 |
ผู้จัดการทำตัวไม่ชอบ และก่อให้เกิดปัญหาระหว่างแผนก ควรทำอย่างไร
ผจก บัญชีและธุรการที่บริษัท แกไม่ยอมรับระบบการบันทึกเวลาด้วยระบบแสกนนิ้วมือค่ะ เพราะนั่นหมายถึงทุกคนจะมีเวลาเข้าออกอยู่ในรีพอร์ท แกเลยขอนายเปลี่ยนไปใช้ระบบตอกบัตรแทน โดยอ้างว่าการดึงรีพอร์ทจากระบบแสกนนั้นแกทำเองไม่เป็น เพราะไม่มีความเข้าใจในเทคโนโลยี หากนายต้องการใช้ก็ให้จ้างเจ้าของระบบมาดึงรายงานให้ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเดือนละหนึ่งหมื่นซึ่งนายเห็นว่าถ้าระยะยาวก็คงไม่คุ้มกับเงินก้อนนี้ เลยโอนอ่อนให้พี่เขาเปลี่ยนมาใช้ระบบตอกบัตรแทน
หลังจากนั้นความวุ่นวายก็เกิดขึ้นค่ะ เพราะพี่เขายืนยันว่าด้วยตำแหน่ง ผจก ของเขา เขาไม่จำเป็นต้องตอกบัตร โดยที่หลังจากนั้น ตัวแกเองก็มาสายเป็นประจำ ตั้งแต่วันละไม่กี่นาที จนเป็น ชั่วโมงๆ หากเจ้านายใหญ่ไม่อยู่ออฟฟิศ เหมือนแกจะคอยเช็คตารางของนายไว้ล่วงหน้าแล้ว
โดยทั้งนี้แกยังได้แจ้งนายให้เพิ่มบทลงโทษพนักงานที่มาทำงานสาย จากการตอกบัตร และนำข้อมูลในส่วนนี้มามีผลพิจารณาโบนัสและเงินเดือนอีกด้วย ทั้งที่แต่ก่อนนี้ไม่เคยมี แต่ตอนนี้แกขอให้มีบอกว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆ น้องๆ แผนกอื่นจึงเริ่มรู้สึกว่า อย่างนี้มันไม่ยุติธรรมจริงๆ เพราะแกเป็นคนเดียวที่ไม่มีบันทึกการเข้า-ออกงาน แล้วแกก็มาสายน่าเกลียดกว่าคนอื่นด้วย
ระหว่างเวลางาน แกก็ชอบแว่บกลับบ้าน ไปชั่วโมง 2 ชั่วโมง เสมอ กลับไปให้อาหารแมวบ้าง ไปขายทองบ้าง ไปส่งยาจีนบ้าง (เป็นธุรกิจครอบครัวแกค่ะ) โดยไม่เขียนใบลา พอน้องๆ ท้วงติงหนักเข้าว่าทำไมแกไม่เขียนลา แกก็ตอบส่งๆ ไปว่า รอรวบรวมเขียนทีเดียว หลังจากนั้นแกรู้ว่ามีคนเพ่งเล็งแกเรื่องนี้อยู่ แกก็เอาแฟ้มบันทึกการลา ที่เคยตั้งอยู่ในที่ๆ พนักงานทุกคนสามารถหยิบเขียนได้ ไปเก็บไว้ในลิ้นชักส่วนตัว ใครอยากได้ให้มาขอไปเขียน โดยหยิบให้เป็นใบๆ ไม่ให้เป็นแฟ้มรวมเหมือนเมื่อก่อนกลัวคนไปเปิดเช็คดูว่าแกเขียนลาหรือเปล่า
นอกจากนี้ยังพยายามปัดความรับผิดชอบในหน้าที่การทำงานของตัวเองอีกด้วยเช่น ไม่ยอมหักเงินพนักงานส่งภาษี (เฉพาะบางคน) โดยอ้างว่า คำนวณแล้วน้องไม่ต้องเสีย แต่พอเอาเข้าจริง น้องต้องเสียเพิ่มเป็นหมื่น หักประกันสังคมเกิน แล้วไม่รับผิดชอบเดินเอกสารเคลมเงินคืนให้ บอกให้พนักงานไปติดต่อประกันสังคมเองว่าให้ทำอย่างไร
ในส่วนของงานบัญชีเอง ก็พยายามไม่รับผิดชอบอะไรเช่นกัน ทั้งงานวางบิล และการออกเสตทเมนท์ให้ลูกค้า การเช็ค AP - AR aging ก็จะบอกว่าไม่ใช่งานบัญชี โบ้ยให้ฝ่ายอื่นไปทำ และสั่งกำชับลูกน้องแกทุกคนให้ทำตามแกหมด ถ้ามีปัญหาการทำงานที่ตกลงกันไม่ได้ในเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบ แกก็จะให้พนักงานของแกร้องไห้กลับบ้านไปเลย เพื่อตัดปัญหา และจะได้ไม่ต้องทำงานนั้นๆ โดยส่วนมากแกจะโทรไปรายงานนายใหญ่ว่า พนักงานแผนกอื่นกลั่นแกล้งพนักงานแก ให้อึดอัดทำงานต่อไม่ได้
ถ้าฝ่ายอื่นนำเสนออะไรให้แก แกจะปฏิเสธทุกอย่าง แม้แต่บางครั้งคำขอร้องของนายใหญ่ก็ไม่ทำให้ ถ้าเป็นการทำเพื่อแผนกอื่น ที่ไม่ใช่แผนกของแก เช่นครั้งหนึ่ง ญาติผู้ใหญ่ของน้องในแผนกอื่นเสียชีวิต นายอยากส่งพวงหรีดและเป็นเจ้าภาพงานศพให้ แต่แกปฏิเสธบอกว่ามันไม่มีในกฏของบริษัท (ที่แกตั้งเอง) บริษัทจะช่วยเหลือเฉพาะระดับผจก ขึ้นไปเท่านั้น ทั้งๆ ที่พนักงานในบริษัทเรามีกันไม่ถึง 10 คน และก็นั่งทำงานในห้องเล็กๆ ห้องเดียวกัน แต่แกก็ไม่มีน้ำใจจะช่วย โดยบอกว่าถ้านายอยากช่วยก็ให้นายออกเงินเอง และไม่ให้น้องลาไปช่วยงานด้วย โดยบอกว่าทำงานไม่ถึงปี ลาไม่ได้ ทั้งๆ ที่ในระเบียบบริษัทเขียนไว้ชัดเจน ว่าหลังผ่านโปรสามารถลากิจได้ แต่แกทำเป็นไม่รับทราบ ไม่รู้ไม่ชี้
แต่การไปเก็บชั่วโมงบัญชี แกสามารถมาเบิกเงินของบริษัทไปจ่ายได้อยู่คนเดียว ทั้งๆ ที่บริษัทอื่น เขาถือเป็นเรื่องส่วนตัว ที่พนักงานต้องรับผิดชอบตัวเอง พอเรื่องแดง แกเลยแก้ปัญหา ให้พนักงานบัญชีทุกคนสามารถมาทำเบิกได้เหมือนแก
จนบรรยากาศการทำงานตอนนี้แบ่งแยกอย่างชัดเจน เพราะแกไม่พอใจให้ลูกน้องมาคลุกคลีกับแผนกอื่น โดยสิ้นเชิง แม้แต่เรื่องงานก็คุยกันไม่ได้ เรื่องส่วนตัวไม่ต้องพูดถึง และในทางตรงกันข้ามพนักงานแผนกอื่นก็กำลังเอือมระอาความ double standard ของแกและแผนกแกอย่างรุนแรง
นายใหญ่ทราบปัญหาแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร บอกว่าเป็นนิสัยส่วนตัวของพี่เขา แต่เราคิดว่า ตอนนี้มันมากระทบกับเรื่องงานแล้วอย่างจัง และปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้หรอก
แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะเราเองก็เป็นหัวหน้าแผนกอื่นที่ต้องมารับกรรม จากนิสัยของแกเหมือนกัน
จากคุณ :
veryveron   
- [
20 มี.ค. 52 11:04:59
]
|
|
|
|
|
|
