Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ตอนที่ 8: บทโศก “ฉันกับเจ้านาย” “Probation!”

    ตอนที่ 8: บทโศก “ฉันกับเจ้านาย” “Probation!”


    ลืมบอกไป ...
    ก่อนจะทำเรื่องขอปรับปรุงการทำงาน
    เจ้านายบอก (สั่ง) เราในที่ประชุม ประจำเดือนว่า
    งานของ CR มีปัญหาเยอะ
    ทำงานไม่ทัน และทำงานผิดพลาดบ่อย
    เมื่อมีผู้จัดการฝ่ายแล้ว  ... ให้ไปหาวิธีแก้ไขโดยเร็ว
    (ก่อนหน้านี้ ... เราทราบว่าผู้จัดการฝ่ายนี้ลาออกบ่อย ทำให้ขาดผู้จัดการมานาน)


    เรารวบรวม ทำรายละเอียดของงาน, ขั้นตอนการปฏิบัติงาน,
    ข้อดี – ข้อเสียของวิธีการทำงานปัจจุบัน
    โดยเข้าไปร่วมลงมือทำงานจริงกับน้อง ๆ

    (ญี่ปุ่นเรียกการทำงานที่ต้องไปสัมผัส ลงมือทำจริง ๆ นี้ ว่า “Genba Shugi”
    ขอย้อนรอยอดีตหน่อย ... ญี่ปุ่นจะมีความเชื่อถือในคำพูดและการกระทำ ของคนที่ได้ลงมือทำจริง ๆ
    เพราะฉะนั้น คนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะตำแหน่งใหญ่หรือเล็ก
    หากมีปัญหาใด ๆ จะต้องลงมือทำงาน และแก้ปัญหา ด้วยตนเอง
    ไม่ใช่สั่งลูกน้องทำการ แล้ว “รอรับรายงาน” เพื่อนำไปรายงานต่อเจ้านายที่สูงขึ้นไป
    ซึ่งคนญี่ปุ่นจะมีค่านิยม “ไม่ค่อยเชื่อถือ” การรายงานแบบที่ตัวเองไม่ได้ลงมือทำ
    เราเคยถูกฝึกมาพอสมควร  ก็เลยติดความเชื่อนี้มาบ้าง)

    เราใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน รวบรวมปัญหา-อุปสรรค
    และกำหนดแนวทางแก้ไขปรับปรุงการดำเนินงานในฝ่าย


    พอได้จังหวะและโอกาส
    เรา เข้าไปเสนอเจ้านาย เรื่อง แนวทางการปรับปรุงการทำงาน
    เราชวนลูกน้องที่มีอาวุโสสูงสุด เข้าไปด้วย  แต่เจ้าตัวไม่ยอม
    ทำให้เราต้องเข้าไปคนเดียว (คิดในใจ ... เป็นหัวหน้าเขา  เราต้องทำได้)

    เราจำได้ว่า

    เราเสนอแนวทางการปรับปรุงการทำงานไปหลายหัวข้อ
    พร้อมทั้งระบุ Target การทำงานในแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจน
    (แหะ ๆ ... ก็คนมันเคยมีประสบการณ์เรื่อง Target มาแล้วนี่ครับ)

    เราใช้เวลา ประมาณ 15 นาทีในการเสนอให้เจ้านายพิจารณา

    ช่วงหัวข้อแรก ๆ       เจ้านาย เออ  ออ กับเรา

    แต่แล้ว     หัวข้อรองสุดท้าย (เหลืออีกแค่ ข้อเดียว  ก็เกือบจะได้รับไฟเขียวแล้วเชียว)
    เราเสนอเรื่อง การกำหนดเวลารับเอกสาร ที่จะต้องเร่งทำเพื่อเตรียมงานในเช้าวันต่อไป
    เช่น Order ที่ จะต้องนำมาออก ใบสั่งตัด (สินค้ามีตัดแบ่งขาย) ในเช้าวันต่อไป

    ปัญหาที่พบ: เอกสาร ที่ผู้เกี่ยวข้อง/ลูกค้าจะต้องส่ง PO มาให้ฝ่าย CR ช้า
    บางวันส่งมาถึงตอน 17.00 น. บางครั้งก็ส่งมาหลัง 17.00 น.
    แต่ง CR จะต้องตรวจเช็ค Stock สิ้นค้า ว่ามี Size ขนาดเท่ากันหรือใกล้เคียงอยู่หรือไม่?
    ถ้ามีสินค้า ... ก็ไม่ต้องตัดใหม่
    แต่ถ้าไม่มีสินค้า ... ก็ต้องออกเอกสาร (ใบสั่งตัด) ให้กับ ฝ่าย Operation เพื่อทำการตัดใหม่
    (อาจจะดูเหมือนง่าย ... แต่เวลาทำจริง  ไม่ง่ายครับ เพราะต้องหาสินค้าที่ใกล้เคียง  
    ต้องระบุตัวสินค้า    ต้องระบุวิธีการตัด  เพื่อให้เหลือเศษน้อยที่สุด  
    ให้มีการตัดน้อยครั้งที่สุด   หรือเหลือเศษที่สามารถนำไปขายต่อได้อีก)

    นอกจากนี้ จะต้องออกเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบส่งของ, ใบวางบิล, ใบเสร็จรับเงิน ฯลฯ
    เพื่อจะส่งมอบให้ลูกค้าในเช้าวันถัดไป

    เนื่องจากงานเหล่านี้ จะเข้ามาตอนเวลาใกล้เลิกงาน
    ทำให้คนทำงานต้องรีบเร่ง   ทำให้ออกเอกสารผิดพลาดบ่อยครั้ง

    หากมีการออกเอกสารสั่งตัดผิดพลาด  ทำให้สินค้าตัดออกมา ไม่สามารถขายให้ลูกค้าได้
    (ส่วนใหญ่ คือ ตัดออกมาได้ขนาดเล็กกว่าที่ลูกค้าสั่ง )
    ผู้ที่ออกใบสั่งต้องรับผิดชอบ ความเสียหายที่เกิดขึ้น !!  
    ผิดครั้งแรก – เตือนด้วยปากเปล่า (ต้องออก email แจ้งเจ้านายและ HR)
    ผิดครั้งที่ 2 – เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร (ทำเป็นหนังสือเตือน พร้อมคาดโทษไว้)
    เรามาอยู่ที่นี่ เดือนแรก ... เราต้องเป็นคนเซ็นใบเตือนให้ลูกน้อง 2 คน

    หากเราไม่ทำ ... ถือว่าเราผิดเอง !!!

    ผิดครั้งที่ 3 หรือมากกว่า – หักเงินเดือนตามมูลค่าความเสียหายที่ประเมิน
    หรือหากเกิดความเสียหายมาก ๆ (มากกว่าเงินเดือนหลาย ๆ เท่า) ... อาจจะไล่ออก

    โชคดี ... ที่ตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่ ยังไม่มีใครถูกไล่ออกด้วยเหตุนี้
    แต่มีการหักเงินเดือน เป็นเรื่องธรรมดา – ทุกคนในฝ่าย เคยโดนหักเงินเดือนด้วยความผิดนี้มาแล้ว

    ขวัญและกำลังใจของทุกคนในฝ่าย ... ต่างก็เหมือนกัน คือ “ไม่มีขวัญและกำลังใจ” เลย

    เราต้องพยายามสร้างขวัญและกำลังใจให้ทุกคน
    เรายอมลงทุนพาทุกคนไปทานข้าวเที่ยง (เราเลี้ยงเอง) ข้างนอก
    หลายครั้ง ทำให้แต่ละคนกล้าเปิดเผยความอัดอั้นตันใจออกมา

    เราถึงรู้ว่า ... ลึก ๆ แล้ว ทุกคนในฝ่ายนี้ “อยู่ด้วยความหวาดหวั่น”
    คนในฝ่ายนี้มี 5 คน (รวมผู้จัดการ) แต่มี Turnover สูงมาก
    ลาออกปีละ 2-3 คน (รวมทั้งผู้จัดการ)

    กลับมาเข้าเรื่อง ...


    ปัญหานี้ เราได้รวบรวมข้อมูล ความผิดพลาดย้อนหลัง 1 ปี
    (User name และ Password ของเรา  
    เขา (เจ้านาย) ให้สิทธิเราดูข้อมูลย้อนหลังได้แค่ปีเดียว)


    พบว่า เกิดปัญหาผิดพลาดทั้งหมดกว่า 30 ครั้ง (ใน 1 ปี)
    ระยะเวลาที่เกิดปัญหา (ดูจากใบสั่งตัดที่มีปัญหา) อยู่ในช่วง 16.30 – 18.00 น. !!!
    เกิดความเสียหาย (ตีมูลค่าเป็นตัวเงิน) กว่า 60,000 บาท !

    เราเลยเสนอแนวทางแก้ไข/ลดความผิดพลาด
    โดย กำหนดเงื่อนไข คือ สินค้าที่ต้องการในวันรุ่งขึ้น
    ให้ผู้เกี่ยวข้อง/ลูกค้าจะต้องส่ง PO มาให้ ก่อนเวลา 16.00 น.

    สำหรับ PO มาให้ หลังเวลา 16.00 น. จะไปดำเนินการในวันถัดไป
    (หมายถึง จะไม่ได้สินค้าในวันรุ่งขึ้น)

    ซึ่งอาจจะต้องเขียน WI (Work Instruction) เพิ่ม
    และ Sales จะต้องคุยกับลูกค้า เพื่อชี้แจงว่า ถ้าอยากให้ส่งของในเช้าวันรุ่งขึ้น
    ต้องสั่งก่อน เวลา 16.00 น.

    เราอธิบายจบ .... ทุกอย่างก็จบ !

    เจ้านายพูดสั้นว่า


    “ตอนนี้ ขั้นตอนการทำงานทุกอย่างก็ดีอยู่แล้ว ...
    คุณกลับไปช่วยน้อง ๆ ทำงานและระมัดระวังให้มาก ๆ จะดีกว่า”  !!!!

    อึ้งครับ !!   พ่อแม่พี่น้อง


    เรากล่าว ขอบคุณ โดยหยุดการนำเสนอทันที ... แล้วออกมานั่งเงียบ ๆ (พูดไม่ออก)


    จากวันนั้น เราไม่เสนอใด ๆ อีก
    ตั้งใจทำงานตามหน้าที่ และกำชับน้อง ๆ ทุกคนให้ระมัดระวัง
    ตรวจสอบการงานของตนเองให้ดี
    และแนะนำให้น้อง ช่วยกันตรวจงานของกันและกัน ก่อนสั่งงานให้  Operation

    ทำให้เกิดความผิดพลาดลดลง (แต่ก็ยังเกิดอยู่ครับ)

    จากนั้นมา .....เราทำงานตามปกติ (ทั้งงานในหน้าที่และงานมอบหมายพิเศษ)

    --
    --
    --

    ก่อนจะครบกำหนดทดรองงาน 1 เดือน  เจ้านายให้ทำ Assay
    (ภาษาอังกฤษ ... เราไม่แข็งแรง .... แต่เราอยากจะเรียกมันว่า “Report” มากกว่า
    แต่เอาเถอะ...เรียกตามที่เจ้านายเราสั่งให้เราทำก็แล้วกันนะครับ)

    หัวข้อที่สำคัญมีดังนี้;

    สภาพการตลาดโดยรวมของบริษัทเรา, ราคาของเราและราคาคู่แข่ง,
    วิเคราะห์ SWOT ของบริษัทเรา (บริษัทของเจ้านาย) ???
    ลูกค้ารายสำคัญคือใครบ้าง??
    ธุรกิจของลูกค้าทำอะไร??  
    สภาพการตลาดของลูกค้า  เป็นอย่างไร??
    ให้หาว่าลูกค้าของลูกค้าคือใครบ้าง??
    กรรมการบริษัทของลูกค้าแต่ละราย (เฉพาะที่สำคัญ) คือใคร??
    กรรมการผู้มีอำนาจตัดสินใจคือใคร??
    ผู้ที่เราติดต่อด้วยคือใคร??   ฯลฯ

    ด้วยความที่เป็นมือใหม่ ประกอบกับระยะเวลาที่สั้น (เพียงแค่ไม่ถึง 1 เดือน)
    เราไม่สามารถไปพบลูกค้ารายสำคัญ ทุกราย
    (จากการสอบถามเจ้านาย : Key customer มีประมาณ 10 ราย)


    เราได้ใช้ข้อมูลบางส่วนจาก Sales ที่ดูแลลูกค้าแต่ละราย
    และข้อมูลบางส่วนจากเวบของ กรมพัฒนาธุรกิจ
    และข้อมูลบางส่วนจากการเข้าพบลูกค้าบางราย


    เราอดหลับ อดนอน หาข้อมูลและสอบถาม Sales
    กลางวันต้องทำงานประจำ -- หลัก ๆ คือ ต้องคอยรับ Order
    Sales บางคน ก็ใจดี  -- ยินดีให้ข้อมูล
    Sales บางคน ก็อิด ๆ ออด ๆ  -- กว่าจะให้ข้อมูลแต่ละอย่าง
    Sales บางคน ก็โยนแฟ้มมา 2 - 3 แฟ้ม แล้วบอกว่า ไปดูเอง


    ทำ Assay เสร็จและส่งให้เจ้านายก่อนครบกำหนดเวลา 1 สัปดาห์
    กะไว้ว่า ถ้ามีการแก้ไข จะได้ดำเนินการได้ทัน !


    ปรากฏว่า  ไม่มี Comment จากเจ้านาย
    เราเคยสอบถาม (ปากเปล่า) เจ้านายว่า  มีจุดไหนที่จะให้แก้ไขหรือไม่


    เจ้านายบอกว่า "กำลังดูอยู่"


    เราทำงานมาเรื่อย ๆ จนครบเวลา 4 เดือน -- ไม่มีการออกหนังสือบรรจุ
    เราสอบถาม HR -- ได้รับแจ้งว่า  เจ้านายยังไม่เซ็นต์ หนังสือบรรจุ  ให้ทำงานต่อไป

    พอทำงานครบเดือนที่ 5 -- เราสอบถามเจ้านาย  ก็ไม่มีคำตอบอะไร  
    บอกเพียงแต่ว่าให้ตั้งใจทำงาน กำลังตรวจดู Assay

    พอทำงานครบเดือนที่ 6 -- เจ้านายบอกว่า Assay ไม่ผ่าน  แต่บริษัทไม่ได้ให้เราออก  
    ถ้าจะให้บรรจุ ก็ไปแก้ Assay ใหม่ และต้องเริ่มนับเวลาการทดรองงานใหม่ อีก 4 เดือน


    ?????????? !!!!!!!!!! ??????????


    (((ยาวเกินไปแล้ว ... เอาไว้ต่อตอนหน้า แล้วกันนะครับ)))

    ตอนต่อไป : บทโศก “ฉันกับเจ้านาย – โบกมือลา 2”

    Byonya (21-2-2552)

    แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 52 14:16:57

    จากคุณ : byonya - [ 21 ก.พ. 52 13:46:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com