ความคิดเห็นที่ 1 สุดท้ายที่ผมอยากจะบอกก็คือว่า การสัมภาษณ์งานของผมมันก็เปรียบเหมือนกับการแข่งขันวิ่งเพื่อรับสมัครนักกีฬา คือผมวิ่งแทบตายจนเข้าเส้นชัย สุดท้ายกรรมการเดินไปให้เหรียญทองกับ คนที่สูงที่สุด เพียงเพราะกรรมการคิดว่าคนที่สูงที่สุดย่อมหมายถึงคนที่ต้องเข้าเส้นชัยที่ 1 จุดนี้เองแหละครับที่ผมมองว่ามันไม่ยุติธรรม !!! จากคุณ : valentinosong - [ 16 มี.ค. 52 23:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไปๆมาๆห้องนี้หนักว่าห้องสยามอีก ^^ จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 00:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราเรียนราม จบด้วย สามปีครึ่ง เพิ่งทำเรื่องจบเสร็จไปแต่มั่นใจว่าเราจบแน่นอน ที่ทำงานเค้าก็ตกลงรับเราเข้าทำงานนะ เราคิดว่าบางทีมันอาจจะอยู่ที่วิธีการตอบสัมภาษณ์ของคุณหรือเปล่า? บางทีคุณอาจจะเตรียมตัวมาดีเกินไปไหม? คำตอบดีเกินไปหรือเปล่า? เราไม่อาจจะวิจารณ์ได้นะค่ะว่าคุณตอบคำถามดีน้อยแค่ไหน แต่อยากให้ใส่จิตวิญญาณลงไปในเเววตา และ การตอบคำถามของคุณ เวลาตอบคำถาม คุณมีความมั่นใจไหม? คุณสบตากรรมการหรือเปล่า? หรือคุณจ้องเค้าตาเขม็ง แค่ ไอเดียนะค่ะ เราไม่ได้วิจารณ์ว่าคุณสัมภาษณ์ได้ดีหรือเปล่า ตำแหน่งงานที่คุณสมัครตำแหน่งอะไรค่ะ? คุณมีอะไรไปบอกเค้าได้บ้างว่าคุณจะทำงานได้คุ้มเงินเดือน ความรู้ความสามารถคุณมีให้กับตำแหน่งนั้นหรือเปล่า? คุณเรียกเงินเดือนสูงเกินไปไหม? ตอบคำถามตัวเองก่อนนะค่ะ บางที สัมภาษณ์แต่ละที่คุณน่าจะลองเปลี่ยนสไตล์การตอบให้แตกต่างออกไป เผลอๆ คุณอาจจะได้งานง่ายขึ้นนะค่ะ จากคุณ : อัย - [ 17 มี.ค. 52 00:22:31 A:58.64.103.44 X: TicketID:208305 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ออ เราทำงานได้ปีหนึ่ง เราถึงเพิ่งได้รับปริญญาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ลองปรับเปลี่ยนวิธีการตอบคำถาม หรือเรซูเม่ ของคุณดูนะค่ะ จากคุณ : อัย - [ 17 มี.ค. 52 00:23:55 A:58.64.103.44 X: TicketID:208305 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่รุ้จะแนะนำอย่างไรดีครับ แต่ถ้าเอาจากประสบการณ์ของตัวผมเอง เวลาไปสัมภาษณ์งานสิ่งที่พกไปก็คือ ความมั่นใจสถานเดียวครับ จากคุณ : akkadech - [ 17 มี.ค. 52 00:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คือปัญหาที่ผมพบไม่ใช่ว่าเรื่องการสัมภาษณ์ แต่ที่ผมเจอคือ เรื่องขาดประสบการณ์จริงๆครับ ผมฟังเหตุผลนี้บ่อยจนไม่รู้จะบ่อยยังไง ส่วนเรื่องความสัมภาษณ์ผมมั่นใจเต็มร้อยตอนเข้าไปสัมภาษณ์ทุกครั้ง เหตุที่ผมมั่นใจไม่ใช่เพราะเกิดจากความเข้าใจว่าตัวเองเก่งเลิศเลอแต่อย่างใด แต่กลับกันผมเข้าใจว่าผมไม่รู้อะไรเลยซะมากกว่า แต่สิ่งนึงที่ผมคิดว่าคือคุณสมบัติที่สำคัญคือ ความพยายาม ความพยายามที่พร้อมจะทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ความพยายามที่พร้อมจะทำงานให้ได้คุณภาพ และสุดท้ายคือความซื่อสัตย์ต่อตัวเองและผู้อื่น จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 00:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 งานที่สมัครเค้ารับแต่คนมีประสบการณืหรอคะ ทำไมไม่ลองเลือกงานที่เค้าระบุว่ารับเด็กจบใหม่ หรือไม่เอาประสบการณ์ละคะ มีถมเถนะ สู้ๆค่ะ จบใหม่เหมือนกัน จากคุณ : อะจึ๋ยเคี้ยก - [ 17 มี.ค. 52 00:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอให้กำลังใจ จขกท นะครับผม ยังไงก็สู้ต่อไปครับ ซักวันโอกาสมันต้องมาเป็นของคุณแน่นอน ตราบใดที่คุณยังมีไฟอยู่แบบนี้ ผมขอแชร์ประสบการณ์ของผมมั่งล่ะกันนะครับ ผมเองเรียนยังไ่ม่จบแต่ว่าเพื่อนจบไปหมดแล้ว ง่ายๆคือผมติดโปรเจคเลยมาปีนึงแล้วก็ยังไม่จบแล้วผมก็ไม่ต้องไปเรียนแล้วก็เลยหัดเขียนเรซูเม่และส่งไปหลายที่เหมือนกัน แต่มีอยู่ที่หนึ่งเค้าโทรมาเรียกตอนเกือบสามทุ่ม ผมก็งงบริษัทไรวะ โทรมาดึกจังขายประกันเปล่าเี่นี่ย พอคุยไปคุยมาเค้าก็นัดวันสัมภาษณ์ ผมก็ไปสัมภาษณ์ซึ่งพอดีว่าในโปรไฟล์ผมนั้นผมได้เคยลงแข่งขันเกี่ยวกับในสายงานของผมพอดีแล้วในด้านนี้ก็ไม่ค่อยมีคนทำได้เท่าไรนัก เค้าก็ถามผมว่า ทำได้ไหม อาจจะต้องเข้ากะด้วย สิ่งหนึ่งที่ผมพยายามบอกเค้าอยู่เสมอก็คือผมยังไ่ม่จบ แล้วไม่รู้ว่าจะจบไหม(แต่ผมก็สามารถทำงานได้ ful time นะ) เค้าก็ว่าไม่เป็นไรขอให้ทำงานได้ก็พอ เงินเดือนที่ผมเรียกไปเค้าก็เพิ่มให้อีกพันนึง ตอนนี้ก็กำลังรอเซ็นสัญญาอยู่ สุดท้ายนี้อยากจะบอก จขกท นะครับ ว่าอย่าท้อ ขอเพียงคุณมั่นใจในความสามารถของคุณว่าทำงานได้ในตำแหน่งนั้น และพยายามเขียนจุดเด่นในเรซูเม่ตรงที่มันเกี่ยวกับงานตำแหน่งที่สมัครเยอะๆ รับรองครับว่ายังไงก้ต้องได้งานแน่นอน ขนาดผมยังไม่จบยังได้เลย คุณเรียนจบแล้วทำไมจะหาไม่ได้ล่ะครับ สู้ๆครับผม ว่าแต่เรียนจบไรมาอ่ะครับ จากคุณ : เฮ้ย..จริงดิ - [ 17 มี.ค. 52 00:58:13 A:192.168.0.17 X:58.64.49.123 TicketID:206658 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สมัยอยู่ออฟฟิตที่เก่า เคยนั่งคัดใบสมัครงานกับหัวหน้า ตำแหน่ง SITE ENGINEER และนัดสัมภาษณ์ เชื่อไหมว่าตอนนั้นดูกัน 3 อย่างเอง - -" 1.เรียนอะไรมา...จะดูก่อนว่าตรงสายที่จะรับไหม มีประสบการณ์หรือไม่มีไม่สนเท่าไหร่ เพราะมีฐานเงินเดือนตามประสบการณ์อยู่แล้ว 2.เรียกเงินเดือนเท่าไหร่...ถ้าผ่านจากข้อ1 ก้จะดูตรงนี้ ถ้าเรียกเว่อร์ไปก็โยนทิ้งเลย (ย้ำโยนทิ้ง) แต่จะดูประกอบกับประสบการณ์ด้วยครับ 3.จบที่ไหนมา...อันนี้ค่อนข้างมีส่วนพอสมควรครับ โดยรวมคนเก่งจะอยู่ในสถาบันที่เก่งๆ ส่วนเกรดเฉลี่ยเนี้ยตอนนั้นไม่ด้ดูเลยด้วยซ้ำครับ เพราะความเก่งสามารถสอนกันได้ครับ หวังว่าที่เล่ามาคงจะพอเป็นประโยชนืบ้างนะครับ ^ ^" จากคุณ : akkadech - [ 17 มี.ค. 52 01:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเรียนวิศวกรรมเคมีครับ วันพุธนี้ผมก็สอบโปรเจคแล้วก็ไม่มีภาระอะไรอีกแล้วครับ ส่วนเรื่องที่บริษัทต้องการคนจบใหม่อันนี้ผมก็สมัครไปนะครับ แต่พอสัมภาษณ์เสร็จ ผมก็เห็นแต่เค้าเลือกคนมีประสบการณ์ทั้งนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เข้าใจว่า แล้วจะบอกว่ารับเด็กจบใหม่ทำไมในเมื่อถึงเวลาจริงคุณไปเลือกคนมีประสบการณ์ ???? จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 01:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องเงินเดือนผม เรียกไป 15000 บาทครับ บอกตามตรงว่าผมไม่ทราบเหมือนกันว่าผมเรียกสูงไปป่าว แต่ถ้าทางบริษัทเค้าจะต่อลองขอลดอันนี้ผมก็รับได้ครับ ไม่มีปัญหาอย่างไร คือยังไงพี่ๆช่วยชี้แนะหน่อยครับ ประมาณว่าผมเรียกเงินเดือนสูงไปหรือป่าวครับ ??? จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 01:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากให้คุณ จขกท ถือซะว่าได้ "มีประสบการในการสัมภาษณ์งาน" คนมีประสบการณ์ทำงานแล้วเค้ายังหางานกันไม่ค่อยจะได้เลยค่ะ ของอย่างนี้มันอยู่ที่จังหวะ และ ดวง ด้วยนะคะ สำคัญคือ "อย่าท้อ" และ "ต้อง"พัฒนาตนเองต่อไป แล้วเวลาที่บริษัทไหนเค้าให้ "โอกาส" คุณก็อย่าลืมตั้งใจทำให้ดีที่สุดนะคะ ตอนนี้ตัวเลือกเค้าเยอะ เท่านั้นเอง จากคุณ : =T.T= - [ 17 มี.ค. 52 01:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรียกเงินเดือนสูงไปครับ ในสภาวะเศรษฐกิจและการว่างงานแบบนี้ ต้องส่องกระจกดูตัวเอง และรอบข้างให้ดีครับ ว่า ณ เวลานี้ เราต้องสู้กับใครบ้าง โรงงาน Layoff พนักงานเป็นขบวน ... Early Retire กันเป็นว่าเล่น คนออกจากงานมาเท่าไหร่ ... แล้วจะมีมาสมัครงานเท่าไหร่ ???? บริษัท ไม่ได้มีหน้าที่มาเข้าใจหรอกครับว่า คุณจะได้หรือไม่ได้งาน คุณจะเหนื่อยกับการหางานมาขนาดไหน แต่ถ้าเค้าจะจ่ายเงินจ้างคนในภาวะแบบนี้ มันต้องได้คนที่เก่งที่สุด ที่บริษัทจะจ้างในค่าจ้างที่คุ้มที่สุด ... เผอิญผมคิดว่า คุณคงไม่ได้อยู่ในจุดนั้น ... พูดตรงไปมั๊ยครับ ? คิดง่าย ๆ ถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัท ที่กำลังอยู่ในเศรษฐกิจแบบนี้ คุณจะจ้างงานเด็กจบใหม่ ที่ไม่รู้อะไรเลย เกรดยังออกไม่ครบ ที่เงินเดือน 15,000 หรือว่าจ้างพนักงานมีชั่วโมงบิน พร้อมทำงานทันที ไม่ต้อง train ที่เงินซัก 18,000 ? ตอบไม่ยากเลยครับ ตอนนี้ supply แรงงาน มันล้นตลาด บริษัทเลือก shopping พนักงานได้ตามใจครับ รู้ตัวหรือเปล่าว่า เกมนี้ ? คุณมีดีอะไรบ้าง ? อย่าเสียเวลามาขอความเห็นใจเลยครับ จากคุณ : Morning Star - [ 17 มี.ค. 52 01:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องเรียกเงินเดือนของ จขกท. ไม่ขอออกความเห้นครับ เพาะไม่ทราบเกี่ยวกับสายงานทางนี้จริงๆ โดยทั่วๆไปเลย ป.ตรี เท่าที่ทราบมาก็ อยู่ระหว่าง 12-15k ครับ หรืออาจจะมากกว่านี้(บริษัทที่ผมทำงานรับจบใหม่เมื่อต้นปีที่แล้ว 17k.... - -") จากคุณ : akkadech - [ 17 มี.ค. 52 01:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แหะๆ ขอโทษนะครับคุณ Morning Star คุณพิมพ์มาแบบนี้ผมว่าคุณชวนหาเรื่องแล้วครับ คือผมอ่านตอนแรกผมก็ขอขอบคุณจริงๆครับสำหรับคำแนะนำ แต่พอมาถึงประโยคที่ว่า เกมนี้ ? คุณมีดีอะไรบ้าง ? อย่าเสียเวลามา***ขอความเห็นใจ***เลยครับ ขอโทษนะครับ คือผมมาพิมพ์ที่นี่ไมได้ต้องการความเห็นใจ โดยส่วนตัวผมมองว่าคนขอความเห็นใจคือคนขี้แพ้ แต่ผมไมได้มาขอความเห็นใจแต่อย่างใด ถ้าไม่เชื่อคุณลองอ่านประโยคที่ผมพิมพ์ข้างต้นอีกรอบก็ได้ เพียงแต่ผมสงสัยในการตัดสินใจของบริษัทว่าทำไม ในอดีตก็เคยมีคนให้โอกาสคุณ แต่พอมาวันนี้คุณกลับไม่ให้โอกาสใคร !!! จุดนี้แหละครับที่ผมสงสัย ???? ส่วนที่ว่าขอโอกาสไม่ได้หมายถึงว่าพอมีคนจบใหม่ไปสัมภาษณ์แล้วขอให้คุณพิจารณารับทำงานเลยโดยไม่สนความสามารถแต่ ผมต้องการให้คุณเปิดใจว่า เด็กจบใหม่มือไม่ได้เป็นง้อยทำอะไรไม่เป็นเลย !!! สิ่งที่ผมต้องการมีเช่นนี้ครับ จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 01:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เวลา เขียนเรื่องเงินเดือน ลองเขียนไปสัก 12-15 k ดีกว่าไหมค่ะ? แล้วเวลาสัมภาษณ์ เราลองถามเค้าว่า โครงสร้างบริษัทสามารถเสนอให้ได้เท่าไหร่ คุณพร้อมที่จะเรียนรู้งาน คุณเชื่อว่าถ้าคุณมีผลงานดี เงินเดือนย่อมขึ้นตามแ่่น่นอน พี่ชายเราเป็นวิศวกร ไฟฟ้ามั้ง จบออกมาเค้าได้แค่ 10300 คุณได้ยินไม่ผิดหรอก เท่านี้จริงๆ แต่ด้วยความที่เค้าสู้งาน เวลาโบนัสออก เค้าได้ไม่เคยต่ำกว่าแสนนะค่ะ ถ้าเป็นงานที่ชอบจริงๆ ลองทำดูก็ไม่น่าจะเสียหายนี่ค่ะ อย่างน้อยคุณก็จะได้เป็น หนึ่งในคนที่มีประสบการณ์ จากคุณ : อัย - [ 17 มี.ค. 52 01:25:33 A:58.64.103.44 X: TicketID:208305 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท. อย่างพึ่งโกรธคุณ Morning Star ครับ เพราะที่เขาบอกเป็นโลกแห่งความเป็นจริงครับ โดยส่วนมากแล้วทุกบริษัทเขาอยากจะได้คนที่เป็นมาทำงานเลย   ส่วนเรื่องประสบการณ์ทั้งหลายแหล่มันเป้นเรื่องของตัวบุคคลที่จะต้องหาไขว่ขว้าเอาเองครับ จะด้วยเส้นสาย เพื่อน-พี่-น้อง-ญาติชักชวนหรือฝากเข้าไปทำงานก็สุดแล้วแต่ครับ...แต่บอกได้คำเดียวครับว่าอย่าท้อครับ จากคุณ : akkadech - [ 17 มี.ค. 52 01:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จขทก ยังพอจำ คำถามและคำตอบของตัวเองตอนสัมภาษณ์ได้ไหมคะ? เรามาแชร์กัน ดิฉันเชื่อว่าพี่ๆๆที่มีความรู้ความสามารถที่นี่อาจจะชี้แนะคุณเพิ่มเติมได้นะ คุณอาจจะคิดว่าตัวเองตอบคำถามได้ดี แต่บางทีในมุมมองของคนอื่น คุณอาจจะไม่ใช่ ก็ได้ หรือคำตอบของคุณอาจจะไม่โดนก็ได้นะค่ะ เราแค่แนะนำเฉยๆ อย่าเพิ่งโกรธ จากคุณ : อัย - [ 17 มี.ค. 52 01:32:21 A:58.64.103.44 X: TicketID:208305 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณคำแนะนำของคุณ อัย ครับ จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 01:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คือสำหรับคำแนะนำว่าผมไม่ดีอะไรผมรับได้ครับ เพราะผมทราบดีครับว่า ทุกคนย่อมมีสิ่งที่ทำไม่ถูกเสมอ แต่บอกตามตรงว่าผมรู้สึกไม่ค่อยดีที่มีคนมามองผมว่า ผมมาขอความเห็นใจ ซึ่งจุดนี้เองมันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมต้องการคำแนะนำ + ข้อตำหนิ เพื่อใช้ในการแก้ไขเพื่อพัฒนาตัวเอง แต่ทำไมบางคนถึงเข้าใจว่าผมมาขอความเห้นใจ จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 01:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอาเป้นว่าผมขอโทษคุณ Morning Star ละกันครับ ที่คุณหวังดีแนะนำอะไรต่างๆให้ผม แต่ผมกลับใช้อารมย์ชั่ววูบในพิมพ์โต้ตอบโดยไม่มองเจตนาดีของคุณ จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 01:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ส่วนคำถามที่ผมเจอ สดๆร้อนๆเมื่อวานละกันนะครับ 1 คุณช่วยอธิบายสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นตัวของตัวคุณ ผมจะบอกว่า ผมคงไม่มีอะไรบอกได้ว่าผมมีความดีมากน้อยเพียงใด หรือเก่งอย่างไร แต่สิ่งนึงที่ผมศรัทธาอยู่เสมอคือ ผมสรัทธาในคนที่ประสบความสำเร็จโดยใช้ความพยายาม 2 คุณทำงาน ot ได้ไหม คือผมทำงาน ot ได้ครับเรื่องทำงานล่วงเวลาผมไม่มีปัญหาครับ 3 คุณยกของหนักได้ไหม คือผมได้หมดครับไม่ว่าจะงานหนักงานเบาครับ สรุปคือผมไม่เกี่ยงงานเลยครับ 4 คุณรู้เรื่องของงานมั่งไหมครับ ผมก็พอจะศึกษามาบ้างแล้วครับ ส่วนเหตุผลที่ผมศึกษามาบ้างเนื่องจาก ผมต้องการจะทราบงานที่ผมถ้าจะต้องรับผิดชอบต้องทำอย่างไรจะได้ไม่มีปัญหาภายหลังครับ 5 คุณมีอะไรจะถามไหมค่ะ ผมไม่มีคำถามอะไรหรอกครับ (<---กรรมการกทำหน้างงๆไปพักนึง ) แต่ผมมีสิ่งนึงที่อยากจะกล่าวครับ ก่อนอื่นผมก็ขอขอบคุณทางบริษัทจริงๆครับที่ให้โอกาสมาให้ผมสัมภาษณ์ในวันนี้ เพราะน้อยครั้งมากครับ ที่ผมจะมีโอกาสในการสัมภาษณ์เนื่องจาก โดยส่วนใหญ่พอเห็นไม่มีประสบการณ์ ก็มักจะไม่ให้โอกาสแม้แต่การสัมภาษณ์ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะขอโอกาสคือ ผมขอโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองครับ ว่าอย่างน้อยนักศึกษาจบใหม่ก็สามารถทำงานได้ดี ผมได้เพียงแต่หวังว่าพวกท่านจะให้โอกาสผม เพื่อให้ผมทำงานได้เต็มความสามารถและตอบแทนกับความไว้วางใจของท่านที่ให้โอกาสผมมา ณ ที่นี้ จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 01:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รู้ตัวหรือเปล่าว่า เกมนี้ ? คุณมีดีอะไรบ้าง ? อย่าเสียเวลามาขอความเห็นใจเลยครับ ประโยคนี้ทำร้ายจิตใจเค้าเกินไปหรือป่าว จากคุณ : Can't smile without you - [ 17 มี.ค. 52 02:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณช่วยอธิบายสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นตัวของตัวคุณ ผมจะบอกว่า ผมคงไม่มีอะไรบอกได้ว่าผมมีความดีมากน้อยเพียงใด หรือเก่งอย่างไร แต่สิ่งนึงที่ผมศรัทธาอยู่เสมอคือ ผมสรัทธาในคนที่ประสบความสำเร็จโดยใช้ความพยายาม --- เราว่าคุณน่าจะบอกถึงสิ่งที่คุณชอบ ถนัดไปนะคะ มันจะทำให้เค้าเห็นว่าคุณมีความเหมาะสมกับบริษัทมากน้อยเพียงใด จากคุณ : อะจึ๋ยเคี้ยก - [ 17 มี.ค. 52 02:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอโทษ จขกท ครับ ที่พูดอะไรตรงไป ที่คุณพูดต่อจากความเห็นผมที่ว่า "ผมต้องการให้คุณเปิดใจว่า เด็กจบใหม่มือไม่ได้เป็นง้อยทำอะไรไม่เป็นเลย !!!" อันนั้น เป็นที่ทราบดีครับ แต่ว่าความจริงยิ่งกว่าในโลกการทำงานคือ "คนที่มีประสบการณ์ เก่งกว่าเด็กจบใหม่ ขอเงินเดือนมากกว่านิดหน่อย" ก็มีให้เลือกเยอะครับ อย่างที่ผมเขียนไว้ ... ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ ระหว่างเด็กจบใหม่ 15k กับประสบการณ์ 3 ปี 18k ... ร้อยทั้งร้อยเลือกคนมีประสบการณ์ครับ เค้าผิดหรือเปล่าที่ไม่ให้โอกาสเด็กจบใหม่ ??   ไม่ผิดครับ เค้ามองว่าเด็กจบใหม่เป็นง่อยทำอะไรไม่เป็นเลย ?? ไม่ใช่แน่นอนครับ แต่หน้าที่ของเค้าคือ "ต้องหาคนที่เก่งที่สุด เหมาะสมที่สุด และเรียกเงินเดือนในระดับที่ OK ที่สุด มาทำงาน" ครับ ไอ้ที่ผมถามว่า เกมนี้ ? คุณมีอะไรดีบ้าง ? ไม่ได้จะหาเรื่องครับ แต่จะถามว่าตรง ๆ ว่า ในเมื่อคุณจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ การที่คุณจะต่อสู้กับคนหลาย ๆ คนที่เค้ามีประสบการณ์ เพื่อให้คุณได้งาน ... คุณต้องมีอะไรที่ดีกว่า เก่ง เกรดดี ซึ่งนั่นเรียกกว่า value ในตัวคุณครับ .. ได้แสดงออกมาให้เค้าเห็นหรือเปล่า หรือถ้าทำแล้ว ยังไม่ได้งานอีก ก็ต้องมาดูปัจจัยอื่นว่า เงินเดือนเรียกมากไปมั๊ย มีอะไรอื่นอีก หรือถ้าสุดท้ายแล้ว ยังไม่ได้งาน ก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่ถึงเวลาของเรา สู้ต่อไป ไม่ใช่มาคิดว่า ทำดีที่สุดแล้ว หรือมาคิดว่า ฉันเป็นคนขี้แพ้หรือเปล่า ... คุณจะแพ้ก็ต่อเมื่อ ใจคุณบอกว่าแพ้แล้วเท่านั้น ไม่ใช่ให้คนอื่นมาบอก แล้วที่ผมบอกว่า อย่าเสียเวลามาขอความเห็นใจ อาจพูดแรงไป ขออภัยด้วย แต่อยากจะสื่อสารว่า Pantip แห่งนี้ อาจะเป็นที่ให้คุณระบายความคับแค้นใจ " แต่มันไม่ได้ช่วยให้คุณได้งานนะครับ " แต่จะว่าไป ... ถ้าพูดกันแฟร์ ๆ จะมาว่าผมที่พูดว่า "อย่ามาขอความเห็นใจ" ไม่ได้หรอกนะ ก็ดู 5 บรรทัดสุดท้ายที่น้องเขียนในหัวข้อกระทู้สิ .... แต่อย่างว่า ยังไงก็ขออภัยละกัน ไม่ลองสร้างงาน สร้างธุรกิจเองหรือครับ ? ถ้างานมันหายากนัก ขายของได้กำไรเดือนละ 8000 ก็เทียบเท่ากับเงินเดือน 15k แล้ว ถ้าลดค่าใช้จ่ายในการทำงานต่าง ๆ ออกไป ยังไงก็ขอให้โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 02:44:31 จากคุณ : Morning Star - [ 17 มี.ค. 52 02:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบ #23 คุณ Can't smile without you ถ้า น้อง valentinosong ได้งานทำจริง ๆ เจอโลกแห่งการทำงานจริง ๆ ไอ้ที่ห่วยแตก ทำร้ายจิตใจกว่านี้ มีเยอะครับ แค่นี้น่ะ ชิล ๆ ปล. เป็นผู้ชายจิตใจมันต้องอดทน แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 02:38:10 จากคุณ : Morning Star - [ 17 มี.ค. 52 02:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 27 พออ่าน ๆ ไปก็มีประเด็นให้ออกความคิดเห็นเยอะเลยจากคำพูดของ จขกท .. เอาเป็นแต่ละความเห็นละกัน #1 - โลกการทำงานในความเป็นจริง ความยุติธรรมอย่าไปคาดหวังเลยครับ คุณกำลังจะไปทำงานนะ ไม่ได้ไปเรียนนิติศาสตร์ อีกอย่าง ถ้าเหรียญทองมันมีอันเดียว คนที่ได้ก็ต้องเป็นคนที่เข้าเส้นชัยคนแรกมันก็ยุติธรรมดีแล้วนะครับ ... ผู้แพ้ ไม่มีสิทธิพูดครับ พูดตรง ๆ นะ #6 - ความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น ถ้าน้องหมายถึงว่า การพูดอะไรอย่างที่ใจคิด บางทีมันก็เป็นผลทำให้อดได้งานเหมือนกันครับ อย่าลืมว่า คนสัมภาษณ์บางทีก็คัด candidate ออกด้วยข้อหาหมั่นใส้ก็มี เค้าก็คนนะครับ มีอารมณ์เหมือนกัน ... #10 - รับเด็กจบใหม่ทำไมในเมื่อสุดท้ายคุณก็เลือกคนมีประสบการณ์ ... อ้าวน้อง จะไปว่าเค้าไม่ได้หรอก นี่ต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่เค้าเปิดโอกาสให้เด็กจบใหม่ได้ไปสัมภาษณ์ เพราะไม่ว่ายังไง จะจบใหม่ หรือมีประสบการณ์ เค้าต้องเลือกคนที่ดีที่สุดอยู่แล้ว จะกี่คนก็ว่ากันไป จริงมั๊ยล่ะ #11 - คุณเรียกเงินเดือนสูงไปครับ กับสภาวะแรงงานล้นตลาดแบบนี้ จะมาบอกว่าถ้าผมสามารถลดเงินเดือนไม่ได้หรอก เงื่อนไขนี้ทางบริษัทจะทำก็ต้องเมื่อคนสัมภาษณ์อยากได้คุณจริง ๆ แต่ว่าเงินเดือนมันเกินที่เค้าให้ได้เท่านั้น จึงเกิดการต่อรองเงินเดือนขึ้น ... ในเคสนี้ พูดตรง ๆ นะ บริษัทมี budget มากกว่า 15k แต่ profile ของคุณสู้ candidate คนอื่นไม่ได้  ..... อย่าเพิ่งเสียใจไปครับ งานที่คุณไปสัมภาษณ์อาจจะไม่ได้รับใครเข้าทำงานเลยก็ได้ เพราะบางกรณี ก็มีประเภท HR ต้องเรียกคนมาสัมภาษณ์ เพื่อทำคะแนน KPI ให้ตนเองก็ได้ (ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วบริษัทยังไม่ได้ต้องการคนเลย) เหมือนอย่างที่บริษัท Telecom แถว ๆ วิภาวดีเคยทำ #15 - ตอบไปแล้วใน #25 ครับ #20, 21 - คนเราเจออะไรที่มันจี้จุดก็มีอารมณ์ได้เป็นของธรรมดาครับ ในโลก cyber คุณจะ aggressive ยังไงก็ได้ไม่มีปัญหา คุณสามารถแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ แต่ในโลกสังคมมันไม่ใช่ ผมถามหน่อย เวลาคุณไปสัมภาษณ์แล้วเจอคำถามชวนทะเลาะ คุณได้แสดงอาการหงุดหงิด หรือ ตอบแบบ aggressive ที่ทำให้คนสัมภาษณ์รู้สึกได้หรือเปล่า ? นี่อาจเป็นเหตุผลที่ไม่ได้งานก็ได้นะ จริงอยู่คุณอาจเป็นคนที่จริงใจ แต่บางเรื่องมันต้องใช้ให้ถูกที่ถูกทาง โดยเฉพาะเวลาที่คุณต้องการงาน คุณต้องนอบน้อม และระวังคำพูด และการแสดงกิริยาให้มาก ๆ จากคุณ : Morning Star - [ 17 มี.ค. 52 02:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณครับ คุณ Morning Star เรื่องที่คุณแนะนำว่าลองสร้างธุรกิจเอง อันนี้ก็ลองๆทำมาเหมือนกันครับ เช่นระหว่างเลิกเรียนมหาลัยก็เคยไปเดินขายนาฬิกาที่สยาม ผลออกมาเจ๊งไม่เป็นท่าครับ เนื่องจากไม่ได้ศึกษาแนวแฟฟชั่นเท่าไหร่ ประมาณว่า คิดเองเออเอง อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการวางแผง เนื่องจากว่ามีมาเฟียคุม ทำให้ต้องเสียเวลาในการตงลงกับเจ้าพ่อ เจ้าแม่ คุมพื้นที่อีก แถมค่าใช้จ่ายในการลงทุน เช่น ค่ารถ ค่าตั้งแผง ตกวันละ 300+ แค่กำไรกับไม่เท่าไหร่ อีกทั้งเสียเวลาอย่างมากในการไปขาย เพราะกำหนดเวลาขายได้แค่ 2 ชม แถมกว่าจะขายเสร็จก็ปาเข้าไปตี 1 กว่าจะถึงบ้านก็ ตี 3 แล้วไหนจะต้องไปเรียนตอน 8 โมงเช้า สภาพร่างกายเลยทนไม่ไหว เลยเลิกไป จากนั้นก็ลองทำโน่นทำนี่เรื่อยมา ประมาณว่าอยู่ว่างไม่ได้ คันไม้คันมือทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย จากนั้นลองศึกษาซักระยะก็เลยลองไปขายเสื้อผ้า อันนี้ศึกษาอย่างดีในทุกๆอย่าง ทั้งแหล่งที่ขาย กับแหล่งวัตถุดิบ แล้วก็การจัดร้านต่างๆ ม้จะเป้นร้านขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด แต่ผมปรากฎว่า ผมขายได้กำไรวันละ 1000 เลยทีเดียว แต่ทำไปซักระยะปรากฏว่าปัญหาเยอะครับแม้ว่าการขายตลาดนัดเราจะเสียค่า ใช้จ่ายให้กับทางตลาดแล้ว แต่ก็มักจะมีคนมารังควาญในรูปแบบต่างๆ ซึ่งผมจะไปสุ้รบปรบมือกับเค้าก็หาใช่ที่ เพราะพลาญมีแต่ผมจะแย่เปล่าๆ อีกทั้ง ช่วง3-4เดือนมานี้ เศรษฐกิจแย่อย่างหนัก แม้แต่คนเดินตลาดนัดก็ พลอยน้อยลงไปเรื่อยเลยทำให้ การค้าขายของผมแย่ลงไปด้วย จนมาล่าสุดเมื่อวานก่อนเหลือกำไรเพียง 200 บาท ซึ่งการขายของเนี่ยผมลองมาเยอะแล้วครับบอกได้คำเดียวว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการอะไรได้ให้ดีทั้งหมด เพราะบางอย่างมันเกินจะควบคุม เช่นตั้งร้านอยู่ดีๆ ก็มีคนมารังแกเราในรูปแบบต่างๆ ประมาณว่า เค้าใหญ่ เลยมาเบ่งกับหน้าใหม่อย่างผม แต่ผมก็แก้ปัญหาเรื่อยมาเพียงเพราะผมยึดมันในความพยายาม แต่พอมาถึงตอนนี้ผมก็อยากจะลองทำงานบริษัทเพียงเพราะผมอยากจะลองทำงานบริษัทดู บวกกับผมต้องการความแปลกใหม่ในอาชีพมากกว่าที่จะทำแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมา และอยากจะพิสูจน์ให้เห้นว่างานทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยเพราะความพยายาม ซึ่งจุดนี้ต่างหากแหละครับที่ผมต้องการจริงๆ จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 02:58:50 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรื่องนอบน้อมอันนี้ผมมีครับ แต่ผมจะตอบกลับด้วยคำพูดที่เป็นเหตุเป็นผล โดยพยายามเข้าใจคนฟังว่าเป็นคนเช่นไร แล้วผมควรจะปฏิบัติกับคนเช่นนี้อย่างไร เพราะผมก็ไม่อยากมีศัตรู หรือว่าให้ใครเกลียดขี้หน้าหรอกครับ ส่วนข้อเสนอแนะต่างๆของคุณ Morning Star ผมขอขอบคุณคุณด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆครับ จากคุณ : valentinosong - [ 17 มี.ค. 52 03:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ ^ ^ สามารถหาสินค้าต้นทุนต่ำได้ มีการจัดการดี ไม่ลอง E-Commerce ดูซักหน่อยเหรอครับ ? เปิดเวบมีหน้าร้านดี ๆ ต้นทุนปีละไม่ถึงหมื่น ลูกค้ามีทั่วโลก ไม่ต้องมีศัตรู ไม่ต้องปวดหัวเรื่องเวลา มาเฟีย แถมยังขายได้ 7 วัน 24 ชั่วโมง. เห็นว่าคุณมี Idea เรื่องขายเสื้อผ้าเลยอยากให้ลองดู จากคุณ : Morning Star - [ 17 มี.ค. 52 04:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ดูๆแล้ว เราว่า จขกท มีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินไป และการตอบคำถามตอบแบบ ว่าเอาคำตอบมาจากหนังสือกรสัมภาษณ์มากเกินไป ขาดความเป็นตัวตนของตัวเอง จริงๆหลายบริษัท การสัมภาษณ์พนักงานไม่ได้เน้นเรื่องความเก่งอย่างเดียว ยังเน้นบุคลิก ลักษณะนิสัย ด้วย ถ้ามั่นใจตัวเองเกินไปไม่ดีแน่ๆๆ เพระผมเองเวลาสัมภาษณ์ ต่อให้เก่งมากแค่ไหน ถ้าดูแล้วมั่นใจตัวเองเกินไป ผมคงไม่รับครับ เพราะอนาคตการทำงานจะเกิดปัญหาได้ จากคุณ : SCN_Net - [ 17 มี.ค. 52 08:20:21 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มีคนเค้าจบออกมาก่อนคุณ เป็น  "ล้าน ๆ  คน" นะครับ และยังไม่มีประสบการณ์ทั้งนั้น จากคุณ : Pixzz - [ 17 มี.ค. 52 08:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เท่าที่ผมอ่านมา ผมก็รู้สึกเห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 31 นะครับ ผมรู้สึกว่า จขกท จะดูเป็นคนมีความมั่นใจมากเกินไป บางครั้งคนสัมภาษณ์ เค้าอาจคิดได้ว่าคุณอาจจะกลายเป็นคนที่มั่นใจจนไม่ฟังความคิดเห็นคนอื่น หรือ หัวแข็งก็ได้นะครับ ซึ่งอาจจะยากต่อการปกครองในระบบการทำงานได้ ครับ จากคุณ : Butter cup - [ 17 มี.ค. 52 09:04:44 A:192.168.2.21 X:58.181.141.208 TicketID:204854 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นด้วยกับคุณ Morning Star นะ โลกความเป็นจริงมันต่างกับโลกในอุดมคติราวกับฟ้ากับเหว ถึงแม้ว่ามันจะมีบางส่วนที่ใกล้เคียงกันก็เถอะ พวกผมทุกคนต่างก็เคยเป็นเด็กจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์กันทั้งนั้น แต่ทำไมตอนนี้พวกผมมีงานทำล่ะ ก่อนที่คุณจะมาระบายความอัดอั้นตันใจ ผมอยากให้คุณลองนึกสภาวะความเป็นจริง ณ.ปัจจุบันดูก่อน และก็ ณ.สถานที่ที่คุณอยู่ ตอนนี้อย่างที่ทุกๆคนรู้ว่า เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี แต่สำหรับประเทศไทยมันหนักกว่าชาวบ้านเค้า เนื่องจากปัจจัยภายใน คนตกงานเยอะแยะ คนถูกจ้างออกเป็นแสนๆคน พวกนั้นต่างมีประสบการณ์ บางคนจบปริญญาโท ยังต้องมาเดินเตะฝุ่น หลายๆคนมีดีกว่าคุณหลายเท่า คนเหล่านั้นก็ยังตกงานกันเลย แล้วคุณล่ะ มีอะไรที่จะไปสู้กับเค้า ผมถามกลับไปสักอย่าง ถ้าคนตกงานที่มีประสบการณ์เหล่านั้น บางคนจบปริญญาโทอีก มาสมัครงานตำแหน่งเดียวกับคุณ แต่เค้ารับเงินเดือนเท่ากับที่คุณเรียกคือ 15,000 เป็นคุณ คุณจะจ้างใคร แล้วก็อย่าคิดว่ามันไม่มีนะครับ ชีวิตคนมันจนตรอก เค้ารับได้หมดแหล่ะ ขอให้มีงานทำ เพราะนี่คือโลกแห่งความจริง ไม่ใช่โลกในมหาวิทยาลัย !! ปล.เพื่อนผมจบวิศวะจาก พระจอม ตอนนี้ตกงาน ยังต้องไปทำเป็นช่างไฟ เงินเดือนหมื่นนิดๆ น้อยกว่าที่คุณเรียกอีก แถมประสบการณ์มากมาย แต่ทำไมเค้ายอมล่ะ เพราะเค้ามองโลกเป็นยังไงล่ะครับ และรู้ว่าตัวเองอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่ความฝัน จากคุณ : มองให้เป็นและเดินต่อให้ถูกทาง (รองเท้าแตะไฮโซ) - [ 17 มี.ค. 52 09:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อือ ผมว่าน้องเขามีความเป็นผู้นำสูงนะ แต่บางครั้ง การสมัครงาน เขาต้องการคนเป็นผู้ตามสูง น้องเลยอาจจะไม่ได้ การสัมภาษงาน เงิน>>> สำหรับ Hr ไม่ใช่หัวหน้างาน ความสามารถ>>เขาไม่หวังกับเด็กใหม่หรอก เขาหวังว่าทำงานด้วยแล้วสบายใจสั่งงานได้ ก็พอแล้ว การเรียกเงินเดือน บอกไปเลยขอตามโครงสร้างบริษัท จากคุณ : คิดบวก - [ 17 มี.ค. 52 09:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ใจเย็นลงนิดนึงครับ ไม่ได้โอกาสในวันนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสพิสูจน์ตนเองตลอดไป เสนอให้ตอบตัวเองก่อนว่าขณะนี้ต้องการโอกาสทำอะไร พิสูจน์อะไรเกี่ยวกับตนเอง เพื่อไปยังจุดหมายใดในชีวิต และที่ผ่านมาเคยได้ให้โอกาสตัวเองมามากน้อยแค่ไหน เพราะเท่าที่ให้ข้อมูลมา แม้แต่จะรอให้มีใบแสดงผลการเรียนที่สมบูรณ์เป็นเครื่องพิสูจน์การสอบไล่ของตนซะก่อนที่จะของานทำยังใช้ความพยายามทำให้ตัวเองเห็นไม่ได้ พาลคนอื่นว่าไม่ให้โอกาสเสียแล้ว แล้วจะให้เห็นว่าจะมุ่งมั่นใจร้อนไปไหนล่ะครับ นอกจากนี้ หากงานที่ไปขอทำนั้นเกี่ยวข้องกับที่เรียนมา และคิดว่าอยากจะประกอบวิชาชีพนี้ต่อไป ก็ลองพิจารณาสักเล็กน้อยครับ ว่าตลอดสามสี่ปีที่ผ่านมาได้ให้โอกาสตัวเองไปสั่งสมประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพนี้มากน้อยแค่ไหน เท่ากับที่ได้ลองประกอบธุรกิจส่วนตัวประเภทซื้อมาขายไปหรือเปล่า บริหารความมุ่งมั่นอันเป็นเชื้อเพลิงในตัวให้พวยพุ่งออกมาด้วยแรงดันที่พอเหมาะในทิศทางที่แน่นอนเหมือนไฟเชื่อมโลหะสักนิดคงดีดีครับ อย่าให้เป็นเชื้อเพลิงในระเบิดขวดที่แม้จะทรงพลังแต่สะเปะสะปะ อันตรายต่อคนรอบข้าง และมอดลงหรือถูกดับโดยเร็ว จากคุณ : specto - [ 17 มี.ค. 52 09:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาเอาใจช่วย จขกท. และขอออกความเห็น (เท่าที่คิดว่าช่วยได้นะ) ตอนอ่านบทสัมภาษณ์ที่ จขกท. เขียนตัวอย่างมาให้ เราก็คิดเหมือน คห. 31 อะ คือถ้ามีน้องมาสัมภาษณ์งานกับเรา แล้วตอบแบบนี้ เราจะลังเล...คือรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเค้าอะ (ถ้ารับเข้ามา จะมีปัญหาหรือเปล่า จะใช่อย่างที่พูดหรือเปล่า..) อย่าว่าคนสัมภาษณ์เลยนะคะ เพราะเคยรับมาแล้วผิดหวัง "เยอะ" นะ การสัมภาษณ์แค่ไม่ถึง ชม. พยายามให้เค้ารู้จักสิ่งที่เราเคยทำมาแล้ว หรือ อยากทำ ให้ได้มากที่สุดดีกว่าค่ะ ตอบแบบเป็นรูปธรรมไปเลย ว่าเคยฝึกงานแบบไหน เคยทำอะไรมาบ้าง (คุณเป็นวิศวะ ต้องเคยฝึกงานอยู่แล้ว) เวลาเค้าถามว่า ทำงานดึกได้ไหม ยกของหนักได้ไหม อาจจะตอบไปเลยว่า ได้อยู่แล้วครับ ตอนช่วงฝึกงาน ผมก็เคย.....ก็ว่ากันไป ไม่ใช่ตอบแบบกลางๆมากเกินไป เหมือนตัวอย่างการตอบที่หาได้จากหนังสือ คือตอบให้เป็นตัวเรา แล้ว "ดูดี" ด้วยจะดีที่สุดน่ะค่ะ อีกอย่างนะคะ ช่วงนี้ วิศวะอาจจะหางานยากหน่อย เพื่อนเราจบวิศวะ อุตสาหการ (มีประสบการณ์ด้วยนะ) ไปสัมภาษณ์งานมากกว่าสามสิบที่ถึงค่อยได้งาน แต่มันไม่เคยท้อเลยนะ ใครเรียกก็ไป อีกอย่าง..เหตุผลที่ผู้สัมภาษณ์แจ้งเราว่าทำไมเราจึงไม่ได้งานนั้นๆ อาจไม่จริงหรือครบถ้วนเสมอไปค่ะ มันมีหลายๆอย่างรวมกันที่ทำให้คนๆหนึ่งไม่ได้รับเลือก เกรด คุณ จขกท. ดีหรือเปล่าคะ แล้วภาษาอังกฤษดีไหม อันนี้เราก็ไม่ทราบ ลองพิจารณาหลายๆด้านค่ะ ขอโทษด้วยที่ตอบยาว เพราะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวเลยแนะนำให้กว้างๆน่ะค่ะ ^_^ จากคุณ : มิกกี้แม้ว - [ 17 มี.ค. 52 09:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 38 พอได้อ่านความคิดที่ จขกท โพสต์ เห็นเหมือน คห 31 เลย ถ้าผมเป็นคนสัมภาษณ์คงคิดหนักนะ เห็นตอบแปลกๆกันไปแบบนั้น แล้วเข้ามาจะเข้ากับคนอื่นได้หรือเปล่า พยายามตอบที่มันเป็นแบบเบสิค และ จริงใจนะครับ เป็นรูปธรรมมากกว่านามธรรม เขาถาม how อย่าตอบ what เจอแบบนี้มาหลายคนแล้ว ต่อให้เก่งขนาดไหนแต่เข้ากับองกรไม่ได้ก็แป๊กได้ เสียเวลาทั้งคุณและองกรที่รับคุณ อย่างคำถามแรก อธิบายเกี่ยวกับตัวคุณ 1. ผมศรัทธาคนที่ประสบความสำเร็จ เออ คือเขาอยากให้บอกเกี่ยวกับตัวคุณไม่ได้อยากรู้ว่าคุณศรัทธาใคร อันนี้ถ้าเป็นน้องๆทั่วไป เขาคงบอกว่า มีความรับผิดชอบ ไม่เกี่ยงงาน เป็นคนตรงไปตรงมา มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมงาน ประมาณนี้ 2. ทำงาน ot ได้ไหม ก็ตอบไปว่าได้หรือไม่ได้ หรือได้เป็นบางครั้งถ้าไม่ติดธุระเร่งด่วนอะไร แล้วก็ถามเขาว่า ot ที่นี่ถึงกี่โมง ดูความเป็นไปได้แล้วตอบไป บางที่เขาก็ดูว่าคุณโอเวอร์ไหมในการตอบ เพราะเขาเจอมาเยอะ เช่นบอกว่าทำได้ แต่พอรับเข้าไปมีเหตุผลอ้างตลอด เขาต้องการทบสอบความจริงใจตรงนี้ หรือบางที่ไม่มีไรจะถามเลยถามเรื่องนี้ก็แตกต่างกันไป 3. คุณยกของหนักได้ไหม อยากรู้ว่างานที่คุณไปสมัครเกี่ยวข้องกับการยกของไหม ถ้าเกี่ยวคุณก็ต้องถามว่าหนักขนาดไหน ก็ตอบไปตรงๆ ถ้าคุณมีปัญหาที่หลังก็บอกเขา แต่ถ้าไม่มีก็ตอบว่าพอจะยกได้ คืออยู่ดีๆเขาคงไม่ถามหรอกว่ายกของหนักได้ไหม มันน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในคำถามนั้น 4. คำถามนี้สำคัญมากๆ คุณพอจะรู้เรื่องงานบ้างไหม ถ้าคุณศึกษาว่าตำแหน่งนี้ทำอะไรบ้าง แล้วคุณบอกเขาว่าสามารถทำได้ คุณมีโอกาสที่จะได้เลยละ ถ้าคุณบอกว่าคุณไม่มีประสบการณ์เลยไม่รู้ว่าตำแหน่งนี้ทำไรบ้างแสดงว่าคุณไม่พยายามที่จะรู้ คิดแต่เพียงว่าเข้าไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน อาจจะทำได้หรือไม่ได้ก็ได้ สิ่งที่คุณควรถามก่อนเลยก่อนที่จะนัดสัมภาษณ์ว่าตำแหน่งนี้ทำอะไรบ้าง จากฝ่ายบุคคล หรือถ้ายังไม่แน่ใจคุณควรจะมาโพสต์ในนี้ก็ได้ ว่าวันนี้ผมจะไปสัมภาษณ์ตำแหน่งนี้นะ ใครเคยทำช่วยอธิบายหน่อยว่ามันมีขอบเขตงานอะไรบ้าง 5. คำถามยอดฮิต พิสูจน์ว่าคุณอยากรู้เรื่องบริษัท และมีความสนใจจะทำงานกับบริษัทนี้ไหม เมื่อเขาเลือกคุณแล้ว คนเราถ้าสนใจในตัวบริษัทก็ควรจะหาข้อมูลมากที่สุดเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ คำถามโดยทั่วไปก็คือพื้นฐานการจ่ายเงินค่าแรง การปรับเงินเดือน วันลาวันหยุด สวัสดิการ บรรยากาศการทำงาน กฎระเบียบข้อบังคับ การเดินทาง เพื่อให้รับทราบรายละเอียด และสุดท้ายเลยการแจ้งผลการคัดเลือกเมื่อไหร่ วิธีไหน เพื่อให้คุณไม่ต้องรอโดยไม่รู้จุดหมาย ลองปรับเปลี่ยนวิธีการตอบและบุคคลิกดูนะครับ ผมว่าน่าจะพอช่วยให้คุณมีประสบการณ์ได้ จริงๆแล้วประสบการณ์สำหรับบางคนมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย กับการหางานใหม่ แต่บุคคลิกและการตอบคำถามมันช่วยได้มากกว่า เพราะสิ่งที่เขาต้องการสำหรับคนที่จะรับเข้าไปทำงานคือ รับไปแล้วทำงานได้ไหม เท่านั้นเอง จากคุณ : peggo - [ 17 มี.ค. 52 10:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนปัจฉิมฯ อาจารย์บอกว่า ไม้ตายสุดท้าย สำหรับ ข้อ "ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน" คือ ให้พุดขอให้เขายอมรับเราเข้าไปทำงานให้ได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้เรา เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน ถือเป็นการทดลองงาน อาจารย์ยังย้ำว่า ต้องมั่นใจว่าเราไม่ผ่านแค่ข้อ ไม่มีประสบการณ์ เท่านั้นนะครับ ข้ออื่น ความรู้ ความสามารถ ความพยายาม บุคลิก นิสัยใจคอ ฯลฯ เพรียบพร้อม รอให้พิสูจน์   หากมันเป็นทางเลือกสุดท้ายและ ไม่ฆ่าตัวตายเกินไปนะครับ (ประมาณว่า มั่นใจว่า บริษัทนี้แหละที่ใช่ และอย่างไงก็คงวิจัยฝุ่นต่อไปอีก 2 - 3 เดือนอยู่ดี สู้พิสูจน์ฝีมือไปเลย) หากว่าสุดท้ายยังไม่ใช่เราอีกอยู่ดี ก็ตะล่อม ๆ ถามเขาหน่อยว่าสิ่งที่เขาคิดไม่รับเราในวันแรก  กับสิ่งที่ วันสุดท้ายที่เจอกัน    มันใช่สิ่งเดิมหรือเปล่า แล้วมันคืออะไร จะได้รีบไปปรับปรุงตัวเองครับ   ปล. เวลาไปสัมภาษณ์งานครั้งหน้า เผื่อจะได้เพิ่มประวัติการทดลอง งานเข้าไปอีกหนึ่งเรื่อง (อันนี้อาจารย์ไม่ได้บอก แต่ผมคิดเอาไว้เผื่อตัวเอง 5 5 5) แวะมา ทักทาย เจ้าของกระทู้ครับ สู้ ๆ ครับผม^^ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 10:44:33 จากคุณ : ขนมปังเย็นชา - [ 17 มี.ค. 52 10:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อืม จขกท. ตอบสัมภาษณ์แบบในหนังสือเลยแฮะ ควรจะตอบและบรรยายให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดจะดีกว่าครับ จากคุณ : akkadech - [ 17 มี.ค. 52 10:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อก่อนผมเป็นแบบ จขกท.เลยครับ ไม่มีประสบการณ์ หางานไม่ได้ อย่างแรกต้องเข้าใจว่า เศรษฐกิจไม่ดี คนอยากเข้าทำงานเยอะ แต่งานมีให้ทำมันน้อย คนจ้างเค้าอยากจะลดต้นทุน การสัมภาษณ์มันก็เหมือนเกมแหละครับ เราต้องรู้ให้ได้ว่าคนสัมภาษณ์ต้องการอะไร เว้นแต่เค้ามีคนที่เลือกไว้ในใจอยู่แล้วก็จบครับ (แต่ผมมองเป็นประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งาน) ผมเคยหางานอยู่ 3 เดือน วิ่งเข้าออกกรุงเทพ 3-4 รอบ จากภาคเหนือ (บ้านไม่ได้อยู่กรุงเทพ) บางทีมันก็ท้อ ผมจึงบอกกับตัวเองว่า มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรอก จากประสบการณ์ที่สัมภาษณ์หลายที่ทำให้ ผมนิ่งมากขึ้น กว่าเดิม จากที่เค้าพูดมาเถียงทันที ก็เริ่มคิดก่อนพูด 5555 เพราะกลับมานั่งนึกอีกที มันไม่สมควรพูดเลยยยยย.. บางทีกว่าจะได้งาน มันขึ้นอยู๋กับจังหวะ โอกาส ดวง เส้น หลายๆอย่างครับ ต้องเข้าใจครับ เราควบคุมปัจจัยไม่ได้ ต้องเดินตามเกม ถ้าเหนื่อยก็พักครับ มีแรงก็สู้ต่อ ผมคงแนะนำ จขกท.ไม่ได้มากหรอกครับ เวลาผมเหนื่อยจากงาน บางทีทำๆไปอยากลาออกทั้งๆที่ทำได้แค่ 1 เดือน ผมกลับมานั่งคิดดู ดูกระเป๋ารถเมล์ ดูคนขายหวย ดูคนขอทาน ดูเด็กเสริฟ ผมเชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากทำงานแบบนี้หรอก ทุกคนคงอยากสบาย แต่ทำไงได้ล่ะ ????? ก็ต้องดิ้นรนกันไป มันก็ทำให้เราสู้ได้ คืออยากจะบอกว่าถ้าแค่นี้เหนื่อย คนข้างหลังเหนื่อยกว่าคุณอีกครับ เหนื่อยก็พัก พอมีแรงค่อยสู้ใหม่ อย่างน้อยมีบ้านอยู่ มีข้าวกิน มีการศึกษามากกว่าคนอื่น ยังมีโอกาสมากกว่าคนอื่นอีกเยอะครับ บางทีต้องคิด + ไว้บ้างครับ ไม่งั้นเครียดตาย ปวดหัวแย่นะ จากคุณ : อิอิ - [ 17 มี.ค. 52 11:10:20 A:202.176.80.207 X: TicketID:205377 ]

ความคิดเห็นที่ 42 กำลังจะเข้ามาตอบเรืืองของการสัมภาษณ์เลยค่ะ แต่พี่ๆข้างบนตอบให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าถามเราเราว่า คุณตอบคำถามได้ไม่ดีเลย มันเหมือนในหนังสือทุกอย่าง คุณต้องอย่าลืมว่าไม่ได้มีแค่คุณที่อ่านหนังสือเหล่านั้นนะค่ะ คุณอ่านได้แต่ต้องเอามาปรับใช้ด้วย ส่วนคำแนะนำข้างบน ดิฉันเชื่อว่าพี่ๆให้เกือบหมดแล้ว ส่วนคำถามที่ว่า คุณมีคำถามไหม? เราคิดว่าคุณน่าจะมีเพราะเป็นการใส่ใจในบริษัทด้วย คุณอาจจะถามถึงโครงสร้างบริษัทก็ได้ เช่น พนักงานมีกี่คน อย่าตอบอะไรเป็นกลางๆเพื่อให้ตัวเองดูดีนะค่ะ บางครั้งมั่นใจไป ก็ไม่เกิดผลดีเหมือนกับเราที่เคยเจอมาหรอกค่ะ โชคดีนะค่ะ จากคุณ : อัย - [ 17 มี.ค. 52 11:39:25 A:58.64.103.92 X: TicketID:208305 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คนจบใหม่ทุกคนก็ไม่มี ปสก ครับทำไมเค้าถึงหางานทำได้? เค้ามีจุดเด่นอะไรที่ present ตัวเองได้จนเค้าได้งาน? ทุกคนที่เค้ามี ปสก เค้าก็เริ่มจากไม่มีมาก่อนทั้งนั้นครับ เพราะฉะนั้น หาจุดเด่นตัวเอง ลองลดเรทที่เรทที่เรียกลงมา พอมี ปลก แล้วค่อยขยับขยาย เรื่องนี้บางทีมันขึ้นอยู่กับจังหว่ะด้วยครับ จากคุณ : ไม่หมูนะครับ - [ 17 มี.ค. 52 12:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาให้กำลังใจ จขกท. ค่ะ อย่าเพิ่งท้อ  เห็นด้วยกับ คุณ คห. 31 มากค่ะ ขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตอบคำถามของคุณหน่อย ว่า ที่คุณตอบไปมันไม่ได้ตอบสิ่งที่เขาถาม คำตอบอาจฟังสวยหรู แต่จับต้องไม่ได้ ตอบแบบนามธรรม (ชาวบ้านเรียกแทงกั๊ก) มีหลายคำถามที่ชวนให้เราสงสัยและต้องถามกลับไป เช่นเรื่อง O T กับยกของหนัก ถ้าเป็นเราถาม เราก็คาดหวังให้คุณมีข้อสงสัยหรือคำถามบ้าง อย่างน้อยก็เป็น Two Way Communication ท้ายที่สุด แม้แก้ไขและทำดีที่สุดแล้วยังไม่ได้ ก็อย่ายอมแพ้ ขอให้โชคดี (หลายครั้ง คนหางาน ต้องการคำนี้จริงๆ) จากคุณ : แพรเขียว (แพรเขียว) - [ 17 มี.ค. 52 12:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านเรื่องของจขกท.แล้วให้คิดถึงน้องคนนึงที่จบวิศวะเคมี น่าจะเป็นปีที่แล้วช่วงนี้แหละ เขาเข้ามาโพสและตอบในห้องนี้แทบทุกวัน เรื่องไม่ได้งานซะทีรูปแบบการตอบและความคิดเหมือนๆกันเลย สุดท้ายเห็นบอกว่าไปต่างประเทศ เวลานี้และอีกระยะนานพอสมควรงานด้านวิศวะคงหางานลำบาก ต้องทำใจเอาไว้ ถ้ามีพรรคพวกหรือคนรู้จักแนะนำก็อาจจะพอไหว ประเภทข้ามาคนเดียวนี่ลำบาก นอกจากเก่งจริง ยังไงก็ขอให้จขกท.ได้งานครับ จากคุณ : nors407 - [ 17 มี.ค. 52 12:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอมาร่วมแสดงความคิดเห็น ในฐานะที่ทำงานด้านบุคคลมานานแสนนาน ปัญหาเรื่องการสัมภาษณ์ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมีมาในไม่กี่วัน แต่มันมีมาตลอดคู่กับการทำงานของพวกเรา มีปัจจัยหลายอย่างที่เราควบคุมมันไม่ได้ ลองยกตัวอย่างให้เห็น เช่น มีประกาศรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่.... ลงในหนังสือพิมพ์ หรือในอินเตอร์เน็ต หรืออะไรต่างๆ อีกมากมาย ....มีจดหมายสมัครงานเข้ามามากมาย กระบวนการคัดเลือก สรรหา สัมภาษณ์ ถูกหยิบยกมาใช้ทุกกระบวนท่า แต่สุดท้ายน้องสาวของใครไม่รู้ (ถึงรู้ก็ไม่บอก..มาคว้าไปเสีย ต้องเดากันหน่อยละ) อย่าเพิ่งเสียใจไปเลยว่าเป็นเพียงแค่เราไม่มีประสบการณ์เท่านั้นหรือ บางทีมันก็เป็นข้ออ้างซะงั้น มันอาจมีเหตุผลอื่นที่ไม่สามารถบอกได้ หรือ ผู้สัมภาษณ์เขาไม่ยอมบอกคุณ เช่น ลักษณะบางอย่างของน้องไม่เหมาะกับองค์กร เพราะการพูดเช่นนั้นมันอาจทำให้องค์กรดูเสียภาพพจน์ เป็นต้น พี่มีประสบการณ์ที่หนักกว่าน้องอีก...พี่ได้งานที่หนึ่งในตำแหน่งที่ดี พอไปทำแล้วก้อให้รู้สึกว่าไม่ใช่เรา ตั้งใจอยู่ว่าจะหางานใหม่ แต่ไม่ทันเสียแล้ว เขาอันเชิญเราเสียก่อน ตอนนั้นบอกได้เลยตกงานแล้วเสีย self อีกต่างหาก ไปอีกหลายเดือนกว่าพี่จะหางานใหม่ได้ เห็นมั้ยไม่ได้บอกว่าไม่มีประสบการณ์หางานยาก อาวุโส (แปลว่าแก่) ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่พี่ก็สู้นะ ....แล้ววันหนึ่งจะเป็นของเรา...คอนเฟิร์ม.. จากคุณ : อ้วนทั้งครอบครัว (block65) - [ 17 มี.ค. 52 13:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จขกท งอแง ไปรึเปล่าครับ จากคุณ : อิอิ (resume_d) - [ 17 มี.ค. 52 13:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ......น้องกำลังจะจบอายุ น่าจะ 21 - 22 ......... ผมอ่านดูแล้ว ผมจะฟันธงให้ว่า ไม่ได้งานเพราะอะไร 1.เงินเดือนสูงเกินไป สำหรับเด็กจบใหม่ ไร้ประสบการณ์ อายุ 21 .........เงินเดือน 1.5 หมื่น ตอนนี้ จ้าง วิศวะประสบการณ์ 5 ปีได้สบายๆครับ......... ผมถามน้องว่า ทำไมน้องคิดว่าต้องได้เงินเดือน 1.5 หมื่น ? มีเหตุผลในการคิดอย่างไร ?   ว่าฉันต้องได้เท่านั้นเท่านี้...? เมื่อก่อน ผมก็เคยคิดแบบนี้แหละ ว่าจะเรียกเงินเดือนหลักหมื่น แต่เอาเข้าจริง แค่เฉียดหมื่น ยังแทบไม่ได้เลย......จนมาสำนึกตัวว่า เรายังด้อยประสบการณ์ ขาดวุฒิภาวะ ความรู้เท่าหางอึ่ง คิดว่าตัวเองเก่ง ฯลฯ ...นั่นคือตัวผมในสมัยเมื่อ ปี 39 หรือ เมื่อ 13 ปีที่แล้ว สุดท้าย ผมก็จบลงที่ งานอะไรก็ได้ เงินเดือนแรกที่ผมรับคือ 6300 บาทครับ...สมัยข้าวแกงจานละ 15 - 20 บาท ถ้าเทียบค่าครองชีพในยุคนี้แล้ว ก็คงประมาณ 7000 - 7500 บาท เท่านั้น...... เงินเดือน เด็กใหม่แบบนี้....บริษัท 90% ให้ได้เต็มที่ก็ 1.2 หมื่นครับ ถ้าอยากได้งาน อย่าเลือกเงินเดือน ให้เอาประสบการณ์ก่อน เงินเดือน เอาแค่พออยู่ได้ ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เป็นหนี้ ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะขอแค่ 1 หมื่นพอ....แล้วเข้าไปเก็บประสบการณ์ให้เต็มที่เรียนรู้ทุกอย่างที่มี 2.วุฒิภาวะ .....ผมดูทุกคำพูดที่คุณตอบและแสดงความเห็นออกมา แสดงว่า คุณยัง วัยรุ่นอยู่มาก....ใจร้อน เชื่อมั่นตัวเองสูง Ego แรง ไฟแรง สปิริตแรงกล้า ........ผมเจอเ็ด็ก 21 - 22 แบบน้องมาเยอะครับ.... คุณอยู่ใน มหาลัย คุณเป็น รุ่นพี่ ที่รุ่นน้องยกมือไหว้ เกรงใจ สั่งน้องได้ ว๊ากน้องได้ แต่ถ้าโลกภายนอก คุณก็เป็นแค่เ็ด็กน้อยเพิ่งหัดคลานเท่านั้นเองครับ.....จะเอาอะไรไปสู้กับคนที่ทำงานมาตั้งแต่คุณยังไม่เกิด? จะสู้อะไรกับคนที่เดินหางานก่อนคุณจะเริ่มอ่านหนังสือออก ? การพูดคุยกับคนอื่นในสังคม ความถ่อมตัว อ่อนน้อม สุภาพ เป็นสิ่งที่ใครๆ เห็นก็ชอบ แต่ผมรู้สึกคุณไม่ค่อยจะมีสิ่งนั้น.....น้ำเสียง แววตา กิริยา ท่าทาง คำพูด มันสื่อได้ทุกอย่างที่คุณเป็นนะครับ..... 3.เลือกงานหรือเปล่า ?     บางคนจบวิศวะมา หางานไม่ได้ ต้องไปขับวินฯ ก็มี บริษัทผม วิศวะ ป.โท ประสบการณ์ 15 ปี ยังต้องขับแท๊กซี่หาเลี้ยงชีพเลยครับ .......อย่าเอาศักดิ์ศรี มาค้ำคอ......บางเรื่อง ศักดิ์ศรี มันกินไม่ได้ แต่เงินน่ะ กินได้...... ตอนนี้ ยุคนี้ กำลังฟีเวอร์เรื่องปลดคนออกตามกระแส ถ้าได้งานอะไร ก็ทำไปก่อน ไม่จำเป็นต้องตรงวุฒิเป๊ะๆหรอก งานอะไรก็ได้ที่ไม่ผิดกฏหมาย ทำไปก่อนรอจังหวะที่ดีค่อยหาใหม่ 4.สัมภาษณ์ เหมือนท่องจำมาจากหนังสือ......แสดงให้เห็นว่า เราไม่มีวิธีการคิดหรือ พูด จากตัวเอง จากตัวตนของเราเองเลย......คงจะเป็นจุดเสื่อมของการศึกษา ที่สอนให้เด็กไทย "ท่องจำ" ไม่ได้สอนให้ "คิดเอง" น่ะครับ..... เชื่อไหม....เด็กไทย ใครจำเก่ง ก็ได้เกรดสี่แล้ว แต่ไอ้พวก คิดเอง ได้เกรดหนึ่ง ทุกคนๆก็ล้วนแต่ไม่มีประสบการณ์กันมาทั้งนั้นแหละครับ ไ่ม่มีใครได้งานตั้งแต่อยู่ในท้องแม่กันหรอก...... บริษัท มักจะชอบคนที่ หนักเอาเบาสู้ ครับ พวกคุณหนู คุณชาย มา เขาไม่อยากได้หรอกครับ.....พวกนี้ทำงานหนักไม่ได้ ทำได้สักพักก็ออก ถ้าอยากได้งานจริง - ลดเงินเดือนลงไม่เกินหมื่น - อย่าเลือกงาน - เลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตน - แสดงตัวตนของเราเองว่าพร้อมจะเรียนรู้ เหมือนเราเป็นแก้วเปล่า ที่พร้อมจะเติมน้ำได้โดยไม่เลือกน้ำที่จะเติม - ฝึกการพูดหน้ากระจก ให้ดูเป็นมิตร ดูสุภาพ ถ้าทำได้ตามนี้ ผมเชื่อว่า คุณต้องได้งานแน่นอน....... แต่ถ้าคุณทำตรงข้าม คุณจะไม่ได้งานไปอีกเป็นปี จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 17 มี.ค. 52 14:55:55 ]

ความคิดเห็นที่ 49 put the right man, on the right job, on the right position. จากคุณ : [WhAt'S Up?] - [ 17 มี.ค. 52 15:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาอ่านคะ ความเห็นหลายๆ ท่านดีจัง คิดและลองปรับใช้คะ ขอบคุณ จขกท + ความเห็นทุกคนคะ จากคุณ : Boddee - [ 17 มี.ค. 52 15:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อ 10 กว่าปีก่อน บริษัทแรกให้โอกาสกับเด็กจบใหม่อย่างพี่ แต่โอกาสนั้น แลกมาด้วยการได้รับเงินเดือนเพียงแค่ 5 พันกว่าบาท ทั้งๆที่พี่จบมหาวิทยาลัยและคณะที่ดังอันดับต้นๆของประเทศ (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันน่าจะเท่ากับ 8-9 พันบาท) พอจบปีแรก บริษัทขึ้นเงินเดือนให้พี่ถึง 40% ค่ะ เพราะฉะนั้น พี่จะบอกว่าโอกาสมันมีอยู่เสมอ แต่ถ้าแทนที่จะมัวแต่โทษว่าคนอื่นไม่ให้โอกาสเรา ทำไมเราไม่ยอมปรับปรุงตัวเราเองเพื่อให้ได้โอกาสนั้นมาล่ะคะ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 18:22:31 จากคุณ : ฝนโอ่ง - [ 17 มี.ค. 52 18:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สงสัยอ่ะว่าที่เขียนไว้ใน #1 ทำไมคนที่ได้เหรียญทองคือคนที่วิ่งได้ที่ 1 ในขณะที่คนอื่นที่วิ่งด้วยความตั้งใจถึงไม่ได้ ไม่ยุติธรรม ? ผมว่าแค่ความคิดนี้ก็บ่งบอกถึงปัญหาแล้ว ถามจริง อ่านการ์ตูนมิตรภาพมากไปป่ะ ? ประเภทว่า ตัวเอกเป็นคนที่ไม่เก่งแต่มีจิตใจดี และพยายามฝึกฝนมาเรือยๆ สุดท้ายก็สามารถเอาชนะตัวร้ายที่ผีมือเก่งมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วได้ เค้าไม่สนใจหรอกว่าคุณจะพยายามเลือดตาแทบกระเด็นแค่ไหน ถ้าผลลัพท์มันออกมาสู้เค้าไม่ได้ เค้าก็ไม่เลือกคุณ เท่านี้เอง เป็นธรรมดาๆของโลก ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน แล้วอีกอย่าง คนที่วิ่งได้ที่ 1 คุณรู้ได้งัยว่าเค้าไม่พยายาม หรือ พยายามสู้คุณไม่ได้ ? คิดเข้าข้างตัวเองหมดเลยนะ จากคุณ : จริงมั้ย - [ 17 มี.ค. 52 18:27:05 A:58.136.176.9 X: TicketID:208684 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอตอบสั้นๆก่อนนะคะ หลายๆคห.เขียนดี เด๋วค่อยกลับมาอ่าน สำหรับเรา ตอนจบป.โท (คนละสาย) ก็หางานยากค่ะ รับแต่มีปสก. ฮ่วย...จะมีได้ไงคะ แต่เรามีสกิลโดดเด่นค่ะ คือ เราพรีเซ้นว่า เราเรียนรู้เร็ว ถ้าที่ไหนมีเทส ที่นั่นเราผ่านตลอดค่ะ ยกเว้นเรื่อง aptitude ของธนาคาร อาจจะตก(มั้ง) เพราะไม่ได้เรียกต่อ จุดนี้ เราสัมภาษณ์มาเยอะกว่าน้อง จขกท.แน่นอนค่ะ ....ปสก. ทำให้เรารู้จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง หลังๆมา กลายเป็นว่าไม่ใช่บริษัทเลือกเรานะคะ แต่เราเองที่เลือกบริษัทค่ะ ซักวันต้องเป็นของเราเนอะ จากคุณ : pompoko - [ 17 มี.ค. 52 18:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มี ปสก. ก็หางานยากอยู่ดีอ่ะ จากคุณ : nomoreman - [ 17 มี.ค. 52 19:26:38 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ผมตอบประโยคเดียวนะครับ "แล้วบริษัทเค้าผิดตรงไหนรึครับที่เลือกคนมีประสบการณ์ก่อน ?" ลองพิจารณาครับ บางคนบอกว่าชั้นตั้งใจเรียนมาตั้ง 4 ปีนะ อ้าว... หางานไม่ได้ก็ไม่แปลกนี่ครับ เพราะคุณตั้งใจเรียน ไม่ได้ตั้งใจทำงานนี่ เพื่อนผมทำงานตั้งแต่ปี 2 มั่ว ๆ โง่ ๆ เมา ๆ ก่อนจบปี 4 บริษัทจองตัวกันหมดแล้ว รับเงินเดือนแรกโน่นเกือบ 80000 ส่งไปดูงานตปท ก่อนเลย ก็เค้าตั้งใจทำงานล่วงหน้ามาตั้ง 3 ปี คนอื่นแค่ตั้งใจเรียน จะไปสู้เค้าได้ยังไงละครับ PS. ผมอิจฉามันมาก แต่หลัง ๆ ได้ยินว่ามันมั่วหนักไปหน่อย ใกล้เป็น Aids ตายแล้ว :D จากคุณ : cookiecompany - [ 17 มี.ค. 52 21:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เราว่าคุณเรียกเงินเยอะไปนะ เราจบ อักษร จุฬา ยังหางานไม่ได้เลย ตอนนี้เราหมื่นเดียวก็เอาคะ จากคุณ : littlegoat - [ 17 มี.ค. 52 21:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ส่วนมาก วิศวะเคมี จะเรียนต่อโทกันนะ โดยเฉพาะคนใกล้ๆตัวผม - -" จากคุณ : Ncamp (Nickkita) - [ 17 มี.ค. 52 21:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ก่อนอื่นเลยรู้สึกว่ากระแสถล่มทลายแบบไม่น่าเชื่อ แต่คำว่าทะล่มทะลายคือตัวผมเองซะมากกว่า ^^ ผมคงไม่มาพิมพ์อะไรแล้วละครับ ต่อไปผมเพียงจะอ่านพอละครับ ก่อนอื่นเลยผมรู้สึกว่าคำแนะนำของพี่หลายๆคนเป็นประโยชน์จริงๆครับ แต่สิ่งนึงที่พวกพี่ๆทำให้ผมรู้สึกคือ พี่ตัดสินผมเพียงผมพี่อยากให้ผมเป็นสิ่งที่พี่คิด พี่ตัดสินผมจากคำพูดโดยหาว่าผมก๊อบคำจากหนังสือสัมภาษณ์งานบ้างละ ไปอ่านจากที่อื่นบ้างละ คือผมไม่เคยคิดจะไปฝากชีวิตกับหนังสือสัมภาษณ์งานหรอกครับ ผมคิดว่าผมไม่จำเป้นต้องพึ่งมัน แล้วอีกอย่างนึงที่ผมรู้สึกว่าหลายๆคนพยายามยัดเยียด นิสัย ต่างๆมาให้ผม ตั้งแต่ คำว่า ego ซึ่งผมไม่เข้าใจนะครับว่าพี่ๆเข้าใจกันว่าอะไร แต่สำหรับผมถ้าคำว่า ego หมายถึงความมั่นใจในการทำงาน แน่นอนครับว่า ผมมีเต็มเปี่ยม แล้วแน่นอนว่า ไม่ได้เป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มจบใหม่ไฟแรง แค่วูบหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าพวกพี่ๆอ่านผมทุกคำตอบ คุณจะเห็นว่า ผมแสวงหาความลำบากเสมอ ความลำบากของผมนะหรอ ก็เช่นการทำงานอะไรต่างๆนาๆในระหว่างเรียน ดังนั้นจึงเป้นข้อพิสูจน์ว่า ผมไม่ได้ดี ""แต่ปาก"" อย่างแน่นอน แต่คำว่าดีแต่ปากผมหมายถึง ผมกล้าที่จะพูดอะไร ผมก็กล้าที่จะทำสิ่งนั้น แล้วเมื่อเป้นเช่นนั้นผมก็มั่นใจว่า ผมกล้าที่จะตอบอะไร ก็กล้าที่จะรับผลเช่นนั้น แล้วเช่นกันครับ ถ้าผมไม่มีความมั่นใจแล้วผมจะไปสมัครงานทำไม ? แล้วมองมุมกลับกัน ถ้าแม้แต่ผมยังไม่เชื่อมั่นตัวเองแล้วใครจะไปเชื่อผมครับ ? ผมขอวกกลับมาเข้าเรื่อง ego นะครับ ถ้าคำว่า ego หมายถึง อวดดี อวดเก่ง อันนี้ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า ผมไม่มี ผมไม่มีหรอกครับคำว่าอวดดี เก่งก็ไม่ใช่ มหาลัยก็ไม่ได้อะไรมากมาย แต่ทำไมละครับทุกคนกลับตัดสินเพียงเข้าใจว่าผม ego ซึ่งหมายถึงคำว่า อวดดี อวดเก่ง แล้วทำไมคุณต้องตอบกระทู้โดยคุณอ่านความคิดเห็นของผู้อื่นแล้วมาตัดสินผมว่าเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ คุณตัดสินผมโดยคุณคิดเองไม่ได้หรอครับ ทำไมต้อง "ลอก" กันด้วย แล้วการที่คุณตัดสินผมโดยคุณเดาจากคนอื่นๆที่ประสบบเจอแล้วทำไมคุณไม่ลองกล้าคิดละครับว่าผม ไม่เหมือนคนอื่นก็ได้ ผมขอถามคำถามย้อนกลับละกันครับว่า เวลาสัมภาษณ์งานคุณมักตั้งคำถามเพื่อหาคนที่มีความคิดที่แตกต่างมีภาวะความเป็นผู้นำ แต่คุณมักใช้คำถามเดิมๆในการสัมภาษณ์ ซึ่งจุดนี้เองมองก็มองย้อนกลับไปว่า คนที่ไม่พัฒนาคือคุณ ไม่ใช่ผมหรอกครับ !!!! มีอีกส่วนที่ผมอยากจะถามพี่ๆในนี้ครับว่า ถ้ามีคนมาถามว่า เออช่วยอธิบายอะไรที่เป็นตัวคุณ แล้วผมตอบไปว่า อ๋อผมเก่ง ผมฉลาด ผมหล่อ ผมรวย ผมขยัน กับผมตอบว่า อ่อผมศรัทธาในความขยันของมนุษย์ซึ่งจะนำพาไปสู่การแก้ปัญหา อะไรทำนองนี้ ผมเชื่อว่าจะมีคนมาต่อต้านผมทั้ง 2 รูปแบบแน่นอน ถ้าผมตอบแบบ 1 ก็จะมีคนบอกว่า อ่อน้องตอบแบบนี้ไม่ถูกนะค่ะ แบบนี้มันไม่โดดเด่น มันดูพื้นๆ ไม่มีอะไรยืนยัน ถ้าผมตอบแบบสองก็จะมีคนมาบอกว่า โหตอบแบบนี้ ไม่ถูกจุด แล้วถามหน่อยเถอะครับว่า จะให้ผมตอบแบบไหนถึงจะถูกใจพวกคุณ ในเมื่อคุณตั้งแง่แบบนี้ แล้วสุดท้ายคือที่มีพี่ๆต้องการให้ผมนึกย้อนไปถึงถ้าผมเป็นบริทผมจะทำอย่างไร แน่นอนว่าคนมีประสบการณ์ผมใครเครดิตเค้าดีกว่าแน่นอนครับ อันนี้ผมไม่เถียง แต่สิ่งที่ผมสนใจคือ ความตั้งใจ + การเตรียมพร้อม แล้วแน่นอนว่า ความมุ่งมั่น กับการแค่มีประสบการณ์แล้วผมจะเลือกอันนี้ไม่ใช่แน่ๆเพราะมีคิดมากกว่าที่พีๆหลายๆคนคิดไงละครับ บอกตามตรงว่าการที่ผมมาพิมพ์แบบนี้เหมือนตั้งกระทู้ล่อเป้าให้คนเข้ามาเยียบผมให้หนักกว่าเดิม แต่การที่พี่ๆมาพิมพ์แบบนี้ พี่ถามหน่อยเถอะว่า พี่ไม่มีอคติในใจเลยหรือไง ผมเชื่อว่า แค่แว็บแรกที่เห็น พี่ก็คิดไปแล้วว่า เรียก 15000 ประสบการณ์ไม่มี คิดได้ไงเรียกเงินเดือนแบบนี้ ซึ่งก็จะมีคนมาหมั่นใส้ผมเป้นสิบๆแล้ว แล้วสุดท้ายผมก็พูดว่า..... พี่หลายคนที่บอกให้ผมปรับปรุงอันนี้ผมรับทราบครับว่าผมคงต้องปรับปรุงอีก แต่ในเมื่อพี่บอกผม แล้วพี่บอกตัวเองยังครับ ??????? ที่ผมถามกลับแบบนี้ผมไม่ได้บอกใครเจาะจงหรอกครับ เพราะพี่หลายๆคนในที่นี้ ให้คำแนะนำที่ดีจริงๆ แม้ว่าตอนแรกจะเข้าใจผิดกันมั่ง แต่ผมอยากจะฝากเป็นข้อคิดแด่พี่ๆหลายคนครับที่พิมพ์มาแบบไม่ใส่ใจ สักแต่ว่า เห็นว่าที่นี่เป็นเวทีสาธารณะแต่ก็พิมพ์โดยไม่ดูเหตุและผลอะไร สำหรับพี่ๆที่มีพฤติกรรมแบบนี้ผมขอร้องเถอะครับ อย่าเข้ามาป่วนเลยครับ ผมขอร้อง สุดท้ายก็ขอฝากอะไรนิดนึงครับว่า บางครั้งคุณสอนผมว่าต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วคุณละดีพอหรือยัง ???? แล้วถ้าคุณเงินเดือนเป้นแสนๆ นั่นหมายถึงว่า คุณประสบความสำเร็จแล้วหรอครับ ???? แล้วคุณรู้ได้ไงว่าการที่คุณประสบความสำเร็จนั่นหมายถึงว่าคุณเป้นคนที่ดีที่สุด ฉลาดที่สุด เก่งที่สุด หรือแม้แต่ติติงคนอื่นเก่งสุด คำพูดผมแรงครับ แต่ถ้าพี่ๆไม่พอใจกดโหวตลบได้เลยครับ อันนี้ผมไม่ว่าครับ ขอบคุณครับ ... จากคุณ : valentinosong - [ 18 มี.ค. 52 02:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อืมมม แรงจังเลยนะคะ พี่เชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาตอบกระทู้ เค้าก็พูดออกมาจากประสบการณ์ที่ทุกคนเคยผ่านกันมาแล้วทั้งนั้นแหละค่ะ คนทุกคนมีบรรทัดฐานในความคิดของตัวเอง แต่อยากบอกว่าทุกคนเค้าก็หวังดีและเป็นกำลังใจให้น้องทั้งนั้น การที่บริษัทเค้าไม่รับน้องเข้าทำงาน คงไม่ได้มาจากการที่น้องไม่มีประสบการณ์หรอกนะคะ ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบุคคลหรือว่าหัวหน้างานที่เข้ามาสัมภาษณ์เรา เค้าจะดูหลายๆอย่างประกอบกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการกรอกใบสมัคร เรซูเม่ที่เราเขียนไป รวมถึงคำพูดและน้ำเสียงในการสัมภาษณ์ของคุณด้วย ในการตอบคำถาม พี่ขอไม่พูดถึงคำตอบที่น้องตอบไปละกัน แต่การที่บริษัทเรียกเรามาสัมภาษณ์ เพราะเค้าก็อยากจะรู้จักเรามากขึ้น การตอบคำถามโดยไม่ให้รายละเอียดกับเค้าเลยมันก็ไม่ดี เพราะอย่างน้อยเราเองต้องพรีเซ้นตัวเราเองว่าบุคลิกและนิสัยเราเหมาะกับงานตรงนี้ยังไง ไม่งั้นเค้าจะรู้ได้ยังไงว่าถ้ารับเราเข้ามาทำงาน แล้วเราจะทำงานได้หรือเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่การพรีเซ้นตัวเองจริงๆ ตอนจบมาใหม่ๆ พี่กับเพื่อนไปสมัครงานตำแหน่งเดียวกันในบริษัทเดียวกัน หลังจากสัมภาษณ์ผลที่ได้คือเพื่อนพี่ได้งานนี้ไป โดยฝ่ายบุคคลให้เหตุผลว่าเค้าสามารถพรีเซ้นให้บริษัทเห็นว่าเค้าสามารถทำงานได้จริงๆ และบุคลิกเค้าเหมาะกับตำแหน่งมากกว่าพี่ นี่คือตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงของพี่ ความมั่นใจที่มีมันก็ดีนะคะ แต่อย่าแสดงความมั่นใจในตัวเองมากจนเกินไป ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือสายตาที่มอง เพราะผู้ใหญ่จะเห็นว่าคุณดูอวดดีเกินไป บางบริษัทเค้าอาจไม่ได้อยากได้คนที่มั่นใจมากๆ เพราะบางครั้งความมั่นใจมากเกิน มันอาจทำให้คุณมีบุคลิกก้าวร้าวได้เหมือนกัน จากประสบการณ์ของพี่ ตอนพี่จบมาปี40 ฟองสบู่แตก เศรษฐกิจแย่มากๆ พี่เองก็ตกงานอยู่เป็นปี กว่าจะได้ ไปสัมภาษณ์มาเป็นร้อยที่ แต่สุดท้ายก็ได้งาน จนตอนนี้กลับมาตกงานอีกรอบแล้ว อย่าลืมว่าเศรษฐกิจแบบนี้ คนตกงานอยากได้งานมีเยอะมาก บริษัทเค้ามีสิทธิ์เลือกคนเข้าทำงานได้เยอะเหมือนกัน และบริษัทเค้าก็อยากได้คนที่ดีที่สุดมาทำงานด้วย ซึ่งไม่ได้หมายถึงเฉพาะแต่ที่มีประสบการณ์เท่านั้น พี่เชื่อว่าวันนึงโอกาสจะเป็นของเรานะคะ ถ้าเราพยายาม พี่เชื่อว่าน้องต้องทำได้ อย่าท้อ ตอนนี้ก็ค่อยๆหาไปเรื่อยๆก่อน สู้ๆค่ะ จากคุณ : Alex - [ 18 มี.ค. 52 04:33:31 A:192.168.0.17 X:203.144.180.65 TicketID:205848 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สำหรับเรามองว่า จขกท.ก็ไม่ได้มีความมั่นใจจนเกินเหตุ เพียงแค่เกิดความสงสัยเท่านั้นเองว่าทำไมเขาจึงไม่รับ สำหรับเราคิดว่า 1.วิศวเคมี จบใหม่ เงินเดือน 15000  เราว่าอยู่ในระดับที่พอดี ไม่ได้สูงจนน่าเกลียด ถึงแม้อยู่ในสภาวะแบบนี้ก็ตาม เพราะบางที การเรียกเงินเดือนก็เป็นการบ่งบอกถึงศักยภาพของเราเอง  เราเองเคยหางานใหม่(ตอนมีประสบการณ์แล้ว) เราก็บอกตัวเองไว้ว่า ถ้าได้เงินเดือนต่ำกว่า xx บาท จะไม่เอา  พอถึงจริงๆ บางบริษัทรับ แต่กดราคา เราก็ปฎิเสธ สุดท้ายเราก็ได้งานที่บริษัทอื่นตามที่คาดหวัง 2.เด็กจบใหม่ หางานได้แน่นอน แต่คุณอาจจะต้องพูดกับคนสัมภาษณ์ไปเลยทำนองว่า ... คุณยอมรับว่าไม่มีประสบการณ์ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำงานไม่ได้  แต่สิ่งที่คุณอาจจะแพ้คนที่มีประสบการณ์คือ คุณอาจจะใช้เวลาเรียนรู้งานนานกว่าคนมีประสบการณ์  แต่อย่างไรก็ตามเมื่ออะไรมันเข้าที่เข้าทางแล้ว คุณรับรองเลยว่า คุณจะสามารถทำงานได้ไม่แพ้คนที่เคยมีประสบการณ์แล้วอย่างแน่นอน   คืออยากให้คุณอ้างเหตุผลในทางที่เป็นไปได้  ไม่ใช่ตอบไปว่า อะไรก็ทำได้หมด ได้ ได้ ได้ ได้  เพราะใครๆก็ตอบว่าทำได้ แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะได้รึป่าว 3.สำหรับเรื่องความมั่นใจ อาจจะเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในการทำงาน สำหรับ จขกท.ก็ดูมั่นใจนะ แต่ก็ไม่ได้มั่นใจจน over คืออยู่ในภาวะที่พอรับได้  แต่สำหรับเด็กจบใหม่ เขาอาจอยากได้คนที่มั่นใจน้อย แต่อยากได้คนที่อยากตั้งใจเรียนรู้มากกว่า ดังนั้นถ้าคุณคิดว่าตัวเองมั่นใจมาก ก็อยากให้แสดงความมั่นใจน้อยลง  สิ่งที่พึงแสดงคือ แสดงความตั้งใจจริง พร้อมที่จะเรียนรู้ และแสดงว่าความรบนบน้อม ขอให้โชคดี แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 04:58:33 จากคุณ : โชคดี (joeyray) - [ 18 มี.ค. 52 04:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 61 วงการไหนนี่ วิศวเคมี เรียนต่อโท แล้วสมัยก่อน มี เอสโซ่ มาเชิญไปดินเนอร์ สัมภาษณ์ สำหรับคน top เหรียญทองของรุ่น บางที การจบมาในจังหวะที่เป็น ช่วงวิกฤติของเศรษฐกิจโลกนี้ ก็ หืดขึ้นคอ เค้าถึงว่า ชะตา จังหวะชีวิตคนไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน รุ่นพี่ ที่จบ ปี 2540 หลายคนไปทำงานที่ สิงคโปร์ ทำแล้วติดยาว อยู่ 7 - 9 ปี ในฐานะ expat ข้ามชาติ ทำให้ ตกหลุมอากาศทางหน้าที่การงาน เพราะตอนนี้ ที่ตลาดขาดแคลน และแย่งหัว ชิงตัวกัน คือ รุ่น 10 ปีอัพ ถึง 15 ....20 ปี ในงานที่เป็น scale ใหญ่ๆ ระดับโลก หรือ งานที่มีมูลค่าพันล้าน ในสายออกแบบ ก่อสร้าง ซึ่งประสบการณ์ต่ำกว่า สิบปี กลายเป็น ไม่มีที่อยู่ไปได้ ใจเย็น หากปรับปรุงพัฒนา การสัมภาษณ์แล้ว ไม่ได้ แสดงว่า เราไม่เหมาะกะงานที่ไปสมัคร หรือ เค้ามีตัวเลือกที่เหมาะสมดีกว่า ถ้าวาระ จังหวะใช่ เราก็จะได้เอง บางอย่าง มันไม่ได้อยู่ที่เราฝั่งเดียว อยู่ที่จังหวะตลาดด้วย ตัวเลือกของเค้า จากคุณ : kuddle - [ 18 มี.ค. 52 07:09:15 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เห็นด้วยกับคุณ cookiecompany ครับ "คำพูดผมแรงครับ " นี่ละมั้งที่ไม่ได้งาน  คนสัมภาษณ์เค้าจับอะไรบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดปัญหา หรือบรรยากาศในการทำงานที่ชวนอึดอัดได้จากตัวคุณรึเปล่า เอาเท่าที่อ่านจากกระทู้นะครับ  ผมคิดว่า ถ้าเลือกได้ ผมไม่อยากทำงานกับคุณน่ะ แค่นี้เป็นเหตุผลพอเพียงมั้ย ที่จะไม่รับเนี่ย จากคุณ : Pixzz - [ 18 มี.ค. 52 08:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แสดงว่า ที่พี่ๆหลายคนมาแสดงความคิดเห็นเพื่อเพิ่มโลกทัศน์ให้น้อง น้องไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นเลยสิเนี่ย อย่างที่ผมเคยตอบไป "ที่นี่คือ โลกแห่งความเป็นจริง ชีวิตจริง สังคมจริง" ความมุ่งมั่นของน้อง เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องรู้จักสถานการณ์ด้วย ถ้าผมเป็นคนสัมภาษณ์ เหตุผลที่ผมจะไม่รับคุณเข้าทำงาน ก็เพราะความมุ่งมั่นที่มากเกินไปของคุณนี่แหล่ะครับ เพราะความมุ่งมั่นมากเกินไป มันมาพร้อมกับความมั่นใจที่มากเกินไป อาจทำให้งานอาจเกิดความเสียหายได้ ถ้าตัดสินใจผิดพลาด หรือถ้าไม่ผิดพลาด ความเสียหายก็ย่อมเกิดอยู่ดี แต่คุณจะมองเห็นหรือเปล่า แล้วถ้าความผิดพลาดที่เกิดจากความมั่นใจ มักจะส่งผลรุนแรงกับสภาพจิตใจของน้องเองด้วยนะครับ บางคนจะกลายเป็นคนสูญเสียความมั่นใจไปเลย น้องต้องหัดมองชีวิตให้กว้างกว่านี้ แล้วความมุ่งมั่นและความพยายามของน้อง จะเป็นตัวช่วยส่งน้องให้ถึงจุดหมายเร็วขึ้นครับ ปล.พี่ยังมีความสามารถไม่เท่าน้องเลย อายุจะ 30 แล้ว เรียนกว่าจะจบก็ 26 -27 แล้ว เงินเดือนก็ยังไม่เท่ากะที่น้องเรียกเลยครับ แต่พี่ก็คิดว่าพี่ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตแล้ว เพราะมองโลกแห่งความจริงเป็น นี่แหล่ะครับ จากคุณ : มองให้เป็นและเดินต่อให้ถูกทาง (รองเท้าแตะไฮโซ) - [ 18 มี.ค. 52 09:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ยินดีต้อนรับ สู่โลกของความจริง ก้อความจริงบนโลกมันโหดร้ายนี่เนอะ ที่พูดยังงี้ไม่ได้ตั้งใจให้รู้สึกหดหู่นะคะ กว่าพี่จะมาถึงตรงนี้ได้ ก็ผ่านแบบนี้มาเหมือนกัน จริงๆพี่ว่า ถ้าตอนเศรษฐกิจดีๆ  บ. ต่างๆ ก็ welcome เด็กจบใหม่อยู่แล้ว เพราะเงินเดือนถูกกว่าผู้มีประสบการณ์ แต่ณ ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยน คือตอนนี้ บ. ต้องทำทุกอย่างให้ตัวเองอยู่รอด เค้าอาจจะไม่มีเวลาที่จะมานั่ง เทรนงานให้เสียเวลาเค้า อาจจะต้องปรับเปลี่ยน การถามตอบเวลาสัมภาษณ์ พี่ว่าความมั่นใจช่วยได้นะคะ ยังไงก็อย่าเพิ่งท้อล่ะ ในการที่ บ. ต่างๆ เรียกสัมภาษณ์ดีกว่าเรา ร่อน ใบสมัครไปแต่เค้าไม่เลือกที่จะเรียกเลยด้วยซ้ำ ปล. ส่วนใหญ่พวก hr ชอบถาม  รับความกดดันได้ไหม ? ทำงานล่วงเวลาได้หรือเปล่า ?  ทำงานต่างจังหวัดได้ไหม ? ทำงานเป็นทีมได้หรือเปล่า ? มีปัญหาต่อการปรับตัวกับเพื่อนร่วมงานหรือไม่ ? ความพยายามน้องอาจจะมี แต่ ณ เวลานี้ อาจจะต้องเพิ่มอีกนิด สู้ๆนะค้า ^^ จากคุณ : mizzi - [ 18 มี.ค. 52 10:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ง่ายๆคือ เค้าสัมภาษณ์คุณ แล้วคิดว่าคุณไม่เหมาะที่จะร่วมงานกับเค้าแค่นั้นแหละ ไม่ใช่ว่าคุณไม่เก่ง ไม่ใช่ความคุณไม่มีประสบการณ์ ไม่ใช่ว่าคุณมั่นใจมากเกินไป แต่มันมันอยู่ที่ว่า คนสัมภาษณ์อยากให้คุณมาร่วมงานด้วยหรือเปล่าแค่นั้นเอง เช่น ถ้าคุณไม่เก่ง แต่หน้าตาดี สวย ขาว หมวย (ผู้หญิงนะ) คนสัมภาษณ์ดันขี้หลี เลยไม่เอาผู้ชาย มันก็เป็นไปได้ โถ่.... มันเป็นเรื่องปกติ จะไปคิดมากทำไม เค้าไม่เอา ก็คือไม่เอา แล้วจะไปเรียกร้องอะไร เครียดเปล่าๆ เมื่อก่อนผมก็มาเถียงในกระทู้นี้เหมือนกันครับ ตอนจบใหม่ แต่ผมเถียงกันแค่ 10 กว่าความเห็นเอง ถ้าไม่มีคนให้โอกาส ก็เปิดธุรกิจเองไปเลยครับ (ประชด) ก็ให้มันรู้ไปดิ ว่าไม่รับเราแล้วจะเสียใจ 55555 ผมคิดอย่างนี้นะตอนตกสัมภาษณ์ ตอนแรกผมก็คิดเหมือนคุณแหละ แต่หลังๆ มา ผมคิดว่ามันอาจะดีที่เค้าไม่รับเรา เพราะถ้าเราไม่เหมาะกับงานนั้น สังคมในองค์กรนั้น มันคงไม่มีความสุข ทำไปได้เงิน แต่เสียสุขภาพจิต แล้วต้องเอาเงินมารักษาตัวเอง ไม่คุ้มวะ คุณเป็นตัวของตัวเองดีปล้วครับ แต่ต้องเข้าใจว่าเราไปขอเค้าทำงาน มันก็เหมือนเป็นเกมอ่ะครับ มันไม่มีสูตรตายตัวหรอกว่าควรตอบแบบไหน เมื่อก่อนผมก็ใช้วิธิการตอบสัมภาษณ์ตามบทที่ท่องมา แต่หลังๆนี้ ผมก็ตอบตามที่ผมอยากจะตอบ คิดอะไรก่อนตอบ ตอบแบบมีเหตุผล ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็หาใหม่ ใช่ว่าไม่ได้แล้วจะตายซะหน่อย ถึงยังไงก็ยังซมซานไปที่บ้านได้ 555 โชคดี จากคุณ : อิอิ - [ 18 มี.ค. 52 10:23:49 A:202.176.80.207 X: TicketID:205377 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คุณพิมพ์อะไรออกมาคนตอบก็เอาจากตรงนั้นล่ะมาตอบ จากคุณ : Jump.Jr - [ 18 มี.ค. 52 14:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 67 น้องน่าจะสมัครงานที่เค้ารับคนไม่มีประสบการณ์อะ เพราะถ้าเค้า require ว่าต้องการคนมีประสบการณ์ ไงเราก็ไม่ใช่ตัวเลือกเค้าอะค่ะ อีกอย่างช่วงนี้เศรษฐกิจมันแย่ด้วย หางานช่วงนี้ก็ไม่ใช่จะง่าย คนตกงานเพียบ ถ้าไงลองวางแผนเรียนต่อ ป.โท ควบคู่กะการหางานไปด้วยดีมั้ย จากคุณ : ให้กำลังใจนะ (ฝนฉ่ำ) - [ 18 มี.ค. 52 17:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ในโลกความจริง ไม่เหมือนในมหาวิทยลัยนะครับ ถ้าคุณอยากได้งาน คุณต้องมีอะไรที่เด่นกว่าคนอื่นเขา คุณต้องบอกได้ว่า ทำไม ต้องให้งานคุณแทนคนที่มาสมัครตำแหน่งเดียวกับคุณอีกมากมาย คุณสามารถทำอะไรคืนให้บริษัทตอบแทนที่เขาจ่ายเงินเดือนคุณบ้าง สถาณการณ์อย่างนี้ บริษัทมีโอกาสเลือกนะครับ สู้ๆนะครับ ถ้าจะแนะนำก็คือ จากที่อ่านดูการตอบคำถามของคุณ ค่อนข้างจะคิดแบบเอาตัวเอาเป็นศุนย์กลางต้องลดลงหน่อยน่าจะดีขึ้นครับ จากคุณ : หนุ่มหนิงโป - [ 18 มี.ค. 52 19:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ตามมาอ่านเป้นวันที่ 3 อ่านความเห็นของ จขกท. คห.58 นี่ขนาดยังไม่ได้งานยังร้อนแรงขนาดนี้ ถ้าเข้าทำงานแล้วเจอ pressure แรงๆจะรอดไหมเนี้ย หรือถ้าได้งานแล้วเจอเพื่อนที่เริ่มงานพร้อมกับเราและไม่มีปสก.แต่เงินเดือนเยอะกว่า 1 พัน สงสัยคงมาโวยวายในนี้อีกแน่ ^ ^" จากคุณ : akkadech - [ 18 มี.ค. 52 21:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ผมพอจะรู้ละว่าทำไมเค้าไม่รับคุณ ผมว่าเค้ากลัวคุณนะ แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ น่าจะรุ่ง แต่ถ้าเป็นลูกน้อง คงไม่ใช่ลูกน้องหรือผู้ตามที่ดี จากคุณ : onnnn - [ 18 มี.ค. 52 22:32:08 A:203.144.180.65 X: TicketID:207782 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สุดยอดอ่ะ คณ จขกท ประสบความสำเร็จในการหาคนมาคอมเม้นแล้วครับ 555+ อันนี้ขำๆนะ ไม่รู้ว่ายังอ่านยุรึป่าวนะแต่เราก็เพิ่งจบมาได้ปีนึง ของเราดีหน่อยคือจบบัญชี มีความเปนไปได้สูงที่จะหางานง่ายกว่าวิศวะ คิดว่านะ จำเหตุการณ์ของตอนสมัครงานใหม่ได้ดีเลย สมัครไปประมาณสามสี่ที่ โดนเรียกไปสัมภาษณ์ที่เดียว ยอมรับว่าเตรียมตัวไปน้อย ตอนเค้าถามอะไรเกี่ยวกับบัญชีก็ตอบไม่ค่อยได้ ปกติพูดภาษาอังกฤษได้พอตัวตอนเค้าให้พูดกลับตะกุกตะกัก งงตัวเองเหมือนกัน ในใจก็คิดว่าคงจบแล้ว แต่ตอนเค้าถามว่าข้อเสียของเราคืออะไร ตอบไปตรงๆเลยว่า เปนคนปรับตัวช้ามากๆ ข้อดีคืออะไรก็ตอบว่ารักที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ(พร้อมยกตัวอย่างโง่ๆให้เค้าฟัง แล้วเค้าก็ขำ) สุดท้ายเค้าถามว่าคุณจะให้อะไรได้กับบริษัท เรายิ้มแล้วตอบไปแบบสัญชาตญาณว่า Commitment and Dedication แค่นี้เปนภาษาอังกฤษ เพราะคิดว่าสองคำนี้ในภาษาอังกฤษสื่อความหมายได้ดีกว่า อันนี้ตุตะเอาเองนะ ผ่านไปเกือบเดือนเค้าเรียกไปเซ็นสัญญา คิดว่าเหมือนที่หลายๆความเห็นได้บอกมา คือคนที่สัมภาษณ์ได้เห็นความเป็นตัวเราแล้วอาจจะถูกใจมั้ง จากคุณ : น้ำพริก - [ 20 มี.ค. 52 00:27:06 A:124.121.44.229 X: TicketID:207407 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อ่านมานี่ชอบ คห คุณ cookiecompany ที่สุดเพราะ ว่าตรงกับความต้องการของคนจ้างที่สุดแล้ว จบวิศวเคมี เงินเดือน แค่นี้ไม่ เกินเลยหรอกครับ จะลองเดินหางานแบบไม่มี ปสก ไปสัก 2 ปี หรือจะเอาเวลา 2 ปี ไปซื้อ ปสก ใจเย็นๆครับ โอกาส มันจะหาผู้ที่เดินหาเสมอครับ จากคุณ : สิบเอกกองหนุน - [ 20 มี.ค. 52 12:32:04 A:202.44.7.67 X: TicketID:136335 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เจ้าของกระทู้อาจจะดูเป็นคนปกครองยากมั้งค่ะ เท่าที่อ่านดูจากคำตอบ ดูหาเหตุผลให้ตัวเองได้ตลอด เพราะเราก็เคยเป็น ตอนนี้ก็ไม่รู้ยังเป็นอยู่หรือเปล่า ปล  .เงินเดือนสูงเกินไป สำหรับเด็กจบใหม่ ไร้ประสบการณ์ อายุ 21 .........เงินเดือน 1.5 หมื่น ตอนนี้ จ้าง วิศวะประสบการณ์ 5 ปีได้สบายๆครับ......... จริงเหรอค่ะ เราว่าไม่จริงมั้ง จากคุณ : ยังเด็ก - [ 22 มี.ค. 52 00:38:07 ]

ความคิดเห็นที่ 74 56 ครับ ผมว่ามันไม่เกี่ยวหรอก คุณจบอักษรจุฬาแล้วไงหรอครับ คุณก็ยังหางานไม่ได้ แล้วได้แค่หมื่นเดียว ต่างกับผมจบมหาลัยเอกชน ไม่เคยตกงาน สตาร์ทเกือบสองหมื่น ขอร้องเหอะเรื่องสีเนี่ย ไร้สาระครับ อ่านแล้วหมั่นไส้ ไม่ได้อะไรนะ แต่ไร้สาระอะครับ คนเรามันไม่เหมือนกันหรอกครับ แล้วมหาลัยเมื่อคุณจบจะรู้ว่ามันช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย อาจจะช่วยได้แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ จากคุณ : สุดหล่อแห่ง ม.กรุงเทพ (ปีเตอร์นอร์ธ) - [ 22 มี.ค. 52 18:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ตอนนี้ต่อให้จุฬาเองก็เถอะครับ หางานยากอยู่ เอาใจช่วยครับ สักวันจะเป็นของเรา จากคุณ : น้ำก้นแก้ว - [ 23 มี.ค. 52 15:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตอบตรงๆ อ่านแรกๆรู้สึกเห็นใจนะ ไปๆมาๆ คือแบบดูจากการตอบคำถามสัมภาษณ์แล้ว  ถ้าดิชั้นเป็นเค้า ดิชั้นก็ไม่รับคุณค่ะ จากคุณ : pla_taklom - [ 31 มี.ค. 52 20:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 77 1 คุณช่วยอธิบายสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นตัวของตัวคุณ ผมจะบอกว่า ผมคงไม่มีอะไรบอกได้ว่าผมมีความดีมากน้อยเพียงใด หรือเก่งอย่างไร แต่สิ่งนึงที่ผมศรัทธาอยู่เสมอคือ ผมสรัทธาในคนที่ประสบความสำเร็จโดยใช้ความพยายาม >> ตอบไปสิครับว่าทำอะไรเป็นบ้าง Windows, MS Office หรืออะไรที่เกี่ยวกับงานที่สมัครอะ การที่คุณไปตอบว่าศรัธธาอะไรอยู่ ผมคิดว่ามันเป็นการตอบไม่ตรงคำถามกับที่เค้าคาดหวังนะครับ 4 คุณรู้เรื่องของงานมั่งไหมครับ ผมก็พอจะศึกษามาบ้างแล้วครับ ส่วนเหตุผลที่ผมศึกษามาบ้างเนื่องจาก ผมต้องการจะทราบงานที่ผมถ้าจะต้องรับผิดชอบต้องทำอย่างไรจะได้ไม่มีปัญหาภายหลังครับ >> ตอบไปสิครับว่า งานที่สมัครต้องทำอะไรบ้าง ตอบตามข้อมูลที่เค้าเขียนในเว็บไซต์ก็ได้ ไม่ใช่มาตอบว่าศึกษามาแล้ว เค้าจะรู้ได้อย่างไรว่า คุณศึกษาอะไรมาบ้าง 5 คุณมีอะไรจะถามไหมค่ะ ถามไปสิครับ ไม่ถามถือว่าเสียมารยาทมาก ๆ อย่างต่ำ ๆ ก็ หนึ่งคำถาม งานที่ทำอยู่ต้องติดต่อใครบ้าง คาดหวังกับคนที่มาทำตำแหน่งนี้อย่างไร Career Path ของตำแหน่งนี้ ปล. คำถามพวกนี้ มีคำแนะนำเกี่ยวกับคำตอบว่าควรตอบอย่างไร อยู่ตามเวบไซต์ ประมาณว่า หาอ่านได้เยอะไม่มีหมดเลยละครับ ทางที่ดี ให้หาข้อมูล คำถามก่อนไปสัมภาษณ์จะดีกว่านะครับ เพราะ 50% ก็ถามตาม script นั่นแหละครับ ประมาณว่า ตอบไปไม่ต้องคิดเรยหล่ะ จากคุณ : อ้วนเสี้ยว (อ้วนเสี้ยว) - [ 5 เม.ย. 52 12:24:01 ]