ความคิดเห็นที่ 1 หากมาทาง EMS ก็ไปลงที่นั่นเกือบหมดแหละครับ..บางทีก็จัดส่งมาให้ที่ไปรษณีในพื้นที่ที่เราพักอาศัย.หากมูลค่าของไม่เกิน 40,000 (ส่งมาทาง EMS )ไม่มีขึ้นตอนอะไรมากมาย.เดินเข้าไปติดต่อประชามสัมพันธิ์ซ้ายมือ..บอกว่ามารับสินค้า.เขาจะให้ใบมากรอกและก็คืนเขา..จากนั้นนั่งรอเรียก..ทางศุลกากรจะสอบถามว่าของเป็นอะไรอาจจะให้เิปิดหีบห่อ.ขั้นตอนมีแค่นี้แหละ..แต่ถ้าของมูลค่าเกิน 40,000  จะต้องทำใบขน.ตรงนี้จ้างชิบปิ้งที่อยู่ในนั้นทำไปเถอะ..มีค่าใช้จ่าย 1000  กว่าบาท.. จากคุณ : ร็อค26 - [ 27 ก.พ. 52 09:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากประสบการณ์ ไม่ว่าส่งธรรมดา EMS พัสดุลงทะเบียน สำหรับของที่มาจากต่างประเทศ ถ้าไม่ได้ใช้บริการพวก Fedex, DHL เวลาของมาแล้วต้องเสียภาษี ก็ต้องไปติดต่อรับที่ไปรษณีย์ค่ะ คือจะมีใบแจ้งมาที่บ้าน ดังนั้น เวลาไปรับก็นำใบแจ้งที่เป็นใบขาวๆ ตัวอกษรเขียวๆ ไปพร้อมกับบัตรประชาชนค่ะ จ่ายภาษีเสร็จ + ค่าดำเนินการไปรษณีย์ 20 บาทค่ะ แต่ถ้าของมา ทาง DHL พวกนี้ ถ้ามีภาษี พอเจ้าหน้าที่มาส่งของให้ก็จะให้ชำระภาษี บวกค่าถุง (อันนี้น่าจะเป็นค่าดำเนินพิธีการ) + vat  200 ว่าบาท แต่ถ้าเป็นของใหญ่ มูลค่าเยอะ อันนี้ไม่ทราบค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 52 11:23:48 จากคุณ : หมูน้อยกะฝอยทอง - [ 27 ก.พ. 52 11:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1. ชื่อผู้รับ บุคคลธรรมดา -- บัตรประชาชนตัวจริง นิติบุคคล -- หนังสือมอบอำนาจให้เป็นผู้กระทำการแทน 2. ใบเสร็จค่าภาษี  จะตรงกับชื่อผู้รับตามที่จ่าหน้าไว้ในพัสดุ  ไม่สามารถแก้ไขได้ 3. ควรระบุรายละเอียดสินค้าหน้ากล่องพัสดุให้ชัดเจน ว่าเป็นตัวอย่าง ของขวัญ ของใช้ส่วนตัว ของใช้แล้ว..... 4. ส่งผ่านตัวแทนขนส่งทางอากาศ DHL~ UPS~ FEDEX จะสะดวกกว่า เพราะใช้ใบขนรวมเคลียร์ของที่มีมูลค่าไม่เกิน 40,000 บาท และภาษีนำเข้าไม่เกิน 2,000 บาท หลังเครื่องลง พร้อมนำส่งในวันรุ่งขึ้นได้ทันที 4.1  ใบเสร็จค่าภาษีเป็นชื่อตัวแทนขนส่ง c/o ชื่อผู้รับ  ทำให้ไม่สามารถขอคืน vat ได้ 4.2 ค่าบริการส่วนใหญ่อยู่ที่ 200 บาท + vat   4.3  ไม่มีค่ารถนำส่งพัสดุ หวังว่าคงพอเป็นประโยชน์นะคะ จากคุณ : Mulan1248 - [ 27 ก.พ. 52 17:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หากเหลือบ่ากว่าแรง ลองมองหาชิ้ปปิ้งที่เดินๆอยู่แถวๆนั้นดูก็ได้ครับ จากคุณ : pirate - [ 3 มี.ค. 52 12:19:43 A:192.168.0.17 X:222.123.187.3 TicketID:202105 ]