ไปห้างสรรพสินค้าให้น้อยลง
ถ้าเราไปร้านเหล้า โอกาสกินเหล้าของเราก็จะมีมาก
ถ้าเราไปวัด เราแทบจะไม่มีโอกาสกินเหล้าเลย
ถ้าเราคบเพื่อนสำมะเลเทเมา เราก็จะไปสำมะเลเทเมากับเขา
ถ้าเราคบเพื่อนอยู่ในศีลธรรม เราก็จะมีแนวโน้มมีศีลธรรมแบบเขา
ทั้งหมดนี้.........คือ "สภาพแวดล้อม"
สภาพแวดล้อมของมันตรงนั้น มันจะมีอำนาจเหนือเรา ก็ต่อเมื่อเราเดินเข้า
ไปสู่สภาพแวดล้อมนั้น แต่ถ้าเราไม่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อม
นั้น มันก็จะไม่มีโอกาสเหนือเราได้
อย่างห้างสรรพสินค้า จะมีสินค้าแปลกใหม่ ที่จูงใจเราให้อยากซื้อ ไม่ว่าจะ
ยังไง เมื่อเราไปห้างสรรพสินค้า เราจะต้องเสียเงินไม่มากก็น้อย
คนที่เข้าบ่อน แม้ไม่อยากเล่นการพนัน เมื่อเขาหามผีมาถึงป่าช้าแล้วเขาก็
ต้องเผา คนไปบ่อน แม้ไม่ใช่นักการพนัน แต่ก็อดหยอดเล่นสักหน่อยไม่
ได้ คนเมื่อเข้าห้างสรรพสินค้าแล้ว ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว ไม่ซื้อมากซื้อ
น้อย ก็ต้องซื้อ.............เพราะไหนๆ ผีก็ถึงป่าช้าแล้ว
เขาสอนกันมาอย่างนี้ว่า ถ้าเดือนหนึ่งเราไปห้างสรรพสินค้า 4 ครั้ง เราจ่าย
เงินครั้งละ 1 พันบาท ซึ่งการไปห้างแต่ละครั้ง เราจะเห็นโน่นเห็นนี่อยาก
ซื้อ ซึ่งมันเป็นของไม่จำเป็นต้องใช้ หรือไม่ต้องซื้อก็ได้ อย่างนี้การไปห้าง
มากครั้งเท่าใด เราก็จะเสียเงินโดยไม่เกิดประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เราจะต้องใจแข็ง เดือนหนึ่งไปห้างสรรพ
สินค้าครั้งเดียวก็พอ มีความจำเป็นต้องซื้ออะไร ก็ซื้อมันเสียทีเดียว ให้คุ้ม
ไปทั้งเดือน แม้การไปห้างเดือนละครั้ง เราอาจพลาดซื้อของที่อยากได้
บ้าง ที่ไม่จำเป็นบ้าง แต่ไปครั้งเดียวก็พลาดแค่ครั้งเดียว..........ถือว่าคุ้ม
เมื่อเราไปห้างเดือนละครั้ง เราเสียเงินแค่ 1 พัน หรือ 2 พัน ในกรณีซื้อของ
ที่อยากได้ ที่มันไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ ก็เท่ากับว่า เดือนหนึ่ง เราประหยัด
เงินไปได้ถึง 2 พัน หรือ 3 พันบาททีเดียว
เมื่อฝึกฝนให้ตัวเองประหยัดให้รู้จักคิดได้อย่างนี้ เราจะประหยัดเรื่องอื่นได้
อีกมาก......ห้างสรรพสินค้ามีลูกล่อลูกชนมาก ถ้าเราเผลอไปเมื่อไหร่ เรา
เสร็จเขาเมื่อนั้น แม้เราคิดว่าเราใจแข็ง เราไม่ซื้อแน่ แต่ห้างเขาหากินทาง
ขายของ จะอย่างไรเสียเขาจะใช้ทุกวิถีทางที่จะดูดเงินจากกระเป๋าเรา
ยกตัวอย่างเช่น บันไดเลื่อนของห้างที่จะลงไปไม่อยู่ชั้นเดียวกัน กล่าวคือ
ถ้าเราอยู่ชั้น 4 เราจะลงไปชั้นหนึ่ง บันไดเลื่อนตัวลงจะไม่อยู่ต่อกันทุกชั้น
เราจะไม่สามารถลงปรู๊ดเดียวถึงชั้นล่างได้เลย เพราะเขาจะจัดบันไดเลื่อน
ทั้งตัวขึ้นตัวลงให้อยู่คนละมุมตึก จะทำให้เราต้องเดินข้ามฟาก ทำให้เรา
เห็นสินค้าและร้านค้าอีกมาก เมื่อเราเห็นแล้ว เราก็มีแนวโน้มจะซื้อ ถ้าเขา
ไม่ทำบันไดเลื่อนให้อยู่ห่างกัน เราก็จะลงปรู๊ดไปเลย โอกาสในการอยู่ห้าง
ก็จะน้อยลง
ห้างต้องการให้เราอยู่ในห้างของเขาให้นานที่สุด เพราะยิ่งนาน โอกาสที่เรา
จะเสียเงินซื้อของก็จะมาก หรือในโซนขายไวน์ มีการวิจัยออกมาพบว่า
ถ้าเปิดเพลงของฝรั่งเศสตรงโซนขายไวน์ ไวน์ของฝรั่งเศสก็จะขายได้มาก
ถ้าเปิดเพลงของเยอรมัน ไวน์ของเยอรมันก็จะขายได้มาก
ยิ่งคนขายหน้าตาจิ้มลิ้มด้วยแล้ว เราที่เป็นผู้ชาย เห็นอะไรก็อยากซื้อไป
หมด เพราะคนเรามักทนทำเป็นจนต่อหน้าคนสวยไม่ได้ มันเสียเชิงชาย
โดยสรุปก็คือ เราจะต้องพาตัวเองให้อยู่ห่างไกลที่ที่จะทำให้เราต้องเสีย
เงิน ซึ่งห้างสรรพสินค้านั้นไม่ใช่อบายมุข แต่ก็สูบเงินเราได้มากไม่ต่างจาก
สถานที่อบายมุข ดังนั้น เราจะต้องไม่ไป
ถ้าเราต้องการพักผ่อนหย่อนใจ เราสามารถไปวัดก็ได้ วัดเป็นสถานที่
ศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม เราเข้าวัดแล้วเราจะเกิดความเป็นสุข สบายใจ ไม่
ว่าเราจะเดือดร้อนเรื่องอะไร ถ้าเราได้เข้าวัดแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์และความ
ร่มรื่นของวัดจะช่วยเราได้มาก ทำให้ใจของเราสงบ สามารถคิดหนทาง
แก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้ หรือเราอาจจะไปสวนสาธารณะก็ได้ ความร่ม
รื่นของสวนสาธารณะเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ และไม่ต้องเสียเงินซื้อด้วย
เราจะต้องท่องคาถาศักดิ์สิทธิ์ว่า สติมี สตางค์มา ไปห้างเดือนละครั้งก็พอ
ขอความสวัสดีจงมีแก่การไปห้างน้อยลงครับ
วิทักโข
จากหนังสือชื่อ สติมี สตางค์มา เขียนโดยคุณ วิทักโข
แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 52 18:58:55
ลุงแอ็ด.....เอามาฝาก ตอนที่ 4 ไปห้างสรรพสินค้าให้น้อยลง
ห่างไกลจากแหล่งที่จะทำให้เสียเงิน...
