Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ชีวิตจริงของผมครับ กระทู้ต่อจาก 4 ปีที่แล้วครับ

    ผมเริ่มงานด้วยการเป็นเด็กร้านคอม เด็กอู่ซ่อมรถ โปรแกรมเมอร์
    ตอนนี้ผม 30 แล้วครับ ผมเคยได้รายได้เดือนละ 5 แสนครับ อยากแชร์ประสบการณ์

    เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ของผมครับ



    เมื่อต้นปี 48 ผมเคยตั้งกระทู้ไว้นานแล้วครับ
    ผมไม่อยากเชื่อเลยว่ามันนี้มันยังอยู่ให้ผมได้อ่านเล่น ๆ
    กระทู้มีชื่อว่า
    "ผมลาออกจากงานแล้วครับ"
    มันเคยถูกโหวตแนะนำอยู่พักหนึ่งครับ
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/B3223659/B3223659.html

    หลังจากที่ผมได้ลาออกกลับมาบ้านนะครับ
    ผมอยู่บ้านประมาณ 8 เดือนกว่า ๆ ผมก็รับโทรศัพท์จากที่ทำงานว่า นายอยากให้กลับไปทำงาน นายชอบผม

    ผมก็คิดแล้วครับว่าไม่อยากไป แต่เขามีข้อเสนอให้ผมเป็น Leader ครับ มีเงินเดือนให้ 25000

    ผมก็กลับไปคิดและตัดสินใจบอกไปว่าตกลง ผมคิดว่ามันเป็นเงินที่มากมายทีเดียว และยังได้เป็น Leader
    ผมก็ไม่รู้นะครับว่า Leader เป็นยังไง ผมไม่รู้ว่า Leader สะกดว่า Reader หรือป่าว แต่ผมรู้ว่าเงินเยอะ


    ผมกลับเข้าไปทำงาน ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ สดใส กลับไปแบบคนมีไฟ
    แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมที่ ผมเช่าห้องพักที่ กทม ครับ ไม่ได้ทำงานไปกลับ

    ใช่แล้วละครับ แรก ๆ ผมก็มีความสุขดีครับ แต่ไม่นาน ผมก็เบื่อ กทม
    ผมทำอยู่ได้ประมาณครึ่งปี อารมเบื่อ กทม ก็ออกมาอีกแล้ว

    ผมเบื่องาน ผมเบื่องาน ผมเบื่อการใช้ชีวิตใน กรุงเทพ

    ครับ ผมอยากกลับบ้าน คิดถึงบ้านที่ ตจว.

    ตอนนั้นผมก็อายุ 26 - 27 แล้ว มันเสี่ยงมาก ๆ ที่จะมีเมียที่ กทม และอาจต้องใช้ชีวิตใน กทม ตลอด หากผมได้เมียที่ กทม


    นายผมที่เป็นคนญี่ปุ่น มองผมออกเลยว่าผมกำลังมีปัญหา (อีกแล้ว)

    "หมดไฟไหม" ล่ามถามผม
    "อาจจะหมดไฟ" ผมตอบ

    ผมจำได้นิดหน่อย ว่าการคุยครั้งนั้นมันจบลงด้วยผมอยาก ลาออก (อีกแล้ว) ด้วยเหตุผล หมดไฟในการทำงาน



    ผ่านไปไม่นาน ผมได้รับซองจดหมายสีขาว ที่ล่ามส่งมาให้อ่าน
    ผมค่อย ๆ เปิดอ่าน

    ผมคิดในใจแล้วละว่าไม่ใช่จดหมายไล่ออกแน่นอน แต่ล่ามก็พยายาม ทำเป็นให้ผมตกใจ

    เนื้อหาในจดหมาย สรุปได้ว่า

    บริษัท ได้ทำการอนุมัติในพนักงานที่มีชื่อในนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ผมจัดการอ่านแล้วก็ เซ็นชื่อ ว่ารับเรื่องแล้ว

    ครับ บริษัทให้ผมไปเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน ออกเงินค่าทัวร์ให้ผมและมีเงินสดนิดหน่อย สาม หมื่นกว่า ๆ
    ก็ประมาณ 1 แสนบาท ที่นายเสียให้ผมเพื่อให้ผมกลับมามีไฟอีกครั้ง


    ขอขัดจังหวัดนิดนึงครับ ตอนนั้น ผมก็อายุ 27 ผมว่า ผู้ชายที่อายุใกล้ ๆ กับผม ฝันกันว่าจะไป ญี่ปุ่น
    เราดูการ์ตูนญี่ปุ่น เราดูหนัง X ญี่ปุ่น ผู้ชายรุ่น เดียวกับผม ฝันอยากไปญี่ปุ่น


    การไปเที่ยวญี่ปุ่นของผมสนุกมากเลยครับ เป็น 7 วันที่ผมคิดว่า คนต่ำ ๆ อย่างผมคงไม่มีทางได้ไปแน่ ๆ

    แต่ผลตอบแทนที่อยากให้ผมมีไฟ หลังจากที่ผมกลับมาจากญี่ปุ่นั้น มันเป็นผลร้ายที่ตรงกันข้ามครับ


    ผมอยากจะบอกความรู้สึกตอนนั้นนะครับ เหมือนประมาณว่า เราถึงจุดสุดยอดของความฝันแล้วครับ (ความฝันเล็ก ๆ อยากไปญี่ปุ่น)
    ความกระตือรือล้น อยากทำงานก็ไม่มี ไม่รู้จะทำไปทำไม ก็ไม่ได้อยากไปเที่ยวไหนแล้ว อิ่มใจแล้วได้ไปญี่ปุ่น บรรลุเป้าหมายแล้ว

    ผมก็ทำงานของผมไปวัน ๆ ทำงานไปเรื่อย ๆ ตอบแทนที่ให้ไปเที่ยวญี่ปุ่น

    พอเบื่อ ๆงาน ก็นึกถึงเงินแสนที่นายให้เราไปเที่ยวญี่ปุ่นทำงานตอบแทน
    ผมก็ทำงานไปอีก แค่ 7 - 8 เดือน ความอิ่มใจในญี่ปุ่น ก็เริ่มหายไปแล้ว

    มันนานแล้ว เจือจางไปหมดแล้ว



    ขาดงานไม่บอกสาเหตุ มาสาย
    ผมยอมรับว่าผมเก่งมาก แต่ผมก็มีปัญหามากเหมือนกัน
    ผมคือคนที่ทำประโยชน์ให้เขา และขณะเดียวกันผมก็เป็นปัญหาให้ครับ


    บทสรุปของมัน ไม่มีทางเยียวที่จะแก้ไข

    ที่บริษัทพยายามแก้ปัญหากับผมเรื่องการใช้ชีวิตในกทม
    แต่มันทำไม่ได้เพราะใจของผมมันไม่ให้ครับ

    สุดท้าย
    ผมขอไม่ทำงานที่บริษัท ผมขอทำงานที่บ้าน
    ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เราคุยกันเรื่องทำงานที่บ้าน ซึ่งครั้งแรกผมคิดว่าเขาคงเสียประโยชน์มาก
    ผมเลือกที่จะลาออก มากกว่าทำงานที่บ้านให้เขา

    แต่สุดท้าย เราก็ตกลงกันได้


    ที่บริษัทญี่ปุ่นก็ยังให้ผมทำงานได้ 3 วันครับ
    คือว่า ทำงาน วันไหนก็ได้ 3 วัน วันอื่น ๆ ก็ทำที่บ้านครับ

    งานที่ผมทำมันเป็นงานเล็ก ๆ น้อย ๆ มากกว่าครับ
    เงินเดือน ก็หมื่นนิด ๆ ครับ ผมทำได้ประมาณ 4 เดือน
    ผมก็ไปเจอช่องทางทำเงินแบบใหม่ครับ

    ผมเจอสิ่งที่กำลัง ฮิตในช่วงปีที่ผ่านมา นั้นคือ EBAY ครับ
    (ใจเย็น ๆ ครับผมจะไม่คุยเรื่องการขายอีเบย์ครับ)

    ชีวิตคนเราผมมั่นใจว่า จะรุ่ง หรือ จะร่วง มันไม่ได้ต้องมีแค่ฝีมือครับ
    แต่ที่สำคัญคือจังหวะและดวงครับ

    เนื่องจากผมเป็นโปรแกรมเมอร์ ที่ทำเกี่ยวกับ E-Commerce จึงมักมีคนมาคุยกับผมเรื่องขายของผ่าน Internet
    คนที่อยากขายของผ่าน Internet คือ พ่อค้าตัวจริง ที่ไม่มีความรู้ด้าน Internet เลย

    ทุกครั้งที่ผมให้คำแนะนำไปคือ E-commerce ในไทยไม่รอดหรอก (ช่วงนั้นนะ ตอนนี้ผมว่ารุ่งมาก ๆ )
    ทุกคนที่ถามผมก็จะผิดหวังและหันหลังจากผมไปทันที

    แล้วโชคชะตาก็มาเยือนผม เมื่อเพื่อนผม อยากขายของใน Internet จึงมาปรึกษาผมที่บ้าน
    และก็เหมือน ๆ ทุกครั้ง ผมก็จะบอกว่า ไม่ไหวหรอก ไม่รอดหรอกในเมืองไทย

    เพื่อนผมก็กลับบ้านไป แล้วจู่ ๆ แม่ผมก็บอกว่า "ขายคนไทยไม่ได้ ก็ขายฝรั่งซิ"
    คำพูดของแม่ แค่นี้ เปลี่ยนชีวิตให้ผมเลยครับ
    ผมก็ลองศึกษาตลาดต่างประเทศ ผมก็พบว่ามีคนไทยแอบขายของกันที่ Ebay


    ทุก ๆ ครั้งที่ผมไป กรุงเทพเพื่อเข้าบริษัทผมจะแวะไปที่ สำเพ็ง โบ๊เบ๊ ประตู้น้ำ เพื่อไปซื้อสินค้ามาขาย
    เดือนแรกที่ผมขายของในอีเบย์ผมได้รายได้เดือนละ 20000 กว่าบาท
    ใช่ครับ มันมากกว่าเงินเดือนผมที่ทำ ๆ อยู่นะครับ

    ผมได้เงินเดือน 15000 กับ Ebay 20000 เท่ากับว่าผมมีรายได้ 35000 บาท แถมยังได้อยู่บ้านด้วยนะครับ

    มันเริ่มต้นด้วยความสวยงามเลยครับ EBAY


    .......ไว้จะมาเล่าต่อนะครับ .......

    จากคุณ : เอก - [ 16 มี.ค. 52 22:12:44 A:61.7.186.214 X: TicketID:092341 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com