PANTIP.COM : B7513327 ประกันสังคมกรณีว่างงาน [ความรู้ สิทธิประโยชน์] []

ประกันสังคมกรณีว่างงาน [ความรู้ สิทธิประโยชน์]

เคยสงสัยกันไหมว่า ไอ้ร้อยละ 5 ที่เขาหักเราจากเงินเดือนของเรานั้น มันมีประโยชน์อะไรกับเราบ้าง

อย่างแรกเลย ซึ่งทุกคนก็คงจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วนั่นก็คือ สิทธิในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ปวดหัวเป็นไข้ก็ไม่ต้องจ่ายเงิน เพราะมีประกันสังคมออกให้ เพียงแต่ห้ามป่วยพร่ำเพรื่อ (เหมือนเมื่อก่อนที่ห้ามตายตอนวันหยุด เพราะเดี๋ยวจะไม่มีหมอรักษา) ห้ามป่วยนอกสถานที่ (ยกเว้นอุบัติเหตุฉุกเฉิน ซึ่งคำว่าร้ายแรงแต่ละแห่งก็ไม่เหมือนกันเสียอีก ผู้เขียนเคยพาผู้หญิงที่ถูกกระชากกระเป๋า โดยคนร้ายได้ถีบรถจักรยานยนต์แถมทำให้รถตกคู ส่วนผู้หญิงนั้นก็หน้าตาและลำตัวครูดไปกับถนนเป็นแผลถลอกปอกเปิดต้องผ่าตัดเล็ก [ก็แค่ตัดเนื้อออกนิดนึงแล้วขูดเอาหินดินทรายออกจากแผลแล้วก็ล้างเสร็จแล้ว จึงเย็บ] ปรากฎว่า กรณีนี้ ไม่ใช่อุบัติเหตุฉุกเฉิน !

อย่างที่สองคือ สิทธิการได้ผลประโยชน์ชดเชยอันเกี่ยวเนื่องจากการทำงานต่าง ๆ เช่น สอนหนังสืออยู่ดี ๆ ก็หล่นไปในบ่อหมักปุ๋ย จนเป็นเหตุให้พิการ อันนี้ก็ขอรับการชดเชยได้ แต่ในข้อนี้ไม่มีทั้งประสบการณ์ทางตรงและประสบการณ์ทางอ้อม จึงขอไม่เล่าครับ

มาในสิทธิที่หลาย ๆ คนรู้ว่ามี แต่ไม่ได้ใช้ หรือ บางคนก็ไม่รู้ว่ามีสิทธิแบบนี้ด้วยหรือ นั่นก็คือ การชดเชยกรณีว่างงานนั้นเอง

อันตัวบทกฎหมายซึ่งอ่านแล้วเวียนหัวได้อรรถาไว้ว่า ผู้ที่ส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนใน 15 เดือนต่อเนื่องกัน มีสิทธิได้รับการประกันกรณีว่างงานคิดเป็นร้อยละ 30 ในกรณีลาออก และร้อยละ 50 กรณีถูกเลิกจ้าง ทั้งนี้ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 และ 180 วันตามลำดับ นั้นไซร้

ฝ่ายบุคคลในหลาย ๆ ที่ทราบดีในข้อนี้ครับ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า แล้วจะสามารถรับผลตอบแทนได้อย่างไร ต้องทำไง แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ผมเองก็มีประสบการณ์ดังกล่าว เพราะเมื่อลาออกจากบริษัทเดิมใหม่ ๆ ก็พยายามหารายได้ให้ตัวเอง ทั้งรับพิมพ์งาน แปลเอกสาร (ตำราเรียนเด็กอนุบาลถึงประถมหก) และทำเว็บไซต์ รวมถึงติดต่อกับฝ่ายบุคคลของตัวเองเพื่อขอข้อมูลเรื่องประกันสังคม ซึ่งก็ปรากฎว่าไม่สามารถให้รายละเอียดได้ พอโทรไปสายด่วยประกันสังคม ก็เจอกับระบบโทรศัพท์ตอบรับ ก็นึกในใจว่า นี่ถ้า 191 เอาอย่างประกันสังคม โทรไปแจ้งเหตุตอนวิ่งหนีผู้ร้าย กว่าเขาจะรับสาย คงท้องครบ 9 เดือนแล้วแน่เลย

สาเหตุที่ทำให้การขอรับสิทธิประกันสังคมกรณีว่างงาน เป็นไปด้วยความยากลำบากส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของขั้นตอนตามกฎหมายที่ยุ่งยาก เช่น ต้องเตรียมเอกสาร 4 ชิ้น คือ รูปถ่าย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาบัญชีธนาคาร สำเนาการแจ้งออกจากงาน หรือ สปส.๖-๐๙ รวมถึงแบบขึ้นทะเบียนขอรับสิทธิประกันสังคมกรณีว่างงาน (มีให้โหลดครับ แต่โหลดยากมาก) แล้วไหนยังจะคำขู่ว่า ถ้าไม่ขึ้นภายใน 30 วันจะไม่ได้ผลประโยชน์ชดเชยบ้าง คำขู่ว่า เขาจะส่งไปอบรมตามใจเขา ถ้าไม่ไป เขาก็ไม่ให้ตังค์ หรือว่า บางทีเขาก็จะให้ไปสมัครงานตามที่เขาหาให้ ถ้าเราไม่ไป ก็ไม่ได้งานอีก เอ้อ เวรกรรม

ความจริงเป็นอย่างไร

เมื่อ นาย ก. ต้องออกจากงานด้วยความไม่เต็มใจ (อ่านดี ๆ นะครับ อ่านว่า นาย กอ นะครับ ไม่ใช่ นายก ) เพราะบริษัทใกล้จะเจ็งจนต้องปรับลดพนักงาน น่าสงสารนาย ก. เสียยิ่ง เพราะบริษัทไม่มีตังค์จะจ่ายค่าชดเชยให้ ถ้าอยากได้ คงต้องฟ้องกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงานอีก แต่เหมือนฟ้ามาโปรดกลางทะเล ฝ่ายบุคคลมาบอกว่า ให้ไปขึ้นทะเบียนว่างงานกับประกันสังคม จะได้มีเงินชดเชยไปก่อน เพราะกว่าจะหางานใหม่ได้ก็คงอีกนาน แต่พอถามว่าต้องทำไง ก็มีแต่ความเงียบ เพราะฝ่ายบุคคลก็ไม่รู้คื่อกันเด้ (ฟ้ามาโปรดกลางทะเลจริง ๆ )

โชคดีที่นาย ก. มีเพื่อนประเภททำงาน 1 ปี ลาออก 1 ครั้ง จึงโทรไปสอบถามได้ความว่า

ให้ นาย ก. ถ่ายเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนของตัวเอง กับ สำเนาบัญชีธนาคารที่มีบัญชีไหนก็ได้ (เดี๋ยวจะบอกรายละเอียดเพิ่ม) ถ้ามีหนังสือของบริษัทหรือมีเอกสารที่บริษัทต้องส่งให้ประกันสังคม ที่บอกว่าตัวเองออกจากบริษัทแล้วก็ให้เอามาด้วย มีรูปถ่าย 1 นิ้วอีก 1 รูป แล้วไปหาสำนักงานจัดหางานที่สะดวก ที่ไหนก็ได้ ไปขึ้นทะเบียนซะ ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็เสร็จแล้ว

นาย ก. ก็บ่นว่า
เอกสารตั้งเยอะแยะ กูต้องนั่งรถไปนั่งรถมาไปเอาอีก บ้านอยู่เชียงราย บริษัทอยู่ยะลา ตอนนี้ตัวอยู่กรุงเทพ จะให้ทำไงวะ ไม่เอาดีมั้ง

เพื่อนผู้มากประสบการณ์จึงบอกว่า
แก ก็ไปเปิดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ขอห้าคะแนน) ตรงไหนก็ได้ ถ่ายบัตรประชาชน แล้วก็เดินไปสำนักจัดหางานใกล้ ๆ แก ในกรุงเทพมีอยู่ 10 เขต แกอยู่บางนา ก็ไปเขต 8 สำนักงานอยู่ตรงข้ามเซ็นทรัลบางนา แค่นี้ก็เสร็จแล้ว เอกสารที่จำเป็นมันก็มีแค่นี้ล่ะวะ

นาย ก. ได้ฟังก็ตื่นเต้น
ไอ๊หยา งั้นไปเดี๋ยวนี้เลย ขึ้นทะเบียนแล้วได้เงินเลยเปล่าวะ จะได้รีบไป

เพื่อนที่ปัจจุบันลาออกมากว่า 5 ครั้งแล้ว จึงได้เตือนสติไปว่า
เมิงขึ้นทะเบียนแล้วเขาก็จะนัดรายงานตัว ขึ้นวันไหน เดือนหน้าวันนั้น ก็มารายงานตัว ต้องรายงานตัวเสร็จก่อนนะเฟ้ย ประกันสังคมเขาถึงโอนตังค์เข้าไปให้ อ่อ แล้ว หลังจากขึ้นทะเบียนก็จะมีจดหมายจากประกันสังคม แจ้งไปว่า เมิงจะได้เงินกี่วัน วันละกี่บาท เมิงก็ลองรวมดูว่าแต่ละเดือนเงินที่เมิงได้น่ะ เป็น 30 % ของค่าจ้างงวดสุดท้ายหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ใช่ ก็โทรไปถามประกันสังคมว่า เพราะอะไร เข้าใจป่ะ

นาย ก.
เออ สรุปแล้ว กูต้องไปขึ้นทะเบียนก่อนใช่เปล่า เสร็จแล้วก็รอเดือนหนึ่งก็ไปรายงานตัว กูถึงจะมีเงินใช้น่ะ

เพื่อน ซึ่งตอนนี้ก็กินประกันสังคมแทนเงินเดือนอยู่
เออ ไปขึ้นซะภายใน 30 วันนะเว้ย ไม่งั้นสิทธิจะได้ไม่เต็มที่ ถ้าถูกไล่ออกเนี่ยได้ 6 เดือน ถ้าเมิงไปขึ้นเอาเดือนที่ 2 เมิงก็ได้แค่ 4 เดือน เข้าใจป่ะ

นาย ก.
ได้ ๆ เดี๋ยวก็ไปเลย กูไม่ได้อยู่อังกฤษ ไปได้ ขึ้นได้เลย ไม่มีปัญหา เออ กูยังไม่ แล้วเขาจะบังคับหางานให้กูเปล่าวะ

เพื่อนซึ่งมีอาชีพขอรับการสงเคราะห์ ก็เลยตอบว่า
ไม่ต้องกลัวหรอกเพื่อนเอ๋ย แค่ขึ้นทะเบียนประกันว่างงานให้ แกน่ะ ก็เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เขาไม่ว่างหางานให้แกหรอก เขาจะให้ใบอะไรสักอย่างมาให้แก แกก็เอากลับบ้าน ไปกรอกเอาเองว่าไปหางานอะไรมาบ้าง ถ้าอยากอบรมก็บอกเขา เพราะเขาก็ไม่ได้หาหลักสูตรฝึกอบรมให้แกด้วย ว่าแต่แกจะเรื่องมากแทนเขาทำไมวะ

นาย ก.
เออ ๆ ขอบใจเว้ย ไปแล้ว ๆ เดี๋ยวนั่ง 46 ไปสำนักจัดหางานก่อนแล้ว ขอบใจมาก

ก็แค่นี้แหละครับ ไปขึ้นทะเบียนเสร็จ เดี๋ยวก็รออีก 1 เดือน ก็มารายงานตัว เสร็จแล้วอีกไม่กี่วันก็จะได้รับเงินตัวนี้ ซึ่งจะโอนให้ทางบัญชีธนาคารที่เราให้ไว้แล้วล่ะครับ

-----------------------------------------
สรุป
การขึ้นทะเบียนว่างงานนั้น เป็นสิทธิของผู้ประกันตน ที่ได้จ่ายเงินสมทบ (แต่จ่ายด้วยตัวเองไม่มีสิทธินี้นะครับ) ทุกคน มีข้อแม้ในเรื่องของเวลาคือ ในระยะเวลา 1 ปี 3 เดือนที่ผ่านมา หรือก็คือ 15 เดือน คุณจะต้องจ่ายเงินประกันสังคม นี้มาไม่น้อยกว่า 6 เดือน จึงจะมีสิทธิครับ และสิทธิที่ได้ในกรณีที่ลาออกกับเลิกจ้างก็จะแตกต่างกัน คือ ถ้าลาออกจะได้ 30% ของเงินเดือนงวดสุดท้าย ไม่เกิน 3 เดือน ถ้าเลิกจ้างจะได้ 50 % ของเงินเดือนงวดสุดท้าย ไม่เกิน 6 เดือน แต่ทั้งนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่า เงินเดือนที่หักประกันสังคม นั้นมีเพดานอยู่ที่ 15,๐๐๐ บาทนะครับ เพราะฉะนั้น หากคุณเงินเดือน 248,๐๐๐ บาท แล้วลาออก ก็จะคิดที่ 30 % ของ 15,000 ซึ่งเป็นเพดานของเงินเดือนที่หักเท่านั้นครับ

การขึ้นทะเบียนว่างงานนั้น ขึ้นได้ที่ สำนักจัดหางานกรุงเทพทั้ง 10 เขต หรือ ที่สำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด สังเกตนะครับ ขึ้นที่จัดหางาน ไม่ใช่ขึ้นที่ประกันสังคม

การขึ้นทะเบียนนั้นควร จะทำให้เสร็จภายใน 30 วันนับจากวันที่ออกจากงาน เพื่อสิทธิประโยชน์จะได้ครบถ้วนตามจำนวนครับ (ก็หวังว่าคงไม่มีใครที่อ่านข้อความนี้แล้วก็ไปเอาวันที่ 30 ของการออกจากงานเป๊ะ ๆ ตอน 4 โมงนะครับ เพราะคุณกำลังเสี่ยง)

เอกสารมี 4 อย่างดังนี้
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชา แล้วอย่าเอาไปแต่สำเนานะครับ ตัวจริงก็เอาไปด้วย รู้หรือไม่ว่า การไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนมีโทษปรับ 500 บาทนะครับ
2. สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ใช้ได้ ๖ ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีฯ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทย และ ธนาคารกรุงไทย เท่านั้นนะครับ เวลาถ่ายให้มีเลขที่บัญชีกับชื่อของคุณก็พอ ไอ้ตัวเลขเดินบัญชีไม่ต้องนะครับ
3. รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 1 รูป ไว้ขึ้นทะเบียนหางาน ซึ่งเป็นข้อกำหนดหนึ่งในการขึ้นทะเบียน แต่ถ้าไม่มีรูป ไม่ต้องติดก็ได้ เจ้าหน้าที่อนุโลมให้ครับ
4. เอกสารที่เป็นหลักฐานการออกจากงาน เช่น หนังสือรับรองจากบริษัท หรือแบบ สปส.๖-๐๙ ถ้ามี ถ้าขอจากฝ่ายบุคคลได้ ก็ให้เอามาเลยครับ แต่ถ้าไม่สะดวก หาไม่ได้ ก็ไม่ต้องก็ได้

เอกสารที่มักเอามาเกินเช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประกันสังคม สำเนาบัตรพนักงาน พวกนี้ไม่ใช้นะครับ

เรื่องของการหางานให้ หรือส่งฝึกอบรมให้
หลายคนพอรู้ว่ามีข้อนี้ ก็จะเข้าไปดูในเว็บไซต์ของกระทรวงว่ามีฝึกอบรมอะไรที่ไหน พอเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นการอบรมประเภทช่าง ก็มักจะไม่อยากไป หรือบางคนก็ลาออกมาก็เพราะอยากทำอาชีพส่วนตัว พอรู้ว่าจะต้องหางาน ก็เลยไม่ไปขึ้นทะเบียน เอาเป็นว่าเชิญฟังทางนี้ครับ
โดยส่วนใหญ่แล้วเรา จะไม่ได้หางานให้ ยกเว้นผู้ขึ้นทะเบียนจะร้องขอ เวลาเราขึ้นทะเบียนนั้น เราจะเลือกลงทะเบียนให้ว่า คุณสามารถหางานได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ส่วนของการอบรมก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณไม่ร้องขอ เราก็ไม่บังคับให้ไปหรอกครับ อาจจะเชิญชวนบ้าง แต่ก็ไม่บังคับอยู่ดี (แต่ถ้าคุณไปกวนโมโหเขา เขาก็อาจจะส่งคุณไปอบรมภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นได้เหมือนกันนะ ฮ่า ๆ )
แต่ในระหว่างที่เป็นผู้ขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานนั้น ก็จะต้องเป็นผู้ที่หางานด้วย เพราะฉะนั้น เราจะมีเอกสารให้คุณ 1 แผ่น เป็นหนังสือรับรองการหางาน ซึ่งคุณต้องเอามาให้เราทุกครั้งพร้อม ๆ กับหนังสือรายงานตัว ในทุก ๆ เดือนที่คุณมารายงานตัว ซึ่งเอกสารชุดนี้ก็กรอกไม่ยาก กรอกง่ายกว่าใบสมัครสมาชิกบัตรเงินกู้เยอะมาก ๆ ครับ (ถามเจ้าหน้าที่ได้ ถ้าสงสัย)

สุดท้าย มีคำถามอะไรก็ใส่ไว้นะครับ จะตามมาตอบให้

แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 52 22:58:04

จากคุณ : @power - [ 10 ก.พ. 52 22:41:46 ]