Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    แนวความคิดธุรกิจ - กล้าที่จะออกจากวงจรมนุษย์เงินเดือน [บทความ]

    มนุษย์เงินเดือน ได้รับเงินเดือนทุกเดือน มันเหมือนการรับประกันในชีวิตว่า ถ้าคุณมีงานทำคุณก็จะได้เงินเดือนไปทุกๆเดือน เมื่อเป็นการรับประกันเช่นนี้ คนที่กินเงินเดือน จึงติดอยู่กับความมั่นคงของการได้รับเงินเดือนอย่างเป็นประจำ และ ปล่อยให้เจ้าของกิจการต่างๆเหล่านั้น แบกรับความเสี่ยงเอง และเป็นเรื่องสัจธรรมอย่างหนึ่งของชีวิตคือ "คนที่เสี่ยงมาก ก็ย่อมได้รับกลับไปมาก - High Risk High Return"

    พนักงานระดับสูงหลายๆท่านจะเข้าใจในเรื่องนี้ดี เพราะ พนักงานระดับสูงมีรายได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับพนักงานทั่วไป แต่ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น พนักงานระดับสูงก็จะโดนเล่นงานก่อนเสมอ และ หากต้องปลดพนักงานออกเพื่อลดต้นทุน สิ่งแรกที่เจ้าของกิจการจะทำก็คือ การปลดพนักงานระดับสูงที่มีคุณค่าน้อยที่สุดออกก่อนเสมอ หรือ แม้นแต่การรวบตัวขององค์กร ก็มักจะคัดเลือกเฉพาะพนักงานระดับสูงที่มีคุณค่า เอาไว้ และให้คนที่คิดว่ามีคุณค่าน้อยที่สุดออก หรือ บีบออกก็ตาม

    หรือแม้นแต่หากแผนกใดแผนกหนึ่งไม่ได้ทำกำไรให้องค์กร แผนกนั้นก็จะถูกยุบไป มันเป็นเรื่องปกติทั่วๆไปที่จะเกิดขึ้น อย่าง พนักงานโรงงานแม้นจะทำในการผลิต แต่เมื่อมีเหตุที่ทำให้ขายสินค้าที่ผลิตไม่ได้ โรงงานก็จะปิดแผนกการผลิตไว้ชั่วคราวก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้สูญเสียรายได้โดยไม่จำเป็น

    มองย้อนกลับไปว่า พนักงานทำงาน ไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิดๆกัน เพราะถ้าจะให้อยู่รอดต่อไป เจ้าของกิจการเกือบทุกคนจะเลือกที่จะ ละทิ้งพนักงาน มากกว่าจะทำให้เขาล่มจมไปพร้อมๆกับพนักงานไปด้วย

    มีคนเก่งๆหลายคนที่ยังติดกับทางด้านเงินเดือนอยู่ ทั้งๆที่มีความสามารถที่จะออกมาทำธุรกิจของตัวเองได้ และหาข้อแก้ตัวมากมาย เช่น ทำงานมานานมีความผูกพันธ์ ไม่อยากละทิ้งงาน เป็นต้น ทั้งนี้ เพราะเขาอาจจะได้รับความมั่นใจในการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนมามาก ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคยมากๆ รวมไปถึงความผูกพันธ์กับองค์กร ก็เป็นส่วนที่รั้งในการตัดสินใจเช่นกัน

    การก้าวข้ามผ่านระหว่างมนุษย์เงินเดือน กับ เจ้าของธุรกิจอยู่ตรงที่ "การยอมรับความเสี่ยง" ซึ่งหากคุณสามารถลดความเสี่ยงต่างๆลงได้ด้วยการวิเคราะห์ พินิจพิจารณาในแต่ละด้านให้ครบถ้วน หาจุดเสี่ยง และ หนทางป้องกันความเสี่ยงให้มากที่สุดเพื่อมาสนับสนุนแนวคิดธุรกิจ ซึ่งเมื่อคุณมั่นใจว่าความเสี่ยงเท่าที่คุณคิดมามันสามารถแก้ไขหรือลดความเสี่ยงต่างๆลงได้ นั่นหมายถึงคุณก็จะสามารถที่จะเริ่มที่จะก้าวต่อไปได้เช่นกัน

    แต่ทั้งนี้ โอกาส ในการทำธุรกิจของแต่ละคนก็แตกต่างกัน ขอแค่สามารถหาธุรกิจที่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้ เป็นจุดเปลี่ยนที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จ และ ถ้าพบจุดเปลี่ยน ก็จงมั่นใจว่ามันจะเป็นธุรกิจที่เชื่อได้ว่ามันจะดี

    ใครจะรู้ว่า แค่เก้าอี้สามารถทำธุรกิจหลายร้อยล้านได้ เพียงใส่กลไกในการนวดเข้าไป...

    ใครจะรู้ว่า แค่เศษขยะในชีวิตประจำวันของเรา จะทำให้คนหลายๆคนกลายมาเป็นเศรษฐี

    และมีคนเคยเปรียบเทียบกับการทำธุรกิจเหมือนการขับรถยนต์ คุณเหยียบคันเร่ง ก็จะทำให้รถเคลื่อนที่ไป หากคุณเหยียบเบรค คุณก็จะหยุดการเคลื่อนที่ ซึ่งทุกอย่างของธุรกิจ เกิดขึ้นจากผลของการกระทำของคุณทั้งสิ้น ซึ่งไม่ใช่คนที่อยู่เหนือคุณอีกต่อไป

    นอกจากคุณจะวิเคราะห์ธุรกิจที่จะทำแล้ว ก่อนที่คุณจะออกจากงานประจำคุณจึงควรจัดเตรียมเรื่องต่างๆไว้ให้พร้อม เช่น

    หาประสบการณ์เสมือนจากการคุยกับเจ้าของธุรกิจ หรือ ที่ปรึกษาธุรกิจ หรือ นักบัญชีในสำนักงานบัญชีที่เราหมายมั่นว่าจะทำบัญชีกับเขา หรือ นักกฎหมายที่จะให้เขาจดทะเบียนให้กับเรา ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เข้าใจสภาพของการเป็นเจ้าของธุรกิจว่ามีสภาพเป็นเช่นใด และ ต้องปรับตัวเช่นใด เพื่อสร้างนิสัยการเป็นเจ้าของกิจการให้เกิดขึ้น และ ทำให้มองเห็นภาพของตนเองในอนาคตได้อีกด้วยว่า คุณชอบในการเป็นเจ้าของกิจการมากน้อยเพียงใด

    แต่ทั้งนี้ ถ้าคุณทราบว่าธุรกิจของคุณจะทำอะไร ก็ต้องประเมินสภาพการเงินของตนว่าเหมาะกับการทำธุรกิจนั้นๆ มากน้อยเพียงใด ไม่ใช่ว่ามีเงินเพียงเล็กน้อยแต่จะทำธุรกิจขนาดใหญ่โตมากเกินตัว การกู้ยืมเงินเพื่อมาลงทุนเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องไม่กู้เงินในจำนวนที่มากเกินกว่าความสามารถในการใช้หนี้ได้ อย่าหวังว่าจะได้รับเงินจากธุรกิจมาเพื่อใช้หนี้ เพราะคนส่วนใหญ่ที่คิดเช่นนี้ ต่างก็ได้รับผลกรรมด้วยการมีเงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ความคล่องตัวทางการเงินไม่เพียงพอ จนต้องปิดกิจการเป็นหนี้เป็นสินอย่างมากมายหลายต่อหลายคน

    เมื่อพูดถึงสภาพของเงิน ก็ต้องคาดการณ์รายได้ที่จะเข้ามา เทียบกับรายจ่ายที่จะต้องจ่ายออกไปอยู่บ่อยๆ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้มองเห็นภาพของความเป็นจริงว่าธุรกิจเหล่านั้นจะพาตัวคุณให้รอดพ้นจากความยากจน หรือ ว่าจะทำให้คุณยิ่งยากจนลง

    การจะออกมาจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็ควรมีเงินสนับสนุนอยู่เพียงพอ อีกทั้ง คู่สมรสสามารถที่จะช่วยเหลือในช่วงออกมาทำธุรกิจเองได้บ้าง อย่าได้ออกมาทั้งคู่เพื่อมาลงทุนร่วมกัน ควรจะให้คนใดคนหนึ่งทำงานประจำหรือมีเงินรายได้พอเลี้ยงครอบครัว ก่อนที่จะออกมาเต็มตัวหนึ่งคนเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ แต่ถ้าหากมีคนสนับสนุนอื่นๆที่คอยช่วยเหลือเราเมื่อมีปัญหาต่างๆ ทั้งทางด้านเงินทุน หรือ สินค้า ก็ต้องชั่งใจเขาให้ได้ว่าเขานั้นสนับสนุนเราอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมาหรือไม่เช่นกัน

    นอกจากนี้ คุณยังต้องเตรียมพร้อมร่างกายและจิตใจของคุณให้มีความเข้มแข็ง เชื่อมั่นในตนเอง เพราะเมื่อคุณออกมาทำธุรกิจของคุณเอง คุณต้องทำงานมากกว่าเดิม 2-3 เท่าตัวเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง ดังนั้น เมื่อทำงานมาก คุณก็จะยิ่งเครียดมาก การผ่อนคลายความเครียดจึงจำเป็นต้องสร้างให้มีในตัวคุณ ปล่อยวางในสิ่งที่ไม่จำเป็นให้มากๆ

    และ กว่าคุณจะประสบความสำเร็จคุณก็ต้องใช้เวลา อย่าคิดว่าทำวันนี้ พรุ่งนี้รวยเหมือนซื้อล๊อตเตอรี่ นะครับ เพราะว่า กว่าผลของความทุ่มเทที่คุณลงทุน ลงแรงไปจะออกดอกออกผล ก็ต้องใช้เวลา และ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง คุณอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 3-4 เท่าตัว เพื่อให้ได้เงินมาเท่ากับรายได้ตอนเป็นมนุษย์เงินเดือนเสียด้วยซ้ำ

    ถ้าคุณจะออกมาทำธุรกิจของตัวเองก็ต้องเผื่อหนทางหนีไว้บ้าง ตระหนักถึงการขาดทุนให้มากๆ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนไม่ให้คุณประมาทในการดำเนินกิจการ และ ต้องเผื่อเงินสำรองไว้ หากธุรกิจของคุณไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะได้มีเงินในการลงทุนในเรื่องที่คุณถนัดต่อไป

    ทั้งนี้ ของแค่วางแผนการ และ เตรียมพร้อมตัวเองก่อนออกมาทำธุรกิจของตัวเองเท่านั้น ก็จะเป็นเครื่องยืนยันว่า คุณอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ประสบความสำเร็จใจการจัดตั้งธุรกิจของตนเองในอีกไม่ช้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ มันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และ การวิเคราะห์ของคุณว่ามีความเที่ยงตรงมากน้อยเพียงใดด้วย ไม่เอนเอียงเข้าข้างตัวเอง และ มองในมุมมองของนักธุรกิจ ไม่ใช่มุมมองของพนักงานทำงานทั่วๆไป

    อย่าเพียงคิดว่า ความผิดพลาดเป็นประสบการณ์ แต่จงเอาประสบการณ์จากความผิดพลาด ทั้งทางตรง และ ทางอ้อมจากคนอื่นๆ มาเป็นบทเรียนที่คุณจะไม่ทำให้มันผิดพลาดอย่างที่คุณรู้มาก่อน...

    .=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.^.=.

    บทความก่อนหน้านี้

    แนวความคิดธุรกิจ - กายกรรมหมุนจาน
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7552766/B7552766.html

    แนวความคิดธุรกิจ - คุยกับคนที่ตัดสินใจได้
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7585190/B7585190.html

    แนวความคิดธุรกิจ - อย่ากลัวกับการสร้างธุรกิจ
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7596648/B7596648.html

    แนวความคิดธุรกิจ - เร่งให้รู้ว่าลูกค้าจะตกลงหรือไม่
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7604085/B7604085.html

    แนวความคิดธุรกิจ - รักษาศีล 5
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7609939/B7609939.html

    แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 15:42:28

    จากคุณ : wbj - [ 17 มี.ค. 52 15:41:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com