|  | 
 
 
      
        | 
          
            | 
               ลุงแอ็ด.....เอามาฝาก ตอนที่ 8 แฉ...จุดอ่อนเจ้าหนี้     
แฉ....จุดอ่อนเจ้าหนี้
 
 
 ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกหนี้  ย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่วันยังค่ำ  ไม่ต้องดูอะไร
 
 มาก  ดูเฉพาะเรื่องนิติกรรมสัญญาต่างๆ ที่ฝ่ายเจ้าหนี้ยัดเยียดให้ลูกหนี้ต้อง
 
 ทำสิ  ทุกฉบับล้วนแต่สร้างปมผูกเงื่อนไขรัดคอฝ่ายลูกหนี้แบบครอบ
 
 จักรวาล  เป็นประโยชน์กับเจ้าหนี้ทุกประตูเลยก็ว่าได้  ไอ้ครั้นจะแข็งขืนไม่
 
 ยอมทำตามที่ยัดเยียดมา....ก็แทบไม่มีทางเลือก  ทำไงได้ล่ะครับ....ก็ดัน
 
 เป็นฝ่ายไปขอกู้เงินจากเค้าเอง  มันก็ต้องทำตามทุกเงื่อนไขอย่างที่เจ้าหนี้จะ
 
 กำหนดขึ้น  เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่....เป็นที่รู้กันมานานชาติแล้วละครับ
 
 ตีกรอบล้อมคอกแบบนี้ถึงเวลาฟ้องกันที  รับประกันซ่อมฟรีว่า....ไม่มีทางที่
 
 จะค้าความชนะเจ้าหนี้ได้เลย
 
 
 
 เอ....พูดแบบนี้  หมายความว่าเจ้าหนี้ได้เปรียบลูกหนี้ทุกรายหรือ....?  ไม่
 
 เสมอไปครับ  ใช่ว่าเจ้าหนี้เองจะไม่มีจุดอ่อนเลย  สมัยก่อน....ในยุคที่ฟอง
 
 สบู่ยังไม่ปริแตก  ซึ่งเป็นช่วงเจ้าหนี้กำลังเมามัน  แข่งขันแย่งกันปล่อยกู้
 
 แบบเรี่ยราด  เรียกว่าปล่อยกู้แบบเน้นแต่ปริมาณไม่สนใจคุณภาพ  มีลูกหนี้
 
 ในมือไม่น้อยที่เดียวที่มีความผิดพลาดจากความหละหลวมในการดำเนิน
 
 การ  ประเภทปล่อยสินเชื่อไปก่อนแล้วค่อยตามตัวมาทำนิติกรรมกันทีหลัง
 
 หรือบางรายถึงขั้นยกเว้นเอกสารบางอย่างให้ลูกหนี้ไปเลยก็มี
 
 
 
 พอกาลเวลาผ่านไป....ความเลวร้ายมาเยี่ยมเยือน....ฟองสบู่แตกวินาศสัน
 
 ตะโร  ไฟแนนซ์ถูกปิดเรียงหน้ากระดานจนต้องมีการเปิดประมูลขายลูกหนี้
 
 แบบเทกระจาดอย่างที่เห็น  ถือเป็นช่วงวิบัติทางเศรษฐกิจที่กระทบเจ้าหนี้
 
 มากที่สุด  เพราะว่าบรรดาพวกเอกสารนิติกรรมสัญญาต่างๆ ส่วนหนึ่งไม่
 
 ครบ  ไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ต้น  ส่วนหนึ่งถูกทำลายทิ้งไป  ส่วนหนึ่งสูญหายใน
 
 ระหว่างขนย้าย  รวมความแล้ว....เอกสารนิติกรรมสัญญาที่เป็นหัวใจของการ
 
 ฟ้องร้องดำเนินคดีไม่รู้กระจัดกระจายหายไปไหนกันบ้าง  ประเด็นนี้นี่เอง
 
 ครับที่ผมถือว่าเป็นจุดตาย....เป็นจุดอ่อน อันสำคัญยิ่งของเจ้าหนี้ที่ค่อยจะ
 
 ไม่มีใครรู้
 
 
 
 จุดอ่อนของเจ้าหนี้ที่ผมจะหยิบยกมาพูดถึงเป็นตัวแรก  มันคือ
 
 
 
 ความสมบูรณ์ของเอกสารนิติกรรมสัญญา
 
 ประเด็นนี้  ถือเป็นประเด็นสำคัญแบบสุดๆ เพราะว่าเจ้าสิ่งนี้มันจำเป็นมาก
 
 เหลือเกินที่จะต้องนำไปใช้ประกอบการฟ้องร้องดำเนินคดีในชั้นศาล....ซึ่ง
 
 หากเจ้าพวกเอกสารนิติกรรมสัญญาต่างๆ ที่ว่านี้  มีรายการหนึ่งรายการใด
 
 กระเด็นกระดอนหายไป  หรืออาจจะมีอยู่ก็จริง...แต่เอกสารบางฉบับดันไม่
 
 สมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมาย
 
 
 
 แน่นอนว่า....ย่อมจะมีผลกระทบอย่างใดอย่างหนึ่งไม่มากก็น้อย  ดีไม่ดีคดี
 
 นั้นอาจถูกศาลสั่งยกฟ้องเอาง่ายๆ ไปเลยก็ไม่แน่เหมือนกัน  เพราะ
 
 ฉะนั้น.....ประเด็นเรื่องความสมบูรณ์ของเอกสารนิติกรรมสัญญาจึงถือว่ามี
 
 ความสำคัญกับเจ้าหนี้อย่างมากทีเดียว
 
 
 
 ทีนี้อาจมีคำถามต่อไปว่า....แล้วฝ่ายลูกหนี้จะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า  เจ้าหนี้น่ะมี
 
 ปัญญาเรื่องของนิติกรรมสัญญา  อันนี้ผมตอบได้ทันทีเลยว่า  ยากครับ
 
 ไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนจะโง่ถึงขั้นออกมาแพร่งพรายเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองให้
 
 ฝ่ายตรงกันข้ามรู้แน่นอน
 
 
 
 แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นหมดปัญญาแสวงหาคำตอบในเรื่องนี้ สิ่งที่พอจะช่วยให้
 
 ลูกหนี้จับสัญญาณอันบอกให้รู้กลายๆ ได้ว่า....เจ้าหนี้เองกำลังมีปัญหาเรื่อง
 
 ความสมบูรณ์ของนิติกรรมสัญญา  สิ่งนั้นคือ....  การสังเกต....ครับ  ตัว
 
 ลูกหนี้เองนั่นแหละที่จะต้องใช้การสังเกตสังกาแอบดูพฤติกรรมของเจ้าหนี้
 
 ให้ได้ว่าเป็นอย่างไร  ซึ่งผมจะแนะนำให้ท่านลองนำไปปฏิบัติดังนี้ครับ
 
 
 
 1.	เจ้าหนี้อาจจะมีการส่งจดหมายลงทะเบียน  แจ้งรายละเอียดและ
 
 สรุปยอดมาถึงลูกหนี้  และในท้ายจดหมายนั้นเอง  อาจจะบอกให้ลูกหนี้ช่วย
 
 เซ็นรับตอบกลับลงในแบบฟอร์มที่เตรียมมาพร้อมจดหมายกันนั้น  กลับคืน
 
 ให้กับเจ้าหนี้ด้วย  โดยอาจอ้างเหตุผลสารพัดมาบังหน้าเช่นว่า เป็นการเก็บ
 
 รวบรวมข้อมูลบ้างล่ะ  เป็นขั้นตอนของธนาคารที่จะต้องรายงานแบงก์ชาติ
 
 บ้างล่ะ  หรือแม้กระทั่งอ้างชุ่ยๆ ว่าจะเป็นประโยชน์กับลูกหนี้เองในกรณีหาก
 
 มีการประนอมหนี้กันในอนาคต  หรืออ้างเหตุอื่นๆ สุดแต่จะสรรหาเหตุผล
 
 ต่างๆ นาๆ มาอ้างกันไป
 
 
 
 อาการทำนองนี้....ผมอยากเตือนให้ท่านดูให้ดีด้วย  เราไม่รู้ว่า....เจตนาแท้
 
 จริงของเจ้าหนี้จะเป้นอย่างไร  อาจบริสุทธ์ใจหรืออาจซ่อนเงื่อนไขซ่อนปม
 
 ไว้เพียงเพื่อให้ลูกหนี้มีการยอมรับยอดหนี้ที่มีต่อกัน  เพื่อจะได้เอามาใช้เป็น
 
 หลักฐานอ้างอิงสู้ความกันในชั้นศาลหรือเปล่าก็ไม่รู้  หรืออาจมีเจตนาในการ
 
 สร้างหลักฐานโดยให้ลูกหนี้ยอมรับสิทธิการรับโอนบัญชีลูกหนี้ในกรณีเจ้าหนี้
 
 รายนั้นไปประมูลหนี้มาจาก ปรส. อย่างช่วงที่ผ่านมามีการทำกันอย่างคึก
 
 โครมได้เช่นกัน  ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรือเจตนาอะไรก็ตาม  ผมคิดว่ามัน
 
 ไม่น่าจะเป็นประโยชน์กับลูกหนี้เท่าไหร่นัก  ยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้  ไม่
 
 มีใครซี้ซั้วเซ็นชื่อมั่วๆ หรอกครับ  โปรดระวังมากๆ ด้วย
 
 
 
 2.	เจ้าหนี้อาจมีการเสนอเงื่อนไขในการประนอมหนี้แบบที่เรียก
 
 ว่า.....พิเศษสุดๆ จนน่าแปลกใจว่าทำไมถึงยอมลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์
 
 แบบนั้น  ตัวอย่างเช่น  ยอมลดดอกเบี้ยที่ค้างชำระกันนานชาติให้อย่าง
 
 มโหฬาร  หรือยอมคิดอัตราดอกเบี้ยในเรตต่ำติดดินแทบไม่เคยได้ยินใน
 
 ท้องตลาดเลย  หรือยอมให้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขขยายเวลายืดหนี้ออก
 
 ไปแบบง่ายๆ เป็นต้น  ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว  ก็ต้องถือเป็นข้อเสนอที่เย้ายวน
 
 ชวนชิมสุดลิ่มเหมือนกันครับ  แต่....แต่เชื่อเถอะ  ไม่มีอะไรได้มาจากเจ้าหนี้
 
 แบบง่ายๆ ฟรีๆ แน่นอน  ขอให้ยับยั้งช่างใจให้ดี  แล้วลองฟังข้อเสนอของ
 
 เจ้าหนี้ให้จบซะก่อน  แล้วท่านจะรู้ว่างานนี้ต้องมีอะไรบางอย่างแลกเปลี่ยน
 
 กับโปรโมชั่นสุดหรูของเจ้าหนี้ทำนองนี้อย่างแน่นอน
 
 
 
 อาจจะต้องมีการขอเอกสารหลักฐานบางอย่างเพิ่มเติม  หรืออาจจะต้องเซ็น
 
 ชื่อในเอกสารบ้างบางฉบับที่ค้างคามาตั้งแต่อดีตกาล  หรือต้องทำนิติกรรม
 
 สัญญาชุดใหม่เพื่อใช้กลบเรื่องเดิมที่มีต่อกันไปเลยก็เป็นได้  เหล่านี้เป็น
 
 ต้น  อาการที่ผมยกมาเป็นตัวอย่างท่านจะต้องพินิจพิเคราะห์ให้ดี  คิด
 
 หลายๆ รอบ....คิดให้ละเอียดรอบคอบ  ขืนวู่วามรีบอ้าปากฮุบเศษเหยื่อเข้า
 
 ไปง่ายๆ วันหน้าวันหลังสิ่งที่ทำไปนั้นมันอาจจะกลับมาทิ่มแทงให้เจ็บช้ำหัวใจ
 
 แบบไม่น่าอภัยให้ตนเองก็เป็นได้
 จากคุณ :
ลุงแอ็ด    - [
25 ก.พ. 52 08:18:00
] |  |  |  
        |  |  |