Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ตอนที่ 7: บทโศก “ฉันกับเจ้านาย” “เจ้านายใหม่ บริษัทใหม่”

    ตอนที่ 7: บทโศก “ฉันกับเจ้านาย” “เจ้านายใหม่ บริษัทใหม่”


    ก็อย่างที่เคยบอก ...
    เราเคยทำงานในบริษัทใหญ่ (โต) ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติ (ญี่ปุ่น)
    เราเริ่มทำงานจากตำแหน่งพนักงาน ธรรมดา
    ไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้จัดการแผนก – ด้านบริการลูกค้า
    (ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม บริษัท เพราะถ้าเอ่ยชื่อเมื่อไร – คุณร้อง อ๋อ แน่นอน)
    ทำงานอยู่หลายปี





    ก่อนลาออกจากบริษัทเดิม
    เราได้สมัครงานไว้หลายแห่ง
    มีบริษัทเรียกเราไปสัมภาษณ์หลายแห่ง

    และมีหลายบริษัท ตกลงรับเราเข้าทำงาน
    แต่ในบรรดา บริษัทเหล่านั้น (บริษัทที่ตกลงรับเรา)


    เราสนใจมากที่สุด (อยากทำงานด้วย) อยู่ 2 บริษัท



    บริษัทแรก – ทำเกี่ยวกับเครื่องจักรกล (เครื่องจักรกลหนัก)
    ตำแหน่งงานที่บริษัทนี้ Offer ให้ คือ ผู้จัดการฝ่ายบริการ
    ลักษณะงาน ต้องตามไปให้บริการ (ซ่อม) เครื่องจักรที่ขายให้กับโรงงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ
    และต้องเจรจาให้ลูกค้าซื้อสัญญา (ขายบริการ) ใช้บริการเรา (รายปี, ราย 2 ปี, ราย 5 ปี ฯลฯ)



    บริษัทที่สอง – ทำเกี่ยวกับโลหะ (ซื้อมา – ขายไป)
    ตำแหน่งงานที่บริษัทนี้ Offer ให้ คือ Customer Relation Manager
    ลักษณะงาน ต้องคอยให้บริการลูกค้า (ตอนนั้น ได้รับทราบเพียงแค่ว่า
    เป็นงานบริการลูกค้า ไม่ได้เอะใจเลยว่าจะต้องทำงานการตลาดรวมทั้งงานเอกสารด้วย)
    บริษัทนี้ Offer เงินเดือน มากกว่า บริษัทแรก 2,000 บาท


    เราใช้เวลาคิดอยู่ 7 วัน 7 คืน (ตอนแรกเล่นตัว ขอเวลาตัดสินใจกับบริษัททั้ง 2 บริษัทละ 7 วัน
    โดยเวลาเหลื่อมกัน ประมาณ 2 วัน)

    บริษัทอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ ที่ตกลงรับเราเข้าทำงานด้วย
    เราใช้เวลาคิดเพียงแค่ 2-3 วัน ก็ปฎิเสธเขาไป (ตอนนั้น เล่นตัว)




    ท้ายที่สุด



    เราตัดสินใจเลือกเข้าทำงานกับบริษัทที่สอง ด้วยเหตุผล เงิน 2,000 บาท

    และใช้เวลา 30 วันในการลาออกจากบริษัทเดิม

    หลังจากลาออกจากบริษัทเดิม
    เราได้เริ่มงานในบริษัทใหม่
    เป็นบริษัททำธุรกิจ ซื้อมา – ขายไป สินค้าด้านโลหะ
    เจ้าของบริษัท เป็นคนสิงคโปร์
    มีบริษัท นอมินี ที่สิงคโปร์มาตั้งในไทย เป็นผู้ถือหุ้นคนไทย
    และมีเจ้านายใหม่ของเรา ถือหุ้นนิดหน่อย (เจ้านายเราถือหุ้นไม่เกิน 0.01%)
    แบบว่าทำเป็นพิธีว่าคนไทยถือหุ้นเกิน 51% เพื่อหลีกเลี่ยง กฎหมายไทย
    แต่ในทางปฏิบัติ – สิงคโปร์ ก็คือ เจ้าของ และมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหาร

    เราได้รู้ข้อมูลลึก ๆ เพราะในช่วงเวลาก่อนเราจะออกไม่กี่เดือน
    เราได้รับมอบหมายให้เก็บแฟ้มข้อมูลบริษัท
    และต้องเตรียมงานประชุมผู้บริหาร -- รายงานผลประกอบการประจำปี
    ความจริง ... เราคือคนใหม่ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายจึงให้เราถือแฟ้ม (ซึ่งเขากำชับนักหนาว่า – ความลับ)

    เอาเถอะ ... เรายินดีถือ (เพราะทำให้เรารู้หลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน -- แต่ไม่นำมาเปิดเผยในที่นี้แน่นอน)

    อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ถือเปล่าหรอก
    เจ้านาย ให้เราเป็นคนทำ Presentation สรุปผลการดำเนินการประจำปีที่ผ่านมาด้วย
    เราทำ Presentation ล่วงหน้าเดือน (หลายเดือน) และมีการแก้ไขหลายครั้ง
    กว่าจะสมบูรณ์ ต้องในผู้จัดการขายตรวจทาน,
    ตัวเจ้านายเราตรวจทาน – และให้เจ้านายสิงคโปร์ตรวจทานอีกรอบ
    ขอบอกว่าต้องแก้ไขทุกรอบ (บางรอบหลายครั้ง โดยเฉพาะเจ้านายเรา)


    เจ้านายเราคนใหม่ เป็นผู้หญิง
    ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป (รักษาการแทนผู้จัดการทั่วไป)
    องค์กรขนาดไม่ใหญ่ (มีพนักงานประมาณ 30 คน)
    ผู้บริหารสูงสุด คือ ผู้จัดการทั่วไป ซึ่งเป็นคนสิงคโปร์
    ซึ่งปกติจะเข้าบริษัท เดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น (บินมาจากสิงคโปร์ครั้งละ 3-4 วัน)

    เราเริ่มงานวันแรกด้วยความรู้สึก คึกคัก เต็มด้วยไฟใฝ่เรียนรู้งานใหม่
    แต่วันแรกเราก็ได้รับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
    เราไปทำงานแต่เช้า ไปถึงก่อน 7.00 น. (เกรงว่าจะไปสาย)
    ปกติ เข้างาน 8.00 น.

    ปรากฏว่า พอถึงที่ทำงาน ไม่สามารถเข้าไปในที่ทำงานได้ !

    มี รปภ. เดินมาถามว่า มาหาใคร??

    เราจึงบอกว่า เป็นพนักงานใหม่ – มาทำงานวันนี้เป็นวันแรก

    รปภ. ก็แสนดี เชิญเรานั่งที่ม้านั่งหินอ่อน (หินขัด) ข้าง ๆ ป้อม รปภ.

    เราก็ถามว่า เข้าข้างใน Office ไม่ได้หรือ

    รปภ. แจ้งว่า ต้องรอคนถือกุญแจเปิดบริษัท !!

    สักพัก ... มีเพื่อนพนักงานทยอยเข้ามานั่งรอ ตามขอบปูน – ขอบฟุตบาท

    หลายคนขอมานั่งโต๊ะหินอ่อนร่วมกับเรา
    หลายก็นำข้าวเหนียว หมูปิ้ง, แจ่ว, น้ำพริก มาเปิดทานบนโต๊ะหินอ่อน
    บางคนชวนเราทานข้าวด้วย
    (เราเห็นแล้ว ... น้ำลายไหล!! 555 ก็เรามันก็หิวเหมือนกัน)

    แต่เราปฏิเสธไปว่า -- ทานมาแล้ว (ทั้งที่จริง ... เรายังไม่ได้ทานอะไร)

    เราถือโอกาสแนะนำตัว – ทักทาย – เพื่อฝากเนื้อฝากตัว


    และแล้ว ... ผู้ที่ถือกุญแจ บริษัท ก็มาถึง และเปิดประตู ประมาณ 7.50 น.

    ทุกคน ... กรูเข้าไปรูดบัตร !!
    ภาพที่เห็นมันช่างแตกต่างจากบริษัทเก่าที่เราเคยทำงานมาอย่างสิ้นเชิง
    (บางคนรูดบัตรเสร็จ ก็กลับมานั่งทานข้าวต่อ)

    หลังเปิดประตูบริษัทแล้ว
    เราเข้าไปนั่งที่ ... เก้าอี้รับแขก
    กว่า HR จะเรียกเข้าพบ ก็เกือบจะ 9.00 น.
    HR Manager พาเราไปแนะนำตัวกับเจ้านาย (เราเห็นเจ้านายมาทำงานก่อน 9.00 เล็กน้อย)
    และพาเรามาแนะนำตัวกับน้อง ๆ ในฝ่ายงานที่เราจะต้องมารับผิดชอบ และฝ่ายอื่น ๆ

    สรุปว่า เช้าวันแรก เราไม่ได้ทำอะไร

    โต๊ะทำงานก็มาหาโต๊ะ --- จัดโต๊ะกันในเช้าวันนั้น

    บอกตามตรงว่า ในใจลึก ๆ เรารู้สึกหวั่นไหวพอสมควร

    (เราคิดในใจ ให้กำลังใจตัวเอง บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร)

    ช่วงบ่าย … HR Manager เรียกเราเข้าปฐมนิเทศ
    โดยมีเราเพียงคนเดียว
    เขานั่งคุย – เล่าแนะนำเกี่ยวกับบริษัทให้เราฟังประมาณ 1 ชั่วโมง
    การปฐมนิเทศก็จบ ....
    นี่เป็นการปฐมนิเทศที่เราคิดว่า ระยะเวลาสั้นที่สุด

    จากนั้นก็มาสอบถามเรา ประมาณว่ามาสัมภาษณ์เรารอบที่ 2

    เอาเป็นว่า คุยกัน 2 คนนานกว่า 2 ชั่วโมง
    แต่สรุปได้สั้น ๆ ว่า “ไปยังไง มายังไง จึงมาสมัครงานที่นี่”

    สรุปว่า ... วันแรก เราไม่ได้ทำอะไร
    นอกจากหาโต๊ะทำงาน, จัดโต๊ะ และคุยกับ HR Manager กว่า 2 ชั่วโมง

    เรากลับบ้านด้วยความรู้สึก หดหู่ มึน งง นิด ๆ (แต่ยังไม่ท้อใจ)


    พอวันที่ 2 ของการทำงาน
    ไม่มีการแนะนำงานใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นแบบ OJT (On the Job Training)
    เจ้านายให้ผมเริ่มทำงานทั้ง Routine และมอบหมายงานพิเศษให้ทำเลย

    ผมจำได้แม่นยำ งานพิเศษชิ้นแรก ...
    คือ ให้ไปหาข้อมูล (จากคู่มือ Standard) เกรดของโลหะ 2 ชนิด
    ซึ่งเป็นวัสดุกลุ่มเดียวกัน แต่คนละมาตรฐาน ว่าต่างกันอย่างไร
    ตัวแรกเป็นมาตรฐานอังกฤษ (BS) อีกตัวหนึ่งเป็นมาตรฐานเยอรมัน (DIN)

    อาศัยที่จบมาทางวิศวะ (ช่าง) พอยังมีพื้นฐานบ้าง .... เราก็เอาตัวรอดไปได้ในวันนั้น !!

    จากนั้นมา ... เราได้เรียนรู้ว่า
    ลักษณะงานที่เราต้องรับผิดชอบ คือ ...
    - ตำแหน่งงาน: ผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relation Manager)
    แต่ต้องรับผิดชอบทั้งบริการ, Sales Co และการตลาด (ไม่ใช่แค่บริการอย่างเดียว)

    - จำนวนลูกน้อง: 4 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด (มีคนที่น่ารักด้วยนะ)
    ทั้ง 4 คน ต้องดูแลงาน Sales Co ไม่มีใครดูแลด้านการตลาดและบริการ
    เราต้องทำงานทั้ง Sales Co, บริการและการตลาด :-
    เราคิดในใจว่า .... มีงานเยอะน่ะดี (ทะเลาะกับงาน ดีกว่า ทะเลาะกับคน !!)

    - งานที่ต้องดูแล (ต้องทำ): สากกระเบือ ยันเรือรบ ได้แก่
    งาน Sales Co, งานบริการ, งานการตลาด ซึ่งเป็นงานการตลาดแบบไม่เต็มใบ

    - งาน Routine (Daily) เช่น จัดเตรียมเอกสารโบรชัวร์สินค้าให้ Sales
    (ทำไม Sales ไม่เตรียมเองง่ะ??), รายงาน Stock สินค้าให้เจ้านายทราบรายวัน,
    รับ Order, ออกใบเสนอราคา, ติดตาม Order การจัดส่ง, ออกใบวางบิล,
    ออกใบสั่งงาน (สั่งตัด) ให้แผนก Operation, ออก Invoice (งานนี้น่าจะอยู่ที่บัญชี/การเงิน!!
    แต่ที่นี่ ... ให้ CR ทำ ด้วยเหตุผล CR สัมผัสทั้ง Sales และลูกค้าจะต้องรู้ดีกว่าบัญชี/การเงิน),
    และติดตามหนี้ (แหะ ๆ อาจจะเรียกเพราะ ๆ ว่า เก็บเงินลูกค้า คือ ในกรณีที่ยอดเงินมาก ๆ
    หรือ ลูกค้ารายใหญ่ จะต้องไปเก็บเงิน / เช็ค เอง
    แต่ถ้ายอดเงินไม่มากนัก ก็นัดลูกค้าแล้ว จัดเส้นทางให้ Messenger ไปเก็บเงินน่ะ)
    รวมทั้งรับข้อร้องเรียน และดำเนินการเกี่ยวกับข้อร้องเรียนต่าง ๆ

    งานที่ไม่ได้เป็น Routine เช่น ต้องรายงาน Stock เอกสารที่เกี่ยวข้อง
    และงาน “แล้วแต่สั่ง” คือ แล้วแต่เจ้านายจะสั่ง



    เราต้องเรียนรู้งานเอง (ด้วย OJT แบบญี่ปุ่น)
    ใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้งานด้วยตนเอง
    ใช้ทั้งหลัก “ครูพักลักทำ (แหะๆ ... ต้องเรียกว่า ลักจำ)” ปะเลาะ อ้อนวอน ขอร้อง ฯลฯ
    ให้น้อง ๆ และพี่ (มีคนหนึ่งอายุมากว่าเราเยอะ) สอนงานให้เรา
    (ตอนนั้นเรายังใหม่ ... ไม่กล้าออกคำสั่งให้ลูกน้องมาสอนเรา)

    จากที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
    เราใช้เวลา กว่า 1 สัปดาห์ จึงทำงานได้ ในระดับ “Turtle Professional” (เต่าคลาน)

    ทำได้ แต่ยังไม่คล่อง !!

    Software ที่ใช้ทำงาน (เพิ่งเคยรู้จักเป็นครั้งแรก)
    คือ Exp……. (หลายท่าน ก็น่าจะเดาออก เพราะเดี๋ยวนี้มีหลายบริษัทใช้)


    สัปดาห์แรกผ่านไป .... เรารู้สึกว่า เวลาแต่ละวันผ่านไปไวเหมือนโกหก !

    เผลอแป๊บเดียว เที่ยงแล้ว ....... เผลอแป๊บเดียว เลิกงานแล้ว !!

    งานในฝ่ายนี้จะทำงานเสร็จทีหลังทุกวัน เพราะ...
    - ต้องรอ Messenger นำเช็คมาส่ง และรวบรวมส่งให้
    ฝ่ายบัญชี/การเงิน
    - ต้องรอ Order จาก Sales
    เพื่อออกใบสั่งตัดสำหรับเช้าวันรุ่งขึ้น
    - ต้องจัดเตรียม Invoice + ใบส่งของ สำหรับวางบิลเช้าวันรุ่งขึ้น
    - ที่สำคัญ ... ต้องรายงานเจ้านายวันต่อวัน

    บอกตามตรง ....... เราเหนื่อยมากในช่วงสัปดาห์แรก

    ทุกอย่าง ... เป็นงานใหม่ งานใหญ่สำหรับเรา !
    (ให้วิดวะมาทำงานแบบที่กล่าวมา ... มันเรื่องใหญ่นะครับ)

    แต่ก็ผ่านเวลานั้นมาได้ ....

    เราทำงานได้แล้ว .... เราพบว่างานที่เราและน้อง ๆ + 1 พี่ รับผิดชอบอยู่
    จะมากระจุกตัวตอนก่อนจะเลิกงานทุกวัน
    กว่าจะเคลียร์งานเสร็จในแต่ละวัน ก็ 18.00 น. ทุกวัน
    ทุกคนต้องทำงานเกินเวลา โดยไม่มี OT (นโยบาย คือ ไม่มี OT)


    ด้วยความคิดแบบวิศวะ

    เราเชื่อมั่นว่าต้องมีวิธีการปรับปรุงได้แน่นอน !

    เราขอดูรายละเอียด Route การทำงาน, JD, Procedure และ WI ต่าง ๆ ทั้งหมด
    ซึ่ง น้อง ๆ และพี่ ในฝ่าย ตอบได้เหมือนกัน และชัดเจน ...

    “ไม่มี”

    ทุกคนบอกตรงกันหมดว่า ...... เรียนรู้งาน จากการถ่ายทอดจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง

    เราไม่ย่อท้อ .... ไหน ๆ บริษัท ได้รับ ISO 9002 ก็น่าจะมีคู่มือ ....

    จึงสอบถามเจ้านาย

    ได้เรื่องครับ !!

    เจ้านายบอกว่า ........ มี และเรา คือคนแรกที่ขอดูคู่มือ Procedure !!!!!!!!!!!

    แต่เจ้านายยังไม่สามารถให้เรายืมดูคู่มือ Procedure
    เพราะต้องรอกุญแจเปิดตู้ (เก็บไว้ในตู้เหล็ก) ซึ่งอยู่กับผู้จัดการฝ่ายขาย !!



    เรารอ 2 วัน จึงมีโอกาสได้ยลโฉมคู่มือ Procedure ของบริษัท



    Oh my god !!!!


    แฟ้มใหม่มาก ... เหมือนไม่เคยมีใครเคยแตะจริง ๆ




    เราอ่านดูคู่มือ Procedure อย่างละเอียด
    เราพบว่า .... คู่มือ Procedure บอกวิธีการ / ขั้นตอนการทำงานอย่างกว้าง ๆ
    แต่ก็ครอบคลุมการปฏิบัติงาน

    ที่สำคัญ ยังไม่มี WI ที่ชัดเจน !

    เรามองเห็นปัญหา เห็นวิธีการแก้ไขแล้ว

    (((แต่ .... เขียนยาวไปแล้ว ... ขอต่อในตอนหน้านะครับ)))


    ตอนต่อไป : บทโศก “ฉันกับเจ้านาย” “Probation!”


    Byonya (19 - 2 - 2552)

    จากคุณ : byonya - [ 19 ก.พ. 52 09:11:12 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com