 |
เพิ่งโดนเลิกจ้าง ไม่แน่ใจว่าถูกหลอกหรือเปล่า?
เพิ่งโดนเลิกจ้าง ไม่แน่ใจว่าถูกหลอกหรือเปล่า?
เรียนอาจารย์สุชาดาที่เคารพ
ดิฉันเพิ่งถูกเลิกจ้างจากบริษัทแห่งหนึ่ง ทำงานอยู่กับเขาประมาณ 2 ปีเศษ
โดยเป็นลูกจ้างแบบที่เขาส่งไปทำงานที่อื่น ทำนอกสถานที่ตลอดเวลา แต่
รายเดียวนะคะ มาเมื่อใกล้ปีใหม่ ฝ่ายบุคคลเขาบอกว่าจะหมดสัญญาแล้ว
คงต้องหยุดจ้างหนู มีคนอย่างหนูอีกหกคน เราได้คนละสามเดือน และมี
โบนัสอีกนิดหน่อย อาจารย์ว่าถูกไหมคะ
หนูกลับบ้านไปเจอพี่ชาย เขาบอกว่าหนูถูกโกง แต่หนูไม่แน่ใจ เพราะ
ความจริงฝ่ายบุคคลเขาก็ดีกับหนูนะคะ ไม่น่าโกงกันได้ลงคอ เขายังบอก
หนูเลยว่า ทิ้งเบอร์ไว้นะ หากมีงานเขาจะโทรมาตามหนู เพราะหัวอ่อนดี
ไม่มากเรื่อง หนูมาคิดอีกที เพราะอย่างนี้หรือเปล่า เขาถึงเอาเปรียบหนู
ได้ แต่หนูเชื่อว่าอาจารย์จะไม่หลอกหนู ช่วยบอกตามจริงด้วยนะคะ หนูจะ
ได้จำไว้ว่าเรื่องจริงมันเป็นอย่างไร
พิมพา
สวัสดีค่ะคุณพิมพา
ปัญหาที่เกิดกับคุณ ช่างเป็นของขวัญปีใหม่ที่ไม่น่ารับเลยนะคะ เสียใจด้วย
ที่ต้องเสียงาน ขอให้ผ่านไปกับปีเก่า และได้งานใหม่ภายในเร็ววันนี้ เอาใจ
ช่วยมากๆ เลยค่ะ
ดิฉันตีความตามที่ตัวเองเข้าใจว่า การจ้างงานของคุณเป็นแบบที่เรียกว่า
การ Outsource คือ นายจ้างที่คุณสมัครโดยตรงจะส่งให้คุณไปทำงานกับ
องค์กรอื่นที่เขาจ้างบริษัทคุณให้ส่งคนไปทำงานให้เขา แต่คุณจะได้รับค่า
จ้าง ผลประโยชน์ สวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากนายจ้างของคุณ
เอง คงไม่เข้าใจผิดแน่ หากดิฉันเข้าใจผิด เขียนมาบอกนะคะ จะได้แนะ
นำให้ถูก เมื่อองค์การนั้นเขาหมดงานหรือหมดสัญญากับบริษัทคุณ เขาก็
จะบอกนายจ้างคุณ หากนายจ้างคุณไม่มีที่ทำงานใหม่ให้คุณ เขาก็จะบอก
เลิกจ้างคุณ โดยเขามีหน้าที่จ่ายค่าชดเชยหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดที่คุณ
ควรได้ตามกฎหมาย แล้วก็เป็นอันสิ้นสุดสัญญาจ้าง
คุณมีอายุการทำงานสองปีเศษ ได้ค่าชดเชยสามเดือน นับว่าถูกต้องตาม
กฎหมาย หากคุณบอกระยะเวลาของการบอกกล่าวเลิกจ้างมาด้วย จะทราบ
ว่านายจ้างบอกกล่าวล่วงหน้าถูกต้องหรือไม่ ต้องจ่ายสินจ้างแทนการ
บอกกล่าวล่วงหน้าด้วยหรือไม่ คือเขาต้องบอกคุณก่อนที่จะถึงกำหนดจ่าย
เงินเดือนคราวถัดไปเพื่อให้มีผลในอีกหนึ่งเดือน ลองไปทบทวนดูอีกครั้ง
ว่า เขาบอกคุณเมื่อใด หากเป็นอย่างที่คุณบอกมา น่าจะต้องได้สินจ้าง
แทนการบอกกล่าวอีกหนึ่งเดือน เพราะดิฉันตีความว่าเขาบอกกระทันหัน
ค่ะ (แต่ตรงนี้ต้องเอาวันที่กำหนดวันที่มาให้ชัดเจนนะคะ) นอกจากนี้ยังน่า
จะดูสิทธิ์ด้านอื่นๆ ด้วย เช่น การประกันสังคม การลาพักผ่อนประจำปี
กล่าวคือ
การประกันสังคม หากนายจ้างเลิกจ้าง คุณจะไปใช้สิทธิ์คุ้มครองเรื่องการ
ว่างงานได้ คือ กองทุนประกันสังคมจะจ่ายเงินให้คุณเพื่อเป็นค่าชดเชยที่
คุณถูกเลิกจ้าง ดูตามบัตรประกันสังคมของคุณว่าเป็นสมาชิกตั้งแต่เมื่อใด
(ต้องเกินหกเดือนย้อนหลังขึ้นไป) คุณจะได้มีเงินไปยังชีพในระหว่างยังหา
งานทำไม่ได้อีกก้อนหนึ่ง ส่วนวันลาพักผ่อนนั้น คุณมีสิทธิ์ตามกฎหมาย
อย่างน้อยหกวัน หากยังไม่ได้ใช้สิทธิ์นี้ นายจ้างต้องชดใช้ให้เป็นเงินอีก
ค่ะ ทั้งหมดนี้คือสิทธิ์ที่ดิฉันนึกออก และขอให้ทบทวนดูว่าคุณได้อะไรมา
แล้วบ้าง น่าจะได้อะไรอีกบ้าง
ขอกล่าวถึงลักษณะการจ้างงานแบบ Outsource ที่คุณพิมพาบอกมา นี่คือ
การจ้างงานอีกแบบหนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในบ้านเราเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ในสายตา
ของฝ่ายบุคคลเอง ดิฉันมองว่าเป็นสิทธิ์ที่นายจ้างจะจ้างงานแบบนี้ได้ โลก
เปลี่ยนไป การจ้างงานก็เปลี่ยนไปด้วย นายจ้างมีการควบคุมกำลัง ห้าม
เพิ่มคน จะใช้การจ้างงานแบบนี้ มิใช่เพื่อให้ราคาถูก แต่เพื่อให้สามารถ
ซ่อนอัตรากำลังได้ ไม่มีความผูกพันระยะยาวกับนายจ้าง แต่เป็นลูกจ้าง
ตามกฎหมายของนายจ้างผู้ให้บริการ ลักษณะการให้บริการแบบนี้มีสอง
แบบคือ ASO (Administrative, Service Organization) และ PEO
(Professional Employee Organization) หมายความว่าให้บริการด้าน
ธุรการทั่วไป และให้บริการในงานสายอาชีพบางอย่างเช่น งานบัญชี งาม
คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
นายจ้างผู้ให้บริการจะมีนิติสัมพันธ์กับลูกจ้างโดยตรงเหมือนนายจ้างลูกจ้าง
ทั่วไป ผู้ใช้บริการไม่มีนิติสัมพันธ์กับลูกจ้าง ถือเป็นผู้ใช้บริการเท่านั้น
ฉะนั้น การดำเนินการเรียกร้องสิทธิ์ พิทักษ์สิทธิ์จึงต้องทำต่อนายจ้างโดย
ตรง มิใช่ผู้ใช้บริการ หากคุณพิมพาจะปกป้องสิทธิ์หรือเรียกร้องสิทธิ์ ต้อง
ทำกับนายจ้างคุณนะคะ ต้องไปหาฝ่ายบุคคลที่เขาบอกคุณว่าหมดสัญญา
คงต้องเลิกจ้างนั่นแหละคะ ไปอย่างมิตร สอบถามว่าคุณได้รับเงินเต็มครบ
ถ้วนตามสิทธิ์หรือไม่ ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม ขอให้ออกหนังสือเลิกจ้าง
ให้ เพื่อคุณจะได้เอาไปแสดงคู่กับคำร้องขอรับเงินประกันว่างงานจาก
ประกันสังคม หากเขาจ่ายอะไรไม่ครบ จะได้เตือนเขาได้
ขอพูดนอกเรื่องจากคุณพิมพาหน่อยนะคะ การจ้างงานแบบ Outsource ถูก
วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการดำเนินการที่ขาดคุณธรรม เพราะนายจ้างมักจ่าย
ค่าจ้างต่ำจนน่าใจหาย แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่กดค่าจ้างมาก ดิฉันเองเห็น
ด้วยตรงนี้ เพราะเท่าที่ทราบ อัตราก็รู้สึกน้อยไปหน่อย เคยกระตุ้น
กระทรวงแรงงานว่าควรหันมาดูแลตรงนี้บ้าง แม้ไม่ผิดกฎหมายก็จริงอยู่
แต่ควรออกกฎหมายเฉพาะมารองรับการจ้างแบบนี้ เช่น ระบุหรือกำหนด
อัตราค่าบริการสูงสุดต่ำสุด อัตราจ่ายให้ลูกจ้างต้องเป็นอย่างไร เช่น ไม่
ต่ำกว่าอัตราที่นายจ้างผู้ใช้บริการจ่ายแก่พนักงานของตนในงานแบบเดียว
กัน เป็นต้น
หวังว่าคุณพิมพาจะได้รับการชดเชยเป็นตัวเงินครบถ้วนตามสิทธิ์ที่ต้องได้
เอาใจช่วยให้หางานใหม่ได้ในเร็ววัน และเป็นงานที่ได้รับการว่าจ้างโดยตรง
นะคะ จะได้มีความมั่นคงพออุ่นใจ หากมีปัญหาอื่นใด หรือดิฉันตอบไม่
ตรงตามปัญหาที่เกิดขึ้น เขียนมาใหม่ค่ะ ยินดีตอบให้อีก เพราะไม่อยาก
ให้ใครตกงาน ขอให้โชคดีนะคะ สวัสดี
สุชาดา สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา
************************************************
ตอนต่อไป : ถ้าจะลาออก ต้องจ่ายค่าชดเชย ค่าอบรมให้บริษัทหรือ
เปล่า?
************************************************
จาก ไขปัญหาคนทำงานกับ HR มืออาชีพ......โดย สุชาดา สุขสวัสดิ์ ณ
อยุธยา
amorntvm@hotmail.com
จากคุณ :
ลุงแอ็ด
- [
15 มี.ค. 52 18:24:46
]
|
|
|
|
|