดหนึ่งกล่าวไว้ว่า "คนที่ใช้ของ brand name เป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง " ผมว่าเป็นความจริงในหลายกรณีเลยนะครับ เพราะคนที่เชื่อมั่นในคุณค่าของตัวตนของตนเอง จะไม่จำเป็นต้องมีเปลือกห่อหุ้มตนเองให้ดูดี เพราะเขาเชื่อว่ามีคุณค่ามากกว่าของ brand name ทั้งหลาย ไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อเสียงของยี่ห้อมาเพิ่มคุณค่าของตัวเอง และไม่อายที่ใครจะมองว่าเขาไม่มีรสนิยมหรือจน เพราะคนๆนั้นจะสนใจตัวเองมากกว่าสนใจคนอื่นมอง ปล. แต่ไม่ได้แปลว่าคน "ทุก" คนที่ใช้ของมียี่ห้อจะเป้นคนไม่มีความมั่นใจนะครับ ไม่ได้ตั้งใจจะพาดพิงใครทั้งนั้น จากคุณ : kennyG - [ 10 ก.พ. 52 18:24:43 ]

ความคิดเห็นที่ 65 แจ่มเลยครับ จากคุณ : Kawpod - [ 10 ก.พ. 52 18:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 66 จริงๆเรื่องแพงไม่แพง ไม่เกี่ยวกันครับ อยู่ที่ว่า สินค้าไทย ทำอะไรได้ไม่ได้คุณภาพสู้ฝรั่งเขา เพราะคนไทยมักง่าย เหมือน คห 45 นั่นคือเรื่องมักง่ายของคนไทยมากมาย แต่ต่างชาติเขาพิถีพิถันกว่า เค้ารักชาติกว่า คนไทยก็เลยชอบฝรั่ง เพราะอะไรมันก็ดูดีไปหมด สินค้าบางอย่างก็คุณภาพดีชิ้นละหลายหมื่นแต่เอามาใช้จนคุ้ม มันก็ไม่แพงครับ สตั๊ด adidas คู่ละ 6 พัน กับ pan (ของไทย) คู่ละ ไม่ถึงพัน หรือพ้นต้นๆ ใส่เตะบอลได้เหมือนกัน  คิดว่าคู่ไหนแพง........ .... อาหาร สินค้า หรือแม้แต่มือถือที่คุณคุ๊กกี้ใช้อยู่ Inter brand เขาทำมาดีกว่าจริงๆนะครับ...... เพราะงั้นเลือกในสิ่งทีมัน "เหมาะกับเรา" เพียงแต่...... คนตังค์เยอะ ....... เลือกได้ ทั้งของที่อยู่บนๆ และของที่อยู่ล่างๆ คนตังค์น้อย ....... เลือกได้แต่ของล่างๆ (หรือพูดง่ายๆ ไม่มีสิทธิ์เลือกต้องใช้ของพวกนี้ไป) กระทู้นี้ นิยามสั้นๆเลยครับ เศรษฐกิจพอเพียง จากคุณ : sillygang - [ 10 ก.พ. 52 18:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอให้อร่อย สะอาด เรื่องราคาไม่เกี่ยงค่ะ ถูกและดี ก็ยังมีอีกเยอะ แต่แปลก ร้านเก่าๆๆโทรมๆ อาหารโคตรอร่อย จากคุณ : เหล้าปั่น - [ 10 ก.พ. 52 19:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ตาม คห.64 น่ะคับ.... คนที่ใช้ของ แบรนด์ ทุกชิ้น มักจะเป็นคนที่ ไม่ค่อยมีอะไรดีในตัวตนของตัวเอง..... จึงต้องนำเอา ความดี ความเด่น ความน่าสนใจ จากภายนอกเข้ามาเสริมให้ตัวเองมีตัวตนในสังคมได้ บางคนเท่านั้นนะครับ.....บางคน...... ปล. แต่ผมไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง....สินค้าราคานรกมาก........ น้ำอัดลมใส่ถุง กทม.ขาย 12 แต่ ที่แห่งนั้น ขาย 20 บาท ข้าวผัดวิญญาณหมูค้างปี ปริมาณพอที่เด็กอนุบาลกินอิ่ม ขาย 40 บาท ฝรั่ง 1 ลูกสับแถม พริกเกลือจากดาวอังคาร ราคาถุงละ 30 บาท พวงมาลัยไหว้พระพวกเล็ก 30 บาท พวงใหญ่ 90 บาท ฯลฯ หลายๆที่ ไม่ได้ทำเพื่อให้คนไทยไปเที่ยวครับ ทำไว้เพื่อดูดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่พกเงินทีละแสน..... จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 10 ก.พ. 52 21:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อ่านเพลินดีครับ พร้อมกับจินตนาการ คิดตามไปด้วย หนุกดี จากคุณ : superboyee - [ 10 ก.พ. 52 22:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เคยไปพัทยา ของกินราคาโหดมากนะครับ ไม่ได้ถูกอย่างที่คุณเจอหน้า ม จากคุณ : ป้อม (Bgate) - [ 10 ก.พ. 52 23:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ผู้บริโภคเลือกได้ครับ  ผมว่าสเวนเซนอร่อยออก ผมกินฮาเก้นดาสแล้วไม่ชอบ แต่ผมว่าไอติมรสวนิลาของโฟร์โมสอร่อยทีุ่สุดแล้วครับ ส่วนเชสเตอร์เกรลต้องยอมรับครับว่าไม่ถูกปาก ไก่ย่างข้างถนนหรือตามหาดอร่อยกว่าเยอะครับ จากคุณ : Freedom and Justice - [ 11 ก.พ. 52 00:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมว่าสตาร์บัคไม่อร่อยนะ คนไทยชอบกาแฟเย็น ฟรั่งมันจะมาทำกาแฟเย็นอร่อยสู้คนไทยได้ไง ฟรั่งกินกาแฟร้อน ตอนนี้ผมชงกินเองหาร้านถูกใจไม่ได้(มีแต่ไกลเปลืองน้ำมันรถ) จากคุณ : Ao+ - [ 11 ก.พ. 52 00:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ผมอ่านกระทู้นี้แล้วผมว่าตลกครับ ถามว่าจขกท ด้วยเงินเดือนเช่นเดิม ด้วยสังคมเช่นเดิม จะกล้าอยู่ดีๆไปมีชีวิตแบบ "ติดดิน" หรือไม่ จากที่อ่านแนวความคิดแล้วผมตอบได้เลยว่า ไม่ได้ ยกเว้นจะมีคนอย่างผมมาท้า ซึ่งคุณก็จะใช้มันเป็นข้ออ้างว่าตรูไม่ได้ติดดินเพราะจน แต่เพราะตรูจะพิสูจน์บางสิ่ง บางอย่าง พิสูจน์ตัวเอง (ซึ่งก็ไม่ใช่ตัวเองจริงๆอีกเพราะว่ามันเป็นตัวเองที่ถูกดูถูกโดยคนอื่นจนต้องทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง) ผมไม่ได้มีอะไรกับจขกทนะ ชื่นชมด้วยซ้ำว่าเป็นคนที่เก่งประสบความสำเร็จโดยตัวเองจริงๆโดยไม่ต้องพึ่งปริญญา แต่ในเวลาเดียวกันผมมีอคติอย่างรุนแรงกับความมือถือสากปากถือศีลสร้างภาพและความพอเพียงจอมปลอม (ถ้าไม่ใช่ก็อย่าร้อนตัว แต่กระทู้นี้ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้อย่างแรง โดยเฉพาะพวกคหเกี่ยวกับภาษีสังคม ฯลฯ) และที่สำคัญผมไม่รู้สึกว่าการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย ไม่ว่าจะเพื่ออะไร เพราะชอบ เพราะอยากยกระดับสังคม ฯลฯ มันจะเป็นอะไรที่เลวร้าย ตราบใดที่ไม่ใช้เกินความสามารถของตนเอง (ซึ่งแบบนั้นก็ยังไม่เรียกว่าเลวร้าย แค่เรียกว่าโง่) ืำทำไมผมถึงยอมกินสตาบั๊กที่แพงกว่ากาแฟรสชาติเท่ากันหลายเท่า ทำไมผมถึงกินอาหารมื้อละพันๆในเมื่อหมูกระทะก็อิ่มท้องได้ ทำไมผมต้องตัดสูทตัวละเปนหลายหมื่น ทำไมผมเปิดเมมไปนั่งเล้าที่สาวหน้าตาดาดๆราคาเปนหมื่น ฯลฯ คำตอบมันง่ายมาก เพราะผมทำได้ และผมทำแล้วมันมีความสุข ถ้าเกิดใครไม่สามารถยอมรับย่อหน้าข้างบนของผมได้ แสดงว่าไม่ว่าคุณไม่รู้จักตัวเอง คุณโกหกตัวเอง หรือไม่คนอื่นที่มองเข้ามาและมองว่ามันโง่ ก็กำลังเป็นโรคองุ่นเปรี้ยวอยู่ ซึ่งตรงนี้ขอเน้นคำว่า "ผมทำได้" อีกทีนะ เพราะถ้าคุณทำไม่ได้แล้วยังจะกระเสือกกระสนเพื่อยกระดับตัวเอง ผมก็สงสารคุณน่ะเพราะอีกไม่นานหนี้บัตรเครดิตมันจะฆ่าคุณ ชีวิตคุณสั้นนะ ถ้าคุณทำได้ก็ทำมันไปซะเถอะถ้ามีความสุข จากคุณ : .. (! o_o !) - [ 11 ก.พ. 52 00:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ความสุข ของคนไม่เหมือนกัน ความพอใจ ของคนเราไม่เท่ากัน เงื่อนไขการใช้ชีวิตของคนทุกคน ไม่ได้อยู่บนเงื่อนไขเดียวกัน เด็กเล็กวิ่งเล่นอยู่ที่ท้องนาต่างจังหวัด กินไอติม แท่งละ 2 บาทได้ เด็กเล็กวิ่งเล่นในห้าง เอามือจับบันไดเลื่อน ถูกตี ไล่ให้ไปล้างมือก่อนทานไอติม อาของเรา ทำนา เลี่้ยงไก่ เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงหมู ใส่เสื้อแถมของอาหารสัตว์ ทุกยี่ห้อ อามีรายได้เดือนละแสน คุณอ่านไม่ผิดหรอก อาจบ ป สี่ และตื่นทำงานตี 4 ทุกวัน ไม่มีวันหยุด เพื่อนเราจบปริญญาตรี พร้อมกัน ตอนนี้เลี้ยงไก่ระบบฟาร์มปิด กับสหฟาร์ม ลงทุนเบื้องต้นไปแล้ว 13 ล้าน มันขับ NV เก่าๆ  เอาไข่แฝด (หมายถึงไข่ที่มีไข่แดงสองฟอง) มาให้เรา เพราะเป็นของหายาก พูดเสียงเหน่อๆ  ใส่กางเกงวอร์ม บอกว่าคิดถึงเพื่อนทุกคน แต่ขับรถเข้ากรุงเทพไม่ถูก ในขณะที่เพื่อนอีกคน กำลังจะเป็นผู้บริหาร ไอบีเอ็ม เที่ยวต่างประเทศปีละหลายครั้ง .................. สำหรับเรา ความสุขอยู่ที่ความพอใจ แต่ความยั่งยืน คือ ความพอเพียง จากคุณ : อำแดงเฟริ์น - [ 11 ก.พ. 52 00:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 75 แหม... ยังเป็นกระทู้แนะนำอยู่อีก แต่กระทู้นี้ไม่แรงเท่ากระทู้ฝาแฝดที่ห้องก้นครัวครับ อันนั้นซัดไปร้อยห้าสิบคคห แล้ว ^^'' แต่ละท่านจะตอบยังไงก็ตามสบายครับ เราผ่านโลกมานานไม่เท่ากัน และผ่านโลกมาคนละแบบกัน คำตอบตายตัวคงไม่มี สิ่งที่ดีที่สุดก็คงไม่มี มีแค่สิ่งที่เหมาะที่สุดเท่านั้น ที่ผมอยากจะตอบเพิ่มมีแค่เรื่องเดียวคือเรื่องคุณ Moojiw "ทั้งที่แต่ก่อน ไอติมไผ่ทอง ราดมันเชื่อม กลับทำให้ผมมีความสุขมากกว่าได้ camry อีก..." สนใจแลกไอติมไผ่ทอง 1 ตู้กับ Camry ของคุณ moojiw มั้ยครับ ฮี่ ๆ :D จากคุณ : cookiecompany - [ 11 ก.พ. 52 01:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านคอมเม้นท์เพื่อนๆแล้ว มีความสุข ได้สาระดีจังเลยค่ะ เหมือนได้เห็นโลกในมุมมอง อีกแบบที่แตกต่างไป เห็นความเหมือนที่แตกต่างกัน ต่างคน ต่างใช้ชีวิต ในแบบของตน แต่เรื่องของความสุข คงวัดกันได้ยากว่าใครมีความสุขมากกว่ากัน คงอยู่ที่ความ "พอใจ" และ ความ "พอเพียง" จากคุณ : cinimania - [ 11 ก.พ. 52 01:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 77 จริงๆถ้าเราหันมาอุดหนุนสินค้าของคนไทยด้วยกันก็ดีนะคะ อย่างเช่นร้านกาแฟระดับบนเนี่ย นอกจากสตาร์บัค แล้วก็ยังมี Coffee World, Doi Tung, True Coffee, Wawee Coffee อีกนะคะ ซึ่งเราสามารถเลือกทานได้ตามความชอบเลยค่ะ ถ้าชอบกาแฟเข้มๆก็ขอแนะนำ Coffee World โลดดด (แถมราคาไม่มหาโหดเท่าสตาร์บัคด้วย) เราว่าถึงเวลาที่คนไทย จะหันมาสนใจสินค้าไทย และร่วมกันสร้างค่านิยมของเราเองได้แล้วค่ะ เศรษฐกิจในประเทศจะได้ดีขึ้นบ้าง จากคุณ : FeeNeung - [ 11 ก.พ. 52 02:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ใช่ครับ สมัยก่อนตอนเรายังตัวเล็กๆ พวกเราอย่างกับพระราชา อยากกินไอติม ถึงเวลา ก็มีคนเอามาเสิร์ฟที่หน้าบ้าน พร้อมกระดิ่งบอกว่า "ไอติมไผ่ทองมาเสิร์ฟเเล้วพะย่ะค่ะ" ทุกวันนี้ต้องบากหน้าไปกิน "ห่า กัน เเดก" ]ลูกนึงซื้อไผ่ทองได้ครึ่งถึง >>~ข้าน้อยขอใช่ชีวิตอย่างคนพเนจรนะ..ขอรับ~<< จากคุณ : D'LaCuiSine - [ 11 ก.พ. 52 03:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อืม ... ขาประจำ ก็ยังมาแจม ... ตกลงนี่ได้ลองใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยจริงๆ หรือ เปล่า หรือ "แค่อยาก" .... คุณ คุกกี้ ... จริงๆ นะ เวลาเรางานมากขึ้น เงินเก็บมากขึ้น ความทุกข์ดันทะลึ่งมากขึ้นตาม รายรับ มันมีจุด คัทออฟ นะ ... ตอนแรกๆ รายรับไม่พอรายจ่าย เราจะเป็นทุกข์ อยากหาเงินมากๆ เพื่อให้เพียงพอรายจ่าย แต่พอหามากๆ แล้ว ก็ไม่อยากเสียมันไป ไม่อยากกับไปเหนื่อย เลยต้องทุ่มเวลามากขึ้น เพื่อให้มีเงินมากๆ เก็บเยอะๆ จะได้หยุดทำงานเร็วๆ ... เราเลยต้องแลกกับเวลาของครอบครัว การหยุดงานยาวๆ เพื่อไปนอนกับแม่ หรือ ไปกินอาหารที่แม่ทำ ตรงนี้แหละ เราลืมว่ามันเลยจุดคัทออฟไปแล้ว ... มันเลยจุดที่ครอบคลุมรายจ่าย เงินสำรอง อะไรต่างๆ ไปแล้ว .... พอยิ่งเหนื่อย เราเลยชดเชยด้วยการใช้ของแพงๆ ยิ่งแพงจะยิ่งบอกตัวเองว่าหายเหนื่อย ผมเอง เคยลองใช้ชีวิตแพงๆ นะ ... เที่ยวราตรีอะไรที่ผู้ชายคิดว่า สุขโครตๆๆๆ ... มันก็เท่านั้น สุขภาพก็เสีย เวลาก็เสีย นอนก็ดึกๆ ... มีบ้านใหญ่ก็ต้องหาคนทำความสะอาด หาก็กลัวจะเป็นสายโจร หายากอีก ... มีรถแพงก็ยังติดไฟแดง ค่าซ่อมบำรุงก็สูง จริงๆ ทุกชีวิตมีสองด้าน ยิ่งสุดด้านหนึ่งอีกด้านมันจะคอยดึงกลับแรงเสมอ เงินทองก็เหมือนน้ำ น้อยไปก็ไม่ดี มากไปเก็บไว้กับตัวเองก็จะแน่น ความรวยไม่ไช่สิ่งผิด สิ่งที่ผิดคือความตระหนี่ของคนเราเอง คนที่รักษาสมดุลชีวิตได้นะ ... หากเข้าไปสัมผัสแล้วจะทึ่งกับเขาจริงๆ ดูเหมือนรวยมาก มีชื่อเสียงมาก เก่งมาก แต่เข้าไปคุยแล้วจะรู้สึกดีและให้ความเคารพเขาอย่างจริงใจ (ไม่ไช่เคารพเพราะเขารวยกว่าเรา) จากคุณ : KENG76 - [ 11 ก.พ. 52 06:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 80 มนุษย์ออฟฟิศหรูกลางกรุง   ส่วนใหญ่  พร้อมที่จะจ่าย  เพื่อซื้อบางสิ่งบางอย่าง  ทั้งที่ต้องการ  และไม่ต้องการ เรียกว่า ภาษีสังคม ของคนอีกระดับ คือถ้ามนุษย์เงินเดือน  อย่าง  สาวฉันทนา มันก็จะมีภาษีสังคม  ของคนในระดับนั้น  อีกรูปแบบหนึ่ง ตามบ้านนอก  ที่ห่างไกลความเจริญ   ตามหมู่บ้าน   ตามชุมชน  ก็มีภาษีสังคม เช่นกัน ชอบกระทู้นี้ เพราะมองได้หลายแง่มุม จากคุณ : สมาคมช่างกิโลขาย - [ 11 ก.พ. 52 08:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เราก็อีกคนหนึ่งที่กินสตาร์บัคได้ แต่ไม่เคยซื้อ เพราะเสียดายเงิน กินฮาเก้นดาสได้ แต่ไม่เคยซื้อ ก็เพราะเสียดายเงิน ซื้อกระเป๋า-รองเท้าแพงๆใช้ได้ แต่ไม่เคยซื้อเพราะ ก็เพราะเสียดายเงิน ใช้ชิวิตหรูหราฟุ่มเฟือยได้ แต่ไม่คิดอยากใช้ ก็เพราะเสียดายเงิน คิดถึงพ่อตอนที่ลำบาก ทำงานคนเดียวเลี้ยงลูก 4 เมีย 1 ยอมกินคนสุดท้ายเพื่อลูกเมียกินให้เต็มที่ ยอมทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินมากๆ มาซื้อรถและแอร์ ให้ลูกเมียอยู่สุขสบาย ยอมทำงานตลอดคืนโดยไม่ได้นอนเพื่อให้ลูกๆ 4 คน มีเงินฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดเมื่อ 30 ปีก่อน ถึงตอนนี้เราเอาเงินที่จะฟุ่มเฟือยไปให้พ่อแม่ใช้ แบ่งเงินไปทำบุญช่วยเหลือคนที่ลำบากทั้งรพ.รัฐ และมูลนิธิต่างๆ แต่..มีบ้างที่ตามใจตัวเอง ในบางอย่างที่ไม่ได้แพงมากจนเกินความจำเป็น เพราะไม่ใช่คนที่วิเศษ ที่ไม่มีความอยากอะไรเลย จากคุณ : a pinky pig - [ 11 ก.พ. 52 08:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ความเสียดายหรือการชั่งผลดีผลเสียมากเกินไป เป็นขอบเขตจำกัดของประสบการณ์หลายอย่าง   สำหรับผม ประสบการณ์ใหม่ๆที่ได้ลิ้มลอง มีคุณค่ามากกว่าตัวเงินหรือสิ่ง ตอบแทนที่ต้องจ่ายไป บางครั้งก็คุ้มค่า บางครั้งก็รู้สึกว่าไม่คุ้มกัน แต่ไม่เคยเสียดายที่ได้ลอง บังเอิญอ่าน หนังสือ อัตชีวประวัติของ ไฟน์เมน นักฟิสิกส์ระดับรางวัลโนเบล เล่าถึงตอนที่เขาให้ช่างทาสีมาทาสีบ้าน แล้วสีเหลืองมันหมดสต๊อค  ช่างสี เลยบอกว่าให้ซื้อ สีขาวกับสีชมพู มาผสมกัน ก็จะได้สีเหลือง  แกก็สงสัย เป็นกำลังว่า เท่าที่ความรู้ทางโลกที่แกมี ทุกๆทฤษฎี สีแดงกับขาวมันต้อง ได้สีชมพูเท่านั้น  แต่เหตุไฉนช่างสีมืออาชีพ ซึ่งทาสีมา 20-30 ปี ถึงเอาสี แดงกับขาว มาผสมกันเป็นสีเหลืองได้   ในที่สุดแกยอมซื้อสีทั้งสองมาให้ ช่างสี ผสมครับ  ผลเป็นเช่นไร ข้อสรุปคืออะไร ลองหาอ่านกันดูครับ สนุกและให้แง่คิดดีทีเดียว จากคุณ : ดาวสุริยะ - [ 11 ก.พ. 52 09:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 83 อ่านแล้วคิดถึงพ่อ กะแม่ อยากกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาจัง จากคุณ : คิดบวก - [ 11 ก.พ. 52 10:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 84 กล้องชัดมากมายเลยครับ ไม่น่าเชื่อว่ากล้องมือถือ จากคุณ : QA Manager - [ 11 ก.พ. 52 10:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 85 คุณ cookie... คนเยอรมัน มันไม่กินเบียร์ดาวแดงอยู่แล้ว และมันก็ไม่เรียกยี่ห้อนี้ว่าเบียร์หรอก ไม่ใช่เพราะชาวไส้กรอกหยิ่งว่าตัวเองเป็นเมืองเบียร์ แล้วหมิ่นหยามเบียร์สัณชาติอื่นหรอกนะ แต่เพราะเบียร์ดาวแดงมันมีเชื้อสายกังหันลม แล้วเยอรมันกับกังหันลมมันเกลียดกัน like shit!! เค้าเคยมีโจ๊กเล่าว่า คนไทยเข้าไปบาร์ที่เยอรมัน แล้วไปถามหาเบียร์สัณชาติกังหัน บาร์เทนเดอร์ชาวไส้กรอก มองหน้าชาวไทยแบบเหยียด แล้วบอกว่า "สิ่งที่คุณถามหา เราไม่มีขายหรอก เพราะประเทศเราเก็บเบียร์ยี่ห้อนี้เอาไว้เลี้ยงหมา" จากคุณ : lawender - [ 11 ก.พ. 52 11:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ขอบคุณ คุณ cookie ครับ ที่มาแชร์ประสบการณ์ดี ๆ เรื่องร้านกาแฟน่ารัก ๆ นะครับ สำหรับผมถ้าไม่ติดงาน มีโอกาสได้ออกนอกบ้านเมื่อไหร่ เป็นต้องหาร้านกาแฟเก๋ ๆ เข้าไปนั่งดื่มกินทุกที เดือนนึงเสียค่ากาแฟหลายตังค์อยู่ แต่สำหรับ starbucks ถ้าไม่มีใครเลี้ยง ก็ไม่มีเหตุผลที่ผมจะเข้าไปสั่งกาแฟ รสชาติธรรมดาแก้วละร้อยกว่าบาทมากินหรอกครับ ที่จังหวัดผมแปลกอย่างนึงครับ ที่สตาร์บัค นักการเมืองท้องถิ่นเยอะมาก ทุกครั้งที่เข้ามานั่งก็จะมากันเป็นกลุ่มเสมอ และแน่นอนว่า คนเหล่านี้ต้อง มีเรื่องมาคุยกันเยอะ ราวกับว่าไม่ได้เจอกันเป็นปี และทุกครั้งคนเหล่านี้ ก็ไม่เคยเห็นหัวคนที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ ๆ กันเลย เสียงดัง โวยวาย หัวเราะดัง คุยโทรศัพท์ดัง และที่นี่"สตาร์บัค"เป็นได้แค่ "กาแฟเย็น"หรือ "กาแฟร้อน" เท่านั้นครับ เพราะทุกครั้งที่คนพวกนี้เข้ามาก็จะสั่งที่หน้าเค๊าท์เตอร์ว่า กาแฟร้อน หรือ กาแฟเย็นเท่านั้น เค้าไม่รู้จักหรอกครับว่าสตาร์บัค ขายอะไรบ้าง จากคุณ : You'll Never Walk "AGAIN" - [ 11 ก.พ. 52 12:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 87 มาว่าผมจนมันต่ำไปหน่อยนะคุณ keng76 (ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยด้วย) จากคุณ : .. (! o_o !) - [ 11 ก.พ. 52 13:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ^ ^ ว่าคนอื่นยังได้ คนอื่นเหน็บหน่อย ทนไม่ได้เหรอ ... ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : KENG76 - [ 11 ก.พ. 52 14:10:28 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ทนได้แต่ขอซัดกลับหน่อย จากคุณ : .. (! o_o !) - [ 11 ก.พ. 52 15:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 90 อ่านเพลินดีจังค่ะ กระทู้อารมณ์ดีจัง พอพูดถึงสิงหะเบียร์ เอ๊ะสงสัยจังไม่มีใครนึกถึงเบียร์ช้างบ้างหรือ ปีหลังๆฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทยถามหาเบียร์ช้างด้วย เหมือนเบียร์สิงห์ เหมือนกระทิงแดง เหมือนมวยไทย แบบนี้เลย เราชอบสตาร์บัคมันเข้มข้นดี แต่ชอบเป็นช็อคโกแลตเย็น เราว่ารสชาติหาคนเทียบชั้นยากจริงๆ แต่ไอศครีมก็จะเป็นสเวนเซ่นส์อยู่ดี ก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองอยู่กลุ่มไหนกันแน่ - -" จากคุณ : ศนิ xxx - [ 11 ก.พ. 52 15:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ชอบกระทู้จังเลยครับ ไม่นึกว่าจะมาเจอกระทู้พี่คุกกี้ห้องสีลม  หุหุ ก่อนหน้านี้ไปอ่านกระทู้คุณออมสินที่ห้องสยาม http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F7510346/F7510346.html เข้ากันดีจริงๆกับกระทู้นี้ ขอบคุณนะครับ จากคุณ : นายแบบแอบรักเธอ - [ 12 ก.พ. 52 09:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อ่านเอาขำ ๆ ฮา ๆ อิอิ จากคุณ : สะใจโรคจิต - [ 12 ก.พ. 52 11:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 93 แต่ก่อนที่ทำงานมีสตาร์บัคอยู่ชั้น 1 เดินผ่านทุกวัน แต่เราไม่เคยคิดที่จะซื้อ เพราะรู้ครั้งแรกว่าแก้วนึงเป็นร้อย ก็ส่ายหัว เดินไปอีกนิด กาแฟปั่น โกโก้ปั่น ใช้นมชง แก้วละ 20 บาท เอง ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี รู้จักใช้เงินให้มากขึ้นด้วยนะค่ะ หรือใครอยากได้ไฟล์บันทึกรายรับรายจ่ายการใช้เงินแต่ละวัน แจ้งเมล์ไว้เดี๋ยวส่งไปให้ค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นประโยขน์ดีค่ะ จากคุณ : nooswu - [ 12 ก.พ. 52 12:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 94 มีคนมาป่วนกระทู้ด้วย -_-'  แปลกวุ้ย -_-' จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 12 ก.พ. 52 12:58:59 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ... อืมมมม มันก็ควรแหละที่ กทม.จะมีอะไรที่แพงกว่าตามต่างจังหวัด เพราะสิ่งสิ้นเปลืองเยอะมาก จากคุณ : ดาราวิปลาส - [ 12 ก.พ. 52 14:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 96 คุณ cookie อารมณ์เดียวกับ Expat มาเมืองไทยเลย อะไร ๆ ก็ถูกไปหมด ดีด้วย (ยกเว้นไวน์ บ่นกันตรึม) ไม่มีใครอยากกลับบ้านสักคน เพิ่งคุยกับเพื่อนร่วมงาน Expat ชาว Canada ตอนนี้กลับบ้านไปแล้ว เขาบอกว่าประทับใจกรุงเทพฯ มาก ข้าวกลางวัน 1 USD มีน้ำซุป น้ำดื่มให้ด้วย (เฮียแกชอบข้าวมันไก่...) เราเลยบอกว่า โอ๊ย ตอนนี้ ของแพงขึ้น ข้าวกลางวันขึ้นราคาเป็น 1.5USD แล้ว อิอิ ถ้าไปเจอผัดไทย 0.75 USD แบบคุณคุ๊กกี้ คงยิ่ง amazing thailand ปล. กรุงเทพฯ ก็มีค่ะ ของดี ราคาไม่แพง (มีหลายราคา ให้เลือกมากมาย) แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 52 20:32:01 จากคุณ : Blue Lighthouse - [ 12 ก.พ. 52 20:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 97 "ความสุข" บางครั้งมันซ่อนเร้น บางครั้งมันก็มีของแถม เราซื้อรถยนต์ยี่ห้อหรู เรา "สุข" ที่ไม่ต้องเดิน ไม่ต้องโหนรถเมล์ เรา "สุข" ที่รู้สึกปลอดภัยขึ้น ไม่ต้องกลัวเวลากลับบ้านตอนดึกๆ เรา "สุข" ที่มีคนมองรถสวยๆ ของเรา ที่เรามองเองแล้วเราก็ยิ้มชื่นชม แต่เราก็ "ทุกข์" ที่ยังผ่อนไม่หมด ที่ต้องเอาเงินจำนวนมากมาลงกับรถ บางทีก็ "ทุกข์" เพราะกลัวนั่นกลัวนี่ จะเกิดขึ้นกับรถเรา เติมน้ำมันก็ "ทุกข์" เข้าอู่ซ่อมก็ "ทุกข์" เด็กซนๆ เดินผ่านรถเรา ก็สามารถทำให้เรา "ทุกข์" ได้ ถ้ารวยมากๆ คงไม่ "ทุกข์" เท่าไหร่ ถ้ารวยไม่มาก คง "ทุกข์" พอดู "ทุกข์" มันยาวกว่า "สุข" ดูตัวสะกดก็รู้ คนส่วนใหญ่ "สุข" มาหนึ่ง มักตามด้วย "ทุกข์" อีกสอง ดูย่อหน้าบนก็รู้ สิ่งที่เราอาจ "ไม่ทันคิด" คือ "ทุกข์" บางอย่าง ก็นำมาซึ่ง "สุข" ไม่มีทฤษฎีไหน กะเกณฑ์ไว้แน่ชัดว่า "สุข" กับ "ทุกข์" จะมีสัดส่วนเท่าใด แต่ถ้าคิดในมุมกลับจากที่กล่าวมาแล้ว การแสวงหา "ทุกข์" เสียบ้าง อาจจะนำ "สุข" มาให้ในอัตรา "ทุกข์" หนึ่ง "สุข" สอง ก็อาจเป็นได้ จากคุณ : jezo - [ 13 ก.พ. 52 00:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 98 บางครั้งออกไปทานอาหารนอกบ้าน ร้านดีๆ แพง ต้องทิปด้วย ก็อร่อยดี อิ่มแล้วกลับมาบ้าน เอ...ที่จริงทานแถวบ้านถูกๆ ธรรมดาก็อิ่ม อร่อยเหมือนกัน แบบบางทีเป็นอาหารญี่ปุ่น ฝรั่งอะไรเงี้ย..อิ่มแล้วก็เลี่ยนๆนิดหน่อย แต่พอมาคิด เราพอไปทานได้ ไม่ใช่ทุกวัน ก็เท่ากับช่วย ให้เศรษกิจ หมุนเวียน รายได้กระจายไปทุกทาง ถ้าไปใช้จ่ายแล้วตัวเองไม่เดือดร้อนก็ไม่เป็นไร คิดแบบคนไม่ได้มีความรู้อะไร เงินส่วนมาก ไปอยู่กับคนรวย การที่กระตุ้น ส่งสริมให้คนที่พอจะมี ออกมาใช้เงิน แม้จะเป็นของหรู ของแพง เป็นเรื่องที่ควรจะทำมากๆ ยังไงที่จ่ายไป เงินก็หมุนไปทุกระบบอยู่ดี เวลามี24ชั่วโมงต่อ1วัน น่าจะใช้เวลาทั้งหมดให้ได้ประโยชน์ที่สุด การมาไล่ปิด สถานที่กลางคืน เท่ากันเป็นการลด เวลาการทำงาน คิดตามความคิดตัวเองค่ะ อาจไม่ถูกก็ได้...ไม่น่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุค่ะ จากคุณ : มาเก๊า (กาหยี่) - [ 13 ก.พ. 52 00:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เราเป็น เด็ก มอ บู เหมือนกัน เรียนที่นี่แล้ว มีความสุข เรียนไป มองทะเลไป ตอนดึกๆ ช่วงสอบ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ก็ขี่มอไซด์ไปกินโจ๊ก กะกาแฟริมหาด อาหารทะเลอร่อย เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ น่ารักรู้จักกันแทบทุกคณะ ในรุ่นเดียวกัน จบมาตั้งแต่ปี 2000..... โห 9 ปีและ ยังรักมอ เหมือนเดิมนะจ้ะ  ถึงแม้อะไรจะเปลี่ยนไปตามยุค สมัย ก็ตาม จากคุณ : momam (mam_lab) - [ 13 ก.พ. 52 09:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เข้ามาอ่านแล้วก็ชอบ อ่านแล้วมองย้อนกลับมาดูตัวเอง ตอนเด็กๆ ผมชอบนาฬิกาของ Guy Laroche มาก ทุกๆ ครั้งที่มองก็จะอยากได้มาครอบครอง แต่ก็ไม่เคยร้องขอ เพราะถ้าขอพ่อ กับ แม่ก็จะเหนื่อยมากขึ้น แต่ก่อนเวลาไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นแล้วชอบมาก มีความสุข แต่พอเราตัวใหญ่ขึ้น เริ่มมีรายได้ ผมกลับไม่ชอบนาฬิกายี่ห้อ Guy Laroche อีกดลย เพราะรู้สึกว่ามันถูกเกินไป แล้วก็เป็น mass brand กลับไม่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นเหมือนเดิมเพราะมันเสียงดัง และไม่มีแอร์ เกิดคำถามว่าสิ่งแวดล้อมทำให้เราเปลี่ยนแปลง หรือเราเปลี่ยนแปลงเพราะความคิดเราเปลี่ยนเองกันแน่ คำตอบที่ได้คือทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่เรา ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยนั่งรถเมล์เลย ที่ไหนที่ BTS ไม่ผ่านผมไม่ไป เดี๋ยวนี้ลองนั่งดู แรกๆ อึดอัด หงุดหงิดใจมาก หลังๆ ก็ปรับตัวเองได้ คนอื่นเขาก็ขึ้นได้ เราก็น่าจะขึ้นได้ ตอนนี้มีเงินเก็บมากขึ้น มีประกันหลายฉบับ มีทุกอย่างที่อยากได้ และพอจะหามาได้ ชีวิตก็มีความสุขดีครับ จากคุณ : Blancpain - [ 13 ก.พ. 52 10:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ว่าแล้วทำไมเสาร์ที่ผ่านมาบางแสนคนเยอะชะมัด กระทู้นี้นี่เอง พอดีเบื่อๆ ขับไปเหมือนกันครับ ไปหาเพื่อนลากไปกินเบียชายหาด ไม่เคยคิดว่าทำไมคนมันมาเยอะจัง สุดท้ายกลับไปนอนบ้านเพื่อนออกมาค่ำๆแทน จากคุณ : Realize - [ 13 ก.พ. 52 13:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ก็อย่างที่เราได้ยินดารา หรือคนรวยๆ ชอบพูดกันบ่อยๆว่า เงินไม่ได้ทำให้มีความสุขที่แท้จริงๆหรอก  บางคนบอกว่าทำให้เกิดทุกข์ด้วยซ้ำ แต่ไม่เห็นมีคนไหนเอาเงินไปบริจาคให้หมดแล้วไปเป็นคนพอมีพอกินไปวันๆเลย ถ้าเราไม่หลอกตัวเองจะเห็นว่า เงินนั้นสำคัญมาก และความร่ำรวยนั้นทำให้เรามีเกียรติ มีหน้ามีตา เป็นที่ยอมรับในสังคมที่หลอกลวงทุกวันนี้ จากคุณ : HMC - [ 13 ก.พ. 52 13:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เคยน้อยใจว่าตัวเองเป็นเด็กบ้านนอก ฐานะปานกลาง ห่างไกลแสงสี.. แต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยสัมผัสของหรูๆ เคยพักโรงแรมหรู.. เสียตังโดยใช่เหตุ สุดท้ายนอนอพาร์ทเมนท์คืนละไม่กี่ร้อย เคยกินข้าวร้านหรู.. อร่อยสู้ข้าวที่บ้านไม่ได้ เคยใช้กระเป๋าหรู.. พอเบื่อแล้วก็อารมณ์เดียวกับกระเป๋าตลาดนัด เคยใช้เสื้อผ้าหรู.. ใส่ไม่กี่ทีก็เบื่อ เคยกินกาแฟร้านหรู.. กินนมสดอร่อยกว่า เคยอยากมีมือถือดีๆ.. เอาไว้ใช้แค่โทรเข้าโทรออก+ส่งข้อความ เหมือนโทรศัพท์ธรรมดา สวยไม่สวยก็ยัดไว้ในซองเกือบตลอดเวลา สุดท้ายแล้ว.. สิ่งที่แมงฯต้องการก็คือ การได้นอนกอดแฟน.. ไม่จำเป็นต้องโรงแรมหรู เราก็มีความสุขกันได้   การกินข้าวกับครอบครัว.. ไม่ต้องร้านหรู แต่กินข้าวกับคนที่เรา และรักเรา ปล. บางแสนของถูก+อร่อยมากจริงๆ ไปนั่งกินปูนึ่งริมทะเล ถูกกว่าไปนั่งกินตามร้าน (ต่อราคาได้อีก) คิดแล้วก็อยากไปอีก โฮะๆ .. จากคุณ : แมงป่องหางด้วน - [ 13 ก.พ. 52 14:51:22 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ....................  อ่านแล้วคิดถึงมหาวิทยาลัยของเราเช่นกันค่ะ "มช." ... มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เฮ่อ ..... ใครอยู่แถวมช.คงทราบเหมือนกันว่า ของกินแถวม.นั้น ถูก+อร่อยจริงๆค่ะ ตอนนี้ต้องกลับมาเผชิญความจริงในกรุงเทพฯซะละ อยากกลับไปอยู่ + อยากมีบ้านอยู่นั่นจริงๆเลยค่ะ ไว้ถ้ามีโอกาสคงไปเยี่ยมเยียน ม.บูรพาบ้างนะคะ  ^^ จากคุณ : ใบพัดสีม่วง - [ 13 ก.พ. 52 15:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เรียนโท ที่มอ บู ค่ะ สิ่งที่อยากบอกคือ ภูมิใจค่ะ เวลาเบรค จะ ยืนดูทะเลจากตรงห้องอาหาร เราเรียนชั้น 9 อะ อีกอย่างนึง อาหารทะเลที่นี่ถูกมา นี่คือส่วนนึงที่เราตัดสินใจซื้อบ้านและทำงานที่นี่ เงินเดือนที่นี่ไม่แต่ต่างจากที่ กทม เรยยค่ะ เราได้ อยู๋ที่ 40000 ค่ะ แฟนเราทำแถวเซนทรัลเวิล บริษัทสายการบินดังระดับนึงได้ 45000 ตอนนี้ย้ายมาทำแถวนี้ได้ 55000 แถมของก้อถูกเค้าชอบมากเรยยค่ะ จากคุณ : 123 - [ 13 ก.พ. 52 15:58:29 A:58.147.62.47 X: ]

ความคิดเห็นที่ 106 อ่านกระทู้นี้แล้วผมได้ข้อคิดดังนี้ครับ ประทับใจกับ ความเป็นชาตินิยม ของคนญี่ปุ่นครับ เคยได้ยินเรื่องประมาณนี้มาหลายทีแล้ว ถ้าคนไทย นิยมของไทย ใช้ของไทย น่าจะช่วยชาติกันได้เยอะนะครับ ส่วนเรื่องสตาร์บัค อยู่เมืองไทยผมไม่กล้าซื้อกินหรอกครับ กาแฟแก้วละร้อยกว่า กินข้าวตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวได้สามสี่มื้อแน่ะ ขนาดกาแฟแก้วละสามสิบ ผมยังไม่ซื้อกินทุกวันเลย ยอมไปกินกาแฟต้มฟรีที่ออฟฟิศดีกว่า มีช่วงนึงไปทำงานที่เมกา แล้วกินสตาร์บัคบ่อย เพราะอากาศหนาว ต้องหากาแฟร้อน แล้วอีกอย่างราคากาแฟเทียบกับอาหารมื้อนึงแล้วถูกมาก แค่10-20% ของค่าอาหารมื้อนึงเอง เรื่องว่าทำไมสตาร์บัคขายดี ถ้าเป็นเมืองนอก เพราะคนเค้าชอบกินกาแฟกัน แล้วมันก้อไม่ค่อยแพง ถ้าเทียบกับค่าครองชีพ แต่ที่เมืองไทยนี่ ผมว่าหลายคนอาจจะกินเพราะรสชาด แต่หลายคนกินเพราะเป็นค่านิยม นิยมว่ากินแล้วดูดี ดูหรูหรา ถ้าเกิดคนไทย มีค่านิยม ใช้ของไทย ก็คงดีไม่น้อยเลยนะครับ จากคุณ : fiattario - [ 13 ก.พ. 52 18:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 107 สำหรับผม มันก็มีอารมณ์นึงว่า ซื้อความสุขให้กับตัวเอง นั่นก็คือซื้อนู้น ซื้อนี้ ไปนู้น ไปนี่ ให้กับตัวเอง จะถูก จะแพงก็แล้วแต่ว่า เราตั้งงบประมาณไว้แค่ไหน ส่วนเรื่องอาหารที่ ม. บูร ผมก็ว่าอร่อยนะ เพราะแต่ก่อนไปบ่อย   แต่ชอบของกินที่นครปฐมมากกว่า ตอนนี้คิดถึงข้าวแกงป้า ที่เปิดให้คนกินตอนตีหนึ่ง ต่อแถวยาวกันเลย หมูหวานก็หมูมันๆ เยิ้มๆ แต่ก็สั่งกินทุกครั้ง จานข้าวก็ดูสกปรก แก้วน้ำไม่ต้องพูดถึง ปากใครก็ไม่รู้... ข้าวแกงจานนึงก็ 10 บาท อ้อก่อนมาออส ไปกินรู้สึกจะ 15 แล้ว...  ผมกับคิดว่าของกินที่นครปฐม มีให้เลือกหลากหลายกว่า  แล้วก็ถูกกว่าที่ม. บูรนะ   เรื่องราคากาแฟ ถ้าแก้วละ 150 ต่อให้ผมเงินเดือนหลายหมื่น หรือเป็นแสน ผมก็ไม่ซื้อกินนะ ผมว่ามันแพงเกินไป ผมคิดว่าแต่ละอย่างมันมีราคาที่เป็นลิมิตของมันอยู่ ถ้ามันเกินมากกว่านี้ ผมก็จะไม่ซื้อ   ตอนนี้อยู่ที่ิซิดนี่ย์ถ้า starbuck ราคาก็ยังแพงกว่าร้านอื่น ก็ประมาณ 4-7$ ได้ คิดเป็นเงินไทยก็ยังถูกกว่าซื้อที่เมืองไทยนะ   ถ้าเทียบกับรายได้แล้วก็ไม่แพงเท่าไหร่ แต่ร้าน local บางร้านก็อร่อยนะ อร่อยแถมถูกกว่าด้วย อย่างร้าน fast food ก็เหมือนกัน มีร้านนึงของคน portuguese ไก่ย่างอร่อยมาก รวมไปถึงพวก burger ด้วย ผมลืม KFC กับ Mc ไปเลย (อ้อ KFC ที่นี่ห่วยมาก)   ส่วนไอศครีม ก็ชอบกิน Gelatissimo น่าจะของคนอิตาเลียน ค่อนข้างแพงนะ ถ้วยนิดเดียว 4-7$  แต่ก็อร่อยมากๆ เช่นกัน   ยังคิดเลยว่า เออ น่าเสียดายคนไทยเนอะ ที่ไม่ได้มีโอกาสได้ลิ้มรสของอร่อย ที่มีอยู่มากมาย เพียงเพราะคำว่าการตลาด  เอ่อ แต่ผมยังไม่เคยเจองานที่ต้องติดต่อลูกค้า แล้วนัดเจอกันร้านกาแฟนะ จากคุณ : อยู่กับผี - [ 14 ก.พ. 52 04:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 108 รู้สึกตัวเองโชคดีจังที่ไม่กินกาแฟ อุ...อุ... จากคุณ : หมึกสด - [ 14 ก.พ. 52 14:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เดี๋ยวนี้หน้าม.มีแบบนี้แล้วหรอคะ เป้นเด็กม.บรพาเก่า อยากกลับไปที่ม.อีกจัง คิดถึงๆ จากคุณ : cyber_lomogirl - [ 14 ก.พ. 52 19:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 110 มีเงินมากเท่าไหร่ก็ซื้อสุขภาพที่ดีไม่เป็นโรคไม่ได้หรอกเนอะ   ตอนเรียนหนังสือชอบจริงจริ๊งพวกแบรนด์เนม แม่ด่าก็สนใจเก็บตังส์ทำงานช่วงซัมเมอร์ซื้อก็ได้ แม่จะได้บ่นน้อยลง   แต่,, ตั้งแต่ทำงานแล้ว  ยอมรับว่าของแพงมียี่ห้อ ใช้ทนและนาน สวยด้วย ด้ายที่เย็บไม่หลุดง่าย กระดุมติดแน่น ของเลียนแบบก็ตรงกันข้าม   แต่ก็พยายมลดการใช้ของแพง...ไปเรื่อยๆเลยค่ะ  จะซื้อบางครั้งสำหรับใส่ทำงานและสำหรับออกงานบ้าง   จขกท คุณคุ๊กกี้และเพื่อนๆห้องนี้ส่วนใหญ่ประหยัดนะคะ มีความคิดดีๆเยอะมากเชียวแหล่ะค่ะ จากคุณ : เชรี-ที่รัก - [ 15 ก.พ. 52 09:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 111 คุณคิดว่าราคาที่คุณเจอถูกแล้วเหรอ เราเคยอยู่มอบูมาก่อน นี่ราคาแพงแล้ว ไม่ค่อยมีใครกินหรอกมีแต่พวกทำงานแล้ว เค้ามีที่อี่นๆ เช่นหลังมอ ในโภ canteen อร่อย เหมื่อนๆกันนั้นแหละ จากคุณ : รักกล้วยเชื่อม - [ 15 ก.พ. 52 17:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 112 กระทู้นี้ผมชอบ ที่สุดเท่าที่เคยอ่านกระทู้ของคุณคุ๊กกี้เลยนะครับ รู้สึกดีมาก ๆ ชอบมาก ๆ อ่านแล้วแอบเศร้า แต่ก็ให้แง่คิดหลายอย่าง จากคุณ : อืม (แมวเบ๊บ) - [ 15 ก.พ. 52 17:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 113 อ่านแล้ว อารมณ์ดี สมควรเป็นกระทู้แนะนำนานๆครับ... มีเงินก็ใช้  ไม่มีเงินก็ไม่ใช้... ส่วนใหญ่ชีวิตคนเราเสียค่าใช้จ่ายกับภาษีสังคมกันเยอะครับ.. ผมน่ะ มาทำงานต่างประเทศ เพิ่งกลับมามะตะเกี๊ยะ.. ไปเจอเพือนๆที่เมืองไทย ชอบถามว่าอยู่ที่โน่น แล้วเป็นไง... ผมว่า ก็ดี.. สังคมไม่มี ไม่ได้นัดใคร ก็ไม่ต้องกินข้าวร้านแพงมากมาย เที่ยวก็ไม่ได้เที่ยว หนังก็ไม่ดู เพราะไม่รู้จะไปดูกะใคร.. จะจีบสาว สาวประเทศนี้สาวก็สวยน้อย แถมหยิ่ง อีก... รถก็ไม่มี ใช้แต่ระบบขนส่งมวลชน รถเมล์ รถไฟฟ้า ว่ากันไป.. ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน.. ทำงานได้ตังมา ก็ไมรู้เอาไปทำอะไรเหมือนกัน ก็เก็บไปเรื่อยๆตามเป้าหมาย และรีบเกษียณ.... กลับไปทำงานเมืองไทยอาทิตย์เดียว แฟนไม่อยู่...ใช้เงินไปเกือบสามสี่หมื่นได้ 55 แอลกอฮอล อยู่ในกระแสเลือดทุกวัน นอนดึกทุกวัน...   กลับมาอ่านกระทู้นี้เสร็จ เลยนั่งคิดว่า.. ระหว่างอยู่เมืองไทยเนี่ย วันใหนใช้เงินน้อยสุด วันนั้นดูจะมีความสุขที่สุดเลย... ใช้ชีวิตหนักเหลือเกิน.. ว่าแล้วก็ไปนอนดีก่าา.. จากคุณ : MESMERIC - [ 15 ก.พ. 52 22:58:52 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ชอบ คห.10 มากๆครับ เมื่อไรคนไทยจะคิดแบบนี้ได้มั่งน้อ ยินดีกะพี่ยุ่น พี่กันด้วยครับ ตอนนี้ท่านได้ไทยเป็นเมืองขึ้นเรียบร้อยแล้วโดยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อสักหยด จากคุณ : narongdech_p - [ 11 มี.ค. 52 09:49:16 ]