ความคิดเห็นที่ 1 ดูสโคป แล้วน่าจะใช้ทุนเยอะนะ เนื่องจากลูกค้าคุณอยู่ต่างจ. ต้องจดทะเบียนบริษัท มีพนักงานขาย พนักงานservice รายได้ที่พออยู๋ได้ต้องเกิน 1ล้านบาทต่อเดือน ขึ้นไป รายจ่ายในเดือนๆหนึ่ง ค่าเช่าบริษัท ค่ารถ ค่าน้ำมัน เงินเดือนพนักงาน ค่าต้นทุนสินค้า ค่าบริหารจัดการ... เรื่องคุยกับ Dealer  ไม่เห็นต้องโกหกอะไรเลยอ่ะ Dealer พวกนี้เขาคุยกับทุกเจ้าหล่ะ ขอให้เป็นบริษัท ช่วงแรกลำบากหน่อยอาจจะต้องจ่ายเงินสดกัน พอเป็นที่รู้จักถึงจะได้เครดิต อ้อเรื่องราคา อยู๋ปริมาณการสั่งซื้อ ซื้อมากลดมาก ซื้อน้อยลดน้อย(แทบจะขายเท่าห้างIT) ขายสินค้ากำไรมันน้อยครับ กำไรจะไปอยู่ที่ค่าบริการซะมากกว่า... แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 09:07:34 จากคุณ : ตะวันรุ่งทุ่งรังสิต - [ 3 มี.ค. 52 09:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มเก็บตั้งแต่ตอนนี้สิครับ เปิดช่วงแรกๆก็ยังไม่ต้องเป็นบริษัท เป็นร้านค้าไปก่อน แล้วค่อยๆพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ตามงบและการหมุนเวียนเงิน ถ้าจะสั่งของช่วงแรกๆสั่งไม่เยอะ ก็เป็น Dealer กับทางร้านที่ขายปลีก-ส่งเช่น JIB, Advice ก่อนก็ได้ ถ้าจะไป Dcom หรือ Synnex พวกนี้สั่งของกันเป็น 100 ชิ้นขึ้นไปสินค้าพวกนี้ กำไรน้อยมากครับและราคาก็ตายตัว ถ้าอยู่ตจว. เสียค่าขนส่งอีก ค่าเช่าร้านอีก จากคุณ : xzolder - [ 3 มี.ค. 52 10:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลืมบอกไปครับ ผมอยู่ชลบุรี พอดีกำลังจะมีเซ็นทรัลมาเปิดใกล้บ้าน ก็เลยอยากจะหาลู่ทางอ่ะครับ ถ้าขายอย่างอื่นจะดีกว่าไหมครับ คือที่จะขายของ IT เพราะว่าผมทำงานด้านนี้มานาน แต่ทางด้านอื่นผมก็ทำไ้ด้เหมือนกัน จากคุณ : gototon - [ 3 มี.ค. 52 11:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การค้าสินค้าไอที เป็นงานที่เสี่ยงมากครับถ้าฝีมือไม่ถึงพอ สินค้าพวกนี้ราคาผันผวนไว ดังนั้นต้องแน่พอ ที่จะต้องสั่งสินค้าในจำนวนมากตามเงื่อนไขกำหนด และต้องปล่อยให้ทัน หรือพูดง่ายๆว่า ต้องทำในระดับค่อนข้างใหญ่ แต่ถ้าจะทำในระดับเล็กๆ ผมขอเสนอว่า ให้จัดงบแบบลดบทบาทของอุปกรณ์จำพวกมือหนึ่งออกใหม่ คือไม่เล่นกับมันเต็มตัว มีไว้แค่ประดับร้านมีไว้เพื่อองค์ประกอบที่ดูสมบรูณ์ และทำใจกับกำไรนิดๆหน่อยๆของมัน ยอมที่จะรับมาในราคาสั่งน้อยกำไรต่ำ แล้วจัดงบส่วนมากไปให้กับพวก รับฝากขายมือสอง รับติดตั้งวางระบบ และขายพวกอะไหล่ หรือเล่นกับพวกอุปกรณ์ตกรุ่นหลายชนิดที่ยังมีออเดอร์ดีอยู่ และพวกสินค้าAccessoriesจากจีนแดง ขายพวกแผ่นซีดี รับดัดแปลงตัดต่อรับซ่อม อะไรพวกนี้ ทำในระบบนี้ไปก่อน จะเป็นการดีครับสำหรับคนที่มีทุนไม่มาก แต่หากจะเล่นในระดับที่ใหญ่ขึ้น จะอย่างไรก็หนีไม่พ้น การ ร่วมทุนแน่นอน งานระดับใหญ่สายนี้การร่วมหุ้นผนึกกำลังกันเป็นสิ่งสำคัญ ในการชิงจุดเด่นครับ จากคุณ : ตึ๋งนิวเครียร์ - [ 3 มี.ค. 52 14:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Click เข้ามาดูเค้าลดค่าใช้จ่ายได้ยังไง ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ http://savepay.net/member/Kom_L จากคุณ : komsan - [ 3 มี.ค. 52 20:26:24 A:192.168.0.17 X:1.1.1.44, 58.64.82.115 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณตั้งใจจับตลาดพวกโรงงานมาบตาพุดแล้วไปตั้งบริษัทในห้างให้สิ้นเปลืองค่าเช่าที่ทำไมล่ะครับ เอาบ้านตัวเองหรือเช่าออฟฟิศถูก ๆ ก็พอ เพราะลูกค้าไม่ได้มาช้อปที่ร้านคุณหรอก ส่วนพนักงานลองวางแผนดี ๆ ถ้าไม่มั่นใจว่าออเดอร์จะเข้าสม่ำเสมอลองใช้แบบ outsource คือไม่ต้องจ้างประจำ เวลามีงานค่อยเรียกใช้ หรือติดต่อพวกนักศึกษาฝึกงานไว้พอมีงานก็เรียกใช้และจ่ายเป็นงาน ๆ ก็ได้ สำคัญคือมีช่องทางติดต่อลูกค้าหรือไม่ ถ้ามีช่องทางก็โอเคติดต่อไว้ ถ้าไม่มีลองดูว่าโรงงานไหนใช้บริการของเจ้าไหนและเผื่อติดต่อเพื่อ sub งานจากเจ้านั้น ๆ ได้ โดยทั่วไป service provider เจ้าใหญ่ ๆ มักมีสำนักงานอยู่กรุงเทพ พอได้งานที่ ตจว. ก็อยากหา outsource ท้องถิ่นเหมือนกัน ลองติดต่อพวกนี้น่าจะง่ายกว่า จากคุณ : TLL01 - [ 3 มี.ค. 52 23:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ คุณ "ตึ๋งนิวเคลียร์" ที่ให้คำแนะนำครับ ขอรับไว้เป็นประโยชน์นะครับ ตอบคุณ "TLL01"  ที่ผมเช่าหน้าร้านในห้าง เพราะผมไม่อยากจับตลาดกลุ่มเีดียวน่ะครับ คือการขายปลีกก็เป็นตลาดที่ผมจ้องจับเอาไว้ด้วย ลูกค้าขายปลีกคิดว่ามากกว่าขายเครดิตโรงงานอยู่แล้วอ่ะครับ (เหมือนกับไปเดินพันทิพย์ หรือตึกคอมฯนั่นแหละครับ) ย่อหน้าที่ 2, 3 ผมขอรับไว้เป็นคำแนะนำที่มีประโยชน์นะครับ จากคุณ : gototon - [ 4 มี.ค. 52 07:57:59 ]